"พ่อขอโทษขอปืนให้พ่อเถอะนะ"
มิฮาอิลนั่งร้องให้อ้อนวอนลูกของเขาแทบขาดใจเขาผิดเองผิดทั้งหมดผิดที่รักลูกผิดวิธี
"ลาก่อนนะคะพ่อหนูจะไปอยู่กับวินซ์"
ปั้งงงงงง
"ม่ายยยยย..ไอรีน อย่าจากพ่อไปนะลูก"
และแล้วภาพที่น่าหดหู่ตรงหน้าก็ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคนเป็นมิฮาอิลที่ร้องให้แทบเสียสติเมื่อเห็นลุกสาวของเขาตายไปต่อหน้าต่อตาแต่นั่นมันก็คงเป็นกรรมที่พวกเขาได้กระทำเอาไว้
โรงพยาบาล
"ตอนนี้หมอผ่าตัดเอากระสุนออกแล้วนะครับเธอปลอดภัยแล้ว”
ทุกคนต่างก็โล่งใจเมื่อพาเพนนีนั้นมาที่โรงพยาบาลได้ทันโดยเฉพาะธารธาราที่นั่งภาวนาอยู่ทุกนาทีให้หญิงสาวปลอดภัย
“ฉันจะอยู่เฝ้าพี่ฉันเองค่ะ”
ตรีรัตน์บอกกับทุกคนว่าวันนี้เธอจะอยู่เฝ้าพี่สาวของเธอที่นี่เอง
“คุณกลับไปเถอะครับผมจะดูแลเธอเอง”
ธารธาราคงปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เขาคงใจขาดแน่หากไม่ได้อยู่ดูอาการเพนนี
“แต่ว่า”
“เธอกลับไปกับฉันก่อนเถอะ”
โนอาห์พูดตัดบทภรรยาของเขาไปก่อนเพราะเขาดูออกว่าทั้งสองนั้นไปถึงขั้นไหนกันแล้วตั้งแต่ประคองกันเข้ามาคุยในบ้านพักที่เกาะไหนจะความเสียใจของธารธาราเมื่อเห็นเพนนีเจ็บอีกทำไมเขาจะเดาไม่ออก
“ฝากพี่ฉันด้วยนะคะ”
ตรีรัตน์เห็นว่าธารธาราดูจะเป็นห่วงพี่สาวของเธอจึงยอมกลับไปกับโนอาห์แต่โดยดี
คฤหาสน์ซาเรฟ
“จำที่นี่ได้หรือเปล่า”
โนอาห์พาหญิงสาวกลับมาที่คฤหาสน์เห็นเธอมองซ้ายมองขวาตั้งแต่รถขับเข้ามาแล้วเขาจึงอยากรู้ว่าเธอนั้นจำอะไรเกี่ยวกับที่นี่ได้บ้าง
“ไม่เลย..นี่ฉันเป็นภรรยาของคุณจริงๆเหรอ”
ตรีรัตน์ส่ายหัวเบาๆซ้ำยังจ้องหน้าโนอาห์ด้วยสายตาที่สงสัยจริงจัง
“ฉันจะล้อเธอเล่นเพื่ออะไรเพนนีก็ยืนยันกับเธอแล้วไม่ใช่หรือไงแตงกวา”
เขาอยากจะเขกหัวเมียรักของเขาเสียจริงที่ทุกคนก็ยืนยันแล้วแต่เธอก็ยังทำท่าทีไม่เชื่อ
“นายหญิงคะ นายหญิงกลับมาแล้ว”
นาเดียเห็นว่าตรีรัตน์กลับมาที่นี่เธอก็รีบวิ่งมาต้องรับด้วยความยินดีที่นี่จะได้กลับมาเป็นบ้านที่มีครอบครัวสมบูรณ์อีกครั้ง
“คูมแม่..”
หนูน้อยนิชารีเห็นตรีรัตน์ก็เอ่ยเรียกคนเป็นแม่เสียงแหลมเพราะจำได้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคือผู้หญิงที่พ่อตนนั้นสอนให้เรียกชื่อในรูปบ่อยๆ
“คุณแม่เหรอ น หนูนา..อ โอ้ยย”
ตรีรัตน์เห็นลูกสาวตัวน้อยของเธอพลันสมองก็จำได้ลางๆว่าเคยเรียกชื่อของลูกเธอแต่เมื่อพยายามคิดว่าตอนไหนก็ปวดหัวขึ้นมากะทันหัน
“มานั่งพักก่อน”
โนอาห์จึงรีบพาเธอไปนั่งพักที่โซฟาเสียก่อน
“คูมแม่..”
เด็กหญิงเดินเข้ามาปีนโซฟากอดคนเป็นแม่ตามสัญชาติญาณด้วยความคิดถึง
“หนูนาลูกแม่..”
ตอนนี้เธอจำได้แล้วว่าเธอมีลูกที่ชื่อหนูนาเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวลูกสาวของเธอสาวเจ้าก็รีบสวมกอดเจ้าก้อนเอาไว้แน่นแม้ความทรงจำมันจะเลือนลางก็เถอะ
“เธอจำได้แล้วเหรอ”
โนอาห์ถึงกับยิ้มตาเป็นประกายที่ได้รู้ว่าหญิงสาวพอจะจำอะไรได้บ้าง
“อย่าพึ่งถามอะไรฉันได้หรือเปล่าคะฉันปวดหัว”
หญิงสาวปรามโนอาห์เพราะเธอไม่อยากคิดอะไรเยอะแค่นี้เธอก็พยายามเก็บอาการปวดหัวมากพออยู่แล้ว
เย็นของวัน
“ว่ายังไงคะคนเก่งเดินตามแม่มาทำไมคะ”
เด็กหญิงเดินตามคนเป็นแม่ในขณะที่ตรีรัตน์นั้นเดินสำรวจรอบๆคฤหาสน์หลังนี้เผื่อว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นได้บ้าง
“หนม”
หนูน้อยนิชารียื่นก้อนช็อคโกแล็ตที่แกะอยู่ในมือให้กับคนเป็นแม่ด้วนรอยยิ้ม
“ให้แม่เหรอคะขอบคุณมากค่ะ หนูนาอยากทานหรือเปล่า”
ตรีรัตน์ย่อตัวลงรับของจากมือของหนูนาลูกสาวของเธอ
“ค่ะ” เด็กหญิงตัวกลมพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆๆ แม่แบ่งให้นะคะ”
ตรีรัตน์หัวเราะร่าเธอไม่รู้ว่าลุกของเธออยากให้ขนมเธอหรืออยากให้แกะห่อช็อคโกแล็ตให้กันแน่
“ท่านายหญิงจะสนใจแต่คุณหนูนะคะ”
นาเดียยืนมองนายหญิงของเธอกับคุณหนูอยู่ด้านหลังโนอาห์
“แค่เธอจำลูกได้บ้างฉันก็พอใจแล้ว”
หากหญิงสาวจะจำได้เพียงลูกเขาก็ไม่ว่าแต่เขาขอให้เธอยอมอยู่กับเขาแบบนี้ตลอดไปก็พอ
เดือนต่อมา
ตอนนี้ตรีรัตน์เริ่มที่จะชินกับคฤหาสน์นี้มากขึ้นแต่เธอก็ยังจำได้แค่เพียงว่าตัวเองมีลูกเท่านั้นส่วนบุคคลอื่นที่เคยประสบพบเจอก็จำไม่ได้คงต้องรื้อฟื้นกันอีกนานแต่นั่นโนอาห์ก็ไม่ได้บังคับอะไรเธอเขาทำได้เพียงค่อยๆแนะนำทุกคนให้ตรีรัตน์ได้รู้จักใหม่เท่านั้น
ในส่วนของเพนนีและธารธาราตอนนี้ทังคู่ก็กลับไปอยู่ไทยกันเรียบร้อยแล้วด้วยเวลาอีกไม่นานคงมีงานมงคลเกิดขึ้นเพราะธารธาราเป็นคนบอกกับเขาเองก่อนจะไป
เกาะXX
โนอาห์ว่างเมื่อไรก็ชอบพาหญิงสาวกับลูกของเขามาพักที่เกาะส่วนตัวเพราะเห็นว่าเป็นที่ๆหญิงสาวชอบอีกอย่างก็สงบปลอดภัยด้วย
23.00 น.
"เมื่อก่อนฉันรักคุณมากหรือเปล่า"
หลังจากที่กล่อมลูกของเธอจนหลับได้ตรีรัตน์ก็มานอนคุยกับโนอาห์ถึงเรื่องก่อนหน้าที่เขาไม่ยอมเล่าให้เธอฟังเสียทีว่าเธอเจอกับเขาได้อย่างไรเธอจึงเปลี่ยนคำถามว่าเธอนั้นรู้สึกรักเขามากแค่ไหนตอนคบกัน
"มากสิไม่อย่างนั้นเธอจะยอมมีลูกกับฉันเหรอ"
โนอาห์พยักหน้าเบาๆ
"ไม่ใช่ว่าคุณบังคับขืนใจฉันล่ะ"
ตรีรัตน์ไม่ค่อยจะเชื่อคำที่เขาพูดกับเธอเท่าไรจึงบุ้ยปากใส่เขาเล็กน้อยเธอเชื่อว่าหากเธอตกหลุมรักเขาในตอนนั้นก่อนเธอคงจะคิดน้อยไปแน่เพราะเขาค่อนข้างเอาแต่ใจจากที่เธอสัมผัส
"ไม่เลยเธอต่างหากลุกฉันก่อน"
โนอาห์ยื่นมือหนาแตะหน้าผากหญิงสาวไปหนึ่งที
"ฉันน่ะเหรอคะ"
ตรีรัตน์ขมวดคิ้วทั้งครุ่นคิดว่าเธอนั้นทำอย่างนั้นจริงหรือ
"นอนเถอะเสียงดังเดี๋ยวลูกตื่น"
โนอาห์ขี้เกียจจะตอบคำถามหญิงสาวแล้วจึงกอดร่างบางแน่นให้เธอนอนเสียทีจะได้ไม่ต้องถามอะไรเขามากนักเพราะขี้เกียจจะโกหกหากวันนึงเธอจำได้ขึ้นมาจะมีปัญหากันอีก
"ฉันไม่ค่อยจะเชื่อคุณสักเท่าไรเลย"
หญิงสาวบ่นอู้อี้ในอ้อมอกแกร่งเบาๆ
"นอนๆรู้แค่ว่าเรารักกันก็พอแล้ว"
ชายหนุ่มลูบหัวทุยเบาๆทั้งกล่อมให้เธอหลับเป็นเด็กๆ
เขาอยากให้เธอรู้แค่นี้ก็พอแล้วเพราะไม่อยากเล่าความจริงเองเท่าไรกลัวว่าเธอจะเกลียดเขาเสียตอนที่ยังจำตอนที่รักเขาไม่ได้แค่ตอนนี้ให้เธอรู้ว่าเขาและเธอรักกันมากก็พอแล้ว
จบแล้วค่า
วัดxxxในขณะนี้เป็นเวลาเกือบทุ่มตรงในวัดมีพิธีสวดศพของคุณหญิงดวงสมรเจ้าของกิจการในเครือสุทธิเกียรติกอบการหรือSKK group ณ ตอนนี้แขกเหรื่อในงานเริ่มทยอยกันเข้ามาร่วมพิธีสวดศพกันมากหน้าหลายตาเพราะคุณหญิงดวงสมรมีคนรู้จักมากมายพอสมควรทั้งคนใหญ่คนโตไปจนถึงระดับพนักงานในเครือบริษัททุกคนต่างก็เสียใจในการจากไปของคุณหญิงดวงสมรอย่างมาก“แกพาเธอมาทำไม” อคิณชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทสีดำเขายืนจ้องหน้าอิทธิกรน้องชายวัย30เขม็งเมื่อเห็นว่าน้องชายพาคนที่เขาไม่อยากให้มาที่นี่มาด้วยทั้งที่เขาเคยเอ่ยปากออกคำสั่งกับทุกคนแล้วว่าไม่ให้พัชรินทร์ผู้หญิงที่ทำให้แม่ของเขาตายมาเหยียบที่นี่“ให้พัชได้กราบศพคุณแม่หน่อยนะครับพี่คิณ” อิทธิกรเอ่ยเสียงอ่อนเขาสงสารพัชรินทร์ที่จะไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะกราบศพของแม่ของเขา“ออกไปคนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มากราบศพแม่ฉันเธอมันฆาตกร” อคิณชี้หน้าพัชรินทร์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยท่าทีขึงขังและตวาดไล่เธอจนคนในงานตอนนี้ต่างก็มองกันเป็นตาเดียว“ไม่นะคะพี่คิณพัชไม่ได้ตั้งใจพัชไม่ได้อยากให้คุณแม่ตาย” พัชรินทร์ส่ายหัวพัลวันน้ำตาไหลพรากที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรฆ่าคนที่มีพระคุณเธอไม่ได
“ไม่นะคะพี่คิณ...สมบัติอะไรพัชไม่อยากได้ทั้งนั้นขอแค่พัชได้ออกไปกราบศพคุณแม่สักครั้งนะคะ” ร่างบางสั่นเท่าทั้งยกมือไหว้คนตรงหน้าน้ำตาคลอเรื่องพินัยกรรมเธอไม่เคยอยากได้เลยสักนิดและเคยตอบปฏิเสธดวงสมรเอาไว้แล้วด้วยแต่แม่เธอก็ไม่ยอมตอนนี้เธอไม่ขออะไรมากขอแค่ให้อคิณเห็นใจเธอให้เธอได้มีโอกาสไปกราบศพดวงสมรสักครั้งก่อนที่จะถึงวันเผา“ไม่ต้องมาเสแสร้งฉันไม่เชื่ออะไรคนอย่างเธอ” พลั้กกอคิณตวาดเสียงฝาดทั้งผลักพัชรินทร์ติดกับหัวเตียงด้วยโทสะและเดินออกไปโดยที่ไม่หันกลับมามองว่าคนที่ตัวเองผลักจะเป็นอย่างไร“โอ้ยยย...ไม่นะคะพี่คิณปล่อยพัชไปนะคะ....พี่คิณปล่อยพัชไป..อือฮือๆๆ”พัชรินทร์พยายามลุกขึ้นเดินกระเผลกตามร้องตะโกนเรียกอคิณจนสุดเสียงแต่ก็ไร้ผลเธอจึงได้แต่นั่งสะอื้นตัวโยนยอมรับโชคชะตาอยู่ที่มุมห้องมองดูหลังไวๆของคนใจดำที่เดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของเธอแม้แต่น้อยในวันต่อมาวันนี้อิทธิกรไปเยี่ยมพัชรินทร์ที่โรงพยาบาลแต่กลับได้ข่าวมาว่าพี่ชายของเขาพาตัวพัชรินทร์กลับไปรักษาที่บ้านแล้วด้วยความเป็นห่วงจึงรีบตามพัชรินทร์ไปที่บ้านของพี่ชายแต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบใครทำให้อิทธิกรต้องร้อนใจจนต้องบึ่งร
“ปล่อยคุณคิณไปก่อนนะคะคุณกร...พูดอะไรไปตอนนี้คุณคิณก็ไม่รับฟังหรอกค่ะ”“อืม...ก็ได้”อิทธิกรชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะล้มเลิกความตั้งใจด้วยเห็นว่าคงจริงอย่างที่กิ่งแก้วพูดเขาเองก็ลืมคิดไปว่าพี่ชายตนนั้นหากไม่คิดจะฟังอะไรแล้วต่อให้พูดให้ตายก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาทำหูทวนลมอยู่ดี“คุณกรคงอยากให้คุณอนุญาตให้พัชเข้ามาในงานน่ะค่ะ” กิ่งแก้วเอ่ยพร้อมจับมืออคิณไว้หลวมๆในขณะที่นั่งรถอยู่ด้วยกัน อคิณฟังจบก็ยังคงเงียบเฉยมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง“นี่พัชไปทำอะไรคุณกรคะถึงได้ดูรักกันขนาดนี้” กิ่งแก้วซบบ่าของอคินเบาๆ“ยัยนั่นมันแม่มดทุกคนเอาแต่เข้าข้างเธอจนไม่ลืมหูลืมตา”น้ำเสียงของชายหนุ่มเอ่ยด้วยความคับแค้นอยู่ในใจ“กิ่งไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าพัชรินทร์จะกล้าทำเรื่องแบบนี้อย่างว่าล่ะนะคะเงินทองไม่เข้าใครออกใคร”“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย” อคิณไม่อยากได้ยินชื่อของพัชรินทร์ในตอนนี้สักเท่าไรเพราะมันยิ่งตอกย้ำให้เขาคิดว่าแม่ของเขาจากไปในเวลาที่ไม่ควรเพราะฝีมือของคนที่เห็นแก่ได้คนนึง "อืม..." กิ่งแก้วดึงมือหนาของชายหนุ่มเข้ามาในใต้กระโปรงทรงเอของเธอช้าๆ"ฉันรู้ค่ะว่าคุณอยากผ่อนคลาย" อคิณหันมามอง
"อย่างนั้นเลยที่รัก" อคิณเห็นกิ่งแก้วขึ้นมานั่งคร่อมเขาบนหน้าตักค่อยๆทิ้งตัวลงเสียบแท่งร้อนกับช่องทางรักของเธอช้าๆเขาก็ถูกใจกับลีลาของเธออย่างมากมือหนาวางขวดไวน์และจับสะโพกมนคุมจังหวะขึ้นลงด้วยตัวเองกึกๆๆๆบทรักที่รุนแรงของทั้งสองทำเอาโซฟาที่พวกเขานั่งนั่งอยู่อยู่ไม่สุขเกิดเสียงกึกกักเมื่อทั้งคู่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ"อ้ะ..คิณคะ..อะ..อ๊ายยย.."อคิณอุ้มร่างบางลุกขึ้นขระที่ส่วนประสานของทั้งสองยังติดกันแน่นชายหนุ่มกระแทกสะโพกแกร่งอัดร่องสวาทหนักหน่วงจนเกิดเสียงกระทบดังลั่นจนทำให้ร่างบางร้องระงมเสร็จสมไปอีกรอบ"บนเตียงดีกว่านะ" คนตัวโตวางหญิงสาวลงบนเตียงและพลิกเธอให้นอนคว่ำกิ่งแก้วเด้งตัวขึ้นยกสะโพกแอ่นให้ชายหนุ่มอัตโนมัติ"อ้าสส...""อะ...อะ..อะ.. อ๊ายย...อื้ออ" เมื่ออคิณจับสะโพกมนและเสียบแท่งร้อนพรวดเดียวจนมิดลำและอัดกระแทกรูสวาทที่เยิ้มแฉะอย่างเต็มแรงเขาหลับตาปี๋คำรามในลำคอด้วยท่าทีเสียวกระสัน ความรุนแรงที่เขาอัดกระแทกนี้ทำให้กิ่งแก้วทั้งเจ็บและจุกแต่มันก็ทำให้เธอเสียวไม่น้อยด้วยชอบความดิบเถื่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว"อ้ะๆ" "อ้าสสส.."อคิณพลิกร่างบางให้นอนหงายเขายกขาทั้งสองของเธอข
"ยังจะมีแรงไล่ฉันยังงั้นเหรอ"อคิณปลดโซ่ที่ข้อเท้าหญิงสาวและค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเขาออกช้าๆต่อหน้าร่างบางที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะฤทธิ์ยาอยู่บนเตียงเขาจะให้เธอเห็นทุกเหตุการณ์อย่างเต็มสองตาว่าเขานั้นทำอะไรกับเธอบ้าง"อื้อ.."ในขณะที่คนตัวโตกำลังแทรกตัวมากึ่งกลางเรียวขาของเธอทั้งสองพัชรินทร์ทำได้แค่ส่งเสียงประท้วงในลำคอเท่านั้นแม้ในใจอยากจะหนีเขาไปแค่ไหนก็ตาม"หน้าอกเธอเต็มไม้เต็มมือดีนะ"อคิณค่อยๆโน้มตัวดูดคลึงหยอกล้อเต้างามที่ตั้งอูมชูชันอยู่ตรงหน้าเล่นทั้งเงยหน้าพูดคุยกับหญิงสาวให้เธอได้จำว่าเขาสัมผัสส่วนไหนของเธอแล้วบ้าง"อย่าพยายามเลยเธอจะต้องตกนรกทั้งเป็นอย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ"อคิณจับแขนของหญิงสาวขึงกับเตียงเมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยายามยกมือที่ไม่มีแรงมาดันเขาออก".. จำภาพนี้เอาไว้นะ อ.. อ้าสส"อคิณโน้มตัวนั่งขึ้นและเอ่ยกับหญิงสาวที่น้ำตารื้นด้วยรอยยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นและดันแท่งร้อนเข้าไปจนมิดลำในครั้งเดียวความคับแน่นของช่องทางรักหญิงสาวบีบตัวตนของเขาแทบปริแตกจึงทำให้อคิณคำรามออกมาเสียงหลง"อ.. อ๊ายย.."พัชรินทร์เบิกตาโพรงแม้เธอจะอยู่ในอาการสะลึมสะลือ
“ยังไงลอตแรกที่เราจะส่งไปจะเป็นเดือนหน้านะครับ”“ครับสะดวกเมื่อไรก็ติดต่อไปที่ผมได้ทันทีเลย”โนอาห์และอคิณนั่งคุยกันไปดื่มไปทั้งสองแม้จะเจอกันวันแรกก็นับว่าคุยกันถูกคอมากเลยทีเดียว“ไม่เข้าไปร่วมวงหน่อยเหรอครับ”มารุตเห็นกิ่งแก้วนั่งมองสองหนุ่มนานแล้วจึงเอ่ยปากให้เธอเข้าไปหาสองคนนั้นเพราะคิดว่าน่าจะทำให้การสนทนาสนุกขึ้น“ให้ผู้ชายเค้าคุยกันเถอะค่ะ”กิ่งแก้วอมยิ้มพร้อมส่ายหัวเล็กน้อยเธอไม่ได้อยากเข้าไปขัดจังหวะการพูดคุยของทั้งสองแค่ได้นั่งมองห่างๆก็พอแล้วสองวันต่อมากรุงเทพมหานครบ้านทศพลอิทธิกรร้อนใจจนต้องมาปรึกษาทศพลเพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาพยายามขอเข้าพบพี่ชายของเขาแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง“คุณอาครับผมทนต่อไปไม่ได้แล้วครับผมจะออกตามหาพัชเอง”อิทธิกรนั่งหัวเสียอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของทศพล“ถ้าเราจะเอาแบบนั้นอาก็จะช่วย”ทศพลเห็นทีจะรอให้อคิณใจอ่อนคงไมได้หากอิทธิกรคิดจะช่วยพัชรินทร์เขาก็จะช่วยอีกแรง“อาพอจะรู้ไหมครับว่าที่ของคุณพ่อที่ซื้อเก็บเอาไว้มีที่ไหนบ้างผมว่าพี่คิณต้องซ่อนพัชไว้ที่บ้านหลังไหนสักแห่งของคุณพ่อแน่นอน”“อาก็พอจะรู้อยู่ไม่กี่หลังแต่เท่าที่อาจำได้คร่าวๆก็มีอยู่สามสี
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมพัชอยู่ในสภาพแบบนี้” อิทธิกรพุ่งตัวเข้าไปหาพัชรินทร์ที่นอนอยู่บนเตียงเขามองส่วนบนของน้องสาวของเขาที่โผล่ออกมาจากผ้าห่มมันมีแต่รอยแดงช้ำเต็มไปหมดอยากจะรู้นักว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องของเขากันแน่“พี่กร..ฮือๆๆๆ..” พัชรินทร์รีบสวมกอดอิทธิกรเธอร้องให้ตัวสั่นดีใจที่เห็นอิทธิกรอยู่ที่นี่ชั่วโมงต่อมาบริษัทXX “พี่ทำกับพัชแบบนั้นได้ยังไง” หลังจากที่จัดการธุระที่บ้านริมน้ำเสร็จอคิณก็ดิ่งตรงมาที่บริษัทเพื่อมาต่อว่าอคิณที่ทำกับพัชรินทร์เหยียบย่ำเธอให้เสียศักดิ์ศรี“แสดงว่าแกไปเจอเธอมาอย่างนั้นสิ” อคิณตอบกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านเขาพอจะดูออกว่าอิทธิกรโมโหเขาในตอนนี้เพราะน่าจะไปเจอกับพัชรินทร์มาแล้วแน่นอน“ถ้าผมตัดสินใจตามหาพัชเร็วกว่านี้อีกสักนิดเธอก็คงจะไม่เป็นอะไรพี่มันโหดเหี้ยมเกินคนทำกับเธอแบบนั้นได้ยังไง” อิทธิกรเอ่ยเสียงสั่นทั้งดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ“เธอต่างหากที่ทำแม่ฉันก่อนมันน้อยไปกับสิ่งที่เธอจะได้รับ” อคิณจ้องอิทธิกรเขม็ง“ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะไร้ความปราณีแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างพัชรินทร์..พี่จำเอาไว้นะครับว่าพี่จะไม่มีโอกาสท
"พิมกับเพื่อนกลับมาพร้อมเพื่อนกะทันหันน่ะจะนี่พัชเพื่อนหนู..." พิมพรรณรีบแนะนำพัชรินทร์ให้ตาของเธอได้รู้จัก"สวัสดีค่ะ" พัชรินทร์รีบยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า"หวัดดีลูกหวัดดี" เริงฤทธิ์รับไหว้พัชรินทร์และตบบ่าเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู"ตาแล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอจ้ะ" "กำลังคัดสตรอเบอรี่พวกนี้แปรรูปน่ะสิ""นี่งานล้นมือจนต้องทำเองเลยเหรอจ้ะ" เมื่อก่อนเธอจะเห็นตาของเธอนั่งทำบัญชีมากกว่าไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ตาของเธอต้องมานั่งทำงานหลังขดหลังแข็งทั้งที่อายุปูนนี้แล้วด้วย"เปล่าหรอก..ตาไม่มีเงินจ้างคนเยอะอย่างเมื่อก่อนแล้ว" เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงอ่อนแต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้หลานของเขาต้องเป็นกังวล"ตอนนี้มันขนาดนี้เลยเหรอจ้ะ" พิมพรรณพอจะรู้จากน้าของเธอมาบ้างว่าที่ไร่ผลผลิตมันขายไม่ได้ราคาแต่ก็ไม่คิดว่าจะวิกฤตจนไม่มีเงินที่จะจ้างคนงาน"ก็ค่าหยุกค่ายามันก็แพงไหนจะผลผลิตที่ได้ก็ขายไม่ได้ราคาก็ต้องถูๆไถๆไปนั่นแหละพิมเอ้ย""แล้วน้าภูล่ะ" "ลงแรงกับคนงานอยู่ท้ายไร่นู่นถางหญ้ากัน""อ๋อ..จะ""สตอเบอรี่พวกนี้คุณภาพดีนะคะทำไมขายไม่ได้ราคาล่ะคะ" พัชรินทร์หยิบดูสตอเบอรี่ในลังที่กำลังจะแปรรุปเธอ