“หา...ทำไมเราติดหนี้เค้าเยอะแบบนั้นล่ะตา”
พิมพรรณเบิกตาโพรงตกใจเมื่อได้ยินยอดหนี้
“ข้าก็เอามาลงทุนกับเครื่องทุ่นแรงในไร่นี่แหละ”
“ขอผ่อนเค้าไปก่อนไม่ได้เหรอคะตา”
พัชรินทร์เธอพอจะมีเงินอยู้่บ้างหากขอผ่อนผันได้เธอก็จะช่วยจ่ายเท่าที่มีไปก่อน
“นี่ก็สามปีแล้วที่ไม่ได้ผ่อน..อีกสามเดือนถ้าไม่มีเงินไปจ่ายไร่นี้ก็จะถูกยึด” เริงฤทธิ์ส่ายหัว
“นี่ถึงกับยึดกันเลยเหรอ”
พิมพรรณแทบเข่าอ่อนเธอรักไร่นี้มากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธออุ่นใจเมื่อได้อยู่ที่นี่
"ไร่นี้จะไม่ถูกยึดถ้าเอ็งยอมช่วยตา"
"คืออะไรพ่อ"
คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาภูผาขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าพิมพรรณจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร
“ถ้าเจ้าพิมยอมแต่งงานกับทรงรบทุกอย่างจะเป็นโมฆะ”
"นี่พ่อไปตกลงกับพ่อเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง" ภูผาเอ่ยเสียงแข็ง
"ก็เค้าเสนอมาแบบนั้นฉันก็มาถามเจ้าพิมมันก่อนถ้าไม่ตกลงก็ปล่อยให้เค้ายึดไปก็เท่านั้น"
"หนูขอคิดดูก่อนนะตา"
พิมพรรณนั่งหน้าตาตื่นเธอเงียบอึ้งไปครู่ใหญ่เธอขอเวลาใช้ความคิดสักพักแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เองเธอพอจะรู้ว่าทรงรบคงต้องการแกล้งเธออีกแน่นอนถึงได้ให้ข้อเสนอนี้กับตาของเขามา
20.00 น.
“เจ้าแฝดหลับแล้วใช่ไหมคะ”
พิมพรรณเข้าห้องของพัชรินทร์มาในเวลานี้เพื่ออยากปรึกษาอะไรบางอย่างกับพัชรินทร์เมื่อเห็นหลานๆหลับแล้วเธอจึงสบายใจว่าไม่ได้รบกวนพัชรินทร์จนเกินไป
"จะเอายังไงต่อคะ.."
พัชรินทร์เองก็ร้อนใจเรื่องที่ไร่จะถูกยึดไม่แพ้กันตอนนี้เธอจึงอยากรู้ความคิดของพิมพรรณว่าเธอนั้นจะเอายังไงต่อ
"ฉันจะไปคุยกับพ่อเลี้ยงก่อนค่ะ" ตอนนี้พิมพรรณพอจะหาทางออกได้บ้างเธอขอไปเจรจาผ่อนปรนกับทรงรบสักตั้งก่อนหากไม่ได้เธอก็จะหาวิธีอื่นแต่เธอจะไม่ยอมให้ไร่นี้ถูกยึดไปง่ายๆแน่นอน
เช้าวันต่อมา
ไร่ภิภพ
"คุณทรงรบอยู่ไหนคะ"
พิมพรรณตื่นแต่เช้าขับรถมาที่ไร่ภิภพเธอดิ่งตรงมาที่บ้านของทรงรบเพื่อมาเจรจาเรื่องผ่อนปรนหนี้สินที่คางคาอยู่
"เอ่อ...พ่อเลี้ยงอยู่ในห้องค่ะ"
แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่เห็นพิมพรรณเข้ามาเธอก็ชี้ให้หญิงสาวเข้าไปในห้องนอนของทรงรบเพราะเธอได้รับคำสั่งมาว่าหากพิมพรรณมาที่นี่ให้เธอเข้ามาหาเขาได้ทุกเวลา
"คุณทรงรบ"
พิมพรรณถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของทรงรบโดยที่ไม่ได้เคาะ
"มาทำไมแต่เช้า"
ทรงรบที่พึ่งจะตื่นนอนเขาลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงด้วยอาการสะลึมสะลือไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาหาเขาแต่เช้าตรู่แบบนี้
"เรื่องที่ตาฉันติดหนี้คุณฉันขอผ่อนจ่ายเป็นงวดๆไปก่อนได้ไหมคะ"
พิมพรรณเข้ามานั่งประชิดชายหนุ่มที่เตียงนุ่มของเขาด้วยท่าทีร้อนใจ
"นี่แสดงว่าตาคุณบอกคุณแล้วสิทำไมไม่แต่งกับผมให้จบๆไปล่ะหนี้ก็ไม่ต้องจ่ายไร่ก็ไม่ต้องถูกยึด"
ทรงรบมองหญิงสาวด้วยสายตามีเลศนัย
"ใครอยากแต่งกับคุณกันล่ะ"
พิมพรรณกัดฟันกรอดเธอเกลียดสายตาที่เจ้าเล่ห์ของทรงรบที่สุดเพราะมันหมายถึงเขากำลังจะเอาชนะเธอ
"คนอื่นอยากแต่งกับผมมากมายทำไมคุณกลับปฏิเสธล่ะ"
"ก็ฉันไม่อยากแต่งงานไม่อยากมีสามีเข้าใจไหม"
ในชีวิตพิมพรรณเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องชีวิตคู่เลยสักนิดเพราะเธอเห็นความลำบากของแม่เธอมาแล้วเพราะพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบคนนั้นคนที่เธอไม่เคยเห็นหน้าแต่เป็นคนผลักภาระทั้งหมดให้แม่ของเธอ
"ไม่เข้าใจ" ทรงรบส่ายหัวด้วยท่าทียียวน
"ก็เรื่องของคุณ..วันนี้ฉันมาขอให้คุณเลื่อนเวลาใช้หนี้ให้ฉันก่อน"
"ไม่เลื่อนไม่ให้จ่ายเป็นงวดถ้าไม่อยากแต่งกับผมสามเดือนนี้ก็หาเงินมาใช้ผมให้ได้ก็แล้วกัน"
"ใจดำ..ทำแบบนี้จะเอาชนะฉันใช่ไหม...ได้..แล้วฉันจะเอาเงินมาคืนคุณภายในสามเดือนให้ได้"
"งั้นก็เซ็นเอกสารนี่ซะ" ทรงรบหยิบเอกสารที่วางไว้บนหัวเตียงให้หญิงสาวเซ็น
"ได้..แค่นี้ใช่ไหม"
พิมพรรณยอมเซ็นโดยที่ไม่อ่านก่อนเพราะกำลังอยู่ในอารมณ์โมโห
"อืม.."
ทรงรบมองลายเซ็นของหญิงสาวแล้วพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย
"หึ่.."
พิมพรรณรีบสะบัดหน้าอย่างไม่พอใจแล้วเดินออกไปทันทีเพราะเข้าใจว่าทรงรบไม่ยอมรับข้อเสนอของเธอง่ายๆเพราะอยากจะแกล้งกันมากกว่า
เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ต้องมาปรึกษากับพัชรินทร์อีกรอบว่าจะทำอย่างไรเพราะเธอพลั้งปากด้วยความโมโหไปแล้วว่าภายในสามเดือนนี้เธอจะหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้คราแรกก็ว่าจะไปผ่อนผันแต่พอไปแล้วเหมือนไปเถียงกันเป็นเด็กเล่น
"ฉันจะขอให้พี่กรช่วย"
พัชรินทร์เห็นทีคงต้องยืมมืออิทธิกรมาช่วยเธอแล้ว
"ไม่ค่ะคุณพัชเงินมันไม่ใช่น้อยๆนะคะ"
"ฉันพอจะมีเก็บอยู่สองล้านขอยืมพี่กรแค่สองล้านคงจะไม่มีปัญหาแล้วเราขายของได้ค่อยทยอยคืนพี่กรก็ได้นี่คะ"
"ยังงั้นก็ขอบคุณคุณพัชมากๆเลยนะคะ"
พิมพรรณใจชื้นที่รู้ว่ายังมีหวังที่จะไม่เสียไร่นี้ไป
"ไม่เป็นไรเลยค่ะที่นี่ก็เหมือนบ้านฉันยังไงฉันก็ต้องรักษาที่นี่ไว้ให้ดีที่สุดค่ะ"
พัชรินทร์ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรเรื่องเงินที่เสียไปเลยเธอก็รักไร่นี้เหมือนกับคนอื่นๆเพราะเหมือนที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของเธอไปแล้ว
สามวันต่อมา
"พี่กรโอนเงินมาให้แล้วนะคะนี่เงินค่ะของพี่กรรวมกับของฉัน"
พัชรินทร์เปิดกระเป๋าเงินสดที่เธอเบิกมาตรงหน้าของพิมพรรณ
"ฉันจะไปคืนอีตาพ่อเลี้ยงนั่นเดี๋ยวนี้"
พิมพรรณพอจะยิ้มออกที่รู้ว่าเกมนี้เธอเป็นผู้ชนะทรงรบเมื่อได้เงินแล้วเธอจึงรีบขับรถไปที่บ้านของทรงรบทันที
ครู่ต่อมา
"มีธุระอะไรอีกล่ะหรือจะยอมแต่งงานกับผมแต่โดยดี"
ทรงรบที่นั่งอยู่ในห้องทำงานเมื่อเห็นพิมพรรณเข้ามาเขาจึงวางงานทุกอย่างและหันมาทักทายหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าทะเล้นหยอกเอิญอีกฝ่ายเล่น
"ฉันเอาเงินมาคืนคุณสี่ล้านนับดูสิว่าครบหรือเปล่า"
พิมพรรณเดินเข้ามาวางกระเป๋าเงินตรงหน้าทรงรบด้วยความมั่นใจ
"ผมว่าคุณน่าจะนับมาครบแล้วล่ะแต่คุณเซ็นสัญญาตกลงอะไรไว้แล้วล่ะสิ"
ทรงรบยื่นเอกสารที่หญิงสาวเซ็นวันนั้นให้เธอดู
"หากเอาเงินมาคืนภายในหนึ่งวันไม่ได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มเป็นร้อยเปอร์เซ็น...หนอยยย...อีพ่อเลี้ยงหน้าเลือดเจ้าเล่ห์ที่สุดฉันจะแจ้งความ"
พิมพรรณหยิบเอกสารฉบับนั้นขึ้นมาอ่านเธอก็ถึงกับหัวเสียที่เธอดันสัพเพร่าเองแต่นั่นก็เป็นเพราะความเจ้าเล่ห์ของทรงรบ
"เอาสิแต่นั่นคุณเป็นคนเซ็นเองนะผมไม่ได้บังคับหลักฐานกล้องวงจรก็มีว่าผมไม่ได้บังคับคุณให้เซ็น"
ทรงรบเอ่ยเสียงเรียบทั้งยังตีหน้ามึนผิดกับพิมพรรณที่โกรธจนควันออกหู
"คุณมัน...อ๊าย..ฉันจะบ้าตาย"
พิมพรรณทำอะไรไม่ได้ก็ขอกรีดร้องระบายอารมณ์โกรธเสียตรงหน้าชายหนุ่มเสียเลย
"นี่ผมหนวกหูนะ"ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง"อืม...""ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"รีบๆล่ะฉันรออยู่"พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ""ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่
กรุงเทพมหานคร“ส่งของขวัญไปหรือยัง”อคิณที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องทำงานเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของทรงรบเพื่อนของเขาแต่ที่ไม่อยากไปด้วยตัวเองก็เพราะสภาพจิตใจยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงส่งคนไปให้ของขวัญและอยู่ร่วมงานแทนทรงรบกับอคิณเรียนรุ่นเดียวกันในมหาลัยตอนเรียนทั้งคู่สนิทกันมากพึ่งจะมาห่างกันก็ช่วงที่ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองคราแรกเขายังคิดว่าทรงรบจะแต่งงานทีหลังเขาด้วยซ้ำเพราะไม่เห็นว่าจะมีสาวคนไหนเข้าตาทรงรบสักคนแต่กลับเป็นเขาที่ยังไม่ได้แต่งเพราะว่าที่เจ้าสาวที่ขอเอาไว้กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อเขานั่นเอง“คนของเราส่งเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศในงานแต่งมาด้วยครับ”มารุตรีบส่งไฟล์รูปงานแต่งของทรงรบให้อคิณทันทีที่เขารีบให้อคิณดูเพราะมีบางอย่างที่อคิณน่าจะอยากรู้“ฉันขอดูหน้าเจ้าสาวเพื่อนฉันหน่อยซิ...นี่มัน”อคิณเปิดไฟล์รูปดูในโน๊ตบุ๊คครู่หนึ่งเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของทรงรบคือพิมพรรณพยาบาลที่เขาเคยจ้างให้เฝ้าพัชรินทร์แถมคนที่ยืนยิ้มข้างๆบ่าวสาวนั้นยังเป็นพัชรินทร์“ครับเธออยู่ที่นั่นตอนนี้เธอก็มีลูกแฝดผู้หญิงวัยเก้าเดือนกว่าแล้วด้วยครับ”เรื่อง
“แอ้..แง้งงงง”อคิณรวบลูกของเขาทั้งสองออกจากอกพัชรินทร์ทั้งที่เจ้าแฝดสองคนกำลังร้องให้โยเยอยู่“เอาลูกพัชมานะ”พัชรินทร์เสมือนถูกควักหัวใจออกจากอกเมื่ออคิณแย่งลูกของเธอไปต่อหน้าต่อตา“คนอย่างเธอไม่สมควรจะเป็นแม่ของลูกฉัน”อคิณส่งลูกของเขาให้มารุตและหันมาชี้หน้าหญิงสาวตะคอกใส่เธอเสียงแข็งปังง“จะพาลูกพัชไปไหน” อคิณปิดประตูเมื่อเห็นว่าพัชรินทร์กำลังจะวิ่งตามมารุตที่อุ้มเด็กๆออกไป“ลูกเธอก็ลูกฉัน”"ปล่อยพัชกับลูกไปนะคะ"หญิงสาวนั่งฟุบลงกับพื้นยกมือไหว้ชายหนุ่มด้วยน้ำตาพัชรินทร์เห็นชัดเจนแล้วว่าอคิณต้องการจะพรากลูกไปจากเธอบาดแผลในใจครั้งนี้มันเจ็บกว่าครั้งที่ถูกเขาทารุณก่อนหน้าด้วยซ้ำ"เซ็นยกมรดกของเธอให้ฉันแล้วฉันจะปล่อยเธอ"อคิณรีบหยิบเอกสารในมือให้หญิงสาวเซ็นเพราะเขาไม่ต้องการให้สมบัติของแม่เขาตกไปอยู่กับพัชรินทร์แม้แต่ชิ้นเดียว"เรียบร้อยค่ะขอลูกคืนให้พัชนะคะ"พัชรินทร์รีบหยิบเอกสารนั้นมาเซ็นอย่างลวกๆไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไรเธอทำทั้งนั้นขอแค่เขาคืนลูกของเธอมาเท่านั้น"ฉันบอกว่าฉันจะปล่อยเธอไม่ใช่ปล่อยลูกในเมื่อเด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันเค้าก็จะต้องได้อยู่กับฉัน""ไม่นะคะเอาลูกพัชคืนมาพ
เช้าวันต่อมา"แค่นี้ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรือไง"อคิณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนโซฟาข้างเตียงนอนที่มีพัชรินทร์นอนอยู่เขาเห็นหญิงสาวนอนตัวขดสั่นเทาเล็กน้อยจึงใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากมนวัดไข้ดูจึงรู้ว่าเธอตัวร้อนเขาจึงจำต้องหาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอเพราะที่นี่ไม่มียาแก้ไข้"ลูกพัช.. เอาลูกพัชคืนมา.."พัชรินทร์ยังคงละเมอเป็นเรื่องลูกแม้เธอจะละเมอแต่ความเจ็บปวดในใจก็ทำให้เธอร้องให้ออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัว"เธอยังต้องทรมานกว่านี้อีกหลายเท่าพัชรินทร์"อคิณมองร่างบางอย่างสมเพชยิ่งเขาเห็นหน้าของเธอเรื่องของแม่เขาก็ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวพร้อมความเจ็บปวดและเขาจะทำให้หญิงสาวเจ็บปวดกว่าเขาหลายเท่าจากที่เขาได้รับบ้านอิทธิกร"ป้านวลครับยังไงรีบหาคนมาช่วยดูแลหลานผมด่วนเลยนะครับ"อิทธิกรโล่งใจที่ศรีนวลแม่บ้านของเขาเลี้ยงหลานของเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดีทั้งรีบให้ศรีนวลหาคนมาช่วยอีกแรงเพราะเจ้าแฝดทั้งสองนั้นค่อนข้างซนกันแล้วในช่วงวัยนี้"ค่ะคุณกร""แอ้.. ๆๆ.. หม่ำๆ"เจ้าสองแฝดที่นั่งตัวกลมอยู่บนพื้นเห็นถ้วยข้าวในมือศรีนวลก็นั่งจ้องกันตาเป็นมันทั้งปากก็เอ่ยขอกันสลับกันไปมาจนศรีนวลอดขำไม่ได้"คุณหนูท่าจะทานเก่งกันทั้งคู่เลยนะค
โรงแรมxxx"ที่แท้ก็ทะเลาะกับว่าที่เจ้าบ่าว" ก้องเกียรติพากิ่งแก้วขับรถมาที่โรงแรมม่านรูดก่อนจะลงจากรถกิ่งแก้วก็ระบายเรื่องที่อยู่ในใจให้ก้องเกียรติฟังจนหมด"ฉันกำจัดแม่เค้าได้แล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน" กิ่งแก้วเอ่ยเสียงแข็งเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่สุขสบายเมื่อลงทุนมาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะไม่ยอมปล่อยให้อคิณหลุดมือไปง่ายๆ"ทีหลังคุณก็อย่ามักมากนักสิ" ก้องเกียรติรู้ดีว่าอดีตคนรักของเขานั้นมีความต้องการมากแค่ไหน"ฉันก็ขี้เบื่อเหมือนกันนะ" กิ่งแก้วเอื้อมมือไปลุบไล้แผงอกของก้องเกียรติแม้จะเคยๆกันมาก่อนแต่เมื่อห่างกันไปนานๆเธอก็มีความตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน"มาสนุกกันดีกว่านะหวังว่าการห่างของเราจะทำให้คุณคิดถึงผมบ้างนะ" ก้องเกียรติรีบเปิดประตูรถและอุ้มร่างบางไปสนุกกันในห้องโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังปล่อยความลับที่ปกปิดมานานให้เปิดเผยสามวันต่อมา"เป็นแบบนี้นี่เองเลวที่สุด" อิทธิกรนั่งกำมือแน่นหลังจากที่ได้หลักฐานจากนักสืบที่เขาจ้างให้ตามดูก้องเกียรติแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องนี้กิ่งแก้วเป็นคนจัดการสั่งทุกอย่างทั้งหมด"นี่ยังติดต่ออคิณไม่ได้อีกหรือไง" ทศพลเอ่ยข
"ทำไมไม่เอาไว้บ้านแกล่ะ"อคิณเท้าเอวมองหน้าอิทธิกรเขาไม่ได้มีเวลาจะมาดูแลลูกของเขาสักเท่าไรอีกอย่างวันนี้เขาก็ต้องรีบกลับไปที่เกาะด้วย"อ้าว..ก็ลูกพี่"อิทธิกรทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้และเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่ออุ้มเจ้าก้อนทั้งสองอกมาทักทายพ่อตัวเองเสียหน่อย"แอ้..ๆ"เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาใหม่จึงมองหน้ากันทั้งขมวดคิ้วสงสัยด้วยท่าทางน่าเอ็นดู"ไปหาคุณพ่อนะครับน้ำเมย"อิทธิกรส่งน้ำเมยให้อคิณได้อุ้มอย่างปฏิเสธไม่ได้"แอ้..ๆหม่ำๆๆ"เจ้าก้อนเงยหน้ามองคนที่อุ้มก็ยกมือป้อมทั้งสองจิกไปที่ผมของคนเป็นพ่อทั้งหม่ำๆเกร็งปากด้วยความหมั่นเขี้ยว“หิวจนจะหม่ำพ่อเข้าไปแล้วเหรอ”อคิณเห็นท่าทางเช่นนั้นของน้ำเมยเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแกมหยอกพร้อมแสดงน้ำเสียงอ่อนโยนเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาอย่างไม่รู้ตัวมันเป็นไปเองอัตโนมัติเพราะความน่ารักไร้เดียงสาของลูกสาวของเขานั่นเองท่าทีอคิณตอนนี้ทำเอาอิทธิกรถึงกับมองตาค้างเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาเล่นเสียงสองแบบนี้มาก่อนแต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็พร้อมจะบอกความจริงเรื่องอุบัติเหตุที่พรากชีวิตแม่ของเขาไปแล้วด้วยหวังว่าพี่ชายของเขาจ
"คุณเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด"อคิณมือไม้สั่นไปหมดที่หญิงสาวทำให้เขาดูเป็นคนโง่หลอกใช้และที่สำคัญเธอไม่ได้รักเขาเหมือนที่เขารักเธอแม้แต่นิด"มาร์คพาเธอส่งตำรวจ"อิทธิกรสั่งให้มารุตพาหญิงสาวไปส่งตำรวจเพราะตอนนี้ก้องเกียรติก็รออยู่ที่นั่นแล้วเหมือนกัน"อย่านะนี่แสดงว่าแกวางแผนไว้ทั้งหมดใช่ไหม...จะบอกอะไรให้นะพวกแกมันโง่ไม่มีทางฉลาดกว่าฉันได้หรอกแม่แกก็สมควรตายอยากจะขัดขวางไม่ให้ฉันแต่งงานกับแกดีนักฉันรู้มานานแล้วว่าแม่แกหมายหมั้นให้อีพัชมันแต่งกับแก..ฉันก็เลยต้องชิงกำจัดแม่พวกแกก่อนไงแล้วแกก็โง่ที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นฝีมืออีพัช...โง่...โง่ฮ่าๆๆ"กิ่งแก้วที่ไม่มีอะไรจะเสียเมื่อถูกจับได้เธอจึงตวาดใส่ทุกคนอย่างคนไร้สติระบายความอัดอั้นที่ถูกเกลียดชังจากดวงสมรเธอเกลียดทุกคนที่ขวางทางเธอไม่ให้คบกับอคิณทั้งโมโหอคิณที่ไปมีลูกกับพัชรินทร์โดยที่เธอไม่รู้เรื่องทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็อยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่าอคิณมันโง่ที่สุดและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งสะใจ"ออกไป"อคิณเริ่มหายใจแรงเขาโกรธกิ่งแก้วมากก่อนจะตวาดไล่กิ่งแก้วให้ออกไปให้พ้นๆหน้าเขาในตอนนี้เมื่อกิ่งแก้วไปพ้นตาเขาแล้วชายหนุ่มถึงกับนั่งฟุบกอดเข่าล
สามชั่วโมงต่อมา"พัช"อิทธิกรนั่งรอทั้งสองอยู่จนดึกเมื่อเห็นอคิณประคองพัชรินทร์เดินเข้าบ้านมาเขาก็รีบเข้าไปสวมกอดน้องสาวของเขาทันทีทั้งมองสภาพที่อิดโรยของเธอด้วยสายตาที่เป็นห่วง"พี่กร...ลูกพัชอยู่ไหนคะ"พัชรินทร์รีบถามหาเจ้าแฝดทันทีที่มาถึง“กำลังหลับปุ๋ยเลย”อิทธิกรค่อยๆพาพัชรินทร์เดินไปที่ห้องนอนใกล้ๆกับห้องนั่งเล่นเมื่ออิทธิกรเปิดประตูพัชรินทร์ก็รีบเดินเข้าไปกอดหอมลูกทั้งสองของเธอบนเตียงด้วยน้ำตา“ลูกแม่..”หญิงสาวนั่งมองลูกๆของเธอพักใหญ่ราวกับจงอางหวงไข่ภาพนั้นทำให้ทั้งอิทธิกรและอคิณมองหน้ากันด้วยความหดหู่“พัชพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”อิทธิกรเรียกให้พัชรินทร์มาคุยเรื่องแม่ของเขาข้างนอกเพราะเรื่องนี้น้องของเขาก็ต้องได้รับรู้ด้วยเช่นกัน“อะไรนะคะเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคุณกิ่งเหรอคะ”พัชรินทร์รู้เรื่องที่กิ่งแก้วทำทั้งหมดเธอก็ถึงกับอึ้งจากที่คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแต่แท้ที่จริงแม่เธอต้องเสียเพราะผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวคนนึงเธอก็ยิ่งเสียใจ“พี่คิณ”อิทธิกรเห็นอคิณเดินเข้ามาเขาก็รีบลุกหมายที่จะเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน"เรากลับบ้านกันเถอะค่ะพี่กร"พัชรินทร์ดึงแขนของอิทธิกรเอาไว้แล