“คุณนายพี่ทศโดนยิงตายตั้งแต่เมื่อคืนตอนนี้พวกผมกำลังโดนตำรวจล่าอยู่อยากขอเงินคุณนายสักก้อนก่อนจะหนีครับ”
ตอนนี้พวกกลุ่มคนร้ายกำลังจะหลบหนีเพราะตำรวจออกตามล่าพวกเขาอยู่เกลื่อนเมืองเขาจะต้องมีเงินก้อนในการหนีไปกบดานเสียก่อนจึงโทรมาขอค่าจ้างจากแขไขในเมื่อติดต่อทางเบอส่วนตัวไม่ได้ก็เลยโทรเข้าเบอบ้านแทน
“ทำไมพวกแกทำงานพลาดแบบนี้ห้ะ”
แขไขมือไม้สั่นที่รู้ว่าลูกน้องฝีมือดีของเธอต้องเสียไปหนึ่งคนแถมงานที่สั่งให้ไปเก็บเหนือเมฆกับลูกเมียก็ยังพลาดอีก
“ผมจะรู้ไหมว่ามันมีพวกเยอะขนาดนั้น...จ่ายมาซะดีๆ”
ปลายสายเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทีว่าคนสั่งงานจะไม่จ่ายเงิน
“ฉันไม่ให้ทำงานพลาดแล้วยังจะมาเรียกร้องอีกหรือไง”
แขไขไม่มีเงินที่จะจ่ายใครทั้งนั้นพร้อมทั้งยังวางสายไม่สนใจลูกน้องที่ทำงานห่วยแตกให้เธอต้องมานั่งเครียดอีก
Rrr
“ไม่ต้องรับ”
“ค่ะๆ”
แขไขสั่งแม่บ้านเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินมารับโทรศัพท์ตอนนี้เธอต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหาแต่ความกังวลใจในตอนนี้ทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก
2 วันต่อมา
เกาะเวหา
“ตำรวจจับคนร้ายได้บางส่วนแล้วครับมันรับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดคุณแขไขเป็นคนบงการครับ”
“ในที่สุดบ้านฉันก็สลัดผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านได้สักทีนะ”
วันนี้เหนือเมฆอาการดีขึ้นมากตอนนี้สิ่งที่ทำให้อาการเขาดีขึ้นไปอีกคือการได้รู้ว่าคนร้ายตัวจริงที่สั่งการทุกอย่างนั้นกำลังจะโดนกฎหมายเล่นงานและพ่อของเขาก็จะได้ตาสว่างเสียที
“จากคำรับสารภาพทั้งหมดคุณแขไขมีส่วนบงการรวมถึงคดีของคุณอรรณพกับคุณเพียงฟ้าด้วยครับ”
“เลวที่สุด”
เขาคิดไว้ในใจบ้างแล้วว่าเรื่องของพี่ชายของเขามันต้องเป็นฝีมือของคนๆเดียวกันที่ทำร้ายเขาเรื่องคงเดาไม่ยากผู้หญิงคนนั้นคงต้องการรวบทุกอย่างของบ้านเขาเอาไว้คนเดียวน่ะสิ
“ใจเย็นๆคะพี่เหนือ”
พาขวัญเห็นเหนือเมฆมีสีหน้าเครียดเกร็งเธอไม่อยากให้เขาคิดอะไรมากเมื่อคนร้ายตัวจริงเปิดเผยแล้วคงไม่มีอะไรน่าห่วงเรื่องนี้ก็คงจ้องให้ทางตำรวจจัดการต่อไป
“ตอนนี้ตำรวจได้ออกหมายจับแล้วผมคิดว่าเจ้าตัวก็คงน่าจะยังไม่รู้ตัวนะครับ”
นิกรได้บอกให้ทางตำรวจจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบที่สุดเพื่อไม่ให้เจ้าตัวคนที่เป็นต้นเรื่องไหวตัวทัน
“เรื่องนี้ผมวานให้คุณกรจัดการด้วยนะครับ”
“ครับ”
ตอนนี้เหนือเมฆคงต้องวานให้นิกรดูแลเรื่องคดีนี้ไปก่อนส่วนเขาต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกาะเรื่องของที่เสียหายที่โดนขโมยและโดนทำลายแล้วก็ต้องจัดการระบบความปลอดภัยใหม่จึงจะกลับได้เรื่องคดีเมื่อถึงมือตำรวจแล้วเขาก็ไม่กังวล
2 อาทิตย์ต่อมา
บ้านอธิษฐ์เวหา
“คุณพ่อคะ...ดื่มน้ำผลไม้สักหน่อยนะคะ”
พาขวัญกับเหนือเมฆมาอยู่เป็นเพื่อนอิทธิวัฒน์ได้เป็นอาทิตย์แล้วหลังจากที่แขไขถูกตำรวจจับไปเรื่องราวทั้งหมดจึงปรากฏขึ้นจึงทำให้อิทธิวัฒน์เครียดหนักอยู่เหมือนกันที่พาคนเข้ามาในครอบครัวเพื่อทำลายครอบครัวตัวเองแท้ๆเขาจึงเอาแต่โทษตัวเองทำให้พาขวัญและเหนือเมฆต้องมาคอยอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาแต่ก็ยังดีที่เขารู้ว่าลูกของอรรณพกับเพียงฟ้านั้นปลอดภัยแล้วก็ยังอยู่ใกล้เขาตลอดเวลาอีกด้วย
“ขอบใจนะหนูขวัญ”
“แอ้ๆ...แอ้...อร๊ายย”
หนูน้อยจันทร์เจ้าตอนนี้ตัวกลมจนพาขวัญอุ้มนานไม่ไหวจึงต้องปล่อยให้นั่งอยู่บนรถเข็นเมื่อเห็นหน้าคนเป็นปู่ก็ยื่นไม้ยื่นมือจะให้อุ้มและยังไม่วายส่งเสียงดังเข้าข่มเพื่อจะให้คนเป็นปู่อุ้ม...ทั้งยังทำหน้าทะเล้นเรียกร้องความสนใจอีกด้วย
“คุณปู่ทำหน้าเศร้าอีกแล้ว...มีอะไรคุยกับจันทร์เจ้านะคะ”
พาขวัญอยากจะทำให้อิทธิวัฒน์ยิ้มออกได้บ้างดีที่บ้านนี้ยังมีหนูน้อยเพิ่มความสดใสให้กับทุกคนได้บ้าง
“เฮ่อะๆๆ...ทำหน้าทะเล้นใส่ปู่อีกแล้ว...”
อิทธิวัฒน์จำต้องเอื้อมมือไปอุ้มหลานตัวกลมของเขาเพราะเห็นจะอยากออกจากรถเข็นเหลือเกินพอคนเป็นปู่อุ้มหนูน้อยก็หันมามองด้วยสีหน้าทะเล้นพร้อมยิ้มปากบานให้คนเป็นปู่อย่างชอบใจ
“คุณปู่หัวเราะกับจันทร์เจ้าได้แล้วเห็นไหมคะ”
พาขวัญเห็นคนตรงหน้าหัสเราะได้เธอก็พลอยสบายใจไม่อยากจะเห็นพ่อของสามีเธอนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอีกต่อไปแล้ว
“เฮ้อ...พ่อต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน...พ่อไม่น่าไว้ใจคนผิดเลยจริงๆ”
อิทธิวัฒน์อดที่จะพูดโทษตัวเองไม่ได้เขาเกือบจะสูญเสียคนในครอบครัวไปทั้งหมดกับความรู้เท่าไม่ทันคนของเขา
“อืม...ขวัญคิดว่าถ้าคนเรารู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็คงจะไม่มีใครทำผิดพลาดหรอกค่ะ”
พาขวัญยังคงมีคำพูดดีๆปลอบใจคนอื่นอยู่เสมอคำพูดของเธอตั้งอยู่ในแง่ความเป็นจริงไม่มีใครอยากทำผิดพลาดแต่ถ้าหากมัวแต่โทษตัวเองก็คงจะไม่มีอะไรดีขึ้น
1 เดือนต่อมา
“จันทร์เจ้าขา...หนูจะกลิ้งไปไหนลูก”
“แอ้....อร๊ายย...”
พาขวัญเล่นกับหนูน้อยอยู่ที่ห้องโถงของบ้านที่อิทธิวัฒน์ยกห้องนี้ให้เป็นห้องของจันทร์เจ้าโดยเฉพาะดูท่าหนูน้อยจะชอบมากด้วยเพราะสามารถกลิ้งไปทางไหนก็ได้ตอนนี้จันทร์เจ้าได้ห้าเดือนกว่าแล้วกำลังจะคลานแล้วด้วยแต่ติดอยู่ตรงที่น้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะเลยประคองตัวยากนิดหน่อย
“ว้ายย”
ฟอดด
“แม่จันทร์เจ้าตัวหอมจังเลยครับ”
เหนือเมฆกลับจากทำงานมาที่แรกของทุกๆวันที่เขาจะมุ่งไปหาก็คือที่ๆมีจันทร์เจ้ากับหญิงสาวอยู่เป็นแบบนี้ประจำทุกวันวันนี้เขารู้สึกคิดถึงหญิงสาวอย่างมากเมื่อกลับมาถึงก็กอดหอมฟอดใหญ่เขารู้สึกว่าเขาโชคดีที่ได้เจอเธอผู้หญิงที่ดูแลทั้งเขาเองทั้งลูกและก็คุณพ่อของเขาอย่างดีด้วย
“พี่เหนือคะ”
พาขวัญเขินเล็กน้อยที่คนเป็นสามีมากอดหอมเธอในห้องที่เปิดโล่งเป็นกระจกหมดแบบนี้
“ว่ายังไงคนตัวกลมกลิ้งมาหาคุณพ่อเลยครับ”
เหนือเมฆหอมคนเป็นภรรยาจนชื่นใจแล้วเขาก็หันมาเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาบ้างชายหนุ่มไม่ได้เข้าไปอุ้มใกล้ๆแต่พยายามให้จันทร์เจ้านั้นพาตัวกลมๆมาหาเขาเอง
“อร๊ายยย...คิกๆๆ...อืมม”
หนูน้อยเห็นคนเป็นพ่อเล่นด้วยก็ยิ้มปากบานพยายามจะพาตัวเองมาให้ถึงคนเป็นพ่อให้ได้แต่ติดตรงที่เริ่มเหนื่อยแล้วนั่นเองเลยปล่อยตัวเองนอนแผ่กับพื้นยางพักยกก่อน
“555มาไม่ไหวแล้วติดพุงแตงโมใช่ไหมครับ”
“5555...จันทร์เจ้าขาหมดแรงแล้วเหรอลูก”
หนูน้อยกลายเป็นสีสันของบ้านที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้ทุกวันกับพฤติกรรมน่ารักๆของหนูน้อยตัวกลมคนนี้
21.30 น.“ช่วงนี้งานพี่ไม่ค่อยยุ่งแล้วขวัญอยากไปไหนไหม”เหนือเมฆนอนกอดพาขวัญอยู่บนเตียงนุ่มส่วนจันทร์เจ้าที่หลับแล้วก็นอนอยู่ในเปลช่วงนี้หนูน้อยค่อนข้างติดเปลอย่างมากตั้งแต่ที่ไปเกาะคราวนั้นแล้วช่วงนี้ชายหนุ่มเห็นว่างานทุกอย่างเริ่มลงตัวหมดแล้วเขาจึงอยากพาครอบครัวรวมทั้งตัวเขาเองไปพักผ่อนบ้างจึงอยากถามความเห็นจากคนเป็นภรรยาว่าอยากจะไปที่ไหน“พาคุณพ่อไปเที่ยวบ้างก็น่าจะดีนะคะ”พาขวัญเห็นด้วยกับชายหนุ่มที่จะไปหาที่เที่ยวพักผ่อนเพราะเธอก็อยากให้อิทธิวัฒน์ได้ออกจากบ้านบ้างเผื่อสภาพจิตใจจะดีขึ้นเพราะเธอรู้ว่าอิทธิวัฒน์ยังปลงไม่ตกเรื่องที่ผ่านมาถึงแม้จะใช้ชีวิตได้ปกติแล้วก็ตาม“ที่ไหนดีล่ะ”เหนือเมฆอยากรู้ว่าหญิงสาวอยากจะพาพ่อเธอไปที่ไหนเขาเองนึกไม่ค่อยออกเหมือนกันหากเป็นผับบาร์ก็คงจะรู้ดีเพราะเมื่อก่อนเขาเที่ยวสถานที่แบบนี้ค่อนข้างบ่อยหรือเรียกได้ว่าเกือบทุกวัน“อืม...ขวัญอยากไปเที่ยวที่บ้านบ้างได้ไหมคะ”พาขวัญเห็นว่าเธอไม่ได้กลับไปที่บ้านเธอที่ลำปางนานแล้วอีกอย่างที่นั่นก็อากาศดีและมีสถานที่เที่ยวอยู่เหมือนกันและอีกอย่างเธอก็เธออยากจะไปเยี่ยมเพื่อนเธอด้วยเห็นว่าเปิดร้านขายขนมไทยแล้วก็ขาย
ลำปาง18.00 น.หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นพระพายก็หนีกลับมาที่บ้านก่อนที่ภูผาจะกลับเธอปิดช่องทางการติดต่อจากชายหนุ่มทุกช่องทางและลาออกจากสำนักงานเธอใช้เงินที่พาขวัญทิ้งไว้ให้เจ็ดแสนมาเปิดร้านขายขนมไทยกับแม่เธอสองคนในตลาดที่อำเภอเป็นเดือนแล้วนานๆทีจะไปดูบ้านเธอกับพาขวัญสักครั้ง“แม่เหนื่อยไหม”ร้านขนมไทยของพระพายค่อนข้างขายดีเพราะฝีมือของมานีที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอนโดยมีพระพายเป็นลูกมือ“ขายของเยอะเห็นเงินแบบนี้มันก็หายเหนื่อย”มานีไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยเพราะเธอทำงานแล้วมันเห็นเงินความเหนื่อยก็หายไปปลิดทิ้ง“พรุ่งนี้แม่เตรียมทำสังขยารอเลยนะไอ้ขวัญน่าจะมาถึงตอนบ่ายๆ”พระพายตั้งหน้าตั้งตารอพาขวัญกลับมาเธอไม่ลืมที่จะเตือนแม่เธอให้ทำขนมของโปรดพาขวัญเอาไว้ให้เป็นเพราะเงินของเพื่อนเธอจึงทำให้เธอมีร้านจนทุกวันนี้“รู้แล้วล่ะน่า...”มานีเตรียมวัตถุดิบเอาไว้บางส่วนแล้วเธอไม่ลืมที่จะรอต้อนรับพาขวัญอยู่แล้ว“เออ...แม่ว่าแกไปดูบ้านให้หนูขวัญหน่อยก็ดีนะ”มานีเห็นว่าพาขวัญจะมาพรุ่งนี้แล้วเลยอยากให้ลูกสาวเธอไปดูบ้านให้เรียบร้อยเสียหน่อยเพราะไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์แล้ว“พายก็ว่าจะไปพอดีจะแม่...เดี๋ยวนอนท
“ใครใช้ให้คุณไปบอกพวกเค้ากันล่ะ...ทำให้มันเงียบไปก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”เธอคิดไว้แล้วว่าแม่เธอต้องมีอะไรบิดบังเธออยู่เป็นแน่แต่ก็ไม่ยักจะรู้ว่าแม่เธอกับชายหนุ่มหาเวลาไปคุยกันตอนไหนเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เรื่องเงียบไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องมาใส่ใจกับเธอแค่นี้ทุกอย่างก็จะเงียบและเธอก็จะทำใจกับเรื่องนี้ได้เอง“รักตัวองบ้างหรือเปล่า”ภูผาอยากจะรู้นักที่เขาทำตัวของเธอเสียหายขนาดนี้ยังอยากให้เขาเฉยกับมันได้อีก“รักสิถึงได้พยายามปกป้องความรู้สึกตัวเองอยู่นี่ไง”พระพายรักตัวเองอยู่แล้วที่เธอพยายามอยู่ห่างเขาไม่อยากเห็นอยากเจอเพราะเธอต้องการรักษาแผลใจของเธออยู่นั่นเอง“ไม่รู้ล่ะ...อีกสองวันเตรียมตัวรอได้เลยเราจะแต่งงานกัน”ภูผาชักเห็นว่าหญิงสาวจะไม่ยอมแต่โดยดีเขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับเสียแล้ว“นี่ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม....อื้มมม”พระพายต้องชะงักเมื่อจู่ๆชาหนุ่มก็ฉวยโอกาสบดจูบมาที่ปากบางของเอย่างไม่ได้ตั้งตัวแถมยังหนีเขาไปไหนไม่ได้เพราะแรงกอดรัดของเขา“ถ้ายังดื้ออีกเจอมากกว่านี้แน่...ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว”ภูผาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาเอาจริงชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบรีโมทปิดทีวีพร้อมพาหญิงสาวเข้าไปนอนในห
“หืมม...สังขยา”เมื่อถาดสังขยามาวางตรงหน้าหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะตักแบ่งใส่จานกินกับข้าวเหนียวมูนอย่างคำโต“ค่อยๆกินก็ได้ขวัญ...ไม่กลัวอ้วนเหรอ”เหนือเมฆไม่เคยเห็นพาขวัญทานเยอะขนาดนี้มาก่อนสงสัยนี่จะเป็นของโปรดจริงๆแต่ก็อดแซวไม่ได้ว่าภรรยาของเขาจะน้ำหนักขึ้น“ไม่ค่ะได้กินของโปรดทั้งที”พาขวัญไม่กลัวอะไรแล้วนานๆทีได้กินของโปรดฝีมือของมานีทั้งทีหญิงสาวจึงตักเข้าปากไม่หยุดและไม่มีท่าทีว่าจะอิ่มด้วยซ้ำจนคนอื่นๆรอบโต๊ะอาหารไม่มีใครกล้าตักแบ่งสังขยาในถาดเข้ามาในจานของตัวเองเลยเพราะกลัวว่าจะไปแย่งพาขวัญ“พายไม่กินเหรอ”ตอนนี้ทุกคนก็ต่างทานของหวานกันล้างปากมีอยู่คนเดียวที่ไม่กินเห็นจะเป็นพระพายพาขวัญจึงต้อถามขึ้นว่าเพื่อนเธอไม่หิวหรืออย่างไรหรือจะไดเอทไว้ใส่ชุดแต่งงานอันนี้เธอก็ไม่แน่ใจ“ไม่อ่ะ...ฉันมีไอ้นี่...กินด้วยกันไหม”พระพายรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินของหวานพวกนี้เท่าไรเพราะตอนนี้เธอมีมะม่วงน้ำปลาหวานที่ชวนน้ำลายสออยู่มือที่แม่ของเธอพึ่งจะยื่นให้เมื่อกี้นี้เอง“เอาสิ...”พาขวัญเห็นว่าอะไรอยู่ในมือเพื่อนของเธอก็ตาลุกวาวเธอรู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาในทันที“ยังไม่อิ่มอีกเหรอขวัญ”เหนือเมฆถึงกับผงะจ
3 เดือนต่อมาบ้านเหนือเมฆ“จันทร์เจ้าขา...อย่าหนีคุณแม่สิคะ”ตอนนี้ท้องของพาขวัญก็แก่ใกล้คลอดเต็มทีหญิงสาวจึงเดินตามลูกสาวของเธอไม่ค่อยจะไหวหนูน้อยจันทร์เจ้าก็ได้ขวบครึ่งแล้วเด็กหญิงเดินแทบจะทั้งวันหยุดได้ก็เห็นจะเป็นเวลานอนเท่านั้นแหละ“.หม่ำๆ หนมหย่อย”หนูน้อยเดินกลับมาหาคนเป็นแม่พร้อมชี้ไปที่ขนมผักที่อยู่ในกล่องแน่นอนว่าหนูน้อยอยากจะกินมันอีกแล้ว“หิวอีกแล้วเหรอคะ...อะนี่ค่ะคุณแม่ให้”พาขวัญเห็นว่าช่วงนี้จันทร์เจ้าชอบกินแต่ขนมจนเธอต้องให้เหนือเมฆซื้อติดบ้านไว้อาทิตย์ละหลายๆกล่องใจก็กลัวว่าหนูน้อยจะไม่สบายท้องแต่ก็เห็นหน้าอันจิ้มลิ้มและสายตาที่อ้อนวอนเธอก็อดจะให้หนูน้อยกินตามใจปากไม่ได้“เอา...”จันทร์เจ้ารับขนมจากคนเป็นแม่ใส่ในมือข้างขวาแต่มือข้างซ้ายก็แบขอคนตรงหน้าอีก“กินในมือให้หมดก่อนค่ะ”ถึงพาขวัญจะตามใจเรื่องกินแต่เธอก็ต้องให้จันทร์เจ้านั้นรู้จักกินทีละอย่างไม่โลภมากถือสองไม้สองมือ“กลับมาแล้วเหรอคะ”“จะ”ฟอดดด“จันทร์เจ้าครับ”เหนือเมฆเข้ามากอดคนเป็นภรรยาพร้อมหอมหญิงสาวฟอดใหญ่และหันไปเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาต่อ“คูนน.พ่อ...ดีจ้า”หนูน้อยจันทร์เจ้าเห็นคนเป็นพ่อกลับมาก็รีบเดิ
โรงพยาบาลในระหว่างที่เหนือเมฆเดินทางกลับพาขวัญก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพราะเธอรู้สึกปวดท้องอย่างมากเหนือเมฆเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากที่บ้านไปที่โรงพยาบาลอย่างร้อนใจ“ขวัญ...เป็นไงบ้าง”พยาบาลเข็นเตียงหญิงสาวเข้าห้องผ่าตัดเหนือเมฆอยากจะรู้ว่าอาการของภรรยาของเขาเป็นอย่างไรเพราะเขากลัวว่าเธอจะมีอันตรายส่วนเรื่องติดต่อกับเอมิกาเธอให้เดย์จัดการอยู่“ขวัญโอเคค่ะ...พาจันทร์เจ้ากลับมาให้ได้นะคะ”พาขวัญยิ้มให้คนเป็นสามีตัวเธอตอนนี้ถึงมือหมอแล้วเธอโอเคแต่เธอห่วงจันทร์เจ้ามากกว่า“พี่สัญญา”เหนือเมฆรู้สึกกังวลไปเสียทุกเรื่อถึงภรรยาของเขาจะบอกว่าโอเคแต่การผ่าตัดทำคลอดด่วนเขาก็รู้ว่ายังไงมันก็อยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดีแต่เขาก็ยต้องชั่งใจไม่ให้กังวลคิดเสียว่าภรรยาของเขาอยู่ในมือหมอแล้วคงจะปลอดภัย“ได้ที่อยู่มาแล้วครับคุณเหนือ”นภัสติดต่อกับเอมิกาได้ก็รีบมาบอกคนเป็นนายอย่างรีบร้อน“งั้นเราไปกันเลย”เหนือเมฆไม่รอช้าเมื่อติดต่อเอมิกาได้เงินที่เธออยากได้เขาก็เตรียมพร้อมหมดแล้วขอแค่เขาได้จันทร์เจ้าคืนมาเงินเท่าไรเขาก็ยอมแลกวันต่อมาช่วงเย็นของวัน“อือ.อืมม...”“ฟื้นแล้วเหรอ”เหนือเมฆรีบเดินไปที่เตียงภรรย
วันต่อมา“พี่ไปทำงานก่อนนะ”ได้เวลาที่ภูผาจะต้องไปทำงานแล้ววันนี้เขาไม่ยักจะเห็นหญิงสาวเดินมาส่งที่หน้าบ้านเขาจึงต้องเข้าไปบอกหญิงสาวเองว่าเขากำลังจะไปทำงานแล้ว“อืม...”พระพายตอบชายหนุ่มเพียงคำสั้นๆไม่มองเขาแม้แต่นิดเดียวเพราะกำลังให้นมลูกของเธออยู่“พ่อไปทำงานก่อนนะครับ”ภูผาไม่อยากจะหาเรื่องคุยกับหญิงสาวตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไรถึงได้มีท่าทีเฉยชาแต่ขอเขากลับจากทำงานก่อนค่อยคุยกันจะดีกว่าเขาก้มลงไปจูบหน้าผากของลูกสาวของเขาแล้วออกไปทำงานทันที//รู้บ้างไหมว่าโกรธอยู่เนี่ย//พระพายยิ่งเห็นชายหนุ่มไม่ถามอะไรเธอบ้างว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะอะไรก็ยิ่งหงุดหงิดแต่เมื่อมองหน้าลูกเธอก็ใจเย็นลงมากตอนนี้เธอขอสนใจแต่ลูกก่อนจะดีกว่ากลัวว่านึกถึงชายหนุ่มแล้วเธอจะพาลใจขุ่นมัวเย็นของวันภูผากลับบ้านมาได้พักใหญ่แล้วตอนนี้หญิงสาวก็เข้าครัวทำกับข้าวอยู่ส่วนลูกก็นอนเล่นอยู่ในเปลโดยมีเขาที่คอยอยู่ข้างๆชายหนุ่มนั่งคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตกว่าหญิงสาวนั้นเป็นอะไรกลับมาคิดว่าอาการจะดีขึ้นกลับเหมือนจะยิ่งกว่าเดิม“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”พระพายทำกับข้าวสองสามอย่างวางที่โต๊ะอาหารให้ชายหนุ่ม“พายเป็น
กรุงเทพมหานครบ้านอธิษฐ์เวหา22.00 น.“มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง”อิทธิวัฒน์ถึงกับล้มพับลงไปนั่งที่โซฟาเมื่อรู้ข่าวเรื่องลูกชายคนโตกับลูกสะใภ้เกิดอุบัติเหตุขณะกำลังพากันกลับบ้านหลังจากที่เพียงฟ้าลูกสะใภ้ของเขานั้นกลับจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังคลอดได้เพียงสามวันเท่านั้นเขาเองก็ยังไม่ได้เห็นหน้าหลานเลยด้วยซ้ำยิ่งร้ายไปกว่านั้นหลานของเขายังหายไปโดยไร้น่องรอยอีกต่างหากเขาไม่รู้ว่าเรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องอุบัติเหตุจริงๆหรือใครทำให้มันเกิดขึ้นกันแน่นิกรเองได้รับข่าวนี้มาก็ร้อนใจอยู่ไม่น้อยตอนนี้เขาก็ได้สั่งการให้ลูกน้องของเขาสืบดูอีกทีว่าที่มาที่ไปของอุบัติเหตุครั้งนี้มันคืออะไรกันแน่เขาเองปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ต์ว่าอรรณพนั้นเป็นคนไม่ประมาทถ้าไม่มีใครจงใจให้เกิดมันคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่“แล้วตาเหนืออยู่ไหนไปตามกลับมาเดี๋ยวนี้เลย”อิทธิวัฒน์เห็นว่าป่านนี้ลูกชายคนเล็กของเขายังไม่เห็นจะโผล่หัวกลับมาที่บ้านเสียทีจึงสั่งให้นิกรไปตามกลับมาด่วนเพราะตอนนี้ยังไงเขาก็ยังอยากให้ลูกชายของเขามารับรู้ข่าวของคนในบ้านไม่ใช่เอาแต่หายหัวไปอยู่แต่ข้างนอก“ครับคุณท่าน”นิกรได้รับคำสั่งจากอิทธิ