"พิมกับเพื่อนกลับมาพร้อมเพื่อนกะทันหันน่ะจะนี่พัชเพื่อนหนู..."
พิมพรรณรีบแนะนำพัชรินทร์ให้ตาของเธอได้รู้จัก
"สวัสดีค่ะ"
พัชรินทร์รีบยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า
"หวัดดีลูกหวัดดี"
เริงฤทธิ์รับไหว้พัชรินทร์และตบบ่าเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ตาแล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอจ้ะ"
"กำลังคัดสตรอเบอรี่พวกนี้แปรรูปน่ะสิ"
"นี่งานล้นมือจนต้องทำเองเลยเหรอจ้ะ"
เมื่อก่อนเธอจะเห็นตาของเธอนั่งทำบัญชีมากกว่าไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ตาของเธอต้องมานั่งทำงานหลังขดหลังแข็งทั้งที่อายุปูนนี้แล้วด้วย
"เปล่าหรอก..ตาไม่มีเงินจ้างคนเยอะอย่างเมื่อก่อนแล้ว"
เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงอ่อนแต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้หลานของเขาต้องเป็นกังวล
"ตอนนี้มันขนาดนี้เลยเหรอจ้ะ"
พิมพรรณพอจะรู้จากน้าของเธอมาบ้างว่าที่ไร่ผลผลิตมันขายไม่ได้ราคาแต่ก็ไม่คิดว่าจะวิกฤตจนไม่มีเงินที่จะจ้างคนงาน
"ก็ค่าหยุกค่ายามันก็แพงไหนจะผลผลิตที่ได้ก็ขายไม่ได้ราคาก็ต้องถูๆไถๆไปนั่นแหละพิมเอ้ย"
"แล้วน้าภูล่ะ"
"ลงแรงกับคนงานอยู่ท้ายไร่นู่นถางหญ้ากัน"
"อ๋อ..จะ"
"สตอเบอรี่พวกนี้คุณภาพดีนะคะทำไมขายไม่ได้ราคาล่ะคะ"
พัชรินทร์หยิบดูสตอเบอรี่ในลังที่กำลังจะแปรรุปเธอเห็นว่ามันยังคุณภาพดีอยู่เลยไม่เข้าใจว่าทำไมขายไม่ได้ราคา
"มันอยู่ที่พ่อค้าคนกลางตีราคาน่ะลูกอาศัยแปรรูปฝากขายร้านค้าแถวตลาดพอได้ราคาบ้าง"
"ที่นี่เคยขายออนไลน์โดยตรงกันไหมคะ"
"คนที่นี่ก็ไม่เคยทำซะทีนะเพราะเก็บได้เท่าไรก็ส่งคนกลางหมดกลัวเหลือเอาไว้แล้วขายไม่ได้คนเลยไม่ทำกันไหนจะต้องมีขั้นตอนการจัดส่งอีกคนของเราก็ไม่ค่อยพอน่ะลูก"
"ถ้าพัชจะลองโพสขายจะเป็นอะไรไหมคะ"
พัชรินทร์เริ่มเห็นว่าที่นี่พอจะมีอะไรให้เธอทำเพื่อที่จะลืมเรื่องร้ายๆได้แล้ว
"เอาเลยลูกถ้าหนูมีเวลา"
เริงฤทธิ์ไม่ขัดหากหญิงสาวทำได้ก็เป็นผลดี
"ค่ะ"
"จะทำจริงๆเหรอคะ"
พิมพรรณหันมาถามพัชรินทร์เพื่อความแน่ใจ
"ค่ะ...ลองดูนะคะเราจะได้เงินเต็มๆไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง"
พัชรินทร์แน่ใจว่าเธอจะทำแต่เธอยังไม่แน่ใจเรื่องผลลัพท์ว่ามันจะออกมาดีหรือไม่แต่ยังไงก็ต้องลองกันสักตั้งไม่ลองก็ไม่รู้เพราะเธอไม่อยากให้ของดีแบบนี้ขายไม่ได้ราคาทั้งที่มันควรจะได้
อาทิตย์ต่อมา
ตั้งแต่วันที่พัชรินทร์เริ่มคิดพอกลับไปบ้านเธอก็เริ่มทำสตอรี่ของสตรอเบอรี่ที่นี่ลงเพจปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลามภายในอาทิตย์เดียวสามารถส่งสตรอเบอรี่ได้หลายพันกิโลเลยทีเดียว
"ไม่คิดเลยนะคะว่าออเดอร์จะเยอะขนาดนี้"
วันนี้พิมพรรณกับพัชรินทร์ตื่นมาจัดการเตรียมสตอเบอรี่ส่งตั้งแต่เช้าพิมพรรณแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอาทิตย์เดียวเท่านั้นเธอจะขายของได้เยอะขนาดนี้
"เห็นไหมถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้"
พัชรินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มการทำงานนี้ทำให้เธอสุขภาพจิตดีขึ้นมากจนตอนนี้เธอแทบจะลืมความเจ็บปวดในอดีตได้บ้างแล้ว
"เงินก้อนแรกค่าสตอเบอรี่จะตา"
พิมพรรณเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเอาเงินก้อนแรกที่เบิกมาจากบัญชีมาให้ตาของเธอโดยหักค่าอุปกรณ์การส่งและค่าส่งไปแล้ว
"สตอเบอรี่ไม่เท่าไรขายได้เงินเยอะขนาดนี้เลยเร้อ"
เริงฤทธิ์ถึงกับเบิกตาโพรงเมื่อเห็นเงินก้อนตรงหน้าไม่คิดว่าสตรอเบอรี่ที่ส่งกันก่อนหน้าไม่กี่วันจะได้รายได้เยอะขนาดนี้หากขายให้พ่อค้าคนกลางคงจะได้ไม่เท่าไรด้วยซ้ำ
"จะตา.."
"ขอบใจนะลูกขอบใจมากๆเลย"
"เดี๋ยวพิมกับคุณพัชจะช่วยสอนคนที่นี่เกี่ยวกับวิธีการจัดส่งจะได้ส่งออกได้เยอะขึ้น"
พิมพรรณกับพัชรินทร์คุยกันแล้วว่าคงจะต้องหาคนช่วยเพิ่มไม่อย่างนั้นเธอสองคนทำกันไม่ทันแน่
เดือนต่อมา
พัชรินทร์กับพิมพรรณตอนนี้ก็ง่วนอยู่แต่กับการส่งผลไม้ในไร่ยิ่งเห็นเม็ดเงินทั้งคู่ก็ตั้งใจทำงานกันมากขึ้นตอนนี้พัชรินทร์เองก็กลับมาสดใสร่าเริมดั่งเช่นเดิมแล้วเพราะธรรมชาติและผู้คนที่นี่ทำให้เธอเหมือนได้ชีวิตใหม่อิทธิกรเองก็ติดต่อพัชรินทร์มาบ้างเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเมื่อรู้ว่าน่องสาวตนอยู่ดีเขาก็หมดห่วง
"พิมวันนี้น้าต้องพาคนในไร่ไปหาหมอเราขับรถไปส่งของเองได้ไหม"
ภูผาเดินมาบอกหญิงสาวทั้งสองในช่วงเช้าว่าวันนี้เขาคงไปส่งของให้ไม่ได้เพราะต้องพาคนงานในไร่ไปหาหมอ
ภูผาชายหนุ่มวัยสามสิบสามเป็นน้าชายพิมพรรณด้วยอายุที่ห่างกันไม่มากนักทำให้พิมพรรณและน้าชายค่อนข้างสนิทกันอีกอย่างภูผานั้นก็ไม่มีครอบครัวด้วยเพราะมัวแต่ช่วยพ่อของเขาทำงานในไร่ชายหนุ่มเป็นคนหน้าตารูปร่างดีจึงมีผู้หญิงมาติดหลายคนแต่เขาก็ไมยักจะสนใจเพราะสนใจทำงานอย่างเดียวมากกว่าอีกทั้งกลัวว่าชีวิตคู่จะล้มเหลวเหมือนพี่สาวของเขาอีกด้วย
"ได้จะน้าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"
เห็นทีพวกเธอต้องเร่งมือแล้วเพราะต้องไปส่งของเองแต่มันก็เป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งพิมพรรณก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
16.00 น.
ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง
"เดี๋ยวผมช่วยครับ"
ทรงรบรีบเข้ามาช่วยหญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังแบกกล่องเข้าไปส่งด้านใน
"ขอบคุณค่ะ"
พัชรินทร์ขอบคุณชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าคมเข้มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยพวกเธอ
"นี่ของจากไร่ภิภพเหรอคะส่งอะไรเหรอ"
พิมพรรณเห็นกล่องเป็นชื่อของไร่ภิภพเธอจึงสงสัยและถามชายหนุ่มคนที่กำลังช่วยพวกเธออยู่ทันทีว่าส่งอะไร
"พวกผลไม้สดจากไร่น่ะครับ"
"เจ้านายคุณก็ช่างจับธุรกิจตามคนอื่นจริงนะคะ"
พิมพรรณได้ยินเช่นนั้นก็กัดฟันกรอดที่ไร่ใหญ่อย่างไร่ภิภพมาจับธุรกิจตามไร่เล็กๆของพวกเธอ
"คุณพิมคะ"
พัชรินทร์เห็นว่าพิมพรรณกำลังไม่พอใจจึงเรียกชื่อของหญิงสาวเพื่อเรียกสติ
"ธุรกิจนี้เดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ทำกันนะครับอีกอย่างผู้บริโภคก็เป็นคนเลือกที่จะซื้อผมเองผมไม่ได้ไปยัดเยียดพวกเค้าซะหน่อย"
ทรงรบตอกลับหญิงสาวหน้าหวานแต่ปากไม่หวานเหมือนหน้าด้วยน้ำเสียงยียวนทำเอาพิมพรรณได้แต่กำมือแน่นเถียงอะไรไม่ออกเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูด
ครู่ต่อมา
"เรียบร้อยแล้วกลับกันเถอะ"
สองสาวอยู่ในขนส่งไม่นานเธอก็จัดการธุระเสร็จเมื่อจ่ายเงินค่าส่งได้พิมพรรณก็อยากจะกลับอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากอยู่ใกล้ชายหนุ่มที่ส่งของเคาเตอร์ข้างๆเธอนานเพราะมันทำให้อารมณ์ของเธอค่อนข้างขุ่นมัวเธอรู้ว่าธุรกิจออนไลน์ใครๆก็ทำได้แต่หากไร่ภิภพทำก็เท่ากับเธอมีคู่แข่งเพิ่มและเป็นคู่แข่งรายใหญ่กว่าเธอหลายเท่าเสียด้วย
"คุณพัช..คุณพัชเป็นอะไร"
ไม่ทันได้เปิดประตูออกจากขนส่งพิมพรรณก็ต้องรีบประคองร่างพัชรินทร์เอาไว้เพราะจู่ๆเธอก็เป็นลมล้มพับไป
โรงพยาบาลทั้งสองมาโรงพยาบาลโดยมีทรงรบขับรถพามาพิมพรรณไม่เต็มใจให้ชายหนุ่มช่วยเท่าไรนักแต่ก็ต้องจำใจเพราะเธอต้องคอยดูอาการของพัชรินทร์ในระหว่างทางที่จะไปโรงพยาบาล"พัชเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ" เมื่อเห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องตรวจหลังจากที่เข้าไปพักใหญ่พิมพรรณก็รีบเข้าไปถามอาการของพัชรินทร์กับหมอหนุ่มทันที"อาการอ่อนเพลียของคนท้องน่ะครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรอรับยาบำรุงแล้วก็กลับได้แล้วล่ะครับ" หมอหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเพราะอาการของพัชรินทร์เป็นเพียงอาการวิงเวียนของคนท้องอ่อนๆเท่านั้น"ท้อง!!" คำตอบของหมอหนุ่มทำเอาพิมพรรณถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอกันเลยทีเดียว"ตกใจอะไรขนาดนั้น" ทรงรบมองหน้าหญิงสาวที่ยืนข้างๆเขาอย่างไม่เข้าใจเพื่อนท้องก็ต้องดีใจแต่นี่หญิงสาวกลับทำท่าตกใจเหมือนทำอะไรผิดพลาดครั้งใหญ่เสียอย่างนั้น"ยุ่ง" พิมพรรณหันไปขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจและเดินเข้าไปในห้องเพื่อไปหาพัชรินทร์อย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง"อ้าว.." ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงสงสัยเข้าไปใหญ่ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมหญิงสาวจึงมีท่าทางแบบนั้น"คุณพัช" พิมพรรณเข้าไปสวมกอดพัชรินทร์ที่นั่งร้องให้เหม่อลอยอ
“แฟนคุณพัชเค้ายุ่งๆน่ะตายิ่งรู้ว่ามีลูกก็ต้องขยันทำงานอยู่แล้ว”พิมพรรณรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องที่เธอพูดออกไปคราแรกเพื่อไม่ให้ตาของเขาสงสัยเท่านั้นว่าพัชรินทร์ท้องกับใคร“ไอ้งานก็ส่วนงานแต่ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลเมียบ้างคนสมัยนี้เป็นยังไงไปกันหมดถ้าห่วงงานห่วงเงินมากกว่าอะไรก็จะมีครอบครัวไปทำไม”เริงฤทธิ์เท้าเอวว่าพรางส่ายหัว“เดี๋ยวเค้าก็กลับมาเองจะตา”เมื่อสองตาหลานพูดเรื่องสามีในใจของพัชรินทร์ก็ไม่อยากจะโกหกตาของพิมพรรณแต่หากจะเล่าความจริงเธอก็ทำไม่ได้กรุงเทพมหานครบ้านอคิณ“พี่จะเอาเงินส่วนของพัชไปไม่ได้นะครับ”อิทธิกรหัวเสียหนักเมื่อรู้ว่าที่พี่ชายของเขาเรียกมาที่บ้านก็เพราะต้องการให้เขาอนุมัติเงินในส่วนของพัชรินทร์ให้กับพี่ชายของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากทำด้วยเพราะส่วนแบ่งนี้คุณแม่ของเขาแบ่งให้อย่างลงตัวแล้ว“แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะใช้”อคิณมีสมบัติมากมายจนเขาก็ใช้ไม่หมดแต่เขาอยากให้ส่วนของพัชรินทร์เป็นของเขาเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่สมควรที่จะได้สมบัติของแม่ของเขาไปสักชิ้นเดียว“พี่ไม่มีสิทธิ์เอาไปใช้เพราะพัชไม่ได้เซ็นให้ใคร”อิทธิกรไม่ค
“กระทงผมล่วงหมดแล้วเอาของคุณมาให้ผมเลย”“แบบนี้ก็ได้เหรอคุณก็ไปซื้อใหม่ที่หน้าวัดสิมีคนตั้งขายตั้งเยอะ”พิมพรรณชี้ให้ชายหนุ่มเดินออกไปซื้อที่หน้าวัดเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอในเมื่อชายหนุ่มมายืนขวางทางเธอเอง“ไม่ถ้าคุณไม่ให้งั้นผมจะลอยกับคุณ”ทรงรบดึงกระทงของพิมพรรณออกจากมือของหญิงสาวหน้าตาเฉย“อย่าเถียงกันเลยค่ะเอาของฉันก็ได้”พัชรินทร์เห็นท่าจะไม่ค่อยดีจึงยื่นกระทงของตัวเองให้กับทรงรบเพื่อตัดปัญหา“ไม่ได้นะคะ”พิมพรรณรีบห้ามพัชรินทร์เอาไว้หากชายหนุ่มอยากจะลอยกระทงกับเธอนักเธอก็จะทำให้วันลอยกระทงปีนี้ทรงรบไม่มีวันลืมไปเลย“อยากลอยกับฉันใช่ไหม..ได้ตามมา”“อ้าวทำไมพ่อเลี้ยงมาด้วยล่ะ”ภูผาที่มารอสองสาวที่ทาน้ำของวัดอยู่ก่อนแล้วเห็นสองสาวมีทรงรบเดินมาด้วยจึงแปลกใจไม่น้อยเพราะเห็นหลานของเขาพูดอยู่ว่าไม่ค่อยชอบหน้าพ่อเลี้ยงของไร่ภิภพเท่าไรไหนตอนนี้มาพร้อมกัน“ฉันเดินชนกับพ่อเลี้ยงกระทงเค้าเลยพังฉันก็ต้องให้เค้ามาลอยกับฉันนี่แหละ”“งั้นก็รีบลอยกันเถอะ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจและให้ทุกคนรีบลอยเพราะเดี๋ยวดึกกว่านี้จะต้องต่อคิวกันกับคนอื่นให้ยุ่งยาก“คุณพัชค่อยๆนะคะ”พิมพรรณให้ทรงรบถือกระทงเอาไว้ก
เป็นปีแล้วที่กิ่งแก้วลาออกจากงานเลขาไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอคิณเองก็ต้องเรียกมารุตมาช่วยงานอย่างเก่าดูเหมือนความสัมพันธ์ของอคิณและกิ่งแก้วจะไม่แน่นแฟ้นอย่างเมื่อก่อนเท่าไรเพราะทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอกันเหตุเพราะงานอคิณก็ค่อนข้างยุ่งกิ่งแก้วก็เดินทางบ่อยเดือนๆแทบจะไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ17.00 น."ตั้งแต่คุณไม่ได้เป็นเลขาผมเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันสักเท่าไรเลยนะ" วันนี้กิ่งแก้วพึ่งกลับจากปารีสเมื่ออคิณรู้จึงรีบไปรับเธอที่สนามบินมาที่บ้านด้วยความคิดถึง"ก็กิ่งต้องไปต่างประเทศบ่อยนี่คะ""แล้วฤกษ์แต่งเราล่ะผมไม่เห็นคุณจะพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย""ช่วงนี้ทั้งกิ่งทั้งคุณก็ยุ่งๆพักแพลนไปก่อนก็ได้ค่ะยังไงเราก็ยังรักดันดีอยู่นี่คะ" "คืนนี้คุณพึ่งกลับมาอยู่กับผมนะครับ" อคิณแปลกใจไม่น้อยที่กิ่งแก้วไม่ยักจะสนเรื่องแต่งงานแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะถามแค่ตอนนี้เขาอยากรักเธอให้หายคิดถึงมากกว่าจึงค่อยๆสอดมือหนาเข้าไปขยำอกตูมของเธออย่างปรารถนา"กิ่งต้องกลับบ้านน่ะค่ะคุณพ่อท่านรู้แล้วว่ากิ่งกลับมาถ้าจะขอค้างกับคุณกิ่งกลัวว่าจะถูกท่านตำหนิ" กิ่งแก้วต้องรีบดึงมือชายหนุ่มออกเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับอคิณนานได้"
“หา...ทำไมเราติดหนี้เค้าเยอะแบบนั้นล่ะตา” พิมพรรณเบิกตาโพรงตกใจเมื่อได้ยินยอดหนี้“ข้าก็เอามาลงทุนกับเครื่องทุ่นแรงในไร่นี่แหละ”“ขอผ่อนเค้าไปก่อนไม่ได้เหรอคะตา” พัชรินทร์เธอพอจะมีเงินอยู้่บ้างหากขอผ่อนผันได้เธอก็จะช่วยจ่ายเท่าที่มีไปก่อน“นี่ก็สามปีแล้วที่ไม่ได้ผ่อน..อีกสามเดือนถ้าไม่มีเงินไปจ่ายไร่นี้ก็จะถูกยึด” เริงฤทธิ์ส่ายหัว“นี่ถึงกับยึดกันเลยเหรอ” พิมพรรณแทบเข่าอ่อนเธอรักไร่นี้มากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธออุ่นใจเมื่อได้อยู่ที่นี่"ไร่นี้จะไม่ถูกยึดถ้าเอ็งยอมช่วยตา" "คืออะไรพ่อ" คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาภูผาขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าพิมพรรณจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร“ถ้าเจ้าพิมยอมแต่งงานกับทรงรบทุกอย่างจะเป็นโมฆะ” "นี่พ่อไปตกลงกับพ่อเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง" ภูผาเอ่ยเสียงแข็ง"ก็เค้าเสนอมาแบบนั้นฉันก็มาถามเจ้าพิมมันก่อนถ้าไม่ตกลงก็ปล่อยให้เค้ายึดไปก็เท่านั้น""หนูขอคิดดูก่อนนะตา" พิมพรรณนั่งหน้าตาตื่นเธอเงียบอึ้งไปครู่ใหญ่เธอขอเวลาใช้ความคิดสักพักแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เองเธอพอจะรู้ว่าทรงรบคงต้องการแกล้งเธออีกแน่นอนถึงได้ให้ข้อเสนอนี้กับตาของเขามา20.00 น.“เจ้าแฝดหลับ
"นี่ผมหนวกหูนะ"ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง"อืม...""ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"รีบๆล่ะฉันรออยู่"พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ""ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่
กรุงเทพมหานคร“ส่งของขวัญไปหรือยัง”อคิณที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องทำงานเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของทรงรบเพื่อนของเขาแต่ที่ไม่อยากไปด้วยตัวเองก็เพราะสภาพจิตใจยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงส่งคนไปให้ของขวัญและอยู่ร่วมงานแทนทรงรบกับอคิณเรียนรุ่นเดียวกันในมหาลัยตอนเรียนทั้งคู่สนิทกันมากพึ่งจะมาห่างกันก็ช่วงที่ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองคราแรกเขายังคิดว่าทรงรบจะแต่งงานทีหลังเขาด้วยซ้ำเพราะไม่เห็นว่าจะมีสาวคนไหนเข้าตาทรงรบสักคนแต่กลับเป็นเขาที่ยังไม่ได้แต่งเพราะว่าที่เจ้าสาวที่ขอเอาไว้กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อเขานั่นเอง“คนของเราส่งเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศในงานแต่งมาด้วยครับ”มารุตรีบส่งไฟล์รูปงานแต่งของทรงรบให้อคิณทันทีที่เขารีบให้อคิณดูเพราะมีบางอย่างที่อคิณน่าจะอยากรู้“ฉันขอดูหน้าเจ้าสาวเพื่อนฉันหน่อยซิ...นี่มัน”อคิณเปิดไฟล์รูปดูในโน๊ตบุ๊คครู่หนึ่งเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของทรงรบคือพิมพรรณพยาบาลที่เขาเคยจ้างให้เฝ้าพัชรินทร์แถมคนที่ยืนยิ้มข้างๆบ่าวสาวนั้นยังเป็นพัชรินทร์“ครับเธออยู่ที่นั่นตอนนี้เธอก็มีลูกแฝดผู้หญิงวัยเก้าเดือนกว่าแล้วด้วยครับ”เรื่อง
“แอ้..แง้งงงง”อคิณรวบลูกของเขาทั้งสองออกจากอกพัชรินทร์ทั้งที่เจ้าแฝดสองคนกำลังร้องให้โยเยอยู่“เอาลูกพัชมานะ”พัชรินทร์เสมือนถูกควักหัวใจออกจากอกเมื่ออคิณแย่งลูกของเธอไปต่อหน้าต่อตา“คนอย่างเธอไม่สมควรจะเป็นแม่ของลูกฉัน”อคิณส่งลูกของเขาให้มารุตและหันมาชี้หน้าหญิงสาวตะคอกใส่เธอเสียงแข็งปังง“จะพาลูกพัชไปไหน” อคิณปิดประตูเมื่อเห็นว่าพัชรินทร์กำลังจะวิ่งตามมารุตที่อุ้มเด็กๆออกไป“ลูกเธอก็ลูกฉัน”"ปล่อยพัชกับลูกไปนะคะ"หญิงสาวนั่งฟุบลงกับพื้นยกมือไหว้ชายหนุ่มด้วยน้ำตาพัชรินทร์เห็นชัดเจนแล้วว่าอคิณต้องการจะพรากลูกไปจากเธอบาดแผลในใจครั้งนี้มันเจ็บกว่าครั้งที่ถูกเขาทารุณก่อนหน้าด้วยซ้ำ"เซ็นยกมรดกของเธอให้ฉันแล้วฉันจะปล่อยเธอ"อคิณรีบหยิบเอกสารในมือให้หญิงสาวเซ็นเพราะเขาไม่ต้องการให้สมบัติของแม่เขาตกไปอยู่กับพัชรินทร์แม้แต่ชิ้นเดียว"เรียบร้อยค่ะขอลูกคืนให้พัชนะคะ"พัชรินทร์รีบหยิบเอกสารนั้นมาเซ็นอย่างลวกๆไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไรเธอทำทั้งนั้นขอแค่เขาคืนลูกของเธอมาเท่านั้น"ฉันบอกว่าฉันจะปล่อยเธอไม่ใช่ปล่อยลูกในเมื่อเด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันเค้าก็จะต้องได้อยู่กับฉัน""ไม่นะคะเอาลูกพัชคืนมาพ