“อืม...อย่าคิดมากเลยค่ะคุณถ้าหลานยังมีวาสนายังไงก็ได้กลับมาค่ะ”
แขไขอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมตีหน้าเศร้าปลอบใจสามีของเธอ
“เฮ้อ....”
อิทธิวัฒน์กุมขมับเขาจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆเพราะที่นั่นค่อนข้างไม่เจริญถนนหนทางไม่มีไฟไม่มีกล้องผู้คนก็ยังไม่ค่อยผ่านด้วยซ้ำ
“เอาอย่างนี้สิคะ...คุณก็เร่งให้คุณเหนือมีครอบครัวไวๆสิคะจะได้มีหลานเร็วๆ...คือแขไม่ได้คิดในแง่ลบนะคะว่าหลานเราจะไม่กลับมาแต่นี่มันก็หลายวันแล้ว”
แขไขถือโอกาสพูดเรื่องที่ลูกสาวเธอขอร้องให้ช่วยทันทีพร้อมทั้งยังพูดในทำนองที่อยากจะให้สามีเธอตัดใจเรื่องหลานอีกด้วยเพราะเธอแน่ใจว่ายังไงก็ไม่มีวันกลับมา
“ก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ...แต่การที่จะบังคับตาเหนือให้มีครอบครัวคงจะยากแล้วใครมันจะมาทนคนอย่างตาเหนือได้”
อิทธิวัฒน์นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อคำพูดของแขไขเป็นซะส่วนใหญ่เพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นหวังดีกับเขามาตลอดแต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าเหนือเมฆลูกชายคนเล็กของเขานั้นจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าคงจะมีผู้หญิงที่ทนกับนิสัยของเหนือเมฆได้ยาก
“คุณต้องลองพูดดูก่อนค่ะ...ส่วนคนที่ทนคุณเหนือได้แล้วก็ดูเหมาะสมกันแขดูไว้แล้วล่ะค่ะน้องเอมลูกสาวแขไงคะ”
แขไขยังยุยงให้อิทธิวัฒน์นั้นลองพูดกับลูกชายของเขาดูก่อนและยังเอ่ยปากเสนอให้จับคู่กับลุกสาวของเธออีกด้วย
“หนูเอมเนี่ยเเหรอ...นี่เราจะจับคู่พวกเค้าใช่ไหม”
“ไม่ดีเเหรอคะ...คนในครอบครัวทั้งนั้นจะได้สบายใจว่าคุณเหนือจะไม่ไปคว้าเอาคนไม่ดีมาไงคะ”
แขไขยังพยายามหว่านล้อมทุกวิถีทางให้สามีเธอเชื่อฟังเธอ
“อืมม...แล้วผมจะลองคุยกับตาเหนือดูก็แล้วกัน”
อิทธิวัฒน์เองก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องที่คนเป็นภรรยาของเขาพูดเขารับปากเธอว่าจะลองคุยกับเหนือเมฆให้เพราะเขาเองในใจลึกๆก็อยากให้ลูกชายคนเล็กของเขาเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีเพราะอายุก็เกือบจะ35แล้วเขาเองก็ป่วยอยู่บ่อยครั้งหากเขาเป็นอะไรจะได้ตายตาหลับ
“ค่ะ...นอนกันเถอะค่ะคุณนอนดึกสุขภาพจะไม่ดีเอานะคะ”
แขไขพอใจที่อิทธิวัฒน์นั้นเชื่อฟังเธอตลอด
“เห็นจะมีแต่คุณที่ห่วงผมลูกชายที่คอยดูแลผมก็จากไปแล้วส่วนอีกคนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหัว”
อิทธิวัฒน์เชื่อใจแขไขอย่างสนิทใจว่าเธอมีแต่ความหวังดีให้เขาคอยดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องผิดกับลูกชายคนเล็กของเขาที่เวลานี้ก็ไม่เห็นหัว
วันต่อมา
“คุณพ่อเรียกผมมาที่บ้านมีธุระอะไรก็รีบพูดมาครับผมมีธุระต้องไปทำต่อ”
เหนือเมฆมาที่บ้านของเขาในตอนเช้าเพราะนภัสแจ้งว่าพ่อของเขามีเรื่องด่วนจะคุยด้วยเมื่อมาถึงเห็นทั้งพ่อเขาแม่เลี้ยงและเอมิกาอยู่พร้อมหน้ากันก็เสียอารมณ์ทันที
“หึ่...ฉันจะเรียกแกมาทั้งทีก็ต้องมีธุระสินะ...เอาล่ะฉันก็มีธุระจริงๆนั่นแหละฉันอยากจะให้แกแต่งงานมีครอบครัวเสียที”
คำถามของลูกชายคนเล็กของเขาอดทำให้อิทธิวัฒน์น้อยใจไม่ได้แต่เขาก็ทำใจไว้แล้วพร้อมทั้งรีบเปิดประเด็นเรื่องที่เรียกมาที่บ้านแต่เช้าทันที
“อะไรนะครับ”
เหนือเมฆไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะมาอยากให้เขามีครอบครัวอะไรตอนนี้ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่มีใครที่ถูกใจเลยสักคนและใช้ชีวิตแบบนี้เขาก็สบายดีอยู่แล้วไม่เห็นต้องมีคำว่าครอบครัวมาเป็นบ่วงผูกคอเลย
“แกเห็นใจฉันหน่อยเถอะนะฉันก็แก่แล้วหากฉันเป็นอะไรไปฉันจะได้ตายตาหลับพี่แกก็ไม่อยู่แล้วแกช่วยทำเพื่อฉันหน่อยเถอะนะ”
“มีครอบครัวเเหรอครับแต่ผมยังไม่ได้อยากแต่งงานกับใครนี่ครับ”
เหนือเมฆยังยืนยันว่าเขานั้นยังไม่อยากที่จะมีครอบครัว
“หนูเอมไงเธอเหมาะสมกับแกจะตายแต่งๆกันไปก็รักกันเอง”
อิทธิวัฒน์เปิดประเด็นความตั้งใจที่แท้จริงว่าเขาอยากจะให้ลูกชายของเขาแต่งงานกับใครตามที่ได้โดนคนเป็นภรรยายุยงมา
“นี่คงไม่ใช่ความคิดของคุณพ่อตั้งแต่แรกสินะครับ...ผมขอตัวผมมีธุระต้องไปทำต่อผมขอบอกไว้เลยนะครับผมจะแต่งกับใครก็ได้ถ้าไม่ใช่ยัยนี่”
เหนือเมฆพอจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ความคิดของพ่อเขาเองเป็นแน่พร้อมทั้งประกาศก้องว่าเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเอมิกาเป็นแน่และเดินออกไปจากบ้านอย่างไม่สนใจใครและมุ่งหน้าไปที่ลำปางทันทีที่ขึ้นรถได้
วันต่อมา
ลำปาง
09.00 น.
เหนือเมฆและนภัสมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ภูผาเองก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเพราะทำงานค่อนข้างไม่เป็นเวลาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับป่าไม้ก็ต้องเข้าไปดูทันที
“เป็นไงมั่งหลับสบายไหม”
ภูผากลับมาที่บ้านในช่วงเช้าเห็นเพื่อนของเขานั่งอยู่กับนภัสที่หน้าบ้านก็รีบขึ้นมาทักทาย
“ก็ดี”
“โทษทีที่เมื่อคืนไม่ได้อยู่ต้อนรับ”
“ฉันเข้าใจน่า”เหนือเมฆเข้าใจว่างานของเพื่อนเขามันต้องทุมเททั้งแรงกายแรงใจไม่ใช่น้อยเขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องจะอยู่ต้อนรับหรือไม่ต้อนรับเสียนิดเดียว“เรื่องพี่ชายแกฉันเสียใจด้วยนะ...แล้วแกมาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยวะ”ภูผารู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนเขามาบ้างเลยถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจเสียหน่อยเขารู้ว่าเพื่อนเขามาที่นี่อย่างเร่งด่วนคงไม่พ้นมีเรื่องร้อนใจเป็นแน่“เรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุพี่ชายฉันนี่แหละ”“ฉันก็พอรู้มาบ้างนี่ก็ยังตามไม่เจอหลานแกใช่ไหม”“อืมม...ฉันถึงมาที่นี่นี่ไง”ภูผารู้ข่าวคร่าวๆจากพวกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานบ้างว่ามีเหตุทำให้คนเสียชีวิตถึงสองคนแถมเด็กที่พึ่งคลอดก็ยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก2 ชั่วโมงต่อมา“ประเด็นที่แกคิดก็คือคิดว่าเรื่องทั้งหมดแม่เลี้ยงแกเป็นคนทำ”หลังจากที่ภูผานั่งคุยกับเหนือเมฆได้พักใหญ่ก็พอจะจับใจความได้ว่าเหนือเมฆนั้นคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของแม่เลี้ยงของเขาเป็นแน่“ฉันคิดแบบนั้นแต่ขอหาหลักฐานก่อน”เหนือเมฆปักใจเชื่อแบบนั้นและขอหาหลักฐานให้แน่ชัดก่อนแล้วจะเอาผิดกับคนที่ทำผิดอีกทีอย่างสาสม“ถ้าแกคิดแบบนั้นแสดงว่าตัวแกเองก็จะไม่ปลอดภั
“ขอบใจมากเลยนะ...ฉันไม่รู้เลยถ้าไม่มีแกกับน้านีชีวิตฉันจะเป็นยังไง”พาขวัญคิดอยู่ในใจว่าตัวเองโชคดีที่มีกัลยานิมิตที่ดีอย่างพระพายอย่างน้อยวันที่เธอตกต่ำไม่มีจุดยืนพระพายก็ยังพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอแม้จะห่างหายกันไปนานก็ตาม“เอาน่า...มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...จริงไหมจันทร์เจ้า”ฟอดดด“หืมม...อาบน้ำตัวหอมแต่เช้าเลยน้า”พระพายรู้ว่าคนที่เหนื่อยกว่าเธอคือพาขวัญเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนดีเธอรู้และเธอเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนคนดีเสมอพร้อมหันไปคุยกับจันทร์เจ้าที่นอนดุ๊กดิ๊กที่เบาะนอนพร้อมกดจมูกไปที่แก้มพองของหนูน้อยหนึ่งฟอด“ฉันไปดูประวัติของครอบครัวสามีพี่ฟ้ามาแล้วนะ...ประวัติครอบครัวของเค้าก็รักกันดีนะ”พระพายได้เช็กประวัติจากข่าวในอินเตอร์เน็ตของครอบครัวสามีเพียงฟ้าเธอก็เห็นคนในครอบครัวรักกันดีเฮจึงค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเพียงฟ้าจึงสั่งเสียกับเพื่อนของเธอว่าห้ามส่งจันทร์เจ้ากลับครอบครัว“เรื่องแบบนี้มันไว้ใจใครไม่ได้หรอก”พาขวัญเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปัญหาในบ้านนั้นคืออะไรแต่เธอเองคิดว่ายิ่งบ้านไหนที่มีสมบัติเยอะปัญหามันก็น่าจะเยอะตามไปด้วย“อืมม...ก็จริง...สงสารก็แต่จันทร์เจ้านี่แหละไม่รู
2 ชั่วโมงต่อมา“เดินหลายรอบเลยวันนี้ลูกค้าเยอะหน่อยไหวไหมแก”พระพายเห็นเพื่อนของเธอปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีกเดินเสริฟอาหารกับพวกแอลกอฮอล์ขาเป็นระวิงจึงเข้าไปถามเพื่อนเธอตอนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง“โอเคฉันไหว”พาขวัญมีรู้สึกเหนื่อยบ้างแต่ทิปที่ได้จากพวกลูกค้าก็ไม่น้อยเธอเลยมีกำลังใจที่จะทำงานต่ออย่างไม่ลดละ“เดย์...ฉันต้องการคนนั้นนายไปติดต่อให้ฉันที”เหนือเมฆนั่งดื่มที่ผับนี้อยู่นานสองนานแล้วที่โซนวีไอพีด้านบนสายตาเขาดันไปต้องกับเด็กเสริฟที่กำลังเดินเสริฟอาการอยู่ด้านล่างเขามองเธอคนนั้นไม่ละสายตาผิวของเธอขาวจนเด่นสะดุดตาหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มนั่นอีกที่มันทำให้เขามองเธอแล้วละสายตาไปไหนไม่ได้เขาพอจะรู้มาว่าที่นี่ก็มีบริการเรื่องที่เขาต้องการอยู่เหมือนกันเลยสั่งให้นภัสจัดการเรื่องที่เคยๆให้เขาด่วนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มดื่มจนได้ที่แล้วเหมือนกัน“ครับคุณเหนือ”นภัสรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายของเขาจะต้องมีเรื่องแบบนี้ให้เขาจัดการอยู่แล้วเป็นประจำเขาจึงรีบไปจัดการทำตามความต้องการของคนเป็นนายทันที10 นาทีต่อมา“ว่าไงให้ฉันไปรอที่รถเลยไหม”เหนือเมฆเห็นนภัสเดินมาก็คิดว่าลูกน้องของเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้
“หึ่...ผู้จัดการเธอบอกอย่างนั้นเหรอ”ฟังจากคำพูดของหญิงสาวแล้วเหนือเมฆก็พอจะเดาออกว่าไอ้อาการกล้าๆกลัวๆเขาที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้ก็คงเพราะโดนผู้จัดการร้านหน้าเงินหลอกมาเป็นแน่แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขายังไงเขาก็ได้จ่ายเงินไปแล้วก็ต้องได้สิ่งที่เขาสมควรจะได้“ค่ะ...”“แล้วเธอก็เชื่อ”เหนือเมฆเหล่สายตาถามหญิงสาวอย่างสงสัยว่าเธอซื่อจริงๆหรือแค่ตบตาเขาเล่นกันแน่“.......”พาขวัญหยักหน้าหงึกหงักยืนยันว่าผู้จัดการที่ร้านบอกเธอมาแบบนั้นจริงๆ“ทำงานที่นี่มานานแล้วหรือยัง”เหนือเมฆอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวมาทำงานที่นี่นานแล้วหรือยังถึงดูรู้ไม่เท่าทันคนเท่าไรคนที่ร้านสั่งให้ไปไหนก็ไปทั้งที่ร้านแบบนี้มันต้องมีบริการเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว“มาวันนี้วันแรกค่ะ”พาขวัญตอบคำถามชายหนุ่มตามที่เขาถามเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะซักประวัติอะไรของเธอนักหนาไม่ยอมปล่อยตัวของเธอกลับเสียที“อืม...แล้วทำไมถึงเลือกทำงานที่นี่”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าเธอทำไมถึงเลือกที่จะทำงานในสถานที่ที่มันเสี่ยงต่อคนหัวอ่อนแบบนี้“คือ...ฉันแค่ไม่มีงานทำเลยทำงานนี้เพื่อหารายได้ไปก่อนค่ะฉันต้องหาเงินซื้อนมให้ลูก”
“จะอายอะไรนักหนาตัวเธอก็สวยไปซะทุกส่วนน่าโชว์จะตายไป”เมื่อไม่มีสิ่งอื่นมาปกป้องร่างกายของหญิงสาวชายหนุ่มก็ใช้สายตาไล่มองความงามของร่างกายของเธออย่างไม่ละสายตาเขาไม่คิดว่าร่างกายของคนที่เคยมีลูกมาแล้วจะเต่งตึงเนียนเรียบไปเสียทุกส่วนแบบนี้ยิ่งมองหน้าท้องที่แบนราบเอวเอสกับสองสิ่งที่กลมกลึงล้นจนมือปิดไม่มิดของเธอมันยิ่งทำให้เขาอยากจะสัมผัสเธอมากขึ้น“คือ...ฉันอาบเองได้ค่ะ”พาขวัญหน้าชาแล้วชาอีกไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธอมากขนาดนี้ยิ่งคิดยิ่งละอายแก่ใจที่เธอจะต้องมาเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้ผู้ชายที่อยากได้แค่ร่างกายของเธอ“ฮื้มม...เธออาบไปก่อนเลยแล้วกันเร็วๆด้วยล่ะ”เหนือเมฆเห็นว่าหากหญิงสาวยังมีอาการแบบนี้อยู่เขาจะต้องปล่อยให้เธอจัดการธุระคนเดียวไปก่อนไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้อาบน้ำกันพอดีเขาจึงเดินออกจากห้องน้ำไปและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว50 นาทีต่อมา“เรียบร้อยแล้วค่ะ”พาขวัญใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำร่วมชั่วโมงเธอออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนจิ๋วที่ปิดร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธออย่างหมิ่นเหม่ตาของเธอบวมแดงเล็กน้อยเพราะผ่านการร้องให้มาทั้งที่เธอพยายามจะทำตัวเข้มแข
“โถ่...โว้ยยก็ได้วะ”เหนือเมฆจำต้องทำตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาขี้เกียจฟังคำพูดอะไรของหญิงสาวอีกแล้วถ้าทำตามที่เธอขอแล้วเธอยังไม่ยอมอีกล่ะก็เขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับแล้วหละ“อื้อ...อื้มมม”พาขวัญรู้สึกแปลกๆเมื่อมีอะไรนุ่มนิ่มเลื้อยไหลอยู่บนเรือนร่างของเธออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมันก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องร้องออกมาจากลำคอเล็กน้อยเพราะความรู้สึกที่พึ่งเคยได้สัมผัส“ตัวเธอนี่ทั้งนิ่มทั้งเด้งจริงๆเลยแฮะ”เหนือเมฆพรมจูบไปทั่วร่างกายของหญิงสาวขบเม้มไปเสียทุกส่วนเขาชอบเนื้อตัวของเธอทั้งหมดทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่เธอพึ่งจะอาบน้ำมาอีกน้ำหอมยี่ห้อไหนก็แพ้กลิ่นของเธอตอนนี้อยู่ดี“อื้อ...ค...คุณ...อื้มมม”พาขวัญเริ่มรู้สึกเครียดเกร็งเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มก็ใช้ทังสองมือแร่งของเขาบีบเค้นสิ่งที่อวบตูมของเธอเล่นอย่างมันมือพร้อมทั้งประกบจูบดูดคลึงริมฝีปากของเธอเล่นอย่างสบายอารมณ์แถมลมหายใจของเขาก็ยังพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆต่างจากเธอตอนนี้ที่แทบจะหยุดหายใจ“อยู่เฉยๆ”ชายหนุ่มค่อยๆแรกตัวมาตรงกลางระหว่างตัวขงหญิงสาวพร้อมหยิบสิ่งที่ป้องกันใส่อย่างชำนาญแม้ในความมืดพร้อมทั้งสั่งให้หญิงสาวที่กำลังอยู่ไม
“ขวัญ”พระพายเห็นรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านเพื่อนของเธอจึงรีบวิ่งไปดูเมื่อเห็นเพื่อนเธอเดินลงมาก็รีบกระโดดกอดด้วยความดีใจที่เพื่อนเธอกลับมาเสียที“พาย...ฮึก...ฮือๆ...”หลังจากที่รถหรูคันนั้นแล่นออกไปพาขวัญก็ปล่อยโฮกับเพื่อนของเธอทันที“ไม่ต้องพูดฉันรู้เรื่องหมดแล้วเข้าบ้านกันก่อนเถอะ”พระพายกอดปลอบพาขวัญยกใหญ่เธอรู้สึกโมโหตัวเองเหลือเกินที่ปกป้องเพื่อนเธอไม่ได้พร้อมทั้งประคองให้เพื่อนเธอเดินเข้าบ้านไปคุยกันข้างใน“ฉันจะพาแกไปแจ้งความเรื่องนี้ยังไงยัยหนูนกก็ต้องรับผิดชอบ”พระพายไม่คิดจะยอมเรื่องนี้ง่ายๆที่หนูนกทำกับเพื่อนเธอเกินไปทำเหมือนเพื่อนเธอเป็นของซื้อของขาย“ไม่นะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่...คือ...ฉ...ฉันยอมเค้าเอง”พาขวัญส่ายหัวเป็นระวิงเธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่โตเพราะถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นคนอื่นก็มีสิทธิ์รู้มากขึ้นและเธอเองก็ยอมรับเงินของผู้ชายที่นอนกับเธอเมื่อคืนด้วย“อะไรนะขวัญ...มันขู่บังคับแกใช่ไหม”พระพายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนเธอจะยอมเธอคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่“ไม่...อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้วเค้าบอกว่าเค้าจะโอนเงินให้ฉันแสนนึงฉันจะได้มี
12.00 น.“ขวัญ...ตื่นมากินข้าวกินยาก่อนเร็ว”“อือ...อืมม”พระพายปล่อยให้เพื่อนสาวเธอนอนจนถึงเที่ยงเมื่อเห็นเพื่อนเธอยังไม่ตื่นเสียทีก็ต้องปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาเสียก่อน“อะนี่กระเป๋ากับมือถือ”พระพายว่าจะให้เพื่อนเธอตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ลืมเพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นกันอยู่“อืม....เอ่อ...พาย!!”พาขวัญกดดูมือถือของเธอตามปกติแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือข้อความที่เด้งเตือนเงินเข้าบัญชีของเธอ“มีอะไรเหรอแก”พระพายทำหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนเธอมีน้ำเสียงตกใจตอนเปิดดูมือถือ“นี่”“ห.ห้ะ...ล...ล้านนึง”พระพายเกือบเป็นลมเมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่เพื่อนสาวของเธอชูให้ดู“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”พาขวัญยังถามเพื่อนเธอว่าเห็นเหมือนที่เธอเห็นหรือไม่เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นี่มีข้อความด้วยนี่นา....//ฉันให้เธอหนึ่งล้านไม่ต้องตกใจและหวังว่าเธอจะไม่ไปทำงานที่นั่นอีก//”พระพายเห็นข้อความที่มันเด้งเตือนเธอจึงอ่านให้เพื่อนเธอหายคาใจที่คิดว่าตัวเองตาฝาด“แก....”พาขวัญกอดพระพายตัวกลมเมื่อเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เงินเธอมากมายขนาดนี้แค่แสนเดียวเธอก็ถือว่าเยอะมากแล้วแต่ยังไงเธอก็แอบคิดในใจว่าถ้าหากเธอเลือกไ