“นี่! ฉันชื่อขุนพล เรียนอยู่คณะบริหารปีสาม เธอชื่ออะไรและเรียนคณะอะไรล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบและเลือกที่จะแนะนำตัวเองให้ยัยหน้าตาบ๊องแบ๊วที่มองตาปริบๆ ได้รู้จักก่อน ผู้หญิงบ้าอะไรวะหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาชะมัด ตัวเล็กแต่ฟาร์มโคนมนี่ไม่เล็กตามรูปร่างเธอเลย เรียนที่นี่มาสามปีแล้ว ถึงจะมาบ้างไม่มาบ้างแต่ไม่เคยเห็นหน้ายัยนี่มาก่อนหรือจะเป็นเด็กปีหนึ่งเพิ่งเข้ามาเรียน อันนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเพราะหน้าเด็กฉิบหาย
“อ่อ ชื่อหมูแดง เรียนอยู่คณะนิเทศปีสองค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” รุ่นพี่เขาเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปีแถมชื่ออย่างเท่ห์เลยขุนพล อ่า นี่ฉันควรผูกมิตรกับเขาดีไหมนะไหนๆก็นั่งข้างกันแล้ว แต่มันทำให้ความคิดฉันสะดุดเพราะก่อนหน้าที่เขาถามว่าฉันสติดีใช่ไหมนี่แหละ เป็นการถามที่ฉันอยากจะกรีดร้องออกมามาก
“อืม นิเทศปีสองอย่างนั้นเหรอ งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับน้องหมู” ขนาดชื่อยังน่ารักน่ากินเลยให้ตายเถอะว่ะ พ่อแม่ของยัยนี่ตั้งได้เข้าท่ามาก ‘หมูแดง’ แค่เรียกก็มีความอยากกินขึ้นมาแล้วสิ
“เอ่อ ชื่อหมูแดงค่ะไม่ใช่หมูเฉยๆ ช่วยกรุณาเรียกให้ถูกด้วยนะคะพี่ขุนพล” ฉันไม่ชอบให้ใครเรียกว่าหมูสั้นๆห้วนๆแบบนี้เลย คือไม่ได้กระแดะนะ แต่ฉันว่าหมูแดงเต็มๆ มันน่ารักกว่าเป็นไหนๆ ที่มาของชื่อก็คือเมื่อตอนแรกเกิดฉันตัวกลมปุ๊กลุ๊กมากและมีผิวขาวอมชมพูมาม๊ากับปาป๊าเลยตั้งชื่อลูกสาวคนสวยเพียงคนเดียวว่าหมูแดง ท่านเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจพร้อมมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานให้ดูชัดๆ ไปเลย แต่ในปัจจุบันฉันหุ่นค่อนข้างดีในระดับมาตราฐานแล้วนะ ห่างไกลจากคำว่าหมูมานานมากแล้ว
“อือ ฉันรู้แล้วว่าเธอชื่อหมู ไม่ลืมง่ายๆ หรอก ชอบกินอยู่แล้วหมูเนี่ยของโปรดเลยนะจะบอกให้รู้เอาไว้” ขุนพลขยิบตาแล้วก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อ ที่บอกว่าชอบกินหมูเนี่ยเรื่องจริง เพราะมันคืออาหารและตอนนี้ก็ค้นพบอีกอย่างแล้วว่าคนชื่อหมูแดงก็กินได้เหมือนกัน คงจะอร่อยกว่าหมูไหนๆแน่นอน
ฉันขอเอาความชื่นชมและที่คิดว่าอยากผูกมิตรกลับมาคิดใหม่ก่อนนะ สายตายียวนมันกวนประสาทให้ฉันหงุดหงิดแล้วไหนจะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก เชอะ! ชอบกินหมูแล้วจะมาบอกฉันทำไมกันตาบ้าไม่เกี่ยวกับชื่อฉันสักหน่อยโยงเข้าไปได้ไงประสาท พยายามคิดให้เป็นอย่างอื่นแล้วนะ เพราะไม่อยากคิดตามอย่างตรงๆ อึ๋ย!! ขนลุกชันไปทั้งตัวเลยอ่ะ
“ไอ้ขุน!!”
“ไปเข้าห้องน้ำกันมาหรือว่ามึงสองคนแอบไปนอนหลับมาวะช้าฉิบหายเลยกว่าจะยอมโผล่หัวมากันได้เนี่ย” ผมมองเพื่อนรักที่ทิ้งตัวลงนั่งก่อนจะเลิกสนใจมันสองตัว
“ทำมาบ่นนะมึง”
“กูบ่นตรงไหนวะจิว”
“กวนตีนละมึงอ่ะไอ้ขุน”
สโลแกนของที่นี่ก็คือ มหาวิทยาลัยไฮโซโก้เก๋ที่รวบรวมเหล่าบรรดาลูกเศรษฐีลูกคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย แต่เอาเข้าจริงคือมันก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะ คนธรรมดาทั่วไปก็มีเยอะแยะแต่ไม่รู้ใครเป็นคนแฮชแท็คประโยคนี้ขึ้นมา แต่เอาเถอะฉันว่ามันใช้ได้กับกลุ่มนี้แล้วล่ะ รวมแก๊งค์หนุ่มหล่อหน้าตาดีมากลากเสียงยาว
“มึงอุตริเกิดอยากนั่งแถวกลางตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกตินี่ครองแถวหลังมาตลอด หรือมึงเห็นว่ามีสาวน้อยคนสวยนั่งอยู่ตรงนี้เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศวะ”
ฉันที่ตั้งใจฟังอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนที่มีคำว่าด็อกเตอร์นำหน้าชื่อกำลังพูดนั่นพูดนี่อยู่หน้าห้อง และมมันเริ่มจะสติแตกขึ้นเรื่อยๆเพราะหูมันได้ยินแต่เสียงของพวกที่นั่งอยู่แถวเดียวกับฉันเนี่ยแหละ คุยกันกลบเสียงอาจารย์หมดเลย แต่ก็แปลกที่ท่านไม่ดุไม่ว่ากล่าวทำเหมือนไม่ได้ยินซะอย่างนั้น
“อย่าเสือกสิครับเคน คนอื่นเขาตั้งใจเรียนกันอยู่นี่ยเห็นไหม หุบปากด่วนๆ เลย คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมครับ” เสือกเน้นๆ ใส่หน้ามันและตบท้ายด้วยนิ้วกลางอีกทีเป็นอันจบ
“อือ ก็ได้ๆ กูไม่ขอเสือกเรื่องของมึงแล้วก็ได้ขุน แต่กูจะจีบน้องเขามึงคอยดูนะไอ้เพื่อนยาก” เคนยักคิ้วให้เพื่อนสนิทแล้วฉีกยิ้มหวานให้สาวคนที่กำลังตกอยู่ในหัวข้อสนทนาของตนเองกับเพื่อน และก็มีอันต้องแสดงสีหน้าเหยเกขึ้นมาฉับพลันหลังจากยิ้มไปได้ประมาณสามวินาที แทบจะเห็นดาวเลยทีเดียว
ป๊าบ!
“ไอเพื่อนเวร ตบมาได้ เจ็บนะเว้ย!”
“กูจองเอาไว้แล้วเว้ยหมูแดงน้อยคนเนี้ย อย่าเสือกมายุ่งวุ่นวายไอ้สารเลวเคน หุบปากน่ารำคาญของมึงไปเลย ถ้าไม่อยากโดนตบหัวทิ่มอีกป๊าบสองป๊าบ” ผมชี้หน้าเพื่อนรักอย่างข่มขู่ แล้วจับมือของคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดๆด้วยขึ้นมาจูบที่หลังมือขาวสะอาด โชว์เคนที่ทำหน้ากวนประสาทใส่ได้น่าถีบให้หงายท้อง ส่วนหมูแดงน้อยน่ะเหรอ แม้แต่ตอนตกอยู่ในอาการใจยังน่าขย้ำเลยคิดดู ผู้หญิงคนนี้ทำให้หัวใจผมเต้นแรงกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่ได้พบกัน
“อย่ามาลวนลามฉันแบบนี้นะนายขุนพล” ฉันกระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจแบบสุดๆ ต่อให้หล่อลากดินมากแค่ไหนแต่มือไวนิสัยแย่แบบนี้มันไม่โอเคเลยสักนิด มาหอมมือของฉันได้ยังไงกัน แล้วพูดกับเพื่อนว่าจองเจิงบ้าบออะไร และพอฉันจะชักมือตัวเองกลับหมอนี่ก็ยึดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “อย่ามาจับนะ นายมีสิทธิ์อะไรถึงมาทำกับฉันอย่างนี้ไอ้คนไร้มารยาท” ฉันสะบัดมือหวังให้หลุดออกจากการจับกุม แล้วขึงตาใส่สุดกำลัง แต่มันไม่ยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ ยังคงยึดจับเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ถ้าฉันแหกปากโวยวายเสียงดังขึ้นมามันจะได้ผลดีหรือตรงกันข้ามกันแน่
“ทำไมถึงไม่เรียกพี่ขุน เรียกพี่เดี๋ยวนี้นะหมู อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำซากนะยัยตัวเล็กฤทธิ์เยอะ” ผมพูดเสียงดุอย่างไม่พอใจ นายนั่น นายนี่ขัดหูฉิบ อยากให้ยัยหมูนี่เรียกพี่ขุนมากกว่าแม้ว่าจะไม่ได้ยึดติดอะไรมากมายกับเรื่องแก่อ่อนตามลำดับอายุก็ตาม แต่เมื่อยัยหมูตัวน้อยนี่เรียก คือฟังแล้วมันรู้สึกดีไงไม่รู้
“ฉันไม่อยากจะเรียกนายว่าพี่แล้ว มีปัญหาอะไรไหม ปล่อย!” ฉันเม้มปากขัดใจเมื่อไม่เป็นไปตามต้องการ แต่ก็ยังคงพยายามดึงมือของตัวเองกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ยื้อยุดกันไปมาสักใหญ่ แต่ไอ้บ้าขุนพลช่างดื้อด้านนัก รู้จักกันยังไม่ครบชั่วโมงก็ออกลายไม่น่าคบหาแล้ว
“อย่าแกล้งน้องหมูแดงมากสิวะขุน ปล่อยมือน้องซะ เดี๋ยวน้องเขาก็เกลียดหน้ามึงมากกว่านี้หรอก อืม พี่เป็นเพื่อนรักของไอขุนมันก็จริง แต่พี่จิวขออยู่ทีมน้องหมูแดงนะครับ” จิวทำมือเป็นไอท่าเลิฟยูส่งให้ ฉันเลยอมยิ้มแต่ก็แค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น
“เสือกอีกคนแล้วไงไอเวรจิว คนกับหมูเขาจะคุยกัน อย่าเสนอหน้าเข้ามายุ่ง ซี๊ดด โอ๊ยย” เจ็บจี๊ดถึงใจเลยครับ เมื่อปลายเล็บแหลมคมทั้งหยิกและจิกบนหลังมือเต็มแรง ย้ำว่าเต็มแรงไม่มีออมแรงเลย
“เหี้ย! ร้องอย่างกับมึงกำลังกรำศึกรักอยู่บนเตียงอย่างนั้นแหละ เป็นห่าอะไรของมึงวะขุน แหกปากสิบแปดบวกฉิบหายเลย เดี๋ยวอาจารย์แกก็เอาไมค์ปาหัวมึง โทษฐานตกใจหรอกไอ้ขุน” เคนสบถออกมาทั้งตกใจและขำไปพร้อมกัน
“หมูทำร้ายร่างกายกู สงสัยคงต้องจับปราบพยศสักหน่อยแล้วมั้ง” ผมส่งสายตาคาดโทษให้ยัยตัวดีน่าขย้ำที่จ้องหน้าผมตาเขียวปั๊ดเลย คงคิดว่าน่ากลัวมาก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีอาจารย์อยู่ด้วยนะพ่อจะถลกหนังหมูมากิน
Kunpon Talksผมนั่งเท้าคางมองหน้าหมูแดงที่ทำเป็นเมินไม่ยอมสนใจใครนอกจากอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังยืนบ่นอะไรสักอย่างที่ผมไม่คิดจะฟัง นึกย้อนไปถึงตอนที่เดินมาหน้าห้องที่จะใช้เรียน ด้วยความที่มันเป็นกระจกใสกั้นเอาไว้และม่านมันก็ไม่ได้ปิดหมดทำให้ง่ายต่อการมองเข้ามาด้านใน ผมจึงได้เห็นคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องเพียงคนเดียวอย่างชัดเจน โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าตนเองนั้นกำลังตกเป็นจุดสนใจมันเหมือนกับว่าผมถูกต้องมนต์สะกดทำให้ละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย เรื่องผู้หญิงสวยข้างกายผมมีไม่เคยขาดนับตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มมาจนถึงปัจจุบัน แต่แปลกที่ผมกลับมองว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจกว่าใครทั้งหมดที่เคยสัมผัสมา นานหลายนาทีกว่าผมจะตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้ามาหาเธอแล้วทำทีเป็นชวนคุยทั้งที่มันไม่ใช่นิสัยที่ทำเป็นประจำเวลาเจอสาว ปกติแทบไม่ต้องขยับตัวก็มีเรียงคิวเข้ามาให้เลือก ด้วยรูปร่างหน้าตาที่พ่อแม่ให้มามันชวนเรียกสายตาให้เพศตรงข้ามมองได้ไม่ยากและมันก็ได้ผลแต่ทุกอย่างมันมีข้อยกเว้นยังไงล่ะเท่าที่สังเกตดูยัยหมูแดงตัวน้อยนี่ไม่ค่อยจะอินกับใบหน้าของผมสักเท่าไหร่ทั้งที่ตอนแรกเหมือนจะออกอาการอึ้งไปพ
ณ โรงอาหารโรงอาหารติดแอร์แสนไฮโซโก้เก๋ที่มานั่งจ่อมอยู่มีนักศึกษาค่อนข้างหนาตา ถามว่าฉันเต็มใจมาไหม ไม่เลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ เหอะๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย เวลานี้ฉันควรไปหาเพื่อนรักที่นัดกันไว้สิถึงจะถูก แต่ติดที่ยังไปไม่ได้ไง เพราะโดนไอ้บ้าขุนพลมันยึดกระเป๋าเอาไว้แล้วฉันจะไปไหนได้ยังไง“อ้าปากดิหมู” ฉันปรายสายตาอันขุ่นขวางมองคนพูดเล็กน้อย ข้าวหน้าหมูเกาหลีอยู่ในช้อนที่ตักเอาไว้แบบพอดีคำถูกยื่นมาจ่อที่ปากฉัน ทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ สายตากึ่งบังคับของขุนพลทำให้ฉันอ้าปากกินอย่างไม่เต็มใจ รสชาติมันแม้จะอร่อยแต่มันฝืดเคือง เพราะฉันไม่มีอารมณ์อยากกินอะไรทั้งนั้น“ไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกับนาย” ฉันบอกตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งมันทำให้นายขุนชักสีหน้าใส่ฉันราวกับว่าอยากจะขย้ำคอฉันให้ตายคามือมันซะเดี๋ยวนี้เลย โหดร้ายป่าเถื่อนไปไหน คนเขาไม่อยากก็คือไม่อยากปะ“สงสัยหมูตัวนี้อยากโดนขย้ำ ถึงได้กล้าพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา” ไม่อยากใช้ช้อนร่วมกันอย่างนั้นเหรอ หึๆ รอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นตรงมุมปาก พลางจับยึดปลายคางหมูแดงที่ทำท่าเลิกลักไว้มั่น โน้มหน้าลงต่ำจนหน้าผากแตะกัน ปากเล็กอ้าอย่างต้องการปร
วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมากเป็นพิเศษเพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะว่าไอ้บ้าขุนน่ะสิที่เกาะติดฉันเป็นปลิงเป็นปลวกเลย ช่วงบ่ายที่มีเรียนอาจารย์ก็งดคลาสเหตุผลคือเปิดเทอมวันแรกไม่มีอะไรมากยังไม่อยากสอน ซึ่งมันจะดีมากเลยไงถ้าไม่มีนายขุนพลตามติดก้นต้อยๆ ไปทุกที่อยู่แบบนี้ พอถามเขาก็บอกว่าถึงมีก็ไม่เข้าได้มีเพื่อนเป็นถึงลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยจะกลัวทำไม โถ เออดีเนอะเหตุผลหมอนี่ฟังเข้าท่าซะไม่มี ฉันควรอิจฉาดีไหมเนี่ย เอาล่ะๆ พักเรื่องนายขุนคนน่ามึนแล้วมาคิดถึงเรื่องตัวเองบ้างดีกว่าฉันน่ะเป็นลูกสาวคนเล็กสุดของป๋าม๊ามีพี่ชายสองคนชื่อเฮียหนึ่งคนที่สองชื่อเฮียสอง สุดท้ายหมวยเล็กที่มีชื่อกิ๋บเก๋ต่างจากพี่ๆคือหมูแดง เป็นครอบครัวคนจีน ทำธุรกิจห้างทองและมีโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องส่งออกต่างประเทศ แฟนเฟินอะไรไม่เคยมีหรอกตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้มีแต่คนมาจีบแต่ฉันไม่สนใจไง สวยๆ โสดๆ มันดีกว่าเยอะ ใครๆ ก็ชอบบอกว่าฉันเหมือนตุ๊กตาอย่างนั้นอย่างนี้ เลยไม่แปลกที่ครอบครัวจะรักและปลื้มปริ่มกับฉันม๊ากมาก แต่ก็นะยิ่งเป็นลูกคนเล็กและลูกสาวคนเดียวของครอบครัวแบบนี้ด้วยคนตามใจก็เลยเยอะมันเลยทำให้ฉันค่อนข้างเป็นคนขี้งอน ขี้
ปัจจุบันอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนโปรดปราน แม้ว่าจะควบคุมน้ำหนักแทบตายเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายพันธุ์เป็นแม่หมูตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยน่ารักน่าหยิก ก็แหมกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยน้ำซอสสารพัดอย่างยามวางบนเตาย่างมันชวนน้ำลายสอจะตายไป ฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมมองเตาแล้วทำตาปริบๆ และท่องบอกตัวเองในใจว่าอย่านะ มันอ้วนหรอกย่ะ เพราะหมูแดงคนนี้ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ในอาหารว่าวันๆหนึ่งสามารถบริโภคนั่นนี่ได้เท่าไหร่ อึ๋ย ขืนเป็นแบบนั้นคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดีนอกจากดื่มน้ำเปล่า กินผลไม้ ธัญญพืชบลาๆ ยิ่งอาหารบนโลกใบนี้มันน่ากินไปซะหมดใครมันจะไปอดใจไหวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความพอดีไม่มากจนท้องแตกตายใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสวยๆ เป็นนางเอกซีรีส์แบบมโนอยู่ภายในร้านอาหารเกาลีกับนายขุนพลที่บังคับและข่มขู่ให้ฉันมาด้วยจนได้ สั่งสิ่งที่อยากกินเสร็จฉันก็นั่งเท้าคางสำรวจตรวจตราใบหน้าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างพิจารณา อยู่นิ่งๆ นี่มาดคุณชายชัดๆ เลยค่ะคุณขา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งขาวเนียนละเอียดละออม๊ากมาก แถมหมอนี่มีลักยิ้มด้วยแหละ
Kunpon Talksพออิ่มท้องแล้วผมก็พาหมูมาเดินเล่นย่อยอาหารในโซนศูนย์การค้าต่อเลยเพราะยังไม่อยากกลับ หมูแดงตัวเล็กน่าทะนุถนอมมากหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเตี้ยอ่ะเวลาเดินข้างกันความสูงแค่ระดับอกเท่านั้นเอง ส้นสูงที่ใส่อยู่นี่ไม่ได้ช่วยให้ตัวสูงขึ้นมาได้เลยเหอะ เรื่องส่วนสูงไม่ใช่ประเด็นหลักห่าเหวอะไรหรอกแค่คิดขำๆ เท่านั้น แต่ที่ไม่ขำนี่คือฟาร์มโคนมยัยบ้านี่ต่างหาก ไอ้ชอบมันก็ชอบนะมองแล้วเพลินเป็นบ้าและทำให้จินตนาการไปถึงความขาวความอวบของเนื้อแท้ภายใต้เสื้อนักศึกษาด้วย แล้วคนอื่นที่เห็นมันจะไม่คิดเหรอวะ“ทำไมนายชอบถึงเนื้อถึงตัวฉันเรื่อยเลยเนี่ยขุน! เดินเองได้ไม่ต้องประคอง” แม่ตัวดีแหงนหน้าคอตั้งมองหน้าผมอย่างหงุดหงิดเมื่อถูกกระชากเอวอ้อนแอ้นให้ขยับมาแนบชิดกับร่างกายผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศได้รอดผ่าน แค่จับมือเดินเกี่ยวก้อยมันยังไม่เพียงพอหรอกตอนนี้ นี่ถ้าอุ้มเธอเดินได้ผมอุ้มไปแล้วนะแต่กลัวจะโดนหยิกจนเนื้อหลุดซะก่อนน่ะสิ“ฉันชอบ จบไหม”“ไม่ชอบ จบไหมคะพี่ขุน” ลอยหน้าลอยตาพูดเลยก้มฟัดแก้มแม่งเลยอยากท้าทายดีนัก ถึงจะเรียกพี่ก็ไม่ปล่อยหรอก“อ๊าย ขุนน” มือบางผลักหน้าผมออกพลางเบี่ยงหลบเป็นพัล
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
Kunpon Talks“ไง พร้อมจะรับโทษจากฉันแล้วรึยัง” ผมเปิดปากถามเมื่อไม่มีใครมารบกวนเราสองคนแล้ว ยัยหมูตัวเล็กที่นั่งให้ผมกอดใช้นิ้วเขี่ยๆที่แก้มผมเล่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาแถมยังหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานเสียเต็มปะดา มันน่าจับพาดตักแล้วฟาดมือหนักๆ ลงบนก้นงอนๆ ที่กำลังนั่งทับที่หน้าขานัก ไอ้คำพูดของเธอก่อนหน้านี้น่ะไม่ได้โกรธจริงจังอะไรนักหรอกแค่น้อยใจหมูเท่านั้นเอง รอให้หมูง้อจนจะหมดความอดทนเต็มทีหมูก็ไม่ยอมจะง้อ เอาแต่ชื่นชมกับแก้มผมเนี่ย“จะให้รับโทษอะไรกันเล่า” ยังจะกล้าถามและทำหน้าตาน่ารักน่าใคร่ใส่ผมอีก ไม่รู้รึไงว่ามันทำเอาคนมองแทบบ้า ปากเล็กขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าแต่มันไม่มีเสียงออกมาไงเลยไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร แต่ช่างเถอะด่าได้ด่าไป“เธอทำให้ฉันเสียใจอยู่ยังไม่ยอมสำนึกอีกนะยัยหมูปีศาจตัวร้าย” ผมดุและยึดมือน้อยไว้แล้วยกขึ้นจูบใจกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มแรงๆ อย่างมันเขี้ยว หมูแดงแอบเบ้ปากน้อยๆ ผมเลยจุ๊บเข้าเต็มๆ ที่เรียวปากสวย ครั้งเดียวมันไม่พอเลยซ้ำอีกหลายรอบจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บ“โกรธอยู่ไม่ใช่เหรอ มาทำแบบนี้ได้ไงอ่ะ ลืมตัวหรือว่าไงคะ” ยอกย้อนผมอีก“โกรธอยู่ก็จูบเธอได้ ทำไมมีปัญหารึไงหมู
“เอาอีกแล้วๆ ไอ้ขุนอ้อนเมียอีกแล้วโว้ย! น้องหมูแดงอย่าไปใจอ่อนยอมป้อนมันนะครับ ไม่ใช่อะไรพี่อิจฉาน่ะ” พี่จิวส่งเสียงแซวแทรกขึ้นมา ส่วนแม่เพื่อนรักของฉันนี่จ้องตาไม่กระพริบเลยค่ะ ดีที่รุ่นพี่คนอื่นไม่อยู่ในนี้แล้วไม่งั้นคงโดนจับตามองเพิ่มอีกแน่“ป้อนสักทีเถอะหมูแดงสงสารพี่ขุนเขา สงสัยจะหิวจนไม่แรงหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวเข้าปากเอง” มินนี่เป็นแรงเชียร์ให้นายขุนที่ยังไม่เลิกออเซาะ ฉันรู้ทันหรอกมินนี่เพื่อนรักหรอก อยากจะฟินตามไง คงคิดว่าตัวเองกำลังอ่านนิยายหรือดูซีรีย์อยู่แน่ๆ“เชียร์ให้น้องหมูแดงป้อนข้าวไอ้ขุนแล้วไม่ทราบว่าน้องมินนี่อยากจะป้อนข้าวป้อนน้ำพี่บ้างไหมครับ” พี่เคนถามเสียงหวาน แบบนี้เขาเรียกว่าหยอดแรงเลยแหละ“ไม่อยากค่ะ เพราะมินนี่ไม่ใช่นางพยาบาลที่ต้องคอยดูแลคนป่วย พี่เคนไปถามป้ายหน้าดีกว่านะคะ” มินนี่ฉีกยิ้ม ฉัน พี่จิว ยัยพิ้งค์และนายขุนหลุดหัวเราะเลย“คนสวยทำไมพูดกับพี่แบบนี้อ่ะ”มินนี่พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ฟังไม่ถนัดเพราะยัยนั่นขมุบขมิบ ขุนพลกอบกุมแก้มของฉันไว้แล้วจับหันให้มองมาที่เขา มันเลยทำให้ฉันอดเขินไม่ได้เลยต้องเปิดกล่องข้าวแล้วตักแต่พอดีคำมาจ่อที่ปากคนเอาแต่ใจในที่สุด“ก
ห้องชมรมของพวกคณะบริหาร กว้างขวางมากรวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อย่างว่าแหละน่าหนึ่งในสมาชิก ณ ที่นี้ซึ่งนั่นก็คือพี่จิวเป็นถึงลูกชายของเจ้าของมหาลัยเชียวนะมันจะธรรมดาได้ยังไง ฉันที่ไม่มีสิทธิ์เลือกและไม่ได้เลือกเองด้วยความสมัครใจมานั่งแหมะกับเพื่อนหลังจากที่โดนนายขุนลากมาได้พักใหญ่แล้ว คนที่รู้จักในนี้มีแค่พี่จิว พี่เคนเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ไม่รู้จักใครเลยสักคน ถูกมองไหมมันแน่นอนอยู่แล้วเพราะเราสามคนไม่ใช่เด็กในสังกัดของคณะนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเลยนะ คงเป็นเพราะว่าฉันรู้จักสามหนุ่มนี่ด้วยเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าซัก วันนี้เขาให้เลือกก่อนคนที่ต้องการเข้ามาอยู่เลยยังไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาในนี้ยกเว้นฉัน มินนี่และพิ้งค์ที่ได้สิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่มีคนพาตัวมานั่งตากแอร์เย็นๆ ถึงที่“ชมรมนี้มันชื่อชมรมอะไรอ่ะยังไม่รู้เลยหรือว่ามันไม่มีชื่อนอกเหนือจากนี้ ใช้ว่าชมรมคณะบริหารงี้เลยเหรอหมูแดง” ยัยมินนี่สะกิดถาม ฉันส่ายหน้าเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไรยังไง โดนพามาอย่างงงๆ ตอนระหว่างทางที่เดินมาก็ไม่ได้ถามนายขุนด้วย หมอนี่ก็นะแทนที่จะบอกกันล่วงหน้าไม่มีหรอก
Kunpon Talksผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเกียจคร้านเพราะเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อสักครู่ ไอ้จิวมันบอกให้เข้าไปมหาลัยเพื่อเข้าชมรมที่เราสามคนสุมหัวคิดกันขึ้นมาเองเพราะไม่อยากไปอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร อาศัยเส้นใหญ่คับมหาลัยของมันคนอื่นๆ เลยไม่กล้ามีปัญหาหรือต่อกรด้วยเลยสักคนแม้แต่อาจารย์ ที่นี่มีมันกฎบังคับว่านักศึกษาชั้นปีที่สามต้องก่อตั้งชมรมของแต่ละคณะขึ้นมาทุกปีเพื่อให้น้องปีหนึ่งปีสองคณะอื่นมาแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่อนุญาตให้เข้าชมรมคณะตัวเองยกเว้นปีสี่ไม่ต้องยุ่งใกล้จบแล้วเป็นไงดีไหมล่ะ หมูแดงเองก็ต้องมาอยู่ชมรมเดียวกับผมเท่านั้น นั่นคือสิทธิ์ขาดที่ผมเลือก เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้เลือกตามความสมัครใจของตัวเองไม่มีทางซะหรอกยิ่งดื้อบวกพยศอยู่ด้วย ชมรมที่ว่าก็ไม่ได้จะให้ทำอะไรมากหรอกสบายจะตายเผลอๆ แค่นั่งนอนหรือไม่ต้องเข้าเลยด้วยซ้ำใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานผมก็ขับรถตรงดิ่งมามหาวิทยาลัย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานเหมือนคนอื่นเพราะเรามีที่จอดค่อนข้างส่วนตัวโทรหาหมู หมูก็ดันไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่านถ้าเจอตัวต้องจัดการหน่อยแล้ว โทรศัพท์มีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ประดับกระเป๋าเฉยๆ ท
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ