พี่ขุน และน้องหมูแดง พระเอก-นางเอกที่สุดจะน่ารักน่าหยิก ภายใตต้รั้วมหาวิทยาลัย ฉายาแต่ละอย่างที่พี่ขุนตั้งให้น้องหมูแดงของเราวอนโดนหยิกตลอด หมูปีศาจบ้าง หมู ๆ ทั้งที่คนเขาชื่อหมูแดง แต่ถึงพี่เขาจะกวนแต่คลั่งรักน้องหมูสุดหัวใจ สกินชิพขั้นสุด ตำแหน่งผัวของน้องหมูต้องเป็นของพี่เท่านั้น
View Moreมหาวิทยาลัย G
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมขึ้นปีสองวันแรกหลังจากปิดภาคเรียนไปสามเดือนเต็มและเทอมนี้ฉันก็ต้องลงเรียนวิชาจิตวิทยาทั่วไปเป็นวิชาเลือกในหมวดสังคมเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าเพื่อนสนิทอีกสองคนมันดันลงทะเบียนวิชานี้ไม่ได้เนื่องจากมันเต็มเลยกระเด็นหลุดโผต้องไปลงวิชาอื่นแทน ซึ่งมันทำให้ฉันเซ็งมากถึงมากที่สุดเลยแหละ และตอนนี้ก็ต้องมานั่งแกร่วเป็นเล่นเกมส์ในมือถือไปพลางๆ เพราะเปิดประตูเข้าห้องเรียนมาเป็นคนแรก เพื่อนร่วมคลาสคนอื่นๆ ก็ยังไม่มีใครโผล่มาให้เห็นหน้าเลยสักคนเดียว ชักช้ากันจังเลย แล้ววิชานี้ต้องเรียนรวมกับทุกชั้นปีแบบไม่จำกัดคณะ สาขาวิชาอีกด้วยสิ คือมันไม่ดีตรงนี้นี่แหละค่า คนไม่มีเพื่อนมาเรียนด้วยเช่นฉันคงหงอยเหงาเศร้าสร้อยเป็นนกปากเจ็บแน่เลย จะมีคนรู้จักมาเรียนบ้างไหนหนอคงต้องรอดู
นี่ก็เหลือเวลาเข้าเรียนตามตารางสอนอีกประมาณยี่สิบนาทีเห็นจะได้ ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนขยันจัดหรือรักเรียนเป็นชีวิตจิตใจหรอกนะ ฉันกลัวรถมันจะติดต่างหากเลยรีบออกทั้งที่คอนโดกับมหาลัยไม่ได้ไกลกันมากมายอะไร คือด้วยความที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกไง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มันจะคึกคักกันเป็นพิเศษ คนเยอะ รถแยะ ปีหนึ่งเข้ามาใหม่สถานที่กว้างขวางจะกลายเป็นเล็กไปถนัดตา การจราจรในบริเวณใกล้เคียงก็พาลติดตามไปด้วยเลยต้องพาตัวเองมาให้เร็วไว้ก่อน แต่พอเวลาผ่านไปได้สักระยะก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ ความตื่นเต้นทั้งหลายก็จะหายไปด้วย ฉันเรียนรู้มันมาแล้ว รับน้องเหรอ กิจกรรมบลาๆ เหรอ ไม่บังคับให้ทำหรอกที่นี่อ่ะ ใครใคร่สมัครใจอยากเข้าร่วมสนุกก็เข้าไปเถอะ ถ้าไม่สนก็ไม่ต้อง เอาใจโดยแท้จริง มีเพียงชมรมเท่านั้นที่จะบังคับให้นักศึกษาทุกคนเข้าร่วมเพื่อให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ไม่อย่างนั้นจะเอาแต่พวกพ้องที่เรียนด้วยกันเท่านั้น ฉันว่าก็ดีเหมือนกันนะแนวความคิดนี้ ไม่งั้นต้องเรียนและเรียนเพียงอย่างเดียว
“ขอให้ฉันมีมิตรดี น่ารักๆ ในวิชานี้ด้วยเถิดนะเจ้าคะ สาธุค่ะ” ฉันภาวนาขอในใจแล้วยกมือท่วมหัวกันเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าฉันกลัวการอยู่เพียงลำพังคนเดียว แต่ฉันคิดการณ์ไกลไปถึงอนาคตภายภาคหน้านับต่อจากนี้ต่างหาก เพราะการเรียนรู้ๆ กันอยู่ว่ามันต้องมีงานมีการบ้านที่อาจารย์สั่ง เพื่อเอาในส่วนนั้นมาช่วยเสริมกับคะแนนสอบอีกที ฉันเลยอยากมีคนที่คอยถามไถ่อะไรได้บ้าง อย่างน้อยสักคนหรือสองคนก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
ปัง!
เสียงเปิดประตูดังปังเหมือนคนเปิดกำลังโกรธใครมาทำเอาฉันที่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสะดุ้งโหยงสุดตัวไม่กล้าหันไปมองเพราะกลัวจะไม่ส่งผลดีต่อชีวิตอันแสนสงบ และไม่นะ เสียงฝีเท้าเหมือนมีใครเดินมาตรงที่ฉันนั่งอยู่เลย หรือว่านี่คือคำขอที่เป็นจริงของฉันกันนะ โอ สวรรค์คงได้ยินคำอ้อนวอนฉันแล้วใช่ไหม
“นี่เธอ ที่ตรงนี้มีใครนั่งรึเปล่า”
เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นว่ามีใครเลยเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วก็แทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ หล่อมาก คือคำสั้นๆเลยที่หัวสมองฉันคิดได้ในตอนนี้ ผู้ชายหน้าตาเกาหลีอปป้าเหมือนพระเอกซีรีย์มาถามฉันว่าที่ว่างข้างๆ ฉันมีใครนั่งไหม โอย แต่ฉันจะมาแสดงท่าทางว่าหลงใหลได้ปลื้มเขามากมายไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะถูกมองว่าฉันบ้าผู้ชายจนขึ้นสมองน่าอายตายเลย
“มะ...ไม่ ไม่มีคนนั่งหรอก เชิญนั่งได้ตามสบายค่ะ” ที่นั่งมีตั้งเยอะแยะแต่เขาเลือกมานั่งตรงนี้ฉันควรดีใจใช่ไหมแม้นิสัยจะดูออกอันธพาลไปหน่อยเรื่องเปิดประตูน่ะนะ แปลกจังเรียนที่นี่มาปีนี้ปีที่สองแล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยนะ ว่าแต่เรารุ่นเดียวกันรึเปล่าเนี่ยอยากรู้จังเลยแต่ใครจะกล้าถามก่อนล่ะ
“เธอสติดีใช่มั้ย ? ฉันเห็นเธอพึมพำๆ อะไรคนเดียวเหมือนท่องบทสวด ว่าแต่มันคือคาถาไล่ผีหรือคาถาป้องกันตัวล่ะบอกหน่อยดิเผื่อได้ยืมไปใช้มั่ง” เลิกคิ้วมองแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปากเมื่อเห็นเธอทำหน้าเอ๋อๆ แถมยังอ้าปากซะกว้างเชียว ผมแค่แกล้งหยอกเธอเล่นไปอย่างนั้นเอง ขำๆ น่ะไม่ได้เห็นว่าเธอทำอย่างที่พูดหรอกแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเชื่อผมซะเต็มเปาเลยมั้งเนี่ยว่าตัวเองทำท่าเปิ่นๆ ออกมาจริง
อ้าปากค้างเติ่งเลยฉัน ถามแบบนี้หมายความว่าไง ? เขาคิดว่าฉันจิตไม่ปกติงั้นเหรอหรือว่าฉันแสดงท่าทางทุเรศๆ อะไรออกไปให้เขาเห็น เหอะๆ แต่เอาเถอะฉันจะไม่ถือสาหาความละกัน จะบอกว่าถ้าไม่สนิทด้วยอย่ามาตลก ฉันคงดูไม่ต่างจากนายนี่เท่าไหร่ เจอหน้ากันครั้งแรกและคาบแรกต้อนรับเปิดเทอมด้วย ไม่ควรมีเรื่องมีราวกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าหมูแดง ท่องเอาไว้มีมิตรดีกว่ามีศัตรู อะไรยอมได้ก็ยอมๆ ไป อย่าเก็บใส่ใจเลยมองโลกในแง่ดีมันคงเป็นการสร้างความคุ้นเคยในฐานะเพื่อนร่วมคลาสในแบบของเขาละมั้ง
“ฉันโอเค สติดีไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิตหรือกำลังท่องบทสวดอะไรอย่างที่นายคิดร้อยเปอร์เซ็นต์” ฉันนี่แทบจะกัดฟันตอบออกมาเลยล่ะถึงใจจะคิดว่าไม่ควรถือสาหาความ แต่มันอดไม่ได้ที่จะใช้สายตามองค้อนอย่างขุ่นเคืองไม่ได้ คือเจอหน้ากันครั้งแรกดันมาถามว่าฉันสติดีรึเปล่าเนี่ยนะ เชื่อเขาเลยแหละ มารยาทไม่สมกับหน้าตาหล่อเหลาที่ฉันชื่นชมสักนิด นี่ขนาดว่าฉันพยายามมองโลกในแง่บวก มองโลกแบบสวยๆแล้วนะแต่ก็ยังอดคิดอคติกับนายนี่อยู่เลย
“อือ ปกติก็ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่ปกติเธอคงน่าสงสารตายชักเลย” ปากหยักแดงอย่างเป็นธรรมชาติคลี่ยิ้มเล็กน้อย ขณะที่สายตากำลังจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ ฟังจากเสียงของคนข้างกายแล้วคงจะโมโหอยู่ไม่น้อย แต่ใครสนกันล่ะ
ฉันนั่งหุบปากเงียบไม่คิดตอบโต้อะไรอีก เพราะคิดว่านั่นคือประโยคบอกเล่าธรรมดาทั่วไป ถึงแม้มันจะทำให้ฉันรู้สึกอยากบีบคอของหมอนี่มากก็ตามที ดังนั้นเลิกสนใจดีที่สุด ในห้องเรียนตอนนี้ก็เริ่มมีนักศึกษาทยอยเดินเข้ามาจับจองที่นั่งบ้างแล้ว เลยไม่วังเวงและเงียบเหงาเหมือนก่อนหน้านี้
Kunpon Talks“ไง พร้อมจะรับโทษจากฉันแล้วรึยัง” ผมเปิดปากถามเมื่อไม่มีใครมารบกวนเราสองคนแล้ว ยัยหมูตัวเล็กที่นั่งให้ผมกอดใช้นิ้วเขี่ยๆที่แก้มผมเล่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาแถมยังหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานเสียเต็มปะดา มันน่าจับพาดตักแล้วฟาดมือหนักๆ ลงบนก้นงอนๆ ที่กำลังนั่งทับที่หน้าขานัก ไอ้คำพูดของเธอก่อนหน้านี้น่ะไม่ได้โกรธจริงจังอะไรนักหรอกแค่น้อยใจหมูเท่านั้นเอง รอให้หมูง้อจนจะหมดความอดทนเต็มทีหมูก็ไม่ยอมจะง้อ เอาแต่ชื่นชมกับแก้มผมเนี่ย“จะให้รับโทษอะไรกันเล่า” ยังจะกล้าถามและทำหน้าตาน่ารักน่าใคร่ใส่ผมอีก ไม่รู้รึไงว่ามันทำเอาคนมองแทบบ้า ปากเล็กขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าแต่มันไม่มีเสียงออกมาไงเลยไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร แต่ช่างเถอะด่าได้ด่าไป“เธอทำให้ฉันเสียใจอยู่ยังไม่ยอมสำนึกอีกนะยัยหมูปีศาจตัวร้าย” ผมดุและยึดมือน้อยไว้แล้วยกขึ้นจูบใจกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มแรงๆ อย่างมันเขี้ยว หมูแดงแอบเบ้ปากน้อยๆ ผมเลยจุ๊บเข้าเต็มๆ ที่เรียวปากสวย ครั้งเดียวมันไม่พอเลยซ้ำอีกหลายรอบจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บ“โกรธอยู่ไม่ใช่เหรอ มาทำแบบนี้ได้ไงอ่ะ ลืมตัวหรือว่าไงคะ” ยอกย้อนผมอีก“โกรธอยู่ก็จูบเธอได้ ทำไมมีปัญหารึไงหมู
“เอาอีกแล้วๆ ไอ้ขุนอ้อนเมียอีกแล้วโว้ย! น้องหมูแดงอย่าไปใจอ่อนยอมป้อนมันนะครับ ไม่ใช่อะไรพี่อิจฉาน่ะ” พี่จิวส่งเสียงแซวแทรกขึ้นมา ส่วนแม่เพื่อนรักของฉันนี่จ้องตาไม่กระพริบเลยค่ะ ดีที่รุ่นพี่คนอื่นไม่อยู่ในนี้แล้วไม่งั้นคงโดนจับตามองเพิ่มอีกแน่“ป้อนสักทีเถอะหมูแดงสงสารพี่ขุนเขา สงสัยจะหิวจนไม่แรงหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวเข้าปากเอง” มินนี่เป็นแรงเชียร์ให้นายขุนที่ยังไม่เลิกออเซาะ ฉันรู้ทันหรอกมินนี่เพื่อนรักหรอก อยากจะฟินตามไง คงคิดว่าตัวเองกำลังอ่านนิยายหรือดูซีรีย์อยู่แน่ๆ“เชียร์ให้น้องหมูแดงป้อนข้าวไอ้ขุนแล้วไม่ทราบว่าน้องมินนี่อยากจะป้อนข้าวป้อนน้ำพี่บ้างไหมครับ” พี่เคนถามเสียงหวาน แบบนี้เขาเรียกว่าหยอดแรงเลยแหละ“ไม่อยากค่ะ เพราะมินนี่ไม่ใช่นางพยาบาลที่ต้องคอยดูแลคนป่วย พี่เคนไปถามป้ายหน้าดีกว่านะคะ” มินนี่ฉีกยิ้ม ฉัน พี่จิว ยัยพิ้งค์และนายขุนหลุดหัวเราะเลย“คนสวยทำไมพูดกับพี่แบบนี้อ่ะ”มินนี่พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ฟังไม่ถนัดเพราะยัยนั่นขมุบขมิบ ขุนพลกอบกุมแก้มของฉันไว้แล้วจับหันให้มองมาที่เขา มันเลยทำให้ฉันอดเขินไม่ได้เลยต้องเปิดกล่องข้าวแล้วตักแต่พอดีคำมาจ่อที่ปากคนเอาแต่ใจในที่สุด“ก
ห้องชมรมของพวกคณะบริหาร กว้างขวางมากรวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อย่างว่าแหละน่าหนึ่งในสมาชิก ณ ที่นี้ซึ่งนั่นก็คือพี่จิวเป็นถึงลูกชายของเจ้าของมหาลัยเชียวนะมันจะธรรมดาได้ยังไง ฉันที่ไม่มีสิทธิ์เลือกและไม่ได้เลือกเองด้วยความสมัครใจมานั่งแหมะกับเพื่อนหลังจากที่โดนนายขุนลากมาได้พักใหญ่แล้ว คนที่รู้จักในนี้มีแค่พี่จิว พี่เคนเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ไม่รู้จักใครเลยสักคน ถูกมองไหมมันแน่นอนอยู่แล้วเพราะเราสามคนไม่ใช่เด็กในสังกัดของคณะนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเลยนะ คงเป็นเพราะว่าฉันรู้จักสามหนุ่มนี่ด้วยเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าซัก วันนี้เขาให้เลือกก่อนคนที่ต้องการเข้ามาอยู่เลยยังไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาในนี้ยกเว้นฉัน มินนี่และพิ้งค์ที่ได้สิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่มีคนพาตัวมานั่งตากแอร์เย็นๆ ถึงที่“ชมรมนี้มันชื่อชมรมอะไรอ่ะยังไม่รู้เลยหรือว่ามันไม่มีชื่อนอกเหนือจากนี้ ใช้ว่าชมรมคณะบริหารงี้เลยเหรอหมูแดง” ยัยมินนี่สะกิดถาม ฉันส่ายหน้าเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไรยังไง โดนพามาอย่างงงๆ ตอนระหว่างทางที่เดินมาก็ไม่ได้ถามนายขุนด้วย หมอนี่ก็นะแทนที่จะบอกกันล่วงหน้าไม่มีหรอก
Kunpon Talksผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเกียจคร้านเพราะเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อสักครู่ ไอ้จิวมันบอกให้เข้าไปมหาลัยเพื่อเข้าชมรมที่เราสามคนสุมหัวคิดกันขึ้นมาเองเพราะไม่อยากไปอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร อาศัยเส้นใหญ่คับมหาลัยของมันคนอื่นๆ เลยไม่กล้ามีปัญหาหรือต่อกรด้วยเลยสักคนแม้แต่อาจารย์ ที่นี่มีมันกฎบังคับว่านักศึกษาชั้นปีที่สามต้องก่อตั้งชมรมของแต่ละคณะขึ้นมาทุกปีเพื่อให้น้องปีหนึ่งปีสองคณะอื่นมาแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่อนุญาตให้เข้าชมรมคณะตัวเองยกเว้นปีสี่ไม่ต้องยุ่งใกล้จบแล้วเป็นไงดีไหมล่ะ หมูแดงเองก็ต้องมาอยู่ชมรมเดียวกับผมเท่านั้น นั่นคือสิทธิ์ขาดที่ผมเลือก เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้เลือกตามความสมัครใจของตัวเองไม่มีทางซะหรอกยิ่งดื้อบวกพยศอยู่ด้วย ชมรมที่ว่าก็ไม่ได้จะให้ทำอะไรมากหรอกสบายจะตายเผลอๆ แค่นั่งนอนหรือไม่ต้องเข้าเลยด้วยซ้ำใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานผมก็ขับรถตรงดิ่งมามหาวิทยาลัย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานเหมือนคนอื่นเพราะเรามีที่จอดค่อนข้างส่วนตัวโทรหาหมู หมูก็ดันไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่านถ้าเจอตัวต้องจัดการหน่อยแล้ว โทรศัพท์มีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ประดับกระเป๋าเฉยๆ ท
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ
Comments