คำพูดของเขาทำคนขี้สงสารอย่างเชอรีนพยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไปในทันทีดวงตาคู่สวยมองจ้องเวหาอย่างคนที่เข้าใจว่าเขานั้นคงอยากที่จะซื้อของขวัญให้น้องสาวแต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้จะซื้ออะไรให้เธอ“แล้วเวจะไปวันไหนเหรอ”“วันเสาร์เชอว่างมั้ย”เชอรีนทำหน้าครุ่นคิด ทุกวันเสาร์เธอจะต้องเรียนพิเศษนี่นาแต่พอมานึกๆดูอีกทีก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาจารย์ผู้สอนนั้นได้ส่งข้อความเข้ามาบอกในไลน์กลุ่มแล้วว่าเธอขอเลื่อนเปลี่ยนเป็นสอนในวันอาทิตย์แทน“เสาร์นี้ใช่มั้ยเราว่างอยู่พอดี ยังไงเราจะไปเป็นเพื่อนเวนะ~”“ขอบใจนะ” เวหาที่ได้ยินคำตอบเป็นที่น่าพอใจก็ยิ้มกว้างออกมาราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นเป็นรางวัล มือหนาเอื้อมเข้าไปกอบกุมมือเล็กของเชอรีนอย่างถือวิสาสะจนใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ“มานั่งกันอยู่นี่นี่เอง!!”เสียงหวานดังขึ้นจากทางด้านหลังซึ่งเสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจากไอรีนเพื่อนสนิทของเธอ เชอรีนรีบดึงมือกลับออกมาทันทีเพราะกลัวว่าเพื่อนของเธอนั้นจะเห็นเข้าและไม่รอช้าที่จะหันหน้ากลับไปมองยังเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลังไอรีนเดินเข้ามาพร้อมกับเพียวโดยที่ข้างเพียวนั้นคือมาร์ช แฟนหนุ่มของเธอ“พวกแกม
“คุยกับใครเวก็ต้องมองหน้าคนนั้นสิ~” เสียงทุ้มมีเสน่ห์โต้กลับในขณะที่สายตาหันกลับไปมองทางข้างหน้าเขารู้ว่าถ้ายังมองเธออยู่แบบนี้มีหวังเธอคงไม่กล้าพูดคุยกับเขาต่ออย่างแน่นอนแล้วเวลาที่ผู้หญิงแสดงอาการเขินนี่เป็นอะไรที่น่ารักจนอยากเอื้อมมือเข้าไปบีบแก้มขาวๆของเธอเสียจริงตึกตักๆเสียงหัวใจของเชอรีนที่กำลังเต้นแรงส่งผลให้เธอจำต้องยกมือขึ้นมาสัมผัสเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองก่อนจะพบว่ามันเต้นถี่และเร็วมากสักแค่ไหนนี่เธอเผลอใจเต้นแรงไปกับคำพูดของเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนี้อย่างนั้นหรือ ไม่นะ!!ไม่ได้ๆเธอได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ภายในใจไหนบอกกับตัวเองเอาไว้แล้วไงว่าจะไม่ขอรู้สึกกับใครไปจนกว่าที่ตัวเองจะเรียนจบมอหกแล้วนี่อะไรทำไมเธอถึงเผลอไผลใจเต้นแรงแบบนี้ เชอรีนรีบชวนเวหาเปลี่ยนเรื่องพูดคุย“แล้วน้องเวเกิดวันไหนเหรอ” ถามถึงวันเกิดน้องสาวเขาเสียเลยไหนๆก็กำลังจะไปช่วยเลือกซื้อของขวัญด้วยกันนี่เนอะก็ต้องรู้ใช่มั้ยว่าน้องสาวเขาเกิดวันไหน“วันที่ 10 เดือนหน้า” เวหาทำได้เพียงกลั้นยิ้มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ที่เธอเขินเขาจนต้องรีบเปลี่ยนเรื่องชวนคุย“อ๋องั้นก็ใกล้แล้วนี่” เชอรีนพยักหน้าอย่างรับรู้ถ้าเ
เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นเรียกสติที่เตลิดของคนตัวเล็กให้กลับมา แล้วเมื่อกี้เขาว่าอย่างไรนะจะขอถ่ายรูปคู่อย่างนั้นเหรอ สงสัยกลัวน้องสาวไม่เชื่อแน่เลยว่าเพื่อนอย่างเธอช่วยเลือกซื้อของขวัญให้“อืมได้เลย” เชอรีนพยักหน้าและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เวหาลุกขึ้นยืนเดินข้ามโต๊ะมานั่งข้างกายเธอ ชายหนุ่มตัวร้ายรีบกดยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอีกครั้งโดยที่เธอยังไม่มีโอกาสที่จะได้ยิ้มหรือจัดท่าทางอะไรเลยแล้วไหนจะยังโดนเขาขยับกายเข้าใกล้มากๆด้วยแชะ~เมื่อถ่ายรูปจนหนำใจแล้วมือหนาก็กดเปิดไปยังคลังเก็บรูปภาพที่อยู่ในตัวเครื่องเขาค่อยๆเลื่อนดูทีละรูปอย่างเชื่องช้าใบหน้าหล่อเหลาก็เผลอยิ้มออกมาทำเอาเชอรีนที่นั่งอยู่ใกล้ๆถึงกับงุนงงว่าเขายิ้มให้กับอะไรหรือว่าจะเป็นรูปภาพของเธออย่างนั้นเหรอ..“น่ารักมากไว้เราส่งให้ในไลน์นะ!” เวหาหันมายิ้มให้เชอรีนแล้วลุกขึ้นยืนเดินกลับไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและในทันทีที่เขานั่งเสร็จริมฝีปากเล็กก็ได้เอ่ยชวนเธอ“ไปบ้านเวก่อน..แล้วเดี๋ยวขับรถไปส่งที่บ้าน”“ม ไม่เป็นไร” เชอรีนรีบยกไม้ยกมือขึ้นมาปฏิเสธลำพังแค่อยู่ใกล้เขาเธอก็รู้สึกเขินจะแย่อยู่แล้วนะแล้วนี่ยังจะต้องอยู่ต่อกับเขาอีกหรือ
นี่ขนาดปวดฟันอยู่นะยังมีแรงพูดชมเชอรีนได้อยู่เลย เวหานึกขันไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องสาวที่เอาแต่มองเชอรีนอยู่แบบนั้นจนกระทั่งชายหนุ่มหันไปถามเจ้าตัวว่าความเจ็บเริ่มทุเลาลงไปบ้างหรือยัง“แล้วปวดมากหรือเปล่า..”“ปวดนิดๆค่ะเหมือนจะมีฟันผุอยู่” เลอาพยักหน้ายกมือขึ้นกุมแก้มขาว เธอลืมไปเสียซะสนิทว่าตัวเธอเองนั้นปวดฟันอยู่ พี่ชายที่เห็นน้องสาวเริ่มแสดงอาการออกมาก็อดที่จะยิ้มขึ้นอีกไม่ได้ มือหนาเอื้อมไปขยี้เส้นผมดำเงาของคนเป็นน้องและเมื่อเห็นว่าพ่อและแม่จะพาน้องสาวออกไปข้างนอกเขาจึงกล่าวคำลาไปยังพวกท่านทั้งสองพร้อมกับมือหนาที่เคลื่อนไปสัมผัสแก้มเนียนใสของผู้เป็นน้องสาวด้วยความเอ็นดูทำเอาเลอาถึงกับต้องรีบดึงมือพี่ชายให้ห่างออก ก็นะเขามาโดนแก้มข้างที่กำลังมีอาการปวดๆของเธอนี่“ถ้างั้นผมขอตัวพาเชอรีนไปส่งที่บ้านก่อนนะครับแล้วเดี๋ยวยังไงผมจะเข้ามาหาพ่อกับแม่ใหม่ช่วงวันหยุดนะครับ” สิ้นเสียงของผู้เป็นลูกชายแม่ของเขาก็ยิ้มขึ้นมาแล้วหันมองไปทางเชอรีนที่ยืนอยู่ข้างลูกชายของเธอ เด็กผู้หญิงคนนี้หน้าตาน่ารักกิริยามารยาทงดงามถ้าเจ้าลูกชายตัวดีได้เธอมาเป็นแฟนคงจะดีอยู่ไม่น้อยและเอาไว้ครั้งหน้าเธอจะไ
“ฮัลโหล~”(เชอเหรอ เห็นรูปที่เราแท็กไปแล้วใช่มั้ย) ก็ต้องเห็นแล้วอะดิ“เห็นแล้ว ทำไมนายถึงได้ลงรูปไปแบบนั้น..”(วันนี้เวมีความสุขมากก็เลยโพสต์ลงโดยที่ลืมขอเชอไปน่ะ แต่ว่าตอนนี้เวก็โทรมาหาเชอแล้วนะ คงจะไม่ได้ว่าอะไรใช่มั้ย) เวหาเหมือนจะรู้ว่าเชอรีนคงจะแอบเคืองๆเขาอยู่ก็เลยเลือกที่จะพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนนุ่มนวลหวังที่จะให้เชอรีนหายเคืองเขาที่ลงรูปเธอด้วยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตแบบนั้นซึ่งเชอรีนที่เจอเข้ากับเสียงนุ่มแบบนั้นก็นิ่งอย่างใจอ่อนด้วยความที่เธอไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนจึงทำให้หวั่นไหวไปกับน้ำเสียงออดอ้อนของเขา“เอ่อ..เราไม่ว่าอะไรหรอกแต่ว่าคนอื่นเขาจะมองเรากับเวไม่ดีนะ เรารู้มาจากพวกคอมเม้นท์น่ะ”(เชอก็อย่าไปใส่ใจสิ ทำตัวให้สบายใครจะคิดยังไงก็ช่างเขา) ได้เหรอมันทำอย่างงั้นได้ด้วยเหรอ“อ อืม เราจะพยายามนะ”(เวมีเรื่องที่อยากถามอะไม่รู้ว่าเชอจะบอกเราได้มั้ย)“ถามอะไรเหรอ” อย่าบอกนะว่าจะถามเรื่องโรงเรียนเก่าน่ะ(เวอยากถามเรื่องวันเกิดของเชอน่ะ เชอเกิดวันที่เท่าไหร่เดือนไหนแล้วก็พศ.อะไรเหรอ)“ถามเรื่องนี้เองเหรอ เราบอกให้ได้อยู่แล้ว เราเกิด 9 กันยายน ปีก็น่าจะปีเดียวกับเวนะ”(งั้นแบบนี้เ
เสียงหวานเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาและด้วยความที่เชอรีนนั้นพูดเสียงดังจึงให้ให้คนที่นั่งเศร้าอยู่รู้สึกตัวขึ้น“ฉันเครียดๆน่ะมีเรื่องให้คิด”“บอกพวกเราได้นะ พวกเรายินดีที่จะเป็นผู้รับฟัง” เชอรีนเอื้อมมือไปจับเข้าที่บ่าเล็กของไอรีนอย่างเบามือพลางส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจทั้งเธอและเพียวพร้อมที่จะเป็นผู้รับฟังในยามที่เพื่อนมีเรื่องให้คิดและกลุ้มใจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองต้องการที่จะรับรู้ไอรีนจึงเริ่มพูดเรื่องที่วนอยู่ในหัวของเธอในช่วงนี้ขึ้นมา“พ่อกับแม่ฉันพวกท่านกำลังจะหย่ากัน!!”“.....” ทั้งเชอรีนและเพียวต่างก็เลือกที่จะเงียบและเป็นผู้รับฟังที่ดี“ต่างคนก็ต่างที่จะมีครอบครัวใหม่ แม่ได้สามีใหม่เป็นนักธุรกิจชาวต่างประเทศและท่านต้องย้ายตามสามีไปใช้ชีวิตที่นั่นส่วนพ่อก็กำลังเริ่มคบหาดูใจกับผู้หญิงคนใหม่แล้วเธอคนนั้นยังมีลูกติดแล้วด้วยนะ แล้วไม่รู้ว่าพ่อจะยังรักฉันอีกหรือเปล่าเพราะได้ยินมาว่าลูกติดของผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้ชายแล้วพ่อก็ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอย่างฉันด้วย”“ฉันเครียดๆน่ะแต่ก็เข้าใจพวกท่านดีเพราะว่าพวกเขาก็แยกกันอยู่มาสั
“ทำไมถึงให้แต่เชอรีนคนเดียว แล้วฉันกับเพียวอะ” มือเล็กยกขึ้นกอดอกอยากจะรู้นักว่าเวหามันจะพูดว่าอย่างไร มีเพื่อนผู้หญิงยืนอยู่ตรงนี้อีกตั้งสองคนแต่มันกลับมองเห็นแต่เชอรีนหรือไงพูดแล้วก็รู้สึกเหม็นความรักขึ้นมาทันใด“ไปซื้อเอาเอง!!” เวหาใช้หางตามองไปยังไอรีนเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะรีบหันกลับไปให้ความสนใจไปกับใบหน้าเรียวสวยของเชอรีน ไอรีนที่รอฟังคำตอบของเวหาอยู่ก็กรอกตามองบนคิดไว้ไม่มีผิดว่ามันต้องตอบแบบนี้“จ้า เลือกปฏิบัติจริงๆ”“วันอาทิตย์ว่างมั้ย..” เวหาหันกลับมาให้ความสนใจเชอรีนพลางเอ่ยถามถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเธอ เขาจดจำได้เป็นอย่างดีว่าทุกวันเสาร์เธอนั้นมีเรียนพิเศษ ร่างบางกระพริบตาด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถามหาวันวันหยุดของเธออีกแล้วทั้งทีพวกเราก็พึ่งไปด้วยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง“วันอาทิตย์ว่างอยู่ทำไมเหรอ” ใบหน้าเรียวใสเอ่ยถามอย่างไม่รู้จริงๆว่าเขาถามเพื่ออะไร“ก็จะชวนให้ไปกินข้าวที่บ้านไงลืมแล้วเหรอที่สัญญากับแม่เวไว้” ชายหนุ่มตัวร้ายเอ่ยทักทวงสัญญาที่เธอได้เคยให้ไว้กับแม่ของตนซึ่งร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็พลางส่ายหน้า เธอไม่ได้ลืมสักหน่อยแต่แค่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
“แล้วนี่หนูกับเวเรียนอยู่ชั้นเดียวกันห้องเดียวกันด้วยมั้ยลูก” คนเป็นแม่ที่อยากรู้ข้อมูลของเชอรีนก็เริ่มยิงคำถามออกไปโดยที่เธอนั้นเลือกที่จะถามแบบยังไม่เจาะลึกมากสักเท่าไหร่ เชอรีนที่โดนผู้ใหญ่ถามก็ยิ้มตาหยีรีบตอบกลับไปด้วยท่าทางที่ดูปกติ เธอไม่ได้เกร็งหรืออึดอัดอะไรเพราะพ่อกับแม่รวมไปถึงน้องสาวของเขาล้วนแล้วแต่ชวนเธอพูดคุยด้วยความเป็นกันเองทั้งนั้น“คนละห้องค่ะหนูอยู่ห้อง4 เวเขาอยู่ห้อง2”“อ๋อแล้วเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันได้ยังไง” แม่พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเริ่มไต่ระดับถามลึกเข้าไปอีกนิดทำเอาพ่อเวหารีบส่งเสียงห้ามปรามไปยังภรรยาของตนเองในทันที เขารู้ว่าภรรยาของเขาเอ็นดูและคงอยากรู้เรื่องของเด็กๆแต่ตอนนี้มันใช่เวลามั้ย“คุณก็..หนูเชอเขากำลังกินข้าวอยู่ถามอยู่ได้”“เอ๊ะคุณก็..ก็ฉันอยากรู้นี่คะว่าตาเวของเราเข้าหาผู้หญิงยังไง” แม่ตีไปที่มือของพ่อเบาๆราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นมันผิดมากเหรอ เรื่องที่ถามตอนเด็กๆกำลังกินข้าว ก็คนมันอยากรู้นี่เนอะว่าเจ้าลูกชายเข้าหาผู้หญิงยังไง~เวหายิ้มมุมปากหันมองไปทางเชอรีนที่นั่งเม้มปากแน่นให้ทายเธอก็คงเขินอายไปตามประสาที่ถูกถามตรงๆแบบนั้นไม่รอให้ผู้เป็นแ
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว
มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง
“ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ” กัสได้ทีเริ่มถามเข้าประเด็นแบบที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด เชอรีนกระพริบตาปริบๆด้วยความตกใจเธอไม่คิดว่ารุ่นพี่เขาจะถามตรงประเด็นอะไรขนาดนี้และยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดออกไรออกไปเสียงของผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่เสียงของพี่กัสก็ดังขึ้น“มีแล้ว..”ทุกคนรวมถึงเชอรีนหันไปมองยังบุคคลต้นเสียงซึ่งก็คือ มาร์ช...เขาเดินเข้ามายืนอยู่ทางด้านหลังของเชอรีนพร้อมกับสบตามองไปยังรุ่นพี่คนนั้นอย่างไม่คิดที่จะเกรงกลัวสิ่งใดทำเอาเพียวและทุกๆคนต่างก็งงอย่างไม่เข้าใจ มาร์ชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนและเพียงไม่นานเขาคนนั้นก็รับว่าแต่เขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันนะ...“ไอ้เวมีรุ่นพี่เข้ามาจีบแฟนมึง” มาร์ชพูดสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือโดยที่เขาเลือกที่จะเปิดโหมดวิดีโอแต่เดี๋ยวนะ เขาเรียกชื่อของ เวหา อย่างนั้นเหรอ นะ นี่เขาโทรหานายนั่นทำไม กรี๊ด~(มึงว่าไงนะกูขอคุยกับไอ้คนที่มันกล้ามาจีบเชอรีนหน่อย) เสียงของเวหาดังขึ้นทำให้เชอรีนรีบก้มหน้าลงเธอไม่อยากได้ยินเสียงเขาเลยสักนิด ว่าแต่มาร์ชจะโทรหาเขาทำไมแล้วฟั
“พวกกูจะจำคำพูดของมึงไว้ครับไอ้วิน” สายฟ้าที่กำลังหยิบกุ้งจุ่มลงในหม้อพูดขึ้น เขาและเพื่อนจะจำคำพูดของไอ้วินเอาไว้และขอให้สิ่งที่ไอ้ออสตินพูดเกิดขึ้นจริงด้วยเถอะ อยากจะเห็นมันเป็นฝ่ายจับน้องเขา“ไม่รู้ไอ้มาร์ชเป็นไงบ้างเห็นว่ามหาลัยนั้นก็หนักหน่วงเหมือนกัน” เวหาพูดขึ้นอย่างลอยๆเมื่อเขาเริ่มคิดถึงใครบางคนไม่ว่าจะไปที่ไหนทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่คิดถึงเธออยากจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอเสียเหลือเกิน..ว่าแต่ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ จะมีใครเข้ามาจีบเธอหรือเปล่า ขออย่าให้เธอชอบใครเลยนะเวหาพูดเสร็จก็ลอบถอนหายใจออกมา ความรู้สึกที่เวลาคิดถึงแล้วไม่ได้เจอนี่มันช่างทรมานเหลือเกิน“อยากรู้ของไอ้มาร์ชหรือคนอื่นกันแน่ อยากรู้ก็แค่ถาม” ออสตินที่นั่งข้างพูดขึ้นเขารู้เพื่อนทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้หมายถึงไอ้มาร์ชเหมือนอย่างที่ปากพูดเพ้อออกมาหรอกแต่มันกำลังคิดถึงเชอรีน“เธอบล็อกกูไปแล้ว” เวหาพูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาลองกดโทรออกหาเธอก็ไม่ติดโทรไลน์แชทไลน์ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ไอจีก็โดนบล็อก สีหน้าใน ณ ข
“ลุงคนขับที่บ้านมารับแล้วงั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” เชอรีนมองออกไปด้านนอกก็พบว่ารถของที่บ้านกำลังแล่นเข้ามาจอดยังหน้าร้าน เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนพลางสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถและพร้อมหลับในทันทีไอรีนที่เห็นว่าเชอรีนได้ขึ้นรถกลับไปแล้วเธอจึงหันไปบอกเพื่อนแล้วเดินออกไปจากร้าน“งั้นฉันออกไปโบกแท็กซี่เลยแล้วกัน อยากกลับบ้านไปอาบน้ำจะแย่ ไปก่อนนะวิเวียน เพียว มาร์ช”“อืม บัยบาย” วิเวียนยกมือขึ้นโบกมือร่ำลา ตัวเธอก็ถึงเวลาที่ต้องรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเหมือนกัน“เราไปแล้วนะเพียว ไปก่อนนะมาร์ช” เมื่อบอกเพียวกับมาร์ชเสร็จเธอก็ออกจากร้านเพื่อไปโบกพี่วินให้ไปส่งที่บ้าน“งั้นเราก็กลับห้องกันเถอะ วันนี้เค้าเหนื่อยมากเลย” เพียวส่งเสียงออดอ้อนแฟนหนุ่มแต่เรื่องที่เธอบอกว่าเหนื่อยเธอพูดเรื่องจริงนะเพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้องซึ่งมันก็สนุกดีอยู่หรอกแต่ก็ทำให้ศูนย์เสียเหงื่อจนเกิดเป็นความอ่อนเพลีย“เดี๋ยวมาร์ชนวดให้” มาร์ชผู้ชายที่แสนดียิ้มให้กับแฟนสาว วันนี้หลังจากที่กลับไปถึงห้องเขาคงต้องแสดงฝีมือออกแรงบีบนวดให้เธอสักหน่อย ทั้งสองพากันเดินออกจากร้านอย่างมีความสุขเพียวเอื้อมมือบีบแก
ไอรีนยกมือขึ้นห้ามไม่ว่าอย่างไรรอบนี้เธอต้องได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกให้จงได้ วิเวียนที่เห็นถึงความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพของไอรีนเธอก็ได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างยอมรับ“ก็ได้ยังไงก็ขอบคุณนะ”30นาทีต่อมาหลังจากที่ยื่นทำเรื่องขอทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทั้งสี่ก็พากันเดินออกมายังหน้ามหาลัยที่ซึ่งมีร้านชาไข่มุกอยู่ไม่ไกลร้านชาไข่มุกอาชิ“รับอะไรดีคะ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเสียงหวานของพนักงานสาวก็ดังขึ้นแม้ว่าเธอจะพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามองก็ตาม เชอรีนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกส่งยิ้มให้กับพนักงานพลางส่งเสียงหวานสั่งเป็นคนแรก“เอาชานมไต้หวันใส่บุก 1แก้วค่ะขอเป็นหวานน้อยนะคะ”“เอาชาเขียวใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” เพียวที่เดินเข้ามาเป็นคนที่สองรีบสั่งเป็นคนถัดไปไอรีนที่ได้ยินเพียวสั่งชาเขียวก็เกิดความอยากกินขึ้นมาบ้าง เธอจึงได้สั่งเหมือนอย่างเช่นเพียว“เป็น 2 แก้วเลยค่ะ”“เอาโกโก้ใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” วิเวียนยืนเกร็งเธอจะกินอะไรดี งั้นเป็นโกโก้ก็แล้วกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเคยได้กินตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยมโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบกินน้ำเปล่าซะมากกว่า พวกน้ำหวานอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้ตก
2 เดือนผ่านไปมหาลัย AUวันเปิดภาคเรียน“ว่าแต่ยัยวิเวียนยังไม่มาอีกเหรอ” เสียงหวานของเชอรีนเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิททั้งสองโดยที่ตัวเธอนั้นพึ่งจะมาถึงและหย่อนก้นนั่งได้ยังไม่ทันจะถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ เพียวกับไอรีนต่างก็ส่ายหน้าเพื่อเป็นคำตอบอย่างพร้อมเพรียงกันครืด~เสียงโทรศัพท์มือถือของไอรีนดังขึ้น มือเล็กหยิบมือถือหันโชว์หน้าจอให้เชอรีนได้เห็นเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ วิเวียน ที่เชอรีนพึ่งจะถามหานั่นเอง“นี่ไงโทรเข้ามาพอดี”ไอรีนกดรับสายหลังจากที่บอกเชอรีนเรียบร้อย ปลายสายรีบเอ่ยถามเพราะตรงที่เธอยืนอยู่ล้วนแล้วแต่มีผู้คนมากมายจึงทำให้ไม่รู้เลยว่ากลุ่มเพื่อนเธอไปนั่งกันอยู่ตรงไหน เมื่อวานก็ดันลืมถามเสียด้วย(ฮัลโหล รออยู่ตรงไหนกันเหรอ เรามาถึงแล้วนะ)“พวกฉันนั่งกันอยู่ตรงข้างๆตึก เดินผ่านคณะของพวกเรามาแล้วเลี้ยวซ้าย”(โอเค อย่าพึ่งวางสายนะ)วิเวียนเดินมาตามทางเดินที่ไอรีนได้บอกตอนนี้เธอเดินมาถึงหน้าคณะแล้วตรงทางข้างหน้ามีทางแยกพอดี เธอเดินเลี้ยวซ้ายไปตามที่เพื่อนได้บอกและเธอก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่ง“วิเวียนทางนี้!!” เสียงของไอรีนดังขึ้นซึ่งนั่นจึงทำให้วิเ
โดยที่มีออสตินเดินตามหลังไปเป็นคนสุดท้ายและด้วยความที่เขามึนเมาจึงทำให้เดินเซไปมาดวงตาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นทางมากนักจึงได้ชนเข้ากับใครก็ไม่รู้“อะ ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเธอโดนออสตินชนเข้าอย่างจังจนล้มไปนั่งอยู่ที่พื้นแต่เธอก็ยังเลือกที่จะพูดคำขอโทษออกมาทั้งที่เธอก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ชนเขาก่อนด้วยซ้ำแต่เพราะมันคือหน้าที่ประมาณว่าลูกค้าคือพระเจ้าจึงทำให้เธอยินดีที่จะกล่าวคำขอโทษออกไปก่อนไม่ว่าอย่างไรลูกค้าต้องถูกเสมอ...“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอลุกขึ้นยืนพลางขยับกายเดินเข้ามาถามออสตินด้วยความห่วงใยแต่ดูแล้วเขาคงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้งก็ตัวใหญ่ถึงขนาดนี้แถมก็ไม่ได้ล้มไปกองที่พื้นแบบเธอด้วยนี่ออสตินส่ายหน้าพร้อมทั้งเอ่ยคำขอโทษไปยังผู้หญิงคนนั้น สายตาของเขาพยายามจดจ้องมองใบหน้าของเธอแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายกลับทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวจนมองเลือนลาง“อึก~ ฉันไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยเหมือนกัน ฉันมึนๆหัวเลยไม่ได้ดูทาง”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อเธอพูดเสร็จก็โค้งคำนับแล้วเดินจากไปทิ้งออสตินไว้กับความนิ่งเงียบที่มีก่อนที่เสียงของธาวินจะดังขึ้นเพื่อเรียกสติเขา“ไอ้ออสตินทำไมไม่เดินตาม