"คิดจะจับเสืออย่างฉัน เหยื่อต้องเด็ดกว่านี้ป่าววะ" ธายุกร เหมบดินทร์....ยูตะ อายุ 22 ปี วิศวกรรมยานยนต์ มหาวิทยาลัย A ปี 4 ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ทายาทโชว์รูมรถหรูนำเข้า "คิดจะกินเหยื่ออย่างฉัน ก็ต้องเสือจริงๆไม่ใช่หมาป่าววะ" มิณาริน แก้วกาน...มิณ อายุ 20 ปี คณะบัญชี มหาวิทยาลัย A ปี 2
View More“โอ้เอ้...โอ้เอ้ อย่าโกรธแม่เลยนะ...นะ คืนนี้นอนนี้นะ แม่คิดถึงลูกจะแย่”“ไม่ฮะ ตราบใดที่งานหมั้นยังไม่ล้มเลิก ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีก คุณยูริจะไม่ได้เห็นหน้าผมอีกเลยด้วย” ผมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังพลางแกะมือแม่ออก“โอ๊ะ…! ไม่นะ...ไม่นะ อย่าใจร้ายนักเซ่ ไม่คิดถึงแม่เลยเหรอ พี่ชายลูกก็ไม่ค่อยจะกลับบ้าน มีลูกตั้งสองคนไม่มีใครสนใจแม่เลยสักคน” แม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น้อยเนื้อต่ำใจสุดๆ พลางก้มหน้างุดอยู่กับตักตัวเอง หึ มอบตุ๊กตาทองให้แก่คุณยูริไปเลย...สุดยอดการแสดง แน่ะ! มีทำสะอื้นด้วยนะ ผมไม่หลงกลง่ายๆ หรอกนะ เพราะโดนมาเยอะจนเข็ดแล้ว“ไม่รู้แหละ ถ้าอยากให้ผมกลับบ้านแม่ก็ต้องช่วยผม”“จะให้ช่วยได้ยังไงล่ะครับ คุณหญิงได้มาถอนหงอกแม่แน่ๆ” แม่รีบเงยหน้าบอกผมพลางส่ายหน้าไปมาเป็นพัลวัน ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“แม่นะแม่ อยากจะบ้าตาย”ผมเห็นแม่เอานิ้วชี้ขึ้นแตะขมับตัวเองพลางขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะพูดเอ่ยบอกผม“แต่แม่ว่าท่าจะให้เนียนลูกควรพาน้องเข้าไปอยู่ที่คอนโดกับลูกด้วยนะ ตอนเนี่ยซายะต้องสั่งคนตามดูน้องอยู่แน่ๆ”“น้อง?” ผมเลิกคิ้วถามแม่ทันที น้องที่ว่าเนี่ยใค
“เหมือนใคร?”มิณาดึงแขนผมอย่างแรงเพื่อจะให้ผมหันกลับไปเผชิญหน้ากับเธอ ก่อนจะถามขึ้นพลางหรี่ตามองผมอย่างจับผิด หึ ร้อนตัวซินะ วัวสันหลังหวะก็จะเป็นแบบนี้แหละ“ทำไม ร้อนตัว ไปทำอะไรอย่างงั้นมาซินะ” ผมเอ่ยเสียงเรียบพลางแสยะยิ้มขึ้นมุมปากก่อนจะเอียงคอมองหน้ามิณาที่ดูเหมือนเธอจะช็อคไปชั่วขณะกับประโยคที่ผมพูดออกไป ก็แน่ล่ะ...ผมยิงเข้าประตูเต็มๆ ขนาดนั้น พลอดรักกันในรถท่ามกลางสายฝน เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด ตอนแรกก็ว่าจะไม่พูดแล้วนะเพราะเห็นว่าเธอถูกทำร้ายมา แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี ภาพนั้นแม่ง...หลอกหลอนผมทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน“โอ๊ะ! เฮียไปอยู่ใต้เตียงฉันมาเหรอคะ โทษทีนะเสียงดังไปหน่อย” มิณาทำท่าเอามือขึ้นปิดปากคล้ายตกใจก่อนจะจีบปากจีบคอพูดอย่างน่าหมั่นไส้ แต่ที่เธอพูด...แสดงว่ายัยตัวเล็กนี่ ผมแค่ประชดนะ ทำไมมันถึงเป็นเรื่องจริงได้ล่ะ ผมหลุดโพล่งขึ้นอย่างตกใจ“นี่เธอกับไอ้หมอนั่น”“ค่ะ แล้วถึงฉันจะไปทำอะไรกับใคร ที่ไหน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเฮียไม่ใช่เหรอ เฮียเป็นแค่นายจ้างนะ ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตฉันซะหน่อย ทำไมต้องสน” มิณาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แต่ประโยคนี่มันย้อนกลับมาที่ผมได้ยังไงวะ แล้วทำไมม
ปึกกกอุกกกก////อีคนเดิมพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาต่อยท้องฉันอย่างแรงจนจุกไปหมด แมร่งงง...แน่จริงอย่ารุมดิวะ ฉันคิดว่าฉันไม่มีทางแพ้มันแน่ถ้าตัวต่อตัวเพียะ...เพียะ//ฝ่ามือของอีนคนเดิมฟาดเข้ามาที่หน้าฉันอย่างแรงสองทีโดยไม่เว้นช่วงให้ฉันตั้งหลักเลยแม้แต่น้อย ฉันหันหน้ากลับมามองมันพลางเอาลิ้นดุ้นแก้มข้างที่โดนตบด้วยแววตาที่โกรธจัด ฉันไม่เคยทำร้ายให้ก่อนแล้วฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแบบนี้แน่“อย่าลืมกลับไปบอกบรรพบุรุษมึงด้วยนะ ว่าล้มกูได้ด้วยหมาห้าตัว หึ”“อีสัส! ได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่มึง”เพียะ///แล้วฝ่ามือมันก็ฝาดลงมาซ้ำข้างเดิมอีกทีด้วยน้ำหนักที่แรงกว่าทีแรกเป็นสองเท่า ก่อนมันจะพูดประโยคที่ทำให้ฉันรู้ทันทีว่ามันทำร้ายฉันเพราะอะไร“เลิกยุ่งกับรุ่นพี่ยูตะ ไม่งั้นมึงหน้าไม่สวยแบบนี้แน่”“ถุย! กูต้องกลัว..”มันง้างมือจะตบฉันอีกรอบแต่มีมือหน้ามารับไว้ได้ซะก่อนแล้วบีบข้อมือผู้หญิงคนนั้นจนมันทำหน้าเหยเกเพราะความเจ็บ มาเร็วกว่านี้ก็ไม่ได้เนอะ..โดนไปตั้งสามทีแล้วเนี่ย“ระ...รุ่นพี่ยะ..ยูตะ” อีคนเดิมเอ่ยเรียกชื่อเขาแบบตะกุกตะกัก หน้าถอดสีกันหมด อีสองคนที่ล็อกแขนฉันก็ปล่อยทันทีจนฉันแทบล้มเพ
“อ้าว มิณ ลืมมือถือใช่ปะ พี่เห็นวางอยู่บนโต๊ะ”แมร่งเอ้ย...ความรู้สึกห่าอะไรก็ไม่รู้มันบอกให้ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเธอออกไปทันที จนแทบจะชนหนูดาดีที่หนูดาหลบทัน ไม่งั้นไอ้ดินฆ่าผมแน่เพราะผมได้ยินเสียงมันด่าตามหลังผมมาด้วย“ไอ้สัส! ชนเมียกู”แต่ใครสน...ผมวิ่งลงบันไดลงมาเห็นแผ่นหลังคนตัวเล็กเปิดประตูออกไปแวบๆ ผมเลยไม่รอช้ารีบตามออกไปแต่ก็ไม่เห็นเธอซะแล้ว ผมยืนหันซ้ายหันขวาอยู่หน้าผับเพื่อมองหาแต่ก็ไร้วี่แวว ล่องหนได้เหมือนไอ้ธามรึไงนะ ไวฉิบ ว่าแต่...เธอจะได้ยินที่ผมพูดรึเปล่าวะ แต่ก็...ช่างแม่งดิ สนใจอะไรผมหันหลังไปเปิดประตูเพื่อที่จะกลับขึ้นไปข้างบนแต่ใจนึงก็ไม่อยากกลับขึ้นไป กูเป็นห่าอะไรวะเนี่ย ได้ยินแล้วจะเป็นไร...ความจริงก็เป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว กูจะมาห่วงความรู้สึกเด็กนั่นทำไมเนี่ย ไร้สาระฉิบหาย ผมปิดประตูลงอีกครั้งก่อนเอามือขึ้นขยี้ผมตัวเองแล้วหันหลังวิ่งไปที่รถตัวเองทันทีMinarin Talkฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนรถประจำทางเลยหอฉันไปจนสุดสาย บ้าฉิบ...คำพูดของเขาทำให้ใจฉันหลุดลอยไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ ฉันรีบลงจากรถทันทีที่รถจอดป้ายสุดท้าย กลับไงวะเนี่ย..เดินไปเรื่อยๆ แล้วกัน ดีนะที่
Thayukorn Talkผมเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับคู่ขาที่เกาะแขนผมไม่ยอมปล่อยพลางเลี้ยวมองคนตัวเล็กที่รีบวิ่งลงบันไดไปจนสุดสายตา แล้วแกะมือคู่ขาคนที่เพิ่งทำให้ผมสบายตัวมาหมาดๆ อย่างไม่ไยดี“กลับเองนะ ฉันไม่ว่างแล้ว” ผมบอกเธอแล้วเดินตรงมายังห้อง VIP ซึ่งเป็นที่สิงสถิตประจำของพวกผมโดยไม่สนใจคู่ขาคนนั้นแม้แต่น้อย แต่เธอรู้จักผมดีหลังจากที่ควงมาสักพักถ้าผมไม่สบอารมณ์แหละก็เธอจะรู้ทันทีว่าไม่ควรอยู่ใกล้ผมผมเปิดประตูเข้ามาแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟาอย่างแรง ผมยอมรับว่าก็ตกใจที่พอลิฟต์เปิดออกแล้วเห็นเด็กนั่นยืนอยู่หน้าลิฟต์และเธอคงจะเห็นด้วยว่าพวกผมทำอะไรกัน..แต่ที่หงุดหงิดสุดคือหน้าเธอตอนเห็นผมกับผู้หญิงคนนั้น เป็นห่าอะไรวะ...ทำไมทำหน้าแบบนั้น เห็นแล้วเสียอารมณ์ชะมัด“หน้ายังกะส้นตีน ไม่เด็ดไง” ไอ้ดินเอ่ยถามขึ้นพลางยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างกวนตีนหลังจากที่มันเดินตามผมมานั่งบนโซฟาตรงข้ามผม นั่นดิ...ผมแมร่ง เป็นเหี้ยไรวะ ทั้งที่คู่ขาผมคนเนี่ยเด็ดโคตรและผมก็รู้สึกดีมากด้วยแต่พอมาเจอยัยตัวเล็กนั่น อารมณ์ผมก็เปลี่ยนไปเฉย“เสือก”“โอ๊ะ...ไอ้สัส! ตกใจหมด มึงมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย” ผมด่าไอ้ดินก่อนจะหลุดอุทานอ
เช้าวันต่อมา….ฉันนั่งดูข้อมูลที่เฮียยูตะส่งมาให้อยู่ที่โต๊ะประจำใต้ตึกบัญชี ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังจำได้ไม่หมด ประวัติส่วนตัวหรือประวัติศาสตร์ชาติวะ เยอะฉิบ...แล้วไหนยังจะต้องเรียกสรรพนามให้คุ้นชินอีก คำละพัน ใครจะยอมเสีย...เหอะ ไม่มีทางผลัวะ!!! หัวฉันพุ่งไปตามแรงฝ่ามือที่ฟาดลงมาแบบไม่ได้ตั้งตัวจนมึนงงไปหมด พอตั้งสติได้ก็รีบมองหาต้นตอของแรงปะทะนั่นทันที“เชี่ยยย มึนฉิบ เล่นไรวะเนี่ย” ฉันหันไปด่าเพลินพลางเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ กะแล้วว่าต้องเป็นมันเพราะไม่มีใครกล้าเล่นกับแบบนี้แน่ ฉันเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครถ้าไม่สนิท แล้วมันก็เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพลางทำหน้าเหวี่ยงสุด“มึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนไหม อีมิณ” เพลินถามฉันด้วยน้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจสุดๆ อะไรวะดราม่าแต่เช้า เมื่อคืนมันดูซีรีส์เรื่องไหนมาวะ“ดราม่าอะไรแต่เช้าเนี่ย”ฉันเอามือไปโยกหัวเพลินเบาๆ มันปัดมือฉันออกด้วยท่าทางฟึดฟัดพลางยัดมือถือของมันที่เปิดค้างไว้ใส่มือฉันแล้วทำปากมู่ตู้เอามือขึ้นกอดอก อินี่เป็นหนักเหมือนกันนะ ฉันเลื่อนหน้าจอมือถือดูที่มันเปิดค้างไว้ ig เฮียยูตะ?[PIC]15454Like, 1045CommentUta_U เปลี
Minarin Talkฉันเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องเป็นร้อย ๆ รอบตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็สลัดภาพรุ่นพี่ยูตะออกจากหัวไม่ได้เลย ยิ่งสัมผัสนั่น…ฉันเผลอเอามือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างอดไม่ได้ วินาทีนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันวะ สมองเบลอไม่ประมวลผล หูอื้อไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงใครนอกจากเสียงใจตัวเองที่เต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา ริมฝีปากเขา ลิ้นเขา หรือแม้แต่ลมหายใจของเขาทุกอย่างเหมือนมีมนตร์สะกดให้ฉันตกอยู่ใต้ภวังค์ที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา…Line~ Line~โฮะ...ตกใจหมด เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นเรียกสติฉันให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง...ความจริงที่ว่า ผู้ชายอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาสนใจเด็กกำพร้าจนๆ อย่างฉันจริงๆ แน่ นี่มันเป็นแค่แผนหลอกๆ เท่านั้น...เพราะฉะนั้นห้ามเผลอใจให้เขาเด็ดขาด แล้วนี่ฉันเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย คิดถึงเขาอยู่ได้ ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดพวกนั้นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไลน์ดูNum : มึง กูกำลังจะเข้าไปเอาเลกเชอร์Min : เครๆฉันพิมพ์ไลน์ตอบน้ำเพื่อนที่คณะ มันยืมเลกเชอร์ฉันไว้ตั้งแต่เย็นแล้วแต่ฉันรีบไปหาพี่หนูดามันเลยจะเข้ามาเอาที่หอแทนก๊อกๆๆทำไมถึงเร็วนักวะ...ฉันหยิบเลคเชอร์ที่มั
ผมกำลังจะตามยัยตัวเล็กนั่นไปแต่เฮียวาดันลุกมาคว้าคอผมแล้วลากกลับมานั่งที่โซฟาซะก่อน“ไม่ต้องไป พูดมา มึงคิดจะทำอะไร” เฮียวาเอ่ยถามขึ้นพลางหรี่ตามองผมอย่างสงสัยและไม่ใช่แค่มันหรอกนะตอนนี้ทุกสายตาจ้องมาที่ผมคนเดียว เออ...เอาเข้าไป เหมือนกูไปฆ่าใครตายเลย คาดคั้นอะไรเบอร์นี้วะ“กูก็แค่จ้างยัยตัวเล็กนั่นมาแกล้งเป็นแฟนกู”พรวดดดด...แคร่กๆ“ฮะ!?”ไอ้ธามถึงกับเหล้าพุ่งเพราะมันกำลังยกเหล้าดกเข้าปากพอดี ส่วนคนอื่นๆ ก็ประสานเสียงกันดังลั่น ตกใจอะไรขนาดนั้น“อย่างมึงยังต้องจ้างอีกเรอะ” ไอ้เฮียแม็กถามขึ้นพลางเลิกคิ้วใส่ผม นั่นดิ ความจริงระดับผม...ผู้หญิงพร้อมจะคลานเข่าเข้ามาเป็นแฟนผมทั้งนั้น ยกเว้นยัยมิณานี่“ก็เพราะใครอะ พามาทำเหี้ยไรก็ไม่รู้ แล้วคือยัยซายะนั่นเห็นมิณาแล้วไหม จะให้กูทำไง” ผมหันไปมองไอ้เฮียวาตาขวางก่อนจะยกแก้วเหล้าของใครก็ไม่รู้...ไม่สนด้วย ดกเข้าปากรวดเดียวจนหมด หงุดหงิดชะมัด ผมไม่เคยโดนผู้หญิงปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยยังงี้เลยนะ...แถมยังด่าผมเป็นหมาอีก แมร่งงงเอ้ยยย เสียชาติเสือฉิบหาย“เวรเอ้ยยย ใครจะรู้วะ...กูก็ไม่เห็นมึงปฏิเสธแม่หนิหว่า ก็เลยนึกว่า…”“หุบปากเลย มึงแหละตัวดี ก็เพราะม
Minarin Talkแล้วอยู่ดีๆ รุ่นพี่ยูตะบ้ากามนั่นก็ลากฉันออกมาจากห้องและเปิดประตูห้องข้างๆ พอเห็นว่าไม่มีใครก็ลากฉันเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูทันทีแถมยังล็อกอีก เขาจะทำอะไรกันแน่...ไม่นะ ฉันเพิ่งเสียจูบแรกให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักไม่กี่วัน แล้วเขายังจะ....ฉันจะไม่ยอมเสียให้เขาเด็ดขาด ถึงเขาจะหล่อแค่ไหนก็ตาม...“นี่! จะทำอะไร” ฉันเอ่ยถามเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วพยายามที่จะแกะมือเขาออกแต่เขากลับบีบมันแน่นขึ้นก่อนจะพูดขึ้น“ฉันไม่ปล้ำเธอหรอกน้า แค่จะคุยธุระสำคัญ เธอต้องช่วยฉัน”“ปล่อย! ฉันไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ..” ฉันโวยวายออกไปโดยไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดสักนิด ฉันรู้แค่ว่าเขาอันตรายเกินไป ฉันอยู่ใกล้เขาไม่ได้ เขาลวนลามฉันทุกครั้งที่เจอ ฉันต้องอยู่ให้ห่างเขา“นี่! หยุดโวยวายสักทีได้ไหม”ปึกกกกรุ่นพี่ยูตะตวาดเสียงดังลั่นก่อนจะใช้มืออีกข้างรั้วเอวฉันเข้าหาตัวเขาอย่างแรงจนร่างฉันถลาไปชนกับแผงอกแกร่งของเขา“นี่!! ...”ฉันเงยหน้าขึ้นตวาดเขาด้วยความโมโหแต่จังหวะนั้นรุ่นพี่ยูตะดันก้มหน้าลงมาพอดีเลยกลายเป็นว่าตอนนี้หน้าเราสองห่างกันแค่ปลายจมูกจนฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา...ละ...แล้วมันใกล้ข
“สวัสดีค่ะ ที่นี่รับพนักงานพาร์ตไทม์ไหมคะ”“อ๋อ ไม่ค่ะ”ฉันเดินคอตกออกมาจากร้าน นี่น่าจะเป็นร้านที่สิบของวันนี้ได้แล้วละ ทำไมแถวนี้ถึงไม่มีงานพาร์ตไทม์ให้ฉันทำเลยนะ แล้วฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้ ฉันเป็นเด็กกำพร้าที่เสือกเก่งและฉลาด สอบชิงทุนเข้ามหาลัยระดับเซียนได้เฉย และคือมันก็มีแต่ทุนให้เรียน ส่วนอย่างอื่นฉันก็ต้องปากกัดตีนถีบไปวันๆ หาทำไปเรื่อยเอาทุกอย่างที่ได้เงิน...และตอนนี้ฉันก็ต้องการงานพาร์ตไทม์มากๆ สวรรค์ช่วยลูกด้วยเถิดฉันยืนขอพรอยู่หน้าร้าน cafe ของคอนโดแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยและหอพักฉันมากนัก ก่อนสูดเอาลมหายใจเข้าจนเต็มปอดพร้อมดันประตูเปิด แต่...ความซวยของฉันมันยังไม่หมดไงปึกกกก…ตุ๊บบบบ...อ๊ะฉันล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอย่างแรง ประตูเขาดึงออก...กูเสือกดันเข้า แล้วยังบังเอิ๊ญ..บังเอิญมีคนเปิดออกพอดี ประตูก็เลยตีกลับกระแทกหัวฉันอย่างจัง แม่งเอ๊ยยย..เจ็บทั้งก้น เจ็บทั้งหัว..“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ เป็นไรไหมคะ” ผู้หญิงคนที่เปิดประตูชนฉันรีบเข้ามาช่วยพยุงฉันขึ้นแล้วเอ่ยถามด้วยท่าทางที่ตกใจไม่น้อยเลยแหละ ไม่ตกใจก็บ้าละ ชนจนร้านสะเทือนขนาดนั้น“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันโง่เองแหละ แหะ ๆ” ฉั...
Comments