“ได้ครับคุณพ่อไม่ต้องห่วง...”
เรื่องแค่นี้เหนือเมฆไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเดี๋ยวทางนี้เขาจะให้นภัสเป็นคนดูแลแทนทุกอย่างแล้วเขาจะไปกับนิกรคนสนิทของพ่อเขาเอง
“หืม...”
พาขวัญเดินออกไปซื้อกาแฟจากร้านกาแฟสดแถวหน้าโรงพยาบาลเธอเดินกลับมาหมายจะไปที่ตึกของพ่อชายหนุ่มแต่เธอแอบเห็นแขไขยืนหลบมุมคุยกับใครบางคนอยู่แบบลับๆล่อๆด้วยความที่เธอเดินใกล้กับมุมตรงนั้นมากเลยทำให้ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่ไม่ค่อยชัดเท่าไร
“ดีเรียบร้อยก็ดีฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงต้องไปที่นั่น”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
//เรื่องอะไรกันนะ//
เมื่อรู้ตัวว่าทั้งสองกำลังจะเดินออกมาเธอจึงเดินเลี่ยงไปที่อื่นก่อนแต่ก็ยังสงสัยเอามากๆอยู่ดีว่าแขไขนั้นไปคุยอะไรลับๆล่อๆกับผู้ชายที่ท่าทางใม่น่าไว้ใจคนนั้นเรื่องอะไร
วันต่อมา
“ผมอยากให้หมอตรวจให้ละเอียดนะครับว่าอาหารพวกนี้มีสารปนเปื้อนอะไรบ้างแล้วในตัวพ่อของผมก็อยากจะให้หมอตรวจเลือดให้ละเอียดทุกอย่าง...ค่าใช้จ่ายเท่าไรไม่เกี่ยง...และขอให้เรื่องเงียบที่สุดแม้แต่ตัวภรรยาของพ่อผมก็ห้ามรู้”
“ผมจะจัดการให้ครับ”
เหนือเมฆอยากจะจัดการธุระทางนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เขาจะไปเรื่องนี้เขาค่อนข้างระแคะระคายอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับอาการป่วยของพ่อเขาหากมีอะไรน่าสงสัยเขาพร้อมจะจัดการมันทันที
บ้านเหนือเมฆ
“ขวัญกับลูกต้องไปด้วยจริงๆเหรอคะ”
พาขวัญไม่รู้ว่าเหนือเมฆทำไมต้องอยากพาเธอกับจันทร์เจ้าไปด้วยเพราะเธอไม่ค่อยอยากจะให้จันทร์เจ้าต้องเดินทางบ่อยๆเท่าไรเพราะว่ายังเล็กอยู่
“ถือซะว่าไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันนะ...พี่ไม่อยากห่วงคนทางนี้”
เหนือเมฆรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเขาจึงอยากให้พาขวัญกับจันทร์เจ้าอยู่ใกล้ๆเขาตลอดเวลาเพราะว่าเขาไม่อยากทำงานไปด้วยห่วงหน้าพะวงหลังไปด้วย
“ก็ได้ค่ะ”
พาขวัญเห็นสีหน้ากับอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะห่วงเธอกับจันทร์เจ้าเธอจึงยอมตกลงไปกับเขาโดยดีเพราะเธอก็เป็นห่วงความรู้สึกของเขาตอนนี้อยู่เหมือนกันไหนจะงานที่มีปัญหากับคุณพ่อของเขาที่มาป่วยอีก
5 ชั่วโมงต่อมา
เกาะเวหา
เกาะเวหาเป็นเกาะของรุ่นปู่เหนือเมฆเป็นมรดกตกทอดมาถึงรุ่นพ่อของเขาและแต่เดิมทีอยู่ในการดูแลของอรรณพแต่เมื่ออรรณพไม่อยู่แล้วอิทธิวัฒน์ก็ต้องมาดูแลแทนที่นี่เก็บรังนกขายและยังเป็นฟาร์มหอยมุกเลี้ยงคนงานไว้มากมายต่างคนต่างมีกินมีใช้กันไม่ขาดแต่พักหลังมานี้มักมีปัญหาบ่อยด้วยเหตุเพราะพ่อของเขาไม่ค่อยมีเวลาดูที่นี่ด้วยตัวเองด้วย
“เหนื่อยไหม”
เหนือเมฆเห็นพาขวัญดูเพลียๆจากการเดินทางดีที่จันทร์เจ้านั้นไม่ได้งอแงกวนพวกเขาเท่าไรการเดินทางครั้งนี้จึงดูราบรื่นดี
“นิดหน่อยค่ะ”
พาขวัญรู้สึกมีอาการเพลียนิดหน่อยเพราะไหนจะนั่งเครื่องนั่งเรือมาที่เกาะอีก
“ขวัญไปนอนพักกับลูกก่อนเถอะเดี๋ยวพี่จะคุยธุระกับคุณนิกรนิดหน่อย”
เหนือเมฆอยากให้พาขวัญได้พักเมื่อมาถึงบ้านของเขาบนเกาะเขาก็ให้เธอไปนอนพักเสียก่อนเพราะเขากับนิกรก็มีธุระที่จะคุยกันแบบลับๆเช่นกัน
“ค่ะ”
2 ชั่วโมงต่อมา
สำนักงานในเกาะ
“ขโมยของแล้วเอาไปทิ้งเนี่ยนะมันต้องการอะไร”
เมื่อพาขวัญพักอยู่ที่บ้านของเขาแล้วเหนือเมฆก็ขับรถออกมากับนิกรเพื่อมาที่สำนักงานเพื่อรับทราบปัญหาและหาทางแก้ไขมันให้เร็วที่สุด
เขารู้สึกสงสัยจากคำบอกเล่าของอัศวินลูกน้องของพ่อเขาเป็นผู้จัดการที่ดูแลทุกอย่างที่นี่ว่าคนที่สร้างปัญหาเหมือนจะแค่สร้างสถานการณ์อะไรบางอย่างเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะขโมยของจริงๆแต่เขาก็ยังไม่ปักใจว่าเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งยังอยากฟังจากปากเจ้าตัวอยู่
“มันยังไม่ตอบครับนายน้อย”
อัศวินเองก็จนปัญญาทั้งใช้ไม้อ่อนก็แล้วใช้ไม้แข็งก็แล้วก็ไม่ยอมตอบเขาออกมาอยู่ดีว่าทั้งหมดที่สร้างความเสียหายทำไปเพื่ออะไร
“แย่แล้วครับคุณวิน...มีคนบุกมายิงไอ้หน่องตายคาที่เลยครับ”
เมื่อปรึกษากันได้พักใหญ่ก็มีคนงานจากท้ายเกาะที่คุมตัวของหน่องคนที่เป็นหัวขโมยวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกข่าวร้าย
“คุณกรให้คนของเราไปเฝ้าที่บ้านผมสักสี่ห้าคนนะครับ”
เมื่อเหนือเมฆได้ยินว่ามีการฆ่ากันเกิดขึ้นสิ่งแรกที่เขาห่วงที่สุดก็คือพาขวัญกับจันทร์เจ้าจึงขอแรงลูกน้องของนิกรที่แต่ละคนฝีมือดีทั้งนั้นให้ไปเฝ้าที่บ้านของเขาด่วน
“ครับ”
“การดูแลรักษาความปลอดภัยที่นี่มันหละหลวมขนาดนั้นเลยหรือไงถึงได้มีใครจะฆ่าจะแกงกันได้ง่ายๆ”
เหนือเมฆเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วเหมือนความปลอดภัยในเกาะนี้ไม่มีดีเอาเสียเลยเห็นว่าเขาจะต้องเป็นคนบริหารงานให้ใหม่เสียแล้ว
“ผมว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรมากกว่าการต้องการขโมยของแน่ครับ”
“ผมก็คิดแบบนั้น”
นิกรและเหนือเมฆต่างก็คิดตรงกันแล้วในใจลึกๆของทั้งสองคิดไปถึงบุคคลที่สามว่าจะต้องมีใครบงการเรื่องนี้อยู่เป็นแน่เพราะลำพังคนงานที่นี่หรือจะพกอาวุธแถมยังกล้าทำเรื่องที่ทำให้สำนักงานเสียหายมากมายขนาดนี้
“เดี๋ยวผมจะติดต่อตำรวจให้มาที่นี่ก่อนนะครับ”
“ครับ”
อัศวินคงต้องติดต่อตำรวจให้มาที่นี่อย่างเร่งด่วนเสียแล้วเพราะมีเหตุการยิงกันตายเกิดขึ้นหากช้ากลัวว่าตำรวจจะหาว่าที่นี่เป็นเมืองเถื่อนแล้วคิดว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าก็เป็นได้
ทางด้านพาขวัญ
แกร๊กก
//เสียงอะไร//
พาขวัญหลับไปได้ร่วมชั่วโมงกว่าหลังจากที่เธอตื่นเธอก็เดินสำรวจรอบๆบ้านนิดหน่อยเพราะจันทร์เจ้ายังไม่ตื่นเมื่อเดินมาถึงหลังบ้านเธอเห็นว่าประตูมันเปิดอยู่แถมยังมีเสียงแปลกๆจึงค่อยๆเดินย่องเข้าไปดู
“ว้าย...”
เพล้ง...
ภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องกรีดร้องและถอยกรูขนมือของเธอไปโดนแจกันแตก
“ช่วยฉันด้วย...ช่วยด้วย”หญิงสาวที่เสื้อผ้ามีแต่เลือดนั่งอยู่มุมห้องกำลังมองมาทางเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวดเพื่อขอความช่วยเหลือตอนนี้พาขวัญทำอะไรไม่ถูกจึงรีบกดมือถือโทรหาเหนือเมฆก่อนRrrrrrrrr“มีอะไรเหรอขวัญ...ว่ายังไงนะ”เหนือเมฆได้รับสายจากพาขวัญเรื่องที่ได้ฟังมันไม่ค่อยดีเท่าไรจึงคิดว่าเขาจะต้องพักงานตรงนี้เอาไว้ก่อนเพื่อกลับไปดูแลพาขวัญเขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่พาเธอกับจันทร์เจ้ามาที่นี่ด้วย“คุณกรผมต้องกลับไปที่บ้านก่อนมีธุระด่วน”เหนือเมฆฝากฝังนิกรให้อยู่ดูงานที่นี่แทนเขาไปก่อนเพราะเขาต้องรีบกลับไปที่บ้านพักด่วน“ครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูต่อเอง”นิกรรู้ว่าที่บ้านต้องมีอะไรแต่ไม่อยากถามให้คนที่นี่ต้องแตกตื่นเขาจะอยู่เคลียร์ปัญหากับอัศวินเองบ้านพัก“เธอเป็นยังไงบ้าง”เมื่อมาถึงบ้านเหนือเมฆก็รีบวิ่งเข้ามาหาพาขวัญที่นั่งหน้าตาซีดเซียวอยู่อย่างเห็นได้ชัดที่หญิงสาวโทรไปบอกเขาว่ามีผู้หญิงถูกยิงเข้ามาในบ้านเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง“หมอกำลังทำแผลให้อยู่ค่ะดีที่เธอถูกยิงแค่ถากๆ”พาขวัญเห็นหมอที่ดูแผลของเธอแล้วก็ค่อนข้างสบายใจเพราะแผลเป็นเพียงแค่การโดนยิงถากๆเท่านั้
“คุณเหนือเป็นยังไงบ้างครับ”นิกรไม่ได้ตามคนร้ายไปเขาต้องดูเหนือเมฆก่อนตอนนี้เพราะหากชายหนุ่มเป็นอะไรไปอิทธิวัฒน์คงทรุดหนักกว่าเดิมแน่“ผมโอเค” เหนือเมฆโอเคเพราะกระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญแค่เจ็บใจที่พวกคนร้ายมันกล้าบุกมาทำร้ายเขาถึงที่นี่“ไหนขอดูหน้ามันชัดๆสิ”เหนือเมฆพยายามดึงหมวกดำที่คนร้ายใส่มาออกเพราะเขาอยากจะเห็นหน้าคนที่เข้ามาทำร้ายเขาเสียเหลือเกิน“ไปที่บ้านหมอก่อนนะคะพี่เหนือดูสิเลือดออกใหญ่เลย”พาขวัญอยากจะให้ชายหนุ่มไปให้ถึงมือหมอก่อนจะดีกว่าเพราะตอนนี้ที่แขนของเขามีแต่เลือด“พี่โอเคขวัญไม่ต้องห่วง”เหนือเมฆยังยืนยันว่าเจาโอเคหากเขายังไม่ได้เห็นหน้าคนทีทำร้ายเขาคงจะอึดอัดคาใจอยู่ต่อไปแน่“ห๊ะ...”เมื่อเหนือเมฆเปิดหน้าคนร้ายออกมาหญิงสาวถึงกับผงะเล็กน้อยเพราะเธอจะได้ว่าเธอเคยเห็นหน้าคนๆนี้บ้านหมอที่เกาะเวหาที่นี่มีหมอฝีมือดีอยู่สองสามคนอุปกรณ์การแพทย์ก็เพียงพอต่อการรักษาเพราะช่วงตอนที่อรรณพมาบริหารเขาจะเน้นเรื่องสุขภาพของคนที่นี่เป็นเรื่องสำคัญตอนนี้การรักษาเหนือเมฆจึงไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นกังวลมากนักเช้าวันต่อมาตำรวจได้เข้ามาตรวจพื้นที่อย่างละเอียดพร้อมสอบปากคำทุกคนที่เกี่ย
“คุณนายพี่ทศโดนยิงตายตั้งแต่เมื่อคืนตอนนี้พวกผมกำลังโดนตำรวจล่าอยู่อยากขอเงินคุณนายสักก้อนก่อนจะหนีครับ”ตอนนี้พวกกลุ่มคนร้ายกำลังจะหลบหนีเพราะตำรวจออกตามล่าพวกเขาอยู่เกลื่อนเมืองเขาจะต้องมีเงินก้อนในการหนีไปกบดานเสียก่อนจึงโทรมาขอค่าจ้างจากแขไขในเมื่อติดต่อทางเบอส่วนตัวไม่ได้ก็เลยโทรเข้าเบอบ้านแทน“ทำไมพวกแกทำงานพลาดแบบนี้ห้ะ”แขไขมือไม้สั่นที่รู้ว่าลูกน้องฝีมือดีของเธอต้องเสียไปหนึ่งคนแถมงานที่สั่งให้ไปเก็บเหนือเมฆกับลูกเมียก็ยังพลาดอีก“ผมจะรู้ไหมว่ามันมีพวกเยอะขนาดนั้น...จ่ายมาซะดีๆ”ปลายสายเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทีว่าคนสั่งงานจะไม่จ่ายเงิน“ฉันไม่ให้ทำงานพลาดแล้วยังจะมาเรียกร้องอีกหรือไง”แขไขไม่มีเงินที่จะจ่ายใครทั้งนั้นพร้อมทั้งยังวางสายไม่สนใจลูกน้องที่ทำงานห่วยแตกให้เธอต้องมานั่งเครียดอีกRrr“ไม่ต้องรับ”“ค่ะๆ”แขไขสั่งแม่บ้านเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินมารับโทรศัพท์ตอนนี้เธอต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหาแต่ความกังวลใจในตอนนี้ทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก2 วันต่อมาเกาะเวหา“ตำรวจจับคนร้ายได้บางส่วนแล้วครับมันรับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดคุณแขไขเป็นคนบงการครับ”“ในที่สุดบ้านฉันก็สลัดผู
21.30 น.“ช่วงนี้งานพี่ไม่ค่อยยุ่งแล้วขวัญอยากไปไหนไหม”เหนือเมฆนอนกอดพาขวัญอยู่บนเตียงนุ่มส่วนจันทร์เจ้าที่หลับแล้วก็นอนอยู่ในเปลช่วงนี้หนูน้อยค่อนข้างติดเปลอย่างมากตั้งแต่ที่ไปเกาะคราวนั้นแล้วช่วงนี้ชายหนุ่มเห็นว่างานทุกอย่างเริ่มลงตัวหมดแล้วเขาจึงอยากพาครอบครัวรวมทั้งตัวเขาเองไปพักผ่อนบ้างจึงอยากถามความเห็นจากคนเป็นภรรยาว่าอยากจะไปที่ไหน“พาคุณพ่อไปเที่ยวบ้างก็น่าจะดีนะคะ”พาขวัญเห็นด้วยกับชายหนุ่มที่จะไปหาที่เที่ยวพักผ่อนเพราะเธอก็อยากให้อิทธิวัฒน์ได้ออกจากบ้านบ้างเผื่อสภาพจิตใจจะดีขึ้นเพราะเธอรู้ว่าอิทธิวัฒน์ยังปลงไม่ตกเรื่องที่ผ่านมาถึงแม้จะใช้ชีวิตได้ปกติแล้วก็ตาม“ที่ไหนดีล่ะ”เหนือเมฆอยากรู้ว่าหญิงสาวอยากจะพาพ่อเธอไปที่ไหนเขาเองนึกไม่ค่อยออกเหมือนกันหากเป็นผับบาร์ก็คงจะรู้ดีเพราะเมื่อก่อนเขาเที่ยวสถานที่แบบนี้ค่อนข้างบ่อยหรือเรียกได้ว่าเกือบทุกวัน“อืม...ขวัญอยากไปเที่ยวที่บ้านบ้างได้ไหมคะ”พาขวัญเห็นว่าเธอไม่ได้กลับไปที่บ้านเธอที่ลำปางนานแล้วอีกอย่างที่นั่นก็อากาศดีและมีสถานที่เที่ยวอยู่เหมือนกันและอีกอย่างเธอก็เธออยากจะไปเยี่ยมเพื่อนเธอด้วยเห็นว่าเปิดร้านขายขนมไทยแล้วก็ขาย
ลำปาง18.00 น.หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นพระพายก็หนีกลับมาที่บ้านก่อนที่ภูผาจะกลับเธอปิดช่องทางการติดต่อจากชายหนุ่มทุกช่องทางและลาออกจากสำนักงานเธอใช้เงินที่พาขวัญทิ้งไว้ให้เจ็ดแสนมาเปิดร้านขายขนมไทยกับแม่เธอสองคนในตลาดที่อำเภอเป็นเดือนแล้วนานๆทีจะไปดูบ้านเธอกับพาขวัญสักครั้ง“แม่เหนื่อยไหม”ร้านขนมไทยของพระพายค่อนข้างขายดีเพราะฝีมือของมานีที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอนโดยมีพระพายเป็นลูกมือ“ขายของเยอะเห็นเงินแบบนี้มันก็หายเหนื่อย”มานีไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยเพราะเธอทำงานแล้วมันเห็นเงินความเหนื่อยก็หายไปปลิดทิ้ง“พรุ่งนี้แม่เตรียมทำสังขยารอเลยนะไอ้ขวัญน่าจะมาถึงตอนบ่ายๆ”พระพายตั้งหน้าตั้งตารอพาขวัญกลับมาเธอไม่ลืมที่จะเตือนแม่เธอให้ทำขนมของโปรดพาขวัญเอาไว้ให้เป็นเพราะเงินของเพื่อนเธอจึงทำให้เธอมีร้านจนทุกวันนี้“รู้แล้วล่ะน่า...”มานีเตรียมวัตถุดิบเอาไว้บางส่วนแล้วเธอไม่ลืมที่จะรอต้อนรับพาขวัญอยู่แล้ว“เออ...แม่ว่าแกไปดูบ้านให้หนูขวัญหน่อยก็ดีนะ”มานีเห็นว่าพาขวัญจะมาพรุ่งนี้แล้วเลยอยากให้ลูกสาวเธอไปดูบ้านให้เรียบร้อยเสียหน่อยเพราะไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์แล้ว“พายก็ว่าจะไปพอดีจะแม่...เดี๋ยวนอนท
“ใครใช้ให้คุณไปบอกพวกเค้ากันล่ะ...ทำให้มันเงียบไปก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”เธอคิดไว้แล้วว่าแม่เธอต้องมีอะไรบิดบังเธออยู่เป็นแน่แต่ก็ไม่ยักจะรู้ว่าแม่เธอกับชายหนุ่มหาเวลาไปคุยกันตอนไหนเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เรื่องเงียบไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องมาใส่ใจกับเธอแค่นี้ทุกอย่างก็จะเงียบและเธอก็จะทำใจกับเรื่องนี้ได้เอง“รักตัวองบ้างหรือเปล่า”ภูผาอยากจะรู้นักที่เขาทำตัวของเธอเสียหายขนาดนี้ยังอยากให้เขาเฉยกับมันได้อีก“รักสิถึงได้พยายามปกป้องความรู้สึกตัวเองอยู่นี่ไง”พระพายรักตัวเองอยู่แล้วที่เธอพยายามอยู่ห่างเขาไม่อยากเห็นอยากเจอเพราะเธอต้องการรักษาแผลใจของเธออยู่นั่นเอง“ไม่รู้ล่ะ...อีกสองวันเตรียมตัวรอได้เลยเราจะแต่งงานกัน”ภูผาชักเห็นว่าหญิงสาวจะไม่ยอมแต่โดยดีเขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับเสียแล้ว“นี่ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม....อื้มมม”พระพายต้องชะงักเมื่อจู่ๆชาหนุ่มก็ฉวยโอกาสบดจูบมาที่ปากบางของเอย่างไม่ได้ตั้งตัวแถมยังหนีเขาไปไหนไม่ได้เพราะแรงกอดรัดของเขา“ถ้ายังดื้ออีกเจอมากกว่านี้แน่...ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว”ภูผาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาเอาจริงชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบรีโมทปิดทีวีพร้อมพาหญิงสาวเข้าไปนอนในห
“หืมม...สังขยา”เมื่อถาดสังขยามาวางตรงหน้าหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะตักแบ่งใส่จานกินกับข้าวเหนียวมูนอย่างคำโต“ค่อยๆกินก็ได้ขวัญ...ไม่กลัวอ้วนเหรอ”เหนือเมฆไม่เคยเห็นพาขวัญทานเยอะขนาดนี้มาก่อนสงสัยนี่จะเป็นของโปรดจริงๆแต่ก็อดแซวไม่ได้ว่าภรรยาของเขาจะน้ำหนักขึ้น“ไม่ค่ะได้กินของโปรดทั้งที”พาขวัญไม่กลัวอะไรแล้วนานๆทีได้กินของโปรดฝีมือของมานีทั้งทีหญิงสาวจึงตักเข้าปากไม่หยุดและไม่มีท่าทีว่าจะอิ่มด้วยซ้ำจนคนอื่นๆรอบโต๊ะอาหารไม่มีใครกล้าตักแบ่งสังขยาในถาดเข้ามาในจานของตัวเองเลยเพราะกลัวว่าจะไปแย่งพาขวัญ“พายไม่กินเหรอ”ตอนนี้ทุกคนก็ต่างทานของหวานกันล้างปากมีอยู่คนเดียวที่ไม่กินเห็นจะเป็นพระพายพาขวัญจึงต้อถามขึ้นว่าเพื่อนเธอไม่หิวหรืออย่างไรหรือจะไดเอทไว้ใส่ชุดแต่งงานอันนี้เธอก็ไม่แน่ใจ“ไม่อ่ะ...ฉันมีไอ้นี่...กินด้วยกันไหม”พระพายรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินของหวานพวกนี้เท่าไรเพราะตอนนี้เธอมีมะม่วงน้ำปลาหวานที่ชวนน้ำลายสออยู่มือที่แม่ของเธอพึ่งจะยื่นให้เมื่อกี้นี้เอง“เอาสิ...”พาขวัญเห็นว่าอะไรอยู่ในมือเพื่อนของเธอก็ตาลุกวาวเธอรู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาในทันที“ยังไม่อิ่มอีกเหรอขวัญ”เหนือเมฆถึงกับผงะจ
3 เดือนต่อมาบ้านเหนือเมฆ“จันทร์เจ้าขา...อย่าหนีคุณแม่สิคะ”ตอนนี้ท้องของพาขวัญก็แก่ใกล้คลอดเต็มทีหญิงสาวจึงเดินตามลูกสาวของเธอไม่ค่อยจะไหวหนูน้อยจันทร์เจ้าก็ได้ขวบครึ่งแล้วเด็กหญิงเดินแทบจะทั้งวันหยุดได้ก็เห็นจะเป็นเวลานอนเท่านั้นแหละ“.หม่ำๆ หนมหย่อย”หนูน้อยเดินกลับมาหาคนเป็นแม่พร้อมชี้ไปที่ขนมผักที่อยู่ในกล่องแน่นอนว่าหนูน้อยอยากจะกินมันอีกแล้ว“หิวอีกแล้วเหรอคะ...อะนี่ค่ะคุณแม่ให้”พาขวัญเห็นว่าช่วงนี้จันทร์เจ้าชอบกินแต่ขนมจนเธอต้องให้เหนือเมฆซื้อติดบ้านไว้อาทิตย์ละหลายๆกล่องใจก็กลัวว่าหนูน้อยจะไม่สบายท้องแต่ก็เห็นหน้าอันจิ้มลิ้มและสายตาที่อ้อนวอนเธอก็อดจะให้หนูน้อยกินตามใจปากไม่ได้“เอา...”จันทร์เจ้ารับขนมจากคนเป็นแม่ใส่ในมือข้างขวาแต่มือข้างซ้ายก็แบขอคนตรงหน้าอีก“กินในมือให้หมดก่อนค่ะ”ถึงพาขวัญจะตามใจเรื่องกินแต่เธอก็ต้องให้จันทร์เจ้านั้นรู้จักกินทีละอย่างไม่โลภมากถือสองไม้สองมือ“กลับมาแล้วเหรอคะ”“จะ”ฟอดดด“จันทร์เจ้าครับ”เหนือเมฆเข้ามากอดคนเป็นภรรยาพร้อมหอมหญิงสาวฟอดใหญ่และหันไปเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาต่อ“คูนน.พ่อ...ดีจ้า”หนูน้อยจันทร์เจ้าเห็นคนเป็นพ่อกลับมาก็รีบเดิ