บาลีเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกชายวัยเจ็ดขวบที่หล่อมาก หล่อแบบวัวตายควายล้มมีอยู่จริง ก็จะไม่ให้หล่อขนาดนั้นได้อย่างไรเล่า เพราะพ่อของลูกชายบาลีนั้น เป็นถึงซุป’ ตาร์อันดับต้นของวงการ แต่น่าเสียดายที่เธอบอกใครไม่ได้ แม้แต่ผู้เป็นพ่อของลูก!
Lihat lebih banyakแต่เหมือนเวรกรรมมันมีอยู่จริง เมื่อเพื่อนที่โรงเรียนรู้ แทนที่จะเห็นใจ กลับมาล้อเลียนกันเสียได้ มันก็ไม่ต่างจากที่เด็กชายรามล้อเลียนลูกชายเธอว่าไม่มีพ่อมาทั้งชีวิตนั่นแหละแต่เด็กชายรามไม่ได้ปล่อยให้เพื่อนๆ ล้อสนุกปาก เหมือนลูกชายเธอ เพราะนิสัยก็ไม่ยอมคนและเกเรอยู่พอสมควร เด็กชายรามสู้กับคนมาล้อสามคน ซึ่งอยู่ต่างห้อง แต่โดนรุม เพื่อนสนิทที่เคยเกเรด้วยกัน ก็วิ่งหนีกระเจิง อิฐกับเตเต้ผ่านมาเห็นเลยช่วย ก็เลยเกิดการตะลุมบอนขึ้นอย่างที่เห็น เด็กทั้งหมดถูกคาดโทษ แต่เด็กที่ล้อเด็กชายราม ถูกลงโทษ ล้างห้องน้ำเดือนหนึ่ง ส่วนเด็กชายรามนั้นก็โดนแค่สัปดาห์เดียว เพราะถึงจะเป็นฝ่ายถูกล้อก่อน แต่ก็เป็นคนลงมือใช้กำลังก่อนเช่นกัน“เขาล้อผมก่อนนะ ทำไมผมต้องถูกลงโทษด้วย!” เด็กชายรามพูดกับครูอย่างไม่พอใจ“ใช่ค่ะ รามเป็นฝ่ายถูกล้อก่อนนะ!” รตีพูดเสริมขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ“เราเองก็เคยล้อน้องอิฐ แล้วน้องอิฐเคยใช้กำลังกับรามไหม” ครูพูดตอกหน้า ทั้งแม่ทั้งลูกก็เลยทำหน้าจ๋อย“ดูน้องอิฐเป็นตัวอย่าง ขนาดเราทำไม่ดีกับอิฐ อิฐยังมีน้ำใจช่วยเรา คุณรตีเองก็เหมือนกัน ดูแลอบรมสั่งสอนลูกดีๆ นะคะ เขาถูกฟ้องว่าแกล้งเพื่อน
ไม่มีความลับอีกต่อไป “เกิดอะไรขึ้นเหรอ” ขณะทั้งสองกำลังช่วยกันล้างจาน หลังจากกินมื้อเที่ยงด้วยกันที่บ้าน บาลีก็ได้รับโทรศัพท์จากครูประจำชั้นของลูกชายพูดคุยกันอยู่ไม่กี่คำก็วางสาย สีหน้าของบาลีซีดเผือด มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็สั่น ทำให้อัทธ์ถามด้วยความตกใจ“น้องอิฐมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน ครูให้ลีไปที่โรงเรียนตอนนี้เลยค่ะ” “งั้นพี่ไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคนอื่นสงสัยหรอกว่า...”“พี่ไม่สนใจใครทั้งนั้น ตอนนี้พี่เป็นห่วงน้องอิฐมากกว่า ไม่รู้ว่าเพราะมีคนมาล้อเรื่องพ่ออีกหรือเปล่า”“คนก็ล้อมาตลอด แต่น้องอิฐไม่เคยโกรธขนาดจะไปชกต่อยใครรุนแรงจนเกิดเรื่องเลยนะคะ มีบ้างที่เบื่อกับคำล้อ ก็มีทะเลาะเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึงขั้นครูเรียกผู้ปกครองแบบนี้”“งั้นอาจมีอะไรที่มากกว่านั้น เรารีบไปกันเถอะ” “ค่ะ” ในตอนนี้บาลีก็ห่วงลูกชายมากกว่าจะห่วงชื่อเสียงหรือคนจะสงสัยความสัมพันธ์ของเธอกับอัทธ์ ทั้งสองจึงรีบเดินทางไปโรงเรียน ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้าน เพราะบาลีอยากให้ลูกมีเพื่อนละแวกเดียวกัน จึงไม่คิดส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในเมืองเหมือนลูกคนมีฐานะครอบครัวอื่นเมื่อถึงลานจอดรถของโรงเรียน อัทธ์ทำท่
สามเดือนต่อมางานเลี้ยงปิดกล้อง เกิดขึ้นในโรงแรมขุนเขา ธุรกิจครอบครัวของอัณญา ซึ่งที่พักของนักแสดงและทีมงานนั่นเอง มีอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ที่พลาดไม่ได้มีเสียงเพลงจากนักดนตรีประจำห้องอาหาร รวมทั้งนักร้องจำเป็นจากบรรดานักแสดงและทีมงานเพราะงานเลี้ยง มีการดื่ม และเป็นร้านอาหารกึ่งผับ เด็กชายอิฐจึงไม่ได้มาร่วมงาน บาลีกับธรินท์จึงมาร่วมงานในฐานะเจ้าของโลเคชัน แน่นอนงานนี้ก็ขาดเจ้าของโรงแรมอย่างอัณญาไม่ได้เช่นกันทุกคนก็กิน ดื่ม ร้องเพลง เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่วีราวรรณ ซึ่งดูเหมือนตอนนี้ปลงตกกับความกังวลเรื่องเรตติงต่างๆ ได้แล้ว ปิดกล้องได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับละคร ไร่แสนเสน่หา ที่ถูกพายุข่าวฉาวจากนักแสดงนำทั้งสองคนหลังจากนี้ก็ไปลุยกับงานตัดต่อ ส่วนวันเวลาออนแอร์นั้น คงต้องรอให้ผู้ใหญ่ทางช่องจะเห็นสมควร แน่นอนมันอาจคลาดเคลื่อนจากที่คุยกันไว้ เพราะข่าวฉาวต่างๆ ของพระนาง เพราะมีผลต่อสินค้าที่จะลงโฆษณาตอนนี้วีราวรรณก็รอแค่ลุ้นต่อไปก็เท่านั้น คิดได้ดังนั้น เจ้าตัวก็แย่งไมค์จากวิน น้องชายคนเดียวที่ไม่ยอมปล่อยไมค์ ทั้งที่ร้องไปสองเพลงติดๆ แล้ว“เป็นอะไรหน้า
ธรินท์คิดว่าแขกผู้มาเยือน แบบบอกกล่าวล่วงหน้าวันนี้มีท่าทีแปลกๆ จากทุกครั้งที่มาบ้านเขา เอาไวน์มาฝาก แต่งตัวสวยกว่าปกติ ถึงแม้ไม่ถึงขั้นเซ็กซี่แต่ก็เปิดเผยเนื้อตัวมากขึ้น ทั้งเสื้อครอปแขนกุดรัดรูปโชว์รูปร่างท่อนบน ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงยีนส์สั้นเหนือเข่า เวลานั่งก็ร่นสูง โชว์ขาเรียวเนียนสวย และรู้สึกเหมือนจะแต่งหน้าเข้มกว่าทุกครั้งที่เจอกัน หรือมากกว่าปกติที่เคยเห็นมา อีกฝ่ายมาหาหลังจากเขากลับจากไปกินมื้อค่ำที่เรือนใหญ่ ก็สองทุ่มครึ่งไปแล้ว“กินข้าวหรือยังล่ะ” เขาถาม “กินแล้ว และตอนนี้อยากดื่มไวน์” เธอชี้ไปที่ขวดไวน์ที่วางไว้บนโต๊ะตรงหน้าธรินท์เดินไปหยิบที่เปิดพร้อมแก้วมาจากครัว จัดการเปิดและรินไวน์ให้หญิงสาว และสำหรับตัวเองด้วย “มีอะไรหรือเปล่า” ธรินท์ถาม หลังจากมองอัณญาจิบไวน์ไปค่อนแก้วด้วยสีหน้าเครียดๆ ชอบกล “เปล่า”“เปล่าอะไรล่ะ หน้าออกขนาดนี้” “ดูออกขนาดนั้นเลย” เธอย้อนน้ำเสียงเรียบ แต่แววตาขุ่นจนคนมองรู้สึกได้ เขาถอนหายใจแล้วถามตรงๆ “อ๊ะ มีอะไรไม่พอใจพี่ ก็ว่ามาตรงๆ อย่าลีลา ค่ำแล้วจะได้แยกย้ายกันไปนอน” “นอนด้วยกันได้ไหมล่ะ” ยังบอกเสียงเรียบ เหมือนคำถามทั่วไป เช่น กิน
ปิดกล้อง แต่เปิดรักข่าวฉาวของเมทิตาสงบลง เพราะมีข่าวฉาวของ ซุป’ ตาร์สาวรายหนึ่งที่โดนข้อหาเป็นมือที่สามในความรักระหว่างดาราซุป’ ตาร์รุ่นพี่กับไฮโซหนุ่ม ลูกชายรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่แฟนคลับตีกันวุ่น ลุกลามราวไฟไหม้ป่า ต่างพยายามไล่ไทม์ไลน์กันจ้าละหวั่น สุดท้ายไฮโซฯ หนุ่มออกมายืนยันหนักแน่นว่าเลิกกับซุป’ ตาร์รุ่นพี่ก่อนค่อยมาคบซุป’ ตาร์รุ่นน้องอาจเพราะมูฟออนเร็วเกินไป ทุกคนจึงสงสัย แต่เขายืนยันว่า การคบหากับซุป’ ตาร์รุ่นน้องนั้น เกิดขึ้นหลังจากเลิกรากับ ซุป’ ตาร์รุ่นพี่แล้วจริงๆ การออกมายืนยันของไฮโซหนุ่มคนดัง ทำให้ซุป’ ตาร์คนน้อง ร่าเริงลัลล้า ส่วนซุป’ ตาร์รุ่นพี่ทำได้แค่ ขึ้นจอดำบนอินสตาแกรม ทำให้แฟนคลับไม่สามารถมูฟออนจากเรื่องนี้ง่ายๆ สงครามแฟนคลับจึงยืดเยื้อ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดกันง่ายๆ ข่าวทำแท้งของเมทิตาก็เลยตกกระป๋องจากสื่อสังคมออนไลน์ไปในพริบตา และวีราวรรณก็ทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่าคงไม่มีอะไรต่อจากนี้แล้วมั้งเจ้าตัวเปิดกองฯ อีกครั้ง และเร่งถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง แทบไม่มีวันหยุด ดีที่ว่าซีนของน้องอิฐถ่ายไปเกือบหมดแล้ว อีกอย่างฉากที่เข้าร่วมกับเมท
แม้ค่ำคืนที่ผ่านมาจะหนักหน่วง แต่อัทธ์ก็ตื่นมาด้วยความสดชื่น กะจะไปถ่ายละครด้วยความสบายใจ แต่ประสานงานกองถ่ายฯ กลับโทร. มายกกองฯ ขณะที่กำลังจะลงจากเรือน ถามว่าเกิดอะไรขึ้นได้ยกกองฯ อีกฝ่ายก็ตอบว่า[เช็กข่าวออนไลน์เลยค่ะ พี่เล่าไม่ไหว ตอนนี้ต้องรีบโทร. ไปบอกยกกองคนอื่นๆ กรุ๊ปไลน์ก็ไม่ยอมอ่านกันเลย] อัทธ์กลับมานั่งที่ห้องนอน ส่วนบาลีนั้นไปส่งน้องอิฐที่โรงเรียนก่อนหน้านั้นแล้ว และบอกเขาว่าจะแวะไปชอปปิ้งในเมืองกับพิมพา อัทธ์เข้าไปเช็กข่าวในสังคมออนไลน์ ตกใจเช่นกันที่มีข่าวว่าเมทิตาทำแท้งที่เกาหลี มีคนอ้างว่าเจอเธอในคลินิกแห่งนั้น เพราะพาเพื่อนไปทำแท้งเช่นกัน แถมมีภาพเมทิตาในคลินิก เพื่อเป็นการยืนยันว่าเห็นจริงๆอัทธ์คิดว่านอกจากเรื่องงานและชื่อเสียงแล้ว ส่วนหนึ่ง เมทิตาคงไม่อยากเก็บเด็กไว้ เพราะเด็กมีพ่อชื่อพัท สกุลทรัพย์ไพศาล คนที่เมทิตาไม่อยากข้องเกี่ยวมากที่สุดในตอนนี้ หลังจากแจ้งความ ทุกอย่างก็จบลงที่การเจราจาไกล่เกลี่ย และชดใช้ค่าเสียหายนับสิบล้านบาท เพราะถ้าเมทิตาไม่ยอม ทางครอบครัวอีกฝ่ายขู่ว่าชีวิตในวงการบันเทิงของเธอจะย่อยยับ เพราะทางเขาจะกำจัดเธอให้สิ้นชื่อ มันน่ากลัวเกินไป
ข่าวเด่น ดาวดัง วันนี้เหมือนระเบิดลงสำหรับกองถ่ายละคร ‘ไร่แสนเสน่หา’ เมื่อมีแฟนคลับได้ถ่ายภาพของเมทิตาที่ลาป่วย พักกองไปนับสิบวัน แต่กลับไปโผล่ที่เกาหลีวีราวรรณเลยอารมณ์เสีย พยายามโทร. หาเมทิตากับผู้จัดการตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ทั้งสองก็ติดต่อไม่ได้ เหมือนจงใจปิดเครื่องหนีเพราะฉะนั้นการทำงานในวันนี้จึงตึงเครียดมาก อัทธ์กลัวน้องอิฐจะเครียดกับอารมณ์วีนเหวี่ยงของวีราวรรณ เขาจึงเดินเข้าไปคุยกับอีกฝ่าย“พี่วีรา ใจเย็นสิ ที่นี่มีนักแสดงเด็กนะ พี่จะมาวีนเหวี่ยงให้เขาเห็นไม่ได้นะ เดี๋ยวน้องอิฐกลัว เสียสมาธิ”ปกติคนที่บ้านของน้องอิฐก็ไม่เคยวีนเหวี่ยงให้เห็นเสียด้วยสิ เขาจึงเป็นกังวลว่าน้องอิฐจะเกร็งหรือกลัวกับท่าทางของ วีราวรรณในตอนนี้ เพราะเหมือนใครทำอะไรไม่ถูกใจก็วีนใส่ทันที เสียงดังจนบางครั้งน้องอิฐสะดุ้ง จนเขาต้องจับมือไว้“เอ่อ พี่ขอโทษ ลืมไปว่ากองนี้มีเด็กอยู่ด้วย” “พี่เข้าไปพักในเต็นท์ก่อนเถอะ บางทีเมกับพี่ภาวีอาจมีเหตุผลที่ยังบอกเราไม่ได้ ในเรื่องที่ทั้งสองโกหกว่าเมป่วย”“โอเคๆ พี่จะพยายามใจเย็น” แล้ววีราวรรณก็เดินเข้าไปในเต็นท์พักผ่อน การทำงานต่อจากนั้นค่อยราบรื่นขึ้น เพราะทุกคนหาย
ธรินท์เพิ่งอาบน้ำเสร็จหลังจากเตะบอล เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกายมีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์สีน้ำเงินเข้มเพียงตัวเดียว ส่วนท่อนบนเปลือยเปล่า โชว์แผงอกหนั่นแน่นสีแทนอ่อน และกล้ามแขนที่เป็นมัดๆ ทว่าพอเดินมายังโถงของบ้าน ที่แบ่งโซนเป็นมุมรับแขกกับนั่งเล่น และมีครัวเล็กๆ กับโต๊ะกินข้าวที่อยู่ติดด้านหลังระเบียงบ้านชั้นครึ่ง ธรินท์ก็สะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นใครบางคนนั่งตาแป๋วอยู่บนโซฟาในมุมนั่งเล่น ในตอนที่เขากำลังจะเดินไปที่แพนทรีเล็กๆ เพื่อทำมื้อค่ำง่ายๆ กิน“เฮ้ย เข้ามาได้ไงเนี้ย!” อุทานเสียงดัง พร้อมกับยกแขนขึ้นปิดบังท่อนบนที่เปลือยเปล่า ทว่าสักพักก็ลดมือลงมากุมเป้ากางเกงไว้ “ก็ขึ้นบันไดมา” คำตอบของอีกฝ่าย ทำให้คิ้วเข้มมุ่นเข้าหากัน แล้วทำเสียงดุตอบกลับ“ขึ้นมาบ้านผู้ชาย ค่ำๆ มืดๆ นี่นะ!”“พอดีเอยมีเรื่องอยากคุยกับพี่ แต่พี่ไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ” คนพูดทำทีลำบากใจกับร่างกายที่มีบ็อกเซอร์ติดกายเพียงตัวเดียว แต่ใบหน้าขาวนวลนั้นกลับแดงปลั่ง ธรินท์จึงรีบเดินเข้าไปในห้องนอน คว้าเสื้อยืดกับกางเกงขายาวผ้าฝ้ายสีเทา ขาตรง เอวรูดมาสวมใส่ แล้วเดินออกมานั่งตรงข้ามกับแขกที่มาเยือนแบบไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า
“ไม่คิดเลยว่าส้มจะทำกับพี่ขนาดนี้” บาลีพูดขึ้นหลังจากจบการแถลงข่าว อัทธ์ก็เดินทางมาหาบาลีที่บ้านไร่แสงอุษาทันที ในช่วงบ่ายที่แดดร่มลมตกพอดี ทั้งสองก็เลยนั่งคุยกันข้างสนามฟุตบอล ดูธรินท์กับอิฐและแก๊งเพื่อนละแวกบ้านของน้องอิฐเล่นเตะฟุตบอล “เขาคงโกรธ แต่ไม่เป็นไรหรอก”“แฟนคลับบางกลุ่มเขาก็รับไม่ได้”“แฟนพี่รับได้ ก็โอเคแล้ว”“พี่ดินบอก เจอส้มในผับเมื่อหลายวันก่อน”“คงก่อนวันที่เขาจะมาทักพี่ที่หน้าห้องพักวันนั้น”“เหมือนคืนนั้นส้มจะไปกับเพื่อนพี่ดินด้วยค่ะ” “ก็ปกติของเขา แต่เอ ทำไมเขาไม่ไปกับดิน” เพราะในสายตาอัทธ์ ธรินท์หน้าตารูปร่างที่น้ำส้มไม่น่าจะมองข้าม“พี่ดินเห็นอย่างนั้นก็เลือกเยอะนะคะ แต่จริงๆ คืนนั้นพี่ดินเจอเอยในผับ เห็นเมาๆ เลยขับรถไปส่งค่ะ” “สองคนนั่นเขาชอบกันเหรอ”“ก็น่าจะใช่ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้คบกันอีก”“คบกันอีกคือ”“เขาเคยคบกันตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น”“เลิกเพราะ”“พี่ดินบอกว่ารักคนอื่น”“บอกกันตรงแบบนั้นเลยเหรอ” อัทธ์ทำหน้าทึ่งๆ “ใช่ค่ะ”“แมนดีจัง แต่คุณเอยคง...”“โกรธยันลูกบวชอยู่แล้วค่ะ” “นินทาอะไรฉัน!” “เอย!”“เออ ฉันเอง หวัดดีค่ะพี่อัทธ์”“ครับ หวัดดี คุยตามสบายนะ
บทนำ อีเวนท์ของซุป’ ตาร์กว่าจะเบียดผู้คนเข้ามาภายในบริเวณงาน ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมือง บาลีถึงกับหายใจหอบเล็กน้อย เมื่อได้ยืนอยู่ในจุดที่สามารถมองไปยังบนเวทียกพื้นเตี้ย ซึ่งซุปเปอร์สตาร์หนุ่มอันดับต้นๆ ของเมืองไทยคนหนึ่งกำลังร้องเพลงเล่นกีตาร์ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับการเล่นกีตาร์ที่เข้าขั้นเทพ ก็ทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดจนหูแทบจะดับ“มึง พี่อัทธ์ แม่งโคตรหล่อ โคตรเท่เลย กรี๊ดดดด”“โอ๊ย เสียงก็โคตรเพราะ”“เพลงพี่เขาก็แต่งเองเลยนะ”“คนบ้าอะไร ครบเครื่องสุดๆ ทั้งหล่อ เท่ เล่นละครเก่งแล้ว ยังร้องเพลงเพราะ แต่งเพลง เล่นดนตรีได้อีก มึง กูไม่ไหวแล้วอะ กรี๊ดดด”ถึงจะหนวกหูเสียงกรี๊ด แต่บาลีก็แอบยิ้มปลื้มกับคำชื่นชมที่ได้ยินจากเด็กสาวกลุ่มใหญ่ที่ยืนเบียดเสียดในงาน เพราะเธอเป็นแฟนคลับอัทธ์มาตั้งแต่เขายังไม่ได้เป็นซุป’ ตาร์เหมือนในตอนนี้เรียกว่าเป็นเอฟซีรุ่นบุกเบิก เพราะเธอติดตามชายหนุ่มมาตั้งแต่เขายังเป็นรุ่นพี่ในคณะ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งมันก็นานมาแล้วนานมากกว่าอายุของลูกชายวัยเจ็ดขวบของเธอเสียงด้วยซ้ำสายตาเธอทอดมองคนบนเวที อัทธ์นั่งอยู่บนเก้าอี้บาร์ อยู่ในชุดสูทแบรนด์ดังสีเทา...
Komen