“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”
พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม
“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”
ฟอดดด
“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”
พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด
“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”
พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว
“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”
พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย
“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย”
พระพายก็ไม่เข้าใจความคิดของพวกคนรวยๆแบบนั้นเหมือนกันเธอเห็นสงสารก็แต่เด็กน้อยตาดำๆที่พึ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานพ่อกับแม่ก็ต้องมาเสียอีก
“เค้าคือลูกฉัน...ฉันจะดูแลให้ดีที่สุด”
พาขวัญคิดว่าไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะดูแลจันทร์เจ้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อืมม...แกอยากดูครอบครัวพ่อของจันทร์เจ้าไหม”
“มีรูปด้วยเเหรอ”
“ใช่...นี่คนนี้คุณไนล์พ่อของจันทร์เจ้าเป็นสามีพี่ฟ้าส่วนคนนี้คุณเหนือน้องชายคุณไนล์ยังไม่มีครอบครัวบ้านนี้เค้ามีลูกชายสองคนส่วนผู้หญิงสองคนนี้เห็นว่าเป็นภรรยาใหม่กับลูกติดของปู่จันทร์เจ้า”
พาขวัญป้อนนมจันทร์เจ้าไปด้วยตาก็เหลือบดูมือถือที่พระพายส่งให้ดูแต่เธอเองก็มองไม่ชัดเท่าไร
“ฉันอยากจะรู้จังว่าใครเป็นคนใจร้ายที่ต้องการทำลายพี่ฟ้ากับสามีและก็ลูกของเธอ”
ถ้าเป็นไปตามข่าวตามที่เพื่อนเธอเล่ามาว่าบ้านนี้เขารักกันดีทำไมสิ่งที่เธอดูออกมันช่างสวนทางกันเหลือเกินก็อย่างว่าคนเรามันไว้ใจใครง่ายๆไม่ได้
“ถ้าคิดตามในละครก็คงจะเป็นคนที่ต้องได้รับผลประโยชน์มากที่สุดเมื่อคุณอรรณพเสียชีวิต”
พระพายเองก็คิดในแบบละครที่เธอเคยดูจากข้อสันนิษฐานตามแบบละครมันก็น่าจะเป็นแบบที่เธอพูด
“น้องชายเค้าเหรอ”
พาขวัญคิดตามที่เพื่อนเธอพูดหากพี่ชายตายไปแล้วคนที่รับประโยชน์ก็น่าจะเป็นน้องชายเท่าที่เธอคิดได้
“ก็ไม่แน่ใจนะ...แต่ฉันเห็นในข่าวที่อ่านมาเยอะๆสองพี่น้องคู่นี้เค้ารักกันมากนะแก”
พระพายก็ยังมีข้อแย้งกับความคิดครั้งนี้ของเพื่อนเธอเพราะว่าเธออ่านมาเยอะกับข่าวครอบครัวนี้เธอคิดว่าสองพี่น้องคู่นี้น่าจะรักกันเกินกว่าจะทำร้ายกันลงเพราะเรื่องสมบัติได้
“อืมม...ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว”
พาขวัญถึงกับส่ายหัวไม่อยากคิดเรื่องนี้ต่อตอนนี้เธอเอาเวลามาดูแลจันทร์เจ้าและคิดเรื่องงานเรื่องเงินในการใช้ชีวิตของเธอแต่ละวันจะดีกว่า
กรุงเทพมหานคร
“ไงล่ะแล้วมานั่งหน้ามุ่ย...ฉันช่วยแกสุดฤทธิ์แล้วนะ”
แขไขไม่เข้าใจลูกสาวเธอเลยจริงๆในเมื่อผู้ชายเค้าทำท่ารังเกียจขนาดนั้นยังจะมั่นใจอยู่ได้ว่าจะเอาอีกฝ่ายอยู่
“ไว้เอมจะทำให้คุณเหนือหลงหัวปักหัวปำเลยคอยดู”
เอมิกาช้ำใจเรื่องที่เหนือเมฆปฏิเสธก็พอทนแล้วยังจะมาเจอแม่ของเธอซ้ำเติมอีกเธอจึงหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“แกจำไว้นะฉันให้เวลาแกแค่หกเดือนเท่านั้นถ้าไม่สำเร็จว่าที่ผัวแกเป็นศพแน่”
แขไขอยากจะกำจัดเหนือเมฆไปให้สิ้นซากเพราะเกลียดในความหยิ่งจองหองของอีกฝ่ายแต่เป็นเพราะว่าลูกสาวเธออยากจะได้ผู้ชายคนนี้จนตัวสั่นเธอจึงต้องพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
ผับในตัวเมือง
18.00 น.
“เข้าไปเถอะแกเดี๋ยวต้องไปคุยกับผู้จัดการก่อน”
“อืมม...”
สองสาวพระพายและพาขวัญมาถึงหน้าผับในตัวเมืองก็รีบเข้าไปในร้านเพื่อที่จะไปคุยกับผู้จัดการร้านก่อนจะทำงานทันที
“สวัสดีค่ะพี่หนูนกนี่เพื่อนที่พายบอกว่าจะเอามาทำงานด้วย”
พระพายเดินเข้าห้องของหนูนกผู้จัดการร้านพร้อมนะนำเพื่อนสาวของเธอให้อีกฝ่ายรู้จัก
“หน้าตาดีนี่นา...แน่ใจว่าจะทำงานแค่เสริฟนะ”
หนูนกเห็นพาขวัญก็รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าสวยเกินไปกว่าที่จะทำแค่เด็กเสริฟหากมาทำงานในร้านนี้เธอคิดว่าหากหญิงสาวรับงานอย่างอื่นผับของเธอคงเรียกลูกค้าได้ไม่น้อย
“ค่ะเพื่อนหนูไม่รับแขกค่าพี่หนูนกแค่จะมาหาเงินค่านมลูกเท่านั้นค่ะ”
พระพายถึงกับอยากจะมองบนเธอเข้ามาที่นี่ครั้งแรกก็ต้องเจอคำถามแบบนี้เหมือนกันแต่เธอเองก็ยังยืนยันว่าจะทำงานแค่เป็นเด็กเสริฟจริงๆหนูนกจึงเลิกคะยั้นคะยอเธอพร้อมพูดให้หนูนกได้ยินชัดว่าที่เพื่อนเธอมาทำงานที่นี่เพราะอยากมาหาค่านมให้ลูกหนูนกจะได้ไม่คะยั้นคะยอเอาคนที่มีลูกแล้วไปเสริฟให้แขกบ้าตัณหาพวกนั้นเพราะพวกนั้นชอบสดๆซิงๆ
“อืมๆ...เรื่องงานก็ให้พายมันสอนก็แล้วกันนะ”
พอหนูนกได้ยินว่าหญิงสาวมีลูกเธอก็ไม่อยากจะคะยั้นคะยออะไรมากเพราะแขกที่ร้านก็ไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่ผ่านการมีลูกมาแล้วเท่าไร
“ค่ะพี่หนูนก”
พระพายรีบพาเพื่อนสาวของเธอไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุดแล้วเริ่มรอทำงานทันที
2 ชั่วโมงต่อมา“เดินหลายรอบเลยวันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยไหวไหมแก”พระพายเห็นเพื่อนของเธอปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีกเดินเสริฟอาหารกับพวกแอลกอฮอล์ขาเป็นระวิงจึงเข้าไปถามเพื่อนเธอตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง“โอเคฉันไหว”พาขวัญมีรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่ทิปที่ได้จากพวกลูกค้าก็ไม่น้อยเธอเลยมีกำลังใจที่จะทำงานต่ออย่างไม่ลดละ“เดย์...ฉันต้องการคนนั้นนายไปติดต่อให้ฉันที”เหนือเมฆนั่งดื่มที่ผับนี้อยู่นานสองนานแล้วที่โซนวีไอพีด้านบนสายตาเขาดันไปต้องกับเด็กเสริฟที่กำลังเดินเสริฟอาการอยู่ด้านล่างเขามองเธอคนนั้นไม่ละสายตาผิวของเธอขาวจนเด่นสะดุดตาหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มนั่นอีกที่มันทำให้เขามองเธอแล้วละสายตาไปไหนไม่ได้เขาพอจะรู้มาว่าที่นี่ก็มีบริการเรื่องที่เขาต้องการอยู่เหมือนกันเลยสั่งให้นภัสจัดการเรื่องที่เคยๆให้เขาด่วนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มดื่มจนได้ที่แล้วเหมือนกัน“ครับคุณเหนือ”นภัสรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายของเขาจะต้องมีเรื่องแบบนี้ให้เขาจัดการอยู่แล้วเป็นประจำเขาจึงรีบไปจัดการทำตามความต้องการของคนเป็นนายทันที10 นาทีต่อมา“ว่าไงให้ฉันไปรอที่รถเลยไหม”เหนือเมฆเห็นนภัสเดินมาก็คิดว่าลูกน้องของเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้
“หึ่...ผู้จัดการเธอบอกอย่างนั้นเหรอ”ฟังจากคำพูดของหญิงสาวแล้วเหนือเมฆก็พอจะเดาออกว่าไอ้อาการกล้าๆกลัวๆเขาที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้ก็คงเพราะโดนผู้จัดการร้านหน้าเงินหลอกมาเป็นแน่แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขายังไงเขาก็ได้จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องได้สิ่งที่เขาสมควรจะได้“ค่ะ...”“แล้วเธอก็เชื่อ”เหนือเมฆเหล่สายตาถามหญิงสาวอย่างสงสัยว่าเธอซื่อจริงๆหรือแค่ตบตาเขาเล่นกันแน่“.......”พาขวัญหยักหน้าหงึกหงักยืนยันว่าผู้จัดการที่ร้านบอกเธอมาแบบนั้นจริงๆ“ทำงานที่นี่มานานแล้วหรือยัง”เหนือเมฆอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวมาทำงานที่นี่นานแล้วหรือยังถึงดูรู้ไม่เท่าทันคนเท่าไรคนที่ร้านสั่งให้ไปไหนก็ไปทั้งที่ร้านแบบนี้มันต้องมีบริการเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว“มาวันนี้วันแรกค่ะ”พาขวัญตอบคำถามชายหนุ่มตามที่เขาถามเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะซักประวัติอะไรของเธอนักหนาไม่ยอมปล่อยตัวของเธอกลับเสียที“อืม...แล้วทำไมถึงเลือกทำงานที่นี่”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าเธอทำไมถึงเลือกที่จะทำงานในสถานที่ที่มันเสี่ยงต่อคนหัวอ่อนแบบนี้“คือ...ฉันแค่ไม่มีงานทำเลยทำงานนี้เพื่อหารายได้ไปก่อนค่ะฉันต้องหาเงินซื้อนมให้ลูก”
“จะอายอะไรนักหนาตัวเธอก็สวยไปซะทุกส่วนน่าโชว์จะตายไป”เมื่อไม่มีสิ่งอื่นมาปกป้องร่างกายของหญิงสาวชายหนุ่มก็ใช้สายตาไล่มองความงามของร่างกายของเธออย่างไม่ละสายตาเขาไม่คิดว่าร่างกายของคนที่เคยมีลูกมาแล้วจะเต่งตึงเนียนเรียบไปเสียทุกส่วนแบบนี้ยิ่งมองหน้าท้องที่แบนราบเอวเอสกับสองสิ่งที่กลมกลึงล้นจนมือปิดไม่มิดของเธอมันยิ่งทำให้เขาอยากจะสัมผัสเธอมากขึ้น“คือ...ฉันอาบเองได้ค่ะ”พาขวัญหน้าชาแล้วชาอีกไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธอมากขนาดนี้ยิ่งคิดยิ่งละอายแก่ใจที่เธอจะต้องมาเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ผู้ชายที่อยากได้แค่ร่างกายของเธอ“ฮื้มม...เธออาบไปก่อนเลยแล้วกันเร็วๆด้วยล่ะ”เหนือเมฆเห็นว่าหากหญิงสาวยังมีอาการแบบนี้อยู่เขาจะต้องปล่อยให้เธอจัดการธุระคนเดียวไปก่อนไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้อาบน้ำกันพอดีเขาจึงเดินออกจากห้องน้ำไปและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว50 นาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วค่ะ”พาขวัญใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำร่วมชั่วโมงเธอออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนจิ๋วที่ปิดร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธออย่างหมิ่นเหม่ตาของเธอบวมแดงเล็กน้อยเพราะผ่านการร้องให้มาทั้งที่เธอพยายามจะทำตัวเข้มแข
“โถ่...โว้ยยก็ได้วะ”เหนือเมฆจำต้องทำตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาขี้เกียจฟังคำพูดอะไรของหญิงสาวอีกแล้วถ้าทำตามที่เธอขอแล้วเธอยังไม่ยอมอีกล่ะก็เขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับแล้วหละ“อื้อ...อื้มมม”พาขวัญรู้สึกแปลกๆเมื่อมีอะไรนุ่มนิ่มเลื้อยไหลอยู่บนเรือนร่างของเธออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมันก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องร้องออกมาจากลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกที่พึ่งเคยได้สัมผัส“ตัวเธอนี่ทั้งนิ่มทั้งเด้งจริงๆเลยแฮะ”เหนือเมฆพรมจูบไปทั่วร่างกายของหญิงสาวขบเม้มไปเสียทุกส่วนเขาชอบเนื้อตัวของเธอทั้งหมดทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอพึ่งจะอาบน้ำมาอีกน้ำหอมยี่ห้อไหนก็แพ้กลิ่นของเธอตอนนี้อยู่ดี“อื้อ...ค...คุณ...อื้มมม”พาขวัญเริ่มรู้สึกเครียดเกร็งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็ใช้ทังสองมือแร่งของเขาบีบเค้นสิ่งที่อวบตูมของเธอเล่นอย่างมันมือพร้อมทั้งประกบจูบดูดคลึงริมฝีปากของเธอเล่นอย่างสบายอารมณ์แถมลมหายใจของเขาก็ยังพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆต่างจากเธอตอนนี้ที่แทบจะหยุดหายใจ“อยู่เฉยๆ”ชายหนุ่มค่อยๆแรกตัวมาตรงกลางระหว่างตัวขงหญิงสาวพร้อมหยิบสิ่งที่ป้องกันใส่อย่างชำนาญแม้ในความมืดพร้อมทั้งสั่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ไม
“ขวัญ”พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มี
12.00 น.“ขวัญ...ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว”“อือ...อืมม”พระพายปล่อยให้เพื่อนสาวเธอนอนจนถึงเที่ยงเมื่อเห็นเพื่อนเธอยังไม่ตื่นเสียทีก็ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาเสียก่อน“อะนี่กระเป๋ากับมือถือ”พระพายว่าจะให้เพื่อนเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นกันอยู่“อืม....เอ่อ...พาย!!”พาขวัญกดดูมือถือของเธอตามปกติแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือข้อความที่เด้งเตือนเงินเข้าบัญชีของเธอ“มีอะไรเหรอแก”พระพายทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอมีน้ำเสียงตกใจตอนเปิดดูมือถือ“นี่”“ห.ห้ะ...ล...ล้านนึง”พระพายเกือบเป็นลมเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพื่อนสาวของเธอชูให้ดู“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”พาขวัญยังถามเพื่อนเธอว่าเห็นเหมือนที่เธอเห็นหรือไม่เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นี่มีข้อความด้วยนี่นา....//ฉันให้เธอหนึ่งล้านไม่ต้องตกใจและหวังว่าเธอจะไม่ไปทำงานที่นั่นอีก//”พระพายเห็นข้อความที่มันเด้งเตือนเธอจึงอ่านให้เพื่อนเธอหายคาใจที่คิดว่าตัวเองตาฝาด“แก....”พาขวัญกอดพระพายตัวกลมเมื่อเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เงินเธอมากมายขนาดนี้แค่แสนเดียวเธอก็ถือว่าเยอะมากแล้วแต่ยังไงเธอก็แอบคิดในใจว่าถ้าหากเธอเลือกไ
“แม่บ้านฉันพึ่งลาออกเห็นว่าจะไปเลี้ยงหลานฉันลองหาแล้วแต่ไม่มีใครมาสมัครก็ต้องทำเองไปก่อน”ภูผาพยายามอยู่ที่จะหาคนมาทำงานแต่ที่นี่ค่อนข้างหายากนิดนึงเพราะเป็นต่างจังหวัดส่วนมากคนพื้นที่ก็จะทำไร่ทำนาหรือทำกิจการของตนเองกันหมด13.00 น.“หัวหน้าเรียกป้ามามีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำทิพย์แม่บ้านวัยห้าสิบเข้ามาในห้องของภูผาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเรียกพบ“ช่วงเย็นป้าทิพย์พอจะว่างไหมครับพอดีผมอยากให้ป้าไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยผมมีเงินค่าจ้างให้ครั้งละ500ครับ”ภูผาเห็นว่าหาแม่บ้านประจำมันยากเหลือเกินเขาก็จะลองถามจากคนที่ทำงานดูว่าอยากจะทำงานพิเศษหรือเปล่าเรื่องเงินเขาให้เต็มวันเลยเพราะจะให้เขามาทำงานบ้านเองคงไม่เรียบร้อยเท่าผู้หญิงทำอีกอย่างบางวันที่เขาไม่ได้กลับก็ไม่มีคนดูแลบ้านด้วย“ป้าก็อยากไปนะคะ...แต่ช่วงเย็นป้าก็ต้องกลับไปดูแลบ้านทำกับข้าวให้ผัวกับลูกอีก”น้ำทิพย์เองก็อยากจะได้เงินพิเศษอยู่หรอกแต่ภาระที่บ้านเธอก็ต้องกลับไปดูแลนี่น่ะสิ“อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรครับ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้ำทิพย์ทำงานดีมาก“เอ่อ...หัวหน้าหาแม่บ้านอยู่เหรอคะลองถามหนูพระพายที่อยู่แผนกธุรการดูสิคะเห็น
“เฮ้อ...”เหนือเมฆถึงกับกุมขมับนี่เขาจะไม่มีสิทธิ์รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเขาเลยหรือเขาคิดว่าพ่อของเขายังเห็นเขาสำคัญอยู่หรือไม่ในเมื่อเป็นอะไรก็ไม่ยอมที่จะบอกกันจะได้ช่วยกันหาทางแก้ตั้งแต่เนิ่นๆวันต่อมาโรงพยาบาล“คุณพ่อเป็นอะไรทำไมไม่คิดจะบอกผม”เหนือเมฆรู้ว่าพ่อของเขาฟื้นตัวแล้วจากเมื่อวานที่อาการไม่ค่อยดีเขาเข้ามาที่โรงพยาบาลในช่วงเช้าเพื่อที่จะมาคุยกับพ่อของเขาด้วยความเป็นห่วง“ฉันบอกแกแล้วมันจะหายหรือไงวะ”อิทธิวัฒน์มีเหตุผลที่เขาไม่อยากจะบอกเรื่องอาการป่วยของเขากับใครเพราะในใจของเขาไม่อยากจะให้ใครมาห่วงโดยเฉพาะลูกๆของเขาแต่คำพูดของเขามันยิ่งทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไม่สำคัญพอที่จะได้รู้เรื่องนี้“แล้วนี่ดูแลตัวเองยังไงครับถึงได้อาการหนักแบบนี้”เหนือเมฆรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจกับคำพูดของคนเป็นพ่อถึงบอกเขาแล้วมันไม่หายแต่พ่อของเขาดูแลตัวเองยังไงถึงได้เป็นหนักแบบนี้แล้วที่เขาอยากรู้คือพ่อของเขาได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีหรือเปล่า“ฉันก็หาหมอนี่แหละแล้วก็แขเค้าก็มียาบำรุงให้ฉันกินอยู่เรื่อยๆแกไม่ต้องห่วงหรอกฉันแค่เครียดหนักเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ต่อไปนี้ผมจะหาหมอดูเรื่องสุขภาพของคุณพ่อเอง”เ