“อ๋อ...เปล่านี่”
เหนือเมฆรู้ตัวว่าทำให้หญิงสาวรู้ตัวจึงรีบหันกลับไปมองจันทร์เจ้าทันทีคราวนี้หนูน้อยไม่มีอาการขมวดคิ้วแล้วแต่ยื่นมือมาเล่นนิ้วก้อยของเขาที่จับขวดนมอยู่แทนด้วยสายตาที่ยังสงสัยเช่นเดิม
“คุณเหนือคะ...ในบ้านของคุณทุกห้องจะมีรูปคุณตั้งทุกห้องแบบนี้เลยเหรอคะ”
พาขวัญมองไปรอบๆห้องเธอเห็นมีแต่รูปของชายหนุ่มวางตั้งอยู่เต็มไปหมดน่าจะเป็นรูปของเขากับพี่ชายเป็นแน่เธอคิดว่าหากห้องนี้มีรูปเขาอยู่ห้องอื่นๆก็น่าจะมีด้วย
“เปล่าหรอกผมพึ่งให้คนย้ายห้องนอนผมลงมาที่นี่”
เหนือเมฆส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมบอกกับหญิงสาวว่ามันมีแค่ห้องของเขาเท่านั้นที่จะมีรูปเขาอยู่
“ที่นี่ห้องนอนคุณเหรอคะ”
พาขวัญทำหน้างงเล็กน้อยคราแรกเขาบอกว่าที่นี่ห้องของเธอกับจันทร์เจ้าไหนที่พูดเมื่อครู่มันหมายความว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาเต็มๆเลยล่ะหรือว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปจึงถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกที
“ใช่เราจะนอนด้วยกัน”
เหนือเมฆคิดว่าถ้าตกลงจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้จันทร์เจ้าและคนอื่นๆก็รับรู้แบบนั้นเขาและเธอก็จะต้องอยู่ห้องเดียวกันอยู่แล้วคนในบ้านจะได้ไม่สงสัยและจะไม่มีอะไรผิดสังเกตด้วยอีกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาวและจันทร์เจ้าด้วย
“คะ??”
พาขวัญคิดว่าเรื่องนี้ชายหนุ่มน่าจะคุยกับเธอก่อนเสียอีก
17.30 น.
“อาบน้ำกันนะคะ”
หนูน้อยจันทร์เจ้าตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นซึ่งพอดีกับพาขวัญนั้นเตรียมของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะพาหนูน้อยอาบน้ำแล้ว
“อร๊า...แอ้...อืมม”
ป๋อม...แป๋ม...ๆ
เมื่อหนูน้อยลงน้ำได้ก็ส่งเสียงอารมณ์ดีดีดดิ้นจนน้ำกระเด็นใส่หน้าของพาขวัญเปียกไปหมด
“อารมณ์ดีเกินไปแล้วนะคะ...แม่เปียกหมดแล้ว”
“ฉันเช็ดให้”
เหนือเมฆเดินเข้มาในห้องได้ยินเสียงของจันทร์เจ้าอยู่ตรงห้องน้ำก็เดินไปดูว่าหญิงสาวกำลังทำอะไรภาพตรงหน้าทำให้เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมทั้งหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่หน้าห้องน้ำเช็ดหน้าที่เปียกน้ำให้หญิงสาวเพราะมือทั้งสองของเธอกำลังประคองอาบน้ำให้หนูน้อยอยู่
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ”
พาขวัญรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่จู่ๆอีกฝ่ายมาทำแบบนี้กับเธอ
“คิ้วขมวดอีกแล้วนะยัยตัวเล็ก...คุณพ่อไง...สงสัยทุกทีที่เห็นเลยนะเรา”
หนูน้อยจันทร์เจ้าพอเห็นชายหนุ่มใกล้ๆก็หยุดดีดิ้นเล่นน้ำครู่หนึ่งแล้วจับจ้องสายตาไปที่ชายหนุ่มอย่างสงสัยพร้อมทำคิ้วขมวดเช่นเดิมจนเหนือเมฆต้องยื่นหน้าไปคุยเล่นกับหนูน้อยให้คุ้นเคยเขามากขึ้น
“แอ้...”
“ยิ้มให้กันได้แล้วใช่ไหมทีนี้555”
“555”
เมื่อเหนือเมฆยื่นหน้าไปใกล้ๆหนูน้อยก็เปลี่ยนจากคิ้วขมวดมาเป็นส่งยิ้มหวานให้เขาจนชายหนุ่มต้องยิ้มตาม
“พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปพบครอบครัวฉันเตรียมตัวไว้ด้วยล่ะฉันบอกคุณพ่อฉันไว้แล้วว่าจะพาใครไปหาท่านคงเตรียมต้อนรับเธอไว้แล้ว”
“ค่ะ...”
เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงให้นภัสโทรไปบอกเรื่องที่เขาจะพาลูกกับภรรยาของเขาเข้าไปพบคราแรกอิทธิวัฒน์ก็ค่อนข้างตกใจที่จู่ๆพึ่งจะรู้ว่าเขามีหลานกับลูกสะใภ้อีกคนอย่างกะทันหันแต่ก็ยังให้ไปคุยกันที่บ้านอีกทีว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรมาอย่างไร
“เธอต้องเรียกฉันให้สนิทสนมกว่านี้ฉันจะเรียกเธอว่าขวัญส่วนเธอเรียกฉันว่าพี่เหนือก็แล้วกัน”
เหนือเมฆคิดว่าถ้าจะทำให้ดูเหมือนเขาคบกับเธอมานานจริงก็อยากจะให้เวลาที่เรียกแทนตัวเองกันให้ดูสนิทสนมมากกว่านี้
“อืม...ค่ะ”
พาขวัญพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่เหนือเมฆบอก
“ลองเรียกสิ”
ชายหนุ่มอยากจะได้ยินตอนนี้เหมือนกันว่าถ้าหากเขาได้ยินเธอเรียกแบบสนิทสนมอย่างที่เขาตั้งใจตัวของเขาเองจะรู้สึกอย่างไร
“พี่...เหนือ”
พาขวัญก็รู้สึกไม่คุ้นกับคำนี้เท่าไรแต่ในเมื่อถ้าเขาอยากจะให้พูดเธอก็จะพูดลองดูเพราะยังไงเธอก็ต้องเรียกให้ชินปากอยู่แล้ว
เหนือเมฆไม่รู้ตัวเองเสียเลยว่าตอนนี้สายตาของเขามันดูเดาอารมณ์ไม่ออกหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินหญิงสาวเรียกเขาแบบนั้นมันยิ่งทำให้เขาสับสนกับตัวเองว่าเขาจะรู้สึกดีหรือแค่รู้สึกแปลกไปกันแน่
“อะไรคะ”
พาขวัญเห็นชายหนุ่มเอาแต่จ้องเธออมยิ้มอีกแล้วเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาทำไมเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ
“เปล่าหรอก...ขวัญลองสอนพี่อาบน้ำให้ลูกหน่อยสิ”
เหนือเมฆรีบสลัดความรู้สึกเมื่อครู่ทิ้งพร้อมยังฝึกเรียกหญิงสาวกับหนูน้อยให้คุ้นชินอีกด้วย
“อ๋อ...งั้นวันนี้ดูตามขวัญไปก่อนนะคะ”
//ทำไมรู้สึกเขิลขึ้นมาล่ะเนี่ยเรา//
พาขวัญรู้ว่าชายหนุ่มอยากจะทำเรื่องของพวกเธอให้มันคุ้นชินเธอเองก็ลองพูดตามแบบเขาบ้างแต่เธอก็อดเคอะเขินไม่ได้
20.00 น.
“หลับแล้วเหรอ”
เหนือเมฆเห็นหญิงสาวนั่งกล่อมหนูน้อยอยู่ในอกพร้อมวางลงที่เตียงนุ่มเขากะว่าจะเข้ามาเล่นกับจันทร์เจ้าก่อนหนูน้อยจะหลับไปเสียหน่อยแต่เห็นจะไม่ทันแล้ว
“ค่ะ...คุณขนอะไรมาคะ”
พาขวัญเห็นชายหนุ่มหอบหิ้วกระเป๋าอะไรบางอย่างเข้ามาจึงอยากรู้ว่ามันคืออะไร
“บอกให้เรียกยังไง.”ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะลืมอะไรเร็วขนาดนี้เขาบอกให้เธอเรียกเขาให้ชินปากแต่ก็ต้องเตือนกันอยู่เรื่อย“เอ่อ...พี่เหนือ”พาขวัญเองก็ลืมตัวเธอเองยังไม่ชินเพราะนี่ก็พึ่งจะวันแรกที่เธอต้องเรียกเขาแบบนี้“นี่ที่นอนพี่เดี๋ยวขวัญกับลูกนอนบนเตียงก็แล้วกัน”เหนือเมฆไปขนฟูกนอนจากในห้องของเขามาเพื่อที่หญิงสาวจะได้นอนอย่างสบายใจและไม่อึดอัดด้วย“ค่ะ”พาขวัญคิดว่าชายหนุ่มยังใจดีกับเธอบ้างที่จะไม่ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้“ขวัญ...”“คะ??...”“คือพี่อยากจะรู้เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของขวัญเผื่อใครถามจะได้ตอบตรงกันไง”เหนือเมฆคิดว่าเขาและเธอจะต้องมาทำความรู้จักกันให้เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยเพราะแม่เลี้ยงของเขายิ่งชอบจับผิดเก่งอยู่ด้วย“อืมค่ะ...คือขวัญเกิดที่ลำปางพอพ่อเสียแม่ก็พาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตอนที่จบม.6 แล้วตอนนี้ขวัญอายุ25เรียนจบบริหารธุรกิจการตลาดแล้วพอแม่เสียขวัญก็ทำงานที่ภูเก็ตจนตกงานแล้วก็กลับมาอยู่ที่ลำปางได้ประมาณเดือนนึงค่ะ”พาขวัญเล่าประวัติคร่าวๆของเธอให้เขาฟังว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร“อ๋อ...แล้วไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ”หากพ่อแม่เสียหมดเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวมีญาติที่ไหนอีกหรือ
“โอ้โห...หลานปู่แก้มย้วยอย่างนี้ล่ะคงจะกินเก่งน่าดู”“ค่ะ”อิทธิวัฒน์ก้มมองหน้าหลานของเขาในอ้อมแขนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เห็นแก้มย้วยๆของหนูน้อยก็รู้สึกเอ็นดูอย่างมากได้ข่าวว่าพึ่งคลอดแต่ดูหนูน้อยจะเจ้าเนื้อเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะอุ้มฟัดเล่นติดอยู่ที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นเขาจึงไม่อยากปลุก“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ...น้าว่าเข้ามาด้านในกันก่อนเถอะ”แขไขทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญทุกคนเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน“คุณพ่อไม่โกรธผมเหรอครับที่ผมไม่ได้บอก”เหนือเมฆไม่เห็นพ่อเขาจะมีอาการต่อว่าอะไรเขาสักนิดเขาจึงนึกแปลกใจเพราะปกติอย่างน้อยก็ต้องมีคำว่าสักคำเมื่อเจอหน้าของเขา“ฉันจะโกรธแกเรื่องอะไรดีใจเสียอีกที่แกมีเมียมีลูกเสียทีนึกว่าจะทำตัวเสเพลกู่ไม่กลับเสียแล้ว”อิทธิวัฒน์ไม่อยากทำลายบรรยากาศครอบครัวแค่ลูกชายของเขามีเมียมีลูกเสียทีเขาก็หายห่วงแล้ว“แล้วนี่อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ”เหนือเมฆเห็นคุณพ่อของเขาหน้าตาสดใสขึ้นก็อยากจะรู้เรื่องออาการป่วยว่าพ่อของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างถึงแม้อาการภายนอกจะดูปกติแต่ภายในมันป่วยอยู่ขั้นไหนเขาก็อยากจะรู้“ก็อย่างที่เห็นฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...อ้าว...หลานปู่ตื
“เอ่อ...ในครัวมีผลไม้เต็มเลยเดี๋ยวน้าไปเตรียมมาให้หนูขวัญดีกว่านะจ๊ะพึ่งคลอดต้องกินของที่มีประโยชน์เยอะ”แขไขเห็นว่าเธอต้องหลบไปสงบสติสักพักเพราะใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมดกลัวว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำมามันจะพัง“ขอบคุณนะคะ”“ไปยัยเอมไปช่วยแม่”“เอ่อ...ค่ะ”เอมิกาเห็นแม่ของเธอส่งสายตาแปลกๆมาให้เธอก็พอจะรู้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอจึงเดินตามแม่ของเธอออกไปแต่โดยดี“หึ้ย...หมั่นไส้มันจริงๆ”เมื่อมาถึงห้องครัวเอมิกาก็มือไม้สั่นเพราะต้องปั้นหน้ายิ้มให้พาขวัญอยู่นานพอควร“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไปแน่”แขไขเองก็เช่นกันเธอโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่“แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะในเมื่อคุณเหนือก็จะแต่งงานอยู่แล้ว”“ดีที่ฉันขัดไว้ก่อนได้ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องทำให้คุณอิทยกทุกอย่างให้พวกมันดูแลให้ช้าที่สุด”ตอนนี้แขไขขอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะเป็นยังไงแต่เธอก็จะทำให้มันช้าที่สุดเท่าที่ช้าได้เพราะเธอต้องหาวิธีจัดการก่อนไม่คิดว่าจู่ๆเหนือเมฆจะมีลูกมีเมียแล้วคิดแต่งงานเสียรวดเร็วขนาดนี้ทางด้านอิทธิวัฒน์“แล้วทางบ้านหนูขวัญรู้เรื่องนี้หรือยัง”อิทธิวัฒน์ก็อยากจะรู้ว่าทางบ้านพาขวัญรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเ
“ท่าทางเธอจะอยากกินมันมากเลยสินะ”เหนือเมฆไม่อยากจะให้มันเสียบรรยากาศเพราะเห็นหญิงสาวหน้าหงอยไปแล้วจึงหันไปหาเรื่องคุยถึงเรื่องอาหารที่เธอทำแทน“ค่ะขวัญไม่ได้กินของแซ่บๆพวกนี้นานแล้ว”พาขวัญเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะสนใจอาหารที่เธอพึ่งเทลงจานจึงยื่นให้เขานั้นได้ดูว่ามันน่ากินแค่ไหน“ดูท่าจะเผ็ดน่าดู”เหนือเมฆเห็นสีของมันเขาก็มีอาการแสบท้องแล้วเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กอาหารรสจัดเขาจึงไม่คุ้นชินเท่าไร“อร่อยนะคะลองชิมสิคะ”พาขวัญยังอยากให้ชายหนุ่มลองชิมฝีมือของเธอเผื่อเขาจะชอบวันหลังเธอนั้นจะได้ทำอีก“อืม...ก็อร่อยดีนะแต่รสชาติมันเผ็ดไปหน่อย”เหนือเมฆใช้ส้อมจิ้มกุ้งชิ้นโตที่ปกคลุมไปด้วยพริกที่อยู่ในจานใส่ปากพร้อมเคี้ยวเขาว่ารสชาติมันก็อร่อยดีแต่ติดตรงที่มันเริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เหงื่อของเขาผุดอออกมาเต็มไปหมดหน้าก็เริ่มแดงขึ้นจนเขาต้องพ่นลมปากออกมาเพื่อระบายความเผ็ด“ท่าทางพี่เหนือจะกินเผ็ดไม่ได้เลยใช่ไหมคะเนี่ย”พาขวัญเห็นอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่ทานอาหารเผ็ด“ก็นิดหน่อย”ชายหนุ่มตอบอย่างรักษาฟรอมตัวเองทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ทานอาหารที่มีพริกเลยต่างหาก
“อ๋อ...อืมงั้นพักเถอะเดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูจันทร์เจ้าเอง”“ขอบคุณนะคะ”เหนือเมฆก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการข้างเคียงวันนั้นของเดือนของหญิงสาวมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงคืนนี้เขาก็อยากจะให้เธอพักเรื่องจันทร์เจ้าเขาคิดว่าเขาดูแลเองได้เช้าวันต่อมาบริษัทXXเครืออธิษฐ์เวหาบริษัทที่ที่เหนือเมฆดูแลอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่ขายอุปกรณ์กีฬาส่งให้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดส่วนมากลูกค้าเองเสียมากกว่าที่จะเดินเข้ามาขอซื้อของจากบริษัทที่นี่เพราะของคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมานาน“ท่านประธานคะตอนช่วงเช้าคุณมีนัดคุยกับคุณนิสาลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ”รตีทำหน้าที่รายงานงานสำคัญในวันนี้ให้เหนือเมฆดีรู้เขาจะได้เตรียมตัว“คุณนิสา”เหนือเมฆไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไรเพราะลูกค้าของเขาก็มากมายเสียเหลือเกินส่วนมากคนที่ติดต่อก็จะเป็นนภัสคนสนิทของเขาเสียมากกว่า“เจ้าของโรงเรียนนานาชาติค่ะ”รตีรู้ว่าเจ้านายของเธอคงจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครจึงย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกค้าประจำที่เป็นเจ้าของโรงเรียน“อ๋อ...ครับ”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจเขาพอจะนึกออกแล้วว่าเธอคนนี้เป็นใครวันนี้เขาต้องคุยกับเธอเองสินะเพราะทุ
“ไม่ค่ะแล้วแต่พี่เหนือเลยเราไม่ได้อยากแต่งกันจริงๆสักหน่อย”พาขวัญคิดไม่ออกหรอกว่าเธออยากจะได้ชุดแต่งงานแบบไหนเรื่องนี้เธอก็ขอแล้วแต่ชายหนุ่มเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ใช่งานแต่งของคนที่เค้ารักกันจริงๆเสียหน่อย“อืม...งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”“ค่ะ”เหนือเมฆรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไรเพราะดูเหมือนเขาไม่มีค่าในสายตาเธอคนอย่างเขามีคนมากมายที่อยากจะแต่งงานด้วยแต่หญิงสาวเปล่าเลยเธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้นสักนิดอันที่จริงเขาก็ควรดีใจที่หญิงสาวไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสนี้ผูกมัดเขาแต่มันก็อดหงุดหงิดหัวใจไม่ได้เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกันพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เสียจะดีกว่าลำปาง19.00 น.“กลับมาแล้วเหรอ...พายแกได้ยินข่าวคนเค้าพูดกันไหม”มานีเห็นลูกสาวกลับบ้านมาเธอก็เริ่มถามสิ่งที่กำลังกังวลใจตอนนี้ทันที“ข่าวอะไรเหรอแม่”พระพายอยากจะรู้นักว่าไอ้ข่าวที่คนเค้าคุยกันข่าวอะไรเพราะปกติแล้วเธอก็ไม่ยักจะเห็นแม่เธอใส่ใจกับเรื่องซุบซิบนินทาของชาวบ้านมากนัก“ก็ที่แกกลับบ้านพร้อมหัวหน้าแกทุกวันคนเค้าก็เอาไปพูดกันว่าแกไปค้างคืนกับหัวหน้าแกน่ะสิ”
หลายวันต่อมาหลายวันมานี้เหนือเมฆอยู่ติดบ้านมากขึ้นเรื่องผู้หญิงหรือเที่ยวกลางคืนแบบเดิมไม่มีให้เห็นเลยสักนิดนภัสที่เป็นคนสนิทเองก็ยังแปลกใจชายหนุ่มสบายใจที่จะอยู่แบบนี้พอเลิกงานเขาก็อยากจะกลับบ้านมาเจอพาขวัญกับจันทร์เจ้าเหมือนเขานั้นมีลูกมีภรรยารออยู่ที่บ้านจริงๆ“พี่ไปก่อนนะ”“ค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหนือเมฆต้องไปทำงานและจะต้องมีพาขวัญกับจันทร์เจ้าคอยยืนส่งทุกเช้าในสายตาคนอื่นทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่ดูจะรักกันมากแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจริงนั้นทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน“ตอนเย็นอย่าลืมทำของโปรดพี่รอไว้ด้วยล่ะ”“ค่ะ...พี่เหนือไต้องห่วงขวัญจัดการให้แน่ค่ะ”เดี๋ยวนี้ทุกเย็นพาขวัญจะเป็นคนลงมือทำอาหารเย็นเองเพราะชายหนุ่มค่อนข้างถูกปากกับอาหารฝีมือของเธอหญิงสาวเองก็มีความสุขที่ได้ทำอาหารให้ชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีความสุขอย่างมากมันเหมือนครอบครัวของเธอช่างแสนอบอุ่นจนลืมคิดไปว่าเธออยู่ที่นี่เพียงเพราะต้องเป็นแม่ของจันทร์เจ้าเท่านั้นช่วงบ่ายของวัน“คุณขวัญ”เอมมิการู้ว่าตอนนี้เหนือเมฆไม่ได้อยู่ที่บ้านเธอจึงถือโอกาสมาดูความเป็นอยู่ของพาขวัญกับลูกนิดหน่อยตามคำสั่งของแม่เธอว่าควร
“ไม่ได้หรอก...เอาแบบนี้จัดซื้อของจากที่อื่นมาทุนสูงกว่าก็ยอมต้องมีของพร้อมส่งให้ลูกค้าดีกว่าเสียเครดิต”เหนือเมฆจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเพราะลูกค้าจะขาดความเชื่อมั่นกับทางบริษัทหากเขาจะยอมขาดทุนนิดหน่อยเพื่อรักษาเครดิตในระยะยาวเขาเองก็พร้อมที่จะทำ“โอเคครับ...เดี๋ยวผมจะจัดการตอนนี้เลย”นภัสได้รับงานมาเขาก็ต้องรีบไปจัดการเรื่องนี้ทันทีเพราะต้องหาแหล่งซื้อของอย่างเร่งด่วน“ด...เดี๋ยวค่ะ.คุณจะไปไหนคะ??”รตีกำลังหัวหมุนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้าที่เอจะต้องช่วยนภัสเคลียร์ปัญหาเรื่องส่งของให้ลูกค้าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่ามีหญิงสาวกำลังจะเดินเข้าห้องเจ้านายของเธอจึงรีบลุกมาสกัดเอาไว้ก่อน“ฉันมาหาเหนือเธอเองก็น่าจะเคยเจอฉันแล้วนะ”แองจี้สาวสวยที่เหนือเมฆเคยคั่วกับเธอเล่นเธอนั้นมาที่นี่หลายครั้งจนคนที่นี่แทบจะจำหน้าได้เพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบตื๊อไม่เลิกนั่นเอง“เอ่อ...ค่ะ”รตีเห็นว่าผู้หญิงที่จะเดินเข้าออกห้องนี้เป็นเรื่องปกติที่เธอเคยเห็นแต่พักหลังมานี่ก็ไม่เห็นเจ้านายของเธอพาใครมาที่นี่แล้วเมื่อคิดดูอีกทีหากเจ้านายเขาไม่ได้เรียกเธอมาก็คงจะไล่ออกมาเองจึงปล่อยให้เข้าไปแต่โดยดี“ไห