เขาชอบเธอ แต่เธอปากหมา! เขาไม่ได้อยากร้าย ส่วนเธอไม่ได้อยากรัก ปฏิบัติการว้ากรักจึงเกิดขึ้น .......... ซีรีส์ชุดรุ่นพี่ล่ารัก ประกอบด้วย 1. จะว้ากให้เธอรัก จบแล้ว 2. ตื๊อรักร้ายยัยแฟนเก่า จบแล้ว
View More30 นาทีต่อมาก๊อก ก๊อก ก๊อกฉันเคาะประตูเรียกคนในห้อง แต่ก็ไม่ยอมออกมาเปิด ฉันยืนชั่งใจอยู่หน้าประตูสักพัก ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้อง เข้าไปก็เห็นเขานอนหันหลังให้ประตูอยู่“ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนค่ะ” ฉันเรียกแต่คนตัวโตก็ไม่ยอมขยับพรึบฉันพลิกร่างให้เขานอนหงายก่อนจะนั่งคร่อมเขาเอาไว้ แล้วไล้มือไปตามหน้าอกของเขาช้า ๆ เขามองการกระทำของฉันนิ่ง ๆ“มนต์ขอโทษ ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้แล้วค่ะ” ฉันบอกเขาเสียงหวาน แล้วมองเขาด้วยสายตาเชิญชวนที่สุด“อย่ามายั่ว เดี๋ยวจะไม่ได้นอน” เขอพูดแล้วจับเอวจะให้ฉันลงจากตัวเขา แต่ฉันไม่ยอม นั่งบดเบียดให้ส่วนนั้นของเขากับฉันบดเบียดกันมากกว่าเดิม“น้ำมนต์”“หายโกรธมนต์สิคะ แล้วมนต์จะหยุด นะ นะคะ” เขามองฉันนิ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“มาง้อแบบนี้คิดดีแล้ว” เขาถามฉันจึงพยักหน้าเขิน ๆ ให้เขาไปพรึบอะ “ขอบคุณนะครับ” ตัวของฉันถูกกดลงบนเตียงนอน ในใจเต้นตึกตัก รอคอยสัมผัสจากเขา จมูกเธอได้กลิ่นครีมอาบน้ำที่เขาใช้ ทำไมนะทั้ง ๆ ที่ห้องของเขาและฉันใช้สบู่กลิ่นเดียวกัน แต่กลับรู้สึกว่าเมื่อมันอยู่บนตัวเขาแล้วมันดันหอมกว่าซะงั้นจุ๊บ จ๊วบเขาค่อย ๆ ไล่จูบฉันตั้งแต่
1 ปีผ่านไป ทุกคนคะตอนนี้ฉันขึ้นปีสองแล้วค่ะ ส่วนเฮียพายุก็อยู่ปีสี่แล้ว ปีนี้เฮียพายุฝึกงาน เราจึงไม่ค่อยได้เจอกันนัก เจอกันอาทิตย์ละสองถึงสามวันก็เท่านั้นเองแต่ฉันไม่เคยน้อยใจเขานะคะ เข้าใจเขาซะอีก เพราะงานเขาเยอะมาก ไหนงานที่จะต้องฝึก ไหนจะงานที่ผับเขาอีก เขาไม่ป่วยก็ดีสุด ๆ แล้วค่ะ ที่สำคัญถึงเราจะไม่เจอกัน แต่เฮียพายุเขาก็หาเวลาโทรมาคุยกับฉันทุกครั้ง ทุกครั้งที่โทรมาก็จะอ้อนนั่นอ้อนนี่ไปเรื่อยตามแบบฉบับเขานั่นแหละค่ะขออัปเดตเรื่องราวของเพื่อนสักหน่อย ยัยหวานกับพี่ดินก็หลังจากที่ผ่านการระหองระแหงกันคราวนั้นได้ก็รักกันปานจะกลืนกิน ชีวิตมีแต่สีชมพูไม่อมทุกข์โศกเหมือนใครเขาส่วนคู่พิ้งค์รายนั้นพี่วินก็ตามง้อขอคืนดีจนได้ แต่กว่ายัยพิ้งค์จะคืนดีด้วย ก็ตอนมาขึ้นปีสองนี่แหละค่ะ นางบอกว่าต้องดูให้แน่ใจก่อน จะให้โอกาสแต่ละครั้งต้องคิดดี ๆ เพราะไม่อยากเสียใจส่วนคู่ที่ฉันห่วงสุดคือยัยทิพย์กับพี่เหนือนี่แหละค่ะ ตอนนี้ทะเลาะกันหนักมาก ทะเลาะจนพี่เหนือขอห่างกับมันมาเป็นเดือนแล้ว มันเล่าให้ฟังพี่เหนือเขาเบื่อและรำคาญที่มันหึงเขากับน้องข้างบ้าน ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่ามันไม่มีอะไร แต่นางก็ยังหึง ฉั
อื้อฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อมีแสงเล็ดลอดผ่านม่านระเบียงห้องเขามา แสงแดดที่ส่องผ่าน ทำให้ฉันต้องกะพริบตาหลายครั้งเพื่อนให้คุ้นชินกับสภาพแสงในห้อง ฉันไล่สายตาไปรอบ ๆ ห้องอย่างไม่คุ้นชิน เพราะที่นี่มันไม่ใช่ห้องฉัน ก่อนจะก้มลงมองที่เอวเมื่อรู้สึกมีอะไรรัดเอวอยู่“เฮียพายุ”ทันทีที่ฉันก้มหน้าลงไปมองที่เอวก็เจอกับวงแขนที่กอดรัดเอวฉันไว้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ว่าแต่ฉันมาอยู่ที่ห้องพี่พายุได้ยังไง นี่คอนโดเขาเหรอ เอ๊ะ ทำไมรู้สึกโหวงเหวงข้างในนะ“กรี๊ดดดด”ฉันกรี๊ดออมาอย่างตกใจ เมื่อก้อมหน้ามองดูที่คอเสื้อ ฉันไม่ได้ใส่เสื้อใน!“มนต์เป็นไร ใครทำอะไรครับ”“เฮียนั่นแหละทำอะไรมนต์”“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร” เขาตอบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน“เฮียคะ ไม่ตลกนะ”“แล้วเราคิดว่าเฮียทำอะไรละ”“เฮียจิ้มมนต์แล้วใช่ไหม”โป๊ก“โอ๊ย เฮียดีดหน้าผากมนต์ทำไม มนต์เจ็บนะ คนฉวยโอกาส”“คิดดี ๆ ถ้าเฮียจิ้มมนต์ เราจะมีแรงลุกมาโวยวายไหม” ฉันคิดตามที่เขาพูด แล้วตรวจสภาพตัวเองก็พบว่าทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมขาดก็แต่เสื้อในเท่านั้นที่หายไป“แล้วเฮียทำอะไรบ้างละคะ” ฉันถามเขาพร้อมทำหน้างอ“จะให้พูดจริงเหรอ”“เฮีย!!” ฉันมองเขาทั้ง
ผมมองน้ำมนต์ด้วยความไม่พอใจไม่ใช่ว่าเธอตบรุ้งนะ แต่เพราะบนใบหน้าของเธอมีรอยแดง เป็นรอยนิ้วมือปรากฏอยู่ ผมเคยบอกเธอแล้ว ว่าอย่าทำให้ตัวเองเจ็บตัว แล้วดูตอนนี้สิหมับ“จะไปไหน”“...” เธอไม่ตอบแต่พยายามสะบัดแขนออกจากมือของผม นี่คงจะคิดเองเออเอง ว่าผมเข้าข้างรุ้งสินะ เหอะ ผมไม่ได้โง่เหมือนพระเอกในละครนะครับที่พอเห็นฉากที่นางเอกมีเรื่องกับนางร้าย แล้วจะเข้าข้างนางร้ายด่านางเอก ผมพายุครับ ผมไม่ได้โง่!!! ผมคบกับมนต์มาตั้งหลายเดือน คิดเหรอว่าผมจะไม่รู้ว่าแฟนตัวเองนิสัยยังไง“ปล่อย”“จะไปไหน อยู่คุยกันก่อน” ผมพูดกับคนที่เริ่มดื้อ คอยดูสิเดี๋ยวก็ร้องไห้ อะนั่นไงน้ำตาไหลแล้ว ผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย คิดมากไปเองอะมนต์“พี่พายุคะ รุ้งเจ็บ” ผมดึงมนต์เข้ามากอดไว้แน่น เมื่อเห็นเธอร้องไห้ แล้วมองไปที่ไอ้วินให้มันพยุงรุ้งขึ้นมา“แฟนผมก็เจ็บ”“พี่พายุ!” รุ้งเรียกผมอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ผมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเอง ส่วนยัยตัวแสบที่อยู่ในอ้อมกอดผมก็เงยหน้าขึ้นมามองผมทั้งน้ำตา จนผมต้องเอื้อมมือไปเช็ดหยดน้ำตาออกจากใบหน้าให้อย่างแผ่วเบา“แต่มนต์เขาทำร้ายรุ้งนะคะ พี่พายุควรจะปลอบรุ้งสิ”“ทำไมฉันต้องปลอบเธอ รุ้
วันสอบวันสุดท้าย“ไงพวกแกทำได้กันไหมวะ”“อื้อได้” ฉันเอ่ยถามเพื่อน ๆ ของฉัน หลังจากแกจากห้องสอบแล้วใช่ค่ะวันนี้เป็นวันที่พวกฉันสอบวันสุดท้าย ตลอดอาทิตย์นี้ ฉันกับพี่พายุก็ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่เพราะว่าพี่เขาก็อ่านหนังสือเตรียมสอบเหมือน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ทั้งโทรทั้งไลน์มาคุยกับฉันอยู่ดี"กลับเลยไหม ไหน ๆ ก็สอบเสร็จแล้ว”“พวกแกกลับก่อนเลย ฉันขอรอเฮียพายุก่อน เฮียเขาบอกให้รอ” ฉันตอบยัยพิ้งค์ พวกมันก็พยักหน้ารับก่อนที่จะเดินแยกออกไปขออัปเดตเรื่องราวของยัยพิ้งค์กับพี่วินหน่อยนะ ตอนนี้เขาสองคนเลิกกันแล้วละ สวนพี่วินก็พยายามตามง้อ แต่ยัยพิ้งค์ไม่ยอมคืนนี้ ฉันถามมันว่าทำไม มันบอกฉันว่า วันนั้นที่มันร้องไห้มันตั้งใจจะไปง้อพี่วิน เพราะพี่วินงอนนางอยู่ แต่พอเปิดประตูเข้าไปนางกลับโดนเซอร์ไพรส์ซะเองพี่วินนอนอยู่บนเตียงกับคู่หมั้นเสื้อผ้าไม่ได้ใส่ พี่วินก็พยายามจะอธิบาย แต่นางไม่ฟังวิ่งร้องไห้ออกมา จนในที่สุดนางก็ตัดสินใจบอกเลิกพี่วิน พี่วินตัดสินใจมาพูดคุยกับพวกฉัน ขอให้พวกฉันช่วยจนพวกฉันต้องบอกพี่วินไปตรง ๆ ว่าเรื่องนี้ช่วยอะไรไม่ได้ พี่วินผูกเองก็ต้องแก้เอง แล้วฉันยังบอกพี่วินอีกว่า คนอ
ผมนั่งมองคนที่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับตั้งแต่รถเข้ามาจอดในบ้าน ตอน แรกก็เห็นว่ายิ้มออกแล้วไม่คิดว่าจะขนาดนี้ นั่งนิ่งเป็นหินเลย“ไปครับ ไปเจอครอบครัวเฮียได้แล้ว” ผมหันไปบอกคนที่ทำหน้าจะร้องไห้อยู่ ผมเลยเลือกที่จะลงรถแล้วลงไปเปิดประตูรถให้เธอก่อนที่จะจับมือเธอลงมาจากรถ“พวกท่านจะรักมนต์ เชื่อเฮียนะครับ” ผมบอกคนตัวเล็กอีกครั้ง“ไหน คนที่มั่นใจในตัวเองไปไหนแล้ว น้ำมนต์ที่ปากหมาคนนั้นอยู่ไหนครับ หืม” ผมแกล้งว่าให้คนตัวเล็กก่อนที่ผมจะได้ค้อนวงโตจากเธอ “ไปครับ” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะจับมือเธอเดินเข้าไปในบ้าน ไม่รู้จะเกร็งอะไรขนาดนั้น ไม่ได้พามาฆ่าสักหน่อย“อ้าวมาแล้วเหรอตายุ”“ครับคุณพ่อ แล้วนี่คุณแม่กับคุณย่าไปไหนครับ” ผมถามเมื่อไม่เห็นท่านทั้งสองคน“เข้าครัวนะ ทำอาหารรับขวัญแฟนแก”“นี่น้ำมนต์ครับ มนต์นี่พ่อเฮีย”“สวัสดีค่ะคุณลุง”“เรียกพ่อเหมือนตายุเถอะหนูมนต์”“เอ่อ ค่ะ คุณพ่อ” ผมยิ้มออกมาเมื่อเธอยอมเรียกพ่อผมว่าพ่อ ส่วนพ่อก็มองผมด้วยสายตาที่รู้ทัน ผมก็มองคนตัวเล็กที่นั่งเกร็งไม่ยอมขยับ ไม่กล้าพูด น่าเอ็นดูจริง ๆ“อ้าวตายุมาแล้วเหรอ น้องล่ะ”“อยู่นี่ไงครับคุณแม่ มนต์นี่คุณย่ากับคุณแม่ของเฮียเอง”
“ยัยมนต์”“...” ฉันไปตอบแต่มองคนตรงหน้าแทน“ขอบใจนะที่มาเป็นแบบให้”“อืม ฉันไปละ” พูดจบฉันก็จะเดินออกไปจากสตูที่เราใช้ถ่ายงาน“เดี๋ยว ระวังผู้หญิงที่ชื่อรุ้งดี ๆ ถ้าเธอพลาดเธอจะเสียใจเหมือนฉัน ครั้งหนึ่งฉันมีเคยมีแฟนและรักกันมาก แต่พอพี่เขามาเรียนต่อมาเจอกับยัยรุ้งนั่น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป”“...”“ฉันกับเขาต้องเลิกกัน ผู้หญิงคนนี้ทำได้ทุกอย่างที่อยากได้ ไม่สนแม้กระทั่งความถูกผิด ถ้าเธอคิดว่าฉันร้าย ฉันยอมรับ แต่ผู้หญิงอย่างยัยนั่นเรียกว่าร้ายไม่ได้หรอกนะ เพราะยัยนั่นมันเลว ระวังดี ๆ ล่ะ” ฉันยืนหันหลังฟังยัยพรรณพูด สงสัยยัยรุ้งนะร้ายกว่าที่คิดแฮะคนไม่ชอบหน้ากันอย่างยัยพรรณถึงได้ออกปากเตือน“อืม ขอบใจ แค่นี้ใช่ไหม ฉันไปล่ะ”“เดี๋ยว”“อะไรอีก”“พี่พายุอะ เด็ดดีนะ เตรียมตัวให้พร้อมละ อย่าทำให้โกรธเชียวเดี๋ยวชะตา...ขาด จะหาว่าฉันไม่เตือน หึ”“ยัย..” ฉันหันไปกะว่าจะด่ายัยพรรณนี่เต็มที่ แต่มันดันเดินหนีไปแล้ว หนอยแหนะขิงว่าตัวเองได้พี่พายุงั้นเหรอ แล้วมีการบอกว่าเตรียมตัวเพราะชะตา..จะขาดอีก ยัยบ้านี่ ไม่ชอบหน้ากันยังไงก็ไม่ชอบอย่างนั้น สงสัยจะดีกันไม่ได้ ยัยอสรพิษเอ้ยตืด...ตืด...“ทำไมรับช้า
เฮ้อฉันนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่สิบ หนักใจ หนักใจจริง ๆ“แกเป็นอะไรของแกยัยมนต์ มีเรื่องอะไร” ฉันมองหน้ายัยหวาน ที่มันนั่งมองหน้าฉัน นั่งดูฉันถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ จนอดที่จะถามออกมาไม่ได้“ก็ คืองี้ ยัยพรรณมาขอร้องให้ฉันไปเป็นแบบให้กลุ่มนางถ่ายรูปหน่อย เพราะอาจารย์วิชานาง บอกว่า ถ้าให้ฉันไปเป็นแบบให้นางไม่ได้ พวกนางทั้งกลุ่มก็จะไม่ได้เข้าสอบ”“อ้าว ไมเป็นงั้นละ”“นางบอกฉันว่า อาจารย์สั่งงานชิ้นนี้ตั้งแต่จบกิจกรรมการแข่งขัน แต่นางไม่ชอบหน้าฉัน ค่อนข้างจะเกลียดขี้หน้า เพราะฉันชนะนาง ตามแบบฉบับพวกอีโก้สูงนั่นแหละ นางเลยไม่ยอมมาติดต่อ”“แล้ว”“ก็พออาจารย์เห็นว่ามันนานแล้วแต่กลุ่มนางยังไม่ได้ส่ง อาจารย์ก็เลยถามถึง แล้วพอนางตอบไม่ได้ อาจารย์ก็เลยบอกมาแบบนั้น”“แล้วคนอื่นไม่ได้เหรอ”“ฉันถามนางแล้ว แต่อาจารย์ไม่ยอม เพราะอาจารย์อยากให้ฉันเป็นแบบมาก เห็นว่ากลุ่มนางเป็นศูนย์รวมคนเก่ง โดยเฉพาะตากล้องนะ แล้วอาจารย์ก็อยากเป็นแบ็กหลังให้ตากล้องคนนี้ส่งภาพประกวดด้วย เลยรีเควสมาว่าขอเป็นฉันเลย”“...”“ความจริงอาจารย์บอกนางว่า ถ้านางบอกปัญหาที่มีมาตั้งแต่แรก อาจจะเปลี่ยนคนหรือธีมได้ แต่นี่มารู้ตอนนี้”“อา
“พี่พายุคะ พี่พายุ” “...”“พี่พายุคะ ตื่นค่ะ กินข้าวเร็วจะได้กินยา”“ฮือ พี่นอนก่อนนะ เอาไว้ก่อน”“ไม่ได้ค่ะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”“...”“ถ้าพี่พายุไม่ลุกขึ้นมา มนต์จะไม่คุยด้วยแล้วนะคะ”“โอ๊ย มนต์อะ” ฉันมองคนตรงหน้าที่ลุกขึ้นมานั่งหน้าบูด ตาก็แดง แก้มก็แดง สงสัยไข้จะเล่นงานแล้วแน่เลย“ไปล้างหน้าค่ะ แล้วมากินข้าว ให้ไวเลยนะคะ!”“...” เขามองหน้าฉันแล้วสะบัดหน้าหนีลุกไปล้างหน้า ก่อนจะเดินกลับมานั่งหน้าบูดที่โซฟา“กินข้าวค่ะ จะได้กินยา จะได้หาย”“...”“อย่าดื้อนะคะพี่พายุ มนต์ไม่อยากทะเลาะกับพี่นะ” เท่านั้นแหละคะ คนตรงหน้าเบ้หน้าเลย นี่อย่าบอกนะว่าจะร้องไห้นะ บ้าไปแล้ว เขาเสียสติไปแล้วแน่ ๆ“หยุดเบ้ปากเลยค่ะ ทานข้าว หยุดนะ” ฉันพูดแต่เขาก็ยังไม่ยอมกินข้าว จนฉันต้องหยิบถ้วยเข้าต้มมาใกล้ตัว ก่อนที่จะหยิบช้อนตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าแล้วยกป้อนเขา“มาค่ะ มนต์ไม่ดุแล้ว อะนี่กินนะคะ มนต์ป้อน” เขาอ้าปากรับข้าวที่ฉันป้อนช้อนแล้วช้อนเล่า จนข้าวต้มในถ้วยหมดฮึกพอฉันเงยหน้ามองอีกที ก็ต้องตกใจและแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ที่คนตรงหน้าพยายามห้ามเสียงร้องไห้ของตัวเอง ค่ะได้ยินไม่ผิดเขา ร้อง ไห้!!!โอ้พระเจ้
ณ ลานเกียร์"ก้มหน้าลงไป!!!”ณ เสียงที่ตะโกนดังลั่นลานเกียร์ อย่าเพิ่งตกใจกันนะคะ เรากำลังรับน้อง แต่ไม่เข้าใจ๊ไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องมารับน้องที่นี่ด้วย รู้อะไรไหมคะ ฉันล่ะเบื่อที่จะอยู่ในกฎเกณฑ์ เกลียดการถูกบังคับเป็นที่สุด อุตส่าห์เรียนบริหารกะว่าจะสบาย ๆ ไม่ต้องรับน้องเหมือนรุ่นพี่ปีที่แล้ว ฮึ่ยเจ็บใจ จะอะไรล่ะ เพราะปีที่แล้วน่ะรุ่นพี่เขารับรุ่นกันอย่างสบายไม่ต้องตกระกำลำบาก ไม่ต้องร้อนไม่ต้องนั่งตากแดด ไม่ต้องทนความกดดัน แต่ดูปีฉันสิ ดู๊!"เงยหน้าทำไม!! ใครสั่งพวกคุณครับ ก้มหน้าลงไป!!!".นั่นแหละค่ะอย่างที่ได้ยินเลย ไอ้พวกรุ่นพี่เก็บกดเอ้ย ว้ากเอา ๆ ไม่เจ็บคอหรือไง มันเซอร์ไพรส์รับน้องโหดที่รุ่นฉันยังไม่พอ รุ่นฉันยังมากับความโชคดีโชคดีกับผีอะไรล่ะ โชคร้ายนะสิไม่ว่า เพราะเป็นปีแรกที่คณะบริหารต้องมารับน้องรวมกับคณะวิศวะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเถื่อนถ่อยที่สุด อยากจะบ้าตาย ฮึ่ม"ใครสั่งให้พูด มีมารยาทกันไหม...ครับ"ยัง ยังไม่จบ หันไปข้าง ๆ เพื่อนสาวเจ้าน้ำตาของฉันน้ำตาคลอแล้ว หันไปมองอีกคนก็กำมือแน่น อีกคนก็นิ่งไม่ขยับ ถ้ายังไม่หยุด จะขึ้นแล้วนะเว้ย"เลิกเชียร์ได้ครับ" สวรรค์"ฮือแ...
Comments