Share

ตอนที่14

"นี่ผมหนวกหูนะ"

ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก

"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"

พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง

"อืม..."

"ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"

พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง

"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"

ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

"รีบๆล่ะฉันรออยู่"

พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา

"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"

เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้

"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ"

"ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"

พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่งงานเพราะทั้งคู่กัดกันแทบจะทุกครั้งที่เห็นหน้าแล้วถ้าต้องอยู่ด้วยกันทุกวันอะไรมันจะเกิดขึ้น

อาทิตย์ต่อมา

โห่..ฮี๊..โห่ ฮี๊..โห่ ฮี๊..โห่ ฮิ๊วววววววว

เสียงโห่ร้องกลองยาวดังขึ้นมาที่ปากทางไร่ของเริงฤทธิ์เสียงดังนั้นมาจากขบวนขันหมากที่ทรงรบแห่มาขอพิมพรรณที่บ้านของเริงฤทธิ์โดยมีนายอำเภอสุทินเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นผู้นำขบวนเหล่าคนงานทั้งสองไร่ก็มาร่วมยินดีเป็นสักขีพยานความรักของทั้งสองที่ทุกคนต่างก็งงว่าไปรักกันตอนไหนแต่ก็ไม่มีใครเอะใจอะไรในเมื่อมีงานมงคลเกิดขึ้นทุกคนก็ร่วมยินดีอย่างไม่มีข้อกังขา

“ยิ้มหน่อยสิคะคุณพิม”

พัชรินทร์นั่งมองพิมพรรณที่อยู่ในชุดไทยสีทองวันนี้เธอรู้สึกว่าพิมพรรณสวยมากเป็นพิเศษแต่สีหน้าของเจ้าสาวน่ะสิที่ดูกังวลจนเห็นชัดขึ้นมา

“เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมคะ”

พิมพรรณใจแป้วเมื่อถึงเวลาที่เธอจะต้องแต่งงานจริงๆรู้สึกว่ามันไม่น่าสนุกอย่างที่คิดเอาไว้แล้ว

“อะไรนะคะ”

“ฉันเริ่มกังวลซะแล้วสิ”

“แล้วมันจะผ่านไปค่ะ”

ตอนนี้พัชรินทร์ก็ทำได้แค่ให้กำลังใจพิมพรรณเพราะเธอเป็นคนเลือกทางนี้เองตั้งแต่แรกโดยไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนแม้งานแต่งนี้จะเกิดขึ้นเพราะความอยากเอาชนะของทั้งสองคนแต่เธอเชื่อว่าเวลาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

“ยิ้มหน่อยนะคะ”

พัชรินทร์ต้องสะกิดบอกพิมพรรณในขณะที่กำลังจะตักบาตรพระพร้อมกับทรงรบเพราะคนในงานต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่าเจ้าสาวนั้นหน้าบูดเหมือนไม่อยากแต่ง พิมพรรณต้องฝืนอมยิ้มขึ้นมานิดหน่อยเพราะเธอเองก็ลืมตัวเช่นกันผิดกับทรงรบที่ดูจะหน้าบานเป็นพิเศษ

“เชิญค่ะ”

ตอนนี้พัชรินทร์ทำหน้าที่เติมน้ำสังข์ให้กับแขกที่จะรดน้ำสังข์ให้กับคู่บ่าวสาวและยังต้องคอยเตือนพิมพรรณเป็นระยะว่าอย่าทำหน้าบูดอีกด้วยส่วนเจ้าสองแฝดก็มีภูผาและเริงฤทธิ์คอยดูแลสลับกับคนงานในไร่ที่อุ้มไปเล่นกันบ้างเจ้าแฝดวันนี้เลยดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่เห็นผู้คนมากหน้าหลายตามาเล่นด้วย

“หนูพิมกับพ่อเลี้ยงเหมาะสมกันดีนะครับท่าพ่อเลี้ยงจะรักหนูพิมมากเลยดูสอตั้งแต่เช้ายังยิ้มไม่หุบเลย”

สุทินเดินเข้ามานั่งคุยกับเริงฤทธิ์หลังจากที่ร่วมรดน้ำสังข์บ่าวสาวเสร็จเขารู้จักทรงรบมานานเห็นวันนี้นี่แหละที่ดูทรงรบจะดูมีความสุขเป็นพิเศษ

“นั่นสินะ”

เริงฤทธิ์รู้ว่าทั้งคู่แต่งงานกันเพราะเงื่อนไขแต่ก็พอจะเดาออกว่าทรงรบคงมีใจให้หลานของเขาอยู่เหมือนกันไม่เช่นนั้นคงไม่ยื่นข้อเสนอนี้ให้ทั้งที่ทรงรบนั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาวิ่งเข้าหา

คราแรกที่เขาตกลงรับข้อเสนอไม่ใช่ว่าไม่รักหลานแต่เพราะรักจึงตกลงไปเขารู้ว่าทรงรบเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และสามารถทำให้หลานของเขาสุขสบายได้แม้วันนี้หลานของเขาจะยังไม่รักทรงรบแต่เขาเชื่อว่าต้องมีสักวันที่ทั้งคู่นั้นรักกันเอง

พิธีการทุกอย่างเสร็จสิ้นจนตอนนี้เข้าสู่พิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอสุทินและเริงฤทธิ์ต่างก็พากันมาอวยพรให้บ่าวสาว

“ตาขอให้หลานทั้งสองรักกันนานๆหนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกันได้อย่าหันหลังให้กันเป็นผัวเมียกันแล้วมีอะไรต้องปรึกษากันเข้าใจไหม”

เริงฤทธิ์ลูบหัวบ่าวสาวทั้งสองทั้งให้พรกับทั้งคู่ด้วยสายตาที่ยินดี

“ครับ/จะตา”

“ยังไงผมก็ขอให้พวกคุณเป็นครอบครัวที่อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขมีลูกสืบสกุลกันเร็วๆนะครับพ่อเลี้ยงเป็นคนซื่อสัตย์ขยันทำงานหนูพิมได้สามีดีที่เลยล่ะครับหนูพิมเองก็เป็นเด็กดีรักครอบครัวพ่อเลี้ยงเองก็ได้ภรรยาที่ดีมากๆเช่นกันนะครับ”

สุทินเอ่ยด้วยรอยยิ้มปลื้มใจกับทั้งคู่ที่ได้ร่วมหอเป็นทองแผ่นเดียวกัน

“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ”

หลังจากทั้งคู่กล่าวอวยพรบ่าวสาวจบก็รีบออกไปข้างนอกปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ในห้องหอเพราะได้ฤกษ์เข้าหอแล้ว

“ยิ้มอะไรนักหนา”

พิมพรรณที่กำลังถอดสร้อยถอดต่างหูเห็นชายหนุ่มเอาแต่นั่งยิ้มเธอจึงหมั่นไส้อยู่พอสมควร

“คุณไม่ดีใจหรือไงที่ได้แต่งงาน”

“น่าดีใจตรงไหน”

“จะมีผัวไม่ดีใจหน่อยเหรอคุณ”

ทรงรบเดินไปกระซิบเอ่ยหยอกข้างหูหญิงสาว

“นี่อย่ามาปากเสียกับฉันนะพ่อเลี้ยง”

พิมพรรณมองค้อนทรงรบอย่างไม่พอใจเพราะเธอและเขาต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้มันเกิดเพราะความอยากเอาชนะกันเท่านั้น

“ปากเสียตรงไหนพูดเรื่องจริงตอนนี้ผมเป็นผัวคุณแล้วนะพึ่งจะแต่งงานกันเมื่อกี้เองมาให้ผัวหอมสักฟอดนะเมียจ๋า”

ทรงรบยังคงแกล้งหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและท่าทางทะเล้นไม่หยุด

“นี่ออกไปห่างๆเลยนะไอ้พ่อเลี้ยงบ้า”

พิมพรรณรีบผลักทรงรบออกให้ห่างจากตัวเธอให้มากที่สุดเมื่อเขาทำท่าจะหอมเธอ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status