โรงแรมxxx
"ที่แท้ก็ทะเลาะกับว่าที่เจ้าบ่าว"
ก้องเกียรติพากิ่งแก้วขับรถมาที่โรงแรมม่านรูดก่อนจะลงจากรถกิ่งแก้วก็ระบายเรื่องที่อยู่ในใจให้ก้องเกียรติฟังจนหมด
"ฉันกำจัดแม่เค้าได้แล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน"
กิ่งแก้วเอ่ยเสียงแข็งเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่สุขสบายเมื่อลงทุนมาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะไม่ยอมปล่อยให้อคิณหลุดมือไปง่ายๆ
"ทีหลังคุณก็อย่ามักมากนักสิ"
ก้องเกียรติรู้ดีว่าอดีตคนรักของเขานั้นมีความต้องการมากแค่ไหน
"ฉันก็ขี้เบื่อเหมือนกันนะ"
กิ่งแก้วเอื้อมมือไปลุบไล้แผงอกของก้องเกียรติแม้จะเคยๆกันมาก่อนแต่เมื่อห่างกันไปนานๆเธอก็มีความตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน
"มาสนุกกันดีกว่านะหวังว่าการห่างของเราจะทำให้คุณคิดถึงผมบ้างนะ"
ก้องเกียรติรีบเปิดประตูรถและอุ้มร่างบางไปสนุกกันในห้องโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังปล่อยความลับที่ปกปิดมานานให้เปิดเผย
สามวันต่อมา
"เป็นแบบนี้นี่เองเลวที่สุด"
อิทธิกรนั่งกำมือแน่นหลังจากที่ได้หลักฐานจากนักสืบที่เขาจ้างให้ตามดูก้องเกียรติแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องนี้กิ่งแก้วเป็นคนจัดการสั่งทุกอย่างทั้งหมด
"นี่ยังติดต่ออคิณไม่ได้อีกหรือไง"
ทศพลเอ่ยขึ้นมาอย่างร้อนใจ
"ครับ..ตอนนี้ผมอยากคุยกับพี่คิณใจจะขาดเค้าจะได้รู้ซะทีว่าคนที่เค้ารักนักรักหนาทำเจ็บแสบขนาดไหน"
อิทธิกรกัดฟันกรอดเขาอยากคุยกับอคิณใจจะขาดพัชรินทร์จะได้พ้นมลทินเรื่องนี้เสียที
เกาะxxx
22.00 น.
เป็นเวลาร่วมหลายวันแล้วที่อคิณกักขังพัชรินทร์ไว้ที่เกาะตอนนี้เธอดูอ่อนเพลียเป็นอย่างมากป่วยกายเพราะไม่ยอมทานอะไรไม่เท่าไรแต่เธอป่วยใจมากกว่าที่ไม่รู้ว่าเธอจะเจอหน้าลูกเธออีกเมื่อไรและไม่รู้ว่าอคิณเอาลูกของเธอไว้ที่ไหนจะอยู่กันอย่างไร
"จะให้พัชมานั่งเฝ้าเฉยๆทำไมคะ"
พัชรินทร์เอ่ยเสียงอ่อนอย่างเหนื่อยใจที่อคิณลากเธอมานั่งเฝ้าเขาดื่มตั้งแต่ช่วงเย็นจนตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
"ได้.. ไม่อยากนั่งเฝ้าเฉยๆก็ดื่มสิ"
อคิณบีบพวงแก้มหญิงสาวให้เธออ้าปากและยกแก้วไวน์ของเขากรอกใส่ปากของเธอในเมื่อไม่ยอมทานข้าวก็ดื่มไวน์เข้าไปก็แล้วกัน
"อื้อ.. ไม่ค่ะ"
พัชรินทร์รีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็วทำให้ตอนนี้ไวน์ในแก้วหกใส่เธอจนเลอะเสื้อของเธอไปหมด
"ทำไมล่ะ... ฉันบอกให้ดื่มไง"
อคิณจ้องมองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ
"อื้อออ...ฮือๆๆ"
พัชรินทร์สะอื้นขึ้นมาอีกรอบยิ่งเขาเมาเขายิ่งใจร้ายกับเธอมากขึ้นและจะเป็นแบบนี้ในทุกๆวันที่อยู่ที่นี่
"อย่านะ.."
พัชรินทร์รีบยกมือมาป้องกันตัวเองเพราะอคิณเริ่มรุกล้ำมือหน้าเข้ามาหมายจะกระชากเสื้อผ้าของเธอ หญิงสาวรีบวิ่งหนีหมายจะเข้าไปหลบในห้องเพราะกลัวว่าความเมาของชายหนุ่มจะทำให้เขาทารุณเธอในแบบที่เธอไม่อยากให้ทำ
"อย่าดิ้น" อคิณก้าวขายาวๆของเขาไม่กี่ก้าวก็ประชิดตัวหญิงสาวเขารวบอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเข้าไปในห้องนอน
พลั้กก ก่อนจะเหวี่ยงร่างบางลงกับเตียงอย่างไม่ถนอม
"ปล่อยนะ...อย่าทำแบบนี้"
พัชรินทร์รีบถดตัวหนีเธอตัวสั่นเทาร้องให้เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นอีก
"อ๊ายยย..."
คำร้องขอของเธอไม่เป็นผลอคิณระบายอารมณ์ย่ำยีหญิงสาวตามใจของเขาโดยที่ไม่สนใจเสียงร้องทรมานแม้แต่น้อย
"ฮึก...ฮือๆๆๆ...พอได้แล้ว..."
ร่างบางที่นอนสะอื้นอยู่กับเตียงเอ่ยเสียงอ่อนในขณะที่เธอยังถูกกระทำอย่างรุนแรงตอนนี้เธอไม่มีแรงต้านทานอีกฝ่ายแม้แต่น้อยมีแรงเปล่งเสียงขอให้เขาหยุดการกระทำแค่นี้ก็สุดกำลังเธอแล้ว
วันต่อมา
"ฮือ.. อือๆๆ"
พัชรินทร์รู้สึกตัวตื่นมาในตอนเช้าได้เหตุการณ์เมื่อคืนก็แล่นเข้ามาในหัวหญิงสาวทำได้เพียงกอดหมอร้องให้ระบายความกดดันอึดอัดที่อยู่ในใจเท่านั้นจะหนีก็ไม่รู้ว่าจะไปยังไงหากจะตายก็ยังห่วงลูกตอนนี้เป็นห้วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเธอเลย
"เมื่อคืนต้องขอบใจเธอเลยที่ทำให้ฉันผ่อนคลาย"
อคิณนอนเปลือยกายยกยิ้มอยู่ใต้ผ้าห่มข้างๆหญิงสาวที่นอนสะอื้นตัวสั่นยิ่งเห็นเธอเจ็บปวดเขายิ่งสะใจ
จุ้บ
“หึ่..ฮ่ะ..ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาจูบหน้าผากหญิงสาวทั้งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
"ฮื่อๆๆๆ.. " การกระทำของเขามันยิ่งทำให้พัชรินทร์ตัวสั่นเทาและสะอื้นหนักกว่าเดิมด้วยความกลัว
14.00 น.
บ้านอคิณ
"แอ้ๆ..แอ้ "
อคิณกลับมาที่บ้านในช่วงบ่ายเพราะเขาต้องกลับมาเซ็นเอกสารที่มารุตเอามาไว้ให้แต่ก็ต้องแปลกใจไม่น้อยที่พอก้าวพ้นมาจากประตูบ้านก้าวแรกก็ได้ยินเสียงเด็กอยู่ในบ้าน
"อะไรกัน"
เมื่อหันไปดูก็พบว่าที่ห้องนั่งเล่นของเขามีเปลเด็กสองเปลไหนจะพื้นยางที่ปูเต็มห้องไปอีกเมื่อเห็นอิทธิกรเดินออกมาจึงถามด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เพราะเขาไม่ชอบให้ใครยุ่งกับบ้านของเขาทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
"ลูกพี่ก็ต้องอยู่บ้านพี่สินี่ผมหาคนดูแลให้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วด้วย"
อิทธิกรเอ่ยด้วยสีหน้าและยียวนที่เขาขนของทุกอย่างมาไว้ที่บ้านพี่ของเขาเพราะรู้ว่าวันนี้พี่ชายของเขาจะกลับมาตรวจเอกสารจึงหอบเจ้าแฝดมาที่นี่
"ทำไมไม่เอาไว้บ้านแกล่ะ"อคิณเท้าเอวมองหน้าอิทธิกรเขาไม่ได้มีเวลาจะมาดูแลลูกของเขาสักเท่าไรอีกอย่างวันนี้เขาก็ต้องรีบกลับไปที่เกาะด้วย"อ้าว..ก็ลูกพี่"อิทธิกรทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้และเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่ออุ้มเจ้าก้อนทั้งสองอกมาทักทายพ่อตัวเองเสียหน่อย"แอ้..ๆ"เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาใหม่จึงมองหน้ากันทั้งขมวดคิ้วสงสัยด้วยท่าทางน่าเอ็นดู"ไปหาคุณพ่อนะครับน้ำเมย"อิทธิกรส่งน้ำเมยให้อคิณได้อุ้มอย่างปฏิเสธไม่ได้"แอ้..ๆหม่ำๆๆ"เจ้าก้อนเงยหน้ามองคนที่อุ้มก็ยกมือป้อมทั้งสองจิกไปที่ผมของคนเป็นพ่อทั้งหม่ำๆเกร็งปากด้วยความหมั่นเขี้ยว“หิวจนจะหม่ำพ่อเข้าไปแล้วเหรอ”อคิณเห็นท่าทางเช่นนั้นของน้ำเมยเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแกมหยอกพร้อมแสดงน้ำเสียงอ่อนโยนเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาอย่างไม่รู้ตัวมันเป็นไปเองอัตโนมัติเพราะความน่ารักไร้เดียงสาของลูกสาวของเขานั่นเองท่าทีอคิณตอนนี้ทำเอาอิทธิกรถึงกับมองตาค้างเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาเล่นเสียงสองแบบนี้มาก่อนแต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็พร้อมจะบอกความจริงเรื่องอุบัติเหตุที่พรากชีวิตแม่ของเขาไปแล้วด้วยหวังว่าพี่ชายของเขาจ
"คุณเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด"อคิณมือไม้สั่นไปหมดที่หญิงสาวทำให้เขาดูเป็นคนโง่หลอกใช้และที่สำคัญเธอไม่ได้รักเขาเหมือนที่เขารักเธอแม้แต่นิด"มาร์คพาเธอส่งตำรวจ"อิทธิกรสั่งให้มารุตพาหญิงสาวไปส่งตำรวจเพราะตอนนี้ก้องเกียรติก็รออยู่ที่นั่นแล้วเหมือนกัน"อย่านะนี่แสดงว่าแกวางแผนไว้ทั้งหมดใช่ไหม...จะบอกอะไรให้นะพวกแกมันโง่ไม่มีทางฉลาดกว่าฉันได้หรอกแม่แกก็สมควรตายอยากจะขัดขวางไม่ให้ฉันแต่งงานกับแกดีนักฉันรู้มานานแล้วว่าแม่แกหมายหมั้นให้อีพัชมันแต่งกับแก..ฉันก็เลยต้องชิงกำจัดแม่พวกแกก่อนไงแล้วแกก็โง่ที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นฝีมืออีพัช...โง่...โง่ฮ่าๆๆ"กิ่งแก้วที่ไม่มีอะไรจะเสียเมื่อถูกจับได้เธอจึงตวาดใส่ทุกคนอย่างคนไร้สติระบายความอัดอั้นที่ถูกเกลียดชังจากดวงสมรเธอเกลียดทุกคนที่ขวางทางเธอไม่ให้คบกับอคิณทั้งโมโหอคิณที่ไปมีลูกกับพัชรินทร์โดยที่เธอไม่รู้เรื่องทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็อยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่าอคิณมันโง่ที่สุดและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งสะใจ"ออกไป"อคิณเริ่มหายใจแรงเขาโกรธกิ่งแก้วมากก่อนจะตวาดไล่กิ่งแก้วให้ออกไปให้พ้นๆหน้าเขาในตอนนี้เมื่อกิ่งแก้วไปพ้นตาเขาแล้วชายหนุ่มถึงกับนั่งฟุบกอดเข่าล
สามชั่วโมงต่อมา"พัช"อิทธิกรนั่งรอทั้งสองอยู่จนดึกเมื่อเห็นอคิณประคองพัชรินทร์เดินเข้าบ้านมาเขาก็รีบเข้าไปสวมกอดน้องสาวของเขาทันทีทั้งมองสภาพที่อิดโรยของเธอด้วยสายตาที่เป็นห่วง"พี่กร...ลูกพัชอยู่ไหนคะ"พัชรินทร์รีบถามหาเจ้าแฝดทันทีที่มาถึง“กำลังหลับปุ๋ยเลย”อิทธิกรค่อยๆพาพัชรินทร์เดินไปที่ห้องนอนใกล้ๆกับห้องนั่งเล่นเมื่ออิทธิกรเปิดประตูพัชรินทร์ก็รีบเดินเข้าไปกอดหอมลูกทั้งสองของเธอบนเตียงด้วยน้ำตา“ลูกแม่..”หญิงสาวนั่งมองลูกๆของเธอพักใหญ่ราวกับจงอางหวงไข่ภาพนั้นทำให้ทั้งอิทธิกรและอคิณมองหน้ากันด้วยความหดหู่“พัชพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”อิทธิกรเรียกให้พัชรินทร์มาคุยเรื่องแม่ของเขาข้างนอกเพราะเรื่องนี้น้องของเขาก็ต้องได้รับรู้ด้วยเช่นกัน“อะไรนะคะเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคุณกิ่งเหรอคะ”พัชรินทร์รู้เรื่องที่กิ่งแก้วทำทั้งหมดเธอก็ถึงกับอึ้งจากที่คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแต่แท้ที่จริงแม่เธอต้องเสียเพราะผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวคนนึงเธอก็ยิ่งเสียใจ“พี่คิณ”อิทธิกรเห็นอคิณเดินเข้ามาเขาก็รีบลุกหมายที่จะเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน"เรากลับบ้านกันเถอะค่ะพี่กร"พัชรินทร์ดึงแขนของอิทธิกรเอาไว้แล
"ต่อไปนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนคุณพิมจะว่าอะไรไหมคะ" พัชรินทร์ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกๆของเธอที่นี่ส่วนอคิณเธอจะไม่เก็บเขามาใส่ใจอีกต่อไปเพราะอยากจะลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว"คุณพัชอยู่ไปเลยค่ะที่นี่ก็คือบ้านคุณพัชนะคะ...แล้วคุณคิณจะตามมาไหมคะเพราะเค้ารู้ว่าลูกของเค้ากับคุณอยู่ที่นี่" พิมพรรณไม่ได้มีปัญหาเลยสักนิดเพราะพัชรินทร์ก็เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเธอไปแล้วโดยเฉพาะตาของเธอคงจะเฉาตายแน่นอนหากเจ้าแฝดไม่อยู่ด้วย"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่อย่าไปสนใจเค้าเลยค่ะ" "เอ่อ.. ค่ะ" พิมพรรณรู้ว่าพัชรินทร์คงเจ็บปวดมากไม่อย่างนั้นคงไม่อยากลืมชื่ออคิณขนาดนี้"ตอนนี้คุณกับพ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้างคะ" พัชรินทร์เปลี่ยนมาถามเรื่องของพิมพรรณและทรงรบเพราะเธออยากจะรู้ว่าทั้งสองคุยกันดีขึ้นบ้างหรือยัง"พูดแล้วก็ปวดหัวไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ.." พิมพรรณกับทรงรบตอนนี้ยังคงกัดกันทุกวันเหมือนเดิมเธอจึงไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องของเธอกับเขาเท่าไร"ของที่ส่งยังเยอะเหมือนเดิมไหมคะ""เยอะกว่าเดิมอีกค่ะ""ดีจังเลย.." สองสาวเดินคุยกันไปชมไร่ในยามเย็นไปพัชรินทร์ยิ้มออกอีก
“หม่ำๆๆ..”“ป้อนลูกสิ”อคิณเห็นพัชรินทร์เอาแต่มองเขาจนทำให้น้ำปายร้องเรียกเขาจึงบอกให้เธอหันไปป้อนลุกแทนที่จะมาจ้องเขาอยู่แบบไม่พูดไม่จาแบบนี้พัชรินทร์รีบตักข้าวป้อนน้ำเมยทันทีที่เธอเริ่มตั้งสติได้ตอนนี้เธอเริ่มอึดอัดขึ้นมาเสียแล้วที่อคิณเข้ามายุ่งกับเธอแต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับเขาสักคำเพราะทำใจไว้แล้วว่าจะไม่สนใจเขาหากเขาทนต่อความเงียบของเธอได้ก็ทนไป“คุณพัช..คุณคิณ”พิมพรรณหายสงสัยแล้วว่าอคิณหายไปไหนแต่เช้านี่คงจะเพราะทรงรบเป็นคนบอกเขาถึงมาที่นี่ถูก“เจ้าแฝดพึ่งทานข้าวอิ่มเดี๋ยวรออาบน้ำแปปนะคะ”พัชรินทร์หันไปยิ้มกับพิมพรรณเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในบ้าน“ค่ะเดี๋ยวพิมช่วยนะคะ”พิมพรรณช่วยอุ้มเจ้าแฝดออกจากโต๊ะทานข้าวในขณะที่พัชรินทร์กำลังเตรียมน้ำอุ่นอยู่“ขอบคุณค่ะ”“นี่เค้ามาทำอะไรเหรอคะ”พิมพรรณเอ่ยกระซิบกับพัชรินทร์เบาๆ“ช่างเค้าเถอะค่ะฉันไม่สนใจ”พัชรินทร์ส่ายหัวเขาจะมาทำอะไรก็ช่างเธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นครู่ต่อมา“อาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวนะคะ..”สองสาวอุ้มเจ้าสองแฝดมานอนบนเตียงและเช็ดตัวทาแป้งเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปส่งให้เริงฤทธิ์ที่ไร่และพวกเธอก็จะได้ลุยงานในไร่ต่อ“
"ผัวหนูพัชน่ะสิ...นี่กำลังสอนให้เลี้ยงลูกอยู่ไม่เป็นอะไรสักอย่างเลย"พัชรินทร์ที่พึ่งจะลงรถเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปในโรงแพ็คของทันทีเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าอคิณ"คุณพัช"พิมพรรณรีบเดินตรามพัชรินทร์ไปอย่างรวดเร็วนึกไม่ถึงว่าอคิณจะกล้าตามพัชรินทร์กับลูกๆมาที่นี่ทั้งที่พัชรินทร์ก็แสดงท่าทีให้เขามองออกว่าไม่ต้องการเขาเริงฤทธิ์เกิดความสงสัยในความเงียบของพัชรินทร์ไหนจะสามีของเธอที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก็พอจะมองออกว่าทั้งค่าคงจะมีเรื่องงอนกันอยู่แน่นอนเขาอายุปูนนี้แล้วพอจะมองออก"มาหาพ่อนะครับ"อคิณถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วฝืนยิ้มหันมาอุ้มลูกของเขาเพื่อที่จะให้เด็กๆได้ดื่มนมที่พึ่งชงเสร็จ"ป้อ.."น้ำเมยเอ่ยออกมาเมื่อคนเป็นพ่ออุ้ม"หา..ว่าไงนะครับ..พ่อ..ลองพูดพ่อสิลูก"อคิณแทบน้ำตาคลอแม้คำพูดของลูกเขาจะไม่ชัดแต่ก็ดีเท่าไรแล้วที่ลูกของเขาเอ่ยเรียกเขาออกมาได้"ป้อ.."น้ำปายที่อยู่บนตักของเริงฤทธิ์เห็นคนพี่พูดก็ลองพูดบ้างทั้งหันมายิ้มหวานให้คนเป็นพ่อแล้วกลับไปนอนดูดนมต่อ"ตื้นตันล่ะสิ...ตอนลูกข้าเรียกพ่อครั้งแรกข้ายังจำมันได้จนถึงทุกวันนี้เลยมันดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ"เริงฤทธิ์เห็นอคิณยื่นมือมาลูบหัวน้ำป
“นี่มันอะไรคะ” พัชรินทร์เก็บของแล้วพาลูกๆของเธอนั่งที่ลานนั่งเล่นในระหว่างที่เธอเตรียมตัวทำอาหารเย็นแต่สายตาก็พลันเห็นกระเป๋าสองสามใบที่ตั้งอยู่หน้าห้องนอนของเธอจึงหันไปถามอคิณด้วยสีหน้าไม่พอใจ“พี่จะมาอยู่ที่นี่ดูแลพัชกับลูกไง” “งานล่ะคะ” พัชรินทร์ไม่เข้าใจว่าเขากล้าทิ้งงานมาได้อย่างไรทั้งที่บริษัทที่เขาบริหารงานอยู่เป็นบริษัทที่ดวงสมรนั้นรักมาก“พี่ให้มาร์คดูแล” ฟึ่บ อคิณหน้าเจื่อนเมื่อหญิงสาวลากกระเป๋าของเขามาวางไว้ที่หน้าบ้าน“งั้นก็ไปอยู่ข้างนอกค่ะ” พัชรินทร์ไม่พอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มทิ้งงานมาแบบนี้แล้วให้คนอื่นรับผิดชอบแทนเพื่อที่จะมาอยู่เฝ้าเธอ“พัช” อคิณเริ่มหน้าเสีย“อยู่ไม่ได้ก็กลับไปค่ะ” พัชรินทร์เอ่ยเสียงแข็งเธออยากให้เขากลับไปสนใจเรื่องงานมากกว่าสนใจเธอเพราะยิ่งเขามาอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งอึดอัดไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด18.00 น.พัชรินทร์เดินถือถาดข้าวผัดผักพร้อมไข่เจียวและน้ำอีกหนึ่งขวดให้อคิณหลังจากเห็นว่าเขายังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน“ขอบคุณนะ” อคิณพอจะมีรอยยิ้มที่เห็นว่าอย่างน้องพัชรินทร์ก็ไม่ได้ใจดำจนไม่สนใจอะไรเขาเลย“ทานเสร็จก็ออกไปได้แล้ว”“ไม่..พี่ไม่ไปไหนทั้งนั
14.00 น.“คุณพัชคะถ้าเราจะซื้อของขวัญให้ผู้ชายเราจะซื้ออะไรดีคะ” พิมพรรณเอ่ยถามพัชรินทร์เพื่อขอความเห็นในขณะที่ทั้งคู่กำลังเตรียมแพ็คสตอเบอรี่“ของขวัญวันเกิดพ่อเลี้ยงเหรอคะ” พัชรินทร์ยิ้มอ่อน“ก็..ค่ะ” พิมพรรณมีสีหน้าเขินเล็กน้อยเธอกะจะไม่ให้คนอื่นรู้ว่าจะซื้อของให้ทรงรบแต่ก็ถูกจับได้“พ่อเลี้ยงชอบอะไรเป็นพิเศษล่ะคะ” “เอ่อ..ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ” พิมพรรณเดาไม่ออกเลยว่าทรงรบนั้นชอบอะไร“อืม..ลองหาเป็นของใช้ส่วนตัวของเค้าดูไหมคะ” “ฉันจะลองหาซื้อดูนะคะ” พิมพรรณคิดหนักของใช้ส่วนตัวของผู้ชายก็ไม่ใช่แค่อย่างสองอย่างเธอจึงคิดไม่ตก“ค่ะ” พัชรินทร์คงให้ความเห็นได้เท่านี้เพราะเธอเองก็ชอบให้เป็นของใช้ส่วนตัวกับอิทธิกรและอคิณในวันเกิดของพวกเขาเช่นกันอิทธิกรนั้นชอบของที่เธอให้ทุกครั้งแต่เธอไม่รู้เหมือนกันว่าอคิณจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าเพราะเธอไม่ได้ให้ด้วยตัวเองเลยสักครั้งแถมเจ้าของวันเกิดก็ยังไม่เคยรู้ด้วยว่าเป็นของๆเธอเย็นของวัน“พี่เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ลูกแล้วป้อนข้าวเสร็จก็พาอาบน้ำได้เลย” เมื่อกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นในขณะที่พัชรินทร์กำลังป้อนข้าวลูกๆของเขาอคิณก็รีบเตรียมน้ำอุ่นเพื่อเอาไว้อา