Share

ตอนที่9

โรงพยาบาล

ทั้งสองมาโรงพยาบาลโดยมีทรงรบขับรถพามาพิมพรรณไม่เต็มใจให้ชายหนุ่มช่วยเท่าไรนักแต่ก็ต้องจำใจเพราะเธอต้องคอยดูอาการของพัชรินทร์ในระหว่างทางที่จะไปโรงพยาบาล

"พัชเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ" 

เมื่อเห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องตรวจหลังจากที่เข้าไปพักใหญ่พิมพรรณก็รีบเข้าไปถามอาการของพัชรินทร์กับหมอหนุ่มทันที

"อาการอ่อนเพลียของคนท้องน่ะครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรอรับยาบำรุงแล้วก็กลับได้แล้วล่ะครับ" 

หมอหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเพราะอาการของพัชรินทร์เป็นเพียงอาการวิงเวียนของคนท้องอ่อนๆเท่านั้น

"ท้อง!!" 

คำตอบของหมอหนุ่มทำเอาพิมพรรณถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอกันเลยทีเดียว

"ตกใจอะไรขนาดนั้น" 

ทรงรบมองหน้าหญิงสาวที่ยืนข้างๆเขาอย่างไม่เข้าใจเพื่อนท้องก็ต้องดีใจแต่นี่หญิงสาวกลับทำท่าตกใจเหมือนทำอะไรผิดพลาดครั้งใหญ่เสียอย่างนั้น

"ยุ่ง" 

พิมพรรณหันไปขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจและเดินเข้าไปในห้องเพื่อไปหาพัชรินทร์อย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง

"อ้าว.." 

ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงสงสัยเข้าไปใหญ่ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมหญิงสาวจึงมีท่าทางแบบนั้น

"คุณพัช"  

พิมพรรณเข้าไปสวมกอดพัชรินทร์ที่นั่งร้องให้เหม่อลอยอยู่คนเดียวบนเตียง

"ฉันอยากกลับบ้านค่ะ" 

ตอนนี้พัชรินทร์อยากหาที่สงบพักสมองให้รับกับเหตุการณ์ที่พึ่งรู้เมื่อครู่ก่อน

"รอยาบำรุงอีกแปปก็ได้กลับแล้วนะคะคุณพัชรออยู่ที่นี่ก่อนนะ" 

พิมพรรณลูบหัวพัชรินทร์เบาๆทั้งบอกให้หญิงสาวรออีกเดี๋ยวเพราะเธอจะไปรับยาจากนั้นก็กลับบ้านกันได้แล้ว พัชรินทร์พยักหน้าเบาๆทั้งปาดน้ำตาลวกๆเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนี้ด้วย

"เพื่อนคุณท้องไม่มีพ่อหรือไงถึงดูเสียใจขนาดนั้น"  

ในขณะที่ทรงรบเดินตามพิมพรรณมารับยาเขาก็โพล่งถามเธอเรื่องที่คาใจอยู่ในทันที

"ยุ่งอีกแล้วนะ" 

คำถามที่จี้ใจดำทำเอาพิมพรรณกัดฟันกรอดหันไปตอกหน้าชายหนุ่มที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง

"ผมก็แค่ถาม"

"คุณถามอะไรที่ไม่มีมารยาทกับคนที่พึ่งรู้จักแบบนี้บ่อยหรือเปล่านี่เจ้านายคุณเค้าไม่อบรมสั่งสอนลูกไร่บ้างหรือไงเนี่ย"

"ใครเป็นเจ้านายผม..ผมไม่มีเจ้านาย" 

ทรงรบตอบกลับด้วยหน้าตาและน้ำเสียงยียวนเขาไม่ได้เป็นลูกน้องใครเพราะเขาเป็นเจ้าของไร่ซึ่งใครๆก็น่าจะรู้จักเพียงหญิงสาวเท่านั้นที่ไม่ร้จักเขา

"จะบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของไร่งั้นสิ"

"อืม..."

"เจ้าของไร่ภิภพมาส่งของเองเนี่ยนะเห็นฉันหน้าแบบนี้ฉันก็ฉลาดนะคุณ" 

พิมพรรณไม่เชื่อเด็ดขาดเพราะในหัวของเธอคิดว่าเจ้าของไร่ใหญ่โตขนาดนั้นคงไม่มาส่งของก๊อกๆแก๊กๆแบบนี้เด็ดขาด

"ผมชื่อทรงรบเป็นเจ้าของไร่ภิภพใครๆแถวนี้ก็รู้จักผมกันทั้งนั้นมีแต่คุณไปอยู่ไหนมา"

"คุณพัชรินทร์รับยาช่องเบอสองค่ะ" 

ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะตอบอะไรเธอก็ได้ยินเภสัชเรียกชื่อของพัชรินทร์เสียก่อนเธอจึงต้องรีบลุกขึ้นไปรับยา

"ฉันเป็นญาติพัชรินทร์ค่ะ"

"นี่ยาบำรุงค่ะทานตามที่เภสัชกำกับไว้เลยนะคะ" 

"ค่ะ"  

พิมพรรณดูยาในมือไม่กี่ตัวเธอก็รู้ว่ามันต้องใช้อย่างไรเพราะเธอก็ทำงานพยาบาลมาก่อน

"อ้าวพ่อเลี้ยงมาทำอะไรที่นี่​คะ" 

"ผมพาคนป่วยมาหาหมอน่ะครับ" 

ทรงรบตอบเภสัชสาวแล้วค่อยๆหันหน้ามายักคิ้วให้พิมพรรณ

"เชื่อหรือยังว่าผมคือเจ้าของไร่" 

ทรงรบยังคงเดินตามพิมพรรณอยู่ไม่ห่างเพราะอยากจะเห็นสีหน้าคนหน้าแตกมันเป็นยังไง

"ชิ..." 

พิมพรรณยังคงเมินทรงรบเช่นเคยเพราะเธอไม่ได้สนใจอะไรชายหนุ่มอยู่แล้ว

21.00 น.

"พี่กรคะ...ฮึกๆ.ฮือๆๆๆ" 

พัชรินทร์นั่วกอดอิทธิกรร้องห่มร้องให้ไม่หยุดเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้มันทำให้เธอหดหู่อย่างมาก

"เรื่องนี้พี่คิณต้องรับผิดชอบ" 

อิทธิกรขึ้นเครื่องด่วนมาเมื่อรู้ข่าวจากพิมพรรณตอนนี้เขาเครียดไม่อยู่ไม่น้อยที่มีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นและเขาจะต้องให้พี่ชายเขานั้นรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองกระทำ

"ไม่นะคะอย่าให้เค้ารู้นะคะ" 

พัชรินทร์ส่ายหัวพัลวันเธอจะให้อคิณรู้เรื่องนี้ไมได้เขาเกลียดเธอก็เท่ากับเขาก็น่าจะไม่ต้องการลุกในท้องเธอด้วยหากเขาคิดจะทำลายลูกของเธอตัวเธอเองก็คงจะรับมือเขาไม่ได้แน่นอน

"ทำไม" 

อิทธิกรมองหน้าพัชรินทร์อย่างไม่เข้าใจ

"พัชกลัวว่าเค้าจะทำอะไรที่เราไม่คาดคิด...พัชจะดูแลลูกของพัชเองนะคะพี่กรพัชขอร้องเรื่องนี้อย่าให้เค้ารู้นะคะ" 

"ก็ได้พี่รับปาก..พัชไม่ต้องห่วงอะไรหลานในท้องพี่จะช่วยพัชดูแลเอง" 

"ขอบคุณค่ะพี่กรขอบคุณที่ฟังพัช" 

อิทธิกรจำต้องรับปากหากน้องของเขาต้องการแบบนั้นเขาก็จะช่วยเธอเอง

วันต่อมา

“ทานข้าวเยอะๆนะพัชหลานของพี่จะได้แข็งแรง” 

ก่อนกลับอิทธิกรทานข้าวเช้าพร้อมพัชรินทร์เขาเห็นน้องสาวของเขาแทบจะไม่แตะอาหารบนโต๊ะเลยจึงต้องเอ่ยปากหพัชรินทร์ทานเข้าไปเยอะๆ

“ค่ะ”

“พักหลังนี้พี่อาจจะไม่ค่อยว่างถ้าพี่ว่างเมื่อไรพี่จะรีบมาหาทันทีเลย” 

“ค่ะพี่กร”

“น้องสาวพี่ต้องไม่ทำหน้าเศร้าแบบนี้นะยิ้มให้พี่ดูหน่อยซิ” 

อิทธิกรลูบพวงแก้มน้องสาวของเขาเบาๆ

พัชรินทร์ฝืนยิ้มให้พี่ชายของบเธอได้ดูเพราะอยากให้เขาสบายใจแต่ในใจเธอนั้นมันยิ้มไม่ออกเลยสักนิด

“แบบนั้นแหละ” 

อิทธิกรเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นพัชรินทร์ยิ้มได้

พิมพรรณที่นั่งทานข้าวอยู่เงียบๆเธอรู้ว่าสองพี่น้องคู่นี้กำลังฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกันต่างจากคนที่เจ้าปัญหาที่ตอนนี้จะรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังจะเป็นพ่อคน

สองเดือนต่อมา

“อุ้บ..แหวะ”  

ตอนนี้พัชรินทร์ตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วอาการแพ้ของเธอก็หนักขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะทานอะไรเข้าไปไม่ได้แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังอาเจียน

“นังหนู...พิมเอ้ยเอายาดมมาให้เพื่อนเราหน่อย” 

เริงฤทธิ์เห็นพัชรินทร์อาเจียนก็รีบลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วงและเรียกให้หลานของเขารีบเอายาดมมาให้หญิงสาว

“จ้ะตา..นี่ค่ะคุณพัช” 

พิมพรรณรีบวิ่งเอายาดมมาให้พัชรินทร์อย่างรวดเร็ว

“ตาว่าเราจะทำงานไม่ไหวแล้วล่ะมั้ง”  

เริงฤทธิ์เห็นทีจะให้พัชรินทร์มานั่งคัดสตอเบอรี่อยู่อย่างนี้คงไม่ได้แล้วหากอาการแพ้ยังหนักแบบนี้อีกทั้งคนท้องคนไส้นั่งนานๆมันก็จะไม่ดีเท่าไร

“พัชทำได้ค่ะไม่อยากอยู่เฉยๆ” 

พัชรินทร์ที่นั่งดมยาดมด้วยใบหน้าซีดเซียวยังยืนยันว่าเธออยากจะทำงานเพราะไม่อยากอยู่เฉยๆ

“แล้วผัวเราเมื่อไรจะกลับมาซะทีล่ะจะได้มาดูแลเมียส่งแต่เงินให้ใช้มันใช้ได้ที่ไหนกัน” 

เริงทธิ์ได้ยินหลานสาวของเขาบอกแต่แรกแล้วว่าสามีของพัชรินทร์อยู่ต่างประเทศแต่เมียท้องอยู่เขาก็ไม่ยักจะเห็นคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของพัชรินทร์กลับมาดูดำดูดีบ้างจึงอดตำหนิไม่ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status