เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่
"แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดกับเขาเกินกว่าลูกค้า เธอจึงไม่อยากรับเงินพวกนั้นจากเขาอีก เธอจึงเลือกที่จะเดินหนีไปอีกทาง "มึงยังไม่ตอบกูเลยนะแพง มึงจะเอาเท่าไรมึงถึงจะเลิกไปเอากับคนอื่นสักที" "แพงยังไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดค่ะ" "แล้วเมื่อไรมึงจะคิด" "พี่มาร์ค! พอเถอะ! แพงไม่อยากหมดอารมณ์เที่ยวตอนนี้ขอตัวนะคะ" "หึ! เดี๋ยวกูทำให้มึงมีอารมณ์เองไปกับกู" "ปล่อยค่ะ พี่มาร์ค! พี่จะลากแพงไปไหนอีกเนี่ย" ชายหนุ่มไม่ฟังเสียงทักท้วงของเธอ เขากับลากเธอขึ้นรถไปในทันทีเป็นจังหวะเดียวกันที่โต้ก็เดินมาทางพวกเขาพอดี “ปล่อยแพงเดี๋ยวนี้นะพี่มาร์ค! พี่จะพาแพงไปไหน ปล่อยแพงเดี๋ยวนี้” “ไอ้โต้! มึงเป็นแค่เพื่อน มึงไม่ต้องเสือกเรื่องของพวกกู” “ หึ ก็ผมเป็นเพื่อนของแพงไง ผมถึงต้องเสือก! ” ผัวะ! ตุบ “โอ้ย..หยุดนะ! พี่มาร์คหยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เธอพยายามจะจับเพื่อนของเธอแยกออกจากเขา เขาไม่พอใจเพื่อนของเธอพูดแบบนั้นเขาก็พุ่งชกเข้าเต็มใบหน้าของโต้ โต้เองที่เห็นแบบนั้นก็สวนกลับขึ้นทันทีกลายเป็นว่าเธอต้องมาแยกทั้งสองออกจากกัน เธอเองก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะใจร้อนถึงขนาดลงไม้ลงมือแบบนี้จริง ๆ เพราะอะไรกันที่ทำให้เขาบ้าแบบนี้ ความอดทนสุดท้ายเธอได้ระเบิดออกมา “โอ๊ยยย..หยุดสักทีสิ!” เพี้ยะ! “มึงตบกูเหรอแพง” “ใช่ค่ะ แพงตบพี่เองพี่จะได้เลิกบ้าสักที” “มึงหมายความว่าไง..กูคงใจดีกับมึงมากไปใช่ไหมก่อนหน้านี้ มึงถึงเอาความกล้ามาตบหน้ากูแบบนี้ พอเห็นว่ากูไม่ทำร้ายผู้หญิงหน่อยเอาใหญ่เลยนะมึง” “พี่มาร์ค! พี่จะให้แพงไปกับพี่มั้ย ถ้ายังอยากจะให้ไปด้วย ขึ้นรถเดี๋ยวนี้ค่ะ! ที่เหลือค่อยคุยกัน” เธอคิดว่านี้คงเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เขาหยุดหายบ้าสักที ก่อนจะหันไปมองเพื่อนของเธอ โดยสายตาเพื่อนของเธอเขายังมีความอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้เธอไปกับเขา “ไม่เป็นไรโต้ เราโอเคจริง ๆ เราฝากนายดูแลน้ำค้างหน่อยนะ เราขอโทษนายแทนพี่มาร์คด้วยไว้ค่อยคุยกัน” “แพงแต่..” “เราไปก่อนนะ” ปึก! บรืนนน ทันทีที่เธอขึ้นรถเขาก็ขับรถออกจากบาร์แห่งนี้ด้วยความโกรธและโมโหเธอที่เธอชอบทำตัวหมางเมินเขาแบบนั้นครั้งนี้เธอยังกล้าตบหน้าเขาต่อหน้าผู้ชายคนอื่นอีก เขายิ่งโมโหขับรถเร็วเหยียบจนเข็มไมล์ขึ้นไปอยู่เกือบสองร้อย “พิ..พี่มาร์ค ขะ..ขับบะ เบาหน่อยคะ” เสียงขอร้องของเธอที่ทั้งเบาและติด ๆ ขัด ๆ ทำให้เขาต้องปลายตามองเธอ “ เชี่ยเป็นอะไรอีกเนี่ย! แพง! ” เอี๊ยดดด “แพง มึงเป็นไรวะ” ฮึ!.. “แพงมึงมองหน้ากูดิ!” เขาตกใจกับอาการของเธอที่ดูแล้วเหมือนหัวใจจะเต้นแรงทั้งยังดูหายใจไม่ออก เหงื่อก็ออกตามไรผมและหน้าของเธอ ทั้งเธอยังมีอาการตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนจะหมดสติกลัวว่าตัวเองจะตายเพราะร่างกายควบคุมไม่ได้ เขาปลดสายนิรัดภัยก่อนจะโผล่เข้าไปกอดเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ “กูขอโทษพะแพง กูขอโทษจริง ๆ ” “แพงกลัว..ฮื่อ กลัวแล้ว ฮึ ฮื่ออ..” น้ำตาเธอไหลไม่หยุด ราวกับคนขาดสติในตอนนี้ เขาลูบหัวเบา ๆ ทั้งกระซับกอดมากขึ้นให้เธอมั่นใจก่อนจะปลดสายคาดนิรัดภัยของเธอให้เธอไม่รู้สึกอึดอัด เขาพยายามปลอบใจเธอเป็นเวลานานพอสมควร กว่าเธอจะหายกลัวก็ทำเอาเขาซางเมาพอดี “แพง กูพามึงกลับห้องนะ” เขาหันมองหน้าเธอแต่สายตาเธอยังคงเย็นชาไม่มีความรู้สึกอะไรเพราะเธอยังตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และเบี่ยงหน้าหนีเขา มองไปทางหน้าต่าง เขาที่เห็นแบบนั้นก็ขับรถออกไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดก็พาเธอมาที่คอนโดของเขา เธอลงรถไปและเดินไปที่ห้องเขาโดยยังคงไม่พูดคุยใด ๆ กับเขา ซึ่งเขาเองก็ยิ่งหงุดหงิดที่เธอทำแบบนั้น แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขาก็เปลี่ยนใจเดินตามเธอไปเงียบ ๆ ก่อนจะไขกุญแจห้องให้เธอเข้าไปข้างใน “หิวไหมให้กูสั่งอะไรให้กินไหม” “….” เธอไม่ตอบอะไรเขา ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่กลางห้องของเขา เธอกดมือถือและโทรหาใครบ้างคน “เราถึงห้องแล้วนะ ไม่ต้องห่วง” “เปล่าเราไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ แค่นี้ก่อนนะ อืม ๆ ” เขารู้ได้ทันทีว่าเธอโทรหาเพื่อนของเธอ จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบกล่องยามาและวางที่โต๊ะพร้อมนั่งข้าง ๆ เธอ “มองอะไร ไม่เห็นเหรอว่ากูเจ็บอยู่มึงทายาให้กูสิ” “หึ! อยากเปิดก่อนเองไม่ใช่หรอคะ แผลแค่นี้พี่คงไม่ติดเชื้อหรอกค่ะ” “เห้ย! มือสกปรกแบบนั้นใครจะไปรู้ อีกอยากรอยฝ่ามือของมึงก็อยู่ที่หน้ากู ช่วยรับผิดชอบด้วย ทายาให้กูหน่อยนะ ๆ ” “ไม่ต้องอ้อนมากหรอกค่ะ แพงฟังแล้วมันแปลก ๆ ขนลุก ” “เหอะ! กูพูดดี ๆ ไม่ชอบใช่ไหมได้! ทายาให้แค่นี้มือมึงคงไม่ถึงขั้นใช้งานไมได้หรอก มึงทายาให้กูสักทีเถอะ กูเริ่มรำคาญและหงุดหงิดมึงแล้ว..ปกติพอไหม” “แบบนี้สิถึงจะเป็นพี่” เธอยิ้มออกมาบาง ๆ ก่อนจะเปิดขวดยาและใช้สำลีชุบยาทาที่มุมปากให้เขาอย่างเบามือ เขานั่งจ้องหน้าเธอไม่วางตา จู่ ๆ เขาก็มีคำถามขึ้นมาว่าเพราะอะไรเธอถึงกลัวความเร็วขนาดนั้น “ที่กูขับรถเร็ว ทำไมมึงต้องกลัวขนาดนั้นด้วย กลัวกูพามึงไปตายหรอ” “เรื่องมันยาวค่ะ พี่ไม่อยากฟังหรอก” “อยากสิ เล่ามาเถอะ มึงรู้ไหมว่าที่ผ่านมาตลอด 2 ปีกูไม่เคยเห็นมึงกลัวขนาดนั้นเลยนะ” เธอทำท่าลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจได้ “ วันนี้แพงเหนื่อยแล้วค่ะ แพงไม่มีอารมณ์“” “ หื้อ..อยากมีอารมณ์หรอ ได้สิ” “ พี่มาร์คพี่ทำบ้าอะไรเนี่ยปล่อยแพงนะคะ” “ มึงมาห้องกู มึงคิดว่ากูจะทำอะไรล่ะ รีบเอารีบนอนเถอะ กูเหนื่อยแล้วเหมือนกัน”จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
กริ้งงง ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกู
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่ "แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดก
กริ้งงง ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกู
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา