“ต่อไปนี้เด็กคนนี้จะเป็นลูกของหนูจะ”
“ห้ะ....เอาอย่างนั้นเลยเเหรอ”
มานีและพระพายถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อพาขวัญพูดออกมาเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเห็นว่าพาขวัญน่าจะตั้งใจจริง
“ช่วงนี้หนูจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุด”
พาขวัญตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุดงานอะไรเธอก็ทำทั้งนั้นขอให้ได้เงินมาเพราะเธอรู้ว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากยังไงเธอตั้งใจอะไรไว้แล้วเธอก็จะต้องทำให้สำเร็จ
“ถ้าลำบากก็ให้น้าช่วยเลี้ยงก็ได้น้าไหวต้นกล้าเองก็ยังเล็กไม่ค่อยอ้อนอะไรมากนักน้าเลี้ยงเด็กอีกคนได้”
มานีเห็นแล้วก็สุดสงสารเธอเองก็ไม่ได้มีมากนักสิ่งที่เธอพอจะช่วยได้ก็คือช่วงเลี้ยงหนูน้อยคนนี้ให้ได้ก็เท่านั้นเพราะเธอก็หาเช้ากินค่ำกับลูกสาวสองคนเหมือนกัน
“ขอบใจจะน่านี”
พาขวัญรีบยกมือไหว้ขอบใจมานีที่มีน้ำใจช่วยเธอทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้สบายอะไรมากนัก
“แล้วแม่หนูน้อยคนนี้ชื่ออะไรเเหรอ”
ไหนๆพระพายเห็นเพื่อนเธอรับเด็กคนนี้เป็นลูกแล้วเท่ากับว่าเด็กคนนี้ก็เป็นหลานเธอตอนนี้ก็เหลือแค่ชื่อที่เธอจะต้องมีเรียกเพราะเธอเห็นว่าก็คงจะต้องเรียกกันไปอีกนาน
“อืม...ก็ไม่รู้เหมือนกัน...อืม...ชื่อจันทร์เจ้าดีไหมฉันเจอในคืนจันทร์เต็มดวงพอดี”
พาขวัญเองก็ยังไม่ทันได้คิดเพียงฟ้าก็ไม่ได้บอกอะไรกับเธอด้วยเมื่อเธอมองไปลอดหน้าต่างเห็นดวงจันทร์กลมโตสดใสจึงตั้งชื่อให้เป็นดวงจันทร์เพราะเข้ากับชื่อแม่ของหนูน้อยเองที่ชื่อเพียงฟ้าเพราะเห็นว่าท้องฟ้ากับดวงจันทร์ในคืนนี้มันสวยงามในสายตาเธอจริงๆ
“น่ารักดีนะเอาชื่อนี้แหละ”
พระพายเห็นด้วยกับชื่อที่เพื่อนเธอที่ตั้งให้หนูน้อยคนนี้เช่นกัน
3 วันต่อมา
18.00 น.
บ้านอธิษฐ์เวหา
วันนี้ทุกคนใส่ชุดดำกันทั้งบ้านเพราะหมอยื้อชีวิตของอรรณพและเพียงฟ้าไว้ไม่ได้ทำให้คนในครอบครัวตอนนี้โศกเศร้ากันไปตามๆกัน
“แกจะไปที่วัดเลยไหม”
อิทธิวัฒน์เดินลงมาจากชั้นบนพร้อมแขไขด้วยชุดสีดำเพราะกำลังจะไปที่วัดเพื่อฟังสวดศพลูกชายกับลูกสะใภ้ในคืนสุดท้าย
“ยังครับ...คุณพ่อไปก่อนเลยเดี๋ยวผมตามไป”
เหนือเมฆไม่อยากจะไปพร้อมพ่อของขาเพราะไม่อยากนั่งรถคันเดียวกับแม่เลี้ยงจอมเสแสร้งที่หน้าของเธอเขาเองก็ยังไม่อยากจะมองนับประสาอะไรกับให้อยู่ใกล้ๆที่เขาเกลียดเธอก็เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาในชีวิตพ่อของเขาก็ทำให้ครอบครัวปั่นป่วนไปหมด
“นี่ถ้าเพียงฟ้าไม่รั้นจะไปคลอดที่ลำปางอยากอยู่กับธรรมชาติคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ”
แขไขแสร้งทำท่าร้องให้สะอื้นพร้อมพูดในเชิงตัดพ้อถึงเรื่องที่เพียงฟ้าต้องการที่จะไปคลอดลูกที่ลำปางทั้งที่คลอดที่กรุงเทพจะมีคนดูแลเยอะกว่า
“ใครกันแน่ที่ยุให้ไปที่นั่น”
เหนือเมฆรู้จักนิสัยพี่สะใภ้ของเขาดีเพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนเพียงฟ้าเป็นคนหัวอ่อนถ้าหากแขไขสั่งไม่ให้ไปมีหือเพียงฟ้าจะไปเขาได้ยินมากับหูว่าแขไขเป็นคนบอกกับเพียงฟ้าเองว่าไปคลอดที่ต่างจังหวัดและอยู่ที่นั่นมลพิษมันจะน้อยกว่าในกรุงเทพทำให้เพียงฟ้าตัดสินใจไปคลอดลูกที่บ้านเกิดแล้วก็มาเกิดเร่องแบบนี้ขึ้น
“หยุดซะทีเถอะตาเหนือ...ฉันไปก่อนแกยังไม่ไปก็ค่อยตามไปก็แล้วกัน”
อิทธิวัฒน์เห็นลูกชายของเขาพาลคนอื่นไปทั่วก็ต้องปรามกันอีกครั้งเพราะเขาไม่อยากให้เรื่องอะไรมันรบกวนหัวใจของเขามากไปกว่านี้เขาเสียทั้งลูกชายคนโตและลูกสะใภ้แถมหลานที่ตั้งหน้าตั้งตารอก็ยังหาไม่พบตอนนี้เขาค่อนข้างเครียดอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าหลานของเขานั้นจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง
ลำปาง
สองสามวันแล้วที่พาขวัญพยายามหางานทำแต่ก็ไม่ได้งานเสียทีเงินที่เธอเก็บเอาไว้ก็ใช้ซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กอ่อนมาก็เกือบหมดตอนนี้เธอเองก็ค่อนข้างกังวลอยู่มากแต่ก็ไม่ได้แสดงออกให้ใครได้รู้
“วันนี้จันทร์เจ้างอแงไหมจ๊ะน้านี”
พาขวัญกลับมาจากการหางานก็มาที่บ้านของมานีเพื่อมาหาจันทร์เจ้าทันทีเธอจะเอาจันทร์เจ้ามาฝากในช่วงเช้าเพราะเธอต้องออกไปสมัครงาน
“ไม่เลยเลี้ยงง่ายมากๆดื่มนมแล้วก็นอน...กินเก่งน่าดู”
“เเหรอจ๊ะ...”
พาขวัญดีใจที่จันทร์เจ้าเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่ค่อยงอแงเหมือนตอนที่เจอเธอทีแรก
“แล้วหนูขวัญได้งานหรือยังล่ะ”
“อืมม....ยังเลยจะน้านี”
“ค่อยๆหาไปเดี๋ยวก็ได้ส่วนจันทร์เจ้าก็เอามาฝากน้าเลี้ยงได้ทุกวันเลยนะน้ายินดี”
มานีเห็นจันทร์เจ้าพูดเรื่องที่ยังไม่ได้งานก็หาคำปลอบให้เธอได้สบายใจขึ้นส่วนเรื่องจันทร์เจ้าเธอก็ยังอาสาดูแลต่อให้ได้เพราะเธอก็ไม่ได้ลำบากอะไร
“ถ้าขวัญได้งานทำแล้วขวัญจะเอาเงินมาจ่ายค่าเลี้ยงให้นะจ๊ะ”
พาขวัญคิดว่ายังไงเธอก็ต้องให้เงินค่าตอบแทนที่มานีเลี้ยงจันทร์เจ้าอยู่แล้วเธอไม่เอาเปรียบคนทำมาหากินและช่วยเหลือเธอหรอกเพียงแค่รอให้ได้งานได้เงินเท่านั้น
“น้าบอกแล้วไงว่าน้ายินดี...แล้วนี่แน่ใจนะว่าไม่มีใครรู้ว่าเราเอาเด็กมาเพราะน้าได้ยินคนในหมู่บ้านบอกว่าตำรวจสอบถามไปทั่วว่ามีใครเห็นเด็กบ้างหรือเปล่า”
มานีไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องค่าเลี้ยงเลยแต่ที่เธอห่วงอยู่ตอนนี้ก็คือเธอกลัวว่าใครจะรู้ว่าจันทร์เจ้าเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาจากอุบัติเหตุที่ตำรวจกำลังสืบกันอยู่ในตอนนี้
“คงไม่มาถึงบ้านเรามั้งจ๊ะ...ขวัญคิดแบบนั้นนะ”พาขวัญคิดว่าบ้านของเธอค่อนข้างอยู่ลึกผู้คนก็ไม่ค่อยผ่านคงไม่มีใครสังเกต“น้าก็ขอให้เป็นอย่างนั้นแต่มีคนมาถามน้าเหมือนกันว่าลูกใครน้าก็บอกว่าลูกหนูขวัญก็ไม่มีใครสงสัยนะเพราะหนูขวัญเองก็พึ่งกลับมาจากภูเก็ต”มานีก็ภาวนาให้เป็นอย่างที่จันทร์เจ้าคิดแต่เธอเองก็ได้ลองบอกกับคนที่ถามเรื่องเด็กที่เธอรับจ้างเลี้ยงใหม่เหมือนกันว่าเป็นลูกใครเธอลองตอบว่าเป็นของพาขวัญก็ไม่มีใครสงสัยเพราะต่างคนก็รู้กันว่าพาขวัญไปทำงานที่ภูเก็ตพึ่งจะกลับมา“แล้วนี่พายยังไม่กลับเเหรอจ๊ะน้านี”พาขวัญเห็นว่านี่มันก็เย็นแล้วพระพายก็น่าจะกลับแล้วเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนเธอทำงานเป็นเวลาแต่ไม่เห็นจะอยู่บ้าน“เห็นว่ามันทำงานพิเศษช่วงกลางคืนล่ะมั้งทำได้สองสามวันแล้วนะ”“เเหรอจ๊ะ...”พาขวัญอยากรู้จริงๆว่างานที่พระพายทำพิเศษคืออะไรหากได้เงินดีเธอเองก็อยากจะไปทำบ้างเพราะตอนนี้หางานประจำยากเสียเหลือเกินกรุงเทพมหานคร“และเราก็กำจัดไปได้อีกหนึ่ง...หึ่...อย่าหวังว่าเงินร้อยล้านจะปลิวไปให้เด็กนั่นง่ายๆ”หลังจากที่เสร็จสิ้นงานศพของเพียงฟ้าและอรรณพไปแล้วแขไขก็ดีใจยิ่งนักที่แผนของเธอผ่านไปด้วยดี
“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ“เฮ้อ....”อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”แขไขยังยุย
“ฉันเข้าใจน่า”เหนือเมฆเข้าใจว่างานของเพื่อนเขามันต้องทุมเททั้งแรงกายแรงใจไม่ใช่น้อยเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องจะอยู่ต้อนรับหรือไม่ต้อนรับเสียนิดเดียว“เรื่องพี่ชายแกฉันเสียใจด้วยนะ...แล้วแกมาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยวะ”ภูผารู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนเขามาบ้างเลยถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจเสียหน่อยเขารู้ว่าเพื่อนเขามาที่นี่อย่างเร่งด่วนคงไม่พ้นมีเรื่องร้อนใจเป็นแน่“เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุพี่ชายฉันนี่แหละ”“ฉันก็พอรู้มาบ้างนี่ก็ยังตามไม่เจอหลานแกใช่ไหม”“อืมม...ฉันถึงมาที่นี่นี่ไง”ภูผารู้ข่าวคร่าวๆจากพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบ้างว่ามีเหตุทำให้คนเสียชีวิตถึงสองคนแถมเด็กที่พึ่งคลอดก็ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก2 ชั่วโมงต่อมา“ประเด็นที่แกคิดก็คือคิดว่าเรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงแกเป็นคนทำ”หลังจากที่ภูผานั่งคุยกับเหนือเมฆได้พักใหญ่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเหนือเมฆนั้นคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงของเขาเป็นแน่“ฉันคิดแบบนั้นแต่ขอหาหลักฐานก่อน”เหนือเมฆปักใจเชื่อแบบนั้นและขอหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนแล้วจะเอาผิดกับคนที่ทำผิดอีกทีอย่างสาสม“ถ้าแกคิดแบบนั้นแสดงว่าตัวแกเองก็จะไม่ปลอดภั
“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”ฟอดดด“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู
2 ชั่วโมงต่อมา“เดินหลายรอบเลยวันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยไหวไหมแก”พระพายเห็นเพื่อนของเธอปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีกเดินเสริฟอาหารกับพวกแอลกอฮอล์ขาเป็นระวิงจึงเข้าไปถามเพื่อนเธอตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง“โอเคฉันไหว”พาขวัญมีรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่ทิปที่ได้จากพวกลูกค้าก็ไม่น้อยเธอเลยมีกำลังใจที่จะทำงานต่ออย่างไม่ลดละ“เดย์...ฉันต้องการคนนั้นนายไปติดต่อให้ฉันที”เหนือเมฆนั่งดื่มที่ผับนี้อยู่นานสองนานแล้วที่โซนวีไอพีด้านบนสายตาเขาดันไปต้องกับเด็กเสริฟที่กำลังเดินเสริฟอาการอยู่ด้านล่างเขามองเธอคนนั้นไม่ละสายตาผิวของเธอขาวจนเด่นสะดุดตาหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มนั่นอีกที่มันทำให้เขามองเธอแล้วละสายตาไปไหนไม่ได้เขาพอจะรู้มาว่าที่นี่ก็มีบริการเรื่องที่เขาต้องการอยู่เหมือนกันเลยสั่งให้นภัสจัดการเรื่องที่เคยๆให้เขาด่วนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มดื่มจนได้ที่แล้วเหมือนกัน“ครับคุณเหนือ”นภัสรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายของเขาจะต้องมีเรื่องแบบนี้ให้เขาจัดการอยู่แล้วเป็นประจำเขาจึงรีบไปจัดการทำตามความต้องการของคนเป็นนายทันที10 นาทีต่อมา“ว่าไงให้ฉันไปรอที่รถเลยไหม”เหนือเมฆเห็นนภัสเดินมาก็คิดว่าลูกน้องของเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้
“หึ่...ผู้จัดการเธอบอกอย่างนั้นเหรอ”ฟังจากคำพูดของหญิงสาวแล้วเหนือเมฆก็พอจะเดาออกว่าไอ้อาการกล้าๆกลัวๆเขาที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้ก็คงเพราะโดนผู้จัดการร้านหน้าเงินหลอกมาเป็นแน่แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขายังไงเขาก็ได้จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องได้สิ่งที่เขาสมควรจะได้“ค่ะ...”“แล้วเธอก็เชื่อ”เหนือเมฆเหล่สายตาถามหญิงสาวอย่างสงสัยว่าเธอซื่อจริงๆหรือแค่ตบตาเขาเล่นกันแน่“.......”พาขวัญหยักหน้าหงึกหงักยืนยันว่าผู้จัดการที่ร้านบอกเธอมาแบบนั้นจริงๆ“ทำงานที่นี่มานานแล้วหรือยัง”เหนือเมฆอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวมาทำงานที่นี่นานแล้วหรือยังถึงดูรู้ไม่เท่าทันคนเท่าไรคนที่ร้านสั่งให้ไปไหนก็ไปทั้งที่ร้านแบบนี้มันต้องมีบริการเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว“มาวันนี้วันแรกค่ะ”พาขวัญตอบคำถามชายหนุ่มตามที่เขาถามเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะซักประวัติอะไรของเธอนักหนาไม่ยอมปล่อยตัวของเธอกลับเสียที“อืม...แล้วทำไมถึงเลือกทำงานที่นี่”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าเธอทำไมถึงเลือกที่จะทำงานในสถานที่ที่มันเสี่ยงต่อคนหัวอ่อนแบบนี้“คือ...ฉันแค่ไม่มีงานทำเลยทำงานนี้เพื่อหารายได้ไปก่อนค่ะฉันต้องหาเงินซื้อนมให้ลูก”
“จะอายอะไรนักหนาตัวเธอก็สวยไปซะทุกส่วนน่าโชว์จะตายไป”เมื่อไม่มีสิ่งอื่นมาปกป้องร่างกายของหญิงสาวชายหนุ่มก็ใช้สายตาไล่มองความงามของร่างกายของเธออย่างไม่ละสายตาเขาไม่คิดว่าร่างกายของคนที่เคยมีลูกมาแล้วจะเต่งตึงเนียนเรียบไปเสียทุกส่วนแบบนี้ยิ่งมองหน้าท้องที่แบนราบเอวเอสกับสองสิ่งที่กลมกลึงล้นจนมือปิดไม่มิดของเธอมันยิ่งทำให้เขาอยากจะสัมผัสเธอมากขึ้น“คือ...ฉันอาบเองได้ค่ะ”พาขวัญหน้าชาแล้วชาอีกไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธอมากขนาดนี้ยิ่งคิดยิ่งละอายแก่ใจที่เธอจะต้องมาเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ผู้ชายที่อยากได้แค่ร่างกายของเธอ“ฮื้มม...เธออาบไปก่อนเลยแล้วกันเร็วๆด้วยล่ะ”เหนือเมฆเห็นว่าหากหญิงสาวยังมีอาการแบบนี้อยู่เขาจะต้องปล่อยให้เธอจัดการธุระคนเดียวไปก่อนไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้อาบน้ำกันพอดีเขาจึงเดินออกจากห้องน้ำไปและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว50 นาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วค่ะ”พาขวัญใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำร่วมชั่วโมงเธอออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนจิ๋วที่ปิดร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธออย่างหมิ่นเหม่ตาของเธอบวมแดงเล็กน้อยเพราะผ่านการร้องให้มาทั้งที่เธอพยายามจะทำตัวเข้มแข
“โถ่...โว้ยยก็ได้วะ”เหนือเมฆจำต้องทำตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาขี้เกียจฟังคำพูดอะไรของหญิงสาวอีกแล้วถ้าทำตามที่เธอขอแล้วเธอยังไม่ยอมอีกล่ะก็เขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับแล้วหละ“อื้อ...อื้มมม”พาขวัญรู้สึกแปลกๆเมื่อมีอะไรนุ่มนิ่มเลื้อยไหลอยู่บนเรือนร่างของเธออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมันก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องร้องออกมาจากลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกที่พึ่งเคยได้สัมผัส“ตัวเธอนี่ทั้งนิ่มทั้งเด้งจริงๆเลยแฮะ”เหนือเมฆพรมจูบไปทั่วร่างกายของหญิงสาวขบเม้มไปเสียทุกส่วนเขาชอบเนื้อตัวของเธอทั้งหมดทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอพึ่งจะอาบน้ำมาอีกน้ำหอมยี่ห้อไหนก็แพ้กลิ่นของเธอตอนนี้อยู่ดี“อื้อ...ค...คุณ...อื้มมม”พาขวัญเริ่มรู้สึกเครียดเกร็งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็ใช้ทังสองมือแร่งของเขาบีบเค้นสิ่งที่อวบตูมของเธอเล่นอย่างมันมือพร้อมทั้งประกบจูบดูดคลึงริมฝีปากของเธอเล่นอย่างสบายอารมณ์แถมลมหายใจของเขาก็ยังพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆต่างจากเธอตอนนี้ที่แทบจะหยุดหายใจ“อยู่เฉยๆ”ชายหนุ่มค่อยๆแรกตัวมาตรงกลางระหว่างตัวขงหญิงสาวพร้อมหยิบสิ่งที่ป้องกันใส่อย่างชำนาญแม้ในความมืดพร้อมทั้งสั่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ไม