"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก"
"ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดือนหน้าครับ ผมจะพยายามขอแม่กับพ่อมาช่วยพี่จ่ายนะ” “ หึ! พีก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่ได้หรอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่หาค่าเทอมไว้ให้เราเอง รีบกินเถอะพี่อยากกลับไปพักแล้ว” “ผมอยากลองขอดูก่อน ถ้าได้เงินมาอย่างน้อย ๆ พี่ก็จะได้ไม่ต้องทำงานหนักเอาไว้ผมเรียนจบผมจะรีบหาเงินมาเลี้ยงพี่คืนนะครับ” “ได้สิ พูดไม่หยุดแบบนี้พี่ขโมยลูกชิ้นแล้วนะ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ติ้ง! ติ้ง! แชทมาร์ค: ถึงห้องยัง? แชทมาร์ค: กินข้าวเที่ยงยัง? แชทมาร์ค: น้องมึงมาถึงยัง? แชทมาร์ค: ให้กูไปส่งไหม แชทมาร์ค: เงียบ.. แชทมาร์ค: มึงอย่าบอกนะว่ามึงแอบไปรับงาน แชทมาร์ค: กูให้เวลาอีก1 นาที ถ้าไม่ตอบกูจะบุกไปหามึงเดี๋ยวนี้เลย แพงเธอมองข้อความแชทไลน์ที่เขาส่งมารัว ๆ โดยไม่ได้กดเข้าไปอ่าน เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังมีความสุขกับน้องชายของเธออยู่ ไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเขา “ผมว่าเรารีบกลับห้องดีกว่าเหมือนว่าฝนกำลังมายังไงไม่รู้” “ไปสิ” “พีพี่ว่าเราจอดหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ก่อนดีกว่านะ ฝนตกแรงมากเลย เดี๋ยวอันตราย” “ครับ” ยังไม่ถึงห้องใครจะคิดว่าฝนจะมาดักทางกลับบ้านเธอก่อนจะถึงคอนโด ทั้งฝนทั้งลมแรงอีก เธอกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางจึงให้น้องเข็นรถขึ้นฟุตบาทและหลบฝนที่ป้ายรถเมล์ มีคนยืนหลบฝนด้วยอีกสองสามคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า “เกือบจะถึงแล้ว สรุปเราก็เปียกเป็นลูกหมาอยู่ดี” “เอามือถือกับกระเป๋าตังใส่ถุงพลาสติกก่อนเร็วครับ ยังจะขำอีก” “พี่แพงได้กลิ่นดินไหม ผมชอบนะฝนที่ตกกระทบพื้นดินแล้วกลิ่นมันลอยมา” “อีกหน่อยมันจะไม่ใช่แค่กลิ่นดินแล้วจ้ะ มันจะเป็นกลิ่นท่อน้ำขยะลอยมาฉะนั้นพี่ไม่ชอบ” “พี่แพง! ระวัง” ฟุ๊บ ยังไม่ทันที่เธอได้หลบน้ำจากข้างถนนที่โดนรถวิ่งบนท้องถนนด้วยความเร็วบวกกับปริมาณน้ำฝนที่เริ่มมีน้ำขังก็กระเซ็นมาฝั่งพวกเธอ น้องชายเธอที่เห็นก็รีบเอาตัวมารับแทนเธอ กลายเป็นว่าตอนนี้เสื้อผ้าเลอะไปด้วยน้ำสกปรกเต็มแผ่นหลังของเขา ซึ่งน้องชายเธอยังยิ้มหน้าบานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องชายเธอเป็นคนที่จิตใจดี ไม่เคยโกรธเกลียดใคร มองโลกในแง่ดีเกินไปจนเธอไม่มั่นใจว่าเขาจะมาสามารถอยู่ในสังคมที่โหดร้ายแบบนี้ได้ไหม “ขับรถไม่เกรงใจคนข้างถนนเลยหรือไง บ้าจริง” “เปียกเต็ม ๆ แฮร่ ๆ ” “ยังจะมาอารมณ์ดีอีก ขอบคุณนะพี” “ขอบคงขอบคุณอะไร ถ้าผมไม่ปกป้องพี่สาวผมจะปกป้องใครได้อีกหนาวไหมครับ” “นิดหน่อยทนได้” มาร์ค “มึงเป็นไรมาร์ค ดูร้อนร้นจัง” “กูกลับก่อนนะแม็ก พอดีมีนัด” “วินยังมาไม่ถึงเลย มาร์คจะรีบไปไหน” “ไว้รอบหน้านะเค้กเราขอตัวก่อน” ขณะที่เขากำลังออกจากร้านอาหารวินก็เดินมาที่ร้านพอดี เขามองหน้าของมาร์คด้วยความงงงวยว่าเขาจะไปไหน แถมยังมีท่าทีที่เร่งรีบอีก “ไปไหนกูเพิ่งถึงเองนะ” “มีธุระต้องไปจัดการ กูขอตัวนะ” เขาไม่รอคำตอบของเพื่อน เขาก็เดินจ้ำอ้าวไปที่รถของตัวเองทันที เขาส่งข้อความทางไลน์ไปหาเธอหลายข้อความปรากฏว่าเธอไม่ยอมอ่านข้อความใด ๆ ของเขาเลย เขายิ่งหัวร้อนกว่าเดิม เขายอมรับว่าเขาติดเธอเอามาก ๆ แทบจะอยากสิงร่างเธอ 24 ชั่วโมง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกพวกนี้มันก่อตัวไปตั้งแต่เมื่อไร ถึงเธอจะเย็นชากับเขาแต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยากอยู่กับเธอ ช่วงพักหลังมานี้เขาเองก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมรับงานแค่กับเขาคนเดียว เพื่อที่เขาจะได้เลี้ยงและมีอะไรกับเธอแค่คนเดียว ใครจะคิดว่าขนาดเขาจองและเลือกเธอแค่คนเดียวตลอดขนาดนี้ เธอยังแอบไปรับงานลับหลังเขาอยู่บ้าง บางครั้งเขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกับเธอ แต่พักหลังมานี้เขากำลังคิดอยู่ว่าจะพยายามให้เธอรับงานแค่เขาคนเดียวได้ยังไง เธอจะได้ไม่ต้องไม่ยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีก เขาขับรถจากห้างมุ่งหน้าไปที่คอนโดเธอ แต่ระหว่างทางฝนก็ตกหนักทำให้รถติด เขาบังเอิญมองไปที่ริมถนน เห็นเธอกับผู้ชายคนหนึ่งน่าจะเป็นน้องชายของเธอที่จอดรถริมทางหลบฝนอยู่ พวกเขาดูอารมณ์ดี หัวเราะต่อกระซิกแม้จะเปียกกันทั้งคู่ก็ตาม เขาตั้งใจจะลงรถไปรับเธอขึ้นมาบนรถ แต่ท้องถนนประเทศไทยฝนตกทีไรรถติดชิบหายทุกที พอฝนซาลงพวกเขาก็ขับรถออกไปทันที เขาคิดว่าพวกเธอน่าจะขับรถกลับคอนโด จากที่เขาหงุดหงิดเธอกลายเป็นว่าเขาเริ่มจะหงุดหงิดรถติดแทน เกือบจะสี่ชั่วโมงที่เขาติดอยู่บนท้องถนน เขามาจอดรถใต้คอนโดของเธอและรีบกดโทรไปหาเธออีกครั้งทันที ตู๊ดดด ตู๊ดดดด “มึงซื้อมาประดับบารมีหรือไงวะ มือถือนะเว้ยไม่ใช่เครื่องราง รับสักทีสิวะ” เขาโทรหาเธออยู่นานน่าจะสิบสายได้เธอก็ยังไม่รับสายเขาสักที แต่มีเหรอที่เขาจะยอมแพ้ ติ๊ด “ทำไมพี่ต้องโทรมาหาแพงขนาดนี้ด้วยคะ” “แล้วทำไมมึงไม่รับสายกูสักที” “แพงอาบน้ำอยู่ค่ะ” “มึงเห็นข้อความกูมึงก็ไม่อ่าน มึงตั้งใจหลบหน้ากูใช่ไหมแพง” “พี่มาร์ค! เข้าใจคำว่าเวลาส่วนตัวไหมคะ” “ไม่รู้เว้ย ตอนนี้กูอยู่ข้างล่างคอนโดมึง มึงมารับกูขึ้นไปหน่อย” “พี่จะบ้าหรอคะ แพงอยู่กับน้องแพง” “กูไม่เอามึงต่อหน้าน้องมึงหรอกแพงเร็ว ๆ กูเงียน” “ไม่ได้ค่ะ แพงไม่อนุญาต” “งั้นมึงก็ลงมาหากูตอนนี้” “ทำไมแพงต้องเชื่อพี่” “ได้! 15,000 จบไหม” “.. ” “ลงมาแพง! อย่าให้กูหาวิธีขึ้นไปที่ห้องมึงได้ ถ้ามึงไม่อยากเดือดร้อน” “เฮ้ออ..1 ชั่วโมงนะคะ” “รีบลงมาก่อน” “ค่ะ”อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
กริ้งงง ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกู
เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่ "แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดก
จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
"ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อแขนยาวคุมหน่อยอ่า อากาศก็ร้อนยังจะใส่แค่เสื้อยืดอีก" "ชิ! มาถึงก็บ่นเลยน้องใครเนี่ย แน่ะ! ขนาดบ่นยังใจดี ถอดเสื้อแขนยาวให้สาวใส่คลุมอีก ใช่พ่อไมโคเวฟของพี่ไหมน๊า" "ไม่ต้องมาอวยเลย แล้วนี้พี่กินข้าวเที่ยงหรือยัง ผมหิวอ่า เราแวะหาอะไรกินก่อนไหม" น้องชายเธอก็เอาแต่ยิ้มและส่ายหน้ากับความชอบอวยน้องตัวเองตลอด จนเขาเขินหน้าแดง "เอาดิ กินก๋วยเตี๋ยวไหม" "งั้นผมเจอร้านไหนน่ากินเราแวะเลยนะ เดี๋ยวมื่อนี้ผมเลี้ยงเอง" "แสดงว่าเงินที่ให้ไปเหลือแน่ ๆ งั้นก็จัดไป พวกเรารีบไปเหอะพี่หิวมากแล้ว" “ไปแล้วนะ ระวังตกนะครับจับดี ๆ ” เธอและน้องชายแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกลับบ้าน พออาหารมาเสริฟด้วยความหิวเธอก็กินอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา แคร่ก ๆ “พี่จะรีบอะไรขนาดนั้นเนี่ย ค่อย ๆ กินครับ อ้อ!..แม่บอกว่าติดต่อพี่ไม่ค่อยได้พี่ช่วยรับสายแม่หน่อยสิ” “พีคุยกับแม่นั้นแหละดีแล้ว พีก็รู้พี่ไม่อยากคุยกับแม่ พอคุยทีไรยังไม่ถึงนาทีก็ทะเลาะแล้ว พี่ไม่อยากอารมณ์เสียใส่แม่นะ” “ครับ เอาแบบนั้นก็ได้” “ค่าเทอมพี่ต้องจ่ายเมื่อไรนะคุ้น ๆ ว่าใกล้แล้วนะ” “เดื
เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา “ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนา
จากนั้นเขาไม่ฟังเสียงทักทวงใด ๆ จากเธอเลย เขาจับเธอกดลงโซฟาล็อคมือทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้าสูดดมพวงแก้มทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมา เขาสูดดมเม้มขบบนคอที่ขาวเนียน สลับกับติ่งหู ทับรอยเก่าสร้างรอยใหม่ให้เธอ เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากน้ำมือของเขาแต่เหมือนกับว่ามันไม่ได้เป็นผลสักเท่าไร ชายหนุ่มก้มหน้าทั้งขบเม้มทั้งดมเลียติ่งหูก็ค่อยขยับมาที่หน้าอกอันอวบอั้นผ่านเสื้อของเธอ อืม..จ๊วบ จ๊วบ เขาถกเสื้อชั้นในของเธอขึ้นโดยไม่ได้ถอดเสื้อของเธอ มันยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอเข้าไปอีก เธอที่เริ่มมีอารมณ์ก็เริ่มบิดตัวไปมา กัดปากตัวเองเบา ๆ มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาบ้าง พรึบ ซี๊ดส์. ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียทั้งสองเต้าที่ยอดเม็ดบัวเริ่มชูชัน มือสองข้างก็กอบโกยบีบคั้นให้แนบชิดใบหน้าดันเข้าดันออกให้กระแทกใบหน้าเขา ลิ้นยาว ๆ ของเขาก็เลียวน ๆ บนยอดเม็ดบัวทั้งตวัดไปมาด้วยความเร็วอย่างหยอกเย้า ซี๊ด..อา เธอหลับตาพริ้มเผลอครางออกมาด้วยความเสียว จากนั้นเขาถอดกางเกงของเธอออกเผยให้เห็นกางเกงในสีดำ ทันทีที่มือเขาสัมผัสกางในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานท
เธอพูดแบบนั้นนอกจากจะส่งสายตาอ่อยเหยื่อไปแล้วก็ยังเอามือมาคล้องคอชายหนุ่ม ทั้งยังออกแรงกดต้นคอให้เขาโน้มใบหน้ามาติดแนบชิดเนินเนื้อหน้าอกของเธออีก ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำเฮือกใหญ่ "แพง! มึงทำเชี้ยไร" "โอ้ย..แพงเจ็บนะพี่มาร์คกระชากแขนแพงทำไมคะ" "วันนี้กูเหมามึงแล้ว มึงไม่มีสิทธิรับงานเว้ย!" "หึ! ก็แค่ลูกค้า เสือกหวงก้างอย่างกะเป็นผัวเขาเลยนะ" "มึงเสือกเชี้ยไรด้วย" "พี่มาร์ค! หยุด!" เขาตั้งท่าจะเข้าไปหาเรื่องชายอีกคน ซึ่งฝั่งนั้นดูก็ตั้งท่าพร้อมปะทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ต้องการให้มีปัญหา กะว่าจะแค่หาลูกค้าเท่านั้นเอง "พี่ปลั๊กค่อยทักไอจีแพงมาแล้วกันนะคะ ค่อยเจอกันค่ะ" "ครับ ไว้เจอกัน" พอเขาเห็นว่าชายแปลกหน้าเดินไปแล้วเขาก็หันมามองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาคาดโทษให้เธอไป "แพง! ..ที่กูให้มึงไปมันไม่พอหรือไงวะ!" "ทำไมคะ ถ้าแพงบอกว่าไม่พอ พี่จะให้เพิ่มเหรอ" "มึงจะเอาเท่าไร" เธอมองจ้องไปยังแววตาเขาแม้ภายในใจเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเขาพร้อมจะจ่ายให้เธอ แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าหัวใจเธออ่อนไหว กลัวจะคิดก
กริ้งงง ติ๊ด “ว่าไง” “เสร็จยังจ้ะชะนี” “เสร็จแล้วแกล่ะ” “เรียบร้อยจ้ะ งั้นก็ออกห้องไปแรดค่ะ” “หึ ๆ โอเค” “ป่ะ ไปรับกระทิงกัน” “แกก็ช่างพูดเหลือเกินนะน้ำ” “ ฮ่า ฮ่า ไม่ตลกเหรอ” “พอเลย ๆ แห้งมากมุกแกเนี่ย รีบ ๆ ไปรับโต้เหอะ ฉันอยากเมาแล้วโว้ย” หลังจากที่รับโต้เสร็จพวกเธอก็มุ่งหน้าไปร้านบาร์ละมุนซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดพวกเธอเท่าไร ร้านนี้เป็นร้านเปิดแบบนั่งรับลม ชิว ๆ บรรยากาศไม่วุ่นวายมาก มีประมาณ 20 โต๊ะ แสงไปสลัว ๆ สว่างไม่มาก มีวงดนตรีสดขึ้นโชว์บ้างไม่หนวกหูมากเท่าไร ทำให้พวกเธอชอบมาร้านนี้มันก็เลยกลายเป็นร้านประจำของพวกเธอไปแล้ว เสียงมือถือที่สั่นไม่หยุดทำให้เธอมองดูเบอร์ว่าใครโทรมาก่อนจะทำหน้าเอื้อมละอามองบนก่อนจะกดรับสายไม่ได้ปฏิเสธเขา ติ๊ด “ว่าไงคะ” “มึงอยู่ไหนแพง” “มีอะไรคะ” “กูถามว่ามึงอยู่ไหน” “พี่มาร์คพี่เป็นบ้าอะไรไม่ทราบคะ ช่วงหลัง ๆ มานี้พี่งี้เง่านะรู้ตัวเปล่า นี้มันเวลาส่วนตัวของแพง แพงไม่จำเป็นต้องรายงานพี่ค่ะ พี่มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า” “เดี๋ยวนี้มึงหัดบ่นกูแล้วเหรอ กูอยากให้มึงมานอนกับกู
บรื๊นนน เขารีบขับรถบิ๊กไบรท์ของเพื่อนมาส่งเธอที่ตึกคณะนิติศาสตร์เป็นคณะที่เธอเรียนอยู่ ก่อนที่เธอจะรีบลงจากรถเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน สายตาคนรอบข้างหันมามองทั้งสองคนแต่เธอเองก็ไม่ได้แคร์ใครในมอเท่าไร “ขอบคุณนะคะที่พยายามมาส่ง” “มึงจะพูดดี ๆ กับกูไม่ได้ใช่ไหมแพง จะกวนอะไรนักหนาห้ะ” หึ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งปั่นเขา แต่พอเห็นว่าเขาหัวร้อนก็อดที่จะหลุดขำขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นเธอก็มองนาฬิกาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเรียน ตึก ตึก ตึก “เห้ย..แพงนั่งนี้ ๆ ” เพื่อนเธอรีบเอ่ยทักเธอขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเธอวิ่งหน้าตั้งมาที่ห้องก่อนที่เธอจะรีบเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนเธอ “สวัสดีตอนบ่ายจ้ะ ผักกาด น้ำค้าง ไงจ้ะโต้” “หื้ม..กว่าจะมาได้นะมึง ทำไม! อีพี่มาร์คมันไม่ปล่อยมึงมาเลยรึไงติดอกติดใจอะไรขนาดนั้นวะ” “น้ำค้างคนเยอะขนาดนี้ยังจะพูดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ไม่เป็นไรผักกาดฉันโอเค น้ำค้างมันก็ชอบพูดแบบนี้ล่ะแกอย่าดุมันเลย” “เพื่อนฉันมันก็แรดพอ ๆ กับฉันนี้แหละผัก หึ ๆ ” “เขาไม่รุนแรงกับแพงไปหน่อยเหรอ รอยเต็มคอเธอเลยนะ” “หือ..ไม่เป็นไรโต้เดี๋ยวก็หาย
อ๊าส์..อื้ม “ฟิตจังว่ะแพง” “อ๊า ซี๊ด แรง ๆ หน่อยสิคะ” เขาจับเธอกระแทกเน้นๆ หนัก ๆ ทั้งยังบีบคั้นเนินอกเธอก่อนจะบีบขยียอดเม็ดบัวที่ชูชันด้วยความมันเขี้ยว อื้ม..อื้ม.. “หันหลังดิ กูอยากเปลี่ยนท่า” “แล้วทำไมพี่ไม่ถอยออกคะ แพงไม่ถนัด” “มึงห้ามให้มันหลุดกูไม่ชอบ” “ค่ะ..อา..แพงจะ..เจ็บพี่มาร์คอย่าเพิ่ง” เขาไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอภาพในหัวเขามีเพียงร่างกายที่ยั่วยวนชวนให้เขาอยากเอาเธอไม่หยุด ยิ่งเธอร้องมากเท่าไรเขายิ่งมีอารมณ์มากเท่านั้น ส่วนเธอที่ไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไรแต่ก็ต้องเล่นบทสาวร่านให้เขาประทับใจจะได้เรียกใช้บริการเธออีก เธอพยายามนึกถึงหุ่นล่ำบึ้กของเขา ทั้งท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินไซต์ของชายไทยไปหลายไซต์ มันก็พอกระตุ้นอารมณ์เธอขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มหน้าตาไม่ดี แต่ด้วยวลีปากหมามันก็พาเธอให้ไม่ค่อยอยากจะมีอารมณ์กับเขาเท่าไร “ซี๊ด..จิ..อ้า แอ่นรับหน่อยสิวะ..อื้มแบบนั้นล่ะ” เพลี๊ย! เพลี๊ย! “อ๊ะ..อ๊าส์ พี่มาร์คตีก้นแพงแรงไปรึเปล่าคะ” “อื้ม..กูกำลังมันส์มึงอย่าขัดใจกูได้ไหมแพงซี๊ด..อ้า” เขา