สำหรับเรื่องความรักและแฟนนั้นเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลย เธอยังคงอยากเที่ยวเล่นและใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว
“อีกนาน พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกขอตั้งใจเรียนก่อนจะดีกว่า เราน่ะ ไปนอนได้แล้ว ได้ข่าวจากพี่แชมเปญมาว่าวันพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนนนี่ ได้อ่านหนังสือบ้างหรือยัง บอกมานะ” เชอรีนมองหน้าชะเอมอย่างจับผิดได้ข่าวมาจากไลน์กลุ่มของพวกเธอทั้งสามสาวว่าในวันพรุ่งนี้น้องสาวคนเล็กของพวกเขาจะมีสอบเก็บคะแนน
“เอิ่มแบบเอิ่ม ก็..ยังเลยค่ะ ขอตัวกลับห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” ชะเอมยิ้มแห้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องของพี่สาวแล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างไว
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่คนขับรถได้ไปส่งชะเอมยังโรงเรียนหญิงล้วนของเธอแล้ว เขาก็ได้ขับมาส่งเชอรีนที่ยังโรงเรียนของเธอและก่อนที่จะลงจากรถ เธอก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังคุณลุงคนขับรถของบ้านตัวเอง
“ขอบคุณนะคะ” เธอส่งยิ้มที่ดูจริงใจให้กับคุณลุงคนขับแล้วเปิดประตูรถให้กว้าง สองเท้าเล็กลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยพลางสาวเท้าเดินไปยังแถวของห้องตัวเองและเมื่อเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กนักเรียนต่างก็พากันขึ้นยังห้องใครห้องมัน
ห้อง ม.6/4
เชอรีนเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วเดินตรงไปยังเก้าอี้ของตัวเองเธอไม่รีรอที่จะดึงเก้าอี้ตัวเล็กออกมาเล็กน้อยเพื่อที่เธอนั้นจะได้เข้าไปนั่งได้อย่างสบาย ร่างสวยหย่อนก้นนั่งลงไปยังเก้าอี้ที่อยู่ใจกลางห้องเรียนหันมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นเพื่อนสนิทของเธอเลยสักคน
เชอรีนหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิตก่อนที่จะกดเข้าไปยังห้องแชทกลุ่มของเธอและเพื่อนสาวทั้งสอง
เชอรีน : ยังไม่มากันอีกเหรอ
เมื่อเธอพิมพ์ถามไปเสร็จร่างบางก็วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะเรียนไม่นานไอรีนเพื่อนสาวในกลุ่มก็ส่งข้อความตอบกลับมาด้วยความฉับไว
ไอรีน : ฉันแอบมาซื้อน้ำอะกำลังจะขึ้นไปแล้ว @เพียว น่าจะขึ้นไปแล้วนะ
ทันทีที่ได้อ่านข้อความเชอรีนก็พยักหน้าอย่างรับรู้ ใบหน้าสวยยิ้มรับอย่างเข้าใจและในจังหวะที่เธอกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเพียวที่เดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วก็เดินย่องมาจากทางด้านหลังของห้อง เธอตั้งใจว่าจะแกล้งให้เชอรีนตกใจเล่นๆเสียหน่อย
“จ๊ะเอ๋~ ฉันมาแล้ว” แต่นอกจากเชอรีนจะไม่ตกใจแล้วเธอยังนิ่งเสียจนคนที่ตั้งใจจะแกล้งรู้สึกเซงผิดหวังขึ้นมาทันที อะไรกันยัยเพื่อนคนนี้จะนิ่งไปไหน
“ไปไหนมาอะปล่อยให้ฉันรอตั้งนาน~” เชอรีนที่ไม่มีแม้แต่อาการตกใจเลยสักนิดก็หันหน้ากลับมาส่งยิ้มให้เพียว คนตัวเล็กเลือกที่จะทำน้ำเสียงออดอ้อนไปยังเพื่อนสาวคนสวยและเพียวที่เห็นแบบนั้นจึงคลี่ยิ้มกว้างยามออกมาเมื่อเธอต้องนึกไปถึงสาเหตุที่เธอนั้นเข้าห้องเรียนช้า
“ฉันเดินไปส่งมาร์ชที่ห้องมาแหละ” เพียวตอบกลับเพื่อนด้วยท่าทางเขินอาย เธอและแฟนหนุ่มที่อยู่ห้องสองพึ่งจะเริ่มคบหาดูใจกันได้เพียงไม่นานเท่าไหร่นัก ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปได้ 6 เดือนแล้ว
“อ๋อ ไอรีนมาพอดี” เชอรีนยกยิ้มมุมปากอย่างเข้าใจถึงแม้ว่าเธอนั้นจะไม่เคยมีความรักมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อารมณ์ความรู้สึกของคนที่มีความรัก ก็นะเธอน่ะดูหนังซีรี่ย์เกาหลีออกจะบ่อยแอบชอบพระเอกก็มีบ้างรู้เลยว่าตอนนี้เพื่อนของเธอคงจะมีความสุขมากประหนึ่งโลกใบนี้เป็นสีชมพู
หางตาของเชอรีนเหลือบไปเห็นเข้ากับไอรีนที่กำลังเดินยิ้มเข้ามาพอดีมือเล็กชี้บอกเพียวทันทีว่าไอรีนนั้นมาโน้นแล้ว เพียวหันมองไปตามมือของเชอรีนก็พบว่าไอรีนเดินเข้ามาถึงพวกเธอเป็นที่เรียบร้อย
“อะนี่ฉันซื้อน้ำมาฝากพวกแก” มือเล็กของไอรีนหยิบขวดน้ำดื่มส่งให้ทั้งเชอรีนและเพียวที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ทั้งสองยิ้มรับพร้อมทั้งหยิบขวดน้ำไปจากมือของไอรีนผู้มีน้ำใจ
“ขอบใจนะ” เชอรีนไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณเพื่อนสาวคนสวยก่อนที่เธอจะเปิดน้ำแล้วยกขึ้นดื่มในทันที อากาศในวันนี้ค่อนข้างที่จะร้อนและมีแสงแดดแรงตั้งแต่ช่วงเช้าจึงทำให้เชอรีนและเพื่อนนั้นมีเม็ดเหงื่อไหลซึม
เพียวที่ดื่มน้ำจนเป็นที่พอใจแล้วก็เอ่ยถามเชอรีนจำได้ว่าเมื่อวานยัยนี่บอกกับเธอเอาไว้ว่าเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเล่นที่ห้างเสียหน่อย
“แล้วนี่เมื่อวานหลังเลิกเรียนแกไปเดินห้างได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง”
เชอรีนที่โดนเพื่อนเอ่ยถามก็เลือกที่จะส่ายหน้าเพราะเมื่อวานเธอยังไม่ทันได้เดินดูอะไรด้วยซ้ำก็ดันมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนั้นเข้ามาขอความช่วยเหลือกับเธอเสียก่อน
“ไม่ได้อะไรสักอย่างเลย ฉันยังไม่ทันได้เดินดูของอะไรเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาบอกว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉัน..”
“เฮ้ย! เขาหาเรื่องเข้ามาจีบแกหรือเปล่า เพื่อนฉันสวยขนาดนี้” เพียวตาลุกวาวฟังเชอรีนเล่าอย่างตั้งใจแอบคิดเข้าข้างไปเองว่าผู้ชายคนนั้นคงเข้ามาจีบเพื่อนเธออย่างแน่นอน
“นั่นอะดิต้องใช่แน่ๆ” ไอรีนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าของเชอรีนก็รีบหันหน้าเข้ามาพูดเสริมทัพถ้าอยู่ๆมีผู้ชายแปลกหน้าเข้าหาด้วยวิธีการแปลกแบบนี้คงจะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เชอรีนที่ได้ฟังความคิดเห็นของเพื่อนก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเหตุการณ์จริงเมื่อวานทำให้เธอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเข้ามาหาเธอด้วยเหตุผลอะไร
“ไม่ใช่หรอก เขาให้ฉันไปเป็นไม้กันหมาน่ะเหมือนว่าเขากำลังจะบอกเลิกแฟนแหละ แต่ว่าเขารู้จักชื่อฉันด้วยนะ เออๆลืมไปเลยเขาเรียนอยู่ที่นี่ด้วย อยู่ม.6เหมือนกันกับเราเนี่ยแหละ”
“ใช่เหรอ แล้วเขาชื่ออะไรอะ” ไอรีนมองหน้าเพื่อนพร้อมทั้งตั้งใจเป็นผู้รับฟังที่ดีและทันทีที่เชอรีนบอกว่าผู้ชายคนนั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับพวกเธอหญิงสาวก็ไม่รีรอที่จะถามออกไป
อะไรจะพรหมลิขิตขนาดนี้~
“จำชื่อไม่ได้แล้วอะ แฮร่ๆ” เชอรีนเม้มปากแน่นแล้วค่อยๆยิ้มเจื่อนๆออกมาเธอจำชื่อของผู้ชายคนนั้นไม่ได้จำได้ก็เพียงแค่หน้าตาหล่อเหลาของเขาเท่านั้น
ห้อง ม.6/2
ทันทีที่มาร์ชเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้หลังห้องของตัวเองแล้วสายตาก็พลันไปเห็นเข้ากับใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ดูเหม่อลอยยิ้มๆยังไงก็ไม่รู้หรือว่ามันกำลังคิดถึงผู้หญิงคนที่มันกำลังแอบกินอยู่ไม่รอช้ามาร์ชจึงรีบเอ่ยแซวถามไปยังเวหาทันที
“ไอ้เวหามึงเป็นอะไรวะนั่งเหม่อลอยอยู่ได้หรือว่าคิดถึงน้องพิงค์กี้”
“คิดถึงบ้าอะไรกูรำคาญยัยเด็กนั่นจะตายไป” เวหาหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนที่เขาได้บอกเลิกไปเมื่อวานไม่อยากจะบอกว่าคนที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้นั้นก็คือ‘เชอรีน’เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นเพื่อนสนิทของเพียวแฟนไอ้มาร์ชต่างหาก
“เมื่อวานกูเจอเชอรีน นักเรียนที่ย้ายมาใหม่อะ เจอที่ห้างตอนที่กำลังบอกเลิกยัยเด็กนั่น” เขาเริ่มอธิบายย้อนเล่าเหตุการณ์เมื่อวานที่เจอเชอรีนในตอนที่เขากำลังบอกเลิกพิ้งค์กี้รุ่นน้องสาวต่างโรงเรียน
“เชอรีน? อ๋อเด็กใหม่ที่หน้าตาน่ารักๆตัวขาวห้อง4ใช่ปะ”
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งเด็กสาวหน้าตาน่ารักผิวพรรณสดใสเธออยู่ในชุดเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีกำลังนั่งเตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำพูดของเธอหลังจากที่เขาพึ่งจะพูดคำว่า ‘เลิก ’ออกไป“พี่เวหา~ นี่พี่คิดจะทิ้งพิงค์กี้ใช่มั้ยคะ” เด็กสาวชั้นมัธยมปลายพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะเอาเรื่องชายหนุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดอกแน่นซึ่งท่าทางรวมไปถึงน้ำเสียงเล็กแหลมของเธอทำให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหันเมินเธอทันทีเวหานั่งนิ่งพลางหันมองไปทางอื่นแต่แล้วสายตาคมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เธอคนนี้สวยหวานใบหน้าสดใสน่ารัก รูปร่างกำลังดีมองไปมองมาก็เหมือนกับว่าเขาคุ้นๆและอาจจะรู้จักเธอ“พี่เวหามองอะไรของพี่!!” พิงค์กี้ที่มองไปตามสายตาของเวหาก็เห็นเข้ากับเธอคนนั้นผู้หญิงที่เวหากำลังจ้องมองอยู่ไม่รอช้าหญิงสาวเริ่มเกิดอาการหึงหวงจนเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน มือเล็กจับเข้าที่ท่อนแขนกำยำพลางดึงรั้งให้ชายหนุ่มรุ่นพี่หันกลับมามองที่เธอ“อะไรของเธอวะ!!” หนุ่มมัธยมปลายที่โดนดึงรั้งร่างกายก็เริ่มระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่จ
“ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย” เวหาพูดขึ้นในขณะที่พาร่างบางเดินเข้าไปหาพิงค์กี้ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ยังบริเวณที่เดิมและในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยถึงเรื่องสำคัญกันอยู่นั้น เพลงที่ใช้สำหรับโปรโมทร้านค้าก็ดังขึ้น จึงทำให้เชอรีนไม่ได้ยินคำพูดของเวหาเลยสักนิด“นายพูดว่าไงนะ!” เชอรีนเอียงคอถามชายหนุ่มอีกครั้งเพราะเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดในก่อนหน้านั้นอีกทั้งในตอนนี้เสียงเพลงก็เปิดดังเป็นอย่างมาก เวหาที่ไม่มีเวลาได้อธิบายบอกเธออีกก็สาวเท้าพาเชอรีนมาหยุดยืนต่อหน้ารุ่นน้องสาว“นี่ไงว่าที่คู่หมั้นของพี่!” เวหาเริ่มแนะนำหญิงสาวข้างกายให้พิงค์กี้ได้รู้จักโดยการบอกออกไปว่าเธอคนนี้นี่แหละคือว่าที่คู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มตัวร้ายพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยหวานของเธอข้างกายด้วยแววตาหวานซึ้งความรู้สึกแปลกๆเริ่มแทรกซึมเข้ามาอย่างบอกไม่ถูกเขายังคงรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้มองสบตาเธอคนนี้~“ห๊ะ ดะ เดี๋ยวนะ! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของนาย” ร่างบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นว่าที่คู่หมั้นของใครก็ไม่รู้ นี่มันชักจะงงไปหมดแล้วนะหรือว่าผู้ชายคนนี้อาจจะจำเธอผิด เชอรีนไม่ร
เวหาปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมเข้าที่ศีรษะของตัวเขาเองแล้วขึ้นไปคร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำของตัวเอง“เราเป็นเพื่อนกัน ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มเอ่ยชวนหญิงสาวให้ขึ้นไปนั่งบนรถคู่ใจทำเอาเชอรีนรีบปฏิเสธเสียงแข็งมือไม้โบกสะบัดพัลวันเพราะเธอไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้มาก่อนอีกทั้งเธอก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่ไปไหนมาไหนด้วยกันได้“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้” เชอรีนยิ้มแห้งอย่างไม่รู้จะพูดปฏิเสธเช่นไรเธอไม่สะดวกที่จะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้อีกทั้งชุดกระโปรงนักเรียนที่เธอสวมใส่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะนั่งรถไปกับเขาร่างบางหลุบตามองลงไปยังกระโปรงนักเรียนของตัวเองแล้วจึงหันมองไปทางอื่นคิดๆๆว่าพูดปฏิเสธอย่างไรดี เวหาที่มองดูการกระทำของเธออยู่จึงได้เปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้น“ใส่กางเกงซับในหรือเปล่า” คำพูดของเขาทำเอาเชอรีนตะลึงดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เชอรีนพยักหน้าด้วยท่าทางเลิ่กลั่กยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเหนียมอาย“ห๊ะ! ก็ใส่”“งั้นก็ขึ้นมาเถอะน่า ถือว่าตอบแทนที่เธอช่วยฉัน” ชาย
เชอรีนขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับสาวเท้าก้าวถอยไปข้างหลัง ความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าเรียวเล็กถอยไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณโซฟาใจกลางห้องนั่งเล่น“อะ..” ร่างบางล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่ทีมือหนาของเวหารองรับร่างกายของเธอเอาไว้หญิงสาวที่กลัวว่าตัวเองอาจจะได้รับอันตรายก็หลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนเมื่อเธอได้ยินเสียงรวมไปถึงกลิ่นกายของเขาจึงทำให้เธอเผลอลืมตาขึ้นมอง“หึ~ เชิญนั่งได้ตามสบาย ฉันไปอาบน้ำก่อน” เวหายิ้มมุมปากไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวร่วมชั้นเรียนพลางปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระเตรียมพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินออกไป“ดะ..เดี๋ยวสิ เราไม่นั่ง เราอยากออกไปจากห้องนาย” เชอรีนรีบตะโกนตามหลังเขาไปติดๆทำร่างแกร่งหันกลับมาแล้วโยนผ้าขนหนูของตัวเองใส่หัวเชอรีน“เอ้านี่! เอาไปเช็ดตัวให้แห้งหรือว่าอยากจะอาบน้ำที่นี่ด้วยมั้ย ชุดของฉันก็มีเยอะแยะเลือกใส่ได้ตามสบาย” เวหาพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหรูของตัวเอง เสียงเล็กตะโกนตามหลังอย่างคนที่ดูจะหัวเสียเล็กน้อย ก็นะผ้าเช็ดตัวเลยนะที่เขาโยนมาใส่หัวเธอแล้วจะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไร“ฮึ่ย~ ขอบใจแต่ไม่เป
สำหรับเรื่องความรักและแฟนนั้นเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลย เธอยังคงอยากเที่ยวเล่นและใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว“อีกนาน พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกขอตั้งใจเรียนก่อนจะดีกว่า เราน่ะ ไปนอนได้แล้ว ได้ข่าวจากพี่แชมเปญมาว่าวันพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนนนี่ ได้อ่านหนังสือบ้างหรือยัง บอกมานะ” เชอรีนมองหน้าชะเอมอย่างจับผิดได้ข่าวมาจากไลน์กลุ่มของพวกเธอทั้งสามสาวว่าในวันพรุ่งนี้น้องสาวคนเล็กของพวกเขาจะมีสอบเก็บคะแนน“เอิ่มแบบเอิ่ม ก็..ยังเลยค่ะ ขอตัวกลับห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” ชะเอมยิ้มแห้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องของพี่สาวแล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างไวเช้าวันต่อมาหลังจากที่คนขับรถได้ไปส่งชะเอมยังโรงเรียนหญิงล้วนของเธอแล้ว เขาก็ได้ขับมาส่งเชอรีนที่ยังโรงเรียนของเธอและก่อนที่จะลงจากรถ เธอก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังคุณลุงคนขับรถของบ้านตัวเอง“ขอบคุณนะคะ” เธอส่งยิ้มที่ดูจริงใจให้กับคุณลุงคนขับแล้วเปิดประตูรถให้กว้าง สองเท้าเล็กลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยพลางสาวเท้าเดินไปยังแถวของห้องตัวเองและเมื่อเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กนักเรียนต่างก็พากันขึ้นยังห้องใครห้องมันห้อง ม.6
เชอรีนขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับสาวเท้าก้าวถอยไปข้างหลัง ความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าเรียวเล็กถอยไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณโซฟาใจกลางห้องนั่งเล่น“อะ..” ร่างบางล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่ทีมือหนาของเวหารองรับร่างกายของเธอเอาไว้หญิงสาวที่กลัวว่าตัวเองอาจจะได้รับอันตรายก็หลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนเมื่อเธอได้ยินเสียงรวมไปถึงกลิ่นกายของเขาจึงทำให้เธอเผลอลืมตาขึ้นมอง“หึ~ เชิญนั่งได้ตามสบาย ฉันไปอาบน้ำก่อน” เวหายิ้มมุมปากไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวร่วมชั้นเรียนพลางปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระเตรียมพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินออกไป“ดะ..เดี๋ยวสิ เราไม่นั่ง เราอยากออกไปจากห้องนาย” เชอรีนรีบตะโกนตามหลังเขาไปติดๆทำร่างแกร่งหันกลับมาแล้วโยนผ้าขนหนูของตัวเองใส่หัวเชอรีน“เอ้านี่! เอาไปเช็ดตัวให้แห้งหรือว่าอยากจะอาบน้ำที่นี่ด้วยมั้ย ชุดของฉันก็มีเยอะแยะเลือกใส่ได้ตามสบาย” เวหาพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหรูของตัวเอง เสียงเล็กตะโกนตามหลังอย่างคนที่ดูจะหัวเสียเล็กน้อย ก็นะผ้าเช็ดตัวเลยนะที่เขาโยนมาใส่หัวเธอแล้วจะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไร“ฮึ่ย~ ขอบใจแต่ไม่เป
เวหาปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมเข้าที่ศีรษะของตัวเขาเองแล้วขึ้นไปคร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำของตัวเอง“เราเป็นเพื่อนกัน ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มเอ่ยชวนหญิงสาวให้ขึ้นไปนั่งบนรถคู่ใจทำเอาเชอรีนรีบปฏิเสธเสียงแข็งมือไม้โบกสะบัดพัลวันเพราะเธอไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้มาก่อนอีกทั้งเธอก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่ไปไหนมาไหนด้วยกันได้“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้” เชอรีนยิ้มแห้งอย่างไม่รู้จะพูดปฏิเสธเช่นไรเธอไม่สะดวกที่จะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้อีกทั้งชุดกระโปรงนักเรียนที่เธอสวมใส่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะนั่งรถไปกับเขาร่างบางหลุบตามองลงไปยังกระโปรงนักเรียนของตัวเองแล้วจึงหันมองไปทางอื่นคิดๆๆว่าพูดปฏิเสธอย่างไรดี เวหาที่มองดูการกระทำของเธออยู่จึงได้เปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้น“ใส่กางเกงซับในหรือเปล่า” คำพูดของเขาทำเอาเชอรีนตะลึงดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เชอรีนพยักหน้าด้วยท่าทางเลิ่กลั่กยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเหนียมอาย“ห๊ะ! ก็ใส่”“งั้นก็ขึ้นมาเถอะน่า ถือว่าตอบแทนที่เธอช่วยฉัน” ชาย
“ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย” เวหาพูดขึ้นในขณะที่พาร่างบางเดินเข้าไปหาพิงค์กี้ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ยังบริเวณที่เดิมและในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยถึงเรื่องสำคัญกันอยู่นั้น เพลงที่ใช้สำหรับโปรโมทร้านค้าก็ดังขึ้น จึงทำให้เชอรีนไม่ได้ยินคำพูดของเวหาเลยสักนิด“นายพูดว่าไงนะ!” เชอรีนเอียงคอถามชายหนุ่มอีกครั้งเพราะเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดในก่อนหน้านั้นอีกทั้งในตอนนี้เสียงเพลงก็เปิดดังเป็นอย่างมาก เวหาที่ไม่มีเวลาได้อธิบายบอกเธออีกก็สาวเท้าพาเชอรีนมาหยุดยืนต่อหน้ารุ่นน้องสาว“นี่ไงว่าที่คู่หมั้นของพี่!” เวหาเริ่มแนะนำหญิงสาวข้างกายให้พิงค์กี้ได้รู้จักโดยการบอกออกไปว่าเธอคนนี้นี่แหละคือว่าที่คู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มตัวร้ายพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยหวานของเธอข้างกายด้วยแววตาหวานซึ้งความรู้สึกแปลกๆเริ่มแทรกซึมเข้ามาอย่างบอกไม่ถูกเขายังคงรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้มองสบตาเธอคนนี้~“ห๊ะ ดะ เดี๋ยวนะ! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของนาย” ร่างบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นว่าที่คู่หมั้นของใครก็ไม่รู้ นี่มันชักจะงงไปหมดแล้วนะหรือว่าผู้ชายคนนี้อาจจะจำเธอผิด เชอรีนไม่ร
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งเด็กสาวหน้าตาน่ารักผิวพรรณสดใสเธออยู่ในชุดเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีกำลังนั่งเตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำพูดของเธอหลังจากที่เขาพึ่งจะพูดคำว่า ‘เลิก ’ออกไป“พี่เวหา~ นี่พี่คิดจะทิ้งพิงค์กี้ใช่มั้ยคะ” เด็กสาวชั้นมัธยมปลายพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะเอาเรื่องชายหนุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดอกแน่นซึ่งท่าทางรวมไปถึงน้ำเสียงเล็กแหลมของเธอทำให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหันเมินเธอทันทีเวหานั่งนิ่งพลางหันมองไปทางอื่นแต่แล้วสายตาคมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เธอคนนี้สวยหวานใบหน้าสดใสน่ารัก รูปร่างกำลังดีมองไปมองมาก็เหมือนกับว่าเขาคุ้นๆและอาจจะรู้จักเธอ“พี่เวหามองอะไรของพี่!!” พิงค์กี้ที่มองไปตามสายตาของเวหาก็เห็นเข้ากับเธอคนนั้นผู้หญิงที่เวหากำลังจ้องมองอยู่ไม่รอช้าหญิงสาวเริ่มเกิดอาการหึงหวงจนเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน มือเล็กจับเข้าที่ท่อนแขนกำยำพลางดึงรั้งให้ชายหนุ่มรุ่นพี่หันกลับมามองที่เธอ“อะไรของเธอวะ!!” หนุ่มมัธยมปลายที่โดนดึงรั้งร่างกายก็เริ่มระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่จ