Share

ตอนที่22

"ต่อไปนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนคุณพิมจะว่าอะไรไหมคะ" 

พัชรินทร์ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกๆของเธอที่นี่ส่วนอคิณเธอจะไม่เก็บเขามาใส่ใจอีกต่อไปเพราะอยากจะลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว

"คุณพัชอยู่ไปเลยค่ะที่นี่ก็คือบ้านคุณพัชนะคะ...แล้วคุณคิณจะตามมาไหมคะเพราะเค้ารู้ว่าลูกของเค้ากับคุณอยู่ที่นี่" 

พิมพรรณไม่ได้มีปัญหาเลยสักนิดเพราะพัชรินทร์ก็เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเธอไปแล้วโดยเฉพาะตาของเธอคงจะเฉาตายแน่นอนหากเจ้าแฝดไม่อยู่ด้วย

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่อย่าไปสนใจเค้าเลยค่ะ" 

"เอ่อ.. ค่ะ" 

พิมพรรณรู้ว่าพัชรินทร์คงเจ็บปวดมากไม่อย่างนั้นคงไม่อยากลืมชื่ออคิณขนาดนี้

"ตอนนี้คุณกับพ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้างคะ" 

พัชรินทร์เปลี่ยนมาถามเรื่องของพิมพรรณและทรงรบเพราะเธออยากจะรู้ว่าทั้งสองคุย​กันดีขึ้นบ้างหรือยัง

"พูดแล้วก็ปวดหัวไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ.." 

พิมพรรณกับทรงรบตอนนี้ยังคงกัดกันทุกวันเหมือนเดิมเธอจึงไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องของเธอกับเขาเท่าไร

"ของที่ส่งยังเยอะเหมือนเดิมไหมคะ"

"เยอะกว่าเดิมอีกค่ะ"

"ดีจังเลย.." สองสาวเดินคุยกันไปชมไร่ในยามเย็นไปพัชรินทร์ยิ้มออกอีกครั้งเมื่อเห็นเหล่าสตอเบอรี่ที่ผลิดอกออกผลงามต่อไปนี้เธอจะใส่ใจกับลูกและงานในไร่เท่านั้นเรื่องอื่นเธอจะไม่เก็บมาใส่ใจอีก

อาทิตย์ต่อมา

"ฉันเคลียงานเรียบร้อยแล้วนายก็ดูแลให้ฉันต่อแล้วกันนะมาร์คถ้ามีอะไรด่วนนายก็ไปหาฉันที่ไร่ก็แล้วกัน" 

อคิณเตรียมเคลียปัญหาในหลายๆบริษัทที่ต้องดูแลให้เรียบร้อยแช้วให้มารุตดูแลงานต่อเพราะเขาจะต้องพักงานสักพักและทำหน้าที่ในส่วนที่ตัวเองต้องรับผิดชอบเสียที

"จะไปจริงๆใช่ไหมครับ"

มารุตพึ่งจะเห็นอคิณทิ้งงานครั้งแรกเขาจึงถามเจ้านายของเขาเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"ฉันต้องไปทำหน้าที่ของฉัน"

"ครับโชคดีนะครับบอส"  

มารุตอมยิ้มทั้งเอ่ยอวยพรให้เจ้านายของเขาทำให้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจ

"อืม"

อคิณเอ่ยจบก็รีบกลับบ้านไปเตรียมเก็บของเพื่อที่จะรีบเดินทางไปเชียงใหม่ตามที่นัดไว้กับทรงรบ

เย็นของวัน

ไร่ภิภพ

"ป้านิ่มคะพ่อเลี้ยงไปไหน"   

พิมพรรณกลับมาที่ไร่ภิภพในช่วงเย็นเธอเห็นว่ารถของทรงรบไม่อยู่จึงเดินเข้ามาถามป้านิ่มแม่บ้านที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว

"เห็นว่าจะไปรับเพื่อนที่สนามบินค่ะคุณพิม"

"เพื่อนเหรอคะ...ไม่เห็นบอกก่อนเลย" 

พิมพรรณขมวดคิ้วสงสัย

"อ้าวนั่นไงมาถึงกันแล้วค่ะ" 

ป้านิ่มมองผ่านบานเลื่อนเห็นรถของทรงรบขับเข้ามาพอดีจึงชี้ให้พิมพรรณได้ดู

"คุณคิณ" 

พิมพรรณเดินออกมาหน้าบ้านเห็นอคิรลงรถมาเธอชะงักฝีเท้าทันทีด้วยความตกใจ

"ไงคุณพิม" 

อคิณทักทายพิมพรรณด้วยรอยยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเธอน่าจะตกใจเพราะทรงรบได้บอกว่ามีเขาเป็นเพื่อน

"นี่เพื่อนผมเอง" 

ทรงรบก็พึ่งจะรู้เรื่องเมื่อครู่เองว่าพิมพรรณเคยทำงานให้กับเพื่อนของเขา

"ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ" 

"ผมต้องบอกทุกอย่างไหมครับคุณเมียว่าเป็นเพื่อนกับใครบ้าง" 

"อย่ามากวนประสาทฉันนะ" 

พิมพรรณมองค้อนทรงรบไปหนึ่งยก

"คุณมาที่นี่ทำไมคะคุณคิณ"  

พิมพรรณหันไปถามอคิณถึงธุระที่เขาต้องมาที่นี่

"ผมก็ต้องมาทำหน้าที่ของผม" 

อคิณมีแค่คำตอบเดียวเขาอยากมาดูแลพัชรินทร์ละลูกๆ

"คิณมันจะมาดูแลลูกเมียมันไง" 

ทรงรบเอ่ยเสริม

"คุณแน่ใจเหรอคะว่าพวกเค้าจะยอมให้คุณดูแล" 

พิมพรรณที่ยังเคืองๆในการกระทำของอคิณที่ทำร้ายพัชรินทร์จนเกินเหตุเลยเอ่ยออกไปห้วนๆ

"ผมรู้แต่ผมก็อยากดูแลพวกเค้า"

"คุณก็ช่วยเค้าหน่อยสิ"

ทรงรบอยากให้พิมพรรณช่วยอคิณเพราะเห็นว่าเพื่อนของเขาท่าจะรู้สึกผิดจริง

"ช่วยตัวเองแล้วกันค่ะเรื่องนี้ฉันไม่ยุ่ง...ถ้าฉันไม่เห็นว่าคุณเป็นพ่อเจ้าแฝดฉันไล่คุณกลับไปแล้วค่ะ"

พิมพรรณยืนกอดอกต่อหน้าอคิณเธอพูดตรงไปตรงมาหากเธอไม่เห็นว่าเขาเป็นพ่อของเจ้าแฝดล่ะก็เธอม่ายอมให้เขามายุ่งกับพัชรินทร์เด็ดขาดแม้จะสำนึกผิดแล้วก็ตาม

"ผมเข้าใจ...ไม่ยินดีไม่กีดกันก็พอ"

"เมียฉันก็ชอบกัดคนอื่นไปเรื่อยแบบนี้แหละแกอย่าใส่ใจเลยคิณ"

ทรงรบตบบ่าอคิณเบาๆเขาไม่ได้เข้าข้างอคิณซะทีเดียวเมื่อรู้ถึงการกระทำของเพื่อนเพียงแค่อยากหยอกแกล้งพิมพรรณเท่านั้น

"นี่คุณฉันไม่ใช่หมานะ..."

พิมพรรณชี้หน้าทรงรบและหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปทันทีหากเขาอยากเข้าข้างเพื่อนเขานักก็อยู่ด้วยกันไปเลย

วันต่อมา

เช้าตรู่แบบนี้พัชรินทร์จับเจ้าแฝดทั้งสองนั่งในเก้าอี้ทานข้าวของเด็กเพื่อที่จะป้อนข้าวเช้าก่อนที่จะอาบน้ำแล้วเข้าไปในไร่

“คุณแม่...แม่...ลองเรียกสิคะ”

พัชรินทร์สอนให้ลูกๆของเธอทั้งสองหัดเรียกแม่เพราะลูกๆของเธอเริ่มที่จะออกเสียงตามแล้ว

“ม่ะ..ม่ะ”

เจ้าก้อนทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อมกันแม้จะไม่ใช่คำที่ชัดเจนแต่นั่นก็ทำให้พัชรินทร์ยิ้มไม่หุบ

“เก่งจังเลยลูกนี่รางวัลนะคะ”

“อื้มมม..”

หญิงสาวตักข้าวบดผสมฟักทองใส่ปากน้ำเมยคนพี่คำโตเด็กหญิงอ้าปากรับพร้อมเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย

“หม่ำๆๆ..”

น้ำปายเห็นคนพี่ได้เคี้ยวข้าวไปแล้วก็ยกมือป้อมกำต่อหน้าแม่ทั้งรีบเอ่ยคำขอ

“ใจเย็นๆนะคะ”

พัชรินทร์ส่ายหัวเบาๆเธอมีมือเดียวคงจะป้อนพร้อมกันไม่ได้เลยต้องให้ลูกของเธอนั้นใจเย็นๆ

อคิณยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูบ้านที่ทั้งสามกำลังง่วนกับการทานข้าวเช้ากันอยู่เขาเอ็นดูความทานเก่งของลูกทั้งสองของเขาเหลือเกินที่ทำเอาคนเป็นแม่ป้อนไม่ทันเสียแล้ว

“พี่ช่วย”

อคิณรีบเดินเข้าไปหยิบถ้วยข้าวของน้ำปายไว้ในมือและนั่งลงป้อนลูกสาวของเขา พัชรินทร์เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนหน้าเจื่อนเธอคิดว่าอคิณจะไม่มายุ่งกับเธอแล้วเสียอีก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status