“กูชอบมึง” “เหอะ! พี่ก็รู้ว่าแพงขาย พี่ยังจะมาพูดอะไรแบบนี้อีกนะคะ” “ได้! ถ้ามึงไม่ชอบกู กูขอซื้อมึงทั้งชีวิตได้ไหม” “พี่ตื่นจากความฝันและยอมรับความจริงซ่ะ แพงไม่ยอมแหกกฎการขายของตัวเองหรอกค่ะ”
View Moreอ๊าส์..อื้ม
“ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขาทั้งตีก้นเธอ ทั้งบีบทั้งลูบก้นหมนวนไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาและเธอมากขึ้น จ๊วบ จ๊วบ “เสียวเป็นบ้าเลยว่ะ กูจะเสร็จแล้วมึงเสร็จหรือยังแพง” “อื้ม..ไม่ต้องห่วงแพงหรอกค่ะ พี่จะเสร็จก็รีบ ๆ เถอะแพงมีเรียน” เขาพรมจูบที่แผ่นหลังและก้นที่ขาวเนียนนุ่มนิ่มจนเขาอดไม่ได้ที่จะจูบและเลียไปมา บทร่วมรักระหว่างชายหญิงที่อยู่ในคอนโดหรู่ตอนกลางวันแสก ๆ ที่แสงแดดส่องผ่านช่องหน้าต่าง ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มเองก็ใกล้ถึงฝั่งฝันกลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขายิ่งหงุดหงิดกับคำตอบของหญิงสาว เขาพยายามเล้าโลมเธอมาก่อนหน้านี้มานานพอสมควร เขาอดใจไม่ไหวใส่เธอไม่ยั้งทั้งกระแทกร่างบางเข้าออกหนัก ๆ เน้น ๆ เขาเริ่มรุนแรงกว่าเดิมเพื่อเป็นการลงโทษเธอ ที่เธอพูดจาแบบนั้นกับเขาหญิงสาวไม่ได้ตอบโต้ใด ๆ เพราะชินชากับการกระทำของชายหนุ่มเวลาเขาไม่พอใจขึ้นมาเขาก็จะมีอาการแบบนี้เสมอ เธอทำได้เพียงลองรับอารมณ์ของเขาและแม้เธอจะเจ็บอยู่บางแต่บางครั้งเธอเองก็เสียวซ่านและมีอารมณ์เหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ห้ามปรามเขาเพียงใด ยิ่งเขากระแทกเธอยิ่งเสียว ตอนนี้เธอเองก็มีอารมณ์แรงปรารถนาไม่ต่าง เธอกัดริมฝีปากบางตัวเองก่อนจะเผลอครางร้องลั่นห้องของชายหนุ่ม เขาที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้น ๆ แต่จังหวะนี้มันกับทำให้ทั้งคู่เสียวซ่านไปทั่วร่างกาย อ้า..อ้า..อ๊าส์ สิ้นเสียงครวญครางหวีดร้องครั้งสุดท้ายของหญิงสาวและชายหนุ่มร่างกายทั้งคู่ต่างกระตุกและภายในหญิงสาวตอดตุบๆ ไม่หยุดทำให้ชายหนุ่มพอใจในผลงานของตนเองก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ พรึบ! “โอ้ย..มึงผลักกูทำไมว่ะแพงเดี๋ยวถุงยางก็หลุดหรอก มึงอยากมีลูกกับกูรึไง กะจะจับกูอย่างงั้นเหรอ” “แพงขอโทษค่ะ แพงมีเรียนตอนบ่ายแพงต้องรีบไป ขอโทษนะคะแพงขอตัวไปล้างตัวก่อนนะคะ” ซ่าส์ ซ่าส์ หญิงสาวรีบอาบน้ำล้างตัวเพื่อที่จะรีบไปเข้าเรียนให้ทันคราบบ่าย เธอไม่อยากขาดเรียนเท่าไรแม้อาจารย์ที่สอนจะไม่ได้เคร่งครัด หลังจากเธออาบน้ำเสร็จเธอก็รีบแต่งตัวทันที “กูไปส่งเองมึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ป่ะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ รถติดแพงนั่งวินไปเองดีกว่า พี่จ่ายค่าตัวแพงมาก็พอ” “มึงจะงกไปไหนกูเคยเบี้ยวมึงหรอ..อะไรอีก” หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเธอยืนเท้าสะเอวมืออีกข้างแบมือขอเงินค่าตัวจากเขา ซึ่งเธอหันหน้าเข้าสู่วงการนี้โดยมีเพื่อนเธอที่เพิ่งรู้จักกันตอนรับน้องปีหนึ่งเป็นคนแนะนำจากนั้นเธอก็เริ่มขายมาตลอดตั้งแต่ปี1 จนถึงปัจจุบัน พี่มาร์คชายหนุ่มที่รูปหล่อพ่อรวยเพิ่งมีอะไรกับเธอไปเองก็เป็นเพียงลูกค้าคนหนึ่งที่เธอต้องบริการ ซึ่งเขาค่อนข้างมาใช้บริการกับเธอบ่อย ๆ ถ้าไม่ติดขัดอะไรหรือลูกค้าคนอื่น ๆ ไม่เรียกเธอก็จะมาที่คอนโดของชายหนุ่มอยู่เสมอร่วมถึงวันนี้ด้วย “มึงจ้องกูเหมือนกูเป็นลูกหนี้มึงเลยนะแพง กูรู้แล้วอ่ะ กูโอนไปแล้วสองหมื่นห้าตามที่ตกลงกันมึงพอใจยัง” “ขอบคุณค่ะ ไว้ครั้งหน้าค่อยโทรนัดใหม่นะคะ ถ้าไม่เร่งก็ราคาเดิม” “มึงนี้มัน!..ช่างเถอะกูไปส่งมึงเอง” “แพงรีบค่ะ ไว้วันหลังแล้วกันนะคะ” “เดี๋ยวกูยืมมอไซต์ไอ้วินไปส่งมึงเองพอใจยัง..คนอะไรไม่กลัวดำรึไง ร้อนก็ร้อนแม่งจะรีบอะไรหนักหนา” เขาบ่นหญิงสาวก่อนจะเดินไปห้องเพื่อนของเขาที่อยู่ติดกันอีกฝั่งโดยที่ยิ่งสาวเดินตามมารอที่หน้าห้องของชายหนุ่ม ก๊อก ก๊อก! แกร๊ก “กูยืมอไซต์มึงหน่อยกูจะไปส่งแพงนะ” “สวัสดีค่ะพี่วิน” “สวัสดีค่ะ โดนไอ้มาร์คลากมาจนได้สินะ” เพื่อนของชายหนุ่มมองหน้าเธอก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อยและเธอก็ยิ้มตอบกลับก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในห้องและไปหยิบกุญแจมาให้ชายหนุ่ม ซึ่งที่เขาเอ่ยทักเธอเมื่อครู่เพราะก่อนหน้านี้เธอเพิ่งปฏิเสธเขาไปเมื่อช่วงเช้าเพราะว่ากลัวเข้าเรียนไม่ทัน มีแต่ชายหนุ่มคนนี้เท่านั้นที่เอาแต่ใจไม่ยอม ตื้อจนสุดท้ายเธอก็ต้องมาตามที่เขาขอแลกกับค่าจ้างพิเศษที่เธอจะต้องได้ทำให้เธอต้องยอมมากับเขา “มึงติดใจในลีลามันเหรอถึงได้มองตาเหยิมขนาดนั้น” “เฮ้อ..เมื่อไรพี่มาร์คจะเลิกขี้บ่นคะ แพงเริ่มจะปวดหัวแล้วนะ” “หึ! มึงอย่ามากลบเกลื่อน” “พอเถอะค่ะ พี่จะไปส่งแพงได้ยัง” “เอ่อๆ..กูรู้แล้ว”3 ปีต่อมา “สวัสดีครับคุณทนายสุดหล่อ วันนี้มาฟังคำพิพากษาใช่ไหมครับ” “ สวัสดีครับ ใช่ครับผม พี่ครับพอดีว่ารบกวนพี่หน้าบัลลังช่วยเช็คให้หน่อยได้ไหมครับว่าท่านผู้พิพากษาจะลงบัลลังกี่โมง พอดีว่าผมจะขอแวะไปส่งเอกสารอีกคดีที่บัลลังก์ 7 ครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคดีผมที่บัลลังก์ 5 ท่านจะเริ่มกี่โมง” “จะไปนานเหรอครับคุณทนาย ได้ครับ ๆ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาคดีของคุณทนายไว้เป็นคดีสุดท้ายช่วงเช้าเลยนะครับ แต่มันจะมีคดีที่สืบพยานกันอยู่อีกหนึ่งคดี ยังไงผมจะแจ้งผู้พิพากษาเจ้าของคดีให้ทราบนะครับ” “ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะรีบกลับมานะครับ” “ได้ครับ” ไมค์ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนที่จะเดินไปอีกห้องเพราะตอนนี้เขากลายเป็นทนายหนุ่มไฟแรงสุดฮอตที่กำลังเร่งทำงานอย่างตั้งใจ เขาพยายามค้นหาตัวเองและก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตให้ผ่านไป ขณะที่เขาจบคดีที่บัลลังก์ 7 ก็รีบเดินกลับมาที่บัลลังก์ 5 ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้า คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ กำลังนั่งอยู่คอกพยาน “พยานกำลังจะอ้างว่าภาพถ่ายที่พยานโอบกอดสามีของโจทก์อยู่นั้นไม่ใช่พยานอย่างนั้นเหรอครับ” “ค่ะ” “งั้นผมขอถามว่าพยานกั
บนโต๊ะอาหารตอนนี้ต่างก็ดูวุ่นวายเพราะไมค์ที่เริ่มได้ที่ก็พูดไม่หยุดเดินไปชวนคนนั้นคนนี้มาชนแก้วกับเขา ทุกคนที่จากตอนแรกจะทานข้าวกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างก็ดื่มเป็นเพื่อนไมค์กันแต่เช้า หากมีเพียงแมธที่นั่งทานข้าวเสร็จก็กลับไปนั่งทำงานมองดูสถานการณ์ห่าง ๆ กับภาพครอบครัวที่ต้องบอกว่าหาดูได้ยากที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและเมากันได้ที่ขนาดนี้ 3 ปีต่อมา “มาร์คยังไม่มารับแพงอีกเหรอ” “ยังค่ะพี่แมธ พอดีเท้าแพงบวมมาก แพงเลยให้พี่มาร์คไปเอารองเท้าคู่ใหม่มาให้แพงค่ะ” “ท้องดูโตขึ้นเยอะแล้วนะ” “ค่ะ ไปนั่งที่ห้องพี่ก่อนไหม จะได้นั่งโซฟ่าสบายขึ้น” “ไม่เป็นไรค่ะ แพงนั่งทำงานที่นี้ทั้งวันอยู่แล้วเดี๋ยวพี่มาร์คก็มาค่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปดูเอกสารให้พี่หน่อยแล้วกันนะ” “ก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของแมธคืออยากให้เธอไปได้พักมากกว่าที่จะอยู่ห้องทำงานในแผนกนิติกรของบริษัท พอย้อนอดีตตอนที่เธอเข้ามาฝึกงานอยู่ที่นี้จนครบกำหนดและหลังเรียนจบที่มหาลัยเธอก็เปลี่ยนเป้าหมายเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานที่นี้อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเธอก็ตั้งท้องลูกของมาร์คได้ 4 เดือนพอพวกเขารู้ว่าเธอท้องทุกคนในครอ
เธอได้แต่ยิ้มและรู้สึกได้ถึงไออุ่นของครอบครัวเขา ที่มันอาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ปรารถนาครอบครัวแบบนี้ หากแต่ชีวิตของเธอและใครหลายคนที่เลือกเกิดไม่ได้คงไม่ได้โชคดีแบบนี้สักเท่าไร หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งรอเขาที่เตียงนอนไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงมีคนเปิดประตู แกร๊ก “ยังไม่นอนเหรอคะ” “แพงกำลังรอพี่อยู่ค่ะ เป็นไงบ้างคะเรียบร้อยดีไหม” “ครับ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” “ค่ะ” ขณะที่เธอยังไถมือถือเล่นระหว่างรอเขา พอเขาอาบน้ำเสร็จเขาก็รีบกระโดดขึ้นเตียงมานอนหนุนตักเธอ พร้อมกับเอาหน้าซุกพุ่งน้อย ๆ ของเธอทั้งยังทำหน้าอ้อน ๆ ให้เธออีก “พี่มาร์คง่วงนอนหรือยังคะ เรานอนกันเลยไหมคะ” “เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ” “ หื้อ แพงว่า..อย่าเลยดีกว่าค่ะ แพงอายคนอื่นเขาผู้ใหญ่ก็อยู่ในบ้านด้วย แพงไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดีเลยค่ะ รอบก่อนก็อายพี่แมธจะตายอยู่แล้ว” “หื้อ..อายทำไมเรื่องธรรมชาติไหมคะ” “ไม่ต้องเลยค่ะเรานอนกันได้แล้ว” “ขอนอนหนุนตักนุ่ม ๆ นี้ก่อนได้ไหมครับ” “เอ้..มาลูบท้องแพงแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” “พี่แค่คิดว่าถ้าเรามีลูกด้วยกันเขาจะหน้าตาหล่อสวยเหมือนพี่ไหมนะ”
“พวกเราทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่แมธและมาร์คเองก็เล่าเรื่องของหนูมาให้น้าฟังเยอะพอสมควร ถ้าหนูยังไม่พร้อมหรือขาดเหลืออะไรก็บอกน้าได้เลยนะลูก ให้น้าไปขอกับพ่อกับแม่เราเถอะนะทุกอย่างจะถูกต้อง” “อันที่จริง ครอบครัวของแพงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่นเท่าไร ถ้าคุณน้าทั้งสองจะคุยกับครอบครัวแพง แพงก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แพงอยากจะบอกคือแพงไม่ได้ต้องการให้ครอบครัวแพงได้เงินจากครอบครัวของคุณน้าแม้แต่บาดเดียว เงินที่จะสร้างครอบครัวแพงขอให้มาจากพี่มาร์คและแพงเท่านั้นนะคะ” “แพง..เอาจริงดิ ตอนนี้เงินติดบัญชีพี่มันแทบไม่เหลือแล้วนะ แถมโดนเจ้าไมค์ปล้นไปอีก” “ค่ะพี่มาร์ค คุณน้าทั้งสองอาจจะมองว่าแพงอวดดี แต่แพงไม่ได้มีเจตนานะคะ มันคือความตั้งใจของแพงว่าถ้าแพงจะสร้างครอบครัวจริง ๆ แพงก็อยากจะสร้างความทรงจำและสร้างอนาคตกับคนที่แพงรักด้วยตัวของพวกเราเองค่ะ” “เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ เงินพ่อกับแม่ก็มีจะเสียเวลาทำไมคะ” เขาพยายามจะต่อรองกับเธอเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้เธอก็ต้องการจะสารภาพความในใจให้หมดเลย “เอาสิลูก น้องแพงมาใก
“เปล่า.. ” “ตาแดงขนาดนั้นยังจะโกหกอีกนะคะ” หมับ เขากอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่เธอหันมาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาตัวเอง “แพงอย่าพูดแบบนี้กับพี่ได้ไหม พี่ไม่ชอบเลย” “แพงพูดแบบไหนคะ” “ก็ที่บอกว่าจะไม่อยู่กับพี่แล้วไง พี่ขอโทษ ขอโทษกับทุก ๆ การกระทำของตัวเองเลย แพงอย่าโกรธพี่เลยนะ” “ก็ได้ค่ะ ไหนหันหน้ามาให้แพงดูหน่อย โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะครั้งนี้แพงจะไม่โกรธพี่ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คก็ปล่อยแพงได้แล้วแพงอายคนอื่นเขา อีกอย่างคนที่พี่ควรจะขอโทษก็คือน้องไมค์ พี่พูดแบบนั้นออกมาได้ไงคะ น้องเขารักพี่ขนาดไหนพี่รู้ไหม พี่มาร์คไม่คิดว่าไมค์จะเสียใจบ้างเหรอคะอย่าลืมไปขอโทษน้องนะคะ” “ครับ” “อีกเรื่องนะคะ แพงเองก็ไม่ได้ชอบเพลงขวัญแต่ที่พี่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงมันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวพี่ไป คนที่โดนพี่ทำร้ายร่างกายสักวันมันอาจจะเป็นแพงก็ได้ฉะนั้นช่วยเลิกใจร้อนมือเร็วแบบนั้นด้วยนะคะ” “ครับ ปกติพี่ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่เด็กนั้นมันน่าโดนนิ แม่พี่เดินมาแล้วเราหายงอนกันได้แล้วใช่ไหม” โอ้ยยย.. “มี้ครับผมเจ็บ ปล่อยมือก่อนครับ หูผมจะหลุดแล้วเนี้ย” “ยังจะกล้าบอกว่าเจ็บอีกเหร
คำพูดที่แสนจะธรรมดาของแม่มาร์คมันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเธอจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาและชาไปทั้งใจ เธอเองก็ไม่เคยนึกถึงอนาคตตัวเองเลยด้วยซ้ำตั้งแต่สูญเสียน้องชายเธอไป เป้าหมายในชีวิตที่เคยคิดไว้มันพังทลายไปแล้วจริง ๆ เธอจึงไม่มาสามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย เขาหันหน้าไปมองเธอก็เห็นถึงแววตาที่ไร้จุดหมายและปนเศร้าอยู่หน่อย ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอเพื่อให้กำลังใจ “ถ้าแพงยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต พี่จะสร้างเป้าหมายในชีวิตให้แพงเอง แพงอย่าเศร้าไปเลยนะ” พรวด! แค่ก แค่ก “เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมมาร์ค นายเองก็ยังไร้จุดหมายในชีวิตเหมือนกันเท่าที่ฉันเห็นแกหนักกว่าน้องแพงเยอะเลยนะ” “ผมก็ช่วยงานพี่อยู่นี้ไง” “มองดูก็รู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยทำเพราะไม่มีอะไรทำ หึ!” “พ่อว่าหนูแพงไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศสไหมหรือเยอรมันก็ดีนะ เผื่อเจ้าไมค์จะไปเรียนต่อน้องจะได้มีเพื่อนด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมพ่อดูแลเอง” “ผมไม่อนุญาตครับ” “ถามน้องแพงยัง แม่ว่าน้องอาจจะอยากไปเรียนต่อก็ได้” “งืออ” “แพงขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมาก ๆ นะคะที่เอ็นดูแพงแต่เรื่องนี้แพงขอยังไม่รับน้ำใจนะคะ แพงอยากลองพึ่งพาตัวเองก่
เธอรีบลงจากตึกคณะวิ่งมาหาเขาที่รถทันที หลังจากบอกลาเพื่อน ๆ พอเธอเห็นหน้าเขาเธอก็ส่งร้อยยิ้มให้เขาทันที “รอนานไหมคะ” “ไม่ครับ แพงหิวไหม” “ไม่ค่อยเท่าไรค่ะ” “วันนี้แม่พ่อพี่กลับมาไทยพวกท่านอยากเจอแพงด้วยตอนเย็นเราไปกินข้าวกับท่านทั้งสองคนนะ” “แต่แพงยังไม่พร้อมเลยนะคะ อีกอย่างแพงก็ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไงด้วย” “พ่อกับแม่พี่ท่านเป็นคนง่าย ๆ แพงไม่ต้องตื่นเต้นหรือเป็นกังวลไป” “ยังไงนี้ก็เป็นครั้งแรกแพงก็ต้องกังวลอยู่ดีค่ะ อีกอย่างเสื้อผ้าแพงก็ไม่ได้มีชุดที่เรียบร้อยเท่าไรในตู้เสื้อผ้าก็มีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ พี่มาร์คไปเถอะค่ะแพงอยู่ห้องคนเดียวได้ค่ะ” “พี่ก็ไปด้วยนะ ยังไงพี่ก็ไม่ทำให้เราขายหน้าหรอก..งั้นตอนนี้เราไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็ได้ค่ะ” เขาจ้องหน้าเธอทำหน้าไม่พอใจและพยายามบังคับเธอให้ไปด้วย ก่อนที่จะซะงักและเปลี่ยนการกระทำเป็นกระพริบตาถี่ ๆ แววตาออดอ้อน พอเธอเจอไม้ตายนี้ที่ไรเธอก็ต้องใจอ่อนอยู่ดี “ค่ะ งั้นก็ไปซื้อกันเลยดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา ขอบคุณนะคะ” “เก่งมากครับว่าที่ภรรยา” “ว่าที่สามีอ้อนขนาดนี้มีเหรอว่าแพงจะไม่ตามใจ” พอเขาได้ยินคำว่า “ว่าที่สามี” เขา
พอพ่อกับแม่เธอเห็นว่าเช็คใบดังกล่าวอยู่ในมือเขาทุกคนต่างก็จ้องตาเป็นมันก่อนที่พ่อเธอจะดึงแขนเธอเดินแยกออกมาคุย “ทำไมแกต้องให้คนนอกถือเช็คด้วย ต่อให้เป็นแฟนกันก็เถอะไว้ใจได้ที่ไหน ไม่รู้เหรอว่าถ้าเป็นเช็คเงินสดแล้วเกิดมันเอาไปขึ้นเงินแล้วหนีไปจะทำไง” “หึ! ทำไมคะกลัวไม่ได้เหรอ แพงไม่โลภหรอกค่ะ” “พ่อไม่ได้หมายถึงแก แต่พ่อหมายถึงแฟนแก ยังไง ๆ ก็ควรเอามาไว้กับคนในครอบครัวดีกว่า ถ้าแกไม่ถือก็เอามาฝากไว้ที่พ่อเพราะของพ่อกับเพลงขวัญร่วมกันก็30 % เหมาะสมที่จะถือมากกว่า” เธอได้แต่นึกสมเพชและรู้สึกสงสารพีที่มีพ่อแบบนี้ เงิน 100,000 บาทก่อนหน้านี้พ่อเขาก็เลือกที่จะไม่ให้เธอ แต่พี่มาร์คที่เป็นคนนอกที่พ่อเธอหมายถึงกับโอนเงินให้เธอ1,000,000 บาทโดยไม่ได้เอ่ยขอคืนจากเธอสักคำแล้วเหตุผลอะไรที่พี่เขาจะมาขโมยเช็คแค่ใบเดียว “พ่อไม่อายเหรอคะ ตอนแพงขอเงินมารักษาน้อง พ่อมีเหตุล้านแปดที่จะไม่ให้แพงมาจ่ายค่ารักษา แต่พอเห็นเงินแค่นี้พ่อกับกลัวไม่ได้ ปล่อยค่ะ แพงจะไปเตรียมงาน” พ่อเธอที่ได้ฟังคำพูดของเธอก็สะอึกและชะงักนิ่งไป เธอที่ไม่อยากเห็นหน้าพ่อตัวเองจึงจะเดินหนีออกจากตรงนี้ “แล้วแกจะไปขึ้นเงิ
จนเกือบจะหกโมงเช้าเขาสะกิดเรียกเธออีกครั้ง “แพงเราไปข้างในโรงพยาบาลก่อนไหม แม่แพงมาแล้วนะ” “ค่ะ พี่มาร์คแพงยังไม่ได้บอกเพื่อน ๆ ของแพงเลย แพงขอมือถือหน่อยค่ะแพงจะได้โทรบอกน้ำค้าง” “ครับ งั้นพี่ไปซื้ออาหารเช้าให้แม่แพงก่อนนะ เราก็นั่งรอพี่ที่นี้ก่อนห้ามไปไหนเข้าใจไหม” “ค่ะ” หลังจากนั้นเธอก็กดเบอร์โทรไปหาน้ำค้างทันที “อื้อ..มีอะไรโทรหาฉันแต่เช้าเลยนะแก” “พีเสียแล้วนะน้ำ” “หื้อ..แล้วตอนนี้แกอยู่ไหนอยู่กับใครฉันจะรีบไปนะ” “ฉันอยู่โรงพยาบาลกับพี่มาร์คแกไม่ต้องรีบก็ได้มันยังเช้าอยู่เลย” “แล้วแกได้โทรบอกผักกับโต้หรือยัง” “ยังเลย” จากน้ำเสียงที่งัวเงียของน้ำค้างพอทราบข่าวของพีเธอก็สดุ้งตัวตื่นขึ้นมาทันที “โอเค เดี๋ยวฉันจะรีบไปหาแกนะส่วนสองคนนั้นฉันจะโทรบอกเอง ฉันแสดงความเสียใจอีกครั้งด้วยนะแพง” “ขอบใจแกนะน้ำค้าง” “ไว้เจอกันนะ” “อืม” เธอมองเขาที่กำลังถืออาหารเช้ามาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แค่เสี้ยววินาทีเธอก็เริ่มรู้ตัวว่าควรจะจัดการเรื่องของน้องชายเธอให้แล้วเสร็จและราบรื่นก่อน เพราะน้องชายเธอไม่เหลือใครที่จะจัดการเรื่องที่เหลือได้อีก เขาเดินมาจับมือเธอเดินเข้าไปในโ
Comments