“เอ่อ...ในครัวมีผลไม้เต็มเลยเดี๋ยวน้าไปเตรียมมาให้หนูขวัญดีกว่านะจ๊ะพึ่งคลอดต้องกินของที่มีประโยชน์เยอะ”
แขไขเห็นว่าเธอต้องหลบไปสงบสติสักพักเพราะใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมดกลัวว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำมามันจะพัง
“ขอบคุณนะคะ”
“ไปยัยเอมไปช่วยแม่”
“เอ่อ...ค่ะ”
เอมิกาเห็นแม่ของเธอส่งสายตาแปลกๆมาให้เธอก็พอจะรู้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอจึงเดินตามแม่ของเธอออกไปแต่โดยดี
“หึ้ย...หมั่นไส้มันจริงๆ”
เมื่อมาถึงห้องครัวเอมิกาก็มือไม้สั่นเพราะต้องปั้นหน้ายิ้มให้พาขวัญอยู่นานพอควร
“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไปแน่”
แขไขเองก็เช่นกันเธอโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่
“แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะในเมื่อคุณเหนือก็จะแต่งงานอยู่แล้ว”
“ดีที่ฉันขัดไว้ก่อนได้ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องทำให้คุณอิทยกทุกอย่างให้พวกมันดูแลให้ช้าที่สุด”
ตอนนี้แขไขขอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะเป็นยังไงแต่เธอก็จะทำให้มันช้าที่สุดเท่าที่ช้าได้เพราะเธอต้องหาวิธีจัดการก่อนไม่คิดว่าจู่ๆเหนือเมฆจะมีลูกมีเมียแล้วคิดแต่งงานเสียรวดเร็วขนาดนี้
ทางด้านอิทธิวัฒน์
“แล้วทางบ้านหนูขวัญรู้เรื่องนี้หรือยัง”
อิทธิวัฒน์ก็อยากจะรู้ว่าทางบ้านพาขวัญรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเขาเองจะได้ไปสู่ขอพาขวัญตามประเพณี
“คือขวัญเธอเหลือตัวคนเดียวแล้วครับ”
“อ้าวเหรอ...ไม่เป็นไรๆยังไงหนูก็เป็นครอบครัวเดียวกับพ่อแล้วนะ”
“ค่ะคุณพ่อ”
“เรื่องแต่งงานให้เร็วที่สุดยิ่งดีนะตาเหนือ”
ถึงหญิงสาวไม่มีผู้ใหญ่ให้ไปสู่ขอเขาก็จะจัดงานแต่งให้เองเสียเลยเร็วที่สุดยิ่งดีเพราะคนที่เสียหายคือฝ่ายหญิง
“แอ้ๆ...แอ้...อืมม”
“ว่ายังไงเรากินนมไปเถอะไม่ต้องคุยหรอกให้ผู้ใหญ่เค้าคุยกัน555”
อิทธิวัฒน์หันไปคุยเล่นกับหนูน้อยที่ส่งเสียงเหมือนอยากจะคุยกับเค้าด้วยพร้อมหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู
“แกชอบคนคุยด้วยน่ะค่ะคุณพ่อ”
“ท่าทางจะคุยเก่งเหมือน....เอ่อ”
หนูน้อยที่คุยอ้อแอ้อย่างนี้ทำให้เขานึกถึงตอนที่ลูกชายคนโตของเขาคลอดมาแรกๆชอบคุยส่งเสียงดังแบบนี้ตลอดเลย
“เหมือนใครเหรอครับคุณพ่อ”
เหนือเมฆอยากจะรู้ว่าพ่อของเขานั้นหมายถึงใครกัน
“พี่แกไงเล็กๆก็ชอบส่งเสียงไม่หยุด”
อิทธิวัฒน์ตอบเสียงอ่อนยิ่งนึกถึงลูกชายคนโตเขาก็ยิ่งหน่วงในหัวใจ
“อืมม...เรื่องหลานพ่อยังเครียดอยู่ใช่ไหมครับ”
เหนือเมฆอยากจะรู้ว่าตอนนี้พ่อของเขาจะเอาอย่างไรต่อเรื่องที่ตามหาลูกของพี่ชายของเขา
“เห้อ...ฉันเริ่มจะหมดหวังแล้ว”
จนถึงวันนี้แล้วอิทธิวัฒน์ก็ทำใจได้สักครึ่งหนึ่งแล้วว่าโอกาสที่จะเจอมันคงจะเหลือน้อยเหลือเกิน
“คุณพ่ออย่าพึ่งหมดหวังนะครับผมเชื่อว่าหลานปลอดภัยแน่นอน”
เหนือเมฆต้องพูดให้คนเป็นพ่อไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักใจจริงเขาอยากจะบอกกับพ่อเขาเสียตอนนี้เลยแต่ก็อยากจะจับคนร้ายให้ได้คาหนังคาเขาเสียก่อน
“ฉันก็ขอให้เป็นแบบนั้น”
อิทธิวัฒน์ก็อยากให้ปาฏิหาริย์มีจริงเหมือนกัน
2 ชั่วโมงต่อมา
“ผมกลับก่อนครับ”
“พาหลานมาหาฉันบ่อยๆหน่อยนะ”
อิทธิวัฒน์ไม่อยากจะให้ลูกชายของเขากลับเท่าไรเพราะเขาอยากจะเล่นกับหลานตัวน้อยของเขาต่อรู้สึกว่าชีวิตของเขามันมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
“ว่างเมื่อไรผมพามาแน่นอนครับ”
เหนือเมฆไม่รับปากว่าเขาจะมาบ่อยๆได้หรือไม่แต่เขาก็จะพยายามหาเวลาว่ามาหาคุณพ่อของเขาแน่นอน
ระหว่างที่นั่งรถกลับพาขวัญมีเรื่องที่กังวลใจบางอย่างอยากจะคุยกับชายหนุ่มซึ่งเธอเห็นว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธออยู่มาก
“คือเรื่องแต่งงานทำไมไม่บอกขวัญก่อนคะ”
“ก็...คือ....มันพูดไปแล้ว”
เหนือเมฆไม่ได้ให้คำตอบหญิงสาวพูดเพียงว่าเขานั้นพูดมันออกไปแล้วยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้
“เฮ้อ...”
พาขวัญถอนหายใจออกมาเบาๆเธอคิดว่าเรื่องนี้มันคงจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆหากเธอแต่งงานก็ต้องมีคนรับรู้มากมายเรื่องนี้ที่เธอเป็นกังวลที่สุดเพราะมันจะไม่ใช่แค่เธอจะเป็นแม่ให้จันทร์เจ้าที่รับรู้แต่ในครอบครัวของชายหนุ่มแต่เธอจะต้องเป็นที่รับรู้ว่าเธอภรรยาของเขาในสายตาของคนมากขึ้นด้วย
บ้านเหนือเมฆ
“คุณพ่อพี่เหนือใจดีนะคะ”
เมื่อกลับมาถึงบ้านในระหว่างที่พาขวัญลงมือเข้าครัวเองเพราะรู้สึกอยากจะกินของโปรดอย่างยำรวมทะเลเธอเห็นเหนือเมฆเดินเข้ามาในห้องครัวจึงถือโอกาสนี้เอ่ยชมพ่อของชายหนุ่มที่เขานั้นดูใจดีกับเธอมากจริงๆทั้งที่พึ่งเคยเจอกันครั้งแรก
“อืม...ก็เห็นจะวันนี้นี่แหละที่คุยดี”
เหนือเมฆก็เห็นจะมีวันนี้นี่แหละที่พ่อของเขาไม่ได้มีเรื่องมาบ่นเขา
“พีเหนือคติไปเองหรือเปล่าคะ”
พาขวัญอยากจะบอกเป็นนัยๆว่าพ่อแม่ทุกคนไม่มีใครอยากจะบ่นลูกเท่าไรแต่ที่จะบ่นก็เพราะว่าห่วงมากกว่า
“เลิกพูดเถอะ....”
เหนือเมฆอยากจะให้หญิงสาวเจอแบบเขาเสียจริงแล้วจะรู้ว่าเขาไม่ได้อคติ
“เอ่อ...ค่ะ”
พาขวัญเห็นชายหนุ่มเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์แล้วจึงคิดว่าเธอเองจะหยุดพูดตามที่เขาบอกจะดีกว่าแล้วสนใจของตรงหน้าเธอแทน
“ท่าทางเธอจะอยากกินมันมากเลยสินะ”เหนือเมฆไม่อยากจะให้มันเสียบรรยากาศเพราะเห็นหญิงสาวหน้าหงอยไปแล้วจึงหันไปหาเรื่องคุยถึงเรื่องอาหารที่เธอทำแทน“ค่ะขวัญไม่ได้กินของแซ่บๆพวกนี้นานแล้ว”พาขวัญเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะสนใจอาหารที่เธอพึ่งเทลงจานจึงยื่นให้เขานั้นได้ดูว่ามันน่ากินแค่ไหน“ดูท่าจะเผ็ดน่าดู”เหนือเมฆเห็นสีของมันเขาก็มีอาการแสบท้องแล้วเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กอาหารรสจัดเขาจึงไม่คุ้นชินเท่าไร“อร่อยนะคะลองชิมสิคะ”พาขวัญยังอยากให้ชายหนุ่มลองชิมฝีมือของเธอเผื่อเขาจะชอบวันหลังเธอนั้นจะได้ทำอีก“อืม...ก็อร่อยดีนะแต่รสชาติมันเผ็ดไปหน่อย”เหนือเมฆใช้ส้อมจิ้มกุ้งชิ้นโตที่ปกคลุมไปด้วยพริกที่อยู่ในจานใส่ปากพร้อมเคี้ยวเขาว่ารสชาติมันก็อร่อยดีแต่ติดตรงที่มันเริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เหงื่อของเขาผุดอออกมาเต็มไปหมดหน้าก็เริ่มแดงขึ้นจนเขาต้องพ่นลมปากออกมาเพื่อระบายความเผ็ด“ท่าทางพี่เหนือจะกินเผ็ดไม่ได้เลยใช่ไหมคะเนี่ย”พาขวัญเห็นอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่ทานอาหารเผ็ด“ก็นิดหน่อย”ชายหนุ่มตอบอย่างรักษาฟรอมตัวเองทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ทานอาหารที่มีพริกเลยต่างหาก
“อ๋อ...อืมงั้นพักเถอะเดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูจันทร์เจ้าเอง”“ขอบคุณนะคะ”เหนือเมฆก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการข้างเคียงวันนั้นของเดือนของหญิงสาวมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงคืนนี้เขาก็อยากจะให้เธอพักเรื่องจันทร์เจ้าเขาคิดว่าเขาดูแลเองได้เช้าวันต่อมาบริษัทXXเครืออธิษฐ์เวหาบริษัทที่ที่เหนือเมฆดูแลอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่ขายอุปกรณ์กีฬาส่งให้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดส่วนมากลูกค้าเองเสียมากกว่าที่จะเดินเข้ามาขอซื้อของจากบริษัทที่นี่เพราะของคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมานาน“ท่านประธานคะตอนช่วงเช้าคุณมีนัดคุยกับคุณนิสาลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ”รตีทำหน้าที่รายงานงานสำคัญในวันนี้ให้เหนือเมฆดีรู้เขาจะได้เตรียมตัว“คุณนิสา”เหนือเมฆไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไรเพราะลูกค้าของเขาก็มากมายเสียเหลือเกินส่วนมากคนที่ติดต่อก็จะเป็นนภัสคนสนิทของเขาเสียมากกว่า“เจ้าของโรงเรียนนานาชาติค่ะ”รตีรู้ว่าเจ้านายของเธอคงจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครจึงย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกค้าประจำที่เป็นเจ้าของโรงเรียน“อ๋อ...ครับ”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจเขาพอจะนึกออกแล้วว่าเธอคนนี้เป็นใครวันนี้เขาต้องคุยกับเธอเองสินะเพราะทุ
“ไม่ค่ะแล้วแต่พี่เหนือเลยเราไม่ได้อยากแต่งกันจริงๆสักหน่อย”พาขวัญคิดไม่ออกหรอกว่าเธออยากจะได้ชุดแต่งงานแบบไหนเรื่องนี้เธอก็ขอแล้วแต่ชายหนุ่มเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ใช่งานแต่งของคนที่เค้ารักกันจริงๆเสียหน่อย“อืม...งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”“ค่ะ”เหนือเมฆรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไรเพราะดูเหมือนเขาไม่มีค่าในสายตาเธอคนอย่างเขามีคนมากมายที่อยากจะแต่งงานด้วยแต่หญิงสาวเปล่าเลยเธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้นสักนิดอันที่จริงเขาก็ควรดีใจที่หญิงสาวไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสนี้ผูกมัดเขาแต่มันก็อดหงุดหงิดหัวใจไม่ได้เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกันพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เสียจะดีกว่าลำปาง19.00 น.“กลับมาแล้วเหรอ...พายแกได้ยินข่าวคนเค้าพูดกันไหม”มานีเห็นลูกสาวกลับบ้านมาเธอก็เริ่มถามสิ่งที่กำลังกังวลใจตอนนี้ทันที“ข่าวอะไรเหรอแม่”พระพายอยากจะรู้นักว่าไอ้ข่าวที่คนเค้าคุยกันข่าวอะไรเพราะปกติแล้วเธอก็ไม่ยักจะเห็นแม่เธอใส่ใจกับเรื่องซุบซิบนินทาของชาวบ้านมากนัก“ก็ที่แกกลับบ้านพร้อมหัวหน้าแกทุกวันคนเค้าก็เอาไปพูดกันว่าแกไปค้างคืนกับหัวหน้าแกน่ะสิ”
หลายวันต่อมาหลายวันมานี้เหนือเมฆอยู่ติดบ้านมากขึ้นเรื่องผู้หญิงหรือเที่ยวกลางคืนแบบเดิมไม่มีให้เห็นเลยสักนิดนภัสที่เป็นคนสนิทเองก็ยังแปลกใจชายหนุ่มสบายใจที่จะอยู่แบบนี้พอเลิกงานเขาก็อยากจะกลับบ้านมาเจอพาขวัญกับจันทร์เจ้าเหมือนเขานั้นมีลูกมีภรรยารออยู่ที่บ้านจริงๆ“พี่ไปก่อนนะ”“ค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหนือเมฆต้องไปทำงานและจะต้องมีพาขวัญกับจันทร์เจ้าคอยยืนส่งทุกเช้าในสายตาคนอื่นทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่ดูจะรักกันมากแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจริงนั้นทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน“ตอนเย็นอย่าลืมทำของโปรดพี่รอไว้ด้วยล่ะ”“ค่ะ...พี่เหนือไต้องห่วงขวัญจัดการให้แน่ค่ะ”เดี๋ยวนี้ทุกเย็นพาขวัญจะเป็นคนลงมือทำอาหารเย็นเองเพราะชายหนุ่มค่อนข้างถูกปากกับอาหารฝีมือของเธอหญิงสาวเองก็มีความสุขที่ได้ทำอาหารให้ชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีความสุขอย่างมากมันเหมือนครอบครัวของเธอช่างแสนอบอุ่นจนลืมคิดไปว่าเธออยู่ที่นี่เพียงเพราะต้องเป็นแม่ของจันทร์เจ้าเท่านั้นช่วงบ่ายของวัน“คุณขวัญ”เอมมิการู้ว่าตอนนี้เหนือเมฆไม่ได้อยู่ที่บ้านเธอจึงถือโอกาสมาดูความเป็นอยู่ของพาขวัญกับลูกนิดหน่อยตามคำสั่งของแม่เธอว่าควร
“ไม่ได้หรอก...เอาแบบนี้จัดซื้อของจากที่อื่นมาทุนสูงกว่าก็ยอมต้องมีของพร้อมส่งให้ลูกค้าดีกว่าเสียเครดิต”เหนือเมฆจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเพราะลูกค้าจะขาดความเชื่อมั่นกับทางบริษัทหากเขาจะยอมขาดทุนนิดหน่อยเพื่อรักษาเครดิตในระยะยาวเขาเองก็พร้อมที่จะทำ“โอเคครับ...เดี๋ยวผมจะจัดการตอนนี้เลย”นภัสได้รับงานมาเขาก็ต้องรีบไปจัดการเรื่องนี้ทันทีเพราะต้องหาแหล่งซื้อของอย่างเร่งด่วน“ด...เดี๋ยวค่ะ.คุณจะไปไหนคะ??”รตีกำลังหัวหมุนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้าที่เอจะต้องช่วยนภัสเคลียร์ปัญหาเรื่องส่งของให้ลูกค้าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่ามีหญิงสาวกำลังจะเดินเข้าห้องเจ้านายของเธอจึงรีบลุกมาสกัดเอาไว้ก่อน“ฉันมาหาเหนือเธอเองก็น่าจะเคยเจอฉันแล้วนะ”แองจี้สาวสวยที่เหนือเมฆเคยคั่วกับเธอเล่นเธอนั้นมาที่นี่หลายครั้งจนคนที่นี่แทบจะจำหน้าได้เพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบตื๊อไม่เลิกนั่นเอง“เอ่อ...ค่ะ”รตีเห็นว่าผู้หญิงที่จะเดินเข้าออกห้องนี้เป็นเรื่องปกติที่เธอเคยเห็นแต่พักหลังมานี่ก็ไม่เห็นเจ้านายของเธอพาใครมาที่นี่แล้วเมื่อคิดดูอีกทีหากเจ้านายเขาไม่ได้เรียกเธอมาก็คงจะไล่ออกมาเองจึงปล่อยให้เข้าไปแต่โดยดี“ไห
“มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า”หลังจากที่แองจี้ออกไปเรียบร้อยแล้วเหนือเมฆก็พาหญิงสาวเข้ามานั่งด้านในพร้อมอยากรู้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกได้กล่าว“ขวัญเอาอาหารเย็นมาให้ค่ะ”พาขวัญยื่นกล่องอาหารที่เธอทำเสร็จแล้วให้เขาไหนๆเธอก็มานั่งตรงนี้แล้วอาหารก็ทำมาแล้วให้เขาเลยก็จะดีกว่าส่วนเรื่องเมื่อกี้เธอเองก็ลืมนึกไปว่าเธอไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะโกรธหรือจะงอนเขาด้วยซ้ำเธอเองที่เป็นฝ่ายลืมไป“ขอบใจนะที่อุตส่าห์เป็นห่วง”เหนือเมฆรับกล่องอาหารที่หญิงสาวยื่นให้พร้อมขอบคุณที่เธออุตส่าห์เป็นห่วงเขาเอาอาหารมาให้ถึงที่นี่“ขวัญขอตัวกลับก่อนนะคะ”พาขวัญยังอยากจะขอตัวกลับอยู่ดีเพราะเธอรู้ว่าเมื่อครู่นี้เธอได้มาขัดความสุขของเขา“เรื่องเมื่อกี้พี่อธิบายได้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”เหนือเมฆไม่อยากให้หญิงสาวเข้าใจเขาผิดเรื่องผู้หญิงหรือกับแองจี้เองเขาก็ไม่ได้คิดจะยุ่งตอนนี้ความรู้สึกของเธอเป็นเรื่องที่เขาห่วงมากที่สุด“ขวัญเข้าใจค่ะ...ขอโทษอีกครั้งที่มาไม่ได้บอกก่อน”พาขวัญปั้นหน้ายิ้มให้ชายหนุ่มเขาจะได้ไม่ต้องหาข้อแก้ต่างอะไรให้เธอได้ฟังอีกเขามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องบอกเธออันนี้เธอเข้าใจดี“
10 นาทีต่อมาคลินิกXXX“อ้าวขวัญมาแต่เช้าเลย...จันทร์เจ้าหลับอยู่เหรอ”ปกรณ์หมอหนุ่มที่รู้จักกับพาขวัญเจ้าของคลินิกแห่งนี้เมื่อเห็นพาขวัญอุ้มลุกน้อยมาก็รีบทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างสนิทสนมเพราะพาขวัญมักจะมาปรึกษาเขาอยู่บ่อยๆเรื่องการดูแลลูกของเธอ“ค่ะพี่หมอ”“คุณคงเป็นคุณพ่อจันทร์เจ้าสินะครับเชิญนั่งรอที่โซฟาด้านนอกก่อนนะครับ...ขวัญพาจันทร์เจ้าเข้าไปด้านในเลย”หมอหนุ่มให้เหนือเมฆนั่งอยู่ด้านนอกแล้วให้พาขวัญตามเขาไปด้านในกับเขาเพื่อที่จะฉีดวัคซีนให้กับจันทร์เจ้าเหนือเมฆต้องนั่งรอด้านนอกตามที่หมอหนุ่มสั่งเขาแปลกใจว่าหญิงสาวไปสนิทกับหมอคนนี้ตั้งแต่เมื่อไรยังไงเรื่องนี้เขาต้องคุยกับเธอยาวเป็นแน่ให้กลับไปที่บ้านก่อนเถอะ“แอ้...แง้งง...แง้งงงง”“โอ๋.ไม่ร้องนะคะคนเก่ง”พาขวัญพาจันทร์เจ้าเข้าไปในห้องกับหมอหนุ่มพักใหญ่แล้วจึงออกมาพร้อมกับเสียงร้องของหนูน้อยที่โดนฉีดวัคซีนไปหมาดๆ“ครั้งหน้ามาตามนัดด้วยนะครับ”“ค่ะพี่หมอขวัญกลับก่อนนะคะ”พาขวัญลาหมอหนุ่มเมื่อเสร็จธุระแล้วเธอก็ขอตัวกลับทันทีบ้านเหนือเมฆ“จันทร์เจ้าหลับแล้วเหรอ”เหนือเมฆนั่งรอหญิงสาวอยู่ที่หน้าห้องเขาได้ยินเสียงจันทร์เจ้าเงียบไปพักใ
1 ชั่วโมงต่อมาแกร๊ก“ขวัญ”เหนือเมฆเห็นพาขวัญออกมาจากห้องก็รีบเข้าไปคุยกับเธอแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไรพาขวัญออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยแอบมีกังวลเล็กน้อยเธอรู้อยู่แล้วว่าออกมาก็จะต้องเจอเขาแต่ในเมือเธออยู่ที่นี่ยังไงเธอก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี“เรื่องเมื่อกี้พี่ขอโทษ”เหนือเมฆไม่รู้ว่าเธออยากจะฟังที่เขาพูดหรือไม่แต่เรื่องก่อนหน้านี้เขาอยากจะขอโทษเธอที่ผิดสัญญาพาขวัญทำทีไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่มเธอเดินผ่านเขาไปอย่างหน้าตาเฉยไม่พูดไม่จากับเขาสักคำเพราะตอนนี้เธอไม่อยากจะพูดคุยกับเขาอีกต่อไปแล้วเธอรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย“ขวัญ”เหนือเมฆต้องจำใจปล่อยให้หญิงสาวอยู่คนเดียวไปก่อนเขาคิดว่าหากเวลาผ่านเลยไปเธออาจจะดีขึ้นกับเขาก็ได้เพราะยังไงเธอกับเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันอยู่แล้วลำปาง18.00 น.บ้านภูผา“ฝุ่นเยอะเป็นบ้าเลย...อ๊ะ...ว...ว๊ายย”พระพายใช้เก้าอี้ตั้งแล้วเธอก็ยืนบนเก้าอี้เพื่อที่จะขึ้นไปปัดฝุ่นที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มแต่เอดนเสียหลักล้มลงมาเสียก่อนพลั้กก“เฮ้ยย...คุณ...โอ้ยยย”ดีที่ภูผาเปิดประตูเข้าห้องมาพอดีเลยรับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้แต