จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ
อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่ไหลออกมาจากกลีบดอกไม้กลางช่องทางรัก เขาถูขึ้นลงถี่ ๆ ช้า ๆ เน้นตรงช่วงบนของกลีบเกสรตรงข้าง ๆ ติ่งเสียว อ๊า.. “เอาสักทีเถอะพี่มาร์คแพงเสียวจะตายอยู่แล้ว” “กูยังอยากฟังเสียงครางของมึงอีก ครางชื่อกูสิแพง แล้วกูจะกระแทกให้” “อื้ม ไหนว่าจะรีบเอารีบนอนไงคะพี่มาร์ค” “ครางสิ!” เขาทั้งเขี่ยกลีบดอกไม้ ทั้งเลียขบเม้มยอดเม็ดบัวของเธอ เธอที่ทนความเสียวไม่ไหวเผลอครางออกไปดังลั้นห้อง “อื้ม..พี่มาร์ค พี่มาร์คคะ หนูไม่ไหวแล้วจริง ๆ ” เธอรู้สึกว่ากิจกรรมครั้งนี้เขามีความประณีตมากกว่าครั้งไหน ๆ จนเธออดแปลกใจและเสียวซ่านทนไม่ไหวกับลีลาของเขาจริง ๆ เขาที่ได้ยินเสียงหวานครางขึ้นมาก็ยิ่งทำให้แก่นกลางท่อนเอ็นมันพ่องตัวจนปวดหนึบไปหมดอดทนไม่ได้อีกต่อไป จึงรีบถอดกางเกงตัวเองและกางเกงในของเธอออกให้พ้นทางก่อนจะจับให้เธอหันหลัง ให้เธอจับที่ขอบโซฟา เขายกก้นหมนให้แอ่นสูงอยู่ในระดับ ก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยออกมาจากกระเป๋าและสวมใส่มันในทันที พร้อมจับขาอีกข้างในถางออกให้ห่างมากขึ้น ที่เขาไม่ยอมเสียบสักทีเพราะครั้งนี้เขาแอบหวังต้องการให้เธอติดใจในลีลาของเขาจนเธอถอนตัวไม่ขึ้นและไม่อยากรับงานจากใครอีก พรึบ สวบ! อืม.. ตับ ตับ ตับ “อ้า จุ..จุกค่ะ” เขากระแทกถี่ ๆ เน้น ๆ หนัก ๆ ด้วยขนาดที่ทั้งใหญ่และยาวยิ่งเขากระแทกแบบนั้นเธอยิ่งเสียวและจุก จนเธอต้องบอกเขาแต่เหมือนกับว่าเขาจะยิ่งพอใจ ยกยิ้มที่มุมปากกระแทกหนัก ๆ เน้น ๆ มือทั้งสองข้างก็บีบคั้นก้นหมน ลูบไลสลับไปมา มันยิ่งทำให้เธอเสียวซ่าน สลับกับจุก แต่เหมือนกับว่าตอนนี้เธอจะเสียวมากกว่า เพลีย! เพลีย! “ยังอยากจะรับลูกค้าคนอื่นอีกไหม หื้ม กูเอาดีขนาดนี้มึงจะกล้ารับไหม ตอบกูมาสิ จะดื้ออีกไหม หื้ม” “โอ้ย..อ๊าแพงไม่ดื้อแล้วค่ะ พี่มาร์ค อะอา อ๊า เสียว..เสียวจังคะ” “ดี หันหน้ามา” เขาอ้าขาอีกข้างของเธอเพื่อให้เธอหันมา ก่อนจะยกขึ้นให้เธอหนีบแนบชิดไปกับเอวของเขา จากนั้นเขาก็จับเอวบางของเธอกระแทกเข้า ๆ ออก ๆ เธอเหมือนที่ยังตั้งหลักไม่ดีก็เซถะลา มือสองขาเลยต้องคล้องคอของเขาเอาไว้ให้เป็นที่มั่น เขายังจับเอวบางมืออีกข้างก็จับขาให้ยกได้ระดับแล้วกระแทกต่อไม่หยุดย่อน อื๊อ..อื๊อ เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง ร่องแคบที่ถูกกระแทกไม่หยุดจนภายในของเธอตอนนี้ตอดรัดท่อนเอ็นของเขาไม่หยุด พอเขารับรู้ได้แบบนั้นก็จับเธอนอนราบไปกับโซฟาชักเข้าชักออกกระแทกสาวยาว ๆ อร๊ายยย พอร่างกายเธอกระตุกรัว ๆ เขาก็รู้ทันทีว่าเธอถึงที่หมายของความหฤหรรษ์ “มึงเสร็จแล้ว ทีนี่ก็ถึงทีกู ถ้ามึงเสียวจะเสร็จกับกูอีกรอบก็ได้นะ” อะ..อา อา เขากระแทกเธออีกครั้ง จากนั้นก็โน้มใบหน้าดูดปากบางสลับกับแลกลิ้นหยอกเย้า ทำเอาเธอเกิดไฟราคะพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงแรงตอดท่อนเอ็นเขาไม่หยุด “กูขอก่อนรอบนี้นะ ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ทั้งฟิต ทั้งตอดขนาดนี้” กรี๊ดดด/อื้มมม ทั้งสองถึงที่หมายเขาก็ยังคงคาท่อนเอ็นไม่ยอมถอยออกปล่อยให้ร่างกายเธอที่กระตุกสั้นรัว ๆ เหมือนกับว่าครั้งนี้มันถึงพริกถึงขิงกว่าในทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา สักพักเขาถึงถอยออกจากร่างบาง ก่อนจะถอดถุงยางและเดินมาอุ้มร่างบางเข้าไปต่อบนเตียงที่ห้องห้องนอนของเขาทันที เธอแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาและเธอเสร็จไปกี่รอบ จนหนังตาเธอเริ่มไม่ไหวเผลอหลับไปในที่สุด เช้าวันต่อมา เธอมองไปที่นาฬิกาดิจิตอลที่แขวนไว้บนฝาผนังห้องนอน เป็นเวลาเกือบจะ 8 โมงเช้าเธอรีบลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบากก่อนจะอาบน้ำแต่งตัว เขาชอบบังคับให้เธอมานอนด้วยบ่อย ๆ ทำให้เธอเอาเสื้อผ้ามาไว้ห้องนี้และมีเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังจากที่เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินออกมาปัดกวาดล้างจานที่เขากินแล้วทิ้งไว้ ถ้าเธอมีเวลาว่างเธอก็จะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำเพราะเธอรู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นว่าห้องพักของเขานั้นห้องรกแค่ไหน มันทำให้เธอมองแล้วขัดหูขัดตาอดไม่ได้ที่จะทำความสะอาดให้เขา เธอไม่รู้ว่านี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งหรือเปล่าที่ทำให้เขาชอบเรียกเธอมาที่คอนโดของเขาอยู่บ่อย ๆ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด หลังจากเธอปัดกวาดและล้างจานเสร็จก็เก็บเสื้อผ้าของเขาใส่ตะกร้าไว้เพื่อให้เขาเอากลับไปซักที่บ้านของเขา จากนั้นเธอก็เดินไปที่ถังขยะรื้อหาถุงยางเพราะเธอเองก็จำไม่ได้ว่ากี่รอบจะได้คิดราคาถูก “ 1 2 3..6 รอบละเท่าไรดีวะเนี่ย คิดราคาไม่ถูกเลย เหมา ๆ เพิ่มอีก 10,000 แล้วกันลดให้ เห็นแกที่พี่ทำหนูเสร็จไปรายรอบแล้วกัน” เธอทิ้งถุงยางไว้ในถุงขยะเช่นเดิมก่อนที่เธอจะเดินออกมานั่งที่โซฟาตัวเมื่อคืนที่เธอกับเขาบรรเลงเพลงรัก ก่อนจะทักไปหาพี่ปลั๊กคนเมื่อคืนที่ดิวกับเธอไว้จากนั้นเธอก็ตอบข้อความเพื่อนสาวของเธอที่คาดว่าน่าจะเมาหนักจนเธอเองก็ไม่ตอบข้อความเขา “ กูนึกว่ามึงกลับห้องมึงไปแล้ว” “ พี่ไม่ว่างหรอคะเดี๋ยวแพงกลับเองก็ได้ค่ะ” “ ไม่ต้องเดี๋ยวมึงออกไปข้างนอกกับกู มึงไปเป็นเพื่อนกูแล้วกัน” “ ชั่วโมงละ1,000 ถ้าเหมาก็10,000 บวกกับเมื่อคืนที่พี่เอาแพงไปหลาย 6 รอบแพงคิดเพิ่มอีก10,000นะคะบัญชีเดิมค่ะ ถ้าไม่เอาก็จ่ายมาเฉพาะส่วนเมื่อคืนพอ” “จิ! มึงจะเอาเงินกูไปตั้งตัวให้ได้เลยใช่ไหม” “ เวลาของแพงเป็นเงินเป็นทองค่ะ คงไม่สะดวกจะไปเป็นเพื่อนใครทั้งนั้น” “ เออ! เดี๋ยวกูโอนให้ พอใจมึงหรือยัง” “ แล้วพี่จะพาแพงไปไหนคะ” “ คาเฟ่ของเค้กน่ะ พอดีพวกเพื่อน ๆ กูมันนัดกันอยู่ที่นั้น” “ แล้วจบงานเมื่อไหร่ตอนเย็นแพงนัดกับน้องชายไว้ค่ะ” “ เดี๋ยว กูไปส่งไม่ดึกหรอก”เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
แม้ว่าเขาจะเคยมารับมาส่งแพงหลายรอบ แต่ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะอนุญาตให้เขาขึ้นไปที่ห้องของเธอ แต่เขาก็ขู่เธอแบบนี้ให้เธอลงมาหาเขาได้ตลอด แม้ว่าเธอจะขัดขืนเขาอยู่บ้าง แต่เธอก็ยอมให้เขาเกือบจะทุกครั้ง คอนโดเธอค่อนข้างมีความปลอดภัยสูงถ้าคนในไม่พาคนนอกเข้าห้องก็อย่าหวังว่าจะได้ขึ้นไป เขารอเธอที่ลานจอดที่ค่อนข้างเงียบไม่มีคนพุ่งพลาน แถมฝนก็กลับมาตกหนักอีกครั้ง ไม่ถึง 5 นาทีเธอก็เดินมาขึ้นบนรถเขา เธอใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีขาว เธอขึ้นมาเขาก็ได้กลิ่นชมพูอ่อน ๆ บนหัวของเธอ “ออกรถสิคะ แพงให้เวลาแค่นั้นนะคะ” “ฝนตกรถติดแบบนึ้มึงว่ากูจะออกไปได้ไหมล่ะ แค่ออกจากซอยคอนโดมึงกูก็หมดเวลาแล้วมั่ง” “แล้ว?..หรือว่าบนรถ” “มึงคิดว่าไง ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อชั้นในมา เดินมาแบบนี้กะหาลูกค้าระหว่างทางหรอ” “ระดับแพงคงไม่ต้องหาเพิ่มหรอกค่ะ เท่าที่มีก็รับแทบไม่ไหวแล้วค่ะ” “แพง!..ดี ปากดีแบบนี้ก็รีบ ๆ จัดการให้กูเสร็จซ่ะ ” “ปรับเบาะสิคะ แพงไม่ถนัด” เขาเอนเบาะตามที่เธอต้องการ ก่อนที่เธอจะปลดเข็มขัดนิรภัย พร้อมทั้งเบียงตัวไปทางฝั่งคนขับและโน่มใบหน้าเข้าไปจูบเขาอย่างดูดดื่ม มือบางก็ล
ณ มหาลัย เช้าวันจันทร์แพงนั่งอยู่ที่โรงอาหารของมหาลัยพร้อมข้าวราดแกงผัดวุ้นเส้นใส่ไข่กับยำวุ้นเส้นที่เธอชอบ เธอกินข้าวระหว่างรอเพื่อนของเธอเพื่อเรียนคาบเช้าด้วยกัน ซึ่งนักศึกษาที่มีเรียนช่วงเช้าก็มากินข้าวที่นี้กันเยอะพอสมควร “กินแต่เส้นอีกแล้วนะแพง อ่ะนี้น้ำเปล่าเอากาแฟไหมเดี๋ยวโต้ไปซื้อให้” “ขอบคุณค่ะ โต้กินข้าวมาแล้วเหรอ มานั่งกินด้วยกันก่อนสิ” “เราไม่ชอบกินข้าวเช้าอ่ามวลท้อง สรุปเอาไรไหมเราจะไปสั่งแล้วนะ” “ขอเอสเย็นเข้ม ๆ หวานน้อย1 ชาเขียวหวานปกติของยัยน้ำค้าง1 น้ำผึ้งมะนาวเย็นหวานน้อยของยัยผักกาด1 สองคนนั้นบอกใกล้จะถึงแล้วโต้ซื้อมาเลยเดี๋ยวพวกนั้นงอนโต้อีก ว่าแต่ถือไหวไหมโต้” “สบายมาก รอก่อนนะ” “ครับผม” “อรุณสวัสตอนเช้าจ้า” “มาถึงเร็วจังผักกาด ฉันเพิ่งให้โต้ไปซื้อน้ำให้เมื่อกี้เอง” “อ้าวหรอ ไม่เป็นไรเราไปซื้อข้าวแปปนะ” “อืม” ติ้ง! แชทมาร์ค: วันนี้มึงเลิกเรียนกี่โมง? แชทแพง : วันนี้แพงไม่ว่างทั้งวันค่ะ แชทมาร์ค: กูถามว่าเลิกเรียนกี่โมง ไม่ได้ถามว่ามึงว่างหรือเปล่า แชทแพง : คุณลู
“มีอะไรเหรอแพง ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “เปล่าค่ะ..แพงแค่แปลกใจเฉย ๆ ว่าพี่วินอารมณ์ไหนทำไมพาแพงมาที่นี้” “แล้วแพงว่าอารมณ์ไหนล่ะ” “อืม..อารมณ์ดีมั่งคะ” “ฮ่า ฮ่า..เราก็ช่างพูดนะ สั่งอาหารได้เต็มที่เลยพี่เลี้ยงเอง” “ได้เหรอคะ งั้นหนูไม่เกรงใจนะ” “ครับ” เธอมองเมนูอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น เธอที่หิวข้าวก็รู้สึกว่าทุกเมนูน่ากินไปหมด “เลือกได้ยังคะ” “น่ากินไปหมดเลยค่ะ อืม..แพงขอเป็นผัดไทยกุ้งสด แล้วก็กุ้งเผา อืม..ไม่ ๆ ดีกว่าค่ะ เป็นปลาหมึกซาซิมิดีกว่า” “หึ! ไม่เป็นไรค่ะสั่งมาหมดนั้นเลย น้องครับ ขอเสต็กปลาแซลม่อน1 แล้วก็กุ้งเผา ผัดไทยกุ้งสด ปลาหมึกซาซิมิ แล้วขอเซตปลาซาซิมิมาเลยก็แล้วกันครับ เครื่องดื่มขอเป็นเบียร์สามขวดครับ” “ครับ” “พี่วินขับรถไม่ควรดื่มนะคะ” “พี่สั่งมาแล้วอ่า งั้นเราก็แย่งพี่ดื่มให้หมดแล้วกันนะ” “พี่วินนี้จริง ๆ เลยนะคะ” “หึ หึ พี่ไม่ได้บังคับสักหน่อยแล้วแต่หนูเลย” “ชิ!” ติ้ง! เสียงแชทมือถือนเธอดังขึ้นมาทำให้เธออดที่จะส่องไม่ได้ว่าใครส่งขอความแชท
“พี่วินไม่ต้องบอกให้แพงเลิกยุ่งหรอกค่ะ แพงเองก็ตั้งใจว่าจะเลิกรับงานกับพี่มาร์คอยู่แล้วเหมือน” “มึงหมายความว่าไง ทำไม กูทำไม่ถึงใจเท่าไอ้วินหรอ” “เรื่องนั้นแพงเปิดเผยข้อมูลลูกค้าไม่ได้หรอกนะคะ แต่แพงบอกได้แค่ว่าพี่แม่งโคตรประสาทแดกเลยว่ะ เอาเสร็จจ่ายก็จบกันไปโวยวายทำไมอ่า เป็นอะไรก่อนเอ่ย เรามันก็มั่วพอ ๆ กันนั้นล่ะ” “มึงด่ากูเหรอ พูดแบบนี้หมายความไง” “พี่วินเอาคีย์การ์ดขึ้นไปบนห้องแพงก่อนเถอะค่ะ” “แต่แพง..” “พี่ทำธุระเสร็จค่อยลงเอากุญแจมาให้แพงก็ได้ค่ะ” เธอรู้ว่าพี่วินที่ปวดท้องน่าจะไม่ไหวแล้วจึงเอากุญแจห้องไปให้ก่อน ส่วนอีกคนด้วยนิสัยแล้วเธอต้องต่อล่อต่อเถียงอีกสักพักจนเขาทนไม่ไหวไปเอง “มึงแม่งใจร้ายจังเลยว่ะแพง กูขอให้มึงมีกูแค่คนเดียวมันทำยากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ เงินที่ให้มันไม่พอเลยใช่ไหม แม่งเอากับกูเกือบทุกวันกระหรี่เบอร์ตองยังได้น้อยกว่ามึงอีกมั่งกูว่า” “สติค่ะ! เราไม่ได้เป็นอะไรกันเนอะ พี่จะเอาใครแพงจะเอาใครมันก็ไม่เกี่ยวกันค่ะไม่ต้องอิน” “มึงพูดเหมือนกูไปมีคนอื่น กูก็เอาแค่กับมึง สองปีมานี้กูเอากับใครที่ไหน” “เหอะ! ลมปากผู้ชายอ่าเนอะ” “มึงบอกกูมาดีกว
เธอที่ยื้อหยุดฉุดกระซากกับเขาอยู่นานแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้จึงต้องยอมขึ้นรถไปกับเขา ก่อนที่เขาจะขับรถด้วยความเร็วโดยไม่แคร์ความรู้สึกเธอด้วยซ้ำ จนอาการแพนิกเธอเริ่มกำเริบอีกครั้ง “เชี้ย! แม่งเอ้ยกลัวอะไรหนักหนาว่ะ” เขาเห็นว่าเธอเริ่มมีอาการแปลก ๆ ก็ผ่อนความเร็วของรถลง เธอที่หายใจเริ่มติดขัดก็เหมือนกับว่าพยายามระงับอารมณ์ความกลัวของตัวเองก่อนที่เขาจะขับรถเลี้ยวเข้ารีสอร์ตข้างถนนทันที พอรถเลี้ยวเข้าไปข้างในพนักงานก็รู้งานเลื่อนผ้าม่านก่อนจะก้มหน้าและเดินหนีไป จากนั้นเขาก็ลากเธอเข้าห้องทันที ก่อนจะล็อคห้อง “พี่จะทำบ้าอะไร แพงว่าแพงเคยบอกพี่ไปแล้วนะว่าเราไม่ควรเกี่ยวข้องกันอีก” “ทำไม! พอไม่ใช่ไอ้วินมันถึงใจรึไง” “ถ้าพี่จะพูดแบบนี้แพงจะเลิกยุ่งกับพี่วินก็ได้ค่ะ แพงไม่อยากยุ่งกับพี่มาร์คแล้วจริง ๆ ” “ยุ่งกับกูแล้วมันเป็นยังไง ห้ะ! ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวกูจะจ่ายให้มึงหนัก ๆ เลย” “อื้อ.. ปล่อยนะพี่มาร์คแพงไม่อนุญาตให้พี่ล่วงเกินแพงแบบนี้นะ!ปล่อยมือแพงคะแพงเจ็บ!” ว้าย..อื้ม เขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ ของเธออีกต่อไป ก่อนจะผลักเธอลงเตียงที่ไม่ได้นิ่มมากออกไปทางแ
“ฮื่อ ขนาดพี่ยังแหกกฎคนอื่นมันอาจจะทำแบบพี่ก็ได้คะ ฮึ” “กูจะไม่ให้มันได้มีโอกาสแบบนั้นอีกแน่นอน ถ้ากูเห็นว่ามึงเอาใครอีกกูจะกระทืบพวกมันให้จมตีนกูเอง มานี้! อย่าดิ้นดิ แพงกูแทงไม่ถนัดนิ่ง ๆ หน่อย ถางขาดี ๆ ” “มะ ไม่นะคะพอได้แล้วแพงเจ็บไปหมดแล้ว ว้าย!” หลังจากนั้นเขาก็ต่ออีกไม่รู้ว่ากี่รอบจนเธอเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อย ใครจะคิดว่าเธอตื่นมาอีกครั้งเกือบจะห้าทุ่ม นี้เธอกับเขากำลังสร้างสถิติใหม่เลยรึเปล่านะ เธอรู้สึกว่าร่างกายเจ็บไปหมดยิ่งเป็นตรงกลางช่องรักแล้วนั้นไม่ต้องพูดถึงว่ามันปวดร้าวแค่ไหน เธอพยามตะเกียตะกาย ลงจากเตียงและแทบจะคลานเข้าห้องน้ำพอเข้าห้องน้ำเสร็จเธอก็เปิดมือถือออกมาปรากฏว่าทั้งน้องชายเธอและเพื่อน ๆ ต่างก็โทรหาเธอเกือบจะห้าสิบสาย เธอตัดสินใจโทรหาน้ำค้างทันที “แพงแกอยู่ไหนเนี่ย ทุกคนเป็นห่วงแกจะตายอยู่แล้วนะ” “ฮื่อ น้ำอย่าเพิ่งถาม แกมารับฉันหน่อย เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นไปให้นะมาคนเดียวนะอย่าเพิ่งบอกใครฮึฮื่อ” “แกร้องไห้ทำไมว่ะแพง เอ่อ ๆ รีบส่งมาเลย” ติ้ด พอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอ เธอก็แทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว แต่ถ้าเธอเสียงดังคนบนเตียงก็อาจจะตื่นขึ้นมาอีกก็ได้
3 ปีต่อมา “สวัสดีครับคุณทนายสุดหล่อ วันนี้มาฟังคำพิพากษาใช่ไหมครับ” “ สวัสดีครับ ใช่ครับผม พี่ครับพอดีว่ารบกวนพี่หน้าบัลลังช่วยเช็คให้หน่อยได้ไหมครับว่าท่านผู้พิพากษาจะลงบัลลังกี่โมง พอดีว่าผมจะขอแวะไปส่งเอกสารอีกคดีที่บัลลังก์ 7 ครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคดีผมที่บัลลังก์ 5 ท่านจะเริ่มกี่โมง” “จะไปนานเหรอครับคุณทนาย ได้ครับ ๆ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาคดีของคุณทนายไว้เป็นคดีสุดท้ายช่วงเช้าเลยนะครับ แต่มันจะมีคดีที่สืบพยานกันอยู่อีกหนึ่งคดี ยังไงผมจะแจ้งผู้พิพากษาเจ้าของคดีให้ทราบนะครับ” “ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะรีบกลับมานะครับ” “ได้ครับ” ไมค์ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนที่จะเดินไปอีกห้องเพราะตอนนี้เขากลายเป็นทนายหนุ่มไฟแรงสุดฮอตที่กำลังเร่งทำงานอย่างตั้งใจ เขาพยายามค้นหาตัวเองและก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตให้ผ่านไป ขณะที่เขาจบคดีที่บัลลังก์ 7 ก็รีบเดินกลับมาที่บัลลังก์ 5 ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้า คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ กำลังนั่งอยู่คอกพยาน “พยานกำลังจะอ้างว่าภาพถ่ายที่พยานโอบกอดสามีของโจทก์อยู่นั้นไม่ใช่พยานอย่างนั้นเหรอครับ” “ค่ะ” “งั้นผมขอถามว่าพยานกั
บนโต๊ะอาหารตอนนี้ต่างก็ดูวุ่นวายเพราะไมค์ที่เริ่มได้ที่ก็พูดไม่หยุดเดินไปชวนคนนั้นคนนี้มาชนแก้วกับเขา ทุกคนที่จากตอนแรกจะทานข้าวกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างก็ดื่มเป็นเพื่อนไมค์กันแต่เช้า หากมีเพียงแมธที่นั่งทานข้าวเสร็จก็กลับไปนั่งทำงานมองดูสถานการณ์ห่าง ๆ กับภาพครอบครัวที่ต้องบอกว่าหาดูได้ยากที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและเมากันได้ที่ขนาดนี้ 3 ปีต่อมา “มาร์คยังไม่มารับแพงอีกเหรอ” “ยังค่ะพี่แมธ พอดีเท้าแพงบวมมาก แพงเลยให้พี่มาร์คไปเอารองเท้าคู่ใหม่มาให้แพงค่ะ” “ท้องดูโตขึ้นเยอะแล้วนะ” “ค่ะ ไปนั่งที่ห้องพี่ก่อนไหม จะได้นั่งโซฟ่าสบายขึ้น” “ไม่เป็นไรค่ะ แพงนั่งทำงานที่นี้ทั้งวันอยู่แล้วเดี๋ยวพี่มาร์คก็มาค่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปดูเอกสารให้พี่หน่อยแล้วกันนะ” “ก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของแมธคืออยากให้เธอไปได้พักมากกว่าที่จะอยู่ห้องทำงานในแผนกนิติกรของบริษัท พอย้อนอดีตตอนที่เธอเข้ามาฝึกงานอยู่ที่นี้จนครบกำหนดและหลังเรียนจบที่มหาลัยเธอก็เปลี่ยนเป้าหมายเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานที่นี้อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเธอก็ตั้งท้องลูกของมาร์คได้ 4 เดือนพอพวกเขารู้ว่าเธอท้องทุกคนในครอ
เธอได้แต่ยิ้มและรู้สึกได้ถึงไออุ่นของครอบครัวเขา ที่มันอาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ปรารถนาครอบครัวแบบนี้ หากแต่ชีวิตของเธอและใครหลายคนที่เลือกเกิดไม่ได้คงไม่ได้โชคดีแบบนี้สักเท่าไร หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งรอเขาที่เตียงนอนไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงมีคนเปิดประตู แกร๊ก “ยังไม่นอนเหรอคะ” “แพงกำลังรอพี่อยู่ค่ะ เป็นไงบ้างคะเรียบร้อยดีไหม” “ครับ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” “ค่ะ” ขณะที่เธอยังไถมือถือเล่นระหว่างรอเขา พอเขาอาบน้ำเสร็จเขาก็รีบกระโดดขึ้นเตียงมานอนหนุนตักเธอ พร้อมกับเอาหน้าซุกพุ่งน้อย ๆ ของเธอทั้งยังทำหน้าอ้อน ๆ ให้เธออีก “พี่มาร์คง่วงนอนหรือยังคะ เรานอนกันเลยไหมคะ” “เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ” “ หื้อ แพงว่า..อย่าเลยดีกว่าค่ะ แพงอายคนอื่นเขาผู้ใหญ่ก็อยู่ในบ้านด้วย แพงไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดีเลยค่ะ รอบก่อนก็อายพี่แมธจะตายอยู่แล้ว” “หื้อ..อายทำไมเรื่องธรรมชาติไหมคะ” “ไม่ต้องเลยค่ะเรานอนกันได้แล้ว” “ขอนอนหนุนตักนุ่ม ๆ นี้ก่อนได้ไหมครับ” “เอ้..มาลูบท้องแพงแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” “พี่แค่คิดว่าถ้าเรามีลูกด้วยกันเขาจะหน้าตาหล่อสวยเหมือนพี่ไหมนะ”
“พวกเราทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่แมธและมาร์คเองก็เล่าเรื่องของหนูมาให้น้าฟังเยอะพอสมควร ถ้าหนูยังไม่พร้อมหรือขาดเหลืออะไรก็บอกน้าได้เลยนะลูก ให้น้าไปขอกับพ่อกับแม่เราเถอะนะทุกอย่างจะถูกต้อง” “อันที่จริง ครอบครัวของแพงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่นเท่าไร ถ้าคุณน้าทั้งสองจะคุยกับครอบครัวแพง แพงก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แพงอยากจะบอกคือแพงไม่ได้ต้องการให้ครอบครัวแพงได้เงินจากครอบครัวของคุณน้าแม้แต่บาดเดียว เงินที่จะสร้างครอบครัวแพงขอให้มาจากพี่มาร์คและแพงเท่านั้นนะคะ” “แพง..เอาจริงดิ ตอนนี้เงินติดบัญชีพี่มันแทบไม่เหลือแล้วนะ แถมโดนเจ้าไมค์ปล้นไปอีก” “ค่ะพี่มาร์ค คุณน้าทั้งสองอาจจะมองว่าแพงอวดดี แต่แพงไม่ได้มีเจตนานะคะ มันคือความตั้งใจของแพงว่าถ้าแพงจะสร้างครอบครัวจริง ๆ แพงก็อยากจะสร้างความทรงจำและสร้างอนาคตกับคนที่แพงรักด้วยตัวของพวกเราเองค่ะ” “เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ เงินพ่อกับแม่ก็มีจะเสียเวลาทำไมคะ” เขาพยายามจะต่อรองกับเธอเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้เธอก็ต้องการจะสารภาพความในใจให้หมดเลย “เอาสิลูก น้องแพงมาใก
“เปล่า.. ” “ตาแดงขนาดนั้นยังจะโกหกอีกนะคะ” หมับ เขากอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่เธอหันมาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาตัวเอง “แพงอย่าพูดแบบนี้กับพี่ได้ไหม พี่ไม่ชอบเลย” “แพงพูดแบบไหนคะ” “ก็ที่บอกว่าจะไม่อยู่กับพี่แล้วไง พี่ขอโทษ ขอโทษกับทุก ๆ การกระทำของตัวเองเลย แพงอย่าโกรธพี่เลยนะ” “ก็ได้ค่ะ ไหนหันหน้ามาให้แพงดูหน่อย โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะครั้งนี้แพงจะไม่โกรธพี่ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คก็ปล่อยแพงได้แล้วแพงอายคนอื่นเขา อีกอย่างคนที่พี่ควรจะขอโทษก็คือน้องไมค์ พี่พูดแบบนั้นออกมาได้ไงคะ น้องเขารักพี่ขนาดไหนพี่รู้ไหม พี่มาร์คไม่คิดว่าไมค์จะเสียใจบ้างเหรอคะอย่าลืมไปขอโทษน้องนะคะ” “ครับ” “อีกเรื่องนะคะ แพงเองก็ไม่ได้ชอบเพลงขวัญแต่ที่พี่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงมันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวพี่ไป คนที่โดนพี่ทำร้ายร่างกายสักวันมันอาจจะเป็นแพงก็ได้ฉะนั้นช่วยเลิกใจร้อนมือเร็วแบบนั้นด้วยนะคะ” “ครับ ปกติพี่ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่เด็กนั้นมันน่าโดนนิ แม่พี่เดินมาแล้วเราหายงอนกันได้แล้วใช่ไหม” โอ้ยยย.. “มี้ครับผมเจ็บ ปล่อยมือก่อนครับ หูผมจะหลุดแล้วเนี้ย” “ยังจะกล้าบอกว่าเจ็บอีกเหร
คำพูดที่แสนจะธรรมดาของแม่มาร์คมันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเธอจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาและชาไปทั้งใจ เธอเองก็ไม่เคยนึกถึงอนาคตตัวเองเลยด้วยซ้ำตั้งแต่สูญเสียน้องชายเธอไป เป้าหมายในชีวิตที่เคยคิดไว้มันพังทลายไปแล้วจริง ๆ เธอจึงไม่มาสามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย เขาหันหน้าไปมองเธอก็เห็นถึงแววตาที่ไร้จุดหมายและปนเศร้าอยู่หน่อย ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอเพื่อให้กำลังใจ “ถ้าแพงยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต พี่จะสร้างเป้าหมายในชีวิตให้แพงเอง แพงอย่าเศร้าไปเลยนะ” พรวด! แค่ก แค่ก “เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมมาร์ค นายเองก็ยังไร้จุดหมายในชีวิตเหมือนกันเท่าที่ฉันเห็นแกหนักกว่าน้องแพงเยอะเลยนะ” “ผมก็ช่วยงานพี่อยู่นี้ไง” “มองดูก็รู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยทำเพราะไม่มีอะไรทำ หึ!” “พ่อว่าหนูแพงไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศสไหมหรือเยอรมันก็ดีนะ เผื่อเจ้าไมค์จะไปเรียนต่อน้องจะได้มีเพื่อนด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมพ่อดูแลเอง” “ผมไม่อนุญาตครับ” “ถามน้องแพงยัง แม่ว่าน้องอาจจะอยากไปเรียนต่อก็ได้” “งืออ” “แพงขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมาก ๆ นะคะที่เอ็นดูแพงแต่เรื่องนี้แพงขอยังไม่รับน้ำใจนะคะ แพงอยากลองพึ่งพาตัวเองก่
เธอรีบลงจากตึกคณะวิ่งมาหาเขาที่รถทันที หลังจากบอกลาเพื่อน ๆ พอเธอเห็นหน้าเขาเธอก็ส่งร้อยยิ้มให้เขาทันที “รอนานไหมคะ” “ไม่ครับ แพงหิวไหม” “ไม่ค่อยเท่าไรค่ะ” “วันนี้แม่พ่อพี่กลับมาไทยพวกท่านอยากเจอแพงด้วยตอนเย็นเราไปกินข้าวกับท่านทั้งสองคนนะ” “แต่แพงยังไม่พร้อมเลยนะคะ อีกอย่างแพงก็ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไงด้วย” “พ่อกับแม่พี่ท่านเป็นคนง่าย ๆ แพงไม่ต้องตื่นเต้นหรือเป็นกังวลไป” “ยังไงนี้ก็เป็นครั้งแรกแพงก็ต้องกังวลอยู่ดีค่ะ อีกอย่างเสื้อผ้าแพงก็ไม่ได้มีชุดที่เรียบร้อยเท่าไรในตู้เสื้อผ้าก็มีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ พี่มาร์คไปเถอะค่ะแพงอยู่ห้องคนเดียวได้ค่ะ” “พี่ก็ไปด้วยนะ ยังไงพี่ก็ไม่ทำให้เราขายหน้าหรอก..งั้นตอนนี้เราไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็ได้ค่ะ” เขาจ้องหน้าเธอทำหน้าไม่พอใจและพยายามบังคับเธอให้ไปด้วย ก่อนที่จะซะงักและเปลี่ยนการกระทำเป็นกระพริบตาถี่ ๆ แววตาออดอ้อน พอเธอเจอไม้ตายนี้ที่ไรเธอก็ต้องใจอ่อนอยู่ดี “ค่ะ งั้นก็ไปซื้อกันเลยดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา ขอบคุณนะคะ” “เก่งมากครับว่าที่ภรรยา” “ว่าที่สามีอ้อนขนาดนี้มีเหรอว่าแพงจะไม่ตามใจ” พอเขาได้ยินคำว่า “ว่าที่สามี” เขา
พอพ่อกับแม่เธอเห็นว่าเช็คใบดังกล่าวอยู่ในมือเขาทุกคนต่างก็จ้องตาเป็นมันก่อนที่พ่อเธอจะดึงแขนเธอเดินแยกออกมาคุย “ทำไมแกต้องให้คนนอกถือเช็คด้วย ต่อให้เป็นแฟนกันก็เถอะไว้ใจได้ที่ไหน ไม่รู้เหรอว่าถ้าเป็นเช็คเงินสดแล้วเกิดมันเอาไปขึ้นเงินแล้วหนีไปจะทำไง” “หึ! ทำไมคะกลัวไม่ได้เหรอ แพงไม่โลภหรอกค่ะ” “พ่อไม่ได้หมายถึงแก แต่พ่อหมายถึงแฟนแก ยังไง ๆ ก็ควรเอามาไว้กับคนในครอบครัวดีกว่า ถ้าแกไม่ถือก็เอามาฝากไว้ที่พ่อเพราะของพ่อกับเพลงขวัญร่วมกันก็30 % เหมาะสมที่จะถือมากกว่า” เธอได้แต่นึกสมเพชและรู้สึกสงสารพีที่มีพ่อแบบนี้ เงิน 100,000 บาทก่อนหน้านี้พ่อเขาก็เลือกที่จะไม่ให้เธอ แต่พี่มาร์คที่เป็นคนนอกที่พ่อเธอหมายถึงกับโอนเงินให้เธอ1,000,000 บาทโดยไม่ได้เอ่ยขอคืนจากเธอสักคำแล้วเหตุผลอะไรที่พี่เขาจะมาขโมยเช็คแค่ใบเดียว “พ่อไม่อายเหรอคะ ตอนแพงขอเงินมารักษาน้อง พ่อมีเหตุล้านแปดที่จะไม่ให้แพงมาจ่ายค่ารักษา แต่พอเห็นเงินแค่นี้พ่อกับกลัวไม่ได้ ปล่อยค่ะ แพงจะไปเตรียมงาน” พ่อเธอที่ได้ฟังคำพูดของเธอก็สะอึกและชะงักนิ่งไป เธอที่ไม่อยากเห็นหน้าพ่อตัวเองจึงจะเดินหนีออกจากตรงนี้ “แล้วแกจะไปขึ้นเงิ
จนเกือบจะหกโมงเช้าเขาสะกิดเรียกเธออีกครั้ง “แพงเราไปข้างในโรงพยาบาลก่อนไหม แม่แพงมาแล้วนะ” “ค่ะ พี่มาร์คแพงยังไม่ได้บอกเพื่อน ๆ ของแพงเลย แพงขอมือถือหน่อยค่ะแพงจะได้โทรบอกน้ำค้าง” “ครับ งั้นพี่ไปซื้ออาหารเช้าให้แม่แพงก่อนนะ เราก็นั่งรอพี่ที่นี้ก่อนห้ามไปไหนเข้าใจไหม” “ค่ะ” หลังจากนั้นเธอก็กดเบอร์โทรไปหาน้ำค้างทันที “อื้อ..มีอะไรโทรหาฉันแต่เช้าเลยนะแก” “พีเสียแล้วนะน้ำ” “หื้อ..แล้วตอนนี้แกอยู่ไหนอยู่กับใครฉันจะรีบไปนะ” “ฉันอยู่โรงพยาบาลกับพี่มาร์คแกไม่ต้องรีบก็ได้มันยังเช้าอยู่เลย” “แล้วแกได้โทรบอกผักกับโต้หรือยัง” “ยังเลย” จากน้ำเสียงที่งัวเงียของน้ำค้างพอทราบข่าวของพีเธอก็สดุ้งตัวตื่นขึ้นมาทันที “โอเค เดี๋ยวฉันจะรีบไปหาแกนะส่วนสองคนนั้นฉันจะโทรบอกเอง ฉันแสดงความเสียใจอีกครั้งด้วยนะแพง” “ขอบใจแกนะน้ำค้าง” “ไว้เจอกันนะ” “อืม” เธอมองเขาที่กำลังถืออาหารเช้ามาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แค่เสี้ยววินาทีเธอก็เริ่มรู้ตัวว่าควรจะจัดการเรื่องของน้องชายเธอให้แล้วเสร็จและราบรื่นก่อน เพราะน้องชายเธอไม่เหลือใครที่จะจัดการเรื่องที่เหลือได้อีก เขาเดินมาจับมือเธอเดินเข้าไปในโ