โรงพยาบาล
ทั้งสองมาโรงพยาบาลโดยมีทรงรบขับรถพามาพิมพรรณไม่เต็มใจให้ชายหนุ่มช่วยเท่าไรนักแต่ก็ต้องจำใจเพราะเธอต้องคอยดูอาการของพัชรินทร์ในระหว่างทางที่จะไปโรงพยาบาล
"พัชเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ"
เมื่อเห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องตรวจหลังจากที่เข้าไปพักใหญ่พิมพรรณก็รีบเข้าไปถามอาการของพัชรินทร์กับหมอหนุ่มทันที
"อาการอ่อนเพลียของคนท้องน่ะครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรอรับยาบำรุงแล้วก็กลับได้แล้วล่ะครับ"
หมอหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเพราะอาการของพัชรินทร์เป็นเพียงอาการวิงเวียนของคนท้องอ่อนๆเท่านั้น
"ท้อง!!"
คำตอบของหมอหนุ่มทำเอาพิมพรรณถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอกันเลยทีเดียว
"ตกใจอะไรขนาดนั้น"
ทรงรบมองหน้าหญิงสาวที่ยืนข้างๆเขาอย่างไม่เข้าใจเพื่อนท้องก็ต้องดีใจแต่นี่หญิงสาวกลับทำท่าตกใจเหมือนทำอะไรผิดพลาดครั้งใหญ่เสียอย่างนั้น
"ยุ่ง"
พิมพรรณหันไปขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจและเดินเข้าไปในห้องเพื่อไปหาพัชรินทร์อย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง
"อ้าว.."
ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงสงสัยเข้าไปใหญ่ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมหญิงสาวจึงมีท่าทางแบบนั้น
"คุณพัช"
พิมพรรณเข้าไปสวมกอดพัชรินทร์ที่นั่งร้องให้เหม่อลอยอยู่คนเดียวบนเตียง
"ฉันอยากกลับบ้านค่ะ"
ตอนนี้พัชรินทร์อยากหาที่สงบพักสมองให้รับกับเหตุการณ์ที่พึ่งรู้เมื่อครู่ก่อน
"รอยาบำรุงอีกแปปก็ได้กลับแล้วนะคะคุณพัชรออยู่ที่นี่ก่อนนะ"
พิมพรรณลูบหัวพัชรินทร์เบาๆทั้งบอกให้หญิงสาวรออีกเดี๋ยวเพราะเธอจะไปรับยาจากนั้นก็กลับบ้านกันได้แล้ว พัชรินทร์พยักหน้าเบาๆทั้งปาดน้ำตาลวกๆเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนี้ด้วย
"เพื่อนคุณท้องไม่มีพ่อหรือไงถึงดูเสียใจขนาดนั้น"
ในขณะที่ทรงรบเดินตามพิมพรรณมารับยาเขาก็โพล่งถามเธอเรื่องที่คาใจอยู่ในทันที
"ยุ่งอีกแล้วนะ"
คำถามที่จี้ใจดำทำเอาพิมพรรณกัดฟันกรอดหันไปตอกหน้าชายหนุ่มที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง
"ผมก็แค่ถาม"
"คุณถามอะไรที่ไม่มีมารยาทกับคนที่พึ่งรู้จักแบบนี้บ่อยหรือเปล่านี่เจ้านายคุณเค้าไม่อบรมสั่งสอนลูกไร่บ้างหรือไงเนี่ย"
"ใครเป็นเจ้านายผม..ผมไม่มีเจ้านาย"
ทรงรบตอบกลับด้วยหน้าตาและน้ำเสียงยียวนเขาไม่ได้เป็นลูกน้องใครเพราะเขาเป็นเจ้าของไร่ซึ่งใครๆก็น่าจะรู้จักเพียงหญิงสาวเท่านั้นที่ไม่ร้จักเขา
"จะบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของไร่งั้นสิ"
"อืม..."
"เจ้าของไร่ภิภพมาส่งของเองเนี่ยนะเห็นฉันหน้าแบบนี้ฉันก็ฉลาดนะคุณ"
พิมพรรณไม่เชื่อเด็ดขาดเพราะในหัวของเธอคิดว่าเจ้าของไร่ใหญ่โตขนาดนั้นคงไม่มาส่งของก๊อกๆแก๊กๆแบบนี้เด็ดขาด
"ผมชื่อทรงรบเป็นเจ้าของไร่ภิภพใครๆแถวนี้ก็รู้จักผมกันทั้งนั้นมีแต่คุณไปอยู่ไหนมา"
"คุณพัชรินทร์รับยาช่องเบอสองค่ะ"
ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะตอบอะไรเธอก็ได้ยินเภสัชเรียกชื่อของพัชรินทร์เสียก่อนเธอจึงต้องรีบลุกขึ้นไปรับยา
"ฉันเป็นญาติพัชรินทร์ค่ะ"
"นี่ยาบำรุงค่ะทานตามที่เภสัชกำกับไว้เลยนะคะ"
"ค่ะ"
พิมพรรณดูยาในมือไม่กี่ตัวเธอก็รู้ว่ามันต้องใช้อย่างไรเพราะเธอก็ทำงานพยาบาลมาก่อน
"อ้าวพ่อเลี้ยงมาทำอะไรที่นี่คะ"
"ผมพาคนป่วยมาหาหมอน่ะครับ"
ทรงรบตอบเภสัชสาวแล้วค่อยๆหันหน้ามายักคิ้วให้พิมพรรณ
"เชื่อหรือยังว่าผมคือเจ้าของไร่"
ทรงรบยังคงเดินตามพิมพรรณอยู่ไม่ห่างเพราะอยากจะเห็นสีหน้าคนหน้าแตกมันเป็นยังไง
"ชิ..."
พิมพรรณยังคงเมินทรงรบเช่นเคยเพราะเธอไม่ได้สนใจอะไรชายหนุ่มอยู่แล้ว
21.00 น.
"พี่กรคะ...ฮึกๆ.ฮือๆๆๆ"
พัชรินทร์นั่วกอดอิทธิกรร้องห่มร้องให้ไม่หยุดเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้มันทำให้เธอหดหู่อย่างมาก
"เรื่องนี้พี่คิณต้องรับผิดชอบ"
อิทธิกรขึ้นเครื่องด่วนมาเมื่อรู้ข่าวจากพิมพรรณตอนนี้เขาเครียดไม่อยู่ไม่น้อยที่มีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นและเขาจะต้องให้พี่ชายเขานั้นรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองกระทำ
"ไม่นะคะอย่าให้เค้ารู้นะคะ"
พัชรินทร์ส่ายหัวพัลวันเธอจะให้อคิณรู้เรื่องนี้ไมได้เขาเกลียดเธอก็เท่ากับเขาก็น่าจะไม่ต้องการลุกในท้องเธอด้วยหากเขาคิดจะทำลายลูกของเธอตัวเธอเองก็คงจะรับมือเขาไม่ได้แน่นอน
"ทำไม"
อิทธิกรมองหน้าพัชรินทร์อย่างไม่เข้าใจ
"พัชกลัวว่าเค้าจะทำอะไรที่เราไม่คาดคิด...พัชจะดูแลลูกของพัชเองนะคะพี่กรพัชขอร้องเรื่องนี้อย่าให้เค้ารู้นะคะ"
"ก็ได้พี่รับปาก..พัชไม่ต้องห่วงอะไรหลานในท้องพี่จะช่วยพัชดูแลเอง"
"ขอบคุณค่ะพี่กรขอบคุณที่ฟังพัช"
อิทธิกรจำต้องรับปากหากน้องของเขาต้องการแบบนั้นเขาก็จะช่วยเธอเอง
วันต่อมา
“ทานข้าวเยอะๆนะพัชหลานของพี่จะได้แข็งแรง”
ก่อนกลับอิทธิกรทานข้าวเช้าพร้อมพัชรินทร์เขาเห็นน้องสาวของเขาแทบจะไม่แตะอาหารบนโต๊ะเลยจึงต้องเอ่ยปากหพัชรินทร์ทานเข้าไปเยอะๆ
“ค่ะ”
“พักหลังนี้พี่อาจจะไม่ค่อยว่างถ้าพี่ว่างเมื่อไรพี่จะรีบมาหาทันทีเลย”
“ค่ะพี่กร”
“น้องสาวพี่ต้องไม่ทำหน้าเศร้าแบบนี้นะยิ้มให้พี่ดูหน่อยซิ”
อิทธิกรลูบพวงแก้มน้องสาวของเขาเบาๆ
พัชรินทร์ฝืนยิ้มให้พี่ชายของบเธอได้ดูเพราะอยากให้เขาสบายใจแต่ในใจเธอนั้นมันยิ้มไม่ออกเลยสักนิด
“แบบนั้นแหละ”
อิทธิกรเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นพัชรินทร์ยิ้มได้
พิมพรรณที่นั่งทานข้าวอยู่เงียบๆเธอรู้ว่าสองพี่น้องคู่นี้กำลังฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกันต่างจากคนที่เจ้าปัญหาที่ตอนนี้จะรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังจะเป็นพ่อคน
สองเดือนต่อมา
“อุ้บ..แหวะ”
ตอนนี้พัชรินทร์ตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วอาการแพ้ของเธอก็หนักขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะทานอะไรเข้าไปไม่ได้แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังอาเจียน
“นังหนู...พิมเอ้ยเอายาดมมาให้เพื่อนเราหน่อย”
เริงฤทธิ์เห็นพัชรินทร์อาเจียนก็รีบลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วงและเรียกให้หลานของเขารีบเอายาดมมาให้หญิงสาว
“จ้ะตา..นี่ค่ะคุณพัช”
พิมพรรณรีบวิ่งเอายาดมมาให้พัชรินทร์อย่างรวดเร็ว
“ตาว่าเราจะทำงานไม่ไหวแล้วล่ะมั้ง”
เริงฤทธิ์เห็นทีจะให้พัชรินทร์มานั่งคัดสตอเบอรี่อยู่อย่างนี้คงไม่ได้แล้วหากอาการแพ้ยังหนักแบบนี้อีกทั้งคนท้องคนไส้นั่งนานๆมันก็จะไม่ดีเท่าไร
“พัชทำได้ค่ะไม่อยากอยู่เฉยๆ”
พัชรินทร์ที่นั่งดมยาดมด้วยใบหน้าซีดเซียวยังยืนยันว่าเธออยากจะทำงานเพราะไม่อยากอยู่เฉยๆ
“แล้วผัวเราเมื่อไรจะกลับมาซะทีล่ะจะได้มาดูแลเมียส่งแต่เงินให้ใช้มันใช้ได้ที่ไหนกัน”
เริงทธิ์ได้ยินหลานสาวของเขาบอกแต่แรกแล้วว่าสามีของพัชรินทร์อยู่ต่างประเทศแต่เมียท้องอยู่เขาก็ไม่ยักจะเห็นคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของพัชรินทร์กลับมาดูดำดูดีบ้างจึงอดตำหนิไม่ได้
“แฟนคุณพัชเค้ายุ่งๆน่ะตายิ่งรู้ว่ามีลูกก็ต้องขยันทำงานอยู่แล้ว”พิมพรรณรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องที่เธอพูดออกไปคราแรกเพื่อไม่ให้ตาของเขาสงสัยเท่านั้นว่าพัชรินทร์ท้องกับใคร“ไอ้งานก็ส่วนงานแต่ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลเมียบ้างคนสมัยนี้เป็นยังไงไปกันหมดถ้าห่วงงานห่วงเงินมากกว่าอะไรก็จะมีครอบครัวไปทำไม”เริงฤทธิ์เท้าเอวว่าพรางส่ายหัว“เดี๋ยวเค้าก็กลับมาเองจะตา”เมื่อสองตาหลานพูดเรื่องสามีในใจของพัชรินทร์ก็ไม่อยากจะโกหกตาของพิมพรรณแต่หากจะเล่าความจริงเธอก็ทำไม่ได้กรุงเทพมหานครบ้านอคิณ“พี่จะเอาเงินส่วนของพัชไปไม่ได้นะครับ”อิทธิกรหัวเสียหนักเมื่อรู้ว่าที่พี่ชายของเขาเรียกมาที่บ้านก็เพราะต้องการให้เขาอนุมัติเงินในส่วนของพัชรินทร์ให้กับพี่ชายของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากทำด้วยเพราะส่วนแบ่งนี้คุณแม่ของเขาแบ่งให้อย่างลงตัวแล้ว“แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะใช้”อคิณมีสมบัติมากมายจนเขาก็ใช้ไม่หมดแต่เขาอยากให้ส่วนของพัชรินทร์เป็นของเขาเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่สมควรที่จะได้สมบัติของแม่ของเขาไปสักชิ้นเดียว“พี่ไม่มีสิทธิ์เอาไปใช้เพราะพัชไม่ได้เซ็นให้ใคร”อิทธิกรไม่ค
“กระทงผมล่วงหมดแล้วเอาของคุณมาให้ผมเลย”“แบบนี้ก็ได้เหรอคุณก็ไปซื้อใหม่ที่หน้าวัดสิมีคนตั้งขายตั้งเยอะ”พิมพรรณชี้ให้ชายหนุ่มเดินออกไปซื้อที่หน้าวัดเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอในเมื่อชายหนุ่มมายืนขวางทางเธอเอง“ไม่ถ้าคุณไม่ให้งั้นผมจะลอยกับคุณ”ทรงรบดึงกระทงของพิมพรรณออกจากมือของหญิงสาวหน้าตาเฉย“อย่าเถียงกันเลยค่ะเอาของฉันก็ได้”พัชรินทร์เห็นท่าจะไม่ค่อยดีจึงยื่นกระทงของตัวเองให้กับทรงรบเพื่อตัดปัญหา“ไม่ได้นะคะ”พิมพรรณรีบห้ามพัชรินทร์เอาไว้หากชายหนุ่มอยากจะลอยกระทงกับเธอนักเธอก็จะทำให้วันลอยกระทงปีนี้ทรงรบไม่มีวันลืมไปเลย“อยากลอยกับฉันใช่ไหม..ได้ตามมา”“อ้าวทำไมพ่อเลี้ยงมาด้วยล่ะ”ภูผาที่มารอสองสาวที่ทาน้ำของวัดอยู่ก่อนแล้วเห็นสองสาวมีทรงรบเดินมาด้วยจึงแปลกใจไม่น้อยเพราะเห็นหลานของเขาพูดอยู่ว่าไม่ค่อยชอบหน้าพ่อเลี้ยงของไร่ภิภพเท่าไรไหนตอนนี้มาพร้อมกัน“ฉันเดินชนกับพ่อเลี้ยงกระทงเค้าเลยพังฉันก็ต้องให้เค้ามาลอยกับฉันนี่แหละ”“งั้นก็รีบลอยกันเถอะ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจและให้ทุกคนรีบลอยเพราะเดี๋ยวดึกกว่านี้จะต้องต่อคิวกันกับคนอื่นให้ยุ่งยาก“คุณพัชค่อยๆนะคะ”พิมพรรณให้ทรงรบถือกระทงเอาไว้ก
เป็นปีแล้วที่กิ่งแก้วลาออกจากงานเลขาไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอคิณเองก็ต้องเรียกมารุตมาช่วยงานอย่างเก่าดูเหมือนความสัมพันธ์ของอคิณและกิ่งแก้วจะไม่แน่นแฟ้นอย่างเมื่อก่อนเท่าไรเพราะทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอกันเหตุเพราะงานอคิณก็ค่อนข้างยุ่งกิ่งแก้วก็เดินทางบ่อยเดือนๆแทบจะไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ17.00 น."ตั้งแต่คุณไม่ได้เป็นเลขาผมเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันสักเท่าไรเลยนะ" วันนี้กิ่งแก้วพึ่งกลับจากปารีสเมื่ออคิณรู้จึงรีบไปรับเธอที่สนามบินมาที่บ้านด้วยความคิดถึง"ก็กิ่งต้องไปต่างประเทศบ่อยนี่คะ""แล้วฤกษ์แต่งเราล่ะผมไม่เห็นคุณจะพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย""ช่วงนี้ทั้งกิ่งทั้งคุณก็ยุ่งๆพักแพลนไปก่อนก็ได้ค่ะยังไงเราก็ยังรักดันดีอยู่นี่คะ" "คืนนี้คุณพึ่งกลับมาอยู่กับผมนะครับ" อคิณแปลกใจไม่น้อยที่กิ่งแก้วไม่ยักจะสนเรื่องแต่งงานแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะถามแค่ตอนนี้เขาอยากรักเธอให้หายคิดถึงมากกว่าจึงค่อยๆสอดมือหนาเข้าไปขยำอกตูมของเธออย่างปรารถนา"กิ่งต้องกลับบ้านน่ะค่ะคุณพ่อท่านรู้แล้วว่ากิ่งกลับมาถ้าจะขอค้างกับคุณกิ่งกลัวว่าจะถูกท่านตำหนิ" กิ่งแก้วต้องรีบดึงมือชายหนุ่มออกเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับอคิณนานได้"
“หา...ทำไมเราติดหนี้เค้าเยอะแบบนั้นล่ะตา” พิมพรรณเบิกตาโพรงตกใจเมื่อได้ยินยอดหนี้“ข้าก็เอามาลงทุนกับเครื่องทุ่นแรงในไร่นี่แหละ”“ขอผ่อนเค้าไปก่อนไม่ได้เหรอคะตา” พัชรินทร์เธอพอจะมีเงินอยู้่บ้างหากขอผ่อนผันได้เธอก็จะช่วยจ่ายเท่าที่มีไปก่อน“นี่ก็สามปีแล้วที่ไม่ได้ผ่อน..อีกสามเดือนถ้าไม่มีเงินไปจ่ายไร่นี้ก็จะถูกยึด” เริงฤทธิ์ส่ายหัว“นี่ถึงกับยึดกันเลยเหรอ” พิมพรรณแทบเข่าอ่อนเธอรักไร่นี้มากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธออุ่นใจเมื่อได้อยู่ที่นี่"ไร่นี้จะไม่ถูกยึดถ้าเอ็งยอมช่วยตา" "คืออะไรพ่อ" คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาภูผาขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าพิมพรรณจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร“ถ้าเจ้าพิมยอมแต่งงานกับทรงรบทุกอย่างจะเป็นโมฆะ” "นี่พ่อไปตกลงกับพ่อเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง" ภูผาเอ่ยเสียงแข็ง"ก็เค้าเสนอมาแบบนั้นฉันก็มาถามเจ้าพิมมันก่อนถ้าไม่ตกลงก็ปล่อยให้เค้ายึดไปก็เท่านั้น""หนูขอคิดดูก่อนนะตา" พิมพรรณนั่งหน้าตาตื่นเธอเงียบอึ้งไปครู่ใหญ่เธอขอเวลาใช้ความคิดสักพักแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เองเธอพอจะรู้ว่าทรงรบคงต้องการแกล้งเธออีกแน่นอนถึงได้ให้ข้อเสนอนี้กับตาของเขามา20.00 น.“เจ้าแฝดหลับ
"นี่ผมหนวกหูนะ"ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง"อืม...""ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"รีบๆล่ะฉันรออยู่"พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ""ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่
กรุงเทพมหานคร“ส่งของขวัญไปหรือยัง”อคิณที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องทำงานเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของทรงรบเพื่อนของเขาแต่ที่ไม่อยากไปด้วยตัวเองก็เพราะสภาพจิตใจยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงส่งคนไปให้ของขวัญและอยู่ร่วมงานแทนทรงรบกับอคิณเรียนรุ่นเดียวกันในมหาลัยตอนเรียนทั้งคู่สนิทกันมากพึ่งจะมาห่างกันก็ช่วงที่ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองคราแรกเขายังคิดว่าทรงรบจะแต่งงานทีหลังเขาด้วยซ้ำเพราะไม่เห็นว่าจะมีสาวคนไหนเข้าตาทรงรบสักคนแต่กลับเป็นเขาที่ยังไม่ได้แต่งเพราะว่าที่เจ้าสาวที่ขอเอาไว้กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อเขานั่นเอง“คนของเราส่งเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศในงานแต่งมาด้วยครับ”มารุตรีบส่งไฟล์รูปงานแต่งของทรงรบให้อคิณทันทีที่เขารีบให้อคิณดูเพราะมีบางอย่างที่อคิณน่าจะอยากรู้“ฉันขอดูหน้าเจ้าสาวเพื่อนฉันหน่อยซิ...นี่มัน”อคิณเปิดไฟล์รูปดูในโน๊ตบุ๊คครู่หนึ่งเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของทรงรบคือพิมพรรณพยาบาลที่เขาเคยจ้างให้เฝ้าพัชรินทร์แถมคนที่ยืนยิ้มข้างๆบ่าวสาวนั้นยังเป็นพัชรินทร์“ครับเธออยู่ที่นั่นตอนนี้เธอก็มีลูกแฝดผู้หญิงวัยเก้าเดือนกว่าแล้วด้วยครับ”เรื่อง
“แอ้..แง้งงงง”อคิณรวบลูกของเขาทั้งสองออกจากอกพัชรินทร์ทั้งที่เจ้าแฝดสองคนกำลังร้องให้โยเยอยู่“เอาลูกพัชมานะ”พัชรินทร์เสมือนถูกควักหัวใจออกจากอกเมื่ออคิณแย่งลูกของเธอไปต่อหน้าต่อตา“คนอย่างเธอไม่สมควรจะเป็นแม่ของลูกฉัน”อคิณส่งลูกของเขาให้มารุตและหันมาชี้หน้าหญิงสาวตะคอกใส่เธอเสียงแข็งปังง“จะพาลูกพัชไปไหน” อคิณปิดประตูเมื่อเห็นว่าพัชรินทร์กำลังจะวิ่งตามมารุตที่อุ้มเด็กๆออกไป“ลูกเธอก็ลูกฉัน”"ปล่อยพัชกับลูกไปนะคะ"หญิงสาวนั่งฟุบลงกับพื้นยกมือไหว้ชายหนุ่มด้วยน้ำตาพัชรินทร์เห็นชัดเจนแล้วว่าอคิณต้องการจะพรากลูกไปจากเธอบาดแผลในใจครั้งนี้มันเจ็บกว่าครั้งที่ถูกเขาทารุณก่อนหน้าด้วยซ้ำ"เซ็นยกมรดกของเธอให้ฉันแล้วฉันจะปล่อยเธอ"อคิณรีบหยิบเอกสารในมือให้หญิงสาวเซ็นเพราะเขาไม่ต้องการให้สมบัติของแม่เขาตกไปอยู่กับพัชรินทร์แม้แต่ชิ้นเดียว"เรียบร้อยค่ะขอลูกคืนให้พัชนะคะ"พัชรินทร์รีบหยิบเอกสารนั้นมาเซ็นอย่างลวกๆไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไรเธอทำทั้งนั้นขอแค่เขาคืนลูกของเธอมาเท่านั้น"ฉันบอกว่าฉันจะปล่อยเธอไม่ใช่ปล่อยลูกในเมื่อเด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันเค้าก็จะต้องได้อยู่กับฉัน""ไม่นะคะเอาลูกพัชคืนมาพ
เช้าวันต่อมา"แค่นี้ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรือไง"อคิณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนโซฟาข้างเตียงนอนที่มีพัชรินทร์นอนอยู่เขาเห็นหญิงสาวนอนตัวขดสั่นเทาเล็กน้อยจึงใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากมนวัดไข้ดูจึงรู้ว่าเธอตัวร้อนเขาจึงจำต้องหาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอเพราะที่นี่ไม่มียาแก้ไข้"ลูกพัช.. เอาลูกพัชคืนมา.."พัชรินทร์ยังคงละเมอเป็นเรื่องลูกแม้เธอจะละเมอแต่ความเจ็บปวดในใจก็ทำให้เธอร้องให้ออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัว"เธอยังต้องทรมานกว่านี้อีกหลายเท่าพัชรินทร์"อคิณมองร่างบางอย่างสมเพชยิ่งเขาเห็นหน้าของเธอเรื่องของแม่เขาก็ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวพร้อมความเจ็บปวดและเขาจะทำให้หญิงสาวเจ็บปวดกว่าเขาหลายเท่าจากที่เขาได้รับบ้านอิทธิกร"ป้านวลครับยังไงรีบหาคนมาช่วยดูแลหลานผมด่วนเลยนะครับ"อิทธิกรโล่งใจที่ศรีนวลแม่บ้านของเขาเลี้ยงหลานของเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดีทั้งรีบให้ศรีนวลหาคนมาช่วยอีกแรงเพราะเจ้าแฝดทั้งสองนั้นค่อนข้างซนกันแล้วในช่วงวัยนี้"ค่ะคุณกร""แอ้.. ๆๆ.. หม่ำๆ"เจ้าสองแฝดที่นั่งตัวกลมอยู่บนพื้นเห็นถ้วยข้าวในมือศรีนวลก็นั่งจ้องกันตาเป็นมันทั้งปากก็เอ่ยขอกันสลับกันไปมาจนศรีนวลอดขำไม่ได้"คุณหนูท่าจะทานเก่งกันทั้งคู่เลยนะค