กริ้งงง
ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกูตอนนี้!” “แพงไม่ว่างค่ะ นัดเพื่อนแล้ว” “มึงนัดเพื่อนหรือนัดลูกค้าคนอื่น” “ถ้าจะคุยเรื่องนี้แพงไม่คุยแล้วนะคะ แค่นี้นะ” ติ๊ด! เธอที่เมาหน่อย ๆ พอเหล้าเข้าปากความกล้าก็เลยมีมากพอที่จะกล้าเถียงเขากลับไปบ้าง “คนบ้า! เพิ่งเอาเมื่อเช้ายังจะอยากอีกงี่อะไรหนักหนาวะ” เธออดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำเขาที่ทั้งเอาแต่ใจและไม่ยอมเลิกงี่เง่าเจ้ากี้เจ้าการเธออยู่ได้ “ให้ฉันเดานะ พี่มาร์คใช่ไหม” “อืม ฉันก็เริ่มไม่ไหวแล้วนะ แม่งเริ่มงี่เง่าล่ะ” “ถ้าแพงไม่โอเคโทรหาเราได้ 24 ชั่วโมงเลยนะ” “ขอบคุณครับ พี่เขาแค่บ้านะช่วงนี้ ปกติก็ไม่ขนาดนี้หรอก เรายังรับมือไหวอยู่โต้ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” “เราอยากให้แพงคิดถึงเราเป็นคนแรกนะ ถ้าเมื่อไรที่แพงตกอยู่ในอันตราย เราก็อยากเป็นคนไปช่วยแพงนะ” “ฉันล่ะ โต้! นายจะไปช่วยฉันคนแรกมั้ย ถ้าเมื่อไรที่ฉันตกอยู่ในอัตราย” “อืม เธอก็ด้วยน้ำค้าง ว่าแต่ใครจะกล้าวะ ฮ่า ฮ่า” “ไอ้โต้!” ฮ่า ฮ่า “วันนี้ฉันก็จะแดกเหล้าให้คุ้มค่ากับที่โต้เลี้ยง พวกเราค่อยเรียกคนขับผ่านแอปแล้วกันเนอะ มา ๆ ชนแก้วเร็วพวกเรา” “ได้ดิ งั้นวันนี้พวกเธอก็นอนห้องฉันนะ พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยกลับกัน” “รับทราบ/จัดไป” ระหว่างที่พวกเธอดื่มเบียร์กินกับแกล้มอยู่นั้น พวกเธอก็นั่งคุยเมาส์เรื่องชาวบ้านไปเลื่อย หนุ่มที่นั่งโต๊ะตรงข้ามก็ส่งสายตามาทางเธอ เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วเบียร์เป็นสัญลักษณ์ จากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็เดินมาที่โต๊ะเธอทันที “ขอชนแก้วได้ไหมครับ” “ค่ะ” “ชนเสร็จก็กลับไปนั่งได้แล้วครับ” โต้ส่งสายตาพิฆาตให้ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งเข้ามาทักทายคนนั้นก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วและบ่นงึมงำกลับโต๊ะตัวเองไป เธอกับน้ำค้างก็ได้แต่สายหน้าและขำออกมาเบา ๆ นี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่พวกเธอชอบชวนโต้มาด้วยเพราะเอาไว้กันท่าพวกหวังจะหลอกฟันพวกเธอฟรี ๆ “แพง! ลูกค้าวีมึงมาว่ะ” “ใครว่ะ ลูกค้าวี เชี้ย! พี่มาร์ค!” "พี่เขาทำไมติดแกแจขนาดนี้ ไปทำท่าไหนมาวะแพง" "เขามาหาเพื่อนหรือเปล่า เธอคิดเยอะไปแล้วมั่ง" "เหอะ! หน้านิวคิ้วขมวดขนาดนี้มาเที่ยวกับเพื่อน! ไปหลอกเด็กแถวบ้านเถอะว่ะ โน่นเดิมมาทางนี้แล้ว" เธอเหล่ปลายหางตามองเพียงเท่านั้นและเธอก็ทำเป็นไม่สนใจเขา พอเขาเดินมาถึงก็มานั่งแทรกระหว่างเธอกับน้ำค้าง "กูโทรไปทำไมมึงไม่รับสาย มึงซื้อมือถือมาติดตัวไว้เฉย ๆ ใช่ป่ะ" "แพงว่าแพงบอกพี่ไปแล้วนะว่าแพงมีนัดกับเพื่อน นี้ไม่ใช่เวลางานค่ะ" "พูดแบบนี้มึงหมายความว่าไง" "ถ้าจะนั่งด้วยก็จ่ายค่าเหล้าเบียร์วันนี้ด้วยค่ะ" เหอะ! ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้น ก็จ้องมองหน้าเธอแบบไม่วางตาพร้อมกับยอมรับในความงกของเธอขนาดแค่เขามานั่งด้วยกับเธอ เธอยังคิดเล็กคิดน้อยกับเขาได้ "กูเลี้ยงก็ได้ กูนั่งต่อได้ยัง มึงจะลุกไปไหนอีกแพง" "ไม่ได้จ่ายค่านั่งดริ้ง แพงไม่จำเป็นต้องนั่งข้างพี่ค่ะ" "5,000 พอไหม" "2ชั่วโมง ถ้าเหมาจ่ายทั้งหมดแพงลดให้พิเศษ 10,000 ค่ะ" "โฮ๊ะ! เออ 10,000 ก็ 10,000 มึงกลับมานั่งได้ยัง" เธอยิ้มอย่างพอใจก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม เขาถอดหายใจอย่างคนเอื้อมละอากับความเยอะและงกของเธอ แต่พอเขานั่งบรรยากาศในร้านจากที่นั่งชิว ๆ ก็กลายเป็นความอึดอัดของพวกเธอแทน เธอและเพื่อนของเธอไม่รู้จะคุยอะไรกันก็นั่งยกเบียร์กันรัว ๆ แทนการพูดคุย อาจจะคุยกันบ้างก็เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ โต้เพื่อนของเธอเองก็ตั้งแต่รุ่นพี่มานั่งด้วยกับเธอเขาเองก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอีกเลย "กูปวดฉี่ว่ะ มึงไปกับกูไหมน้ำ" "กูไปด้วย แม่งอั้นมานานล่ะ" "พี่จะลุกไปไหนพี่มาร์ค" "ไปห้องน้ำ" "หึ ๆ ไม่ใช่ว่าอยากตามแพงนะคะ ให้มันเหลือพื้นที่ส่วนตัวกันบ้างค่ะ" พอเริ่มเมาความกล้าที่จะต่อปากต่อคำของเธอก็มีมากขึ้น เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของเธอเท่าไร ก่อนจะเดินตามเธอไปจนแน่ใจว่าเธอเข้าห้องน้ำ เขาถึงปีกตัวออกมารับลมนอกร้าน เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเอง เขาเองก็รู้สึกหงุดหงิดที่ตนเองเอาแต่ตามเธอ เพราะยิ่งเขาใกล้เรียนจบเขายิ่งระแวงและอยากจะอยู่กับเธอตลอดเวลามากกว่าเมื่อก่อนอีก เขารู้จักกับเธอเพราะไอ้วินเพื่อนสนิทเขาที่เป็นคนแนะนำให้รู้จักว่าเธอขายบริการ หลังจากที่เขาได้ลองเธอ เขาก็เอาแต่ติดเธอและเรียกใช้บริการเธอเป็นประจำหนำซ้ำเขาก็แทบจะไม่มีอะไรกับใครอีกนอกจากเธอ ใครจะคิดว่าผู้ชายอย่างเขาที่ทั้งหล่อ บ้านรวย จะมาติดกับดักผู้หญิงแบบเธอได้ ทั้งเย็นชา ทั้งขี้งก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลีลาเธอก็ดีไม่แพ้ใคร จนเข้าต้องตามมาตื้อเธอไม่เลิกแบบนี้ กริ้ง ติ๊ด "มึงอยู่ไหนไอ้มาร์ค" "ร้านบาร์ละมุน " "มึงคงไม่ได้ไปหาน้องแพงหรอกนะ" "อืม ทำไมมึงหวงเหรอ" "หึ! คนที่หวงน่าจะเป็นมึงมากกว่านะ มึงรักน้องแพงหรอ ไอ้มาร์ค" คำพูดของเพื่อนเขามันเหมือนหมัดหนักๆที่ชกเข้ามาที่หน้าของเขาเข้าอย่างจัง ทำเอาเขารู้สึกชาไปทั้งตัว "มึงพูดเชี้ยไรไอ้วิน คนขายบริการแบบนั้นกูไม่ยอมลดตัวเองไปคบหรอกนะใครจะเอามาทำพันธุ์วะ" "มึงรู้ดีที่สุดไม่ต้องมาถามกู พรุ่งนี้ตอนเที่ยงพวกกูนัดกันที่คาเฟ่ของเค้ก มึงก็ช่วยไปด้วยอย่าแดกเยอะจนหาข้ออ้างไม่ไปนะ" "อืม กูรู้แล้ว" "ดี แค่นี้นะ" ติ๊ด! หลังจากวางสายจากเพื่อนเขา เขาก็รีบเดินไปหาเธอทันทีและเขาก็เห็นว่าเธอกำลังคุยกับผู้ชายพอดี "ใช่พะแพงปี3 นิติรึเปล่าครับ" หญิงสาวหันไปมองหน้าหนุ่มหล่อขาวตี๋ที่เดินมาทักเธอพร้อมกับอาการประหม่าเล็กน้อย เธอจึงยิ้มให้เขาเพื่อทำให้เขาผ่อนคลายมากขึ้น "ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ" "เอ่อ..พี่ชื่อปลั๊กนะครับ เรียนวิศวะปี4 ที่มอเรานั้นแหละ พอดีพี่รู้จากน้ำค้างว่าพะแพง..เอ่อ..พะแพงทำเหมือนน้ำค้างใช่ไหมแล้วเลทเท่าไรอ่าเรา" "เรียกแพงก็ได้ค่ะ เลทก็ 1 รอบ ไม่อม ไม่จูบ ไม่สด 5,000 บาทต่อรอบค่ะ" "โห้! แพงสมชื่อเลยนะคะ" "จะถูกหรือจะแพงพี่ปลั๊กก็ต้องลองชิมดูค่ะ พี่ถึงจะรู้ว่าคุ้มไหม"เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่ "แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดก
จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่ "แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดก
กริ้งงง ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกู
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา