1 ชั่วโมงต่อมา
แกร๊ก
“ขวัญ”
เหนือเมฆเห็นพาขวัญออกมาจากห้องก็รีบเข้าไปคุยกับเธอแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไร
พาขวัญออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยแอบมีกังวลเล็กน้อยเธอรู้อยู่แล้วว่าออกมาก็จะต้องเจอเขาแต่ในเมือเธออยู่ที่นี่ยังไงเธอก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
“เรื่องเมื่อกี้พี่ขอโทษ”
เหนือเมฆไม่รู้ว่าเธออยากจะฟังที่เขาพูดหรือไม่แต่เรื่องก่อนหน้านี้เขาอยากจะขอโทษเธอที่ผิดสัญญา
พาขวัญทำทีไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่มเธอเดินผ่านเขาไปอย่างหน้าตาเฉยไม่พูดไม่จากับเขาสักคำเพราะตอนนี้เธอไม่อยากจะพูดคุยกับเขาอีกต่อไปแล้วเธอรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“ขวัญ”
เหนือเมฆต้องจำใจปล่อยให้หญิงสาวอยู่คนเดียวไปก่อนเขาคิดว่าหากเวลาผ่านเลยไปเธออาจจะดีขึ้นกับเขาก็ได้เพราะยังไงเธอกับเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันอยู่แล้ว
ลำปาง
18.00 น.
บ้านภูผา
“ฝุ่นเยอะเป็นบ้าเลย...อ๊ะ...ว...ว๊ายย”
พระพายใช้เก้าอี้ตั้งแล้วเธอก็ยืนบนเก้าอี้เพื่อที่จะขึ้นไปปัดฝุ่นที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มแต่เอดนเสียหลักล้มลงมาเสียก่อน
พลั้กก
“เฮ้ยย...คุณ...โอ้ยยย”
ดีที่ภูผาเปิดประตูเข้าห้องมาพอดีเลยรับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้แต่ทั้งคู่ก็ล้มไปพร้อมๆกันหลังของภูผากระแทกกับขอบเตียงนอนเขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ้ยยย...”
พระพายเองก็รู้สึกเจ็บเหมือนกันเมื่อตัวของเธอล้มลงมากระแทกกับตัวของชายหนุ่มแต่เธอคงจะไม่เจ็บเท่าเขาเพราะเธอรู้ว่าที่ชายหนุ่มล้มลงมันกระแทกกับอะไร
“ทำไมทำอะไรไม่ระวังเลยล่ะคุณ”
ภูผาเอ่ยปากเตือนหญิงสาวให้ระวังเวลาจะที่อะไรเขาไม่อยากจะนึกเลยหากเขาไม่ได้เข้ามารับเธอทันอาการของเธอจะเป็นอย่างไรคงจะหัวฟาดขอบเตียงเป็นแน่
“ขอบคุณนะคะหัวหน้า”
หลังจากที่ทั้งสองลุกขึ้นได้พระพายกพาชายหนุ่มออกมั่งที่โซฟาด้านนอกพร้อมเอ่ยขอบคุณเขาที่ช่วยเธอเอาไว้จนตัวเองเจ็บตัว
“ไม่เป็นไร...โอ้ยย”
ภูผารู้สึกว่าเขาขยับตัวไม่ค่อยถนัดเพราะยังรู้สึกเจ็บที่หลังอยู่
“ฉันว่าหลังหัวหน้าคงจะช้ำเดี๋ยวฉันทายาให้นะคะ”
พระพายหยิบกล่องยาสามัญที่วางอยู่ที่ตู้วางทีวีพร้อมแกะกล่องออกมาหยิบหลอดยาทาแก้ฟกช้ำหมายจะทาให้ชายหนุ่มเพื่อบรรเทาอาการ
“ขอบคุณครับ...”
ภูผาเห็นว่าเขาได้ทายาก็ดีเหมือนกันเพราะน่ากลัวว่าคืนนี้จะต้องปวดแน่นอนชายหนุ่มถอดเสื้อที่เขาใส่ออกเผยกล้ามหลังที่เป็นมัดๆปรากฏต่อสายตาหญิงสาวอย่างไม่ได้คิดอะไรเพื่อให้เธอทายาให้เขาได้สะดวก
“เอ่อ...ตรงนี้ใช่ไหมคะ.”
พระพายถึงกับตาโตเพราะตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งจะเคยเห็นร่างบึกบึนของผู้ชายต่อหน้าต่อตาเธอใกล้ๆเป็นครั้งแรกนี่แหละตอนนี้ใบหน้าเธอเห่อร้อนแดงขึ้นอย่างคุมไม่ได้
พลางมองไปที่กลางหลังของชายหนุ่มได้ครู่หนึ่งเห็นรอยแดงเป็นทางยาวแล้วจึงหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ใจของเธอเต้นเป็นปกติพร้อมใช้มือสัมผัสเล็กน้อยถามว่าเขาเจ็บบริเวณที่เธอแตะใช่หรือไม่พร้อมชักมือกลับมาหยิบหลอดยาเปิดและบีบใส่ปลายนิ้วของเธอและป้ายไปที่หลังของเขา
“ครับทาให้ทั่วเลยก็ได้คืนนี้คงจะปวดน่าดู”
ภูผาคิดว่าทายาให้ทั่วหลังของเขาเลยยิ่งดีเพราะมันน่าจะปวดระบมไปทั่วแน่นอน
“ค...ค่ะ”
พระพายไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจเธอต้องเต้นแรงขึ้นด้วยมือของเธอก็ยังคงทำหน้าที่ทายาให้เขาเช่นเดิมแต่ตาของเธอไม่สามารถมองแผ่นหลังของเขาได้นานเลยจริงๆ
“อืม...อีกไม่กี่วันก็งานแต่งของคุณขวัญกับเพื่อนผมแล้วนี่คุณเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง”
ภูผาจำได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะเป็นงานแต่งงานของเหนือเมฆกับพาขวัญแล้วเขาเลยอยากรู้ว่าเพื่อนสนิทอย่างพระพายเตรียมตัวที่จะไปงานแต่งของเพื่อนแล้วหรือยัง
“เตรียมอะไรคะ....”
พระพายไม่เข้าใจว่าเธอจะไปงานแต่งเพื่อนต้องเตรียมตัวอะไรล่วงหน้าด้วย
“พวกชุดอะไรแบบนี้ผู้หญิงเค้าต้องเตรียมล่วงหน้ากันไม่ใช่เหรอ”
ภูผาหมายถึงเรื่องชุดอะไรแบบนี้เพราะเขาเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแฟนเก่าของเขาจะไปงานไหนทีเตรียมตัดชุดรอเป็นเดือนๆเสื้อผ้าหน้าผมต้องเป้ะที่สุด
“อ๋อ...เรื่องนั้นขวัญบอกว่าเตรียมให้ฉันแล้วค่ะ...แหมหัวหน้านี่รู้เรื่องผู้หญิงดีนะคะ”
พระพายพยักหน้าเข้าใจเรื่องชุดเธอไม่ได้ห่วงเพราะพาขวัญบอกว่าเตรียมให้เธอไว้แล้วเมื่อไปวันงานก็หยิบใส่ได้เลยเธอเลยไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนักพลางคิดว่าชายหนุ่มช่างรู้เรื่องผู้หญิงดีเหลือเกินถ้าหากเขามีแฟนก็คงจะไม่แปลกแต่นี่ไม่ใช่
“เอ่อ...ผมก็แค่เคยได้ยินมา”
ภูผาไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องที่ว่าเขารู้มาได้อย่างไรเท่าไรได้แต่เพียงพูดปัดว่าคนทั่วไปก็รู้เรื่องแบบนี้
19.00 น.
“กลับมาแล้วเหรอ”
มานีเห็นลูกสาวเธอกลับมาก็ทักทายตามปกติ
“จ๊ะแม่”
“แม่อยากให้แกเลิกรับงานนี้จะได้ไหม”
มานีอยากให้ลูกสาวเธอเลิกรับงานเป็นแม่บ้านให้หัวหน้าของลูกเธอเพราะเมื่อเวลายิ่งผ่านมาเรื่อยๆคนก็ยิ่งพูดถึงกันหนาหูมันไม่ได้ซาลงอย่างที่ลูกเธอคิดไว้สักนิด
“ทำไมเหรอแม่”
พระพายไม่รู้ว่าแม่ของเธอคิดมากอะไรอีก
“ก็แม่เห็นคนเค้าไม่เลิกพูดกันเองแกซะทีจนตอนนี้แม่ไม่ไหวจะเถียงแล้วนะ”
“แม่เครียดกับเรื่องนี้มากเลยเหรอจ๊ะ”
พระพายได้ยินแม่เธอพูดเรื่องนี้สองหนแล้วแสดงว่าเรื่องนี้มันเป็นผลกระทบต่อจิตใจของแม่เธอมากจริงๆ
“ก็แม่เป็นห่วงที่สุดก็คือแกตัวแกจะเสียหายเอา...แล้วกลับดึกๆแบบนี้อยู่บ้านกับหัวหน้าแกสองต่อสองมันปลอดภัยแน่เหรอ”
มานีอดคิดไม่ได้ว่าลูกเธอจะเสียหายแล้วอีกอย่างที่เธอคิดมานานแล้วแต่ไม่อยากพูดเพราะไว้ใจลูกสาวเธอแต่มันก็ต้องพูดเพราะผู้หญิงผู้ชายที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันทั้งคู่อยู่ใกล้กันถึงแม้ว่าลูกเธอจะไม่ทำอะไรเสียหายแต่เธอก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะทำลูกเธอเสียหายจริงๆอย่างที่คนเค้าลือกันน่ะสิ
“หัวหน้าเค้าจะมาคิดอะไรกับพายล่ะแม่...แม่ไม่ต้องคิดมากหรอก”
พระพายรู้ว่าแม่เธอหมายถึงอะไรเธอเลยต้องบอกให้แม่เธอเชื่อใจได้ว่าหัวหน้าของเธอมีความเป็นสุภาพบุรุษพอและท่าทางเขาก็ไม่ได้มาคิดอะไรในเชิงชู้สาวกับเธอด้วย
“แล้วแกคิดอะไรกับเค้ารึเปล่า”
มีอยากจะถามให้แน่ใจว่าลูกสาวเธอออกโรงปกป้องหัวหน้าตัวเองขนาดนั้นไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่ายแน่หรือไม่เพราะพักหลังมานี้เห็นลูกสาวของเธอดูอ่อนโยนอ่อนไหวง่ายขึ้นแปลกๆเธออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะไม่รู้
“หา...อ...เอ่อ....ถามอะไรอย่างนี้ล่ะแม่พายจะไปคิดอะไรกับหัวหน้าล่ะ....เอาเป็นว่าพายขอเวลาให้พ้นงานแต่งไอ้ขวัญไปก่อนนะแม่แล้วพายจะลาออก”
พระพายถึงกับอึกอักเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอพร้อมตอบปฏิเสธไปในใจของเธอก็ยังคิดไม่ตกเหมือนกันว่าเธอคิดอะไรกับอีกฝ่ายหรือเปล่าแต่ก็พยายามเข้าข้างตัวเองว่าเธอบริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับหัวหน้าของเธอแน่นอนเธอขอเวลาอีกนิดเท่านั้นให้ผ่านงานของเพื่อนเธอไปก่อนเพราะเธอยังเสียดายเงินอยู่
18.30 น.บ้านเหนือเมฆ“แอ้...แอ้......”“ขวดที่สองแล้วน้าคนเก่งของแม่จะกินจุเกินไปแล้วนะ”พาขวัญนั่งคุยเล่นกับหนูน้อยอย่างอารมณ์ดีเธอรู้สึกว่าหนูน้อยตัวกลมจะกินเก่งขึ้นทุกวันแต่เท่าที่เธอปรึกษากับปกรณ์แล้วก็นับว่าจันทร์เจ้านั้นน้ำหนักยังเป็นไปตามเกณฑ์เธอจึงไม่ได้กังวลอะไรมากนัก“แอ้...อืมม”“แตงโมจะแตกแล้วมั้งงงง....ใช่ไหมคะ....ฮั่นแน่อมยิ้มด้วย”หญิงสาวจับพุงหนูน้อยเล่นเบาๆแกมหยอกหนูน้อยก็แสนฉลาดรู้ว่าเธอกำลังเล่นด้วยก็ส่งยิ้มโชว์เหงือกให้เธอได้เห็น“จันทร์เจ้าครับ...”ฟอดดด“พ่อคิดถึงหนูที่สุดเลยยย”เหนือเมฆกลับจากทำงานมาก็ตรงเข้ามาหาหนูน้อยด้วยความคิดถึงโดยไม่ได้สนใจว่ามีหญิงสาวอยู่ใกล้ๆเพราะเธอทำเป็นไม่สนใจเขาก่อนหลายวันมาแล้วตั้งแต่ที่ทะเลาะกันเมื่อหอมหนูน้อยชื่นใจพอแล้วเขาก็เดินไปที่หน้าห้องน้ำพร้อมถอดเสื้อผ้าโชว์หราอย่างไม่ได้อายว่ามีหญิงสาวอยู่ในห้องด้วยเธอทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเขาก็ทำได้เหมือนกันในเมื่อเขาขอโทษเธอแล้วยังไม่หายงอนเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว“เฮ้อ...”//อะไรของเค้า....นึกจะถอดก็ถอดไม่ได้อายเลยหรือยังไง//พาขวัญถึงกับต้องเบี่ยงหน้ามองไปทางอื่นไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ
“ไม่เป็นไรฉันยืนเฉยๆเอาก็ได้...อิๆๆ”พระพายไม่อยากจะทำตัวให้เป็นปัญหางานมันมีไม่กี่ชั่วโมงเธอทนได้“นี่คุณ...เกาะผมไว้ก็ได้”ภูผาเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอเดินไม่ถนัดจึงยื่นแขนไปให้หญิงสาวเกาะเขาพาเธอมาด้วยเขาก็ต้องดูแลเธออยู่แล้ว“ขอบคุณนะคะหัวหน้า”พระพายรู้สึกเขินแปลกๆที่เห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดนี้เธอไม่ปฏิเสธว่าวันนี้เขาดูดีมากจริงๆเธอค่อยๆก้าวไปเกาะแขนเขาเอาไว้พร้อมขอบคุณที่ชายหนุ่มยื่นมือมาช่วยเธอ“ยินดีด้วยนะคะเหนือ.เจ้าสาวสวยมากเลยนะคะ”หญิงสาวในชุดสีครีมเธอดูสง่าอย่างมากในทุกการย่างก้าวเธอเดินมาหาบ่าวสาวพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรและเอ่ยคำยินดีกับเหนือเมฆและพาขวัญ“ขอบคุณครับแพท...นี่บินตรงมาจากลอนดอนเลยเหรอครับ”เหนือเมฆไม่คิดว่าแพทริเซียจะบินมาจากลอนดอนเพื่อมางานแต่งของเขาเพราะเขารู้อยู่ว่าเพื่อนของเขางานค่อนข้างยุ่ง“งานเพื่อนทั้งทีทำไมจะไม่มาล่ะคะ...สบายดีนะคะ”แพทริเซียไม่พลาดงานของเพื่อนรักเธออยู่แล้ว“ครับผมสบายดี”“แล้วคุณล่ะคะภูสบายดีนะคะ”แพทริเซียลืมที่จะทักทายภูผาซึ่งเธอและเขาเคยสนิทกันมากแต่มีเหตุที่ต้องจากกันด้วยเหตุผลส่วนตัว“ครับ...คุณอยู่ที่โน่นสบายดีนะครับ”ภูผายิ้มอ่
“ปล่อยขวัญ...อย่าลืมสัญญาที่ให้ขวัญเอาไว้สิคะ”พาขวัญรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจึงย้ำเตือนสิ่งที่ชายหนุ่มเคยให้สัญญากับเธอเอาไว้เผื่อว่าเขาจะหยุดการกระทำนี้ลง“ขอยกเลิกตอนนี้เลยก็แล้วกัน”เหนือเมฆไม่สนใจคำสัญญาอะไรนั่นแล้วตอนนี้อารมณ์โมโหหึงเธอมันครอบงำเขาไปหมดทุกอย่างแล้ว“ปล่อย...อื้มมมม”พาขวัญพยายามดิ้นให้พ้นพันธนาการจากเสือร้ายที่ล็อคตัวเธอเอาไว้อยู่แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จทั้งยังโดนลุกล้ำโดยริมฝีปากหนาและลิ้นร้ายของชายหนุ่มอีกด้วย“อร้ายย...อื้อ...”ชุดแต่งงานสีขาวงามฟูฟ่องถูกฉีกเป็นชิ้นๆออกจนหมดโดยฝีมือของชายหนุ่มมือหนากดบีบเค้นสองเต้างามอย่างไม่ได้กลัวว่าคนใต้ร่างจะรู้สึกเจ็บคนตัวโตรีบถอดเสื้อผ้าของเขาออกเพราะตัวตนของเขามันพร้อมเต็มที่แล้วหลังจากที่ห่างหายเรื่องแบบนี้มาพักใหญ่“อื้อ...อื้มม”ชายหนุ่มบดเบียดตัวเองเข้าแทรกกลางระหว่างตัวของหญิงสาวพร้อมทั้งดันตัวตนของเขาไปที่ช่องทางรักของหญิงสาวอย่างรวดเร็วเขาไม่ปล่อยให้เธอได้ร้องออกมาโดยการใช้ริมฝีปากหนาบดเบียดริมฝีปากบางอย่างโหยหิว...ปลั้กก...ปึกกมือของหญิงสาวเมื่อดิ้นหลุดพันธนาการจากชายหนุ่มได้เธอก็ทั้งจิกทั้งข่วนคนที่กำลังย่ำยีทั
“คุณครับ...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”“เอ่อ..ฉันแค่ข้อเท้าแพลงน่ะค่ะ”“เดี๋ยวผมพาไปนั่งพักนะครับ”“ขอบคุณค่ะ”เทวากำลังจะกลับไปพักที่ห้องของเขาพอดีเมื่อเห็นหญิงสาวล้มลงตรงหน้าเลยต้องช่วยพยุงตัวเธอไปหาที่นั่งพักก่อน“อืม...นี่ครับ...มันเจ็บมากเลยใช่ไหมครับถึงขนาดร้องให้เลย”เทวาพาหญิงสาวมานั่งเก้าอี้ของทางโรงแรมพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอได้เช็ดน้ำตาเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวเจ็บข้อเท้ามากขนาดไหนถึงได้ร้องให้น้ำตามาเป็นสายขนาดนี้“คุณเป็นอะไร...แล้วพี่เทพมาอยู่กับเธอได้ยังไงครับ”ภูผาเดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อยเมื่อเห็นเทวาพี่ชายของเขากำลังดูขาของหญิงสาวอยู่จึงอยากรู้ว่าเธอนั้นเป็นอะไรและพี่ชายของเขามาอยู่กับเธอได้อย่างไร“ฉันเห็นเธอล้มก็เลยพามานั่งพักน่าจะข้อเท้าแพลง”เทวาเห็นน้องชายของเขาเดินมาทักหญิงสาวก็รู้ว่าทั้งคู่น่าจะรู้จักกัน“ไหนผมขอดูหน่อย”“ไม่ต้องค่ะ...ไม่เป็นอะไรแล้ว”ภูผากำลังจะก้มลงไปดูข้อเท้าให้พระพายแต่หญิงสาวชักข้อเท้ากลับเธอไม่อยากให้เขามายุ่งกับเธอตอนนี้“ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน”หญิงสาวถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออกพร้อมหันไปขอบคุณชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยเธอเมื่
“ว้ายยยย”ภูผาใช้มือหนากระชากหญิงสาวเอาไว้จนเธอนั้นเซมาเกาะที่ตัวของเขาและล้มลงที่เตียงนุ่มด้วยกัน“อื้อ...ปล่อยย.”พระพายพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็โดนคนตัวโตทับเอาไว้“ไม่ปล่อย”ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบยิ่งชายหนุ่มได้เห็นหน้าหญิงสาวใกล้ๆเขายิ่งแปลกใจว่าใบหน้าของเธอทำไมถึงทำให้เขาใจสั่นได้ถึงขนาดนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”พระพายรู้สึกว่าสายตาของชายหนุ่มมองเธอแปลกๆจนเธอรู้สึกได้ว่ามันไม่น่าไว้ใจเพราะอีกฝ่ายก็อยู่ในอาการมึนเมาอีกด้วย“อื้มมมมม....”ภูผาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากจูบเธอความต้องการในร่างกายของเขามันพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจนเขายับยั้งมันเอาไว้ไม่ได้เมื่อริมฝีปากหนาแระกบกับริมฝีปากบางของเธอลิ้นร้ายก็ทำหน้าที่ของมันเข้าไปตักตวงความหวานด้านในโพรงปากเล็กทันที“อื้อ...อร้ายย...อ.ไม่”พระพายพยายามพาตัวเองออกจากตรงนี้จนสุดฤทธิ์ถึงเธอจะชอบเขาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปล่อยตัวให้เขาอย่างว่าง่ายและเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้เช่นกันเธอเป็นคนเธอมีศักดิ์ศรีหากเขาหยามก็คือการไม่ให้เกียรติซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่เธอรับไม่ได้ลมหายใจของชายหนุ่มแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆและไม่ได้สนใจคำทัดทานข
ฟอดดด“พี่เหนือ”เหนือเมฆไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปตอนส่งจันทร์เจ้าให้กับหญิงสาวเขาก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่กลิ่นหอมอ่อนๆของตัวเธอทำให้เขาอดกดจมูกลงไปที่แก้มเธอไม่ได้จริงๆพาขวัญอยากจะยกมือฟาดคนตรงหน้าเสียทีที่ฉวยโอกาสกับเธอเรื่อยแต่ติดตรงที่ต้องอุ้มหนูน้อยแล้วเขาก็หนีเธอออกไปเร็วเสียเหลือเกินพาขวัญกล่อมจันทร์เจ้าได้ไม่นานหนูน้อยก็หลับไปหญิงสาวจึงเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วล้มตัวนอนลงด้วยความเพลียเพราะเมื่อวานเธอก็เหนื่อยมาทั้งวันหนำซ้ำกลางคืนที่จะได้พักก็ยังถูกชายหนุ่มรังแกอีกถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ใกล้เขามากก็จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่“....หึ่......”เหนือเมฆเพียงแค่กลับไปนอนที่เดิมของเขาให้หญิงสาวตายใจเท่านั้นมีหรือเขาเปลี่ยนสถานะกับเธอแล้วเขาจะยอมนอนข้างล่างต่อไปชายหนุ่มค่อยๆเดินให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้หญิงสาวรู้ตัว“พี่เหนือปล่อยนะคะ”เมื่อได้จังหวะเขาก็ทิ้งตัวลงนอนข้างๆหญิงสาวพร้อมรวบตัวเธอมานอนกอดอย่างสบายใจพาขวัญคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงชายหนุ่มต้องหาทางฉวยโอกาสกับเธออีกแน่เพราะเขาพูดเองว่าจะไม่รักษาสัญญาอีกต่อไป“ไม่ปล่อย...จะนอนกอดเมียบ้างไม่ได้หรือไง”เหนือเ
“ได้ครับคุณพ่อไม่ต้องห่วง...”เรื่องแค่นี้เหนือเมฆไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเดี๋ยวทางนี้เขาจะให้นภัสเป็นคนดูแลแทนทุกอย่างแล้วเขาจะไปกับนิกรคนสนิทของพ่อเขาเอง“หืม...”พาขวัญเดินออกไปซื้อกาแฟจากร้านกาแฟสดแถวหน้าโรงพยาบาลเธอเดินกลับมาหมายจะไปที่ตึกของพ่อชายหนุ่มแต่เธอแอบเห็นแขไขยืนหลบมุมคุยกับใครบางคนอยู่แบบลับๆล่อๆด้วยความที่เธอเดินใกล้กับมุมตรงนั้นมากเลยทำให้ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่ไม่ค่อยชัดเท่าไร“ดีเรียบร้อยก็ดีฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงต้องไปที่นั่น”“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”//เรื่องอะไรกันนะ//เมื่อรู้ตัวว่าทั้งสองกำลังจะเดินออกมาเธอจึงเดินเลี่ยงไปที่อื่นก่อนแต่ก็ยังสงสัยเอามากๆอยู่ดีว่าแขไขนั้นไปคุยอะไรลับๆล่อๆกับผู้ชายที่ท่าทางใม่น่าไว้ใจคนนั้นเรื่องอะไรวันต่อมา“ผมอยากให้หมอตรวจให้ละเอียดนะครับว่าอาหารพวกนี้มีสารปนเปื้อนอะไรบ้างแล้วในตัวพ่อของผมก็อยากจะให้หมอตรวจเลือดให้ละเอียดทุกอย่าง...ค่าใช้จ่ายเท่าไรไม่เกี่ยง...และขอให้เรื่องเงียบที่สุดแม้แต่ตัวภรรยาของพ่อผมก็ห้ามรู้”“ผมจะจัดการให้ครับ”เหนือเมฆอยากจะจัดการธุระทางนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เขาจะไปเรื่องนี้เขาค่อนข้างระแคะ
“ช่วยฉันด้วย...ช่วยด้วย”หญิงสาวที่เสื้อผ้ามีแต่เลือดนั่งอยู่มุมห้องกำลังมองมาทางเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวดเพื่อขอความช่วยเหลือตอนนี้พาขวัญทำอะไรไม่ถูกจึงรีบกดมือถือโทรหาเหนือเมฆก่อนRrrrrrrrr“มีอะไรเหรอขวัญ...ว่ายังไงนะ”เหนือเมฆได้รับสายจากพาขวัญเรื่องที่ได้ฟังมันไม่ค่อยดีเท่าไรจึงคิดว่าเขาจะต้องพักงานตรงนี้เอาไว้ก่อนเพื่อกลับไปดูแลพาขวัญเขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่พาเธอกับจันทร์เจ้ามาที่นี่ด้วย“คุณกรผมต้องกลับไปที่บ้านก่อนมีธุระด่วน”เหนือเมฆฝากฝังนิกรให้อยู่ดูงานที่นี่แทนเขาไปก่อนเพราะเขาต้องรีบกลับไปที่บ้านพักด่วน“ครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูต่อเอง”นิกรรู้ว่าที่บ้านต้องมีอะไรแต่ไม่อยากถามให้คนที่นี่ต้องแตกตื่นเขาจะอยู่เคลียร์ปัญหากับอัศวินเองบ้านพัก“เธอเป็นยังไงบ้าง”เมื่อมาถึงบ้านเหนือเมฆก็รีบวิ่งเข้ามาหาพาขวัญที่นั่งหน้าตาซีดเซียวอยู่อย่างเห็นได้ชัดที่หญิงสาวโทรไปบอกเขาว่ามีผู้หญิงถูกยิงเข้ามาในบ้านเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง“หมอกำลังทำแผลให้อยู่ค่ะดีที่เธอถูกยิงแค่ถากๆ”พาขวัญเห็นหมอที่ดูแผลของเธอแล้วก็ค่อนข้างสบายใจเพราะแผลเป็นเพียงแค่การโดนยิงถากๆเท่านั้