เช้าวันต่อมา
"แค่นี้ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรือไง"
อคิณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนโซฟาข้างเตียงนอนที่มีพัชรินทร์นอนอยู่เขาเห็นหญิงสาวนอนตัวขดสั่นเทาเล็กน้อยจึงใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากมนวัดไข้ดูจึงรู้ว่าเธอตัวร้อนเขาจึงจำต้องหาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอเพราะที่นี่ไม่มียาแก้ไข้
"ลูกพัช.. เอาลูกพัชคืนมา.."
พัชรินทร์ยังคงละเมอเป็นเรื่องลูกแม้เธอจะละเมอแต่ความเจ็บปวดในใจก็ทำให้เธอร้องให้ออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัว
"เธอยังต้องทรมานกว่านี้อีกหลายเท่าพัชรินทร์"
อคิณมองร่างบางอย่างสมเพชยิ่งเขาเห็นหน้าของเธอเรื่องของแม่เขาก็ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวพร้อมความเจ็บปวดและเขาจะทำให้หญิงสาวเจ็บปวดกว่าเขาหลายเท่าจากที่เขาได้รับ
บ้านอิทธิกร
"ป้านวลครับยังไงรีบหาคนมาช่วยดูแลหลานผมด่วนเลยนะครับ"
อิทธิกรโล่งใจที่ศรีนวลแม่บ้านของเขาเลี้ยงหลานของเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดีทั้งรีบให้ศรีนวลหาคนมาช่วยอีกแรงเพราะเจ้าแฝดทั้งสองนั้นค่อนข้างซนกันแล้วในช่วงวัยนี้
"ค่ะคุณกร"
"แอ้.. ๆๆ.. หม่ำๆ"
เจ้าสองแฝดที่นั่งตัวกลมอยู่บนพื้นเห็นถ้วยข้าวในมือศรีนวลก็นั่งจ้องกันตาเป็นมันทั้งปากก็เอ่ยขอกันสลับกันไปมาจนศรีนวลอดขำไม่ได้
"คุณหนูท่าจะทานเก่งกันทั้งคู่เลยนะคะ"
ศรีนวลค่อยๆป้อนเจ้าก้อนทั้งสองทีละคนแต่ดูท่าเธอคนเดียวจะไม่ค่อยทันการเท่าไร
"ครับ"
อิทธิกรเห็นเช่นนั้นเลยต้องนั่งช่วยป้อนอีกแรงเพราะเล่นเข้าปากแล้วกลืนหายแบบนี้หากคนป้อนไม่ทันใจเดี๋ยวจะพางอแงเอาได้ เขาอยากจะรู้นักว่าถ้าพี่ชายของเขามาเห็นความน่ารักของลูกทั้งสองจะลดทิฐิที่มีต่อพัชรินทร์ลงบ้างหรือเปล่า
บ่ายของวัน
"คุณกรคะ"
กิ่งแก้วมาหาอิทธิกรที่บริษัทของเขาเพราะเธอติดต่อกับอคิณไม่ได้เลย
"คุณกิ่งมีธุระอะไรที่นี่เหรอครับ"
อิทธิกรค่อนข้างแปลกใจที่กิ่งแก้วโผล่มาที่นี่ทั้งที่ไม่เคยมา
"กิ่งมีปัญหากับคุณคิณนิดหน่อยน่ะค่ะติดต่อเค้าไม่ได้เลยไม่ทราบคุณกรพอจะรู้ไหมคะว่าคุณคิณอยู่ที่ไหน"
"ผมเองก็ยังไม่ทราบเหมือนกันครับว่าพี่คิณอยู่ที่ไหนตอนนี้ผมก็อยากเจอพี่คิณอยู่เหมือนกัน"
อิทธิกรเองก็ไม่รู้ว่าอคิณอยู่ที่ไหนเหมือนกันจึงให้คำตอบอะไรหญิงสาวไม่ได้
"อ๋อ..งั้นกิ่งขอตัวก่อนนะคะ"
กิ่งแก้วเห็นสีหน้าอิทธิกรแล้วดูท่าเขาจะพูดจริงและคงจะยังไม่รู้เรื่องของเธอกับอคิณด้วยจึงขอตัวกลับก่อน
"ครับ"
อิทธิกรมองตามหลังกิ่งแก้วอย่างสงสัยว่าเธอไปทำอะไรให้พี่ของเขาโกรธถึงได้ถึงขั้นตัดขาดการติดต่อกันไปแบบนี้
เกาะxx
"ทานข้าวซะ"
"ปล่อยพัชไปเถอะนะคะพัชอยากไปหาลูก"
"ฉันบอกให้เธอทานข้าว.."
อคิณค่อนข้างจะหัวเสียกับพัชรินทร์ไม่น้อยที่วันๆเอาแต่เรียกร้องหาลูกข้าวปลาก็ไม่ยอมทานเข้าไปสักนิดเดียวจนเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจับเธอมาทรมานหรือกำลังทรมานตัวเองให้เป็นประสาทกันแน่
"อื้อ...ฮือๆๆๆ..ทำไมต้องทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ด้วย"
พัชรินทร์รีบผลักมือชายหนุ่มออกในขณะที่เขากำลังจะยัดข้าวเข้ามาในปากของเธอ
"เธอมาทำฉันก่อนเธอเข้ามาในชีวิตแม่ของฉันแย่งความรักของแม่ไปจากฉันแล้วยังพรากแม่ฉันไปอีกเธอทำร้ายฉันก่อน"
"ไม่จริง..เรื่องทุกอย่างพี่คิณพูดพี่คิณคิดไปเองทั้งหมด..ฮือๆๆๆ"
พัชรินทร์สะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆจนถึงป่านนี้แล้วอคิณก็ยังไม่เลิกคิดว่าเธอตั้งใจให้แม่ของเขาตาย
"อย่ามาเถียงฉัน"
อคิณตวาดหญิงสาวเสียงฝาดจนร่างบางสะดุ้งเฮือก
"เมื่อไรจะปล่อยพัชไปต้องให้พัชชดใช้ไปถึงไหนพี่คิณถึงจะพอใจ"
พัชรินทร์นั่งกอดเข้าก้มหน้าร้องให้อย่างอ่อนใจ
"จนกว่าเธอจะตายไปต่อหน้าฉันละมั้ง"
อคิณยืนกัดฟันมองหญิงสาวด้วยท่าทางไม่พอใจครู่หนึ่งจึงพ่นบางคำออกมาแล้วเดินออกไปด้านนอกทิ้งให้หญิงสาวอยู่คนเดียวโดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะทานข้าวหรือไม่ทานเขาขี้เกียจจะบังคับแล้ว
สามวันต่อมา
คลับxxx
"ดื่มหนักไปแล้วนะครับ"
ก้องเกียรติเดินเข้ามาทักทายกิ่งแก้วเมื่อเห็นว่าเธอนั่งดื่มอยู่คนเดียวจนเริ่มที่จะเมาแล้ว
"แก..ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าเสนอหน้ากลับมาในกรุงเทพอีก"
กิ่งแก้วเห็นก้องเกียรติเธอก็ถึงกับสร่างเมาทันทีเพราะเธอไม่อยากให้ก้องเกียรติมาวนเวียนอยู่รอบๆตัวเธอเท่าไรนัก
"มาแปปเดียวไม่เป็นอะไรหรอกน่า"
ก้องเกียรติยกไหล่เล็กน้อยเขารู้ว่าเขาไม่สมควรจะมาอยู่ที่นี่แต่เขาก็กบดานมาเป็นปีแล้วออกมานิดหน่อยก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้พฤติกรรมของทั้งคู่กำลังมีสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ไมห่างโดยที่ทั้งสองนั้นไม่รู้ตัว
"แล้วนี่ทำไมมาดื่มคนเดียวเครียดอะไรหรือเปล่าผมทำให้คุณแก้เครียดได้นะครับ"
ก้องเกียรติตีเนียนโอบร่างบางเข้ามากอดทั้งกระซิบข้างหูอย่างสนิทสนมซึ่งมันก็เป็นเรื่องเคยๆที่เขากับกิ่งแก้วทำกันเป็นประจำตั้งแต่คบกันเมื่อก่อนที่เธอจะมาเจอกับอคิณ
กิ่งแก้วมองมือหนาของชายหนุ่มที่เลื้อยอยู่ที่เอวของเธอและเงยหน้ามองตาก้องเกียรติด้วยสายตาที่เย้ายวนพลันนึกถึงวันวานที่เธอกับเขามีด้วยกันเพราะความเมา
โรงแรมxxx"ที่แท้ก็ทะเลาะกับว่าที่เจ้าบ่าว" ก้องเกียรติพากิ่งแก้วขับรถมาที่โรงแรมม่านรูดก่อนจะลงจากรถกิ่งแก้วก็ระบายเรื่องที่อยู่ในใจให้ก้องเกียรติฟังจนหมด"ฉันกำจัดแม่เค้าได้แล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน" กิ่งแก้วเอ่ยเสียงแข็งเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่สุขสบายเมื่อลงทุนมาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะไม่ยอมปล่อยให้อคิณหลุดมือไปง่ายๆ"ทีหลังคุณก็อย่ามักมากนักสิ" ก้องเกียรติรู้ดีว่าอดีตคนรักของเขานั้นมีความต้องการมากแค่ไหน"ฉันก็ขี้เบื่อเหมือนกันนะ" กิ่งแก้วเอื้อมมือไปลุบไล้แผงอกของก้องเกียรติแม้จะเคยๆกันมาก่อนแต่เมื่อห่างกันไปนานๆเธอก็มีความตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน"มาสนุกกันดีกว่านะหวังว่าการห่างของเราจะทำให้คุณคิดถึงผมบ้างนะ" ก้องเกียรติรีบเปิดประตูรถและอุ้มร่างบางไปสนุกกันในห้องโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังปล่อยความลับที่ปกปิดมานานให้เปิดเผยสามวันต่อมา"เป็นแบบนี้นี่เองเลวที่สุด" อิทธิกรนั่งกำมือแน่นหลังจากที่ได้หลักฐานจากนักสืบที่เขาจ้างให้ตามดูก้องเกียรติแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องนี้กิ่งแก้วเป็นคนจัดการสั่งทุกอย่างทั้งหมด"นี่ยังติดต่ออคิณไม่ได้อีกหรือไง" ทศพลเอ่ยข
"ทำไมไม่เอาไว้บ้านแกล่ะ"อคิณเท้าเอวมองหน้าอิทธิกรเขาไม่ได้มีเวลาจะมาดูแลลูกของเขาสักเท่าไรอีกอย่างวันนี้เขาก็ต้องรีบกลับไปที่เกาะด้วย"อ้าว..ก็ลูกพี่"อิทธิกรทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้และเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่ออุ้มเจ้าก้อนทั้งสองอกมาทักทายพ่อตัวเองเสียหน่อย"แอ้..ๆ"เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาใหม่จึงมองหน้ากันทั้งขมวดคิ้วสงสัยด้วยท่าทางน่าเอ็นดู"ไปหาคุณพ่อนะครับน้ำเมย"อิทธิกรส่งน้ำเมยให้อคิณได้อุ้มอย่างปฏิเสธไม่ได้"แอ้..ๆหม่ำๆๆ"เจ้าก้อนเงยหน้ามองคนที่อุ้มก็ยกมือป้อมทั้งสองจิกไปที่ผมของคนเป็นพ่อทั้งหม่ำๆเกร็งปากด้วยความหมั่นเขี้ยว“หิวจนจะหม่ำพ่อเข้าไปแล้วเหรอ”อคิณเห็นท่าทางเช่นนั้นของน้ำเมยเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแกมหยอกพร้อมแสดงน้ำเสียงอ่อนโยนเล่นกับลูกสาวตัวกลมของเขาอย่างไม่รู้ตัวมันเป็นไปเองอัตโนมัติเพราะความน่ารักไร้เดียงสาของลูกสาวของเขานั่นเองท่าทีอคิณตอนนี้ทำเอาอิทธิกรถึงกับมองตาค้างเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายของเขาเล่นเสียงสองแบบนี้มาก่อนแต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็พร้อมจะบอกความจริงเรื่องอุบัติเหตุที่พรากชีวิตแม่ของเขาไปแล้วด้วยหวังว่าพี่ชายของเขาจ
"คุณเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด"อคิณมือไม้สั่นไปหมดที่หญิงสาวทำให้เขาดูเป็นคนโง่หลอกใช้และที่สำคัญเธอไม่ได้รักเขาเหมือนที่เขารักเธอแม้แต่นิด"มาร์คพาเธอส่งตำรวจ"อิทธิกรสั่งให้มารุตพาหญิงสาวไปส่งตำรวจเพราะตอนนี้ก้องเกียรติก็รออยู่ที่นั่นแล้วเหมือนกัน"อย่านะนี่แสดงว่าแกวางแผนไว้ทั้งหมดใช่ไหม...จะบอกอะไรให้นะพวกแกมันโง่ไม่มีทางฉลาดกว่าฉันได้หรอกแม่แกก็สมควรตายอยากจะขัดขวางไม่ให้ฉันแต่งงานกับแกดีนักฉันรู้มานานแล้วว่าแม่แกหมายหมั้นให้อีพัชมันแต่งกับแก..ฉันก็เลยต้องชิงกำจัดแม่พวกแกก่อนไงแล้วแกก็โง่ที่เชื่อว่าทุกอย่างเป็นฝีมืออีพัช...โง่...โง่ฮ่าๆๆ"กิ่งแก้วที่ไม่มีอะไรจะเสียเมื่อถูกจับได้เธอจึงตวาดใส่ทุกคนอย่างคนไร้สติระบายความอัดอั้นที่ถูกเกลียดชังจากดวงสมรเธอเกลียดทุกคนที่ขวางทางเธอไม่ให้คบกับอคิณทั้งโมโหอคิณที่ไปมีลูกกับพัชรินทร์โดยที่เธอไม่รู้เรื่องทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็อยากบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่าอคิณมันโง่ที่สุดและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งสะใจ"ออกไป"อคิณเริ่มหายใจแรงเขาโกรธกิ่งแก้วมากก่อนจะตวาดไล่กิ่งแก้วให้ออกไปให้พ้นๆหน้าเขาในตอนนี้เมื่อกิ่งแก้วไปพ้นตาเขาแล้วชายหนุ่มถึงกับนั่งฟุบกอดเข่าล
สามชั่วโมงต่อมา"พัช"อิทธิกรนั่งรอทั้งสองอยู่จนดึกเมื่อเห็นอคิณประคองพัชรินทร์เดินเข้าบ้านมาเขาก็รีบเข้าไปสวมกอดน้องสาวของเขาทันทีทั้งมองสภาพที่อิดโรยของเธอด้วยสายตาที่เป็นห่วง"พี่กร...ลูกพัชอยู่ไหนคะ"พัชรินทร์รีบถามหาเจ้าแฝดทันทีที่มาถึง“กำลังหลับปุ๋ยเลย”อิทธิกรค่อยๆพาพัชรินทร์เดินไปที่ห้องนอนใกล้ๆกับห้องนั่งเล่นเมื่ออิทธิกรเปิดประตูพัชรินทร์ก็รีบเดินเข้าไปกอดหอมลูกทั้งสองของเธอบนเตียงด้วยน้ำตา“ลูกแม่..”หญิงสาวนั่งมองลูกๆของเธอพักใหญ่ราวกับจงอางหวงไข่ภาพนั้นทำให้ทั้งอิทธิกรและอคิณมองหน้ากันด้วยความหดหู่“พัชพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”อิทธิกรเรียกให้พัชรินทร์มาคุยเรื่องแม่ของเขาข้างนอกเพราะเรื่องนี้น้องของเขาก็ต้องได้รับรู้ด้วยเช่นกัน“อะไรนะคะเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคุณกิ่งเหรอคะ”พัชรินทร์รู้เรื่องที่กิ่งแก้วทำทั้งหมดเธอก็ถึงกับอึ้งจากที่คิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแต่แท้ที่จริงแม่เธอต้องเสียเพราะผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวคนนึงเธอก็ยิ่งเสียใจ“พี่คิณ”อิทธิกรเห็นอคิณเดินเข้ามาเขาก็รีบลุกหมายที่จะเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน"เรากลับบ้านกันเถอะค่ะพี่กร"พัชรินทร์ดึงแขนของอิทธิกรเอาไว้แล
"ต่อไปนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนคุณพิมจะว่าอะไรไหมคะ" พัชรินทร์ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกๆของเธอที่นี่ส่วนอคิณเธอจะไม่เก็บเขามาใส่ใจอีกต่อไปเพราะอยากจะลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว"คุณพัชอยู่ไปเลยค่ะที่นี่ก็คือบ้านคุณพัชนะคะ...แล้วคุณคิณจะตามมาไหมคะเพราะเค้ารู้ว่าลูกของเค้ากับคุณอยู่ที่นี่" พิมพรรณไม่ได้มีปัญหาเลยสักนิดเพราะพัชรินทร์ก็เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเธอไปแล้วโดยเฉพาะตาของเธอคงจะเฉาตายแน่นอนหากเจ้าแฝดไม่อยู่ด้วย"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่อย่าไปสนใจเค้าเลยค่ะ" "เอ่อ.. ค่ะ" พิมพรรณรู้ว่าพัชรินทร์คงเจ็บปวดมากไม่อย่างนั้นคงไม่อยากลืมชื่ออคิณขนาดนี้"ตอนนี้คุณกับพ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้างคะ" พัชรินทร์เปลี่ยนมาถามเรื่องของพิมพรรณและทรงรบเพราะเธออยากจะรู้ว่าทั้งสองคุยกันดีขึ้นบ้างหรือยัง"พูดแล้วก็ปวดหัวไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ.." พิมพรรณกับทรงรบตอนนี้ยังคงกัดกันทุกวันเหมือนเดิมเธอจึงไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องของเธอกับเขาเท่าไร"ของที่ส่งยังเยอะเหมือนเดิมไหมคะ""เยอะกว่าเดิมอีกค่ะ""ดีจังเลย.." สองสาวเดินคุยกันไปชมไร่ในยามเย็นไปพัชรินทร์ยิ้มออกอีก
“หม่ำๆๆ..”“ป้อนลูกสิ”อคิณเห็นพัชรินทร์เอาแต่มองเขาจนทำให้น้ำปายร้องเรียกเขาจึงบอกให้เธอหันไปป้อนลุกแทนที่จะมาจ้องเขาอยู่แบบไม่พูดไม่จาแบบนี้พัชรินทร์รีบตักข้าวป้อนน้ำเมยทันทีที่เธอเริ่มตั้งสติได้ตอนนี้เธอเริ่มอึดอัดขึ้นมาเสียแล้วที่อคิณเข้ามายุ่งกับเธอแต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับเขาสักคำเพราะทำใจไว้แล้วว่าจะไม่สนใจเขาหากเขาทนต่อความเงียบของเธอได้ก็ทนไป“คุณพัช..คุณคิณ”พิมพรรณหายสงสัยแล้วว่าอคิณหายไปไหนแต่เช้านี่คงจะเพราะทรงรบเป็นคนบอกเขาถึงมาที่นี่ถูก“เจ้าแฝดพึ่งทานข้าวอิ่มเดี๋ยวรออาบน้ำแปปนะคะ”พัชรินทร์หันไปยิ้มกับพิมพรรณเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในบ้าน“ค่ะเดี๋ยวพิมช่วยนะคะ”พิมพรรณช่วยอุ้มเจ้าแฝดออกจากโต๊ะทานข้าวในขณะที่พัชรินทร์กำลังเตรียมน้ำอุ่นอยู่“ขอบคุณค่ะ”“นี่เค้ามาทำอะไรเหรอคะ”พิมพรรณเอ่ยกระซิบกับพัชรินทร์เบาๆ“ช่างเค้าเถอะค่ะฉันไม่สนใจ”พัชรินทร์ส่ายหัวเขาจะมาทำอะไรก็ช่างเธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นครู่ต่อมา“อาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวนะคะ..”สองสาวอุ้มเจ้าสองแฝดมานอนบนเตียงและเช็ดตัวทาแป้งเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปส่งให้เริงฤทธิ์ที่ไร่และพวกเธอก็จะได้ลุยงานในไร่ต่อ“
"ผัวหนูพัชน่ะสิ...นี่กำลังสอนให้เลี้ยงลูกอยู่ไม่เป็นอะไรสักอย่างเลย"พัชรินทร์ที่พึ่งจะลงรถเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปในโรงแพ็คของทันทีเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าอคิณ"คุณพัช"พิมพรรณรีบเดินตรามพัชรินทร์ไปอย่างรวดเร็วนึกไม่ถึงว่าอคิณจะกล้าตามพัชรินทร์กับลูกๆมาที่นี่ทั้งที่พัชรินทร์ก็แสดงท่าทีให้เขามองออกว่าไม่ต้องการเขาเริงฤทธิ์เกิดความสงสัยในความเงียบของพัชรินทร์ไหนจะสามีของเธอที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก็พอจะมองออกว่าทั้งค่าคงจะมีเรื่องงอนกันอยู่แน่นอนเขาอายุปูนนี้แล้วพอจะมองออก"มาหาพ่อนะครับ"อคิณถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วฝืนยิ้มหันมาอุ้มลูกของเขาเพื่อที่จะให้เด็กๆได้ดื่มนมที่พึ่งชงเสร็จ"ป้อ.."น้ำเมยเอ่ยออกมาเมื่อคนเป็นพ่ออุ้ม"หา..ว่าไงนะครับ..พ่อ..ลองพูดพ่อสิลูก"อคิณแทบน้ำตาคลอแม้คำพูดของลูกเขาจะไม่ชัดแต่ก็ดีเท่าไรแล้วที่ลูกของเขาเอ่ยเรียกเขาออกมาได้"ป้อ.."น้ำปายที่อยู่บนตักของเริงฤทธิ์เห็นคนพี่พูดก็ลองพูดบ้างทั้งหันมายิ้มหวานให้คนเป็นพ่อแล้วกลับไปนอนดูดนมต่อ"ตื้นตันล่ะสิ...ตอนลูกข้าเรียกพ่อครั้งแรกข้ายังจำมันได้จนถึงทุกวันนี้เลยมันดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ"เริงฤทธิ์เห็นอคิณยื่นมือมาลูบหัวน้ำป
“นี่มันอะไรคะ” พัชรินทร์เก็บของแล้วพาลูกๆของเธอนั่งที่ลานนั่งเล่นในระหว่างที่เธอเตรียมตัวทำอาหารเย็นแต่สายตาก็พลันเห็นกระเป๋าสองสามใบที่ตั้งอยู่หน้าห้องนอนของเธอจึงหันไปถามอคิณด้วยสีหน้าไม่พอใจ“พี่จะมาอยู่ที่นี่ดูแลพัชกับลูกไง” “งานล่ะคะ” พัชรินทร์ไม่เข้าใจว่าเขากล้าทิ้งงานมาได้อย่างไรทั้งที่บริษัทที่เขาบริหารงานอยู่เป็นบริษัทที่ดวงสมรนั้นรักมาก“พี่ให้มาร์คดูแล” ฟึ่บ อคิณหน้าเจื่อนเมื่อหญิงสาวลากกระเป๋าของเขามาวางไว้ที่หน้าบ้าน“งั้นก็ไปอยู่ข้างนอกค่ะ” พัชรินทร์ไม่พอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มทิ้งงานมาแบบนี้แล้วให้คนอื่นรับผิดชอบแทนเพื่อที่จะมาอยู่เฝ้าเธอ“พัช” อคิณเริ่มหน้าเสีย“อยู่ไม่ได้ก็กลับไปค่ะ” พัชรินทร์เอ่ยเสียงแข็งเธออยากให้เขากลับไปสนใจเรื่องงานมากกว่าสนใจเธอเพราะยิ่งเขามาอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งอึดอัดไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด18.00 น.พัชรินทร์เดินถือถาดข้าวผัดผักพร้อมไข่เจียวและน้ำอีกหนึ่งขวดให้อคิณหลังจากเห็นว่าเขายังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน“ขอบคุณนะ” อคิณพอจะมีรอยยิ้มที่เห็นว่าอย่างน้องพัชรินทร์ก็ไม่ได้ใจดำจนไม่สนใจอะไรเขาเลย“ทานเสร็จก็ออกไปได้แล้ว”“ไม่..พี่ไม่ไปไหนทั้งนั