"กลับมาคบกันไม่งั้นฉันจะบอกพ่อแม่เธอเรื่องคืนนั้นที่ฉันเอาเธอแล้ว"
Lihat lebih banyakณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
เด็กสาวหน้าตาน่ารักผิวพรรณสดใสเธออยู่ในชุดเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีกำลังนั่งเตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำพูดของเธอหลังจากที่เขาพึ่งจะพูดคำว่า ‘เลิก ’ออกไป “พี่เวหา~ นี่พี่คิดจะทิ้งพิงค์กี้ใช่มั้ยคะ” เด็กสาวชั้นมัธยมปลายพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะเอาเรื่องชายหนุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดอกแน่นซึ่งท่าทางรวมไปถึงน้ำเสียงเล็กแหลมของเธอทำให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหันเมินเธอทันที เวหานั่งนิ่งพลางหันมองไปทางอื่นแต่แล้วสายตาคมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เธอคนนี้สวยหวานใบหน้าสดใสน่ารัก รูปร่างกำลังดีมองไปมองมาก็เหมือนกับว่าเขาคุ้นๆและอาจจะรู้จักเธอ “พี่เวหามองอะไรของพี่!!” พิงค์กี้ที่มองไปตามสายตาของเวหาก็เห็นเข้ากับเธอคนนั้นผู้หญิงที่เวหากำลังจ้องมองอยู่ไม่รอช้าหญิงสาวเริ่มเกิดอาการหึงหวงจนเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน มือเล็กจับเข้าที่ท่อนแขนกำยำพลางดึงรั้งให้ชายหนุ่มรุ่นพี่หันกลับมามองที่เธอ “อะไรของเธอวะ!!” หนุ่มมัธยมปลายที่โดนดึงรั้งร่างกายก็เริ่มระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่จึงได้ส่งเสียงดังตวาดใส่รุ่นน้องสาวจนร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ที่ผ่านมาเธอไม่เคยโดนเขาพูดเสียงดังแบบนี้ด้วยเลยสักครั้งใบหน้าสวยเริ่มเบะปากราวกับเด็กน้อยที่โดนรังแก เวหาที่เห็นดังนั้นก็อึ้งแต่เขาไม่ได้สงสารหรือเข้าใจอะไรในตัวเธอหรอกนะที่อึ้งก็แค่งงๆว่าเธอทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ใส่เขาความเบื่อหน่ายและไม่อยากพูดคุยเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นวันนี้เขาต้องจบเรื่องเธอกับเขาให้ได้ พิ้งค์กี้ที่ผ่านมาเธอก็ทำตัวน่ารักดีหรอกนะ เชื่อฟังว่าง่ายเก็บเรื่องของเขาและเธอไว้เป็นความลับได้ดีแต่พอพักหลังๆมาทำไมเธอเปลี่ยนไปก็ไม่รู้ทั้งจ้องจับผิดหาเรื่องขอดูโทรศัพท์มือถือของเขาอีกทั้งยังห้ามไม่ให้เขามองผู้หญิงคนไหนสักคน เธอทำตัวเองทั้งนั้นแค่อยู่เฉยๆทำตัวน่ารักๆเขาและเธอก็คงจะได้แอบกินกันต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องมาจบความสัมพันธ์แบบนี้เพราะเธอเองนะที่ทำให้เขาต้องทำแบบนี้ทำตัวประดุจดัง ‘แฟน’ ของเขาทั้งที่ก็ไม่ใช่!! เวหาสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่แล้วจึงถอนหายใจออกมา ความรู้สึกรำคาญเธอคนนี้มีเพิ่มมากขึ้นทุกวันจนมาถึงวันนี้ วันที่เขาเริ่มทนไม่ไหวจึงได้นัดเธอคนนี้ให้มาพบเพื่อที่จะได้จบความสัมพันธ์ลับๆของเขาและเธอสักที “จะเรียกว่าทิ้งได้ยังไงในเมื่อพวกเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน!!” เวหาปรายตามองเด็กสาวรุ่นน้องที่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยบอกเธอไปแล้ว “ไม่นะคะ..” สิ้นเสียงของเวหาเธอคนนั้นก็รีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้พร้อมกับนำมาแนบเข้าที่ใบหน้าเรียวสวยของตัวเอง “พิ้งค์กี้รักพี่เวหามากนะคะแล้วพวกเราก็..เอากันไปแล้ว” เธอค่อยๆขยับร่างกายเข้าใกล้ร่างกำยำของผู้ชายตรงหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีกี่สายตาที่มองมายังเธอและเขา คนที่ตัวสูงกว่าดันร่างเล็กให้ห่างออกจากตัวเขาก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเขาเองก็ได้เคยพูดบอกเธอไปแล้ว “แล้วไงในเมื่อวันนั้นพี่บอกเธอแล้วว่าพี่ไม่คิดที่จะจริงจังกับเธอหรือแม้แต่กับใครทั้งนั้นเพราะว่าพี่มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว!!” ชายหนุ่มตัวร้ายหยิบยกเรื่องคู่หมั้นที่ซึ่งตัวเขาเองก็พึ่งจะนึกขึ้นได้ในตอนที่พูดบอกเธอไปเมื่อครู่นี้ “ว่าไงนะ!! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของพี่ เมื่อกี้พี่ยังพูดอยู่เลยว่าจะไม่คิดจริงจังกับใคร นี่พี่มีคู่หมั้นแล้วเหรอคะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกกัน” พิงค์กี้เบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของรุ่นพี่หนุ่มที่เธอรัก เธอและเขาได้แอบมีความสัมพันธ์กับแบบลับๆเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้วและเป็นตัวเธอเองที่เป็นฝ่ายขอเริ่มความสัมพันธ์บ้าๆพวกนี้ขึ้นมาโดยที่เขาก็ได้บอกเธอไว้แล้วว่าเขาไม่คิดที่จะจริงจังกับเธอหรือแม้แต่กับใครทั้งนั้นซึ่งเธอก็ยอมรับและตกลงที่จะนอนกับเขา ก็นะ..พี่เวหาเขาทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังตรงสเปคเธอเป็นอย่างมากแล้วเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไม่ชอบเขาด้วยละได้กินของดีแถมยังอร่อยเลิศล้ำเป็นใครจะไม่เอาบ้างถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องเอาตัวเข้าแลกก็เถอะแต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเสียไปซึ่งเธอก็ไม่ได้อะไรมากหรอกนะก็เพราะพี่เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอนี่ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าเขาว่าพี่เขาจะหาเรื่องเทเธอได้เร็วถึงขนาดนี้!! “คนนี้พ่อแม่พี่เลือกให้” เวหายิ้มอย่างผู้ชนะพร้อมทั้งเหลือบตามองรุ่นน้องสาวที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาตาเขม็งใบหน้าเรียวสวยโกรธจัดจนแก้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อซึ่งชายหนุ่มที่ซึ่งไม่คิดที่จะสนใจเธออยู่แล้วก็เลือกที่จะไม่สนใจอะไรไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็จะต้องสลัดเธอทิ้งให้ได้ “สรุปก็คือพี่หลอกเอาพิ้งค์กี้ใช่มั้ยไม่ต้องมาพูดอะไรให้มันเยอะแยะหรอกนะคะ” พิงค์กี้รุ่นน้องสาวคนสวยยืนกำหมัดแน่นในแววตามีแต่ความเคืองโกรธอย่างเห็นได้ชัดที่ผ่านมาก็มีที่เคยคิดเอาไว้บ้างว่ายังไงก็คงต้องมาถึง “เฮ้อ~ อยากคิดอะไรก็แล้วแต่เธอแล้วกัน” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นคนที่เขามองเธออยู่ได้เดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทันใดนั้นหัวสมองพลันนึกอะไรสนุกๆขึ้นมาจนได้ “นั่นไงเธอคนนั้นมาแล้ว ว่าที่คู่หมั้นของฉัน” เวหาชี้มือไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับบอกคนตัวเล็กไปว่าเธอคนนั้นนั่นแหละก็คือว่าที่คู่หมั้นของเขา ร่างหนาไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอคนนั้นให้รู้เรื่องเสียก่อนที่เธอจะทำเรื่องแดงขึ้นมาด้วยความไม่รู้และเมื่อเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นไอ้หัวใจดวงน้อยๆของเขาก็เริ่มใจเต้นแรงขึ้นและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาใจเต้นแรงให้กับผู้หญิง อย่าบอกนะว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าให้แล้ว เวหาเดินไปหยุดยืนขวางทางเธอเอาไว้ทำให้ร่างบางที่กำลังเดินเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาด้วยความงงงวยและเขาไม่รอช้าที่จะขอคุยกับเธออย่างเร่งด่วนฉับพลัน “นี่ขอคุยด้วยหน่อย” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับมือที่เอื้อมไปจับเข้าที่ข้อมือเรียวเล็กของเธอคนนั้นอย่างถือวิสาสะยอมรับเลยว่าใจเต้นแรงยามที่มองสบตาคู่สวย เธอสวยมากขนาดที่ไม่ได้แต่งหน้าหน้าสดก็ยังสวยหวานราวกับหยดน้ำผึ้งเดือนห้า ปากนิดจมูกหน่อยผิวก็ขาวอมชมพูทำเขาละสายตาจากเธอไม่ได้เลย “คะ คุยกับเราเหรอ?” เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองสายตาก็มองไปยังบริเวณข้อมือเล็กของตัวเองที่ตอนนี้กำลังโดนเขาเกาะกุมมือของเธออยู่และด้วยความตกใจจึงทำให้สมองคิดประมวลผลช้าไปหมด เชอรีนเดินตามเขาไปเรื่อยๆทั้งๆที่ใบหน้าสวยใสก็ยังมึนงงอยู่ว่าเขาคนนี้คือใครกันนะ “ใช่ มาคุยกันหน่อย” เวหาเดินจับข้อมือเล็กค่อยๆเดินมาตามทางแต่แล้วเชอรีนที่เริ่มพลันคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองต้องดิ้นต้องไม่ยอมให้เขาเดินจูงมือเธอแบบนี้ก็เริ่มขัดขืนแสดงความต้องการของตัวเองว่าไม่อยากที่จะเดินไปกับเขา “นี่ปล่อยนะ! อยากคุยอะไรก็คุยตรงนี้ไม่รู้จักกันอยู่ดีๆมาจับมือได้ไง หรือว่าเป็นพวกโรคจิต?” ร่างบางสะบัดมือออกจากการจับกุมของเขาและเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีเวลาแล้วฉันจะพูดกับเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!!” เวหาหันมาพูดแล้วยิ้มขึ้นที่มุมปากบอกเธอในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะพาไปนั่งอธิบายแล้วคงจะพูดได้เพียงเท่านี้อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด “....” “ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย”มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง
“ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ” กัสได้ทีเริ่มถามเข้าประเด็นแบบที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด เชอรีนกระพริบตาปริบๆด้วยความตกใจเธอไม่คิดว่ารุ่นพี่เขาจะถามตรงประเด็นอะไรขนาดนี้และยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดออกไรออกไปเสียงของผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่เสียงของพี่กัสก็ดังขึ้น“มีแล้ว..”ทุกคนรวมถึงเชอรีนหันไปมองยังบุคคลต้นเสียงซึ่งก็คือ มาร์ช...เขาเดินเข้ามายืนอยู่ทางด้านหลังของเชอรีนพร้อมกับสบตามองไปยังรุ่นพี่คนนั้นอย่างไม่คิดที่จะเกรงกลัวสิ่งใดทำเอาเพียวและทุกๆคนต่างก็งงอย่างไม่เข้าใจ มาร์ชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนและเพียงไม่นานเขาคนนั้นก็รับว่าแต่เขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันนะ...“ไอ้เวมีรุ่นพี่เข้ามาจีบแฟนมึง” มาร์ชพูดสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือโดยที่เขาเลือกที่จะเปิดโหมดวิดีโอแต่เดี๋ยวนะ เขาเรียกชื่อของ เวหา อย่างนั้นเหรอ นะ นี่เขาโทรหานายนั่นทำไม กรี๊ด~(มึงว่าไงนะกูขอคุยกับไอ้คนที่มันกล้ามาจีบเชอรีนหน่อย) เสียงของเวหาดังขึ้นทำให้เชอรีนรีบก้มหน้าลงเธอไม่อยากได้ยินเสียงเขาเลยสักนิด ว่าแต่มาร์ชจะโทรหาเขาทำไมแล้วฟั
“พวกกูจะจำคำพูดของมึงไว้ครับไอ้วิน” สายฟ้าที่กำลังหยิบกุ้งจุ่มลงในหม้อพูดขึ้น เขาและเพื่อนจะจำคำพูดของไอ้วินเอาไว้และขอให้สิ่งที่ไอ้ออสตินพูดเกิดขึ้นจริงด้วยเถอะ อยากจะเห็นมันเป็นฝ่ายจับน้องเขา“ไม่รู้ไอ้มาร์ชเป็นไงบ้างเห็นว่ามหาลัยนั้นก็หนักหน่วงเหมือนกัน” เวหาพูดขึ้นอย่างลอยๆเมื่อเขาเริ่มคิดถึงใครบางคนไม่ว่าจะไปที่ไหนทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่คิดถึงเธออยากจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอเสียเหลือเกิน..ว่าแต่ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ จะมีใครเข้ามาจีบเธอหรือเปล่า ขออย่าให้เธอชอบใครเลยนะเวหาพูดเสร็จก็ลอบถอนหายใจออกมา ความรู้สึกที่เวลาคิดถึงแล้วไม่ได้เจอนี่มันช่างทรมานเหลือเกิน“อยากรู้ของไอ้มาร์ชหรือคนอื่นกันแน่ อยากรู้ก็แค่ถาม” ออสตินที่นั่งข้างพูดขึ้นเขารู้เพื่อนทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้หมายถึงไอ้มาร์ชเหมือนอย่างที่ปากพูดเพ้อออกมาหรอกแต่มันกำลังคิดถึงเชอรีน“เธอบล็อกกูไปแล้ว” เวหาพูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาลองกดโทรออกหาเธอก็ไม่ติดโทรไลน์แชทไลน์ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ไอจีก็โดนบล็อก สีหน้าใน ณ ข
“ลุงคนขับที่บ้านมารับแล้วงั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” เชอรีนมองออกไปด้านนอกก็พบว่ารถของที่บ้านกำลังแล่นเข้ามาจอดยังหน้าร้าน เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนพลางสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถและพร้อมหลับในทันทีไอรีนที่เห็นว่าเชอรีนได้ขึ้นรถกลับไปแล้วเธอจึงหันไปบอกเพื่อนแล้วเดินออกไปจากร้าน“งั้นฉันออกไปโบกแท็กซี่เลยแล้วกัน อยากกลับบ้านไปอาบน้ำจะแย่ ไปก่อนนะวิเวียน เพียว มาร์ช”“อืม บัยบาย” วิเวียนยกมือขึ้นโบกมือร่ำลา ตัวเธอก็ถึงเวลาที่ต้องรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเหมือนกัน“เราไปแล้วนะเพียว ไปก่อนนะมาร์ช” เมื่อบอกเพียวกับมาร์ชเสร็จเธอก็ออกจากร้านเพื่อไปโบกพี่วินให้ไปส่งที่บ้าน“งั้นเราก็กลับห้องกันเถอะ วันนี้เค้าเหนื่อยมากเลย” เพียวส่งเสียงออดอ้อนแฟนหนุ่มแต่เรื่องที่เธอบอกว่าเหนื่อยเธอพูดเรื่องจริงนะเพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้องซึ่งมันก็สนุกดีอยู่หรอกแต่ก็ทำให้ศูนย์เสียเหงื่อจนเกิดเป็นความอ่อนเพลีย“เดี๋ยวมาร์ชนวดให้” มาร์ชผู้ชายที่แสนดียิ้มให้กับแฟนสาว วันนี้หลังจากที่กลับไปถึงห้องเขาคงต้องแสดงฝีมือออกแรงบีบนวดให้เธอสักหน่อย ทั้งสองพากันเดินออกจากร้านอย่างมีความสุขเพียวเอื้อมมือบีบแก
ไอรีนยกมือขึ้นห้ามไม่ว่าอย่างไรรอบนี้เธอต้องได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกให้จงได้ วิเวียนที่เห็นถึงความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพของไอรีนเธอก็ได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างยอมรับ“ก็ได้ยังไงก็ขอบคุณนะ”30นาทีต่อมาหลังจากที่ยื่นทำเรื่องขอทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทั้งสี่ก็พากันเดินออกมายังหน้ามหาลัยที่ซึ่งมีร้านชาไข่มุกอยู่ไม่ไกลร้านชาไข่มุกอาชิ“รับอะไรดีคะ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเสียงหวานของพนักงานสาวก็ดังขึ้นแม้ว่าเธอจะพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามองก็ตาม เชอรีนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกส่งยิ้มให้กับพนักงานพลางส่งเสียงหวานสั่งเป็นคนแรก“เอาชานมไต้หวันใส่บุก 1แก้วค่ะขอเป็นหวานน้อยนะคะ”“เอาชาเขียวใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” เพียวที่เดินเข้ามาเป็นคนที่สองรีบสั่งเป็นคนถัดไปไอรีนที่ได้ยินเพียวสั่งชาเขียวก็เกิดความอยากกินขึ้นมาบ้าง เธอจึงได้สั่งเหมือนอย่างเช่นเพียว“เป็น 2 แก้วเลยค่ะ”“เอาโกโก้ใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” วิเวียนยืนเกร็งเธอจะกินอะไรดี งั้นเป็นโกโก้ก็แล้วกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเคยได้กินตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยมโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบกินน้ำเปล่าซะมากกว่า พวกน้ำหวานอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้ตก
2 เดือนผ่านไปมหาลัย AUวันเปิดภาคเรียน“ว่าแต่ยัยวิเวียนยังไม่มาอีกเหรอ” เสียงหวานของเชอรีนเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิททั้งสองโดยที่ตัวเธอนั้นพึ่งจะมาถึงและหย่อนก้นนั่งได้ยังไม่ทันจะถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ เพียวกับไอรีนต่างก็ส่ายหน้าเพื่อเป็นคำตอบอย่างพร้อมเพรียงกันครืด~เสียงโทรศัพท์มือถือของไอรีนดังขึ้น มือเล็กหยิบมือถือหันโชว์หน้าจอให้เชอรีนได้เห็นเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ วิเวียน ที่เชอรีนพึ่งจะถามหานั่นเอง“นี่ไงโทรเข้ามาพอดี”ไอรีนกดรับสายหลังจากที่บอกเชอรีนเรียบร้อย ปลายสายรีบเอ่ยถามเพราะตรงที่เธอยืนอยู่ล้วนแล้วแต่มีผู้คนมากมายจึงทำให้ไม่รู้เลยว่ากลุ่มเพื่อนเธอไปนั่งกันอยู่ตรงไหน เมื่อวานก็ดันลืมถามเสียด้วย(ฮัลโหล รออยู่ตรงไหนกันเหรอ เรามาถึงแล้วนะ)“พวกฉันนั่งกันอยู่ตรงข้างๆตึก เดินผ่านคณะของพวกเรามาแล้วเลี้ยวซ้าย”(โอเค อย่าพึ่งวางสายนะ)วิเวียนเดินมาตามทางเดินที่ไอรีนได้บอกตอนนี้เธอเดินมาถึงหน้าคณะแล้วตรงทางข้างหน้ามีทางแยกพอดี เธอเดินเลี้ยวซ้ายไปตามที่เพื่อนได้บอกและเธอก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่ง“วิเวียนทางนี้!!” เสียงของไอรีนดังขึ้นซึ่งนั่นจึงทำให้วิเ
โดยที่มีออสตินเดินตามหลังไปเป็นคนสุดท้ายและด้วยความที่เขามึนเมาจึงทำให้เดินเซไปมาดวงตาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นทางมากนักจึงได้ชนเข้ากับใครก็ไม่รู้“อะ ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเธอโดนออสตินชนเข้าอย่างจังจนล้มไปนั่งอยู่ที่พื้นแต่เธอก็ยังเลือกที่จะพูดคำขอโทษออกมาทั้งที่เธอก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ชนเขาก่อนด้วยซ้ำแต่เพราะมันคือหน้าที่ประมาณว่าลูกค้าคือพระเจ้าจึงทำให้เธอยินดีที่จะกล่าวคำขอโทษออกไปก่อนไม่ว่าอย่างไรลูกค้าต้องถูกเสมอ...“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอลุกขึ้นยืนพลางขยับกายเดินเข้ามาถามออสตินด้วยความห่วงใยแต่ดูแล้วเขาคงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้งก็ตัวใหญ่ถึงขนาดนี้แถมก็ไม่ได้ล้มไปกองที่พื้นแบบเธอด้วยนี่ออสตินส่ายหน้าพร้อมทั้งเอ่ยคำขอโทษไปยังผู้หญิงคนนั้น สายตาของเขาพยายามจดจ้องมองใบหน้าของเธอแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายกลับทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวจนมองเลือนลาง“อึก~ ฉันไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยเหมือนกัน ฉันมึนๆหัวเลยไม่ได้ดูทาง”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อเธอพูดเสร็จก็โค้งคำนับแล้วเดินจากไปทิ้งออสตินไว้กับความนิ่งเงียบที่มีก่อนที่เสียงของธาวินจะดังขึ้นเพื่อเรียกสติเขา“ไอ้ออสตินทำไมไม่เดินตาม
ชายหนุ่มใบหน้าลูกครึ่งอธิบายบอกกลุ่มเพื่อนและทันทีที่ไอรีนได้ยินออสตินพูดชื่อเชอรีนขึ้นมา ใบหน้าเรียวเล็กหันขวับมองไปยังออสตินทันที เพื่อนของเธอเป็นอะไรทำไมถึงต้องให้เวหาไปส่งด้วย เมื่อกี้ตอนที่เธอโทรไปก็ยังอยู่ในห้องน้ำดีอยู่เลยหรือว่าหลังจากนั้นเธอจะปวดแบบหนักๆกันนะ...“ว่าไงนะเชอรีนเป็นอะไร!!”“เธอท้องเสียหมดเรี่ยวแรงแล้วเจอไอ้เวหาข้างล่างพอดีมันเลยบังคับไปส่งเธอที่บ้าน” ออสตินหันไปพูดบอกไอรีนด้วยสีหน้าปกติ เขาไม่ได้แสดงออกเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นกำลังโกหกอยู่ ไอรีนที่เห็นแบบนั้นรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายโทรออกหาเชอรีนทันที“ไม่ได้การแล้วฉันโทรไปหายัยเชอดีกว่า ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง”เพียงไม่นานปลายสายก็รับทำไอรีนรีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน“ฮัลโหลแกเป็นอะไร”“แกเป็นยังไงบ้าง ท้องเสียหนักเลยเหรอ”(ไอรีนใจเย็นๆ ถามซะเราไม่มีโอกาสได้พูดเลย เราท้องเสียน่ะเลยคิดว่าน่าจะอยู่ต่อไม่ไหว)“แล้วเวหามันขับรถพาแกไปส่งที่บ้านเหรอ”(ก็อืม เราเจอเขาที่แถวๆหน้าผับน่ะ เขาเห็นอาการของเราไม่ค่อยดีก็เลยอาสาขับรถไปส่งที่บ้าน)“นี่พวกแกไม่ได้คืนดีกันใช่มั้ย”(บ้าเหรอ ไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอก)
มือเล็กผลักไสคนร่างใหญ่ให้ถอยห่าง เธอเคลื่อนตัวลงไปนั่งอยู่ที่พื้นรถยนต์ เวหามองดูเชอรีน งงอยู่เหมือนกันว่าเธอทำไมถึงต้องหลบก็ในเมื่อรถของเขาคนนอกมองเข้ามาไม่เห็นอยู่แล้ว“หลบทำไม..”“จะให้ออสตินเห็นเราโป๊แถมยังอยู่กับนายหรือไง ถามมาได้คิดบ้างนะ” เวหาร้องอ๋อในทันทีเขาเป็นคนบอกเธอเองนี่หว่าว่ารถของเขานั้นไม่มีฟิล์ม แต่เอ๊ะนี่เธอกล้าด่าเขาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้เหมือนโดนเธอด่าว่าโง่ยังไงอย่างงั้นเลยนะ“มันไม่เห็นหรอกว่าเชอกับเวอยู่ในรถ คันนี้ติดฟิล์มอย่างดี” คนตัวสูงยิ้มรับมือใหญ่ลูบศีรษะหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าหงุดๆและทันทีเธอได้ยินเต็มสองรูหูเธอดีดตัวเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที ใบหน้าสวยโกรธจัดไอ้บ้านี่มันหลอกให้เธอกลัวอย่างนั้นเหรอ“ว่าไงนะ นี่นายหลอกเราเหรอ ห๊ะ!” สองมือเล็กออกแรงทุบตีไปตามท่อนขากำยำทั้งเกลียดและโกรธเขาที่หลอกเธอแบบนี้แต่ก็นะเขาก็เคยหลอกเธอในเรื่องครั้งนั้นมาแล้วครั้งหนึ่งนี่บอกไม่มีผู้หญิงที่ไหนอีกมีแค่เธอคนเดียวแล้วสุดท้ายยัยพี่ริสาอะไรนั่นก็โผล่ออกมา...“อืม หลอก เชอจะได้ตื่นเต้นไง” คนหน้ามึนพยักหน้าอย่างยอมรับสิ่งที่เขาได้พูดออกไปก่อนหน้านั้นคือการหลอกเธอ เ
Komen