มนสิชาประสบอุบัติเหตุ ทำให้เธอติดอยู่ในฝัน พร้อมกับเพื่อนใหม่อีกสองคน คือ ปุยฝ้ายและชูครีม ฝันแฟนตาซีที่มีมอนสเตอร์ สเลฟ(สัตว์ประจำตัวของแต่ละคน) และพลังบรรดาลเหนือจิตนาการที่ทำให้แต่ละคนต่างกัน พวกเธอทั้งสามคนดิ้นรนจะออกจากฝันให้ได้ แต่ผู้สร้างจะเตรียมเมืองให้พวกเธอและคนอีกนับพันไว้เพื่ออะไร ไม่นับคนรักสุดหล่อของมนสิชาที่พยายามช่วยเธอหาทางกลับมาโลกปัจจุบัน มาร่วมผจญภัยในเมืองนิทรากัน (หมายเหตุ มีฉากน่าหวาดเสียว และความเซ็กซี่น่ารักๆของสาวๆในเรื่องด้วย)
View Moreมนสิชารู้สึกเครียดมากที่รู้ว่าตัวเองหลุดมาอยู่ในโลกแห่งความฝัน เธอคงประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง เธอรับไม่ได้กับสถานการณ์ตอนนี้ หญิงสาวยกสองมือขึ้นกุมศีรษะแล้วส่ายหน้าอย่างแรง "อย่าเพิ่งเครียดไปเลย ตามพวกเรามาทางนี้ดีกว่า" ปุยฝ้ายชวนด้วยน้ำเสียงสดใส เธอประสานมือไว้ด้านหลังแล้วแอ่นตัวมาด้านหน้า มองมนสิชาด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ สองสาวเดินพามนสิชาไปโรงอาหารที่อยู่ตรงข้ามกับตึกบริหาร มีโต๊ะไม้ตัวยาววางเรียงกันอย่างแน่นขนัดจนแทบไม่มีที่ว่างให้เดิน เป็นสัญญาณบอกว่าสมัยหนึ่งโรงเรียนแห่งนี้เคยมีนักเรียนมานั่งทานอาหารเกินกว่าที่โรงอาหารจะรับมือไหว ร้านอาหารมีพ่อค้าแม่ค้าวัยรุ่นยืนขายอาหาร หน้าตาพวกเขาไม่ได้ดูแก่ไปกว่าสองสาวเท่าไรนัก "เวลามาตึกเรียนส่วนกลาง พวกเราก็ชอบมากินข้าวที่นี่แหละค่ะ ว่าแต่ว่าเธอชื่ออะไรเหรอคะ" ชูครีมเริ่มต้นประโยคสนทนาด้วยความสุภาพ "พี่ชื่อมนสิชาจ้ะ เรียกพี่มนก็ได้ แล้วน้องๆ" "ปุยฝ้าย" "ชูครีมค่ะ" สองสาวเอ่ยชื่อเล่นตัวเองอย่างเรียบง่าย
ขณะเดียวกันในโลกแห่งความเป็นจริง ร่างของมนสิชาและหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ถูกเข็นเข้ามาในโรงพยาบาลกิตติวินท์ วินมอเตอร์ไซค์มีเลือดเปรอะลำตัวและใบหน้า ข้อศอกทำองศาบิดเบี้ยวอย่างคนแขนหัก มีแผลแตกตามตัว สัญญาณชีพของเขาหายไปจากหน้าจอ พยาบาลจึงกระโดดขึ้นบนเตียงเพื่อปั๊มหัวใจให้ชายหนุ่ม "สัญญาณชีพไม่มาเลยค่ะ" พยาบาลรายงานหมอเวรที่เดินกึ่งวิ่งเข้ามา "กระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องช็อกไฟฟ้า" หมอเวรเอ่ยเสียงเรียบ พยาบาลติดตั้งเครื่องช็อกไฟฟ้า หมอหนุ่มมองเครื่องช็อกไฟฟ้า ก่อนหันมาสั่งเสียงเฉียบขาด "กดปุ่มช็อก" หมอกดเครื่องช็อตไฟฟ้าลงไปบนหน้าอก แล้วกดหน้าอกต่อ ทำซ้ำหลายครั้ง ร่างของวินมอเตอร์ไซด์สงบนิ่ง ไม่ตอบสนองต่อการช่วยเหลือ "เวลาเสียชีวิต สิบเอ็ดนาฬิกายี่สิบเอ็ดนาที" พยาบาลถือชาร์ตคอยจดตามหลัง เสียงเขียนทำลายความเงียบในห้องฉุกเฉิน หมอเวรถอนหายใจเดินไปยังเตียงของมนสิชาซึ่งอยู่ถัดไป ตอนเกิดอุบัติเหตุมนสิชาโดนรถเก๋งสีดำกระแทกขาเข้าอย่างจัง ที่ขาเธอจึงมีเผือกชั่วคร
"ไปโรงเรียนวรรณวิลาศค่ะ" มนสิชาตะโกนบอกกับวินมอเตอร์ไซค์ที่นั่งอยู่ริมฟุตบาท ชายหนุ่มร่างผอมหันมาตามเสียง เจอสาววัยยี่สิบเจ็ดทรงโต ก้นงอน เอวบาง หุ่นระดับนางแบบของเธอทำเอาวินมอเตอร์ไซค์อ้าปากค้าง หญิงสาวสวมสูทสีเทาถือแฟ้มใส่เอกสารแนบอก มืออีกข้างแขวนกระเป๋าใบเล็กมาด้วย "เฮ้ย หน้าสวยด้วยว่ะ" เพื่อนวินอีกคนกระซิบ ทำเสียงซื๊ดซ๊าดในปาก มนสิชาทำเป็นไม่ใส่ใจ เธอเจอจนชิน เพราะทรงโตนี่แหละ เรียกสายตาหื่นได้ดีนัก บางครั้งก็เรียกความช่วยเหลือมาจากเสี่ย ผู้บริหาร ชายแปลกหน้าได้ดี แถมสายตาร้อนๆ จากเหล่าผู้หญิงรอบตัว แต่ถ้าเธอสนใจรวยทางลัด เธอคงไม่มาสอบสัมภาษณ์งานที่โรงเรียนเล็กๆอย่างนี้ "ไม่มีหมวกไม่ไปนะคะ" มนสิชาบอก "เบื่อเวลาตำรวจเรียก" "ไอ็น็อต ยืมหมวกหน่อยโว้ย" วินมอเตอร์ไซค์ผอมบางไม่พูดเปล่า แย่งหมวกกันน็อคมาจากตะกร้าหน้ารถเพื่อน เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงักแล้วส่งยิ้มเพ้อฝันมาให้หญิงสาว "ยินดีครับ ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ" น็อตจ้องเขม็งมาที่หล่อน น้ำลายแทบจะไหล มนสิชายิ้มต
"ไปโรงเรียนวรรณวิลาศค่ะ" มนสิชาตะโกนบอกกับวินมอเตอร์ไซค์ที่นั่งอยู่ริมฟุตบาท ชายหนุ่มร่างผอมหันมาตามเสียง เจอสาววัยยี่สิบเจ็ดทรงโต ก้นงอน เอวบาง หุ่นระดับนางแบบของเธอทำเอาวินมอเตอร์ไซค์อ้าปากค้าง หญิงสาวสวมสูทสีเทาถือแฟ้มใส่เอกสารแนบอก มืออีกข้างแขวนกระเป๋าใบเล็กมาด้วย "เฮ้ย หน้าสวยด้วยว่ะ" เพื่อนวินอีกคนกระซิบ ทำเสียงซื๊ดซ๊าดในปาก มนสิชาทำเป็นไม่ใส่ใจ เธอเจอจนชิน เพราะทรงโตนี่แหละ เรียกสายตาหื่นได้ดีนัก บางครั้งก็เรียกความช่วยเหลือมาจากเสี่ย ผู้บริหาร ชายแปลกหน้าได้ดี แถมสายตาร้อนๆ จากเหล่าผู้หญิงรอบตัว แต่ถ้าเธอสนใจรวยทางลัด เธอคงไม่มาสอบสัมภาษณ์งานที่โรงเรียนเล็กๆอย่างนี้ "ไม่มีหมวกไม่ไปนะคะ" มนสิชาบอก "เบื่อเวลาตำรวจเรียก" "ไอ็น็อต ยืมหมวกหน่อยโว้ย" วินมอเตอร์ไซค์ผอมบางไม่พูดเปล่า แย่งหมวกกันน็อคมาจากตะกร้าหน้ารถเพื่อน เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงักแล้วส่งยิ้มเพ้อฝันมาให้หญิงสาว "ยินดีครับ ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ" น็อตจ้องเขม็งมาที่หล่อน น้ำลายแทบจะไหล มนสิชายิ้มต...
Comments