“สวัสดีค่ะคุณเหนือ”
แม่บ้านวัยห้าสิบต้นๆมายืนรอรับคนเป็นเจ้านายที่นานๆจะกลับมาที่บ้านทีนึงทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เจ้าของบ้านจะพาใครมาอยู่เพราะเขาสั่งให้พวกเธอเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงเด็กอ่อนไว้ล่วงหน้าแล้ว
“นี่ภรรยาฉันชื่อพาขวัญเรียกเธอว่าคุณขวัญส่วนนี่ลูกสาวของฉันชื่อจันทร์เจ้าทุกคนช่วยกันดูแลเธอเหมือนที่ดูแลฉันด้วย”
เหนือเมฆเดินเขามาถึงหน้าบ้านเมื่อเห็นแม่บ้านสองคนที่ดูแลบ้านของเขาก็รีบนะน้ำคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขาให้พวกเธอได้รู้จัก
“ค่ะ/ค่ะ.คุณเหนือ”
แม่บ้านทั้งสองยินดีต้อนรับคนที่จะมาอยู่ที่นี่เสมอและยิ่งรู้ว่ามีคุณหนูตัวน้อยมาอยู่ด้วยพวกเธอก็ยิ่งยินดี
“สวัสดีค่ะทุกคนยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
พาขวัญยิ้มทักทายทั้งสองอย่างเป็นมิตรและเดินตามาชายหนุ่มเข้าบ้านไปเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าเริ่มรู้สึกตัวตื่นแล้วเธอจะต้องรีบเตรียมนมและเตรียมเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกสาวตัวน้อยของเธอ
“คุณห้องฉันกับจันทร์เจ้าอยู่ไหนฉันจะเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้า”
พาขวัญต้องรีบถามชายหนุ่มว่าห้องเธออยู่ที่ไหนเพราะเธอต้องรีบจัดเตรียมที่จะชงนมและเปลี่ยนแพมเพิสให้จันทร์เจ้าก่อนที่จะงอแง
“ตามผมมา”
เหนือเมฆเดิ่นดิ่งตรงไปที่ห้องใหญ่ที่อยู่ด้านในของบ้านเป็นห้องชั้นล่างที่ติดกับสวนหย่อมของบ้านเขาย้ายของเขาลงมาชั้นล่างและในห้องยังกว้างพอที่จะวางทั้งเปลเด็กและมีพื้นที่ให้เด็กเล่นอีกด้วย
“นี่คุณซื้อของเตรียมพร้อมไว้เยอะเกินไปไหม”
พาขวัญเดินเข้าห้องมาก็เห็นอุปกรณ์และของใช้สำหรับเด็กเต็มไปหมดของที่ขนใส่รถแล้วให้นภัสขับตามมาก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะซื้อเพิ่มอีกทำไม
“ให้มันเหลือดีกว่าขาดจริงไหม”
เหนือเมฆไม่ได้สนใจว่าเขาจะซื้ออะไรเยอะเกินไปให้มันมีของเหลือดีกว่าของไม่พอใช้เขาคิดแบบนี้
“ว่ายังไงคะคนสวยตื่นแล้วเหรอ...หิวอีกแล้วใช่ไหมคะ”
พาขวัญวางหนูน้อยลงบนเตียงนอนสีขาวนุ่มในห้องพร้อมหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาเปิดหยิบผ้ายางรองฉี่ของเด็กอ่อนมาปูที่เตียงพร้อมอุ้มหนูน้อยว่างบนผ้ารองฉี่และทำการเปลี่ยนแพมเพิสทันทีพร้อมคุยเล่นกับหนูน้อยไปพลางๆเพื่อให้หนูน้อยนั้นอารมณ์ทชดีที่มีคนคุยด้วย
“แอร้ๆๆ...แอ้.”
หนูน้อยหน้ากลมแก้มย้วยพอได้ยินเสียงของพาขวัญก็ส่งเสียงอ้อแอ้เสียงดังโต้ตอบด้วยทั้งยังฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้คนที่หลงอยู่แล้วหลงหนักเข้าไปอีก
“แม่ขอเปลี่ยนแพมเพิสก่อนนะคะเดี๋ยวจะให้กินนมน้า”
“ให้ฉันช่วยอะไรไหม”
เหนือเมฆเห็นภาพตรงหน้าก็อดยิ้มตามไม่ได้เขารู้สึกอบอุ่นกับภาพตรงหน้าอย่างมากพร้อมทั้งยื่นมือเข้าช่วยหญิงสาวถ้าหากเธออยากจะให้เขาช่วย
“เอ่อ...คุณเปิดกระเป๋าชงนมก็ได้ค่ะในกระเป๋าจะมีขวดนมใส่น้ำอยู่คุณเอานมที่อยู่ในกระปุกที่เป็นชั้นใส่ได้เลยค่ะ”
พาขวัญเห็นว่าเรื่องชงนมชายหนุ่มน่าจะทำได้อย่างง่ายๆเพราะเธอใส่น้ำในขวดนมเอาไว้และนมก็แบ่งสัดส่วนไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
“อ๋อ...โอเค”
เหนือเมฆมีท่าทางเงอะๆงะๆเล็กน้อยเพราะนี่เป็นสิ่งที่แปลกที่เขาไม่เคยทำชายหนุ่มหยิบขวดนมขึ้นมาวางด้านนอกพร้อมกับกระปุกที่เป็นชั้นๆและมีนมผงอยู่ด้านใน
“ล้างมือก่อนนะคะ”
พาขวัญหันไปมองเหนือเมฆเธอต้องสั่งให้เขานั้นไปล้างมือก่อนที่จะชงนม
“เอ่อ...อืม...”
เหนือเมฆจำต้องทำตามคำสั่งของหญิงสาวเพราะเขาเองก็ลืมไปเสียสนิทว่าเขาไปไม่ได้อยู่แต่บ้านดังนั้นมือเขาอาจจะมีเชื้อโรคได้
“เรียบร้อยปิดฝาแล้วก็เขย่าเลยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“แล้วน้ำที่ชงนมไม่ต้องใช้น้ำร้อนเหรอ”
เหนือเมฆไม่เคยรู้มาก่อนว่านมผงจะละลายในน้ำอุณหภูมิปกได้เขาคิดว่าต้องชงด้วยน้ำร้อนเสียอีก
“ไม่ค่ะเป็นน้ำต้มสุกหรือน้ำที่ยังอุ่นๆค่ะ”
“อ่อ...อืม”
ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวบอกเขาเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่เธอบอกไว้ในหัวหมดแล้วเพราะเขาต้องการที่จะดูแลหลานของเขาอย่างดีที่สุดที่ตอนนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกของเขาแล้ว
“ฉันขอป้อนจันทร์เจ้าเองได้ไหม”
เหนือเมฆอยากจะลองเป็นคนที่ป้อนนมหนูน้อยดูบ้างเพราะเขาก็เห็นว่ามันไม่ได้ยากอะไรและอยากจะสานสัมพันธ์กับหนูน้อยน่ากลมเอาไว้ด้วยเมื่ออยู่ใกล้เขาจะได้ไม่ร้องให้อีก
“ค่ะ...ลองสิคะ”
พาขวัญไม่ปฏิเสธที่จะให้ชายหนุ่มลองเลี้ยงจันทร์เจ้าดูเพราะเธอก็อยากให้จันทร์เจ้าได้รับรู้ว่าเค้านั้นมีทั้งพ่อและแม่ที่คอยอยู่ข้างๆเค้าตลอดเวลา
“ทำไมจันทร์เจ้ามองฉันแบบนั้น”
เหนือเมฆอุ้มจันทร์เจ้าอย่างที่หญิงสาวเคยสอนพร้อมป้อนนมแบบที่หญิงสาวเคยป้อนเช่นกันแต่หนูน้อยกลับไปดูดนมที่เขาส่งใส่ปากแต่กลับอมจุกนมพร้อมมองหน้าของคนที่ป้อนด้วยอาการคิ้วขมวดและจ้องคนตรงหน้าเขม็งจนชายหนุ่มต้องหันหน้าไปหาหญิงสาวเพราะอยากรู้ว่านี่คืออาการปกติของหนูน้อยหรือเปล่า
“จันทร์เจ้าคะ...นี่คุณพ่อของหนูไงคะ...เอ๊...คิ้วขมวดใหญ่เลยเด็กดีกินนมกับคุณพ่อนะคะ”
พาขวัญอมยิ้มเล็กน้อยที่เห็นอาการของหนูน้อยในอ้อมแขนของชายหนุ่มเธอรู้ว่าจันทร์เจ้าคงจะแปลกใจในเมื่อคนป้อนนมไม่ใช่คนเดิมเธอค่อยๆนั่งข้างๆชายหนุ่มแล้วยื่นหน้าเข้าไปคุยกับหนูน้อยเธอรู้ว่าจันทร์เจ้าจะรับรู้สิ่งที่เธอบอกได้
“แอร๊...อืม”
หนูน้อยเห็นหญิงสาวก็ส่งเสียงตอบรับพร้อมดูดนมในขวดทันทีแต่คิ้วก็ยังคงขมวดเช่นเดิมพร้อมยังจ้องหน้าชายหนุ่มไม่ละอีกด้วย
“ดูทำหน้าเข้าสิ”
เหนือเมฆรู้ได้ยินคำว่าคุณพ่อในใจของเขามันรู้สึกดีไม่ใช่น้อยที่ดูเหมือนเขามีครอบครัวจริงๆทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าชีวิตเขาจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยซ้ำยิ่งเขามองหน้าคนตัวจิ๋วที่อยู่ในอ้อมแขนก็ยิ่งเอ็นดู
“555....อีกหน่อยลูกก็คงจะคุ้นกับคุณเอง”
พาขวัญอดขำกับท่าทางของจันทร์เจ้าไม่ได้เธอคิดว่าอีกไม่นานจันทร์เจ้าก็คงจะคุ้นกับชายหนุ่มเอง
“อืมม...”
เหนือเมฆละสายตามามองหญิงสาวเพราะรอยยิ้มของเธอหน้าตาของเธอตอนนี้มันบ่งบอกถึงความสุขอย่างที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมาทำให้เขาหยุดมองเธอไม่ได้จริงๆ
“มองอะไรคะ??...”
พาขวัญมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจที่เขาเอาแต่มองเธอทั้งที่มือยังถือขวดนมอยู่เธอจึงคิดว่าเขาอาจจะมีอะไรที่อยากจะพูดกับเธอ
“อ๋อ...เปล่านี่”เหนือเมฆรู้ตัวว่าทำให้หญิงสาวรู้ตัวจึงรีบหันกลับไปมองจันทร์เจ้าทันทีคราวนี้หนูน้อยไม่มีอาการขมวดคิ้วแล้วแต่ยื่นมือมาเล่นนิ้วก้อยของเขาที่จับขวดนมอยู่แทนด้วยสายตาที่ยังสงสัยเช่นเดิม“คุณเหนือคะ...ในบ้านของคุณทุกห้องจะมีรูปคุณตั้งทุกห้องแบบนี้เลยเหรอคะ”พาขวัญมองไปรอบๆห้องเธอเห็นมีแต่รูปของชายหนุ่มวางตั้งอยู่เต็มไปหมดน่าจะเป็นรูปของเขากับพี่ชายเป็นแน่เธอคิดว่าหากห้องนี้มีรูปเขาอยู่ห้องอื่นๆก็น่าจะมีด้วย“เปล่าหรอกผมพึ่งให้คนย้ายห้องนอนผมลงมาที่นี่”เหนือเมฆส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมบอกกับหญิงสาวว่ามันมีแค่ห้องของเขาเท่านั้นที่จะมีรูปเขาอยู่“ที่นี่ห้องนอนคุณเหรอคะ”พาขวัญทำหน้างงเล็กน้อยคราแรกเขาบอกว่าที่นี่ห้องของเธอกับจันทร์เจ้าไหนที่พูดเมื่อครู่มันหมายความว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาเต็มๆเลยล่ะหรือว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปจึงถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกที“ใช่เราจะนอนด้วยกัน”เหนือเมฆคิดว่าถ้าตกลงจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้จันทร์เจ้าและคนอื่นๆก็รับรู้แบบนั้นเขาและเธอก็จะต้องอยู่ห้องเดียวกันอยู่แล้วคนในบ้านจะได้ไม่สงสัยและจะไม่มีอะไรผิดสังเกตด้วยอีกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของหญิงสาวและจันทร์เจ
“บอกให้เรียกยังไง.”ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะลืมอะไรเร็วขนาดนี้เขาบอกให้เธอเรียกเขาให้ชินปากแต่ก็ต้องเตือนกันอยู่เรื่อย“เอ่อ...พี่เหนือ”พาขวัญเองก็ลืมตัวเธอเองยังไม่ชินเพราะนี่ก็พึ่งจะวันแรกที่เธอต้องเรียกเขาแบบนี้“นี่ที่นอนพี่เดี๋ยวขวัญกับลูกนอนบนเตียงก็แล้วกัน”เหนือเมฆไปขนฟูกนอนจากในห้องของเขามาเพื่อที่หญิงสาวจะได้นอนอย่างสบายใจและไม่อึดอัดด้วย“ค่ะ”พาขวัญคิดว่าชายหนุ่มยังใจดีกับเธอบ้างที่จะไม่ทำให้เธออึดอัดไปมากกว่านี้“ขวัญ...”“คะ??...”“คือพี่อยากจะรู้เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของขวัญเผื่อใครถามจะได้ตอบตรงกันไง”เหนือเมฆคิดว่าเขาและเธอจะต้องมาทำความรู้จักกันให้เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยเพราะแม่เลี้ยงของเขายิ่งชอบจับผิดเก่งอยู่ด้วย“อืมค่ะ...คือขวัญเกิดที่ลำปางพอพ่อเสียแม่ก็พาย้ายไปอยู่ภูเก็ตตอนที่จบม.6 แล้วตอนนี้ขวัญอายุ25เรียนจบบริหารธุรกิจการตลาดแล้วพอแม่เสียขวัญก็ทำงานที่ภูเก็ตจนตกงานแล้วก็กลับมาอยู่ที่ลำปางได้ประมาณเดือนนึงค่ะ”พาขวัญเล่าประวัติคร่าวๆของเธอให้เขาฟังว่าชีวิตของเธอเป็นอย่างไร“อ๋อ...แล้วไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ”หากพ่อแม่เสียหมดเขาอยากจะรู้ว่าหญิงสาวมีญาติที่ไหนอีกหรือ
“โอ้โห...หลานปู่แก้มย้วยอย่างนี้ล่ะคงจะกินเก่งน่าดู”“ค่ะ”อิทธิวัฒน์ก้มมองหน้าหลานของเขาในอ้อมแขนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เห็นแก้มย้วยๆของหนูน้อยก็รู้สึกเอ็นดูอย่างมากได้ข่าวว่าพึ่งคลอดแต่ดูหนูน้อยจะเจ้าเนื้อเสียเหลือเกินจนเขาอยากจะอุ้มฟัดเล่นติดอยู่ที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นเขาจึงไม่อยากปลุก“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ...น้าว่าเข้ามาด้านในกันก่อนเถอะ”แขไขทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญทุกคนเข้าไปคุยกันข้างในบ้าน“คุณพ่อไม่โกรธผมเหรอครับที่ผมไม่ได้บอก”เหนือเมฆไม่เห็นพ่อเขาจะมีอาการต่อว่าอะไรเขาสักนิดเขาจึงนึกแปลกใจเพราะปกติอย่างน้อยก็ต้องมีคำว่าสักคำเมื่อเจอหน้าของเขา“ฉันจะโกรธแกเรื่องอะไรดีใจเสียอีกที่แกมีเมียมีลูกเสียทีนึกว่าจะทำตัวเสเพลกู่ไม่กลับเสียแล้ว”อิทธิวัฒน์ไม่อยากทำลายบรรยากาศครอบครัวแค่ลูกชายของเขามีเมียมีลูกเสียทีเขาก็หายห่วงแล้ว“แล้วนี่อาการคุณพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ”เหนือเมฆเห็นคุณพ่อของเขาหน้าตาสดใสขึ้นก็อยากจะรู้เรื่องออาการป่วยว่าพ่อของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้างถึงแม้อาการภายนอกจะดูปกติแต่ภายในมันป่วยอยู่ขั้นไหนเขาก็อยากจะรู้“ก็อย่างที่เห็นฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว...อ้าว...หลานปู่ตื
“เอ่อ...ในครัวมีผลไม้เต็มเลยเดี๋ยวน้าไปเตรียมมาให้หนูขวัญดีกว่านะจ๊ะพึ่งคลอดต้องกินของที่มีประโยชน์เยอะ”แขไขเห็นว่าเธอต้องหลบไปสงบสติสักพักเพราะใจเธอตอนนี้มันร้อนรุ่มไปหมดกลัวว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำมามันจะพัง“ขอบคุณนะคะ”“ไปยัยเอมไปช่วยแม่”“เอ่อ...ค่ะ”เอมิกาเห็นแม่ของเธอส่งสายตาแปลกๆมาให้เธอก็พอจะรู้ว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอจึงเดินตามแม่ของเธอออกไปแต่โดยดี“หึ้ย...หมั่นไส้มันจริงๆ”เมื่อมาถึงห้องครัวเอมิกาก็มือไม้สั่นเพราะต้องปั้นหน้ายิ้มให้พาขวัญอยู่นานพอควร“ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไปแน่”แขไขเองก็เช่นกันเธอโกรธจนระงับอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่“แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะในเมื่อคุณเหนือก็จะแต่งงานอยู่แล้ว”“ดีที่ฉันขัดไว้ก่อนได้ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ฉันก็ต้องทำให้คุณอิทยกทุกอย่างให้พวกมันดูแลให้ช้าที่สุด”ตอนนี้แขไขขอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าจะเป็นยังไงแต่เธอก็จะทำให้มันช้าที่สุดเท่าที่ช้าได้เพราะเธอต้องหาวิธีจัดการก่อนไม่คิดว่าจู่ๆเหนือเมฆจะมีลูกมีเมียแล้วคิดแต่งงานเสียรวดเร็วขนาดนี้ทางด้านอิทธิวัฒน์“แล้วทางบ้านหนูขวัญรู้เรื่องนี้หรือยัง”อิทธิวัฒน์ก็อยากจะรู้ว่าทางบ้านพาขวัญรู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเ
“ท่าทางเธอจะอยากกินมันมากเลยสินะ”เหนือเมฆไม่อยากจะให้มันเสียบรรยากาศเพราะเห็นหญิงสาวหน้าหงอยไปแล้วจึงหันไปหาเรื่องคุยถึงเรื่องอาหารที่เธอทำแทน“ค่ะขวัญไม่ได้กินของแซ่บๆพวกนี้นานแล้ว”พาขวัญเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะสนใจอาหารที่เธอพึ่งเทลงจานจึงยื่นให้เขานั้นได้ดูว่ามันน่ากินแค่ไหน“ดูท่าจะเผ็ดน่าดู”เหนือเมฆเห็นสีของมันเขาก็มีอาการแสบท้องแล้วเพราะเขาไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กอาหารรสจัดเขาจึงไม่คุ้นชินเท่าไร“อร่อยนะคะลองชิมสิคะ”พาขวัญยังอยากให้ชายหนุ่มลองชิมฝีมือของเธอเผื่อเขาจะชอบวันหลังเธอนั้นจะได้ทำอีก“อืม...ก็อร่อยดีนะแต่รสชาติมันเผ็ดไปหน่อย”เหนือเมฆใช้ส้อมจิ้มกุ้งชิ้นโตที่ปกคลุมไปด้วยพริกที่อยู่ในจานใส่ปากพร้อมเคี้ยวเขาว่ารสชาติมันก็อร่อยดีแต่ติดตรงที่มันเริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้เหงื่อของเขาผุดอออกมาเต็มไปหมดหน้าก็เริ่มแดงขึ้นจนเขาต้องพ่นลมปากออกมาเพื่อระบายความเผ็ด“ท่าทางพี่เหนือจะกินเผ็ดไม่ได้เลยใช่ไหมคะเนี่ย”พาขวัญเห็นอาการชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนที่ทานอาหารเผ็ด“ก็นิดหน่อย”ชายหนุ่มตอบอย่างรักษาฟรอมตัวเองทั้งที่แท้ที่จริงแล้วเขาแทบจะไม่ทานอาหารที่มีพริกเลยต่างหาก
“อ๋อ...อืมงั้นพักเถอะเดี๋ยวคืนนี้พี่จะดูจันทร์เจ้าเอง”“ขอบคุณนะคะ”เหนือเมฆก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้อาการข้างเคียงวันนั้นของเดือนของหญิงสาวมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงคืนนี้เขาก็อยากจะให้เธอพักเรื่องจันทร์เจ้าเขาคิดว่าเขาดูแลเองได้เช้าวันต่อมาบริษัทXXเครืออธิษฐ์เวหาบริษัทที่ที่เหนือเมฆดูแลอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่ขายอุปกรณ์กีฬาส่งให้โรงเรียนหลายแห่งในกรุงเทพและต่างจังหวัดส่วนมากลูกค้าเองเสียมากกว่าที่จะเดินเข้ามาขอซื้อของจากบริษัทที่นี่เพราะของคุณภาพดีและมีชื่อเสียงมานาน“ท่านประธานคะตอนช่วงเช้าคุณมีนัดคุยกับคุณนิสาลูกค้ารายใหญ่ของเราค่ะ”รตีทำหน้าที่รายงานงานสำคัญในวันนี้ให้เหนือเมฆดีรู้เขาจะได้เตรียมตัว“คุณนิสา”เหนือเมฆไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้สักเท่าไรเพราะลูกค้าของเขาก็มากมายเสียเหลือเกินส่วนมากคนที่ติดต่อก็จะเป็นนภัสคนสนิทของเขาเสียมากกว่า“เจ้าของโรงเรียนนานาชาติค่ะ”รตีรู้ว่าเจ้านายของเธอคงจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใครจึงย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าหญิงสาวคนนี้เป็นลูกค้าประจำที่เป็นเจ้าของโรงเรียน“อ๋อ...ครับ”เหนือเมฆพยักหน้าเข้าใจเขาพอจะนึกออกแล้วว่าเธอคนนี้เป็นใครวันนี้เขาต้องคุยกับเธอเองสินะเพราะทุ
“ไม่ค่ะแล้วแต่พี่เหนือเลยเราไม่ได้อยากแต่งกันจริงๆสักหน่อย”พาขวัญคิดไม่ออกหรอกว่าเธออยากจะได้ชุดแต่งงานแบบไหนเรื่องนี้เธอก็ขอแล้วแต่ชายหนุ่มเลยก็แล้วกันเพราะมันไม่ใช่งานแต่งของคนที่เค้ารักกันจริงๆเสียหน่อย“อืม...งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”“ค่ะ”เหนือเมฆรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไรเพราะดูเหมือนเขาไม่มีค่าในสายตาเธอคนอย่างเขามีคนมากมายที่อยากจะแต่งงานด้วยแต่หญิงสาวเปล่าเลยเธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้นสักนิดอันที่จริงเขาก็ควรดีใจที่หญิงสาวไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสนี้ผูกมัดเขาแต่มันก็อดหงุดหงิดหัวใจไม่ได้เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เหมือนกันพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เสียจะดีกว่าลำปาง19.00 น.“กลับมาแล้วเหรอ...พายแกได้ยินข่าวคนเค้าพูดกันไหม”มานีเห็นลูกสาวกลับบ้านมาเธอก็เริ่มถามสิ่งที่กำลังกังวลใจตอนนี้ทันที“ข่าวอะไรเหรอแม่”พระพายอยากจะรู้นักว่าไอ้ข่าวที่คนเค้าคุยกันข่าวอะไรเพราะปกติแล้วเธอก็ไม่ยักจะเห็นแม่เธอใส่ใจกับเรื่องซุบซิบนินทาของชาวบ้านมากนัก“ก็ที่แกกลับบ้านพร้อมหัวหน้าแกทุกวันคนเค้าก็เอาไปพูดกันว่าแกไปค้างคืนกับหัวหน้าแกน่ะสิ”
หลายวันต่อมาหลายวันมานี้เหนือเมฆอยู่ติดบ้านมากขึ้นเรื่องผู้หญิงหรือเที่ยวกลางคืนแบบเดิมไม่มีให้เห็นเลยสักนิดนภัสที่เป็นคนสนิทเองก็ยังแปลกใจชายหนุ่มสบายใจที่จะอยู่แบบนี้พอเลิกงานเขาก็อยากจะกลับบ้านมาเจอพาขวัญกับจันทร์เจ้าเหมือนเขานั้นมีลูกมีภรรยารออยู่ที่บ้านจริงๆ“พี่ไปก่อนนะ”“ค่ะ”วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เหนือเมฆต้องไปทำงานและจะต้องมีพาขวัญกับจันทร์เจ้าคอยยืนส่งทุกเช้าในสายตาคนอื่นทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่ดูจะรักกันมากแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจริงนั้นทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน“ตอนเย็นอย่าลืมทำของโปรดพี่รอไว้ด้วยล่ะ”“ค่ะ...พี่เหนือไต้องห่วงขวัญจัดการให้แน่ค่ะ”เดี๋ยวนี้ทุกเย็นพาขวัญจะเป็นคนลงมือทำอาหารเย็นเองเพราะชายหนุ่มค่อนข้างถูกปากกับอาหารฝีมือของเธอหญิงสาวเองก็มีความสุขที่ได้ทำอาหารให้ชายหนุ่มเธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีความสุขอย่างมากมันเหมือนครอบครัวของเธอช่างแสนอบอุ่นจนลืมคิดไปว่าเธออยู่ที่นี่เพียงเพราะต้องเป็นแม่ของจันทร์เจ้าเท่านั้นช่วงบ่ายของวัน“คุณขวัญ”เอมมิการู้ว่าตอนนี้เหนือเมฆไม่ได้อยู่ที่บ้านเธอจึงถือโอกาสมาดูความเป็นอยู่ของพาขวัญกับลูกนิดหน่อยตามคำสั่งของแม่เธอว่าควร