Share

ตอนที่29

“ได้ครับคุณพ่อไม่ต้องห่วง...”

เรื่องแค่นี้เหนือเมฆไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเดี๋ยวทางนี้เขาจะให้นภัสเป็นคนดูแลแทนทุกอย่างแล้วเขาจะไปกับนิกรคนสนิทของพ่อเขาเอง

“หืม...”

พาขวัญเดินออกไปซื้อกาแฟจากร้านกาแฟสดแถวหน้าโรงพยาบาลเธอเดินกลับมาหมายจะไปที่ตึกของพ่อชายหนุ่มแต่เธอแอบเห็นแขไขยืนหลบมุมคุยกับใครบางคนอยู่แบบลับๆล่อๆด้วยความที่เธอเดินใกล้กับมุมตรงนั้นมากเลยทำให้ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่ไม่ค่อยชัดเท่าไร

“ดีเรียบร้อยก็ดีฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงต้องไปที่นั่น”

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

//เรื่องอะไรกันนะ//

เมื่อรู้ตัวว่าทั้งสองกำลังจะเดินออกมาเธอจึงเดินเลี่ยงไปที่อื่นก่อนแต่ก็ยังสงสัยเอามากๆอยู่ดีว่าแขไขนั้นไปคุยอะไรลับๆล่อๆกับผู้ชายที่ท่าทางใม่น่าไว้ใจคนนั้นเรื่องอะไร

วันต่อมา

“ผมอยากให้หมอตรวจให้ละเอียดนะครับว่าอาหารพวกนี้มีสารปนเปื้อนอะไรบ้างแล้วในตัวพ่อของผมก็อยากจะให้หมอตรวจเลือดให้ละเอียดทุกอย่าง...ค่าใช้จ่ายเท่าไรไม่เกี่ยง...และขอให้เรื่องเงียบที่สุดแม้แต่ตัวภรรยาของพ่อผมก็ห้ามรู้”

“ผมจะจัดการให้ครับ”

เหนือเมฆอยากจะจัดการธุระทางนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เขาจะไปเรื่องนี้เขาค่อนข้างระแคะระคายอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับอาการป่วยของพ่อเขาหากมีอะไรน่าสงสัยเขาพร้อมจะจัดการมันทันที

บ้านเหนือเมฆ

“ขวัญกับลูกต้องไปด้วยจริงๆเหรอคะ”

พาขวัญไม่รู้ว่าเหนือเมฆทำไมต้องอยากพาเธอกับจันทร์เจ้าไปด้วยเพราะเธอไม่ค่อยอยากจะให้จันทร์เจ้าต้องเดินทางบ่อยๆเท่าไรเพราะว่ายังเล็กอยู่

“ถือซะว่าไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันนะ...พี่ไม่อยากห่วงคนทางนี้”

เหนือเมฆรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเขาจึงอยากให้พาขวัญกับจันทร์เจ้าอยู่ใกล้ๆเขาตลอดเวลาเพราะว่าเขาไม่อยากทำงานไปด้วยห่วงหน้าพะวงหลังไปด้วย

“ก็ได้ค่ะ”

พาขวัญเห็นสีหน้ากับอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะห่วงเธอกับจันทร์เจ้าเธอจึงยอมตกลงไปกับเขาโดยดีเพราะเธอก็เป็นห่วงความรู้สึกของเขาตอนนี้อยู่เหมือนกันไหนจะงานที่มีปัญหากับคุณพ่อของเขาที่มาป่วยอีก

5 ชั่วโมงต่อมา

เกาะเวหา

เกาะเวหาเป็นเกาะของรุ่นปู่เหนือเมฆเป็นมรดกตกทอดมาถึงรุ่นพ่อของเขาและแต่เดิมทีอยู่ในการดูแลของอรรณพแต่เมื่ออรรณพไม่อยู่แล้วอิทธิวัฒน์ก็ต้องมาดูแลแทนที่นี่เก็บรังนกขายและยังเป็นฟาร์มหอยมุกเลี้ยงคนงานไว้มากมายต่างคนต่างมีกินมีใช้กันไม่ขาดแต่พักหลังมานี้มักมีปัญหาบ่อยด้วยเหตุเพราะพ่อของเขาไม่ค่อยมีเวลาดูที่นี่ด้วยตัวเองด้วย

“เหนื่อยไหม”

เหนือเมฆเห็นพาขวัญดูเพลียๆจากการเดินทางดีที่จันทร์เจ้านั้นไม่ได้งอแงกวนพวกเขาเท่าไรการเดินทางครั้งนี้จึงดูราบรื่นดี

“นิดหน่อยค่ะ”

พาขวัญรู้สึกมีอาการเพลียนิดหน่อยเพราะไหนจะนั่งเครื่องนั่งเรือมาที่เกาะอีก

“ขวัญไปนอนพักกับลูกก่อนเถอะเดี๋ยวพี่จะคุยธุระกับคุณนิกรนิดหน่อย”

เหนือเมฆอยากให้พาขวัญได้พักเมื่อมาถึงบ้านของเขาบนเกาะเขาก็ให้เธอไปนอนพักเสียก่อนเพราะเขากับนิกรก็มีธุระที่จะคุยกันแบบลับๆเช่นกัน

“ค่ะ”

2 ชั่วโมงต่อมา

สำนักงานในเกาะ

“ขโมยของแล้วเอาไปทิ้งเนี่ยนะมันต้องการอะไร”

เมื่อพาขวัญพักอยู่ที่บ้านของเขาแล้วเหนือเมฆก็ขับรถออกมากับนิกรเพื่อมาที่สำนักงานเพื่อรับทราบปัญหาและหาทางแก้ไขมันให้เร็วที่สุด

เขารู้สึกสงสัยจากคำบอกเล่าของอัศวินลูกน้องของพ่อเขาเป็นผู้จัดการที่ดูแลทุกอย่างที่นี่ว่าคนที่สร้างปัญหาเหมือนจะแค่สร้างสถานการณ์อะไรบางอย่างเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะขโมยของจริงๆแต่เขาก็ยังไม่ปักใจว่าเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งยังอยากฟังจากปากเจ้าตัวอยู่

“มันยังไม่ตอบครับนายน้อย”

อัศวินเองก็จนปัญญาทั้งใช้ไม้อ่อนก็แล้วใช้ไม้แข็งก็แล้วก็ไม่ยอมตอบเขาออกมาอยู่ดีว่าทั้งหมดที่สร้างความเสียหายทำไปเพื่ออะไร

“แย่แล้วครับคุณวิน...มีคนบุกมายิงไอ้หน่องตายคาที่เลยครับ”

เมื่อปรึกษากันได้พักใหญ่ก็มีคนงานจากท้ายเกาะที่คุมตัวของหน่องคนที่เป็นหัวขโมยวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกข่าวร้าย

“คุณกรให้คนของเราไปเฝ้าที่บ้านผมสักสี่ห้าคนนะครับ”

เมื่อเหนือเมฆได้ยินว่ามีการฆ่ากันเกิดขึ้นสิ่งแรกที่เขาห่วงที่สุดก็คือพาขวัญกับจันทร์เจ้าจึงขอแรงลูกน้องของนิกรที่แต่ละคนฝีมือดีทั้งนั้นให้ไปเฝ้าที่บ้านของเขาด่วน

“ครับ”

“การดูแลรักษาความปลอดภัยที่นี่มันหละหลวมขนาดนั้นเลยหรือไงถึงได้มีใครจะฆ่าจะแกงกันได้ง่ายๆ”

เหนือเมฆเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วเหมือนความปลอดภัยในเกาะนี้ไม่มีดีเอาเสียเลยเห็นว่าเขาจะต้องเป็นคนบริหารงานให้ใหม่เสียแล้ว

“ผมว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรมากกว่าการต้องการขโมยของแน่ครับ”

“ผมก็คิดแบบนั้น”

นิกรและเหนือเมฆต่างก็คิดตรงกันแล้วในใจลึกๆของทั้งสองคิดไปถึงบุคคลที่สามว่าจะต้องมีใครบงการเรื่องนี้อยู่เป็นแน่เพราะลำพังคนงานที่นี่หรือจะพกอาวุธแถมยังกล้าทำเรื่องที่ทำให้สำนักงานเสียหายมากมายขนาดนี้

“เดี๋ยวผมจะติดต่อตำรวจให้มาที่นี่ก่อนนะครับ”

“ครับ”

อัศวินคงต้องติดต่อตำรวจให้มาที่นี่อย่างเร่งด่วนเสียแล้วเพราะมีเหตุการยิงกันตายเกิดขึ้นหากช้ากลัวว่าตำรวจจะหาว่าที่นี่เป็นเมืองเถื่อนแล้วคิดว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าก็เป็นได้

ทางด้านพาขวัญ

แกร๊กก

//เสียงอะไร//

พาขวัญหลับไปได้ร่วมชั่วโมงกว่าหลังจากที่เธอตื่นเธอก็เดินสำรวจรอบๆบ้านนิดหน่อยเพราะจันทร์เจ้ายังไม่ตื่นเมื่อเดินมาถึงหลังบ้านเธอเห็นว่าประตูมันเปิดอยู่แถมยังมีเสียงแปลกๆจึงค่อยๆเดินย่องเข้าไปดู

“ว้าย...”

เพล้ง...

ภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องกรีดร้องและถอยกรูขนมือของเธอไปโดนแจกันแตก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status