วันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้งซึ่งทุกครั้งมิคกี้ในร่างของต่อจะไปด้วยไม่มีพลาด และเป็นเจ้ามือตลอดไม่เคยขาด แต่ครั้งนี้ต่อตัวจริงกลับมาจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปเที่ยวสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูง ต่อนั้นเป็นคนเรียบง่ายมีโลกส่วนตัวสูง เขาชอบอยู่กับธรรมชาติ แต่ในครั้งนี้ที่เขาทนเรียนก็เพราะกำนันบุญมีขู่ไว้ และอีกอย่างเขารู้สึกเสียดายผืนนาที่พ่อของเขาขายส่งมาเรียน ต่อจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนต่อไปให้จบ ในวันนี้เขาจึงนอนอยู่ห้องอ่านหนังสือ ทำรายงานใครชวนไปไหนก็ไม่ไป การไปเที่ยวในครั้งนี้จึงมีเพียง พายัพกับสุชาดาและสุกี้ในร่างหน่อยที่กำลังเพลิดเพลินยุคอดีต ในส่วนของเกรทนั้นไม่ได้ไป เพราะเขาไม่ค่อยได้สนิทกับกลุ่มนี้เท่าไร ยกเว้นมิคกี้และต่อที่อยู่ในร่างเดียวกัน ช่วงเวลาที่ต่ออ่านหนังสือยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าใครกันที่มาหาเขา ต่อจึงเดินไปเปิดประตูเพื่อดูว่าเป็นใคร “มาทำไม”ต่อพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าของเกรท “กูก็ไม่อยากมาหรอก แต่กูลืมของไว้ที่ห้องมึง”เกรทเปลื่ยนสรพพนามทันที เลิกใช้คำสุภาพเพราะต่อคนนี้กลับมาเหมือนเดิม “เข้ามา”ต่อเดินนำมาและนั่งลงบนเตียงน
หลังจากที่ทั้งสี่ มิคกี้ หน่อย ยูโร และบิว ได้กินหมูกระทะเสร็จเรียบร้อย จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ในส่วนของยูโรและบิวได้ขับรถกลับไปคนละคัน ส่วนมิคกี้กับหน่อยได้กลับมาด้วยกันเช่นเคย ในระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านนั้น มิคกี้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะได้ใกล้ชิดหน่อยที่เริ่มรักจนหมดใจ ส่วนหน่อยนั้นก็แท่บไม่แตกต่างกันเทใจให้มิคกี้จนไม่มีเหลือให้ใคร ด้วยความรักทั้งสองที่มีให้กันอย่างเหลือล้น จึงทำให้ความรู้สึกที่อยากสัมผัสเรือนกายซึ่งกันมีอย่างเต็มพิกัด เมื่อมาถึงบ้านทั้งสองไม่เห็นรถพายัพกับโสภิตา มิคกี้ตัวต้นคิดและอารมณ์ถวิลครุกรุ่นในวัยหนุ่มพลุกพล่านขึ้นมา เขาจึงอยากจะชวนหน่อยพากันชิวหาในรสรัก แต่หน่อยนั้นยังกล้าๆกลัวๆด้วยหลายสาเหตุจึงยังไม่อยากที่จะทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้ เขาจึงลังเลและนั่งลงบนโซฟา “ทำไม่ไม่ไปในห้องนอนล่ะ”มิคกี้ถามและนั่งลงตาม “อิ่ม แน่นท้องนั่งสักพัก” “จริงด้วย หน่อยกินเยอะจนผิดสังเกต” “บ้านหน่อยไม่ได้รวยเหมือนมิคกี้กับสุกี้ไง ถ้าเกิดหน่อยไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว หน่อยก็คงไม่มีโอกาสได้กินอีก” “เอ่อ ถ้าได้กลับไปในอดีตนั่นเหรอ ไม่เป็นหรอกเดี๋ยวเราก็ไปซื้อมาทำกินกัน
สุกี้สัมผัสส่วนปลายท่อนเอ็นของมิคกี้อย่างหิวกระหายและชำนาญ เขาใช้ลิ้นตวัดรอยหยักจนสร้างความเสียวซ่านให้มิคกี้อย่างท่วมท้น สุกี้ทั้งอมและดูดท่อนเอ็นของมิคกี้อย่างสุดกำลัง เขาเลื่อนริมฝีปากต่ำจนสุดโคลนอมจนเกือบถึงคอหอย และรูดขึ้นสุดปลายจนเกือบหลุด สุกี้ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้ง และเน้นส่วนปลายของมิคกี้อีกครั้ง ซึ่งเป็นจุดไวต่อสัมผัสของชายหนุ่มทุกคน มิคกี้ทนความเสียวซ่านแท่บไม่ไหว จนเขาต้องครางออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา แต่สุกี้ยังไม่ยอมหยุด เขาได้ถอนจากท่อนเอ็นของมิคกี้มาเล่นพวงสวรรค์ที่ห้อยยานอยู่ สุกี้อมทั้งพวงและค่อยๆดูดอย่างช้าๆจนพวงสวรรค์เต็งตึงกลมสวย เมื่ออมจึงหนำใจของสุกี้ หลังจากนั้นเขาจึงถอดเสื้อผ้าออกจนเผยเห็นนมชมพู แต่มิคกี้เห็นเพียงแวบเดียวเพราะสุกี้รีบหันหลังให้มิคกี้ เพื่อคร่อมส่วนกลางลำตัวของมิคกี้ที่นอนหงายอยู่ มิคกี้มองแผ่นหลังที่ขาวใสของสุกี้ จนถึงบั้นท้ายที่กลมเต็งตึงนวลผ่อง เขาเห็นสุกี้จับท่อนเอ็นและจ่อที่ช่องทางรักและดันพรวดเดียวเข้าไปในทันที หลังจากนั้นสุกี้ก็ขย่มบั้นท้ายขึ้นลงอย่างช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นในเวลาต่อมา “อ่า โอว์ อูว์”เสียงของสุกี้ร้องออกมาด้วยความเสี
ในช่วงเวลานี้มิคกี้ไม่มีจิตใจที่อยากจะไปเที่ยวไหน เพราะเขายังกังวลใจเกี่ยวกับหน่อยที่เขาไม่ทราบว่าในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มิคกี้จึงปฏิเสธที่จะไปเที่ยวสังสรรค์เกี่ยวเพื่อนฝูง ในระหว่างที่เดินทางกลับห้องพักนั้น มิคกี้พลันเห็นเกรทได้อยู่คนเดียว เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาเกรทในทันที “เกรท จะกลับบ้านเหรอ” “ฮือ”เกรทพยักหน้าและเดินต่อ “ไปห้องเราไหม เราเหงาๆกลุ้มใจอยากหาเพื่อนคุย” “ไม่ไปไม่ว่าง” “นายเป็นอะไรดูเย็นชากับเราจังเลย” “นายน่าจะรู้ดี”เกรทก็รู้สึกแปลกใจว่าวันนี้ต่อเปลื่ยนไป เขาไม่รู้เลยว่ามิคกี้ได้กลับเข้ามาในร่างนี้อีกครั้ง “เรื่องอะไรเราไม่เข้าใจ”มิคกี้มีสีหน้าที่มึนงง “ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ เราไม่มีอะไรจะคุยกันนาย ต่างคนต่างอยู่นายเป็นคนบอกเองนี้เจอกันที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องทักกัน” มิคกี้ยืนนิ่งคิดหาคำตอบ ซี่งมิคกี้คิดว่าน่าจะมาจากต่อเป็นแน่ คงจะเกิดอะไรขึ้นกับสองคนอย่างไม่ต้องสงสัย มิคกี้จึงอยากเคลียร์เรื่องนี้ให้จบสิ้น “ไปคุยกันที่ห้อง มีอะไรเคลียร์กันที่โน้นเลย” “เคลียร์แล้วไม่ใช่เหรอ” “นั่นมันต่อที่เคลียร์กับนาย แต่เรามิคกี้ไม่รู้เรื่องด้วย” “นายเป็
ช่วงบ่ายแก่ๆมิคกี้เข้าไปคัดตัวเป็นนักฟุตบอลทีมหาวิทยาลัย เขาได้ไปแต่เพียงผู้เดียวเพราะพายัพนั้นได้ขอตัวพาสุชาดาไปเที่ยว คัดเลือกตัวในครั้งนี้ได้มีแทนนักศึกษาคณะวิศวกรรม ซึ่งเป็นพ่อของสุกี้ในอนาคต ขณะเดียวกันก็เป็นสามีของโสภิตา เมื่อมิคกี้เห็นก็ยิ้มให้และทักทาย แต่ได้รับการเมินเฉย เพราะมิคกี้เป็นเพื่อนสนิทของพายัพเขาจึงไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไร ในระหว่างที่ทดสอบฝีเท้าอยู่นั้น มิคกี้พลันไปเห็นเกรทและโสภิตาอยู่ข้างสนาม มิคกี้จึงยิ้มให้เกรททันที ซึ่งเกรทก็ตอบรับไมตรีมิคกี้ แต่แทนหันมาเห็นเขาพลันคิดไปว่ามิคกี้ยิ้มให้โสภิตา แต่แทนก็ยังไม่แสดงอาการใดๆออกมาจนการทดสอบฝีเท้าเสร็จสิ้น แทนจนเดินปรี่ตรงเข้ามาหามิคกี้ทันที “เมื่อกี้มึงยิ้มให้ใคร”แทนยืนท้าวเอวมองหน้ามิคกี้ “ให้ใครก็ได้”เมื่อมิคกี้พูดจบเขาก็เดินหนี “เดี๋ยวก่อน”แทนดึงชายเสื้อมิคกี้ไว้ มิคกี้ดึงเสื้อคืนและหันมาประจันหน้าแทน เกรทและโสภิตาเห็นท่าไม่ดีกลัวจะมีเรื่องราว ทั้งสองจึงรีบเดินมาหา มิคกี้และแทนที่กำลังยืนมองหน้ากันข้างสนาม “มีอะไรถึงกับดึงเสื้อ”โสภิตามองหน้าทั้งสองคน “เปล่าผมก็แค่ทักทาย ใช่ไหมมิคกี้” “นายว่าอย่างงั้น
เมื่อมิคกี้ได้พาสุกี้ไปรับประทานข้าวเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับมาที่ห้องและมาถึงห้องของมิคกี้ก่อน ซึ่งสุกี้ยังไม่เดินขี้นไปชั้นของเขา แต่ดันรออยู่ข้างหลังของมิคกี้เพื่อที่จะเข้าห้องไปด้วย “ขึ้นไปบนห้องของตัวเองได้แล้ว”มิคกี้หันมามอง “ขอนอนนี่ไม่ได้เหรอมีแอร์ด้วยนี่” “ไม่ได้ เราจ่ายค่าห้องให้นายแล้วนะ นายก็ควรที่จะไปอยู่ที่ห้องตัวเอง” “ก็เราอยากจะตอบแทนนายนี่ที่ช่วยจ่ายค่าห้องให้เราไง” “ไม่ต้องหรอก คืนนี้เราไม่สะดวก” “ก็ได้”สุกี้ขโมยหอมแก้มมิคกี้หนึ่งฟอด แล้วรีบเดินจากไปในทันทีทันใด สิ่งที่สุกี้ทำให้มิคกี้เขาไมได้รู้สึกอะไรเลย ถึงแม้หน้าตาจะเหมือนหน่อย แต่นิสัยต่างๆไม่ใช่คนที่เขาหลงรัก และอีกข้อสำคัญจิตวิญญาณเป็นของสุกี้เพียงแต่มาอยู่ในร่างหน่อย เขาจึงไม่ได้รับรู้สัมผัสที่สุกี้มอบให้ เมื่อมิคกี้เข้ามาถึงในห้อง สิ่งแรกที่เขาทำคือโทรหาพ่อกำนันเพื่อขอเงิน เพราะเงินไม่พอใช้ถึงแม้จะไม่ช่วยสุกี้ก็ตามที่ “ฮัลโหล ว่าไงไอ้ต่อ” “ผมมีเรื่องรบกวนพ่ออีกแล้วครับ” “เรื่องอะไร” “พ่อช่วยโอนเงินให้ผมหน่อยครับ” “พ่อบอกเองแล้ว ว่าอย่างไงเงินก็ไม่พอใช้ มึงยังมาขอลดอยู่ได้ จะเอาเท่าไรล่ะ
ต่อตัวจริงได้กลับมาแต่กลับมาพร้อมกับรอยฟกซ้ำจากหมัดของพายัพ วันนี้เป็นวันเสาร์ถือเป็นความโชคดีของเขา ที่ไม่ต้องไปเรียนเพราะร้สึกปวดที่ใบหน้า แต่นั่นไม่เท่ากับที่เขาหาทองและแหวนไม่เจอ ต่อค้นจนทั่วห้องและนั่งครุ่นคิดอยู่นานแต่เขาก็นึกไม่ออก ในระหว่างที่ต่อกำลังนึกว่าทองของเขาหายไปไหน เกรทเพื่อนเคยรักก็มาเคาะประตูตามคำเชิญชวนของมิคกี้ในร่างต่อ และพ่อกำนันของต่อที่บอกให้เกรทมาอยู่เป็นเพื่อน ต่อค่อยๆเดินไปเปิดประตูเพียงเขาเห็นหน้าเกรทยืนยิ้ม ต่อทำหน้าบึ้งใส่ทันทีและจะรีบปิดประตู “เดี๋ยวก่อน”เกรทดันประตูเข้าไป “มามีอะไร” “ก่อนที่จะถามเรา ขอเราถามก่อนหน้านายไปโดนอะไรมา”เกรทมีสีหน้าที่เป็นห่วงอย่างมาก “ไม่ต้องถาม ไม่ต้องรู้สักเรื่องจะได้ไหม กูบอกไม่ให้มึงมาแล้วมึงจะมาทำไมอีก” “ถามพ่อกำนันดูซิ” “เรื่องอะไร เกี่ยวอะไรกับพ่อของกู”ต่อมีสีหน้าที่สงสัย “ก็พ่อกำนันของนาย ไปหาพ่อของเราให้เรามาอยู่กับนาย บอกให้มาคุมความประพฤติของนาย” “ถึงว่าขนเสื้อผ้ามาเต็มหมด ของกินน่ะซื้อมาทำไมกูไม่ให้มึงอยู่หรอก” “อ้าว ก็นายบอกเราเองนี่ให้มาได้ มาทำอะไรกินกัน เราซื้อมาเต็มเลย ไหนๆเรากับนายอยู่
ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมามิคกี้ได้แต่ติดตามข่าวของหน่อยในร่างสุกี้ เขาไม่สามารถที่จะไปเยื่อมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว มิคกี้จึงอยู่แต่ในบ้านของสุชาดาอย่างเหงาเศร้าซึม จนกระทั่งเมื่อทราบข่าวว่าสุกี้ได้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ออกมาในสภาพที่เป็นเจ้าชายนิทรา นั่นก็เท่ากับสร้างความเจ็บซ้ำในใจของมิคกี้หนักขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว ในระหว่างที่มิคกี้นั่งอยู่ในห้องรับแขกกับสุชาดา คนขับรถของพายัพก็ได้เข้ามาหารับมิคกี้ตามคำสั่งของพายัพ “คุณมิคกี้คุณพ่อให้มารับครับ”คนขับรถพูดขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องรับแขกของบ้านสุชาดา “จะมารับได้ไงไม่เห็นโทรมาบอกก่อน ทำแบบนี้มันใช้ไม่ได้ คิดจะมารับก็มาอย่างนั้นเหรอ”สุชาดามีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจอย่างมาก “อันนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีครับ ผมแค่มาตามคำสั่งที่ท่านรัฐมนตรีให้มารับคุณมิคกี้” “แม่ครับ ผมอยากกลับไปอยู่กับพ่อครับ แต่ไม่ใช่เพราะอยากสบายนะครับ คือ ผมอยากที่จะไปดูแลหน่อย เอ่อ สุกี้ล่ะครับ”มิคกี้มีแววตาที่ขอร้องสุชาดา “ให้มันได้อย่างนี้ซิ ในเมื่ออยากไปก็ไปแม่ไม่บังคับหรอก ถ้าไปที่โน้นมีปัญหาอะไร บอกแม่มาเลยนะเดี๋ยวแม่จะลุยเอง” “ครับแม่” มิคกี้รู้ส
ถึงแม้เกรทจะเรียนจบตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เพราะคนที่เขาผูกพันที่สุดนั้นได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ใจจริงต่อก็อยากที่จะไปเรียนที่ต่างประเทศกับบิว แต่เขาหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งมิคกี้ตัวจริงจะได้กลับมา และตัวของเขาจะได้กลับไปสู่อดีตที่จากมา ต่อนั่งครุ่นคิดนิ่งอยู่พักใหญ่ จนพายัพเดินมาเห็นลูกชายที่นั่งนิ่งเชย เหมือนมีอะไรคาใจอยู่มากมาย “ลูกพ่อเป็นอะไรคิดถึงบิวเหรอ บอกให้ไปเรียนต่อกับบิวก็ไม่ไปเองนี่” “เปล่าครับ ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆครับ” “ลูกก็โตแล้วควรคิดได้แล้วว่าจะทำงานอะไร แต่พ่อก็ไม่ได้เร่งรีบให้ลูกทำงานหรอกนะพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยว่ากันก็ได้” “ครับพ่อ” “ทำไมลูกไม่ไปเที่ยวพักผ่อนสมองซะหน่อยล่ะ” “ไม่รู้จะไปเที่ยวไปหนครับ” “พอดีพ่อจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดไปกับพ่อไหม” “ไปก็ได้ครับ” “ถ้างั้นพรุ่งนี้ไปเลย” “ครับพ่อ”ต่อพยักหน้ารับคำอย่างยินดี ต่อรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพ่อของเขาพามาที่วัด แต่ต่อก็ไม่ถามไถ่ผู้เป็นพ่อของเขาแต่อย่างใด จ
ช่วงเวลาที่เลวร้ายของมิคกี้นั้นกลับมาเยือนอีกครั้ง เขานั่งเฝ้าสุกี้อยู่ข้างเตียงที่ไม่แตกต่างกับหน่อยแม้แต่น้อย สุกี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและให้อาหารทางสายยาง ในห้องที่สุกี้พักนั้นเป็นห้องรวม ซึ่งมีพ่อแม่และพี่สาวของสุกี้มาอยู่ด้วยตลอด “ขอบใจเรามากนะต่อ”พ่อของหน่อยพูดขึ้น ส่วนมิคกี้ในร่างต่อพยักหน้ารับคำ “แล้วคุณอาคิดไว้ว่าจะทำอย่างไรกับหน่อยครับ” “ทางเราตกลงกันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้หน่อยไป เพราะยื้อไว้ก็ไม่มีทางรอดไม่ใช่ว่าอาไม่รักลูก ก็เพราะอารักลูกนี่แหละที่ต้องทำอย่างนี้” มิคกี้ไม่สิทธิอะไรในตัวหน่อย เขาจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ มิคกี้ได้แต่มองร่างของหน่อยที่มีสายระโยงระยาง แต่ภายในนั้นเป็นตัวตนของสุกี้ มิคกี้ไม่สามารถที่จะอดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป เขาจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างโดยเร็ว มิคกี้ปิดประตูห้องน้ำและพิงประตู เขาค่อยๆเลื่อนตัวลงต่ำ จนก้นเกือบติดพื้นมิคกี้ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาของเขาได้หลั่งไหลพลั่งพลูออกมาอย่างไม่ขาดสาย มิคกี้ร้องไห้แท่บขาดใจ เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ “มิคกี้อยู่ในนั้นหรือเปล่า”เสียงชายหนุ่มดังขึ้น มิ
ด้วยความโกรธโมโหยูโรที่กระทำต่อมิคกี้ และแอบน้อยใจที่ยูโรมีใจให้มิคกี้ บิวจึงไปดักรอยูโรที่สนามฟุตบอล เมื่อยูโรออกมาจากสนามฟุตบอล บิวเดินเข้าไปหาทันทีและต่อว่ายูโรไม่ยั้ง “นายเป็นเพื่อนมิคกี้นะ ทำไมนายทำกับมิคกี้อย่างนั้น” “ทำอะไร” “ก็นายจะทำแบบนั้นกับมิคกี้นั่นไง” “แบบไหนบอกมาซิ”ยูโรมีสีหน้าที่กวนบิวพอสมควร “พูดตรงนี้ไม่ได้ต้องไปคุยในรถ” “ก็ได้ นายไม่ได้เอารถมาเหรอ” “เปล่า” “แผนสูงที่จะให้เราไปส่งแน่เลย” “ใช่” “ตามมา”ยูโรแสยะยิ้มแล้วเดินนำหน้าบิว เมื่อทั้งสองอยู่ในรถ บิวมองยูโรไม่ว่างสายตาเลย จนยูโรรู้สึกรำคาญ เพราะเขาไม่ค่อยชอบผู้ชายที่อ้อนแอ้นและบอบบางซักเท่าไร “มองคนหล่อทำไม” “ยอมรับว่านายหล่อ แต่นายใจไม่หล่อ” “ไม่หล่อตรงไหน” “ก็คิดไม่ดีกับมิคกี้” “นายก็คิดไม่ดีกับเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายก็เป็นคนไม่ดีด้วย” “ถึงเราจะคิดไม่ดีกับนาย แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรนายนี่ เพราะเรารู้ว่านายยังไม่ได้รักเรา” “รู้ก็ดีแล้ว
ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา มิคกี้และเกรทได้ปรับความเข้าใจกันพอสมควร จึงทำให้มิคกี้ไม่ค่อยได้มีเวลาไปหาสุกี้เท่าไรหนัก ในระหว่างที่มิคกี้และเกรทกำลังกินข้าวกันพร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ขัดจังหวะทั้งสอง “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน อย่างสนุกและออกรสชาติ “ใครกัน”มิคกี้อารมณ์เสียทันที “เดี๋ยวเราไปเปิดดูก่อนนะ”เกรทเดินไปเปิดประตูทันที “มิคกี้ อ้าวเกรท”สุชาดามองเข้าไปข้างในเพื่อดูมิคกี้ “มีอะไรสุชาดา”มิคกี้ลุกขึ้นยืน “หน่อยเป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนซึมเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไงดี”สุชาดามีสีหน้าที่วิ ตกกังวลอย่างหนัก “เดี๋ยวเราขึ้นไปดู”มิคกี้รีบเดินไปที่ประตูหาสุชาดา แต่เขาก็ผ่านหน้าเกรท “เดี๋ยวเรามานะ ไปดูสุกี้ก่อน”มิคกี้หันมาพูดกับเกรท “ฮือ”เกรทพยักหน้า เกรทมีสองความรู้สึกทั้งสงสารและแอบหึงสุกี้ ที่ได้ความรักจากมิคกี้ ส่วนตัวเกรทเขานั้นไม่แน่ใจว่ามิคกี้คิดเช่นไร เมื่อมิคกี้กับสุชาดามาถึงที่ห้องของสุกี้ ก็ต้องพบสภาพสุกี้นอนซมไม่ได้สติ มิคกี้เขย่าร่างก็ไม่ขยับเขยื่อน ร่างกายของสุกี้นั้นซี
ต่อนั้นไม่สามารถที่จะเรียนและเข้าใจเนื้อหาในตำราเรียนได้ เพราะมิคกี้อยู่ถึงปีสามคณะบริหารธุรกิจ เขาจึงต้องให้บิวเพื่อนรักมาติวสอนที่บ้านอยู่เป็นประจำ และในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องมีการทำรายงานส่ง บิวจึงต้องมาช่วยเพื่อนรักไม่งั้นต่อในร่างของมิคกี้อาจเรียนไม่จบ บิวช่วยต่อทำรายงานจนเกือบสี่ทุ่มถึงเสร็จ ซึ่งทำให้ต่อนั้นซึ้งในน้ำใจบิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหน้าตาออกแนวน่ารักสดใจ ต่อจึงมีใจให้บิวจนสุดหัวใจ “เสร็จซะทีเนาะ”บิวบิดขึ้เกียจ “ใช่ เสร็จซะที ถ้าไม่ได้นายเราคงแย่แน่เลย” “เราก็ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน ทำกับเด็กพึ่งอยู่ปีหนึ่ง นี่จะจบการศึกษาแล้วนะ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย” “เรามันโง่ไง ฉลาดสู้บิวก็ไม่ได้” “ไม่ต้องมาชมให้เปลืองน้ำลายเลย” “ชมก็ไม่ได้ ถ้างั้นไปหาอะไรกินข้างล่างไหม” “ไม่ไปหรอก อยู่บนห้องนี้แหละกลัวนางยักษ์” “นายนี่ร้ายว่าแม่เลี้ยงเราอีก” “หรือว่าไม่จริง” “ก็จริงน่ะซิ อย่าพูดเรื่องอื่นเลย บิวไปอาบก่อนเถอะ เราจะได้นอนกันซะที เราง่วงนอนมากเลยรู้ไหม” “จร้า” บิวรับคำแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อจนเผยเห็นผิวกายที่ขาวใสออร่ากระจาย ต่อจ้องมองอย่างหื่นกระหา
ต่อในร่างของมิคกี้จำเป็นต้องไปเล่นฟุตบอลการกุศลที่ต่างจังหวะ เพราะบิวปฏิเสธท่าเดียว ถึงจะชอบยูโรแค่ไหนบิวก็ไม่สามารถที่จะไปเล่นฟุตบอลได้ ต่อจึงจำเป็นต้องไปเล่นแทนมิคกี้ ซึ่งความสามรถของต่อนั้นก็ยังพอไหวเล่นได้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นเทพอย่างมิคกี้ที่ฝึกซ้อมมาตั้งเด็ก และการแข่งขันในครั้งนี้มิคกี้ลงได้แค่ครึ่งแรก เพราะครี่งหลังเปลื่ยนตัวพักยาว ผลการแข่งขันทีมของมิคกี้แพ้ราบคาบ ถึงจะไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัด แต่ละคนนั้นล้วนเป็นลูกหลานไอโซคนร่ำรวย ที่พักต้องอยู่ในโรงแรมสุดหรู และต่อก็ได้พักห้องเดียวกับยูโร ซึ่งก็ได้สร้างความพึ่งพอใจให้ยูโรอย่างมาก ส่วนตัวต่อก็เฉยๆเขาไม่กลัวยูโร หรือคิดว่ายูโรจะทำอะไรเขาแบบเกรท “วันนี้นายเป็นอะไรฝีมือตกไปเยอะ” “เราก็เล่นประมาณนี้อยู่แล้วนะ”ต่อนั่งกดมือถือดู เพราะช่วงนี้ต่อติดโทรศัพท์มือถือมาก “มิคกี้นายนี่ระดับนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัยเลยนะ เป็นไปไม่ได้ที่ฝีเท้านายจะมีอยู่แค่นี้”ยูโรสงสัยและจ้องมองต่ออย่างใคร่พิจารณา “มองอะไร”ต่อมองกลับ “ก็มองนายนั่นแหละ” “มองทำไม มีอะไรให้น่ามอง” “ไม่มองก็ได้อาบน้ำดีกว่า”ยูโรถอดเสื้อฟุตบอลออก หลังจากนั้นถอดกางเกงออ
มิคกี้พลิกร่างสุกี้นอนตะแครง ส่วนตัวของเขาก็ล้มตัวลงนอนตะแครงโดนที่ท่อนเอ็นไม่หลุดจากช่องทางรักของสุกี้ มิคกี้โยกบั้นท้ายอีกครั้งเพื่อให้ท่อนเอ็นเข้าออกที่ช่องทางรัก ส่วนมือของมิคกี้ข้างหนึ่งจับที่เอวของสุกี้ อีกข้างหนึ่งจับบี้ขย้ำเนินอกของสุกี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนใบหน้าก็ซุกซอนไซร้ซอกคอของสุกี้ตลอดเวลา จนทำให้สุกี้นั้นใจแท่บละลาย ในรสสวาทครั้งนี้ ที่มิคกี้มอบให้สุกี้นั้นถึงใจเขาอย่างมาก มิคกี้ยังโยกบั้นท้ายไม่หยุด ซอยไม่ยั้งเช่นเดิมไม่เปลื่ยนแปลง ส่วนสุกี้นั้นได้แต่ครางด้วยความเสียวสยิวไม่หยุดหย่อน ยิ่งมิคกี้กระแทกแต่ละครั้ง สุกี้ครางไม่แผ่วเบาปล่อยออกมาจนสุดเสียงไม่ขาดสาย มิคกี้ดันร่างของสุกี้ให้พลิกคว่ำ ส่วนตัวเขาก็นอนทาบทับร่างของสุกี้ไว้ มิคกี้กระดกบั้นท้ายให้ท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักของสุกี้ ยิ่งมิคกี้โหมกระแทกหนักขึ้น จึงทำให้ท่อนเอ็นโดนต่อมพิศวาสทุกครั้ง ทำให้สุกี้เสียวทั่วเรือนร่างจนทนไม่ไหว มิคกี้เริ่มมีเสียงกระเส่าเพราะความเสียวที่ท่อนเอ็นเพิ่มทวีคูณ มิคกี้จึงเร่งความเร็วซอยต่อไม่ยั้งรอ รัวถี่ๆเร็วๆด้วยใจที่อยากจะปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาในท่อนเอ็น ในส่วนของสุกี้โดนมิคกี้กระท
ช่วงเวลาเย็นของอีกวันหนึ่ง เกรทได้ทำต้มยำกุ้งตามคำขอของมิคกี้ ซึ่งเกรทนั้นดีใจอย่างมาก ด้วยคิดไปว่ามิคกี้ติดใจรสมือในต้มยำกุ้งของเขา “กลิ่นหอมน่ากินดี ฝีมือทำอาหารของนายนี่สุดยอดเลย” “อ้าว ก็แม่เราขายกับข้าวที่ตลาดสด เราช่วยแม่ทำมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่ นายจำไม่ได้เหรอ นายก็ยังไปกินบ่อยๆเลย” “นายก็เริ่มจำไม่ได้แล้วเหมือนกัน เรามิคกี้นะไม่ใช่ต่อ เราไม่ค่อยรู้เรื่องของนายหรอก” “มีคกี้ที่มาจากอนาคตใช่ไหม แต่คิดอีกทีเราก็เริ่มเชื่อแล้วนะ เพราะพฤติกรรมของนายนั้นจะไม่เหมือนคนยุคนี้เท่าไร” “ตอนนี้นายอาจยังไม่เชื่อเต็มร้อย ถ้าเราอยู่ด้วยกันต่อๆไปนานๆเข้า เดี๋ยวนายก็เชื่อสนิทใจเองนั่นแหละ” “ตอนนี้ต่อไปอยู่ไหนก็ไม่รู้หนอ ตอนนายไปอนาคตครั้งที่แล้วต่อจำอะไรไม่ได้เลยนี่” “เราก็ไม่รู้นะ พอเราไปอนาคตเรื่องราวก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แต่มีบางคนสลับร่างกันได้นะ” “ใคร”เกรทมีสีหน้าที่งงนิดหน่อย “เปล่า เราว่าบางคนอาจจะสลับกันก็ได้ ป่านนี้ต่อคงอยู่ในร่างของเรา แต่ไม่น่าห่วงหรอกชีวิตเราสบายกว่าเราเยอะ” “เหรอ หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะ”เกรทตักต้มยำกุ้งเต็มถ้วยแล้วนำมาวางไว้บนโต๊ะ “หอมฟุ้งเ
ต่อในร่างมิคกี้ขับรถมาส่งบิวที่สนามฟุตบอล แต่เขาก็ไม่ได้บอกยูโรว่าจะไม่มา แต่ให้บิวมาแทน เมื่อบิวเข้ามาในสนามฟุตบอลเขาก็เปลื่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดฟุตบอลทันที หลังจากนั้นเขาก็เดินลงไปในสนามฟุตบอล บิวสอดสายตามองหายูโรแต่ก็ไม่เห็น เขาจึงนั่งอยู่ข้างสนามมองผู้ชายคนอื่นเล่นฟุตบอล “มาดูผู้ชายเหรอ”ยูโรพูดอยู่ด้านหลัง บิวจึงรีบหันมาทันที “เราจะมาเล่นฟุตบอลกับนายนั่นแหละ วันนี้มิคกี้ไม่มาเพราะต้องหัดเล่นมือถือ” “แค่นี้ก็เชื่อเหรอ” “เชื่อสิ มิคกี้โดนแม่เลี้ยงด่าจนสมองเสื่อมไปแล้ว” “เชื่อคนง่ายจริงๆ แล้วมาที่นี่เล่นบอลเป็นหรือเปล่า” “ไม่เป็น จะให้นายมาสอนให้ไง” “เป็นผู้ชายเสียเปล่า เสียเวลาจริงๆ” “ถ้าเสียเวลาเดี๋ยวเรานั่งดูนายเล่นก็ได้” “ไม่ต้องดูก็ได้ กลับบ้านไปเลย” “เราไม่ได้เอารถมา นายต้องไปส่งเรามิคกี้สั่งใว้” “สร้างความยุ่งยากให้คนอื่นอีกแล้ว” “ก็ได้เดี๋ยวเรากลับเอง นายไปเล่นฟุตบอลเถอะ” “ไม่ต้อง เดี๋ยวไอ้มิคกี้มันมาต่อว่าเราที่ไม่ดูแลนาย ไอ้มิคกี้มันไม่มาก็ขาดหนึ่งคน นายนั่นแหละต้องลงไปเล่นแทนมิคกี้” “ไม่เอานายต้องสอนเราก่อน”บิวมีสีหน้าที่ตกใจ “ไม่มีเวลาแล้วลงไ