Share

ตอนที่22

1 ชั่วโมงต่อมา

แกร๊ก

“ขวัญ”

เหนือเมฆเห็นพาขวัญออกมาจากห้องก็รีบเข้าไปคุยกับเธอแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไร

พาขวัญออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยแอบมีกังวลเล็กน้อยเธอรู้อยู่แล้วว่าออกมาก็จะต้องเจอเขาแต่ในเมือเธออยู่ที่นี่ยังไงเธอก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

“เรื่องเมื่อกี้พี่ขอโทษ”

เหนือเมฆไม่รู้ว่าเธออยากจะฟังที่เขาพูดหรือไม่แต่เรื่องก่อนหน้านี้เขาอยากจะขอโทษเธอที่ผิดสัญญา

พาขวัญทำทีไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่มเธอเดินผ่านเขาไปอย่างหน้าตาเฉยไม่พูดไม่จากับเขาสักคำเพราะตอนนี้เธอไม่อยากจะพูดคุยกับเขาอีกต่อไปแล้วเธอรู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“ขวัญ”

เหนือเมฆต้องจำใจปล่อยให้หญิงสาวอยู่คนเดียวไปก่อนเขาคิดว่าหากเวลาผ่านเลยไปเธออาจจะดีขึ้นกับเขาก็ได้เพราะยังไงเธอกับเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันอยู่แล้ว

ลำปาง

18.00 น.

บ้านภูผา

“ฝุ่นเยอะเป็นบ้าเลย...อ๊ะ...ว...ว๊ายย”

พระพายใช้เก้าอี้ตั้งแล้วเธอก็ยืนบนเก้าอี้เพื่อที่จะขึ้นไปปัดฝุ่นที่ตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มแต่เอดนเสียหลักล้มลงมาเสียก่อน

พลั้กก

“เฮ้ยย...คุณ...โอ้ยยย”

ดีที่ภูผาเปิดประตูเข้าห้องมาพอดีเลยรับตัวหญิงสาวเอาไว้ได้แต่ทั้งคู่ก็ล้มไปพร้อมๆกันหลังของภูผากระแทกกับขอบเตียงนอนเขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“โอ้ยยย...”

พระพายเองก็รู้สึกเจ็บเหมือนกันเมื่อตัวของเธอล้มลงมากระแทกกับตัวของชายหนุ่มแต่เธอคงจะไม่เจ็บเท่าเขาเพราะเธอรู้ว่าที่ชายหนุ่มล้มลงมันกระแทกกับอะไร

“ทำไมทำอะไรไม่ระวังเลยล่ะคุณ”

ภูผาเอ่ยปากเตือนหญิงสาวให้ระวังเวลาจะที่อะไรเขาไม่อยากจะนึกเลยหากเขาไม่ได้เข้ามารับเธอทันอาการของเธอจะเป็นอย่างไรคงจะหัวฟาดขอบเตียงเป็นแน่

“ขอบคุณนะคะหัวหน้า”

หลังจากที่ทั้งสองลุกขึ้นได้พระพายกพาชายหนุ่มออกมั่งที่โซฟาด้านนอกพร้อมเอ่ยขอบคุณเขาที่ช่วยเธอเอาไว้จนตัวเองเจ็บตัว

“ไม่เป็นไร...โอ้ยย”

ภูผารู้สึกว่าเขาขยับตัวไม่ค่อยถนัดเพราะยังรู้สึกเจ็บที่หลังอยู่

“ฉันว่าหลังหัวหน้าคงจะช้ำเดี๋ยวฉันทายาให้นะคะ”

พระพายหยิบกล่องยาสามัญที่วางอยู่ที่ตู้วางทีวีพร้อมแกะกล่องออกมาหยิบหลอดยาทาแก้ฟกช้ำหมายจะทาให้ชายหนุ่มเพื่อบรรเทาอาการ

“ขอบคุณครับ...”

ภูผาเห็นว่าเขาได้ทายาก็ดีเหมือนกันเพราะน่ากลัวว่าคืนนี้จะต้องปวดแน่นอนชายหนุ่มถอดเสื้อที่เขาใส่ออกเผยกล้ามหลังที่เป็นมัดๆปรากฏต่อสายตาหญิงสาวอย่างไม่ได้คิดอะไรเพื่อให้เธอทายาให้เขาได้สะดวก

“เอ่อ...ตรงนี้ใช่ไหมคะ.”

พระพายถึงกับตาโตเพราะตั้งแต่เกิดมาก็พึ่งจะเคยเห็นร่างบึกบึนของผู้ชายต่อหน้าต่อตาเธอใกล้ๆเป็นครั้งแรกนี่แหละตอนนี้ใบหน้าเธอเห่อร้อนแดงขึ้นอย่างคุมไม่ได้

พลางมองไปที่กลางหลังของชายหนุ่มได้ครู่หนึ่งเห็นรอยแดงเป็นทางยาวแล้วจึงหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ใจของเธอเต้นเป็นปกติพร้อมใช้มือสัมผัสเล็กน้อยถามว่าเขาเจ็บบริเวณที่เธอแตะใช่หรือไม่พร้อมชักมือกลับมาหยิบหลอดยาเปิดและบีบใส่ปลายนิ้วของเธอและป้ายไปที่หลังของเขา

“ครับทาให้ทั่วเลยก็ได้คืนนี้คงจะปวดน่าดู”

ภูผาคิดว่าทายาให้ทั่วหลังของเขาเลยยิ่งดีเพราะมันน่าจะปวดระบมไปทั่วแน่นอน

“ค...ค่ะ”

พระพายไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจเธอต้องเต้นแรงขึ้นด้วยมือของเธอก็ยังคงทำหน้าที่ทายาให้เขาเช่นเดิมแต่ตาของเธอไม่สามารถมองแผ่นหลังของเขาได้นานเลยจริงๆ

“อืม...อีกไม่กี่วันก็งานแต่งของคุณขวัญกับเพื่อนผมแล้วนี่คุณเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง”

ภูผาจำได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะเป็นงานแต่งงานของเหนือเมฆกับพาขวัญแล้วเขาเลยอยากรู้ว่าเพื่อนสนิทอย่างพระพายเตรียมตัวที่จะไปงานแต่งของเพื่อนแล้วหรือยัง

“เตรียมอะไรคะ....”

พระพายไม่เข้าใจว่าเธอจะไปงานแต่งเพื่อนต้องเตรียมตัวอะไรล่วงหน้าด้วย

“พวกชุดอะไรแบบนี้ผู้หญิงเค้าต้องเตรียมล่วงหน้ากันไม่ใช่เหรอ”

ภูผาหมายถึงเรื่องชุดอะไรแบบนี้เพราะเขาเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาแฟนเก่าของเขาจะไปงานไหนทีเตรียมตัดชุดรอเป็นเดือนๆเสื้อผ้าหน้าผมต้องเป้ะที่สุด

“อ๋อ...เรื่องนั้นขวัญบอกว่าเตรียมให้ฉันแล้วค่ะ...แหมหัวหน้านี่รู้เรื่องผู้หญิงดีนะคะ”

พระพายพยักหน้าเข้าใจเรื่องชุดเธอไม่ได้ห่วงเพราะพาขวัญบอกว่าเตรียมให้เธอไว้แล้วเมื่อไปวันงานก็หยิบใส่ได้เลยเธอเลยไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนักพลางคิดว่าชายหนุ่มช่างรู้เรื่องผู้หญิงดีเหลือเกินถ้าหากเขามีแฟนก็คงจะไม่แปลกแต่นี่ไม่ใช่

“เอ่อ...ผมก็แค่เคยได้ยินมา”

ภูผาไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องที่ว่าเขารู้มาได้อย่างไรเท่าไรได้แต่เพียงพูดปัดว่าคนทั่วไปก็รู้เรื่องแบบนี้

19.00 น.

“กลับมาแล้วเหรอ”

มานีเห็นลูกสาวเธอกลับมาก็ทักทายตามปกติ

“จ๊ะแม่”

“แม่อยากให้แกเลิกรับงานนี้จะได้ไหม”

มานีอยากให้ลูกสาวเธอเลิกรับงานเป็นแม่บ้านให้หัวหน้าของลูกเธอเพราะเมื่อเวลายิ่งผ่านมาเรื่อยๆคนก็ยิ่งพูดถึงกันหนาหูมันไม่ได้ซาลงอย่างที่ลูกเธอคิดไว้สักนิด

“ทำไมเหรอแม่”

พระพายไม่รู้ว่าแม่ของเธอคิดมากอะไรอีก

“ก็แม่เห็นคนเค้าไม่เลิกพูดกันเองแกซะทีจนตอนนี้แม่ไม่ไหวจะเถียงแล้วนะ”

“แม่เครียดกับเรื่องนี้มากเลยเหรอจ๊ะ”

พระพายได้ยินแม่เธอพูดเรื่องนี้สองหนแล้วแสดงว่าเรื่องนี้มันเป็นผลกระทบต่อจิตใจของแม่เธอมากจริงๆ

“ก็แม่เป็นห่วงที่สุดก็คือแกตัวแกจะเสียหายเอา...แล้วกลับดึกๆแบบนี้อยู่บ้านกับหัวหน้าแกสองต่อสองมันปลอดภัยแน่เหรอ”

มานีอดคิดไม่ได้ว่าลูกเธอจะเสียหายแล้วอีกอย่างที่เธอคิดมานานแล้วแต่ไม่อยากพูดเพราะไว้ใจลูกสาวเธอแต่มันก็ต้องพูดเพราะผู้หญิงผู้ชายที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันทั้งคู่อยู่ใกล้กันถึงแม้ว่าลูกเธอจะไม่ทำอะไรเสียหายแต่เธอก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะทำลูกเธอเสียหายจริงๆอย่างที่คนเค้าลือกันน่ะสิ

“หัวหน้าเค้าจะมาคิดอะไรกับพายล่ะแม่...แม่ไม่ต้องคิดมากหรอก”

พระพายรู้ว่าแม่เธอหมายถึงอะไรเธอเลยต้องบอกให้แม่เธอเชื่อใจได้ว่าหัวหน้าของเธอมีความเป็นสุภาพบุรุษพอและท่าทางเขาก็ไม่ได้มาคิดอะไรในเชิงชู้สาวกับเธอด้วย

“แล้วแกคิดอะไรกับเค้ารึเปล่า”

มีอยากจะถามให้แน่ใจว่าลูกสาวเธอออกโรงปกป้องหัวหน้าตัวเองขนาดนั้นไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่ายแน่หรือไม่เพราะพักหลังมานี้เห็นลูกสาวของเธอดูอ่อนโยนอ่อนไหวง่ายขึ้นแปลกๆเธออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะไม่รู้

“หา...อ...เอ่อ....ถามอะไรอย่างนี้ล่ะแม่พายจะไปคิดอะไรกับหัวหน้าล่ะ....เอาเป็นว่าพายขอเวลาให้พ้นงานแต่งไอ้ขวัญไปก่อนนะแม่แล้วพายจะลาออก”

พระพายถึงกับอึกอักเล็กน้อยกับคำถามของแม่เธอพร้อมตอบปฏิเสธไปในใจของเธอก็ยังคิดไม่ตกเหมือนกันว่าเธอคิดอะไรกับอีกฝ่ายหรือเปล่าแต่ก็พยายามเข้าข้างตัวเองว่าเธอบริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับหัวหน้าของเธอแน่นอนเธอขอเวลาอีกนิดเท่านั้นให้ผ่านงานของเพื่อนเธอไปก่อนเพราะเธอยังเสียดายเงินอยู่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status