ณ โรงอาหาร
โรงอาหารติดแอร์แสนไฮโซโก้เก๋ที่มานั่งจ่อมอยู่มีนักศึกษาค่อนข้างหนาตา ถามว่าฉันเต็มใจมาไหม ไม่เลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ เหอะๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เวลานี้ฉันควรไปหาเพื่อนรักที่นัดกันไว้สิถึงจะถูก แต่ติดที่ยังไปไม่ได้ไง เพราะโดนไอ้บ้าขุนพลมันยึดกระเป๋าเอาไว้แล้วฉันจะไปไหนได้ยังไง
“อ้าปากดิหมู” ฉันปรายสายตาอันขุ่นขวางมองคนพูดเล็กน้อย ข้าวหน้าหมูเกาหลีอยู่ในช้อนที่ตักเอาไว้แบบพอดีคำถูกยื่นมาจ่อที่ปากฉัน ทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ สายตากึ่งบังคับของขุนพลทำให้ฉันอ้าปากกินอย่างไม่เต็มใจ รสชาติมันแม้จะอร่อยแต่มันฝืดเคือง เพราะฉันไม่มีอารมณ์อยากกินอะไรทั้งนั้น
“ไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกับนาย” ฉันบอกตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งมันทำให้นายขุนชักสีหน้าใส่ฉันราวกับว่าอยากจะขย้ำคอฉันให้ตายคามือมันซะเดี๋ยวนี้เลย โหดร้ายป่าเถื่อนไปไหน คนเขาไม่อยากก็คือไม่อยากปะ
“สงสัยหมูตัวนี้อยากโดนขย้ำ ถึงได้กล้าพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา” ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกันอย่างนั้นเหรอ หึๆ รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นตรงมุมปาก พลางจับยึดปลายคางหมูแดงที่ทำท่าเลิกลักไว้มั่น โน้มหน้าลงต่ำจนหน้าผากแตะกัน ปากเล็กอ้าอย่างต้องการประท้วง และเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่รอจังหวะได้เสียบทันที
อุ๊บส์
หวานอย่างที่คิดเอาไว้เลย ปากเล็กๆ น่ารักของลูกหมูน้อยตัวนี้หวานและหอมชวนให้อยากลิ้มรสนานๆ เรียวลิ้นเล็กอมชมพูอย่างคนสุขภาพดีพยายามหลบหลีกมันเงอะงะไม่เป็นงานยิ่งกระตุ้นให้เกิดความอยากสอน สัญชาติญาณบอกให้รู้ว่านี่มันคือจูบแรกของเธอ ความลำพองใจบวกอิ่มเอมใจส่งผลให้ผู้มีประสบการณ์มามากมายเรียกร้องตักตวงน้ำผึ้งหวานอย่างดูดดื่ม
“อ่าส์”
สองมือน้อยเกาะบ่าหนาเอาไว้มั่นทั้งจิกทั้งเกร็ง ใบหน้าจิ้มลิ้มกลายเป็นสีชมพูจัดในเวลารวดเร็ว อาการเหมือนคนกำลังขาดอากาศหายใจบวกสำลักน้ำ ทำไมมันช่างทรมานปนซาบซ่านและรู้สึกดีแบบแปลกๆ หัวใจก็เต้นแรงมากจนกลัวว่ามันจะทะลุออกมาเต้นโชว์ข้างนอก จูบแรกของฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นที่โรงอาหารท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนอื่นไอ้บ้าขุน!
“เหยด นานไปแล้วนะเว้ยไอห่าขุน กูกลัวว่าน้องหมูแดงจะขาดใจตายคาอกมันก่อนจริงๆ พอเหอะว่ะ เอาตามตรงเลยนะ กูเนี่ยอิจฉามึงหนักมากขอรับท่านขุน กลางโรงอาหารไม่ว่า แต่ต่อหน้าต่อตากูเนี่ยรับไม่ได้” จิวร้องครางพลางหันหน้าไปสบตากับเคนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคนทั้งคู่เอาไว้
“เออ ทำงามหน้าจังเลยเพื่อนกู ดูดปากแลกลิ้นกันเข้าไปชุดใหญ่ไฟกระพริบขนาดนี้ เล่นทำเอาหนุ่มสาวแถวนี้นั่งหนาวสั่นกันหมดเลย” เคนยิ้มล้อเลียนเมื่อสบกับสายตาขุ่นขวางของขุนพลที่ตวัดมองและชูนิ้วกลางให้เป็นของแถม ฉันล่ะอายมากจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เลย
“อยากโดนจูบอีกไหม”
“ไอ้ขุนคนบ้าหน้าด้าน นายกล้าดียังไงมาจูบฉันต่อหน้าคนเป็นร้อยห๊า!” ฉันอยากจะกางมือข่วนหน้าหมอนี่นัก โอยเหนื่อยเป็นบ้าเลย ร่างกายอ่อนปวกเปียก ลมหายใจหอบสะท้านราวกับเพิ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอลขนาดใหญ่มาหลายรอบ จูบบ้าจูบบออะไร แถมยังต้องมาอับอายด้วยเนี่ย ฮือ หมูแดงอยากตายจริงๆ เลย อยากเกิดเป็นตัวตุ่นขึ้นมากะทันหันเลยจะได้มุดดินหนีออกไปจากตรงนี้ ไอ้พวกเพื่อนนายขุนพลบ้านี่ก็ช่างหยอดช่างแซ็วให้คนสวยได้อับอายขายขี้หน้าจนไม่กล้าโงหัวงามๆ ขึ้นมาสบตากับใครแล้วเนี่ย แง...
ฉันต้องรวบรวมกำลังวังชาที่เหือดหายไปให้รีบกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด นั่งอยู่อย่างนี้มีแต่เสียเปรียบ ไอ้บ้าขุมมันคอยเอาจมูกมาคลอเคลียไม่ห่างเลย ไม่ว่าจะขมับ แก้ม หรือมุมปาก มือไม้ที่สงสัยจะเป็นญาติกับปลาหมึกก็ลูบอยู่ที่เอวฉันอย่างไร้มารยาท ผลักออกแล้วแต่หมอนี่มันไม่ยอมขยับเขยื้อน
“ถ้าเราจูบกันสองคนโดยไม่มีคนอื่นจับจ้องเธอก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมหมู โอ๊ย! ยัยลูกหมูปีศาจ ฉันเจ็บนะ หยิกมาได้ ถ้าเจอกัดคืนแล้วจะร้องไม่ออก” ไอ้บ้าขุนมันแหกปากร้องอย่างกับควายถูกเชือด เจ้ามารยาไม่มีใครเกินหมอนี่อีกแล้ว
“อย่ามาปากดีกับฉันนายขุน! นายทำให้ฉันอับอายต้องรับผิดชอบรู้ไว้ซะด้วย!” ฉันชักเกลียดสายตาของหมอนี่จริงจังแล้วนะ มันเจ้าเล่ห์และน่าตบไปพร้อมๆ กันเลย คำอธิษฐานเมื่อเช้าเธอจะไม่ขอถ้ารู้ว่าต้องมาเจอกับไอ้คนบ้านี่
“อืม จะรับผิดชอบทั้งตัวเลยตกลงไหม”
“ฮิ้ววว”
วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมากเป็นพิเศษเพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะว่าไอ้บ้าขุนน่ะสิที่เกาะติดฉันเป็นปลิงเป็นปลวกเลย ช่วงบ่ายที่มีเรียนอาจารย์ก็งดคลาสเหตุผลคือเปิดเทอมวันแรกไม่มีอะไรมากยังไม่อยากสอน ซึ่งมันจะดีมากเลยไงถ้าไม่มีนายขุนพลตามติดก้นต้อยๆ ไปทุกที่อยู่แบบนี้ พอถามเขาก็บอกว่าถึงมีก็ไม่เข้าได้มีเพื่อนเป็นถึงลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยจะกลัวทำไม โถ เออดีเนอะเหตุผลหมอนี่ฟังเข้าท่าซะไม่มี ฉันควรอิจฉาดีไหมเนี่ย เอาล่ะๆ พักเรื่องนายขุนคนน่ามึนแล้วมาคิดถึงเรื่องตัวเองบ้างดีกว่าฉันน่ะเป็นลูกสาวคนเล็กสุดของป๋าม๊ามีพี่ชายสองคนชื่อเฮียหนึ่งคนที่สองชื่อเฮียสอง สุดท้ายหมวยเล็กที่มีชื่อกิ๋บเก๋ต่างจากพี่ๆคือหมูแดง เป็นครอบครัวคนจีน ทำธุรกิจห้างทองและมีโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องส่งออกต่างประเทศ แฟนเฟินอะไรไม่เคยมีหรอกตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้มีแต่คนมาจีบแต่ฉันไม่สนใจไง สวยๆ โสดๆ มันดีกว่าเยอะ ใครๆ ก็ชอบบอกว่าฉันเหมือนตุ๊กตาอย่างนั้นอย่างนี้ เลยไม่แปลกที่ครอบครัวจะรักและปลื้มปริ่มกับฉันม๊ากมาก แต่ก็นะยิ่งเป็นลูกคนเล็กและลูกสาวคนเดียวของครอบครัวแบบนี้ด้วยคนตามใจก็เลยเยอะมันเลยทำให้ฉันค่อนข้างเป็นคนขี้งอน ขี้
ปัจจุบันอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนโปรดปราน แม้ว่าจะควบคุมน้ำหนักแทบตายเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายพันธุ์เป็นแม่หมูตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยน่ารักน่าหยิก ก็แหมกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยน้ำซอสสารพัดอย่างยามวางบนเตาย่างมันชวนน้ำลายสอจะตายไป ฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมมองเตาแล้วทำตาปริบๆ และท่องบอกตัวเองในใจว่าอย่านะ มันอ้วนหรอกย่ะ เพราะหมูแดงคนนี้ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ในอาหารว่าวันๆหนึ่งสามารถบริโภคนั่นนี่ได้เท่าไหร่ อึ๋ย ขืนเป็นแบบนั้นคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดีนอกจากดื่มน้ำเปล่า กินผลไม้ ธัญญพืชบลาๆ ยิ่งอาหารบนโลกใบนี้มันน่ากินไปซะหมดใครมันจะไปอดใจไหวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความพอดีไม่มากจนท้องแตกตายใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสวยๆ เป็นนางเอกซีรีส์แบบมโนอยู่ภายในร้านอาหารเกาลีกับนายขุนพลที่บังคับและข่มขู่ให้ฉันมาด้วยจนได้ สั่งสิ่งที่อยากกินเสร็จฉันก็นั่งเท้าคางสำรวจตรวจตราใบหน้าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างพิจารณา อยู่นิ่งๆ นี่มาดคุณชายชัดๆ เลยค่ะคุณขา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งขาวเนียนละเอียดละออม๊ากมาก แถมหมอนี่มีลักยิ้มด้วยแหละ
Kunpon Talksพออิ่มท้องแล้วผมก็พาหมูมาเดินเล่นย่อยอาหารในโซนศูนย์การค้าต่อเลยเพราะยังไม่อยากกลับ หมูแดงตัวเล็กน่าทะนุถนอมมากหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเตี้ยอ่ะเวลาเดินข้างกันความสูงแค่ระดับอกเท่านั้นเอง ส้นสูงที่ใส่อยู่นี่ไม่ได้ช่วยให้ตัวสูงขึ้นมาได้เลยเหอะ เรื่องส่วนสูงไม่ใช่ประเด็นหลักห่าเหวอะไรหรอกแค่คิดขำๆ เท่านั้น แต่ที่ไม่ขำนี่คือฟาร์มโคนมยัยบ้านี่ต่างหาก ไอ้ชอบมันก็ชอบนะมองแล้วเพลินเป็นบ้าและทำให้จินตนาการไปถึงความขาวความอวบของเนื้อแท้ภายใต้เสื้อนักศึกษาด้วย แล้วคนอื่นที่เห็นมันจะไม่คิดเหรอวะ“ทำไมนายชอบถึงเนื้อถึงตัวฉันเรื่อยเลยเนี่ยขุน! เดินเองได้ไม่ต้องประคอง” แม่ตัวดีแหงนหน้าคอตั้งมองหน้าผมอย่างหงุดหงิดเมื่อถูกกระชากเอวอ้อนแอ้นให้ขยับมาแนบชิดกับร่างกายผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศได้รอดผ่าน แค่จับมือเดินเกี่ยวก้อยมันยังไม่เพียงพอหรอกตอนนี้ นี่ถ้าอุ้มเธอเดินได้ผมอุ้มไปแล้วนะแต่กลัวจะโดนหยิกจนเนื้อหลุดซะก่อนน่ะสิ“ฉันชอบ จบไหม”“ไม่ชอบ จบไหมคะพี่ขุน” ลอยหน้าลอยตาพูดเลยก้มฟัดแก้มแม่งเลยอยากท้าทายดีนัก ถึงจะเรียกพี่ก็ไม่ปล่อยหรอก“อ๊าย ขุนน” มือบางผลักหน้าผมออกพลางเบี่ยงหลบเป็นพัล
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
Kunpon Talks“ไง พร้อมจะรับโทษจากฉันแล้วรึยัง” ผมเปิดปากถามเมื่อไม่มีใครมารบกวนเราสองคนแล้ว ยัยหมูตัวเล็กที่นั่งให้ผมกอดใช้นิ้วเขี่ยๆที่แก้มผมเล่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาแถมยังหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานเสียเต็มปะดา มันน่าจับพาดตักแล้วฟาดมือหนักๆ ลงบนก้นงอนๆ ที่กำลังนั่งทับที่หน้าขานัก ไอ้คำพูดของเธอก่อนหน้านี้น่ะไม่ได้โกรธจริงจังอะไรนักหรอกแค่น้อยใจหมูเท่านั้นเอง รอให้หมูง้อจนจะหมดความอดทนเต็มทีหมูก็ไม่ยอมจะง้อ เอาแต่ชื่นชมกับแก้มผมเนี่ย“จะให้รับโทษอะไรกันเล่า” ยังจะกล้าถามและทำหน้าตาน่ารักน่าใคร่ใส่ผมอีก ไม่รู้รึไงว่ามันทำเอาคนมองแทบบ้า ปากเล็กขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าแต่มันไม่มีเสียงออกมาไงเลยไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร แต่ช่างเถอะด่าได้ด่าไป“เธอทำให้ฉันเสียใจอยู่ยังไม่ยอมสำนึกอีกนะยัยหมูปีศาจตัวร้าย” ผมดุและยึดมือน้อยไว้แล้วยกขึ้นจูบใจกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มแรงๆ อย่างมันเขี้ยว หมูแดงแอบเบ้ปากน้อยๆ ผมเลยจุ๊บเข้าเต็มๆ ที่เรียวปากสวย ครั้งเดียวมันไม่พอเลยซ้ำอีกหลายรอบจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บ“โกรธอยู่ไม่ใช่เหรอ มาทำแบบนี้ได้ไงอ่ะ ลืมตัวหรือว่าไงคะ” ยอกย้อนผมอีก“โกรธอยู่ก็จูบเธอได้ ทำไมมีปัญหารึไงหมู
“เอาอีกแล้วๆ ไอ้ขุนอ้อนเมียอีกแล้วโว้ย! น้องหมูแดงอย่าไปใจอ่อนยอมป้อนมันนะครับ ไม่ใช่อะไรพี่อิจฉาน่ะ” พี่จิวส่งเสียงแซวแทรกขึ้นมา ส่วนแม่เพื่อนรักของฉันนี่จ้องตาไม่กระพริบเลยค่ะ ดีที่รุ่นพี่คนอื่นไม่อยู่ในนี้แล้วไม่งั้นคงโดนจับตามองเพิ่มอีกแน่“ป้อนสักทีเถอะหมูแดงสงสารพี่ขุนเขา สงสัยจะหิวจนไม่แรงหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวเข้าปากเอง” มินนี่เป็นแรงเชียร์ให้นายขุนที่ยังไม่เลิกออเซาะ ฉันรู้ทันหรอกมินนี่เพื่อนรักหรอก อยากจะฟินตามไง คงคิดว่าตัวเองกำลังอ่านนิยายหรือดูซีรีย์อยู่แน่ๆ“เชียร์ให้น้องหมูแดงป้อนข้าวไอ้ขุนแล้วไม่ทราบว่าน้องมินนี่อยากจะป้อนข้าวป้อนน้ำพี่บ้างไหมครับ” พี่เคนถามเสียงหวาน แบบนี้เขาเรียกว่าหยอดแรงเลยแหละ“ไม่อยากค่ะ เพราะมินนี่ไม่ใช่นางพยาบาลที่ต้องคอยดูแลคนป่วย พี่เคนไปถามป้ายหน้าดีกว่านะคะ” มินนี่ฉีกยิ้ม ฉัน พี่จิว ยัยพิ้งค์และนายขุนหลุดหัวเราะเลย“คนสวยทำไมพูดกับพี่แบบนี้อ่ะ”มินนี่พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ฟังไม่ถนัดเพราะยัยนั่นขมุบขมิบ ขุนพลกอบกุมแก้มของฉันไว้แล้วจับหันให้มองมาที่เขา มันเลยทำให้ฉันอดเขินไม่ได้เลยต้องเปิดกล่องข้าวแล้วตักแต่พอดีคำมาจ่อที่ปากคนเอาแต่ใจในที่สุด“ก
ห้องชมรมของพวกคณะบริหาร กว้างขวางมากรวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อย่างว่าแหละน่าหนึ่งในสมาชิก ณ ที่นี้ซึ่งนั่นก็คือพี่จิวเป็นถึงลูกชายของเจ้าของมหาลัยเชียวนะมันจะธรรมดาได้ยังไง ฉันที่ไม่มีสิทธิ์เลือกและไม่ได้เลือกเองด้วยความสมัครใจมานั่งแหมะกับเพื่อนหลังจากที่โดนนายขุนลากมาได้พักใหญ่แล้ว คนที่รู้จักในนี้มีแค่พี่จิว พี่เคนเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ไม่รู้จักใครเลยสักคน ถูกมองไหมมันแน่นอนอยู่แล้วเพราะเราสามคนไม่ใช่เด็กในสังกัดของคณะนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเลยนะ คงเป็นเพราะว่าฉันรู้จักสามหนุ่มนี่ด้วยเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าซัก วันนี้เขาให้เลือกก่อนคนที่ต้องการเข้ามาอยู่เลยยังไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาในนี้ยกเว้นฉัน มินนี่และพิ้งค์ที่ได้สิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่มีคนพาตัวมานั่งตากแอร์เย็นๆ ถึงที่“ชมรมนี้มันชื่อชมรมอะไรอ่ะยังไม่รู้เลยหรือว่ามันไม่มีชื่อนอกเหนือจากนี้ ใช้ว่าชมรมคณะบริหารงี้เลยเหรอหมูแดง” ยัยมินนี่สะกิดถาม ฉันส่ายหน้าเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไรยังไง โดนพามาอย่างงงๆ ตอนระหว่างทางที่เดินมาก็ไม่ได้ถามนายขุนด้วย หมอนี่ก็นะแทนที่จะบอกกันล่วงหน้าไม่มีหรอก
Kunpon Talksผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเกียจคร้านเพราะเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อสักครู่ ไอ้จิวมันบอกให้เข้าไปมหาลัยเพื่อเข้าชมรมที่เราสามคนสุมหัวคิดกันขึ้นมาเองเพราะไม่อยากไปอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร อาศัยเส้นใหญ่คับมหาลัยของมันคนอื่นๆ เลยไม่กล้ามีปัญหาหรือต่อกรด้วยเลยสักคนแม้แต่อาจารย์ ที่นี่มีมันกฎบังคับว่านักศึกษาชั้นปีที่สามต้องก่อตั้งชมรมของแต่ละคณะขึ้นมาทุกปีเพื่อให้น้องปีหนึ่งปีสองคณะอื่นมาแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่อนุญาตให้เข้าชมรมคณะตัวเองยกเว้นปีสี่ไม่ต้องยุ่งใกล้จบแล้วเป็นไงดีไหมล่ะ หมูแดงเองก็ต้องมาอยู่ชมรมเดียวกับผมเท่านั้น นั่นคือสิทธิ์ขาดที่ผมเลือก เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้เลือกตามความสมัครใจของตัวเองไม่มีทางซะหรอกยิ่งดื้อบวกพยศอยู่ด้วย ชมรมที่ว่าก็ไม่ได้จะให้ทำอะไรมากหรอกสบายจะตายเผลอๆ แค่นั่งนอนหรือไม่ต้องเข้าเลยด้วยซ้ำใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานผมก็ขับรถตรงดิ่งมามหาวิทยาลัย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานเหมือนคนอื่นเพราะเรามีที่จอดค่อนข้างส่วนตัวโทรหาหมู หมูก็ดันไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่านถ้าเจอตัวต้องจัดการหน่อยแล้ว โทรศัพท์มีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ประดับกระเป๋าเฉยๆ ท
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ