วันต่อมา
“พี่ไปทำงานก่อนนะ”
ได้เวลาที่ภูผาจะต้องไปทำงานแล้ววันนี้เขาไม่ยักจะเห็นหญิงสาวเดินมาส่งที่หน้าบ้านเขาจึงต้องเข้าไปบอกหญิงสาวเองว่าเขากำลังจะไปทำงานแล้ว
“อืม...”
พระพายตอบชายหนุ่มเพียงคำสั้นๆไม่มองเขาแม้แต่นิดเดียวเพราะกำลังให้นมลูกของเธออยู่
“พ่อไปทำงานก่อนนะครับ”
ภูผาไม่อยากจะหาเรื่องคุยกับหญิงสาวตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไรถึงได้มีท่าทีเฉยชาแต่ขอเขากลับจากทำงานก่อนค่อยคุยกันจะดีกว่าเขาก้มลงไปจูบหน้าผากของลูกสาวของเขาแล้วออกไปทำงานทันที
//รู้บ้างไหมว่าโกรธอยู่เนี่ย//
พระพายยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่ถามอะไรเธอบ้างว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไรก็ยิ่งหงุดหงิดแต่เมื่อมองหน้าลูกเธอก็ใจเย็นลงมากตอนนี้เธอขอสนใจแต่ลูกก่อนจะดีกว่ากลัวว่านึกถึงชายหนุ่มแล้วเธอจะพาลใจขุ่นมัว
เย็นของวัน
ภูผากลับบ้านมาได้พักใหญ่แล้วตอนนี้หญิงสาวก็เข้าครัวทำกับข้าวอยู่ส่วนลูกก็นอนเล่นอยู่ในเปลโดยมีเขาที่คอยอยู่ข้างๆชายหนุ่มนั่งคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตกว่าหญิงสาวนั้นเป็นอะไรกลับมาคิดว่าอาการจะดีขึ้นกลับเหมือนจะยิ่งกว่าเดิม
“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”
พระพายทำกับข้าวสองสามอย่างวางที่โต๊ะอาหารให้ชายหนุ่ม
“พายเป็นอะไรหรือเปล่า”
ภูผาถือโอกาสนี้ถามเธอเสียเลยว่าหญิงสาวเป็นอะไร
“สนใจด้วยเหรอคะ....คิดว่าจะสนใจแต่คนอื่นเสียอีก”
พระพายอดที่จะพูดประชดประชันไม่ได้
“คนอื่น...พี่สนใจใครล่ะพาย”
ภูผาถึงกับงงในสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมาวันๆเขาก็สนใจอยู่แต่เธอกับลูกแล้วก็งานจะไปสนใจคนอื่นที่ไหนอีก
“เดี๋ยวพายพาลูกเข้าห้องก่อน วันนี้พายไม่กินข้าวเย็นนะคะ”
พระพายไม่สนใจที่จะตอบคำถามชาหนุ่มเธอเตรียมของพร้อมอุ้มลูกเธอเข้าห้องนอนไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งทำหน้างงอยู่
21.00 น.
“พายเป็นอะไร”
ภูผาเข้าไปกอดหญิงสาวที่นอนหันหลังให้เขาอยู่และยังคงคำถามที่เขายังคาใจแบบเดิมกับเธอยังไงคืนนี้เขาก็ต้องได้คำตอบ
“เปล่า”
พระพายยังคงไม่ยอมบอกเช่นเดิมหากชายหนุ่มยังไม่รู้ตัวเธอก็จะไม่ให้เขารู้ตัวแบบนี้ต่อไป
“เปล่า.แล้วทำไมต้องงอนไม่เลิกซะทีล่ะ”
“ไม่ได้งอน”
“ถ้าไม่ได้งอน...ก็น้อยใจ”
ภูผายังไม่เลิกเซ้าซี้ง่ายๆในเมื่อถามดีๆไม่เป็นผลก็ต้องขอกวนประสาทเธอหน่อย
“ไม่ได้น้อยใจอย่ามายุ่งกับพายได้ไหมไปสนใจแฟนเก่าตัวเองโน่น”
“อย่างนี้นี่เอง...ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็หึงพี่ใช่ไหม”
และแล้วคำที่หญิงสาวหลุดปากออกมาก็ทำให้เขาเข้าใจได้ว่าที่หญิงสาวมีอาการทั้งหมดเนี่ยน่าจะเกิดจากเรื่องในมือถือของเขาคืนนั้นแน่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดอะไรกับแพทริเซียแล้วรู้ใจตัวเองตั้งแต่หญิงสาวยังไม่คลอดลูกด้วยซ้ำว่าในชีวิตเขาต้องการอะไรแต่ที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ก็ทำให้เขานั้นแอบดีใจเหมือนกัน
“หึงอะไร...หึงมันเอาไว้ใช้กับคนที่รักกันโน่น”
พระพายยังปฏิเสธเสียงแข็งปกปิดความรู้สึกตัวเอง
“ก็พายรักพี่...ก็ต้องหึงพี่เหมือนในไดอารี่ที่พายเขียนไว้ไง”
ภูผารู้หมดแล้วว่าหญิงสาวรู้สึกกับเขาเช่นไรและรู้สึกมาตั้งแต่ตอนไหนเพราะในตอนที่หญิงสาวอยู่ที่โรงพยาบาลตอนคลอดลุกเขาหกลับมาเอาของให้เธอจึงได้เจอไดอารี่เล่มนั้นของเธอนั่นเองแต่ช่วงนี้จากที่เขาแอบอ่านเธอก็ไม่ค่อยได้เขียนอะไรลงไปแล้วคงจะยุ่งๆอยู่กับลูกเล็ก
“นี่...พี่ภูแอบดูไดอารี่พายเหรอห้ะ...”
พระพายทั้งโกรธทั้งอายถ้าเขาดูไดอารี่ของเธอก็คงจะรู้เรื่องทั้งหมดน่ะสิ
“พี่เองก็รู้สึกไม่ต่างจากพายพี่รู้ใจตัวเองมานานแล้วว่าชีวิตพี่จะต้องมีแค่พายกับลูกส่วนแพทพี่เป็นแค่เพื่อนกับเขาเท่านั้นเรื่องในวันนั้นที่พายได้รับรู้มันเป็นช่วงที่พี่สับสนอยู่พายเชื่อพี่นะ”
คำพูดของภูผาออกมาจากหัวใจเขารู้สึกเช่นเดียวกับหญิงสาวความผูกพันมันน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่หญิงสาวเข้ามาเป็นสีสันในชีวิตเขานั่นแหละแค่เขายังให้คำตบตัวเองไม่ได้เท่านั้นแต่ตอนนี้เขารู้แล้ว
“พายเชื่อก็ได้แต่วันนี้พี่ภูต้องออกไปนอนนอกห้องเพราะมาแอบอ่านไดอารี่ของพาย”
พระพายเองก็รู้ตัวว่าตัวเองโกรธจนลืมมองความจริงว่าตอนนี้ชีวิตของภูผาก็มีแต่เอกับลูกอย่างที่เขาบอกจริงๆแต่เนื่องที่เธอไม่โอเคตอนนี้ก็คือเขามาแอบอ่านไดอารี่ของเธอนี่แหละ
“แต่...”
ภูผาคิดว่าเรื่องมันจะดีแล้วเสียอีกแต่เขาโดนไล่ออกไปนอนนอกห้องเสียอย่างนั้น
“ไม่มีแต่ไม่อย่างนั้นพายจะไม่คุยด้วยสองเดือน”
“ก็ได้ๆ...”
คำประกาศของพระพายภูผารู้ว่าเธอเอาจริงจึงต้องหอบหมอนกับผ้าห่มไปนอนโซฟาข้างนอกห้องแต่โดยดี
กระบี่
20.00 น.
“เด็กๆหลับกันเร็วจัง”
เหนือเมฆเข้ามากอดคนเป็นภรรยาจากด้านหลังในขณะที่หญิงสาวกำลังมองดูท้องฟ้าที่ริมหน้าต่างที่บ้านพักริมทะเลอยู่
“คงจะเพลียค่ะ...จันทร์เจ้าก็วิ่งเล่นทั้งวันขวัญกลัวจะไข้จังเลยค่ะ”
พาขวัญกุมมือคนเป็นสามีของเธอเอาไว้พร้อมแหงนหน้าไปคุยกับเขาและกลับมามองท้องฟ้าในยามคำคืนเช่นเดิม
“จันทร์เจ้าแข็งแรงคงไม่ป่วยง่ายๆหรอก”
“พี่ฟ้ากับคุณไนล์จะรู้ไหมว่าจันทร์เจ้าเป็นเด็กที่น่ารักขนาดไหนแถมยังมีความเป็นพี่สาวในตัวสูงมากอีกด้วย”
“พี่ว่าพวกเค้ารับรู้และอาจจะคอยอยู่ข้างๆจันทร์เจ้ากับพวกเราก็ได้”
“เรื่องราวก่อนหน้านี้เราก็ผ่านอะไรกันมาเยอะมากเลยนะคะ”
พาขวัญนึกไปถึงชีวิตของเธอวันวานที่ไม่คิดว่าจะมาได้ถึงเพียงนี้
“แต่เราก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี...ถ้าวันนั้นไม่มีจันทร์เจ้าเราก็อาจจะไม่ได้มารักกันจนถึงวันนี้ก็ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมันอาจจะเป็นเรื่องที่กำหนดมาแล้วเราก็แค่ดำเนินชีวิตไปอย่างที่ควรจะเป็นตอนนี้เรามีความสุขเราก็ตักตวงความสุขให้ได้มากที่สุดวันไหนเราทุกข์เราก็อยู่คอยแก้ปัญหาเป็นกำลังใจให้กันและกันแบบนี้ตลอดไปนะ...พี่รักขวัญมากขวัญรู้มัย”
“ค่ะ...ขวัญก็รักพี่เหนือเหมือนกันค่ะ”
เหนือเมฆรู้ว่าทุกอย่างมันน่าจะถูกกำหนดไว้แล้วชีวิตของเขาดีขึ้นเพราะมีหญิงสาวเข้ามาไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่ทดสอบให้เขาได้รู้ว่าในวันที่เขาทุกข์เขามีใครอยู่ข้างๆและในวันที่เขามีความสุขเขาก็จะไม่ปล่อยมือคนที่ร่วมเผชิญเรื่องราวอะไรต่ออะไรด้วยกันมาแน่นอนเขาไม่อายที่จะบอกรักหญิงสาวถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากบอกกับเธอทุกวันทุกเวลาหลังอาหารเลยด้วยซ้ำ
จบแล้วค่า ...
กรุงเทพมหานครบ้านอธิษฐ์เวหา22.00 น.“มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง”อิทธิวัฒน์ถึงกับล้มพับลงไปนั่งที่โซฟาเมื่อรู้ข่าวเรื่องลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้เกิดอุบัติเหตุขณะกำลังพากันกลับบ้านหลังจากที่เพียงฟ้าลูกสะใภ้ของเขานั้นกลับจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังคลอดได้เพียงสามวันเท่านั้นเขาเองก็ยังไม่ได้เห็นหน้าหลานเลยด้วยซ้ำยิ่งร้ายไปกว่านั้นหลานของเขายังหายไปโดยไร้น่องรอยอีกต่างหากเขาไม่รู้ว่าเรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องอุบัติเหตุจริงๆหรือใครทำให้มันเกิดขึ้นกันแน่นิกรเองได้รับข่าวนี้มาก็ร้อนใจอยู่ไม่น้อยตอนนี้เขาก็ได้สั่งการให้ลูกน้องของเขาสืบดูอีกทีว่าที่มาที่ไปของอุบัติเหตุครั้งนี้มันคืออะไรกันแน่เขาเองปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ต์ว่าอรรณพนั้นเป็นคนไม่ประมาทถ้าไม่มีใครจงใจให้เกิดมันคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่“แล้วตาเหนืออยู่ไหนไปตามกลับมาเดี๋ยวนี้เลย”อิทธิวัฒน์เห็นว่าป่านนี้ลูกชายคนเล็กของเขายังไม่เห็นจะโผล่หัวกลับมาที่บ้านเสียทีจึงสั่งให้นิกรไปตามกลับมาด่วนเพราะตอนนี้ยังไงเขาก็ยังอยากให้ลูกชายของเขามารับรู้ข่าวของคนในบ้านไม่ใช่เอาแต่หายหัวไปอยู่แต่ข้างนอก“ครับคุณท่าน”นิกรได้รับคำสั่งจากอิทธิ
ก็อกๆๆๆ“พาย...พาย...นี่ฉันขวัญเอง”พาขวัญเคาะประตูไม้หน้าบ้านของพระพายพร้อมเรียกเพื่อนเธออย่างร้อนใจเธอรู้ว่าแม่ของพระพายรับจ้างเลี้ยงเด็กยังไงที่นี่ก็ต้องมีนมสำหรับเด็กติดบ้านไว้บ้างแหละ“แม่...เสียงไอ้ขวัญ”พระพายลุกขึ้นพรวดเมื่อเธอรู้ว่าใครเรียกเธอ“เอ้าเหรอ...รีบลุกไปดูสิแล้วหนูขวัญมาทำไมดึกๆดื่นๆล่ะเนี่ย”มานีเองก็ลุกขึ้นเหมือนกันเพราะรู้ว่าต้องมีเรื่องด่วนแน่ไม่อย่างนั้นพาขวัญคงไม่มาบ้านเธอเวลานี้แน่เพราะที่นี่กลางคืนน่ากลัวแค่ไนใครๆก็รู้“จ๊ะแม่”พระพายรีบไปเปิดไฟและปิดประตูบ้านไปดูเพื่อนสาวเธอทันที“แง้ๆๆๆๆ....แง้ๆๆๆ....”“ขวัญ...ไปอุ้มเด็กที่ไหนมา”พระพายเปิดประตูมาเห็นเพื่อนเธออุ้มเด็กเล็กอยู่ในห่อผ้าก็ถึงกับหน้าเหวอนิดหน่อยแต่ก็รู้ว่าต้นเสียงที่เธอคิดว่าหูแว่วอยู่ที่ไหน“แกพอจะมีนมผงของเด็กไหม”เมื่อเพื่อนสาวเธอเปิดประตูมาได้พาขวัญก็รีบถามหานมผงของเด็กทันทีโดยที่ไม่ได้ใส่ใจจะตอบคำถามที่เพื่อนเธอถามเพราะเธอนั้นยังไม่มีเวลาที่จะอธิบาย“น่าจะมีอยู่เข้ามาข้างในก่อนเดี๋ยวถามแม่ให้”พระพายพอจะดูออกว่าเด็กที่ร้องแบบนี้น่าจะหิวเลยให้เพื่อนเธอเข้ามาในบ้านก่อนเพราะเดี๋ยวบ้านอื่นเขาจ
“ต่อไปนี้เด็กคนนี้จะเป็นลูกของหนูจะ”“ห้ะ....เอาอย่างนั้นเลยเเหรอ”มานีและพระพายถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อพาขวัญพูดออกมาเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเห็นว่าพาขวัญน่าจะตั้งใจจริง“ช่วงนี้หนูจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุด”พาขวัญตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุดงานอะไรเธอก็ทำทั้งนั้นขอให้ได้เงินมาเพราะเธอรู้ว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากยังไงเธอตั้งใจอะไรไว้แล้วเธอก็จะต้องทำให้สำเร็จ“ถ้าลำบากก็ให้น้าช่วยเลี้ยงก็ได้น้าไหวต้นกล้าเองก็ยังเล็กไม่ค่อยอ้อนอะไรมากนักน้าเลี้ยงเด็กอีกคนได้”มานีเห็นแล้วก็สุดสงสารเธอเองก็ไม่ได้มีมากนักสิ่งที่เธอพอจะช่วยได้ก็คือช่วงเลี้ยงหนูน้อยคนนี้ให้ได้ก็เท่านั้นเพราะเธอก็หาเช้ากินค่ำกับลูกสาวสองคนเหมือนกัน“ขอบใจจะน่านี”พาขวัญรีบยกมือไหว้ขอบใจมานีที่มีน้ำใจช่วยเธอทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้สบายอะไรมากนัก“แล้วแม่หนูน้อยคนนี้ชื่ออะไรเเหรอ”ไหนๆพระพายเห็นเพื่อนเธอรับเด็กคนนี้เป็นลูกแล้วเท่ากับว่าเด็กคนนี้ก็เป็นหลานเธอตอนนี้ก็เหลือแค่ชื่อที่เธอจะต้องมีเรียกเพราะเธอเห็นว่าก็คงจะต้องเรียกกันไปอีกนาน“อืม...ก็ไม่รู้เหมือนกัน...อืม...ชื่
“คงไม่มาถึงบ้านเรามั้งจ๊ะ...ขวัญคิดแบบนั้นนะ”พาขวัญคิดว่าบ้านของเธอค่อนข้างอยู่ลึกผู้คนก็ไม่ค่อยผ่านคงไม่มีใครสังเกต“น้าก็ขอให้เป็นอย่างนั้นแต่มีคนมาถามน้าเหมือนกันว่าลูกใครน้าก็บอกว่าลูกหนูขวัญก็ไม่มีใครสงสัยนะเพราะหนูขวัญเองก็พึ่งกลับมาจากภูเก็ต”มานีก็ภาวนาให้เป็นอย่างที่จันทร์เจ้าคิดแต่เธอเองก็ได้ลองบอกกับคนที่ถามเรื่องเด็กที่เธอรับจ้างเลี้ยงใหม่เหมือนกันว่าเป็นลูกใครเธอลองตอบว่าเป็นของพาขวัญก็ไม่มีใครสงสัยเพราะต่างคนก็รู้กันว่าพาขวัญไปทำงานที่ภูเก็ตพึ่งจะกลับมา“แล้วนี่พายยังไม่กลับเเหรอจ๊ะน้านี”พาขวัญเห็นว่านี่มันก็เย็นแล้วพระพายก็น่าจะกลับแล้วเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนเธอทำงานเป็นเวลาแต่ไม่เห็นจะอยู่บ้าน“เห็นว่ามันทำงานพิเศษช่วงกลางคืนล่ะมั้งทำได้สองสามวันแล้วนะ”“เเหรอจ๊ะ...”พาขวัญอยากรู้จริงๆว่างานที่พระพายทำพิเศษคืออะไรหากได้เงินดีเธอเองก็อยากจะไปทำบ้างเพราะตอนนี้หางานประจำยากเสียเหลือเกินกรุงเทพมหานคร“และเราก็กำจัดไปได้อีกหนึ่ง...หึ่...อย่าหวังว่าเงินร้อยล้านจะปลิวไปให้เด็กนั่นง่ายๆ”หลังจากที่เสร็จสิ้นงานศพของเพียงฟ้าและอรรณพไปแล้วแขไขก็ดีใจยิ่งนักที่แผนของเธอผ่านไปด้วยดี
“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ“เฮ้อ....”อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”แขไขยังยุย
“ฉันเข้าใจน่า”เหนือเมฆเข้าใจว่างานของเพื่อนเขามันต้องทุมเททั้งแรงกายแรงใจไม่ใช่น้อยเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องจะอยู่ต้อนรับหรือไม่ต้อนรับเสียนิดเดียว“เรื่องพี่ชายแกฉันเสียใจด้วยนะ...แล้วแกมาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยวะ”ภูผารู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนเขามาบ้างเลยถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจเสียหน่อยเขารู้ว่าเพื่อนเขามาที่นี่อย่างเร่งด่วนคงไม่พ้นมีเรื่องร้อนใจเป็นแน่“เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุพี่ชายฉันนี่แหละ”“ฉันก็พอรู้มาบ้างนี่ก็ยังตามไม่เจอหลานแกใช่ไหม”“อืมม...ฉันถึงมาที่นี่นี่ไง”ภูผารู้ข่าวคร่าวๆจากพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบ้างว่ามีเหตุทำให้คนเสียชีวิตถึงสองคนแถมเด็กที่พึ่งคลอดก็ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก2 ชั่วโมงต่อมา“ประเด็นที่แกคิดก็คือคิดว่าเรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงแกเป็นคนทำ”หลังจากที่ภูผานั่งคุยกับเหนือเมฆได้พักใหญ่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเหนือเมฆนั้นคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงของเขาเป็นแน่“ฉันคิดแบบนั้นแต่ขอหาหลักฐานก่อน”เหนือเมฆปักใจเชื่อแบบนั้นและขอหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนแล้วจะเอาผิดกับคนที่ทำผิดอีกทีอย่างสาสม“ถ้าแกคิดแบบนั้นแสดงว่าตัวแกเองก็จะไม่ปลอดภั
“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”ฟอดดด“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู
2 ชั่วโมงต่อมา“เดินหลายรอบเลยวันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยไหวไหมแก”พระพายเห็นเพื่อนของเธอปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีกเดินเสริฟอาหารกับพวกแอลกอฮอล์ขาเป็นระวิงจึงเข้าไปถามเพื่อนเธอตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง“โอเคฉันไหว”พาขวัญมีรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่ทิปที่ได้จากพวกลูกค้าก็ไม่น้อยเธอเลยมีกำลังใจที่จะทำงานต่ออย่างไม่ลดละ“เดย์...ฉันต้องการคนนั้นนายไปติดต่อให้ฉันที”เหนือเมฆนั่งดื่มที่ผับนี้อยู่นานสองนานแล้วที่โซนวีไอพีด้านบนสายตาเขาดันไปต้องกับเด็กเสริฟที่กำลังเดินเสริฟอาการอยู่ด้านล่างเขามองเธอคนนั้นไม่ละสายตาผิวของเธอขาวจนเด่นสะดุดตาหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มนั่นอีกที่มันทำให้เขามองเธอแล้วละสายตาไปไหนไม่ได้เขาพอจะรู้มาว่าที่นี่ก็มีบริการเรื่องที่เขาต้องการอยู่เหมือนกันเลยสั่งให้นภัสจัดการเรื่องที่เคยๆให้เขาด่วนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มดื่มจนได้ที่แล้วเหมือนกัน“ครับคุณเหนือ”นภัสรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายของเขาจะต้องมีเรื่องแบบนี้ให้เขาจัดการอยู่แล้วเป็นประจำเขาจึงรีบไปจัดการทำตามความต้องการของคนเป็นนายทันที10 นาทีต่อมา“ว่าไงให้ฉันไปรอที่รถเลยไหม”เหนือเมฆเห็นนภัสเดินมาก็คิดว่าลูกน้องของเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้