“ฉันเข้าใจน่า”
เหนือเมฆเข้าใจว่างานของเพื่อนเขามันต้องทุมเททั้งแรงกายแรงใจไม่ใช่น้อยเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องจะอยู่ต้อนรับหรือไม่ต้อนรับเสียนิดเดียว
“เรื่องพี่ชายแกฉันเสียใจด้วยนะ...แล้วแกมาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยวะ”
ภูผารู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนเขามาบ้างเลยถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจเสียหน่อยเขารู้ว่าเพื่อนเขามาที่นี่อย่างเร่งด่วนคงไม่พ้นมีเรื่องร้อนใจเป็นแน่
“เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุพี่ชายฉันนี่แหละ”
“ฉันก็พอรู้มาบ้างนี่ก็ยังตามไม่เจอหลานแกใช่ไหม”
“อืมม...ฉันถึงมาที่นี่นี่ไง”
ภูผารู้ข่าวคร่าวๆจากพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบ้างว่ามีเหตุทำให้คนเสียชีวิตถึงสองคนแถมเด็กที่พึ่งคลอดก็ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก
2 ชั่วโมงต่อมา
“ประเด็นที่แกคิดก็คือคิดว่าเรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงแกเป็นคนทำ”
หลังจากที่ภูผานั่งคุยกับเหนือเมฆได้พักใหญ่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเหนือเมฆนั้นคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงของเขาเป็นแน่
“ฉันคิดแบบนั้นแต่ขอหาหลักฐานก่อน”
เหนือเมฆปักใจเชื่อแบบนั้นและขอหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนแล้วจะเอาผิดกับคนที่ทำผิดอีกทีอย่างสาสม
“ถ้าแกคิดแบบนั้นแสดงว่าตัวแกเองก็จะไม่ปลอดภัยด้วยเพราะถ้าหากเป็นฝีมือแม่เลี้ยงของแกจริงก็คงจะหวังสมบัติและก็คงจะต้องกำจัดคนที่มีท่าว่าจะมีส่วนแบ่งให้พ้นทาง”
ภูผาเห็นว่าถ้ามันเป็นอย่างที่เพื่อนของเขาคิดจริงตัวเพื่อนของเขาเองก็จะไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
“ถ้ายัยนั่นกล้าทำอะไรฉันแม้แต่นิดเดียวฉันเอาคืนเป็นร้อยเท่าแน่”
เหนือเมฆไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเขาได้ง่ายๆแน่
“แล้วพ่อแกล่ะเค้าคิดว่ายังไง”
ภูผาอยากจะรู้ว่าพ่อของเพื่อนเขามีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร
“พ่อฉันเเหรอก็เชื่อตำรวจคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุธรรมดาทุกวันนี้เมียพูดอะไรก็เชื่อหมดทุกอย่าง”
เหนือเมฆส่ายหัวเล็กน้อยเมื่อพูดถึงคนเป็นพ่อยิ่งคิดว่าแม่เลี้ยงของเขาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้กับพ่อเขายิ่งหัวเสีย
“เอาเป็นว่ารอให้ได้หลักฐานอะไรให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกทีแกก็ใจเย็นๆก่อนตอนนี้ยังไงก็ต้องเอาเรื่องหลานแกก่อนคนที่ฉันรู้จักในพื้นที่ที่นั่นก็ค่อนข้างเยอะเรื่องสืบถามคนในหมู่บ้านคงจะได้ความอะไรมาบ้าง”
ภูผาคิดว่าเรื่องที่บ้านที่ระแวงกันอยู่ตอนนี้เอาไว้ก่อนที่เร่งด่วนก็เห็นจะเป็นเรื่องหลานของเพื่อนเขามากกว่า
“อืม...ขอให้ได้เรื่องโดยเร็วก็แล้วกัน”
เหนือเมฆเห็นว่าเพื่อนของเขามีทางช่วยอยู่มากก็มั่นใจได้ว่าไม่นานคงได้เรื่อง
บ้านพาขวัญ
ช่วงเช้าของวันพาขวัญต้องตื่นมาเตรียมน้ำอุ่นอาให้จันทร์เจ้าทุกเช้าข้าวของเครื่องใช้เด็กอ่อนเธอก็ซื้อใหม่บ้างแม่ของต้นกล้าก็ให้ของใช้มาบ้างทำให้ตอนนี้ทุกอย่างมีครบหมดแล้วที่ต้องซื้ออยู่บ่อยๆก็เห็นจะเป็นนมผงกับแพมเพิสนี่แหละ
“แอ้ๆๆ....แอ้...”
เด็กหญิงลงกะละมังอาบน้ำได้ก็อารมณ์ดีห่อปากน้อยๆส่งเสียงอ้อแอ้ทักทายคนที่กำลังอาบน้ำให้
“สดชื่นใช่ไหมคะ...น้องจันทร์เจ้าของแม่สดชื่นใช่ไหม...”
พาขวัญเห็นจันทร์เจ้าอารมณ์ดีเธอก็พลอยอารมณ์ดีตามไปด้วยทั้งยังส่งเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับลูกสาวตัวน้อยของเธอเล่น
“แอ้ๆๆ...”
“อารมณ์ดีใหญ่เลย....คนเก่งอาบน้ำเสร็จไปกินนมกันนะคะ”
วิชาเลี้ยงเด็กอ่อนพาขวัญได้รับการสอนมาจากมานีทั้งหมดและเธอก็ทำมันได้ดีอีกด้วยเธอไม่เคยบ่นเลยสักครั้งที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อหนูน้อยร้องหิวนมเธอมีความสุขที่ได้ดูแลหนูน้อยเพราะเธอรู้สึกว่าชีวิตเธอมีค่ามากขึ้นและชีวิตของเธอก็มีเป้าหมายที่ต้องขยันเพื่อใครสักคนที่นอนมองตาแป๋วใส่เธออยู่ตรงหน้า
“วันนี้หนูจันทร์เจ้าของแม่ขวัญใส่เสื้อสีชมพูนะคะ....ชอบไหมเอ่ย”
พาขวัญเช็ดตัวให้หนูน้อยเสร็จก็ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดตาให้หนูน้อยและทาแป้งบางๆพร้อมทั้งหยิบเสื้อผูกตัวจิ๋วที่เธอซื้อมาใส่ให้หนูน้อยอย่างชำนาญพร้อมทั้งใส่แพมเพิสเรียบร้อยแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปชงนมปล่อยให้หนูน้อยนอนเล่นบนเบาะนอนไปก่อน
“นมจะหมดแล้วนี่นา”
พาขวัญถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อมองไปที่กระป๋องนมของจันทร์เจ้าตอนนี้ตังในบัญชีของเธอเหลือไม่ถึงพันคงจะซื้อนมให้หนูน้อยได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นยิ่งคิดเธอก็ยิ่งกังวลเรื่องงานที่เธอขอพระพายไปทำด้วยก็ไม่รู้ว่าที่ร้านเขาจะให้เธอทำหรือเปล่ายังต้องรอคำตอบจากพระพายอีกที
“ขวัญ”
พระพายเข้ามาที่บ้านของพาขวัญแต่เช้าเพื่อที่จะมาบอกข่าวดี
“อ้าวพายวันนี้ไม่ไปทำงานเเหรอ”
พาขวัญเห็นว่าเวลานี้เพื่อนเธอควรจะไปทำงานประจำแต่ไหนมาโผล่ที่นี่
“วันนี้วันหยุดน่ะ...อ่อผับที่ฉันไปทำงานพิเศษเค้าบอกให้แกไปเริ่มงานได้คืนนี้เลยนะ”
“จริงเเหรอแก...โล่งอกไปทีนมจันทร์เจ้าก็กำลังจะหมดแล้วด้วย”
พาขวัญถึงกับโล่งใจไปหนึ่งเปราะที่เธอนั้นมีงานทำเสียทีอย่างน้อยเงินที่ได้มาถึงมันจะไม่มากก็ยังทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นมา
“เรื่องเงินซื้อนมแกเอาของฉันก่อนก็ได้มีเมื่อไรก็ค่อยเอามาคืนแล้วก็คืนนี้ก่อนไปทำงานก็เอาจันทร์เจ้าไปฝากแม่ฉันได้เลยนะ”
พระพายรู้ว่าพาขวัญมีค่าใช้จ่ายเยอะเธอเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างถึงมันจะไม่เยอะเธอก็พร้อมช่วยและแม่ของเธอเองก็เต็มใจที่จะดูแลจันทร์เจ้าให้อย่างไม่คิดค่าเลี้ยงดูด้วย
“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”ฟอดดด“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู
2 ชั่วโมงต่อมา“เดินหลายรอบเลยวันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยไหวไหมแก”พระพายเห็นเพื่อนของเธอปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีกเดินเสริฟอาหารกับพวกแอลกอฮอล์ขาเป็นระวิงจึงเข้าไปถามเพื่อนเธอตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง“โอเคฉันไหว”พาขวัญมีรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่ทิปที่ได้จากพวกลูกค้าก็ไม่น้อยเธอเลยมีกำลังใจที่จะทำงานต่ออย่างไม่ลดละ“เดย์...ฉันต้องการคนนั้นนายไปติดต่อให้ฉันที”เหนือเมฆนั่งดื่มที่ผับนี้อยู่นานสองนานแล้วที่โซนวีไอพีด้านบนสายตาเขาดันไปต้องกับเด็กเสริฟที่กำลังเดินเสริฟอาการอยู่ด้านล่างเขามองเธอคนนั้นไม่ละสายตาผิวของเธอขาวจนเด่นสะดุดตาหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มนั่นอีกที่มันทำให้เขามองเธอแล้วละสายตาไปไหนไม่ได้เขาพอจะรู้มาว่าที่นี่ก็มีบริการเรื่องที่เขาต้องการอยู่เหมือนกันเลยสั่งให้นภัสจัดการเรื่องที่เคยๆให้เขาด่วนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มดื่มจนได้ที่แล้วเหมือนกัน“ครับคุณเหนือ”นภัสรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายของเขาจะต้องมีเรื่องแบบนี้ให้เขาจัดการอยู่แล้วเป็นประจำเขาจึงรีบไปจัดการทำตามความต้องการของคนเป็นนายทันที10 นาทีต่อมา“ว่าไงให้ฉันไปรอที่รถเลยไหม”เหนือเมฆเห็นนภัสเดินมาก็คิดว่าลูกน้องของเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้
“หึ่...ผู้จัดการเธอบอกอย่างนั้นเหรอ”ฟังจากคำพูดของหญิงสาวแล้วเหนือเมฆก็พอจะเดาออกว่าไอ้อาการกล้าๆกลัวๆเขาที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้ก็คงเพราะโดนผู้จัดการร้านหน้าเงินหลอกมาเป็นแน่แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขายังไงเขาก็ได้จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องได้สิ่งที่เขาสมควรจะได้“ค่ะ...”“แล้วเธอก็เชื่อ”เหนือเมฆเหล่สายตาถามหญิงสาวอย่างสงสัยว่าเธอซื่อจริงๆหรือแค่ตบตาเขาเล่นกันแน่“.......”พาขวัญหยักหน้าหงึกหงักยืนยันว่าผู้จัดการที่ร้านบอกเธอมาแบบนั้นจริงๆ“ทำงานที่นี่มานานแล้วหรือยัง”เหนือเมฆอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวมาทำงานที่นี่นานแล้วหรือยังถึงดูรู้ไม่เท่าทันคนเท่าไรคนที่ร้านสั่งให้ไปไหนก็ไปทั้งที่ร้านแบบนี้มันต้องมีบริการเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว“มาวันนี้วันแรกค่ะ”พาขวัญตอบคำถามชายหนุ่มตามที่เขาถามเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะซักประวัติอะไรของเธอนักหนาไม่ยอมปล่อยตัวของเธอกลับเสียที“อืม...แล้วทำไมถึงเลือกทำงานที่นี่”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าเธอทำไมถึงเลือกที่จะทำงานในสถานที่ที่มันเสี่ยงต่อคนหัวอ่อนแบบนี้“คือ...ฉันแค่ไม่มีงานทำเลยทำงานนี้เพื่อหารายได้ไปก่อนค่ะฉันต้องหาเงินซื้อนมให้ลูก”
“จะอายอะไรนักหนาตัวเธอก็สวยไปซะทุกส่วนน่าโชว์จะตายไป”เมื่อไม่มีสิ่งอื่นมาปกป้องร่างกายของหญิงสาวชายหนุ่มก็ใช้สายตาไล่มองความงามของร่างกายของเธออย่างไม่ละสายตาเขาไม่คิดว่าร่างกายของคนที่เคยมีลูกมาแล้วจะเต่งตึงเนียนเรียบไปเสียทุกส่วนแบบนี้ยิ่งมองหน้าท้องที่แบนราบเอวเอสกับสองสิ่งที่กลมกลึงล้นจนมือปิดไม่มิดของเธอมันยิ่งทำให้เขาอยากจะสัมผัสเธอมากขึ้น“คือ...ฉันอาบเองได้ค่ะ”พาขวัญหน้าชาแล้วชาอีกไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธอมากขนาดนี้ยิ่งคิดยิ่งละอายแก่ใจที่เธอจะต้องมาเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ผู้ชายที่อยากได้แค่ร่างกายของเธอ“ฮื้มม...เธออาบไปก่อนเลยแล้วกันเร็วๆด้วยล่ะ”เหนือเมฆเห็นว่าหากหญิงสาวยังมีอาการแบบนี้อยู่เขาจะต้องปล่อยให้เธอจัดการธุระคนเดียวไปก่อนไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้อาบน้ำกันพอดีเขาจึงเดินออกจากห้องน้ำไปและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว50 นาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วค่ะ”พาขวัญใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำร่วมชั่วโมงเธอออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนจิ๋วที่ปิดร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธออย่างหมิ่นเหม่ตาของเธอบวมแดงเล็กน้อยเพราะผ่านการร้องให้มาทั้งที่เธอพยายามจะทำตัวเข้มแข
“โถ่...โว้ยยก็ได้วะ”เหนือเมฆจำต้องทำตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาขี้เกียจฟังคำพูดอะไรของหญิงสาวอีกแล้วถ้าทำตามที่เธอขอแล้วเธอยังไม่ยอมอีกล่ะก็เขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับแล้วหละ“อื้อ...อื้มมม”พาขวัญรู้สึกแปลกๆเมื่อมีอะไรนุ่มนิ่มเลื้อยไหลอยู่บนเรือนร่างของเธออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมันก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องร้องออกมาจากลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกที่พึ่งเคยได้สัมผัส“ตัวเธอนี่ทั้งนิ่มทั้งเด้งจริงๆเลยแฮะ”เหนือเมฆพรมจูบไปทั่วร่างกายของหญิงสาวขบเม้มไปเสียทุกส่วนเขาชอบเนื้อตัวของเธอทั้งหมดทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอพึ่งจะอาบน้ำมาอีกน้ำหอมยี่ห้อไหนก็แพ้กลิ่นของเธอตอนนี้อยู่ดี“อื้อ...ค...คุณ...อื้มมม”พาขวัญเริ่มรู้สึกเครียดเกร็งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็ใช้ทังสองมือแร่งของเขาบีบเค้นสิ่งที่อวบตูมของเธอเล่นอย่างมันมือพร้อมทั้งประกบจูบดูดคลึงริมฝีปากของเธอเล่นอย่างสบายอารมณ์แถมลมหายใจของเขาก็ยังพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆต่างจากเธอตอนนี้ที่แทบจะหยุดหายใจ“อยู่เฉยๆ”ชายหนุ่มค่อยๆแรกตัวมาตรงกลางระหว่างตัวขงหญิงสาวพร้อมหยิบสิ่งที่ป้องกันใส่อย่างชำนาญแม้ในความมืดพร้อมทั้งสั่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ไม
“ขวัญ”พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มี
12.00 น.“ขวัญ...ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว”“อือ...อืมม”พระพายปล่อยให้เพื่อนสาวเธอนอนจนถึงเที่ยงเมื่อเห็นเพื่อนเธอยังไม่ตื่นเสียทีก็ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาเสียก่อน“อะนี่กระเป๋ากับมือถือ”พระพายว่าจะให้เพื่อนเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นกันอยู่“อืม....เอ่อ...พาย!!”พาขวัญกดดูมือถือของเธอตามปกติแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือข้อความที่เด้งเตือนเงินเข้าบัญชีของเธอ“มีอะไรเหรอแก”พระพายทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอมีน้ำเสียงตกใจตอนเปิดดูมือถือ“นี่”“ห.ห้ะ...ล...ล้านนึง”พระพายเกือบเป็นลมเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพื่อนสาวของเธอชูให้ดู“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”พาขวัญยังถามเพื่อนเธอว่าเห็นเหมือนที่เธอเห็นหรือไม่เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นี่มีข้อความด้วยนี่นา....//ฉันให้เธอหนึ่งล้านไม่ต้องตกใจและหวังว่าเธอจะไม่ไปทำงานที่นั่นอีก//”พระพายเห็นข้อความที่มันเด้งเตือนเธอจึงอ่านให้เพื่อนเธอหายคาใจที่คิดว่าตัวเองตาฝาด“แก....”พาขวัญกอดพระพายตัวกลมเมื่อเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เงินเธอมากมายขนาดนี้แค่แสนเดียวเธอก็ถือว่าเยอะมากแล้วแต่ยังไงเธอก็แอบคิดในใจว่าถ้าหากเธอเลือกไ
“แม่บ้านฉันพึ่งลาออกเห็นว่าจะไปเลี้ยงหลานฉันลองหาแล้วแต่ไม่มีใครมาสมัครก็ต้องทำเองไปก่อน”ภูผาพยายามอยู่ที่จะหาคนมาทำงานแต่ที่นี่ค่อนข้างหายากนิดนึงเพราะเป็นต่างจังหวัดส่วนมากคนพื้นที่ก็จะทำไร่ทำนาหรือทำกิจการของตนเองกันหมด13.00 น.“หัวหน้าเรียกป้ามามีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำทิพย์แม่บ้านวัยห้าสิบเข้ามาในห้องของภูผาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มเรียกพบ“ช่วงเย็นป้าทิพย์พอจะว่างไหมครับพอดีผมอยากให้ป้าไปทำงานบ้านให้ผมหน่อยผมมีเงินค่าจ้างให้ครั้งละ500ครับ”ภูผาเห็นว่าหาแม่บ้านประจำมันยากเหลือเกินเขาก็จะลองถามจากคนที่ทำงานดูว่าอยากจะทำงานพิเศษหรือเปล่าเรื่องเงินเขาให้เต็มวันเลยเพราะจะให้เขามาทำงานบ้านเองคงไม่เรียบร้อยเท่าผู้หญิงทำอีกอย่างบางวันที่เขาไม่ได้กลับก็ไม่มีคนดูแลบ้านด้วย“ป้าก็อยากไปนะคะ...แต่ช่วงเย็นป้าก็ต้องกลับไปดูแลบ้านทำกับข้าวให้ผัวกับลูกอีก”น้ำทิพย์เองก็อยากจะได้เงินพิเศษอยู่หรอกแต่ภาระที่บ้านเธอก็ต้องกลับไปดูแลนี่น่ะสิ“อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรครับ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจแต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้ำทิพย์ทำงานดีมาก“เอ่อ...หัวหน้าหาแม่บ้านอยู่เหรอคะลองถามหนูพระพายที่อยู่แผนกธุรการดูสิคะเห็น