โรงพยาบาล
ในระหว่างที่เหนือเมฆเดินทางกลับพาขวัญก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพราะเธอรู้สึกปวดท้องอย่างมากเหนือเมฆเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากที่บ้านไปที่โรงพยาบาลอย่างร้อนใจ
“ขวัญ...เป็นไงบ้าง”
พยาบาลเข็นเตียงหญิงสาวเข้าห้องผ่าตัดเหนือเมฆอยากจะรู้ว่าอาการของภรรยาของเขาเป็นอย่างไรเพราะเขากลัวว่าเธอจะมีอันตรายส่วนเรื่องติดต่อกับเอมิกาเธอให้เดย์จัดการอยู่
“ขวัญโอเคค่ะ...พาจันทร์เจ้ากลับมาให้ได้นะคะ”
พาขวัญยิ้มให้คนเป็นสามีตัวเธอตอนนี้ถึงมือหมอแล้วเธอโอเคแต่เธอห่วงจันทร์เจ้ามากกว่า
“พี่สัญญา”
เหนือเมฆรู้สึกกังวลไปเสียทุกเรื่อถึงภรรยาของเขาจะบอกว่าโอเคแต่การผ่าตัดทำคลอดด่วนเขาก็รู้ว่ายังไงมันก็อยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดีแต่เขาก็ยต้องชั่งใจไม่ให้กังวลคิดเสียว่าภรรยาของเขาอยู่ในมือหมอแล้วคงจะปลอดภัย
“ได้ที่อยู่มาแล้วครับคุณเหนือ”
นภัสติดต่อกับเอมิกาได้ก็รีบมาบอกคนเป็นนายอย่างรีบร้อน
“งั้นเราไปกันเลย”
เหนือเมฆไม่รอช้าเมื่อติดต่อเอมิกาได้เงินที่เธออยากได้เขาก็เตรียมพร้อมหมดแล้วขอแค่เขาได้จันทร์เจ้าคืนมาเงินเท่าไรเขาก็ยอมแลก
วันต่อมา
ช่วงเย็นของวัน
“อือ.อืมม...”
“ฟื้นแล้วเหรอ”
เหนือเมฆรีบเดินไปที่เตียงภรรยาของเขาเนื่องจากเห็นเธอฟื้นขึ้นมาแล้วตอนนี้ในอ้อมแขนของเขาอุ้มหนูน้อยจันทร์เจ้าที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมอก
“จันทร์เจ้า”
“พาขวัญสบถเสียงออกมาอย่างแผ่วเบาเพราะเธอยังสลึมสลืออยู่เธอดีใจที่จันทร์เจ้าปลอดภัย
“เราได้ลูกชายนะขวัญสมบูรณ์แข็งแรงดี”
เหนือเมฆใช้มืออีกข้างเลื่อนเตียงเล็กของลูกน้อยของเขามาตรงหน้าคนเป็นภรรยาพร้อมบอกกับเธอให้หายกังวลว่าลูกของเขาทั้งสองปลอดภัยดีให้เอได้สบายใจ
ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่เอมิกาโดนตำรวจวิสามัญเพราะหญิงสาวยิงต่อสู้ตำรวจเขายังไม่อยากบอกให้หญิงสาวได้รู้ตอนนี้เพราะกลัวว่าเธอจะจิตตกแค่ให้รู้ว่าจันทร์เจ้าปลอดภัยก็พอแล้ว
2 เดือนต่อมา
“น้อน...”
หนูน้อยจันทร์เจ้านอนกลิ้งเล่นอยู่ใกล้ๆคนเป็นแม่ที่กำลังให้นมน้องชายของเธออยู่ด้วยความที่ช่างพูดเลยชอบเรียกน้องของเธออยู่ตลอดเวลา
“น้องค่ะ...น้องชายของจันทร์เจ้าไงคะ...น้องเจ้านาย”
พาขวัญพยายามพูดคำว่าน้องชัดๆให้จันทร์เจ้าได้ฟังและหัดพูดตามอยู่บ่อยๆเพราะเธอปรึกษากับพี่หมอของเธอมาแล้วว่าเวลาลูกพูดผิดหรือยังพูดไม่ชัดควรพยายามพูดคำชัดๆและถูกต้องให้ลูกได้ยินยู่บ่อยๆ
“จ้าว...จ้าว...อิๆๆ”
หนูน้อยหัวเราะชอบใจที่ชื่อของเธอและน้องชายมีคำที่เหมือนกัน
“พี่จันทร์เจ้ากับน้องเจ้านาย”
พาขวัญใช้มือจับที่มือของจันทร์เจ้าเบาๆว่าเธอเป็นพี่ชื่อจันทร์เจ้าและจับที่ตัวของลูกชายของเธอว่าเป็นน้องชื่อเจ้านาย
“เจ้า...อายยย”
“55555”
เด็กหญิงพยายามพูดตามคนเป็นแม่โดยพยายามเพ่งมองที่ปากพร้อมพูดชื่อน้องชายของเธอออกมาแต่ก็ยังไม่ชัดอยู่ดีพาขวัญรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันก็คงเป็นไปตามพัฒนาการของเด็กเธอก็ต้องคอยสอนต่อไป
20.00 น.
“วันนี้เหนื่อยไหมคะ”
พาขวัญกล่อมลูกๆของเธอหลับกันหมดแล้วก็ไปเตรียมนมอุ่นๆมาให้คนเป็นสามีที่ห้องทำงานเธอเห็นเขายุ่งๆและช่วงนี้งานเยอะเลยอยากให้ชายหนุ่มดูแลสุขภาพบ้าง
“ก็นิดหน่อยนี่พี่ก็พึ่งรู้นะว่าคุณพ่อต้องแบกรับอะไรไว้เยอะขนาดนี้”
หลังจากที่เหนือเมฆเข้ามาบริหารงานเองทั้งหมดอย่างเต็มตัวเขาก็รู้สึกว่ามีเรื่องที่ให้ปวดหัวแทบทุกวันไม่รู้ว่าพ่อของเขาทำมาได้อย่างไรตั้งหลายปีเขาเองที่คิดว่าตัวเองเอาอยู่ยังต้องพึ่งลูกน้องของเขาให้ช่วยบ้างเลย
“ดื่มนมอุ่นๆก่อนค่ะ”
พาขวัญไม่อยากให้สามีของเธอเครียดจนเกินไปจึงให้เขานั้นละมือมาดื่มนมอุ่นๆผ่อนคลายเสียก่อน
“อืมม...แล้วขวัญล่ะเหนื่อยไหม”
เหนือเมฆไม่ลืมที่จะถามความรู้สึกของภรรยาเขาเพราะเลี้ยงลูกทั้งสองคนจันทร์เจ้าก็เริ่มจะจับตัวยากไหนจะลูกชายของเขาที่ท่าทางจะติดแม่ตลอดเวลาอีกด้วย
“ไม่เลยค่ะที่นี่มีคนช่วยเลี้ยงเด็กๆเยอะ”
พาขวัญไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเพราะที่บ้านนี้ก็มีคนช่วยเลี้ยงอยู่ด้วยไมว่าจะเป็นแม่บ้านหรือมแครัวเมื่องานต่างๆของพวกเค้าเรียบร้อยแล้วก็ยังมาช่วยเลี้ยงจันทร์เจ้ากัน
“งั้นเรามีอีกคนเลยดีไหม”
เหนือเมฆเห็นว่าหากภรรยาของเขายังไม่รู้สึกเหนื่อยก็เลยอยากจะมีเพิ่มอีกสักคนเพราะอายุของเขาก็ค่อนข้างเยอะแล้ว
“อะไรนะคะ...”
“อ้าวก็ขวัญบอกว่าไม่เหนื่อยพี่ก็จะมีลูกอีกคนจะได้เลี้ยงทีเดียวไปเลย”
“ให้จันทร์เจ้าเข้าโรงเรียนก่อนก็ได้ค่ะขวัญไม่รีบ”
พาขวัญไม่ได้เหนื่อยก็จริงแต่เธอก็ไม่ได้อยากดูแลลูกๆของเธอไม่ทั่วถึงแถมมีลูกคนนึงสิ่งที่ต้องห่วงก็ยังมีอีกหลายอย่างด้วยไมใช่แค่เลี้ยงให้โตไปวันๆเธอต้องเอาใจใส่ในอารมณ์และพัฒนาการของลูกแต่ละคนไหนจะสุขภาพมีหลายเรื่องอีกมากที่เธอต้องใส่ใจ
“ไม่เป็นไรพี่เอาที่ขวัญคิดว่าดีก็ได้”
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะ”
พาขวัญต้องขอบคุณชายหนุ่มที่เขาเข้าใจเธอเร่องทุกอย่างหลังๆมานี้เธอกับเขาจะเป็นคนช่วยกันตัดสินใจไม่เหมือนเมื่อก่อนที่สามีของเธอจะต้องชนะอยู่เสมอทุกวันนี้เธอกับเข้าจะก้าวไปพร้อมๆกันคอยซัพพอร์ตกันและกันไมมีใครเหนือกว่าใครชีวิตคู่แบบนี้เธอถึงมีความสุข
ลำปาง
16.00 น.
“แง้งงงง...แอ้...แง้งงงงง”
“พายทำไมกลับมาช้าจังลูกร้องอาละวาดใหญ่เลย”
“เดี๋ยวพายจะรีบกลับนะคะ”
ภูผาทำอะไรไม่ถูกในเมื่อเขาก็ทั้งโอ๋ทั้งป้อนนมลูกสาววัยสองเดือนของเขาแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลดีอีกทั้งลูกสาวของเขายังร้องไม่หยุดอีกด้วยจึงต้องโทรคามคนเป็นภรรยาให้รีบกลับมาที่บ้านอย่างรวดเร็ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“แอ้...แง้งง......”
“โอ๋ๆตะวันมาหาแม่นะคะ”
พระพายกลับบ้านมาก็รีบล้างไม้ล้างมือเช็ดเต้านมเพื่อให้ลูกสาวของเธอได้เข้าเต้าดื่มนม
“จะติดแม่เกินไปแล้วนะเราท่าทางจะไม่ยอมอยู่กับพ่อดีๆเลยใช่ไหม”
ภูผาถึงกับส่ายหัวพอลูกสาวของเขาเข้าเต้าคนเป็นแม่ได้เท่านั้นอาการเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทีเดียวลูกสาวของเขาพยศกับเขาเหมือนตอนที่หญิงสาวแพ้ท้องไม่มีผิด
21.00 น.
“หืมม”
//ยังไม่เลิกคิดถึงเค้าล่ะสิ//
ในระหว่างที่ภูผาเข้าไปอาบน้ำไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พระพายไปหยิบมือถือของชายหนุ่มเพราะเธอเห็นเขาวางไว้ที่เตียงเธอเลยจะหยิบมันเอาไปเก็บที่หัวเตียงแต่เมื่อมือไปสัมผัสเครื่องก็ทำงานเธอเห็นหน้าจอที่ชายหนุ่มเปิดค้างเอาไว้มันเป็นข่าวของแพทริเซียเธอไม่อยากอ่านว่ามันคือเรื่องอะไรเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบวางลงทันทีพร้อมมีอาการน้อยใจเล็กๆ
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
ภูผาออกจากห้องน้ำมาคิดว่าหญิงสาวจะหลับไปแล้วเสียอีก
พระพายมองค้อนให้ชาหนุ่มเล็กน้อยแล้วจึงหันหลังให้เขาพร้อมหลับตาลง
“อย่ามากอดอึดอัด”
ภูผาแต่งตัวเสร็จก็เข้ามานอนกอดหญิงสาวเฉกเช่นเดิมที่ทำเป็นประจำทุกวันแต่พระพายที่ยังไม่ได้หลับจรองเธอรีบปลีกตัวหนีจากชายหนุ่มทันที
//เป็นอะไรของเธออีกนะ//
ภูผาไม่ได้เอะอะอะไรกับการกระทำของหญิงสาวเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรเพราะเมื่อเย็นที่กลับมาก็ยังดีๆอยู่เลยเมื่อเธอไม่อยากให้เขาเข้าใกล้เขาก็ไม่เข้าใกล้เธอจะได้ไม่หงุดหงิดอีก
วันต่อมา“พี่ไปทำงานก่อนนะ”ได้เวลาที่ภูผาจะต้องไปทำงานแล้ววันนี้เขาไม่ยักจะเห็นหญิงสาวเดินมาส่งที่หน้าบ้านเขาจึงต้องเข้าไปบอกหญิงสาวเองว่าเขากำลังจะไปทำงานแล้ว“อืม...”พระพายตอบชายหนุ่มเพียงคำสั้นๆไม่มองเขาแม้แต่นิดเดียวเพราะกำลังให้นมลูกของเธออยู่“พ่อไปทำงานก่อนนะครับ”ภูผาไม่อยากจะหาเรื่องคุยกับหญิงสาวตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไรถึงได้มีท่าทีเฉยชาแต่ขอเขากลับจากทำงานก่อนค่อยคุยกันจะดีกว่าเขาก้มลงไปจูบหน้าผากของลูกสาวของเขาแล้วออกไปทำงานทันที//รู้บ้างไหมว่าโกรธอยู่เนี่ย//พระพายยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่ถามอะไรเธอบ้างว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไรก็ยิ่งหงุดหงิดแต่เมื่อมองหน้าลูกเธอก็ใจเย็นลงมากตอนนี้เธอขอสนใจแต่ลูกก่อนจะดีกว่ากลัวว่านึกถึงชายหนุ่มแล้วเธอจะพาลใจขุ่นมัวเย็นของวันภูผากลับบ้านมาได้พักใหญ่แล้วตอนนี้หญิงสาวก็เข้าครัวทำกับข้าวอยู่ส่วนลูกก็นอนเล่นอยู่ในเปลโดยมีเขาที่คอยอยู่ข้างๆชายหนุ่มนั่งคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตกว่าหญิงสาวนั้นเป็นอะไรกลับมาคิดว่าอาการจะดีขึ้นกลับเหมือนจะยิ่งกว่าเดิม“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”พระพายทำกับข้าวสองสามอย่างวางที่โต๊ะอาหารให้ชายหนุ่ม“พายเป็น
กรุงเทพมหานครบ้านอธิษฐ์เวหา22.00 น.“มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง”อิทธิวัฒน์ถึงกับล้มพับลงไปนั่งที่โซฟาเมื่อรู้ข่าวเรื่องลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้เกิดอุบัติเหตุขณะกำลังพากันกลับบ้านหลังจากที่เพียงฟ้าลูกสะใภ้ของเขานั้นกลับจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังคลอดได้เพียงสามวันเท่านั้นเขาเองก็ยังไม่ได้เห็นหน้าหลานเลยด้วยซ้ำยิ่งร้ายไปกว่านั้นหลานของเขายังหายไปโดยไร้น่องรอยอีกต่างหากเขาไม่รู้ว่าเรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องอุบัติเหตุจริงๆหรือใครทำให้มันเกิดขึ้นกันแน่นิกรเองได้รับข่าวนี้มาก็ร้อนใจอยู่ไม่น้อยตอนนี้เขาก็ได้สั่งการให้ลูกน้องของเขาสืบดูอีกทีว่าที่มาที่ไปของอุบัติเหตุครั้งนี้มันคืออะไรกันแน่เขาเองปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ต์ว่าอรรณพนั้นเป็นคนไม่ประมาทถ้าไม่มีใครจงใจให้เกิดมันคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่“แล้วตาเหนืออยู่ไหนไปตามกลับมาเดี๋ยวนี้เลย”อิทธิวัฒน์เห็นว่าป่านนี้ลูกชายคนเล็กของเขายังไม่เห็นจะโผล่หัวกลับมาที่บ้านเสียทีจึงสั่งให้นิกรไปตามกลับมาด่วนเพราะตอนนี้ยังไงเขาก็ยังอยากให้ลูกชายของเขามารับรู้ข่าวของคนในบ้านไม่ใช่เอาแต่หายหัวไปอยู่แต่ข้างนอก“ครับคุณท่าน”นิกรได้รับคำสั่งจากอิทธิ
ก็อกๆๆๆ“พาย...พาย...นี่ฉันขวัญเอง”พาขวัญเคาะประตูไม้หน้าบ้านของพระพายพร้อมเรียกเพื่อนเธออย่างร้อนใจเธอรู้ว่าแม่ของพระพายรับจ้างเลี้ยงเด็กยังไงที่นี่ก็ต้องมีนมสำหรับเด็กติดบ้านไว้บ้างแหละ“แม่...เสียงไอ้ขวัญ”พระพายลุกขึ้นพรวดเมื่อเธอรู้ว่าใครเรียกเธอ“เอ้าเหรอ...รีบลุกไปดูสิแล้วหนูขวัญมาทำไมดึกๆดื่นๆล่ะเนี่ย”มานีเองก็ลุกขึ้นเหมือนกันเพราะรู้ว่าต้องมีเรื่องด่วนแน่ไม่อย่างนั้นพาขวัญคงไม่มาบ้านเธอเวลานี้แน่เพราะที่นี่กลางคืนน่ากลัวแค่ไนใครๆก็รู้“จ๊ะแม่”พระพายรีบไปเปิดไฟและปิดประตูบ้านไปดูเพื่อนสาวเธอทันที“แง้ๆๆๆๆ....แง้ๆๆๆ....”“ขวัญ...ไปอุ้มเด็กที่ไหนมา”พระพายเปิดประตูมาเห็นเพื่อนเธออุ้มเด็กเล็กอยู่ในห่อผ้าก็ถึงกับหน้าเหวอนิดหน่อยแต่ก็รู้ว่าต้นเสียงที่เธอคิดว่าหูแว่วอยู่ที่ไหน“แกพอจะมีนมผงของเด็กไหม”เมื่อเพื่อนสาวเธอเปิดประตูมาได้พาขวัญก็รีบถามหานมผงของเด็กทันทีโดยที่ไม่ได้ใส่ใจจะตอบคำถามที่เพื่อนเธอถามเพราะเธอนั้นยังไม่มีเวลาที่จะอธิบาย“น่าจะมีอยู่เข้ามาข้างในก่อนเดี๋ยวถามแม่ให้”พระพายพอจะดูออกว่าเด็กที่ร้องแบบนี้น่าจะหิวเลยให้เพื่อนเธอเข้ามาในบ้านก่อนเพราะเดี๋ยวบ้านอื่นเขาจ
“ต่อไปนี้เด็กคนนี้จะเป็นลูกของหนูจะ”“ห้ะ....เอาอย่างนั้นเลยเเหรอ”มานีและพระพายถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อพาขวัญพูดออกมาเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเห็นว่าพาขวัญน่าจะตั้งใจจริง“ช่วงนี้หนูจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุด”พาขวัญตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุดงานอะไรเธอก็ทำทั้งนั้นขอให้ได้เงินมาเพราะเธอรู้ว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากยังไงเธอตั้งใจอะไรไว้แล้วเธอก็จะต้องทำให้สำเร็จ“ถ้าลำบากก็ให้น้าช่วยเลี้ยงก็ได้น้าไหวต้นกล้าเองก็ยังเล็กไม่ค่อยอ้อนอะไรมากนักน้าเลี้ยงเด็กอีกคนได้”มานีเห็นแล้วก็สุดสงสารเธอเองก็ไม่ได้มีมากนักสิ่งที่เธอพอจะช่วยได้ก็คือช่วงเลี้ยงหนูน้อยคนนี้ให้ได้ก็เท่านั้นเพราะเธอก็หาเช้ากินค่ำกับลูกสาวสองคนเหมือนกัน“ขอบใจจะน่านี”พาขวัญรีบยกมือไหว้ขอบใจมานีที่มีน้ำใจช่วยเธอทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้สบายอะไรมากนัก“แล้วแม่หนูน้อยคนนี้ชื่ออะไรเเหรอ”ไหนๆพระพายเห็นเพื่อนเธอรับเด็กคนนี้เป็นลูกแล้วเท่ากับว่าเด็กคนนี้ก็เป็นหลานเธอตอนนี้ก็เหลือแค่ชื่อที่เธอจะต้องมีเรียกเพราะเธอเห็นว่าก็คงจะต้องเรียกกันไปอีกนาน“อืม...ก็ไม่รู้เหมือนกัน...อืม...ชื่
“คงไม่มาถึงบ้านเรามั้งจ๊ะ...ขวัญคิดแบบนั้นนะ”พาขวัญคิดว่าบ้านของเธอค่อนข้างอยู่ลึกผู้คนก็ไม่ค่อยผ่านคงไม่มีใครสังเกต“น้าก็ขอให้เป็นอย่างนั้นแต่มีคนมาถามน้าเหมือนกันว่าลูกใครน้าก็บอกว่าลูกหนูขวัญก็ไม่มีใครสงสัยนะเพราะหนูขวัญเองก็พึ่งกลับมาจากภูเก็ต”มานีก็ภาวนาให้เป็นอย่างที่จันทร์เจ้าคิดแต่เธอเองก็ได้ลองบอกกับคนที่ถามเรื่องเด็กที่เธอรับจ้างเลี้ยงใหม่เหมือนกันว่าเป็นลูกใครเธอลองตอบว่าเป็นของพาขวัญก็ไม่มีใครสงสัยเพราะต่างคนก็รู้กันว่าพาขวัญไปทำงานที่ภูเก็ตพึ่งจะกลับมา“แล้วนี่พายยังไม่กลับเเหรอจ๊ะน้านี”พาขวัญเห็นว่านี่มันก็เย็นแล้วพระพายก็น่าจะกลับแล้วเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนเธอทำงานเป็นเวลาแต่ไม่เห็นจะอยู่บ้าน“เห็นว่ามันทำงานพิเศษช่วงกลางคืนล่ะมั้งทำได้สองสามวันแล้วนะ”“เเหรอจ๊ะ...”พาขวัญอยากรู้จริงๆว่างานที่พระพายทำพิเศษคืออะไรหากได้เงินดีเธอเองก็อยากจะไปทำบ้างเพราะตอนนี้หางานประจำยากเสียเหลือเกินกรุงเทพมหานคร“และเราก็กำจัดไปได้อีกหนึ่ง...หึ่...อย่าหวังว่าเงินร้อยล้านจะปลิวไปให้เด็กนั่นง่ายๆ”หลังจากที่เสร็จสิ้นงานศพของเพียงฟ้าและอรรณพไปแล้วแขไขก็ดีใจยิ่งนักที่แผนของเธอผ่านไปด้วยดี
“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ“เฮ้อ....”อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”แขไขยังยุย
“ฉันเข้าใจน่า”เหนือเมฆเข้าใจว่างานของเพื่อนเขามันต้องทุมเททั้งแรงกายแรงใจไม่ใช่น้อยเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องจะอยู่ต้อนรับหรือไม่ต้อนรับเสียนิดเดียว“เรื่องพี่ชายแกฉันเสียใจด้วยนะ...แล้วแกมาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยวะ”ภูผารู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนเขามาบ้างเลยถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจเสียหน่อยเขารู้ว่าเพื่อนเขามาที่นี่อย่างเร่งด่วนคงไม่พ้นมีเรื่องร้อนใจเป็นแน่“เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุพี่ชายฉันนี่แหละ”“ฉันก็พอรู้มาบ้างนี่ก็ยังตามไม่เจอหลานแกใช่ไหม”“อืมม...ฉันถึงมาที่นี่นี่ไง”ภูผารู้ข่าวคร่าวๆจากพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบ้างว่ามีเหตุทำให้คนเสียชีวิตถึงสองคนแถมเด็กที่พึ่งคลอดก็ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก2 ชั่วโมงต่อมา“ประเด็นที่แกคิดก็คือคิดว่าเรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงแกเป็นคนทำ”หลังจากที่ภูผานั่งคุยกับเหนือเมฆได้พักใหญ่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเหนือเมฆนั้นคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงของเขาเป็นแน่“ฉันคิดแบบนั้นแต่ขอหาหลักฐานก่อน”เหนือเมฆปักใจเชื่อแบบนั้นและขอหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนแล้วจะเอาผิดกับคนที่ทำผิดอีกทีอย่างสาสม“ถ้าแกคิดแบบนั้นแสดงว่าตัวแกเองก็จะไม่ปลอดภั
“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”ฟอดดด“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู