“ช่วยฉันด้วย...ช่วยด้วย”
หญิงสาวที่เสื้อผ้ามีแต่เลือดนั่งอยู่มุมห้องกำลังมองมาทางเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวดเพื่อขอความช่วยเหลือตอนนี้พาขวัญทำอะไรไม่ถูกจึงรีบกดมือถือโทรหาเหนือเมฆก่อน
Rrrrrrrrr
“มีอะไรเหรอขวัญ...ว่ายังไงนะ”
เหนือเมฆได้รับสายจากพาขวัญเรื่องที่ได้ฟังมันไม่ค่อยดีเท่าไรจึงคิดว่าเขาจะต้องพักงานตรงนี้เอาไว้ก่อนเพื่อกลับไปดูแลพาขวัญเขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่พาเธอกับจันทร์เจ้ามาที่นี่ด้วย
“คุณกรผมต้องกลับไปที่บ้านก่อนมีธุระด่วน”
เหนือเมฆฝากฝังนิกรให้อยู่ดูงานที่นี่แทนเขาไปก่อนเพราะเขาต้องรีบกลับไปที่บ้านพักด่วน
“ครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูต่อเอง”
นิกรรู้ว่าที่บ้านต้องมีอะไรแต่ไม่อยากถามให้คนที่นี่ต้องแตกตื่นเขาจะอยู่เคลียร์ปัญหากับอัศวินเอง
บ้านพัก
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
เมื่อมาถึงบ้านเหนือเมฆก็รีบวิ่งเข้ามาหาพาขวัญที่นั่งหน้าตาซีดเซียวอยู่อย่างเห็นได้ชัดที่หญิงสาวโทรไปบอกเขาว่ามีผู้หญิงถูกยิงเข้ามาในบ้านเขาอยากรู้ว่าอาการของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“หมอกำลังทำแผลให้อยู่ค่ะดีที่เธอถูกยิงแค่ถากๆ”
พาขวัญเห็นหมอที่ดูแผลของเธอแล้วก็ค่อนข้างสบายใจเพราะแผลเป็นเพียงแค่การโดนยิงถากๆเท่านั้นทำแผลให้ยาและนอนพักก็น่าจะโอเค
“แล้วเรื่องมันเป็นยังไง
เหนือเมฆอยากจะรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้มันเป็นอย่างไรมาอย่างไรเพราะวันนี้เขาได้รับข่าวร้ายถึงสองเรื่องสองราวตั้งแต่มาถึงที่นี่เพียงไม่ถึงวัน
“เธอบอกว่ามีผู้ชายสามคนที่เคยจ้างสามีเธอไปทำงานอยู่ดีๆก็มาไล่ยิงเธออย่างไม่มีสาเหตุ”
“แล้วเธอได้บอกหรือเปล่าว่าสามีเธอชื่ออะไร”
เหนือเมฆเริ่มสงสัยเสียแล้วว่าสองเรื่องนี้มันมีความเกี่ยวโยงกัน
“เธอบอกว่าสามีเธอชื่อหน่องทำงานอยู่ที่นี่”
“เฮ้อ...”
เหนือเมฆถึงกับถอนหายใจออกมาเขาคิดไม่ผิดเลยจริงๆแสดงว่าคนที่ฆ่าต้องการปิดปากเป็นแน่
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
สีหน้าของชายหนุ่มบ่งบอกว่ามีอะไรอยู่ในใจพาขวัญจึงต้องเอ่ยปากถามออกไปอย่างสงสัย
“คนที่ชื่อหน่องเป็นคนงานที่นี่ก็จริงเค้าเป็นหัวขโมยที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นที่นี่แล้วเราก็จับตัวเค้าได้แล้วแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับสารภาพเมื่อกลางวันนี้ก็โดนลอบยิงจนเสียชีวิตแล้วเหมือนกัน”
“อะไรนะคะ...มีฆ่ากันที่นี่ด้วยเหรอคะ”
พาขวัญไม่คิดว่าจะมีการยิงกันตายที่นี่ด้วยแค่เธอเห็นผู้หญิงเมื่อครู่ได้รับบาดเจ็บก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว
“อืม...เดี๋ยวพี่ขอเข้าไปคุยกับเธอข้างในก่อน”
“ค่ะ”
ตอนนี้เหนือเมฆไม่อยากให้เขาช้ากว่าคนร้ายตอนนี้เขารู้ว่าหญิงสาวที่บาดเจ็บยังพอบอกอะไรกับเขาได้เขาก็อยากจะเข้าไปคุยกับเธอเสียตอนนี้เลย
23.00 น.
แกร๊กก
“พี่เหนือ”
พาขวัญรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเนื่องจากบ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่มากทำให้ได้ยินเสียงด้านนอกค่อนข้างชัดเจน
“ชู่ววว”
เหนือเมฆรู้สึกตัวตื่นก่อนแล้วเมื่อพาขวัญส่งเสียงเรียกเขาชายหนุ่มจึงต้องให้เธอเงียบก่อนเพราะเขาก็กำลังฟังเสียงอยู่ว่าเสียงมันมาจากทางด้านไหนพร้อมเอื้อมมือไปหยิบปืนพกที่อยู่ในลิ้นชักข้างเตียง
ปังๆๆ...
เสียงปืนปะทะกันที่ดังมาจากด้านนอกเหนือเมฆพอจะรู้แล้วว่านิกรกับลูกน้องน่าจะรู้ตัวแล้วว่ามีคนบุกเข้ามา
“แอ้....แง้งงงงงง....”
“โอ๋ๆ...ขวัญเอยขวัญมานะลูก...ไม่ร้องน้า”
หนูน้อยผวาตื่นเพราะเสียงปืนที่ดังกระหน่ำจึงร้องไม่หยุดพาขวัญต้องอุ้มหนูน้อยมากอดปลอบในขณะที่ตัวของเธอเองก็มีอาการกลัวจนสั่นเล็กน้อยเหมือนกัน
ปังง
“เฮ้ยย...”
เหนือเมฆกำลังจะออกไปดูสถานการณ์ด้านนอกแต่ก็มีคนร้ายถีบประตูเขาเข้ามาก่อน
พลั้กกก....ตุ้บบบ...ตั้บบ...ปังง
คนร้ายสองคนกำลังรุมต่อสู้กับเหนือเมฆอย่างหน้าสิ่วหน้าขวาน
“ว้ายย...พี่เหนือ”
พาขวัญที่อุ้มหนูน้อยอยู่ด้วยเธอต้องคอยกอดปลอบให้จันทร์เจ้าหายตกใจแต่เป็นเธอเองที่ต้องมาตกใจเพราะภาพตรงหน้าเหมือนเหนือเมฆดูจะเสียเปรียบเข้าแล้ว
“ขวัญหาที่หลบเร็ว”
เหนือเมฆตะโกนให้พาขวัญหาที่หลบเพราะเขากลัวว่าเขาจะต้านสองคนนี้ไว้ไม่ไหวที่คนร้ายนั้นมีทั้งมีดทั้งปืน
“คุณเหนือ”
นิกรเข้ามาด้านในเพื่อช่วยเหนือเมฆอย่างรวดเร็วเขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นด้านในเพราะว่าสถานการณ์มันเหมือนมีคนบางกลุ่มล่อให้เขาออกไปข้างนอกกับลูกน้องที่เฝ้าอยู่ที่บ้านนี้ดีที่เขากลับมาช่วยเหนือเมฆได้
ปังงๆๆๆ
นิกรยิงต่อสู้กับคนร้ายอย่างระวังเพราะในห้องนี้มีพาขวัญกับหนูน้อยอยู่ด้วย
“พี่เหนือ....ขวัญกลัว...ฮึก...ฮืออ”
“แอ้...แง้งงงงงงง...”
พาขวัญตัวสั่นไปหมดแล้วจันทร์เจ้าเมื่อได้ยินเสียงปืนขึ้นอีกครั้งก็ร้องออกมาไม่หยุด
ปังงงง
“อร้ายยย”
คนร้ายจ่อยิงไปที่พาขวัญแต่ดีที่เธอหลบได้ทันอย่างฉิวเฉียด
“ขวัญ”
เหนือเมฆใจหายวาบรีบเข้ามาวิ่งเข้ามาด้านในเพื่อที่จะปกป้องคนทั้งสองให้ห่างจากอันตราย
ปังง ปังง
“โอ้ยย”
“พี่เหนือ”
เหนือเมฆที่เอาแต่เป็นห่วงพาขวัญอยู่เขาก็เลยไม่มีสมาธิในการหลบอันตรายจึงทำให้ครั้งนี้เขาถูกยิงที่แขนแต่ไม่จังมากเพราะนิกรได้ยิงที่ผู้ร้ายคนนั้นเหมือนกันจนนอนเหมือดจมกองเลือดคาที่
“ถอยก่อนโว้ย”
คนร้ายอีกคนเห็นเพื่อนนอนจมกองเลือดก็รีบตะโกนให้คนที่อยู่ด้านนอกถอยก่อนเนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ
“คุณเหนือเป็นยังไงบ้างครับ”นิกรไม่ได้ตามคนร้ายไปเขาต้องดูเหนือเมฆก่อนตอนนี้เพราะหากชายหนุ่มเป็นอะไรไปอิทธิวัฒน์คงทรุดหนักกว่าเดิมแน่“ผมโอเค” เหนือเมฆโอเคเพราะกระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญแค่เจ็บใจที่พวกคนร้ายมันกล้าบุกมาทำร้ายเขาถึงที่นี่“ไหนขอดูหน้ามันชัดๆสิ”เหนือเมฆพยายามดึงหมวกดำที่คนร้ายใส่มาออกเพราะเขาอยากจะเห็นหน้าคนที่เข้ามาทำร้ายเขาเสียเหลือเกิน“ไปที่บ้านหมอก่อนนะคะพี่เหนือดูสิเลือดออกใหญ่เลย”พาขวัญอยากจะให้ชายหนุ่มไปให้ถึงมือหมอก่อนจะดีกว่าเพราะตอนนี้ที่แขนของเขามีแต่เลือด“พี่โอเคขวัญไม่ต้องห่วง”เหนือเมฆยังยืนยันว่าเจาโอเคหากเขายังไม่ได้เห็นหน้าคนทีทำร้ายเขาคงจะอึดอัดคาใจอยู่ต่อไปแน่“ห๊ะ...”เมื่อเหนือเมฆเปิดหน้าคนร้ายออกมาหญิงสาวถึงกับผงะเล็กน้อยเพราะเธอจะได้ว่าเธอเคยเห็นหน้าคนๆนี้บ้านหมอที่เกาะเวหาที่นี่มีหมอฝีมือดีอยู่สองสามคนอุปกรณ์การแพทย์ก็เพียงพอต่อการรักษาเพราะช่วงตอนที่อรรณพมาบริหารเขาจะเน้นเรื่องสุขภาพของคนที่นี่เป็นเรื่องสำคัญตอนนี้การรักษาเหนือเมฆจึงไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นกังวลมากนักเช้าวันต่อมาตำรวจได้เข้ามาตรวจพื้นที่อย่างละเอียดพร้อมสอบปากคำทุกคนที่เกี่ย
“คุณนายพี่ทศโดนยิงตายตั้งแต่เมื่อคืนตอนนี้พวกผมกำลังโดนตำรวจล่าอยู่อยากขอเงินคุณนายสักก้อนก่อนจะหนีครับ”ตอนนี้พวกกลุ่มคนร้ายกำลังจะหลบหนีเพราะตำรวจออกตามล่าพวกเขาอยู่เกลื่อนเมืองเขาจะต้องมีเงินก้อนในการหนีไปกบดานเสียก่อนจึงโทรมาขอค่าจ้างจากแขไขในเมื่อติดต่อทางเบอส่วนตัวไม่ได้ก็เลยโทรเข้าเบอบ้านแทน“ทำไมพวกแกทำงานพลาดแบบนี้ห้ะ”แขไขมือไม้สั่นที่รู้ว่าลูกน้องฝีมือดีของเธอต้องเสียไปหนึ่งคนแถมงานที่สั่งให้ไปเก็บเหนือเมฆกับลูกเมียก็ยังพลาดอีก“ผมจะรู้ไหมว่ามันมีพวกเยอะขนาดนั้น...จ่ายมาซะดีๆ”ปลายสายเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทีว่าคนสั่งงานจะไม่จ่ายเงิน“ฉันไม่ให้ทำงานพลาดแล้วยังจะมาเรียกร้องอีกหรือไง”แขไขไม่มีเงินที่จะจ่ายใครทั้งนั้นพร้อมทั้งยังวางสายไม่สนใจลูกน้องที่ทำงานห่วยแตกให้เธอต้องมานั่งเครียดอีกRrr“ไม่ต้องรับ”“ค่ะๆ”แขไขสั่งแม่บ้านเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินมารับโทรศัพท์ตอนนี้เธอต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหาแต่ความกังวลใจในตอนนี้ทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก2 วันต่อมาเกาะเวหา“ตำรวจจับคนร้ายได้บางส่วนแล้วครับมันรับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดคุณแขไขเป็นคนบงการครับ”“ในที่สุดบ้านฉันก็สลัดผู
21.30 น.“ช่วงนี้งานพี่ไม่ค่อยยุ่งแล้วขวัญอยากไปไหนไหม”เหนือเมฆนอนกอดพาขวัญอยู่บนเตียงนุ่มส่วนจันทร์เจ้าที่หลับแล้วก็นอนอยู่ในเปลช่วงนี้หนูน้อยค่อนข้างติดเปลอย่างมากตั้งแต่ที่ไปเกาะคราวนั้นแล้วช่วงนี้ชายหนุ่มเห็นว่างานทุกอย่างเริ่มลงตัวหมดแล้วเขาจึงอยากพาครอบครัวรวมทั้งตัวเขาเองไปพักผ่อนบ้างจึงอยากถามความเห็นจากคนเป็นภรรยาว่าอยากจะไปที่ไหน“พาคุณพ่อไปเที่ยวบ้างก็น่าจะดีนะคะ”พาขวัญเห็นด้วยกับชายหนุ่มที่จะไปหาที่เที่ยวพักผ่อนเพราะเธอก็อยากให้อิทธิวัฒน์ได้ออกจากบ้านบ้างเผื่อสภาพจิตใจจะดีขึ้นเพราะเธอรู้ว่าอิทธิวัฒน์ยังปลงไม่ตกเรื่องที่ผ่านมาถึงแม้จะใช้ชีวิตได้ปกติแล้วก็ตาม“ที่ไหนดีล่ะ”เหนือเมฆอยากรู้ว่าหญิงสาวอยากจะพาพ่อเธอไปที่ไหนเขาเองนึกไม่ค่อยออกเหมือนกันหากเป็นผับบาร์ก็คงจะรู้ดีเพราะเมื่อก่อนเขาเที่ยวสถานที่แบบนี้ค่อนข้างบ่อยหรือเรียกได้ว่าเกือบทุกวัน“อืม...ขวัญอยากไปเที่ยวที่บ้านบ้างได้ไหมคะ”พาขวัญเห็นว่าเธอไม่ได้กลับไปที่บ้านเธอที่ลำปางนานแล้วอีกอย่างที่นั่นก็อากาศดีและมีสถานที่เที่ยวอยู่เหมือนกันและอีกอย่างเธอก็เธออยากจะไปเยี่ยมเพื่อนเธอด้วยเห็นว่าเปิดร้านขายขนมไทยแล้วก็ขาย
ลำปาง18.00 น.หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นพระพายก็หนีกลับมาที่บ้านก่อนที่ภูผาจะกลับเธอปิดช่องทางการติดต่อจากชายหนุ่มทุกช่องทางและลาออกจากสำนักงานเธอใช้เงินที่พาขวัญทิ้งไว้ให้เจ็ดแสนมาเปิดร้านขายขนมไทยกับแม่เธอสองคนในตลาดที่อำเภอเป็นเดือนแล้วนานๆทีจะไปดูบ้านเธอกับพาขวัญสักครั้ง“แม่เหนื่อยไหม”ร้านขนมไทยของพระพายค่อนข้างขายดีเพราะฝีมือของมานีที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอนโดยมีพระพายเป็นลูกมือ“ขายของเยอะเห็นเงินแบบนี้มันก็หายเหนื่อย”มานีไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยเพราะเธอทำงานแล้วมันเห็นเงินความเหนื่อยก็หายไปปลิดทิ้ง“พรุ่งนี้แม่เตรียมทำสังขยารอเลยนะไอ้ขวัญน่าจะมาถึงตอนบ่ายๆ”พระพายตั้งหน้าตั้งตารอพาขวัญกลับมาเธอไม่ลืมที่จะเตือนแม่เธอให้ทำขนมของโปรดพาขวัญเอาไว้ให้เป็นเพราะเงินของเพื่อนเธอจึงทำให้เธอมีร้านจนทุกวันนี้“รู้แล้วล่ะน่า...”มานีเตรียมวัตถุดิบเอาไว้บางส่วนแล้วเธอไม่ลืมที่จะรอต้อนรับพาขวัญอยู่แล้ว“เออ...แม่ว่าแกไปดูบ้านให้หนูขวัญหน่อยก็ดีนะ”มานีเห็นว่าพาขวัญจะมาพรุ่งนี้แล้วเลยอยากให้ลูกสาวเธอไปดูบ้านให้เรียบร้อยเสียหน่อยเพราะไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์แล้ว“พายก็ว่าจะไปพอดีจะแม่...เดี๋ยวนอนท
“ใครใช้ให้คุณไปบอกพวกเค้ากันล่ะ...ทำให้มันเงียบไปก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”เธอคิดไว้แล้วว่าแม่เธอต้องมีอะไรบิดบังเธออยู่เป็นแน่แต่ก็ไม่ยักจะรู้ว่าแม่เธอกับชายหนุ่มหาเวลาไปคุยกันตอนไหนเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เรื่องเงียบไปโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องมาใส่ใจกับเธอแค่นี้ทุกอย่างก็จะเงียบและเธอก็จะทำใจกับเรื่องนี้ได้เอง“รักตัวองบ้างหรือเปล่า”ภูผาอยากจะรู้นักที่เขาทำตัวของเธอเสียหายขนาดนี้ยังอยากให้เขาเฉยกับมันได้อีก“รักสิถึงได้พยายามปกป้องความรู้สึกตัวเองอยู่นี่ไง”พระพายรักตัวเองอยู่แล้วที่เธอพยายามอยู่ห่างเขาไม่อยากเห็นอยากเจอเพราะเธอต้องการรักษาแผลใจของเธออยู่นั่นเอง“ไม่รู้ล่ะ...อีกสองวันเตรียมตัวรอได้เลยเราจะแต่งงานกัน”ภูผาชักเห็นว่าหญิงสาวจะไม่ยอมแต่โดยดีเขาก็จะต้องใช้วิธีบังคับเสียแล้ว“นี่ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม....อื้มมม”พระพายต้องชะงักเมื่อจู่ๆชาหนุ่มก็ฉวยโอกาสบดจูบมาที่ปากบางของเอย่างไม่ได้ตั้งตัวแถมยังหนีเขาไปไหนไม่ได้เพราะแรงกอดรัดของเขา“ถ้ายังดื้ออีกเจอมากกว่านี้แน่...ไปนอนได้แล้วดึกแล้ว”ภูผาไม่ได้แค่ขู่แต่เขาเอาจริงชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบรีโมทปิดทีวีพร้อมพาหญิงสาวเข้าไปนอนในห
“หืมม...สังขยา”เมื่อถาดสังขยามาวางตรงหน้าหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะตักแบ่งใส่จานกินกับข้าวเหนียวมูนอย่างคำโต“ค่อยๆกินก็ได้ขวัญ...ไม่กลัวอ้วนเหรอ”เหนือเมฆไม่เคยเห็นพาขวัญทานเยอะขนาดนี้มาก่อนสงสัยนี่จะเป็นของโปรดจริงๆแต่ก็อดแซวไม่ได้ว่าภรรยาของเขาจะน้ำหนักขึ้น“ไม่ค่ะได้กินของโปรดทั้งที”พาขวัญไม่กลัวอะไรแล้วนานๆทีได้กินของโปรดฝีมือของมานีทั้งทีหญิงสาวจึงตักเข้าปากไม่หยุดและไม่มีท่าทีว่าจะอิ่มด้วยซ้ำจนคนอื่นๆรอบโต๊ะอาหารไม่มีใครกล้าตักแบ่งสังขยาในถาดเข้ามาในจานของตัวเองเลยเพราะกลัวว่าจะไปแย่งพาขวัญ“พายไม่กินเหรอ”ตอนนี้ทุกคนก็ต่างทานของหวานกันล้างปากมีอยู่คนเดียวที่ไม่กินเห็นจะเป็นพระพายพาขวัญจึงต้อถามขึ้นว่าเพื่อนเธอไม่หิวหรืออย่างไรหรือจะไดเอทไว้ใส่ชุดแต่งงานอันนี้เธอก็ไม่แน่ใจ“ไม่อ่ะ...ฉันมีไอ้นี่...กินด้วยกันไหม”พระพายรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกินของหวานพวกนี้เท่าไรเพราะตอนนี้เธอมีมะม่วงน้ำปลาหวานที่ชวนน้ำลายสออยู่มือที่แม่ของเธอพึ่งจะยื่นให้เมื่อกี้นี้เอง“เอาสิ...”พาขวัญเห็นว่าอะไรอยู่ในมือเพื่อนของเธอก็ตาลุกวาวเธอรู้สึกเปรี้ยวปากขึ้นมาในทันที“ยังไม่อิ่มอีกเหรอขวัญ”เหนือเมฆถึงกับผงะจ
3 เดือนต่อมาบ้านเหนือเมฆ“จันทร์เจ้าขา...อย่าหนีคุณแม่สิคะ”ตอนนี้ท้องของพาขวัญก็แก่ใกล้คลอดเต็มทีหญิงสาวจึงเดินตามลูกสาวของเธอไม่ค่อยจะไหวหนูน้อยจันทร์เจ้าก็ได้ขวบครึ่งแล้วเด็กหญิงเดินแทบจะทั้งวันหยุดได้ก็เห็นจะเป็นเวลานอนเท่านั้นแหละ“.หม่ำๆ หนมหย่อย”หนูน้อยเดินกลับมาหาคนเป็นแม่พร้อมชี้ไปที่ขนมผักที่อยู่ในกล่องแน่นอนว่าหนูน้อยอยากจะกินมันอีกแล้ว“หิวอีกแล้วเหรอคะ...อะนี่ค่ะคุณแม่ให้”พาขวัญเห็นว่าช่วงนี้จันทร์เจ้าชอบกินแต่ขนมจนเธอต้องให้เหนือเมฆซื้อติดบ้านไว้อาทิตย์ละหลายๆกล่องใจก็กลัวว่าหนูน้อยจะไม่สบายท้องแต่ก็เห็นหน้าอันจิ้มลิ้มและสายตาที่อ้อนวอนเธอก็อดจะให้หนูน้อยกินตามใจปากไม่ได้“เอา...”จันทร์เจ้ารับขนมจากคนเป็นแม่ใส่ในมือข้างขวาแต่มือข้างซ้ายก็แบขอคนตรงหน้าอีก“กินในมือให้หมดก่อนค่ะ”ถึงพาขวัญจะตามใจเรื่องกินแต่เธอก็ต้องให้จันทร์เจ้านั้นรู้จักกินทีละอย่างไม่โลภมากถือสองไม้สองมือ“กลับมาแล้วเหรอคะ”“จะ”ฟอดดด“จันทร์เจ้าครับ”เหนือเมฆเข้ามากอดคนเป็นภรรยาพร้อมหอมหญิงสาวฟอดใหญ่และหันไปเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาต่อ“คูนน.พ่อ...ดีจ้า”หนูน้อยจันทร์เจ้าเห็นคนเป็นพ่อกลับมาก็รีบเดิ
โรงพยาบาลในระหว่างที่เหนือเมฆเดินทางกลับพาขวัญก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพราะเธอรู้สึกปวดท้องอย่างมากเหนือเมฆเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากที่บ้านไปที่โรงพยาบาลอย่างร้อนใจ“ขวัญ...เป็นไงบ้าง”พยาบาลเข็นเตียงหญิงสาวเข้าห้องผ่าตัดเหนือเมฆอยากจะรู้ว่าอาการของภรรยาของเขาเป็นอย่างไรเพราะเขากลัวว่าเธอจะมีอันตรายส่วนเรื่องติดต่อกับเอมิกาเธอให้เดย์จัดการอยู่“ขวัญโอเคค่ะ...พาจันทร์เจ้ากลับมาให้ได้นะคะ”พาขวัญยิ้มให้คนเป็นสามีตัวเธอตอนนี้ถึงมือหมอแล้วเธอโอเคแต่เธอห่วงจันทร์เจ้ามากกว่า“พี่สัญญา”เหนือเมฆรู้สึกกังวลไปเสียทุกเรื่อถึงภรรยาของเขาจะบอกว่าโอเคแต่การผ่าตัดทำคลอดด่วนเขาก็รู้ว่ายังไงมันก็อยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดีแต่เขาก็ยต้องชั่งใจไม่ให้กังวลคิดเสียว่าภรรยาของเขาอยู่ในมือหมอแล้วคงจะปลอดภัย“ได้ที่อยู่มาแล้วครับคุณเหนือ”นภัสติดต่อกับเอมิกาได้ก็รีบมาบอกคนเป็นนายอย่างรีบร้อน“งั้นเราไปกันเลย”เหนือเมฆไม่รอช้าเมื่อติดต่อเอมิกาได้เงินที่เธออยากได้เขาก็เตรียมพร้อมหมดแล้วขอแค่เขาได้จันทร์เจ้าคืนมาเงินเท่าไรเขาก็ยอมแลกวันต่อมาช่วงเย็นของวัน“อือ.อืมม...”“ฟื้นแล้วเหรอ”เหนือเมฆรีบเดินไปที่เตียงภรรย