เสียงหวานเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาและด้วยความที่เชอรีนนั้นพูดเสียงดังจึงให้ให้คนที่นั่งเศร้าอยู่รู้สึกตัวขึ้น“ฉันเครียดๆน่ะมีเรื่องให้คิด”“บอกพวกเราได้นะ พวกเรายินดีที่จะเป็นผู้รับฟัง” เชอรีนเอื้อมมือไปจับเข้าที่บ่าเล็กของไอรีนอย่างเบามือพลางส่งยิ้มให้เธออย่างจริงใจทั้งเธอและเพียวพร้อมที่จะเป็นผู้รับฟังในยามที่เพื่อนมีเรื่องให้คิดและกลุ้มใจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองต้องการที่จะรับรู้ไอรีนจึงเริ่มพูดเรื่องที่วนอยู่ในหัวของเธอในช่วงนี้ขึ้นมา“พ่อกับแม่ฉันพวกท่านกำลังจะหย่ากัน!!”“.....” ทั้งเชอรีนและเพียวต่างก็เลือกที่จะเงียบและเป็นผู้รับฟังที่ดี“ต่างคนก็ต่างที่จะมีครอบครัวใหม่ แม่ได้สามีใหม่เป็นนักธุรกิจชาวต่างประเทศและท่านต้องย้ายตามสามีไปใช้ชีวิตที่นั่นส่วนพ่อก็กำลังเริ่มคบหาดูใจกับผู้หญิงคนใหม่แล้วเธอคนนั้นยังมีลูกติดแล้วด้วยนะ แล้วไม่รู้ว่าพ่อจะยังรักฉันอีกหรือเปล่าเพราะได้ยินมาว่าลูกติดของผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้ชายแล้วพ่อก็ชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอย่างฉันด้วย”“ฉันเครียดๆน่ะแต่ก็เข้าใจพวกท่านดีเพราะว่าพวกเขาก็แยกกันอยู่มาสั
“ทำไมถึงให้แต่เชอรีนคนเดียว แล้วฉันกับเพียวอะ” มือเล็กยกขึ้นกอดอกอยากจะรู้นักว่าเวหามันจะพูดว่าอย่างไร มีเพื่อนผู้หญิงยืนอยู่ตรงนี้อีกตั้งสองคนแต่มันกลับมองเห็นแต่เชอรีนหรือไงพูดแล้วก็รู้สึกเหม็นความรักขึ้นมาทันใด“ไปซื้อเอาเอง!!” เวหาใช้หางตามองไปยังไอรีนเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะรีบหันกลับไปให้ความสนใจไปกับใบหน้าเรียวสวยของเชอรีน ไอรีนที่รอฟังคำตอบของเวหาอยู่ก็กรอกตามองบนคิดไว้ไม่มีผิดว่ามันต้องตอบแบบนี้“จ้า เลือกปฏิบัติจริงๆ”“วันอาทิตย์ว่างมั้ย..” เวหาหันกลับมาให้ความสนใจเชอรีนพลางเอ่ยถามถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเธอ เขาจดจำได้เป็นอย่างดีว่าทุกวันเสาร์เธอนั้นมีเรียนพิเศษ ร่างบางกระพริบตาด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถามหาวันวันหยุดของเธออีกแล้วทั้งทีพวกเราก็พึ่งไปด้วยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง“วันอาทิตย์ว่างอยู่ทำไมเหรอ” ใบหน้าเรียวใสเอ่ยถามอย่างไม่รู้จริงๆว่าเขาถามเพื่ออะไร“ก็จะชวนให้ไปกินข้าวที่บ้านไงลืมแล้วเหรอที่สัญญากับแม่เวไว้” ชายหนุ่มตัวร้ายเอ่ยทักทวงสัญญาที่เธอได้เคยให้ไว้กับแม่ของตนซึ่งร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็พลางส่ายหน้า เธอไม่ได้ลืมสักหน่อยแต่แค่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
“แล้วนี่หนูกับเวเรียนอยู่ชั้นเดียวกันห้องเดียวกันด้วยมั้ยลูก” คนเป็นแม่ที่อยากรู้ข้อมูลของเชอรีนก็เริ่มยิงคำถามออกไปโดยที่เธอนั้นเลือกที่จะถามแบบยังไม่เจาะลึกมากสักเท่าไหร่ เชอรีนที่โดนผู้ใหญ่ถามก็ยิ้มตาหยีรีบตอบกลับไปด้วยท่าทางที่ดูปกติ เธอไม่ได้เกร็งหรืออึดอัดอะไรเพราะพ่อกับแม่รวมไปถึงน้องสาวของเขาล้วนแล้วแต่ชวนเธอพูดคุยด้วยความเป็นกันเองทั้งนั้น“คนละห้องค่ะหนูอยู่ห้อง4 เวเขาอยู่ห้อง2”“อ๋อแล้วเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันได้ยังไง” แม่พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเริ่มไต่ระดับถามลึกเข้าไปอีกนิดทำเอาพ่อเวหารีบส่งเสียงห้ามปรามไปยังภรรยาของตนเองในทันที เขารู้ว่าภรรยาของเขาเอ็นดูและคงอยากรู้เรื่องของเด็กๆแต่ตอนนี้มันใช่เวลามั้ย“คุณก็..หนูเชอเขากำลังกินข้าวอยู่ถามอยู่ได้”“เอ๊ะคุณก็..ก็ฉันอยากรู้นี่คะว่าตาเวของเราเข้าหาผู้หญิงยังไง” แม่ตีไปที่มือของพ่อเบาๆราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นมันผิดมากเหรอ เรื่องที่ถามตอนเด็กๆกำลังกินข้าว ก็คนมันอยากรู้นี่เนอะว่าเจ้าลูกชายเข้าหาผู้หญิงยังไง~เวหายิ้มมุมปากหันมองไปทางเชอรีนที่นั่งเม้มปากแน่นให้ทายเธอก็คงเขินอายไปตามประสาที่ถูกถามตรงๆแบบนั้นไม่รอให้ผู้เป็นแ
“วันนี้หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีว่าต้องรีบกลับไปพาน้องสาวออกไปข้างนอกค่ะ” เชอรีนที่โดนน้องสาวโทรเข้ามาชักชวนไปเที่ยวก็รีบตอบรับไปตามประสาพี่สาวที่รักและตามใจน้อง เธอเอ่ยขอตัวเพื่อกลับก่อนเพราะไม่อยากที่จะให้ยัยน้องสาวตัวดีนั้นต้องรอนาน“ได้สิจ๊ะ เวขับรถไปส่งหนูเชอรีนดีๆนะลูก หนูเชอแล้วเดี๋ยวยังไงแม่ทักหานะ” แม่รีบบอกให้ลูกชายตัวเองขับรถไปส่งเพื่อน(สนิท)ในทันทีและก่อนที่เด็กสาวจะลุกขึ้นยืนแม่ก็ไม่ลืมที่จะโอบกอดเธอประหนึ่งดังเป็นลูกสาวอีกคนเวหาที่เห็นแม่เอ็นดูเชอรีนมากก็แอบดีใจที่เธอเข้ากับคนในครอบครัวของเขาได้ สองสาวผละออกจากกันเชอรีนรีบยิ้มกว้างและไหว้สวัสดีไปยังพ่อและแม่ของเวหา“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”“จ้ะ เดินทางปลอดภัยนะ”บนรถทันทีที่เข้ามานั่งอยู่ในรถเป็นที่เรียบร้อยริมฝีปากหนาก็ได้เอ่ยถามไปยังหญิงสาวข้างกายราวกับว่าเธอคือแฟนสาวที่ต้องคอยรายงานในทุกๆเรื่องให้เขาได้รับรู้“จะพาน้องออกไปไหนเหรอ” ซึ่งเชอรีนที่เจอคำถามก็ตอบไปตามความจริง เมื่อครู่ที่ชะเอมโทรเข้ามาหาเธอนั้นก็เพราะอยากให้พี่สาวอย่างเธอพาไปเดินตลาดนัดที่อยู่ไม่ไกลจากแถวหมู่บ้าน“น้องสาวเราอยากออกไปเดินตลาดนัดแถวๆบ้านน่ะ
มือเล็กเริ่มออกแรงสุดพลังที่มีผลักอกเขาจนเวหาจำต้องรีบผละขยับร่างกายออกห่าง(ทั้งที่ไม่อยากห่าง)และทันทีที่เขาออกห่างเชอรีนรีบก้มหน้าลงในทันทีแต่แล้วเวหากลับเริ่มพูดประโยคถัดไปขึ้นมา“เวว่า...”ที่ห่างออกคงเพื่อที่อยากจะพูดอะไรต่ออย่างนั้นสินะ....เชอรีนยังคงก้มหน้าไม่กล้ามองสบตาเขาอยู่แบบนั้นซึ่งชายหนุ่มที่เห็นท่าทางของหญิงสาวก็นึกเอ็นดูไปกับความน่ารักและเขินอายของเธอแต่ไหนๆเธอก็เขินไปแล้วก็คงต้องทำให้เธอเขินมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกสักหน่อยนึงก็แล้วกัน“คงต้องลองจูบกันอีกสักที ลองดูนะว่าจะหายเขินมั้ย”เขาว่าไงนะจูบเหรอจูบแบบเมื่อครู่นี้อะนะ..ไม่นะไม่เอาแล้ว เชอรีนช้อนสายตาขึ้นมองเขาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เวหานั้นคว้าเข้าที่ท้ายทอยของเธอแล้วออกแรงขยับให้คนตัวเล็กโน้มใบหน้าเข้าไปจูบทาบทับริมฝีปากของเขา“ไม่นะ อื้อ~” เขาจูบฉันอีกแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะได้เลิกเขินกันสักที แบบนี้มันจะยิ่งเขินเข้าไปใหญ่เลยนะ ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกันแล้วเขาก็เริ่มบดขยี้ริมฝีปากเล็กของเชอรีน เวหาใช้ปลายลิ้นเลียไปตามริมฝีปากล่างของเธออย่างตั้งใจจึงทำให้หญิงสาวเผยอริมฝีปากเตรียมที่จะด่าซึ่งนั่นจึงเป็นจังหวะด
ภายในใจของหญิงสาวก็ยังคงมีความกังวลซ้อนอยู่และเธอจะไม่ขอรออีกต่อไปเชอรีนจ้องหน้าสบสายตาคมกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคนแรกของเธอ“แล้วในระหว่างที่คบกันถ้าเวแอบมีคนอื่นล่ะ”“เวจะไม่มีใคร!!” เวหารีบยกมือขึ้นมาพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาสาบาน ว่าเขานั้นจะไม่มีใคร แววตารวมไปถึงสายตาที่มุ่งมั่นแน่วแน่ของเขาทำให้เชอรีนใจชื้นขึ้นหญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจและเธอยังคงกล่าวย้ำต่อไป“ถ้าเวมีเรื่องผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในระหว่างที่เราคบกันความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งคู่จบลงตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ!!”“โหดจัง~” เวหาออกอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูจริงจังของแฟนสาวคนสวย เขาเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทำเอาเชอรีนที่มองอยู่จำต้องพูดกับเขาอีกครั้ง ถ้ารับไม่ได้..ก็ไม่ต้องคบกันก็ได้นะ“ก็เราไม่ชอบเรื่องแบบนี้นี่ ถ้าเวคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้อง..”“เวทำได้!!”เช้าวันต่อมาสายฟ้าเดินเข้ามาในห้องเรียนเป็นคนแรกก็พบว่าเวหานั้นกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว สองเท้ารีบเดินเข้าไปทางด้านหลังของเพื่อนสนิท“ยิ้มอะไรของมึง..”ซึ่งเวหาที่ใจลอยกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้นก็นิ่งเพราะเขาไม่ได้ยินไปกับเสี
เวหาส่งยิ้มให้แฟนสาวก่อนที่จะชี้มือไปทางร้านขายเคสที่อยู่ไม่ไกลจากตรงบริเวณที่พวกเขายืนอยู่และยังไม่ทันที่เขาจะพูดจนจบประโยคแฟนสาวคนสวยก็ได้พูดแทรกขึ้นเธอรู้เลยว่าเขาต้องพาเธอเดินไปยังร้านขายเคสร้านนั้นอย่างแน่นอน~“เราอยากไปซื้อที่ตลาดนัดข้างๆห้างอะมันมีให้เลือกเยอะและราคาถูกด้วย” ใบหน้าสวยหวานยิ้มตาหยีแล้วเริ่มอธิบายว่าทำไมเธอถึงต้องการที่จะออกไปซื้อร้านค้าข้างนอกห้าง เวหาที่พอได้ฟังก็เข้าใจทั้งสองพากันเดินเข้าไปในร้านอาหารใจกลางห้างสรรพสินค้าแล้วเริ่มสั่งอาหารมารับประทาน30 นาทีต่อมาตลาดนัดสองเท้าเล็กเดินไปตามร้านค้ามากมายที่มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าของกินรวมไปถึงร้านขายเคสโทรศัพท์มือถือและเมื่อดวงตาคู่สวยเจอเข้ากับร้านเคสที่เธอถูกใจเข้าให้แล้ว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปยังร้านนั้นในทันที“อันนี้น่ารักจัง เวไม่สนใจบ้างเหรอมีแต่อันน่ารักๆทั้งนั้นเลยนะ” มือเล็กหยิบเคสที่มีสีสันสดใสขึ้นมาถือไว้ในมือแล้วหันไปถามบุคคลข้างกายที่เอาแต่เดินตามเธอต้อยๆโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ใบหน้าเรียวใสเอียงคอเอ่ยถามซึ่งเวหาที่เห็นท่าทางน่ารักแบบนั้นก็กลั้นไม่ให้ยิ้มอีกต่อไปไม่ไหวอยากจับแฟนตัวเล็กของเขามาหอ
ด้วยความที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับแฟนสาวจึงทำให้เขาเอ่ยปากถามเธอออกไป เขานั้นอยากมีเวหาอยู่กับเธอให้มากกว่านี้ เชอรีนที่ได้ยินก็ช้อนสายตาขึ้นมองไปยังเวหาแอบแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่เขาถามแบบนั้น“ถามทำไมเหรอ”“เวอยากให้เชอย้ายมาอยู่ที่ห้องนี้ไง” หมายความว่าไงอย่าบอกนะว่าเขาคิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ คนตัวเล็กอ้าปากค้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเวหาที่มองเธออยู่จึงเอื้อมมือมาจับมือเล็กของเธอไว้“เว..” เชอรีนมองมือตัวเองที่โดนเขาจับเอาไว้อย่างหวั่นๆเธอยังไม่พร้อมในเรื่องนั้น“คิดอะไรอยู่ ห้องนี้มีสองห้องนอนครับคนสวย ก็แบบอยากอยู่ใกล้แฟนตัวเองไง ไม่ได้เลยเหรอ” ชายหนุ่มตัวร้ายยิ้มเยาะพลางส่งเสียงออดอ้อนไปยังแฟนสาว เขาเพียงแค่อยากอยู่ใกล้ชิดเธอไม่ได้คิดที่จะทำมิดีมิร้ายกับเธอเสียหน่อยแต่ถ้าเชอรีนยอมให้เขา เขาก็พร้อมที่จะรับเอาไว้ด้วยความเต็มใจเชอรีนนั่งหน้าบึ้งขมวดคิ้วมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความครุ่นคิดเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ คิดจริงจังหรือเพียงแค่คบเล่นๆไปวันๆเท่านั้น เอาละเธอตัดสินใจที่จะถามเขาออกไปตรงๆเลยก็แล้วกัน“เวจริงจังกับเราจริงๆใช่มั้ย เรื่องที่จะให้เราย้ายมาอยู่ด้วยนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะแล
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว
มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง
“ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ” กัสได้ทีเริ่มถามเข้าประเด็นแบบที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด เชอรีนกระพริบตาปริบๆด้วยความตกใจเธอไม่คิดว่ารุ่นพี่เขาจะถามตรงประเด็นอะไรขนาดนี้และยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดออกไรออกไปเสียงของผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่เสียงของพี่กัสก็ดังขึ้น“มีแล้ว..”ทุกคนรวมถึงเชอรีนหันไปมองยังบุคคลต้นเสียงซึ่งก็คือ มาร์ช...เขาเดินเข้ามายืนอยู่ทางด้านหลังของเชอรีนพร้อมกับสบตามองไปยังรุ่นพี่คนนั้นอย่างไม่คิดที่จะเกรงกลัวสิ่งใดทำเอาเพียวและทุกๆคนต่างก็งงอย่างไม่เข้าใจ มาร์ชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนและเพียงไม่นานเขาคนนั้นก็รับว่าแต่เขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันนะ...“ไอ้เวมีรุ่นพี่เข้ามาจีบแฟนมึง” มาร์ชพูดสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือโดยที่เขาเลือกที่จะเปิดโหมดวิดีโอแต่เดี๋ยวนะ เขาเรียกชื่อของ เวหา อย่างนั้นเหรอ นะ นี่เขาโทรหานายนั่นทำไม กรี๊ด~(มึงว่าไงนะกูขอคุยกับไอ้คนที่มันกล้ามาจีบเชอรีนหน่อย) เสียงของเวหาดังขึ้นทำให้เชอรีนรีบก้มหน้าลงเธอไม่อยากได้ยินเสียงเขาเลยสักนิด ว่าแต่มาร์ชจะโทรหาเขาทำไมแล้วฟั
“พวกกูจะจำคำพูดของมึงไว้ครับไอ้วิน” สายฟ้าที่กำลังหยิบกุ้งจุ่มลงในหม้อพูดขึ้น เขาและเพื่อนจะจำคำพูดของไอ้วินเอาไว้และขอให้สิ่งที่ไอ้ออสตินพูดเกิดขึ้นจริงด้วยเถอะ อยากจะเห็นมันเป็นฝ่ายจับน้องเขา“ไม่รู้ไอ้มาร์ชเป็นไงบ้างเห็นว่ามหาลัยนั้นก็หนักหน่วงเหมือนกัน” เวหาพูดขึ้นอย่างลอยๆเมื่อเขาเริ่มคิดถึงใครบางคนไม่ว่าจะไปที่ไหนทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่คิดถึงเธออยากจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอเสียเหลือเกิน..ว่าแต่ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ จะมีใครเข้ามาจีบเธอหรือเปล่า ขออย่าให้เธอชอบใครเลยนะเวหาพูดเสร็จก็ลอบถอนหายใจออกมา ความรู้สึกที่เวลาคิดถึงแล้วไม่ได้เจอนี่มันช่างทรมานเหลือเกิน“อยากรู้ของไอ้มาร์ชหรือคนอื่นกันแน่ อยากรู้ก็แค่ถาม” ออสตินที่นั่งข้างพูดขึ้นเขารู้เพื่อนทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้หมายถึงไอ้มาร์ชเหมือนอย่างที่ปากพูดเพ้อออกมาหรอกแต่มันกำลังคิดถึงเชอรีน“เธอบล็อกกูไปแล้ว” เวหาพูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาลองกดโทรออกหาเธอก็ไม่ติดโทรไลน์แชทไลน์ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ไอจีก็โดนบล็อก สีหน้าใน ณ ข
“ลุงคนขับที่บ้านมารับแล้วงั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะทุกคน” เชอรีนมองออกไปด้านนอกก็พบว่ารถของที่บ้านกำลังแล่นเข้ามาจอดยังหน้าร้าน เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนพลางสาวเท้าเดินออกไปขึ้นรถและพร้อมหลับในทันทีไอรีนที่เห็นว่าเชอรีนได้ขึ้นรถกลับไปแล้วเธอจึงหันไปบอกเพื่อนแล้วเดินออกไปจากร้าน“งั้นฉันออกไปโบกแท็กซี่เลยแล้วกัน อยากกลับบ้านไปอาบน้ำจะแย่ ไปก่อนนะวิเวียน เพียว มาร์ช”“อืม บัยบาย” วิเวียนยกมือขึ้นโบกมือร่ำลา ตัวเธอก็ถึงเวลาที่ต้องรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเหมือนกัน“เราไปแล้วนะเพียว ไปก่อนนะมาร์ช” เมื่อบอกเพียวกับมาร์ชเสร็จเธอก็ออกจากร้านเพื่อไปโบกพี่วินให้ไปส่งที่บ้าน“งั้นเราก็กลับห้องกันเถอะ วันนี้เค้าเหนื่อยมากเลย” เพียวส่งเสียงออดอ้อนแฟนหนุ่มแต่เรื่องที่เธอบอกว่าเหนื่อยเธอพูดเรื่องจริงนะเพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้องซึ่งมันก็สนุกดีอยู่หรอกแต่ก็ทำให้ศูนย์เสียเหงื่อจนเกิดเป็นความอ่อนเพลีย“เดี๋ยวมาร์ชนวดให้” มาร์ชผู้ชายที่แสนดียิ้มให้กับแฟนสาว วันนี้หลังจากที่กลับไปถึงห้องเขาคงต้องแสดงฝีมือออกแรงบีบนวดให้เธอสักหน่อย ทั้งสองพากันเดินออกจากร้านอย่างมีความสุขเพียวเอื้อมมือบีบแก
ไอรีนยกมือขึ้นห้ามไม่ว่าอย่างไรรอบนี้เธอต้องได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงชาไข่มุกให้จงได้ วิเวียนที่เห็นถึงความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพของไอรีนเธอก็ได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างยอมรับ“ก็ได้ยังไงก็ขอบคุณนะ”30นาทีต่อมาหลังจากที่ยื่นทำเรื่องขอทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเธอทั้งสี่ก็พากันเดินออกมายังหน้ามหาลัยที่ซึ่งมีร้านชาไข่มุกอยู่ไม่ไกลร้านชาไข่มุกอาชิ“รับอะไรดีคะ” ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเสียงหวานของพนักงานสาวก็ดังขึ้นแม้ว่าเธอจะพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามองก็ตาม เชอรีนที่เดินเข้ามาเป็นคนแรกส่งยิ้มให้กับพนักงานพลางส่งเสียงหวานสั่งเป็นคนแรก“เอาชานมไต้หวันใส่บุก 1แก้วค่ะขอเป็นหวานน้อยนะคะ”“เอาชาเขียวใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” เพียวที่เดินเข้ามาเป็นคนที่สองรีบสั่งเป็นคนถัดไปไอรีนที่ได้ยินเพียวสั่งชาเขียวก็เกิดความอยากกินขึ้นมาบ้าง เธอจึงได้สั่งเหมือนอย่างเช่นเพียว“เป็น 2 แก้วเลยค่ะ”“เอาโกโก้ใส่ไข่มุก 1 แก้วค่ะ” วิเวียนยืนเกร็งเธอจะกินอะไรดี งั้นเป็นโกโก้ก็แล้วกันเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเคยได้กินตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยมโดยส่วนตัวแล้วเธอชอบกินน้ำเปล่าซะมากกว่า พวกน้ำหวานอะไรพวกนี้ไม่ค่อยได้ตก
2 เดือนผ่านไปมหาลัย AUวันเปิดภาคเรียน“ว่าแต่ยัยวิเวียนยังไม่มาอีกเหรอ” เสียงหวานของเชอรีนเอ่ยถามไปยังเพื่อนสนิททั้งสองโดยที่ตัวเธอนั้นพึ่งจะมาถึงและหย่อนก้นนั่งได้ยังไม่ทันจะถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ เพียวกับไอรีนต่างก็ส่ายหน้าเพื่อเป็นคำตอบอย่างพร้อมเพรียงกันครืด~เสียงโทรศัพท์มือถือของไอรีนดังขึ้น มือเล็กหยิบมือถือหันโชว์หน้าจอให้เชอรีนได้เห็นเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ วิเวียน ที่เชอรีนพึ่งจะถามหานั่นเอง“นี่ไงโทรเข้ามาพอดี”ไอรีนกดรับสายหลังจากที่บอกเชอรีนเรียบร้อย ปลายสายรีบเอ่ยถามเพราะตรงที่เธอยืนอยู่ล้วนแล้วแต่มีผู้คนมากมายจึงทำให้ไม่รู้เลยว่ากลุ่มเพื่อนเธอไปนั่งกันอยู่ตรงไหน เมื่อวานก็ดันลืมถามเสียด้วย(ฮัลโหล รออยู่ตรงไหนกันเหรอ เรามาถึงแล้วนะ)“พวกฉันนั่งกันอยู่ตรงข้างๆตึก เดินผ่านคณะของพวกเรามาแล้วเลี้ยวซ้าย”(โอเค อย่าพึ่งวางสายนะ)วิเวียนเดินมาตามทางเดินที่ไอรีนได้บอกตอนนี้เธอเดินมาถึงหน้าคณะแล้วตรงทางข้างหน้ามีทางแยกพอดี เธอเดินเลี้ยวซ้ายไปตามที่เพื่อนได้บอกและเธอก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่ง“วิเวียนทางนี้!!” เสียงของไอรีนดังขึ้นซึ่งนั่นจึงทำให้วิเ
โดยที่มีออสตินเดินตามหลังไปเป็นคนสุดท้ายและด้วยความที่เขามึนเมาจึงทำให้เดินเซไปมาดวงตาพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นทางมากนักจึงได้ชนเข้ากับใครก็ไม่รู้“อะ ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเธอโดนออสตินชนเข้าอย่างจังจนล้มไปนั่งอยู่ที่พื้นแต่เธอก็ยังเลือกที่จะพูดคำขอโทษออกมาทั้งที่เธอก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ชนเขาก่อนด้วยซ้ำแต่เพราะมันคือหน้าที่ประมาณว่าลูกค้าคือพระเจ้าจึงทำให้เธอยินดีที่จะกล่าวคำขอโทษออกไปก่อนไม่ว่าอย่างไรลูกค้าต้องถูกเสมอ...“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอลุกขึ้นยืนพลางขยับกายเดินเข้ามาถามออสตินด้วยความห่วงใยแต่ดูแล้วเขาคงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้งก็ตัวใหญ่ถึงขนาดนี้แถมก็ไม่ได้ล้มไปกองที่พื้นแบบเธอด้วยนี่ออสตินส่ายหน้าพร้อมทั้งเอ่ยคำขอโทษไปยังผู้หญิงคนนั้น สายตาของเขาพยายามจดจ้องมองใบหน้าของเธอแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายกลับทำให้ดวงตาของเขาพร่ามัวจนมองเลือนลาง“อึก~ ฉันไม่เป็นอะไร ขอโทษด้วยเหมือนกัน ฉันมึนๆหัวเลยไม่ได้ดูทาง”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อเธอพูดเสร็จก็โค้งคำนับแล้วเดินจากไปทิ้งออสตินไว้กับความนิ่งเงียบที่มีก่อนที่เสียงของธาวินจะดังขึ้นเพื่อเรียกสติเขา“ไอ้ออสตินทำไมไม่เดินตาม