“บอกให้เรียกยังไง.”
ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะลืมอะไรเร็วขนาดนี้เขาบอกให้เธอเรียกเขาให้ชินปากแต่ก็ต้องเตือนกันอยู่เรื่อย
“เอ่อ...พี่เหนือ”
พาขวัญเองก็ลืมตัวเธอเองยังไม่ชินเพราะนี่ก็พึ่งจะวันแรกที่เธอต้องเรียกเขาแบบนี้
“นี่ที่นอนพี่เดี๋ยวขวัญกับลูกนอนบนเตียงก็แล้วกัน”
เหนือเมฆไปขนฟูกนอนจากในห้องของเขามาเพื่อที่หญิงสาวจะได้นอนอย่างสบายใจและไม่อึดอัดด้วย
“ค่ะ”
พาขวัญคิดว่าชายหนุ่มยังใจดีกับเธอบ้างที่จะไม่ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้
“ขวัญ...”
“คะ??...”
“คือพี่อยากจะรู้เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของขวัญเผื่อใครถามจะได้ตอบตรงกันไง”
เหนือเมฆคิดว่าเขาและเธอจะต้องมาทำความรู้จักกันให้เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยเพราะแม่เลี้ยงของเขายิ่งชอบจับผิดเก่งอยู่ด้วย
“อืมค่ะ...คือขวัญเกิดที่ลำปางพอพ่อเสียแม่ก็พาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตอนที่จบม.6 แล้วตอนนี้ขวัญอายุ25เรียนจบบริหารธุรกิจการตลาดแล้วพอแม่เสียขวัญก็ทำงานที่ภูเก็ตจนตกงานแล้วก็กลับมาอยู่ที่ลำปางได้ประมาณเดือนนึงค่ะ”
พาขวัญเล่าประวัติคร่าวๆของเธอให้เขาฟังว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร
“อ๋อ...แล้วไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ”
หากพ่อแม่เสียหมดเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวมีญาติที่ไหนอีกหรือเปล่าเพราะเขาเห็นเธอก็อยู่ตัวคนเดียวจากคำบอกเล่าของภูผา
“ไม่ค่ะ....”
พาขวัญส่ายหัวพร้อมทำหน้าเศร้าหมดพ่อแม่ของเธอแล้วเธอก็ไม่มีญาติที่ไหนทั้งยังเป็นลูกคนเดียวอีกต่างหากดีที่กลับมาอยู่ที่ลำปางแล้วยังมีมานีกับพระพายที่คอยห่วงเธอ
“อย่างนี้ขวัญก็อ่อนกว่าพี่เป็นสิบปีเลยสินะ”
เหนือเมฆสบถออกมาเล็กน้อยเขายิ่งเขาคิดถึงอายุของเขาเมื่อเทียบกับเธอแล้วมันก็ค่อนข้างที่จะห่างกันอยู่พอสมควร
“พี่เหนือแก่แล้วเหรอคะ”
พาขวัญแอบได้ยินที่ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆเมื่อครู่เธอจึงถามเขาให้แน่ใจอีกที
“ขวัญ!!”
เหนือเมฆไม่รู้ว่าที่หญิงสาวถามเพราะความซื่อหรือถามเพราะกวนประสาทเขากันแน่
“อุ้ยย...เอ่อ แล้วประวัติพี่เหนือล่ะคะ”
พาขวัญลืมไปว่าไม่มีใครชอบคำว่าแกพร้อมทั้งหาเรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยกับเขาทันที
“พี่เกิดที่กรุงเทพไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่เด็กๆจบโทบริหารที่นั่นแล้วพอกลับมาแม่ก็มาเสียคุณพ่อก็มีภรรยาใหม่พร้อมลูกติดมาอีกหนึ่งคนหลังจากที่คุณพ่อมีภรรยาใหม่พี่ก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับคนในบ้านเท่าไร”
ความจริงชายหนุ่มไม่อยากจะพูดเรื่องชีวิตของเขามากมายเท่าไรนักยิ่งนึกถึงตอนที่แม่ของเขายังอยู่ตอนนั้นเขามีความสุขกับครอบครัวมากเลยทีเดียว
“อ๋อ...ค่ะ...แล้วเรื่องที่เรารู้จักกันได้ยังไงพี่เหนือจะบอกคนที่บ้านว่ายังไงคะ”
พาขวัญพยักเล็กน้อยเมื่อได้ฟังเรื่องราวของชายหนุ่มเธอแอบรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขามันมีความเศร้าปะปนอยู่แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพียงแต่เธออยากจะรู้ว่าถ้าหากผู้ใหญ่ทางบ้านของเขาอยากจะรู้ว่าเธอและเขาเจอกันได้อย่างไรจะตอบคำถามว่ายังไงเท่านั้นเอง
“อืม...ก็บอกกับพวกเค้าว่าเรารู้จักกันนานแล้วและก็อยู่กันแบบลับๆส่วนอย่างอื่นถ้าพวกเค้าถามอะไรเดี๋ยวพี่เป็นคนตอบเอง”
“อืม...โอเคค่ะ”
เหนือเมฆคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้วส่วนคำถามที่มันนอกเหนือจากนี้ยังไงเขาจะเป็นคนหาคำตอบเอง
ทางด้านเอมิกา
“ดื่มเข้าไปผู้ชายคนเดียวนี่จะเป็นจะตายเลยหรือยังไง”
วันนี้แขไขพึ่งจะรู้ข่าวว่าพรุ่งนี้เหนือเมฆจะพาลูกกับเมียมาหาอิทธิวัฒน์เธอเองช็อคกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยพร้อมทั้งกลัวว่าเธอจะหลุดอารมณ์เสียจนคนอื่นเห็นจึงขอมานอนกับเอมิกาลูกสาวของเธอที่คอนโดเมื่อมาถึงก็เห็นลูกสาวของเธอเอาแต่ดื่มเพราะช้ำใจเมื่อรู้ว่าเหนือเมฆซุกลูกซุกเมียเอาไว้
“ทำไมคุณแม่ชอบซ้ำเติมเอมจังล่ะคะ”
เอมิกาไม่เข้าใจว่าจะมีวันไหนที่แม่เธอจะเลิกประชดเธอเรื่องเหนือเมฆเสียที
“ฉันน่าจะกำจัดมันก่อนที่มันจะพาลูกพาเมียมันมานะ”
ถ้าแขไขรู้แต่แรกว่าเหนือเมฆมีลูกมีครอบครัวเธอคงไม่ปล่อยให้ลอยนวลมาถึงทุกวันนี้หรอกทีนี่โอกาสที่เธอจะได้สมบัติเต็มๆมันก็มีน้อยนิดแล้ว
“อยากจะรู้นักว่านังนั่นมันมีอะไรดีกว่าเอม”
เอมิกาไม่ได้สนใจเรื่องที่แม่เธอจะมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเธอสนใจแค่ว่าเธอไม่ดีตรงไหนเหนือเมฆจึงไม่เลือกเธอ
“พรุ่งนี้เช้าแกก็กลับไปที่บ้านพร้อมฉันสิฉันจะต้องไปรอต้อนรับพวกมันอยู่แล้ว”
แขไขก็อยากจะให้ลูกสาวเธอเห็นภาพบาดใจให้เต็มตานักจะได้เลิกหลงผู้ชายคนนี้เสียที
“เอมไปแน่ค่ะ...อยากจะเห็นหน้านังนั่นเต็มทน”
เอมิกาอยากจะเห็นหน้าของผู้หญิงที่เป็นเมียของเหนือเมฆเต็มทนขนาดเธอยังไม่เห็นหน้าเธอยังรู้สึกเกลียดขนาดนี้ถ้าได้เจอเธอจะเกลียดขนาดไหน
เช้าวันต่อมา
บ้านอธิษฐ์เวหา
“สวัสดีครับคุณพ่อนี่พาขวัญภรรยากับจันทร์เจ้าลูกของผมครับ”
เหนือเมฆมาถึงบ้านทุกคนก็ยืนรอต้อนรับอยู่แล้วรวมทั้งคนที่เขาไม่ได้อยากให้มาต้อนรับสักเท่าไรด้วยสองแม่ลูกที่ยืนปั้นหน้ายิ้มอย่างเสแสร้งเขาเห็นแล้วก็ไม่อยากจะมองเท่าไรพร้อมทั้งแนะนำตัวหญิงสาวและหนูน้อยกับพ่อของเขาเพียงคนเดียว
“สวัสดีค่ะ”
พาขวัญก้มหัวทำความเคารพทุกคนและยิ้มอย่างเป็นมิตรเพราะเธออุ้มหนูน้อยอยู่ไม่สามารถที่จะยกมือไหว้ได้ซึ่งทุกคนก็ดูเข้าใจดี
“ไหนฉันขอดูหน้าหลานฉันหน่อยซิ”
อิทธิวัฒน์อยากจะเห็นหน้าหลานของเขาใจจะขาดนับตั้งแต่รู้ข่าวเมื่อมาถึงเขาก็ขออุ้มให้ชื่นใจเสียที
“นี่ค่ะคุณพ่อ”
พาขวัญส่งหนูน้อยให้คนตรงหน้าเธอคิดมาตลอดว่าที่บ้านของชายหนุ่มจะต้อนรับเธอดีหรือเปล่าแต่เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเธอเองก็สบายใจ
“โอ้โห...หลานปู่แก้มย้วยอย่างนี้ล่ะคงจะกินเก่งน่าดู”“ค่ะ”อิทธิวัฒน์ก้มมองหน้าหลานของเขาในอ้อมแขนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เห็นแก้มย้วยๆของหนูน้อยก็รู้สึกเอ็นดูอย่างมากได้ข่าวว่าพึ่งคลอดแต่ดูหนูน้อยจะเจ้าเนื้อเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะอุ้มฟัดเล่นติดอยู่ที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นเขาจึงไม่อยากปลุก“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ...น้าว่าเข้ามาด้านในกันก่อนเถอะ”แขไขทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญทุกคนเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน“คุณพ่อไม่โกรธผมเหรอครับที่ผมไม่ได้บอก”เหนือเมฆไม่เห็นพ่อเขาจะมีอาการต่อว่าอะไรเขาสักนิดเขาจึงนึกแปลกใจเพราะปกติอย่างน้อยก็ต้องมีคำว่าสักคำเมื่อเจอหน้าของเขา“ฉันจะโกรธแกเรื่องอะไรดีใจเสียอีกที่แกมีเมียมีลูกเสียทีนึกว่าจะทำตัวเสเพลกู่ไม่กลับเสียแล้ว”อิทธิวัฒน์ไม่อยากทำลายบรรยากาศครอบครัวแค่ลูกชายของเขามีเมียมีลูกเสียทีเขาก็หายห่วงแล้ว“แล้วนี่อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ”เหนือเมฆเห็นคุณพ่อของเขาหน้าตาสดใสขึ้นก็อยากจะรู้เรื่องออาการป่วยว่าพ่อของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างถึงแม้อาการภายนอกจะดูปกติแต่ภายในมันป่วยอยู่ขั้นไหนเขาก็อยากจะรู้“ก็อย่างที่เห็นฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...อ้าว...หลานปู่ตื
“เอ่อ...ในครัวมีผลไม้เต็มเลยเดี๋ยวน้าไปเตรียมมาให้หนูขวัญดีกว่านะจ๊ะพึ่งคลอดต้องกินของที่มีประโยชน์เยอะ”แขไขเห็นว่าเธอต้องหลบไปสงบสติสักพักเพราะใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมดกลัวว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำมามันจะพัง“ขอบคุณนะคะ”“ไปยัยเอมไปช่วยแม่”“เอ่อ...ค่ะ”เอมิกาเห็นแม่ของเธอส่งสายตาแปลกๆมาให้เธอก็พอจะรู้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอจึงเดินตามแม่ของเธอออกไปแต่โดยดี“หึ้ย...หมั่นไส้มันจริงๆ”เมื่อมาถึงห้องครัวเอมิกาก็มือไม้สั่นเพราะต้องปั้นหน้ายิ้มให้พาขวัญอยู่นานพอควร“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไปแน่”แขไขเองก็เช่นกันเธอโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่“แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะในเมื่อคุณเหนือก็จะแต่งงานอยู่แล้ว”“ดีที่ฉันขัดไว้ก่อนได้ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องทำให้คุณอิทยกทุกอย่างให้พวกมันดูแลให้ช้าที่สุด”ตอนนี้แขไขขอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะเป็นยังไงแต่เธอก็จะทำให้มันช้าที่สุดเท่าที่ช้าได้เพราะเธอต้องหาวิธีจัดการก่อนไม่คิดว่าจู่ๆเหนือเมฆจะมีลูกมีเมียแล้วคิดแต่งงานเสียรวดเร็วขนาดนี้ทางด้านอิทธิวัฒน์“แล้วทางบ้านหนูขวัญรู้เรื่องนี้หรือยัง”อิทธิวัฒน์ก็อยากจะรู้ว่าทางบ้านพาขวัญรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเ
“ท่าทางเธอจะอยากกินมันมากเลยสินะ”เหนือเมฆไม่อยากจะให้มันเสียบรรยากาศเพราะเห็นหญิงสาวหน้าหงอยไปแล้วจึงหันไปหาเรื่องคุยถึงเรื่องอาหารที่เธอทำแทน“ค่ะขวัญไม่ได้กินของแซ่บๆพวกนี้นานแล้ว”พาขวัญเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะสนใจอาหารที่เธอพึ่งเทลงจานจึงยื่นให้เขานั้นได้ดูว่ามันน่ากินแค่ไหน“ดูท่าจะเผ็ดน่าดู”เหนือเมฆเห็นสีของมันเขาก็มีอาการแสบท้องแล้วเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กอาหารรสจัดเขาจึงไม่คุ้นชินเท่าไร“อร่อยนะคะลองชิมสิคะ”พาขวัญยังอยากให้ชายหนุ่มลองชิมฝีมือของเธอเผื่อเขาจะชอบวันหลังเธอนั้นจะได้ทำอีก“อืม...ก็อร่อยดีนะแต่รสชาติมันเผ็ดไปหน่อย”เหนือเมฆใช้ส้อมจิ้มกุ้งชิ้นโตที่ปกคลุมไปด้วยพริกที่อยู่ในจานใส่ปากพร้อมเคี้ยวเขาว่ารสชาติมันก็อร่อยดีแต่ติดตรงที่มันเริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เหงื่อของเขาผุดอออกมาเต็มไปหมดหน้าก็เริ่มแดงขึ้นจนเขาต้องพ่นลมปากออกมาเพื่อระบายความเผ็ด“ท่าทางพี่เหนือจะกินเผ็ดไม่ได้เลยใช่ไหมคะเนี่ย”พาขวัญเห็นอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่ทานอาหารเผ็ด“ก็นิดหน่อย”ชายหนุ่มตอบอย่างรักษาฟรอมตัวเองทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ทานอาหารที่มีพริกเลยต่างหาก
“อ๋อ...อืมงั้นพักเถอะเดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูจันทร์เจ้าเอง”“ขอบคุณนะคะ”เหนือเมฆก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการข้างเคียงวันนั้นของเดือนของหญิงสาวมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงคืนนี้เขาก็อยากจะให้เธอพักเรื่องจันทร์เจ้าเขาคิดว่าเขาดูแลเองได้เช้าวันต่อมาบริษัทXXเครืออธิษฐ์เวหาบริษัทที่ที่เหนือเมฆดูแลอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่ขายอุปกรณ์กีฬาส่งให้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดส่วนมากลูกค้าเองเสียมากกว่าที่จะเดินเข้ามาขอซื้อของจากบริษัทที่นี่เพราะของคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมานาน“ท่านประธานคะตอนช่วงเช้าคุณมีนัดคุยกับคุณนิสาลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ”รตีทำหน้าที่รายงานงานสำคัญในวันนี้ให้เหนือเมฆดีรู้เขาจะได้เตรียมตัว“คุณนิสา”เหนือเมฆไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไรเพราะลูกค้าของเขาก็มากมายเสียเหลือเกินส่วนมากคนที่ติดต่อก็จะเป็นนภัสคนสนิทของเขาเสียมากกว่า“เจ้าของโรงเรียนนานาชาติค่ะ”รตีรู้ว่าเจ้านายของเธอคงจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครจึงย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกค้าประจำที่เป็นเจ้าของโรงเรียน“อ๋อ...ครับ”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจเขาพอจะนึกออกแล้วว่าเธอคนนี้เป็นใครวันนี้เขาต้องคุยกับเธอเองสินะเพราะทุ
“ไม่ค่ะแล้วแต่พี่เหนือเลยเราไม่ได้อยากแต่งกันจริงๆสักหน่อย”พาขวัญคิดไม่ออกหรอกว่าเธออยากจะได้ชุดแต่งงานแบบไหนเรื่องนี้เธอก็ขอแล้วแต่ชายหนุ่มเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ใช่งานแต่งของคนที่เค้ารักกันจริงๆเสียหน่อย“อืม...งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”“ค่ะ”เหนือเมฆรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไรเพราะดูเหมือนเขาไม่มีค่าในสายตาเธอคนอย่างเขามีคนมากมายที่อยากจะแต่งงานด้วยแต่หญิงสาวเปล่าเลยเธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้นสักนิดอันที่จริงเขาก็ควรดีใจที่หญิงสาวไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสนี้ผูกมัดเขาแต่มันก็อดหงุดหงิดหัวใจไม่ได้เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกันพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เสียจะดีกว่าลำปาง19.00 น.“กลับมาแล้วเหรอ...พายแกได้ยินข่าวคนเค้าพูดกันไหม”มานีเห็นลูกสาวกลับบ้านมาเธอก็เริ่มถามสิ่งที่กำลังกังวลใจตอนนี้ทันที“ข่าวอะไรเหรอแม่”พระพายอยากจะรู้นักว่าไอ้ข่าวที่คนเค้าคุยกันข่าวอะไรเพราะปกติแล้วเธอก็ไม่ยักจะเห็นแม่เธอใส่ใจกับเรื่องซุบซิบนินทาของชาวบ้านมากนัก“ก็ที่แกกลับบ้านพร้อมหัวหน้าแกทุกวันคนเค้าก็เอาไปพูดกันว่าแกไปค้างคืนกับหัวหน้าแกน่ะสิ”
หลายวันต่อมาหลายวันมานี้เหนือเมฆอยู่ติดบ้านมากขึ้นเรื่องผู้หญิงหรือเที่ยวกลางคืนแบบเดิมไม่มีให้เห็นเลยสักนิดนภัสที่เป็นคนสนิทเองก็ยังแปลกใจชายหนุ่มสบายใจที่จะอยู่แบบนี้พอเลิกงานเขาก็อยากจะกลับบ้านมาเจอพาขวัญกับจันทร์เจ้าเหมือนเขานั้นมีลูกมีภรรยารออยู่ที่บ้านจริงๆ“พี่ไปก่อนนะ”“ค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหนือเมฆต้องไปทำงานและจะต้องมีพาขวัญกับจันทร์เจ้าคอยยืนส่งทุกเช้าในสายตาคนอื่นทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่ดูจะรักกันมากแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจริงนั้นทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน“ตอนเย็นอย่าลืมทำของโปรดพี่รอไว้ด้วยล่ะ”“ค่ะ...พี่เหนือไต้องห่วงขวัญจัดการให้แน่ค่ะ”เดี๋ยวนี้ทุกเย็นพาขวัญจะเป็นคนลงมือทำอาหารเย็นเองเพราะชายหนุ่มค่อนข้างถูกปากกับอาหารฝีมือของเธอหญิงสาวเองก็มีความสุขที่ได้ทำอาหารให้ชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีความสุขอย่างมากมันเหมือนครอบครัวของเธอช่างแสนอบอุ่นจนลืมคิดไปว่าเธออยู่ที่นี่เพียงเพราะต้องเป็นแม่ของจันทร์เจ้าเท่านั้นช่วงบ่ายของวัน“คุณขวัญ”เอมมิการู้ว่าตอนนี้เหนือเมฆไม่ได้อยู่ที่บ้านเธอจึงถือโอกาสมาดูความเป็นอยู่ของพาขวัญกับลูกนิดหน่อยตามคำสั่งของแม่เธอว่าควร
“ไม่ได้หรอก...เอาแบบนี้จัดซื้อของจากที่อื่นมาทุนสูงกว่าก็ยอมต้องมีของพร้อมส่งให้ลูกค้าดีกว่าเสียเครดิต”เหนือเมฆจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเพราะลูกค้าจะขาดความเชื่อมั่นกับทางบริษัทหากเขาจะยอมขาดทุนนิดหน่อยเพื่อรักษาเครดิตในระยะยาวเขาเองก็พร้อมที่จะทำ“โอเคครับ...เดี๋ยวผมจะจัดการตอนนี้เลย”นภัสได้รับงานมาเขาก็ต้องรีบไปจัดการเรื่องนี้ทันทีเพราะต้องหาแหล่งซื้อของอย่างเร่งด่วน“ด...เดี๋ยวค่ะ.คุณจะไปไหนคะ??”รตีกำลังหัวหมุนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้าที่เอจะต้องช่วยนภัสเคลียร์ปัญหาเรื่องส่งของให้ลูกค้าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่ามีหญิงสาวกำลังจะเดินเข้าห้องเจ้านายของเธอจึงรีบลุกมาสกัดเอาไว้ก่อน“ฉันมาหาเหนือเธอเองก็น่าจะเคยเจอฉันแล้วนะ”แองจี้สาวสวยที่เหนือเมฆเคยคั่วกับเธอเล่นเธอนั้นมาที่นี่หลายครั้งจนคนที่นี่แทบจะจำหน้าได้เพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบตื๊อไม่เลิกนั่นเอง“เอ่อ...ค่ะ”รตีเห็นว่าผู้หญิงที่จะเดินเข้าออกห้องนี้เป็นเรื่องปกติที่เธอเคยเห็นแต่พักหลังมานี่ก็ไม่เห็นเจ้านายของเธอพาใครมาที่นี่แล้วเมื่อคิดดูอีกทีหากเจ้านายเขาไม่ได้เรียกเธอมาก็คงจะไล่ออกมาเองจึงปล่อยให้เข้าไปแต่โดยดี“ไห
“มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า”หลังจากที่แองจี้ออกไปเรียบร้อยแล้วเหนือเมฆก็พาหญิงสาวเข้ามานั่งด้านในพร้อมอยากรู้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกได้กล่าว“ขวัญเอาอาหารเย็นมาให้ค่ะ”พาขวัญยื่นกล่องอาหารที่เธอทำเสร็จแล้วให้เขาไหนๆเธอก็มานั่งตรงนี้แล้วอาหารก็ทำมาแล้วให้เขาเลยก็จะดีกว่าส่วนเรื่องเมื่อกี้เธอเองก็ลืมนึกไปว่าเธอไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะโกรธหรือจะงอนเขาด้วยซ้ำเธอเองที่เป็นฝ่ายลืมไป“ขอบใจนะที่อุตส่าห์เป็นห่วง”เหนือเมฆรับกล่องอาหารที่หญิงสาวยื่นให้พร้อมขอบคุณที่เธออุตส่าห์เป็นห่วงเขาเอาอาหารมาให้ถึงที่นี่“ขวัญขอตัวกลับก่อนนะคะ”พาขวัญยังอยากจะขอตัวกลับอยู่ดีเพราะเธอรู้ว่าเมื่อครู่นี้เธอได้มาขัดความสุขของเขา“เรื่องเมื่อกี้พี่อธิบายได้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”เหนือเมฆไม่อยากให้หญิงสาวเข้าใจเขาผิดเรื่องผู้หญิงหรือกับแองจี้เองเขาก็ไม่ได้คิดจะยุ่งตอนนี้ความรู้สึกของเธอเป็นเรื่องที่เขาห่วงมากที่สุด“ขวัญเข้าใจค่ะ...ขอโทษอีกครั้งที่มาไม่ได้บอกก่อน”พาขวัญปั้นหน้ายิ้มให้ชายหนุ่มเขาจะได้ไม่ต้องหาข้อแก้ต่างอะไรให้เธอได้ฟังอีกเขามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องบอกเธออันนี้เธอเข้าใจดี“