"ต่อไปนี้ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนคุณพิมจะว่าอะไรไหมคะ"
พัชรินทร์ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกๆของเธอที่นี่ส่วนอคิณเธอจะไม่เก็บเขามาใส่ใจอีกต่อไปเพราะอยากจะลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว
"คุณพัชอยู่ไปเลยค่ะที่นี่ก็คือบ้านคุณพัชนะคะ...แล้วคุณคิณจะตามมาไหมคะเพราะเค้ารู้ว่าลูกของเค้ากับคุณอยู่ที่นี่"
พิมพรรณไม่ได้มีปัญหาเลยสักนิดเพราะพัชรินทร์ก็เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเธอไปแล้วโดยเฉพาะตาของเธอคงจะเฉาตายแน่นอนหากเจ้าแฝดไม่อยู่ด้วย
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแต่อย่าไปสนใจเค้าเลยค่ะ"
"เอ่อ.. ค่ะ"
พิมพรรณรู้ว่าพัชรินทร์คงเจ็บปวดมากไม่อย่างนั้นคงไม่อยากลืมชื่ออคิณขนาดนี้
"ตอนนี้คุณกับพ่อเลี้ยงเป็นยังไงบ้างคะ"
พัชรินทร์เปลี่ยนมาถามเรื่องของพิมพรรณและทรงรบเพราะเธออยากจะรู้ว่าทั้งสองคุยกันดีขึ้นบ้างหรือยัง
"พูดแล้วก็ปวดหัวไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ.."
พิมพรรณกับทรงรบตอนนี้ยังคงกัดกันทุกวันเหมือนเดิมเธอจึงไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องของเธอกับเขาเท่าไร
"ของที่ส่งยังเยอะเหมือนเดิมไหมคะ"
"เยอะกว่าเดิมอีกค่ะ"
"ดีจังเลย.." สองสาวเดินคุยกันไปชมไร่ในยามเย็นไปพัชรินทร์ยิ้มออกอีกครั้งเมื่อเห็นเหล่าสตอเบอรี่ที่ผลิดอกออกผลงามต่อไปนี้เธอจะใส่ใจกับลูกและงานในไร่เท่านั้นเรื่องอื่นเธอจะไม่เก็บมาใส่ใจอีก
อาทิตย์ต่อมา
"ฉันเคลียงานเรียบร้อยแล้วนายก็ดูแลให้ฉันต่อแล้วกันนะมาร์คถ้ามีอะไรด่วนนายก็ไปหาฉันที่ไร่ก็แล้วกัน"
อคิณเตรียมเคลียปัญหาในหลายๆบริษัทที่ต้องดูแลให้เรียบร้อยแช้วให้มารุตดูแลงานต่อเพราะเขาจะต้องพักงานสักพักและทำหน้าที่ในส่วนที่ตัวเองต้องรับผิดชอบเสียที
"จะไปจริงๆใช่ไหมครับ"
มารุตพึ่งจะเห็นอคิณทิ้งงานครั้งแรกเขาจึงถามเจ้านายของเขาเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"ฉันต้องไปทำหน้าที่ของฉัน"
"ครับโชคดีนะครับบอส"
มารุตอมยิ้มทั้งเอ่ยอวยพรให้เจ้านายของเขาทำให้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจ
"อืม"
อคิณเอ่ยจบก็รีบกลับบ้านไปเตรียมเก็บของเพื่อที่จะรีบเดินทางไปเชียงใหม่ตามที่นัดไว้กับทรงรบ
เย็นของวัน
ไร่ภิภพ
"ป้านิ่มคะพ่อเลี้ยงไปไหน"
พิมพรรณกลับมาที่ไร่ภิภพในช่วงเย็นเธอเห็นว่ารถของทรงรบไม่อยู่จึงเดินเข้ามาถามป้านิ่มแม่บ้านที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว
"เห็นว่าจะไปรับเพื่อนที่สนามบินค่ะคุณพิม"
"เพื่อนเหรอคะ...ไม่เห็นบอกก่อนเลย"
พิมพรรณขมวดคิ้วสงสัย
"อ้าวนั่นไงมาถึงกันแล้วค่ะ"
ป้านิ่มมองผ่านบานเลื่อนเห็นรถของทรงรบขับเข้ามาพอดีจึงชี้ให้พิมพรรณได้ดู
"คุณคิณ"
พิมพรรณเดินออกมาหน้าบ้านเห็นอคิรลงรถมาเธอชะงักฝีเท้าทันทีด้วยความตกใจ
"ไงคุณพิม"
อคิณทักทายพิมพรรณด้วยรอยยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเธอน่าจะตกใจเพราะทรงรบได้บอกว่ามีเขาเป็นเพื่อน
"นี่เพื่อนผมเอง"
ทรงรบก็พึ่งจะรู้เรื่องเมื่อครู่เองว่าพิมพรรณเคยทำงานให้กับเพื่อนของเขา
"ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ"
"ผมต้องบอกทุกอย่างไหมครับคุณเมียว่าเป็นเพื่อนกับใครบ้าง"
"อย่ามากวนประสาทฉันนะ"
พิมพรรณมองค้อนทรงรบไปหนึ่งยก
"คุณมาที่นี่ทำไมคะคุณคิณ"
พิมพรรณหันไปถามอคิณถึงธุระที่เขาต้องมาที่นี่
"ผมก็ต้องมาทำหน้าที่ของผม"
อคิณมีแค่คำตอบเดียวเขาอยากมาดูแลพัชรินทร์ละลูกๆ
"คิณมันจะมาดูแลลูกเมียมันไง"
ทรงรบเอ่ยเสริม
"คุณแน่ใจเหรอคะว่าพวกเค้าจะยอมให้คุณดูแล"
พิมพรรณที่ยังเคืองๆในการกระทำของอคิณที่ทำร้ายพัชรินทร์จนเกินเหตุเลยเอ่ยออกไปห้วนๆ
"ผมรู้แต่ผมก็อยากดูแลพวกเค้า"
"คุณก็ช่วยเค้าหน่อยสิ"
ทรงรบอยากให้พิมพรรณช่วยอคิณเพราะเห็นว่าเพื่อนของเขาท่าจะรู้สึกผิดจริง
"ช่วยตัวเองแล้วกันค่ะเรื่องนี้ฉันไม่ยุ่ง...ถ้าฉันไม่เห็นว่าคุณเป็นพ่อเจ้าแฝดฉันไล่คุณกลับไปแล้วค่ะ"
พิมพรรณยืนกอดอกต่อหน้าอคิณเธอพูดตรงไปตรงมาหากเธอไม่เห็นว่าเขาเป็นพ่อของเจ้าแฝดล่ะก็เธอม่ายอมให้เขามายุ่งกับพัชรินทร์เด็ดขาดแม้จะสำนึกผิดแล้วก็ตาม
"ผมเข้าใจ...ไม่ยินดีไม่กีดกันก็พอ"
"เมียฉันก็ชอบกัดคนอื่นไปเรื่อยแบบนี้แหละแกอย่าใส่ใจเลยคิณ"
ทรงรบตบบ่าอคิณเบาๆเขาไม่ได้เข้าข้างอคิณซะทีเดียวเมื่อรู้ถึงการกระทำของเพื่อนเพียงแค่อยากหยอกแกล้งพิมพรรณเท่านั้น
"นี่คุณฉันไม่ใช่หมานะ..."
พิมพรรณชี้หน้าทรงรบและหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปทันทีหากเขาอยากเข้าข้างเพื่อนเขานักก็อยู่ด้วยกันไปเลย
วันต่อมา
เช้าตรู่แบบนี้พัชรินทร์จับเจ้าแฝดทั้งสองนั่งในเก้าอี้ทานข้าวของเด็กเพื่อที่จะป้อนข้าวเช้าก่อนที่จะอาบน้ำแล้วเข้าไปในไร่
“คุณแม่...แม่...ลองเรียกสิคะ”
พัชรินทร์สอนให้ลูกๆของเธอทั้งสองหัดเรียกแม่เพราะลูกๆของเธอเริ่มที่จะออกเสียงตามแล้ว
“ม่ะ..ม่ะ”
เจ้าก้อนทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อมกันแม้จะไม่ใช่คำที่ชัดเจนแต่นั่นก็ทำให้พัชรินทร์ยิ้มไม่หุบ
“เก่งจังเลยลูกนี่รางวัลนะคะ”
“อื้มมม..”
หญิงสาวตักข้าวบดผสมฟักทองใส่ปากน้ำเมยคนพี่คำโตเด็กหญิงอ้าปากรับพร้อมเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย
“หม่ำๆๆ..”
น้ำปายเห็นคนพี่ได้เคี้ยวข้าวไปแล้วก็ยกมือป้อมกำต่อหน้าแม่ทั้งรีบเอ่ยคำขอ
“ใจเย็นๆนะคะ”
พัชรินทร์ส่ายหัวเบาๆเธอมีมือเดียวคงจะป้อนพร้อมกันไม่ได้เลยต้องให้ลูกของเธอนั้นใจเย็นๆ
อคิณยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตูบ้านที่ทั้งสามกำลังง่วนกับการทานข้าวเช้ากันอยู่เขาเอ็นดูความทานเก่งของลูกทั้งสองของเขาเหลือเกินที่ทำเอาคนเป็นแม่ป้อนไม่ทันเสียแล้ว
“พี่ช่วย”
อคิณรีบเดินเข้าไปหยิบถ้วยข้าวของน้ำปายไว้ในมือและนั่งลงป้อนลูกสาวของเขา พัชรินทร์เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนหน้าเจื่อนเธอคิดว่าอคิณจะไม่มายุ่งกับเธอแล้วเสียอีก
“หม่ำๆๆ..”“ป้อนลูกสิ”อคิณเห็นพัชรินทร์เอาแต่มองเขาจนทำให้น้ำปายร้องเรียกเขาจึงบอกให้เธอหันไปป้อนลุกแทนที่จะมาจ้องเขาอยู่แบบไม่พูดไม่จาแบบนี้พัชรินทร์รีบตักข้าวป้อนน้ำเมยทันทีที่เธอเริ่มตั้งสติได้ตอนนี้เธอเริ่มอึดอัดขึ้นมาเสียแล้วที่อคิณเข้ามายุ่งกับเธอแต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับเขาสักคำเพราะทำใจไว้แล้วว่าจะไม่สนใจเขาหากเขาทนต่อความเงียบของเธอได้ก็ทนไป“คุณพัช..คุณคิณ”พิมพรรณหายสงสัยแล้วว่าอคิณหายไปไหนแต่เช้านี่คงจะเพราะทรงรบเป็นคนบอกเขาถึงมาที่นี่ถูก“เจ้าแฝดพึ่งทานข้าวอิ่มเดี๋ยวรออาบน้ำแปปนะคะ”พัชรินทร์หันไปยิ้มกับพิมพรรณเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในบ้าน“ค่ะเดี๋ยวพิมช่วยนะคะ”พิมพรรณช่วยอุ้มเจ้าแฝดออกจากโต๊ะทานข้าวในขณะที่พัชรินทร์กำลังเตรียมน้ำอุ่นอยู่“ขอบคุณค่ะ”“นี่เค้ามาทำอะไรเหรอคะ”พิมพรรณเอ่ยกระซิบกับพัชรินทร์เบาๆ“ช่างเค้าเถอะค่ะฉันไม่สนใจ”พัชรินทร์ส่ายหัวเขาจะมาทำอะไรก็ช่างเธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นครู่ต่อมา“อาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวนะคะ..”สองสาวอุ้มเจ้าสองแฝดมานอนบนเตียงและเช็ดตัวทาแป้งเพื่อที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปส่งให้เริงฤทธิ์ที่ไร่และพวกเธอก็จะได้ลุยงานในไร่ต่อ“
"ผัวหนูพัชน่ะสิ...นี่กำลังสอนให้เลี้ยงลูกอยู่ไม่เป็นอะไรสักอย่างเลย"พัชรินทร์ที่พึ่งจะลงรถเห็นเช่นนั้นจึงเดินเข้าไปในโรงแพ็คของทันทีเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าอคิณ"คุณพัช"พิมพรรณรีบเดินตรามพัชรินทร์ไปอย่างรวดเร็วนึกไม่ถึงว่าอคิณจะกล้าตามพัชรินทร์กับลูกๆมาที่นี่ทั้งที่พัชรินทร์ก็แสดงท่าทีให้เขามองออกว่าไม่ต้องการเขาเริงฤทธิ์เกิดความสงสัยในความเงียบของพัชรินทร์ไหนจะสามีของเธอที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก็พอจะมองออกว่าทั้งค่าคงจะมีเรื่องงอนกันอยู่แน่นอนเขาอายุปูนนี้แล้วพอจะมองออก"มาหาพ่อนะครับ"อคิณถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วฝืนยิ้มหันมาอุ้มลูกของเขาเพื่อที่จะให้เด็กๆได้ดื่มนมที่พึ่งชงเสร็จ"ป้อ.."น้ำเมยเอ่ยออกมาเมื่อคนเป็นพ่ออุ้ม"หา..ว่าไงนะครับ..พ่อ..ลองพูดพ่อสิลูก"อคิณแทบน้ำตาคลอแม้คำพูดของลูกเขาจะไม่ชัดแต่ก็ดีเท่าไรแล้วที่ลูกของเขาเอ่ยเรียกเขาออกมาได้"ป้อ.."น้ำปายที่อยู่บนตักของเริงฤทธิ์เห็นคนพี่พูดก็ลองพูดบ้างทั้งหันมายิ้มหวานให้คนเป็นพ่อแล้วกลับไปนอนดูดนมต่อ"ตื้นตันล่ะสิ...ตอนลูกข้าเรียกพ่อครั้งแรกข้ายังจำมันได้จนถึงทุกวันนี้เลยมันดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ"เริงฤทธิ์เห็นอคิณยื่นมือมาลูบหัวน้ำป
“นี่มันอะไรคะ” พัชรินทร์เก็บของแล้วพาลูกๆของเธอนั่งที่ลานนั่งเล่นในระหว่างที่เธอเตรียมตัวทำอาหารเย็นแต่สายตาก็พลันเห็นกระเป๋าสองสามใบที่ตั้งอยู่หน้าห้องนอนของเธอจึงหันไปถามอคิณด้วยสีหน้าไม่พอใจ“พี่จะมาอยู่ที่นี่ดูแลพัชกับลูกไง” “งานล่ะคะ” พัชรินทร์ไม่เข้าใจว่าเขากล้าทิ้งงานมาได้อย่างไรทั้งที่บริษัทที่เขาบริหารงานอยู่เป็นบริษัทที่ดวงสมรนั้นรักมาก“พี่ให้มาร์คดูแล” ฟึ่บ อคิณหน้าเจื่อนเมื่อหญิงสาวลากกระเป๋าของเขามาวางไว้ที่หน้าบ้าน“งั้นก็ไปอยู่ข้างนอกค่ะ” พัชรินทร์ไม่พอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มทิ้งงานมาแบบนี้แล้วให้คนอื่นรับผิดชอบแทนเพื่อที่จะมาอยู่เฝ้าเธอ“พัช” อคิณเริ่มหน้าเสีย“อยู่ไม่ได้ก็กลับไปค่ะ” พัชรินทร์เอ่ยเสียงแข็งเธออยากให้เขากลับไปสนใจเรื่องงานมากกว่าสนใจเธอเพราะยิ่งเขามาอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งอึดอัดไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด18.00 น.พัชรินทร์เดินถือถาดข้าวผัดผักพร้อมไข่เจียวและน้ำอีกหนึ่งขวดให้อคิณหลังจากเห็นว่าเขายังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน“ขอบคุณนะ” อคิณพอจะมีรอยยิ้มที่เห็นว่าอย่างน้องพัชรินทร์ก็ไม่ได้ใจดำจนไม่สนใจอะไรเขาเลย“ทานเสร็จก็ออกไปได้แล้ว”“ไม่..พี่ไม่ไปไหนทั้งนั
14.00 น.“คุณพัชคะถ้าเราจะซื้อของขวัญให้ผู้ชายเราจะซื้ออะไรดีคะ” พิมพรรณเอ่ยถามพัชรินทร์เพื่อขอความเห็นในขณะที่ทั้งคู่กำลังเตรียมแพ็คสตอเบอรี่“ของขวัญวันเกิดพ่อเลี้ยงเหรอคะ” พัชรินทร์ยิ้มอ่อน“ก็..ค่ะ” พิมพรรณมีสีหน้าเขินเล็กน้อยเธอกะจะไม่ให้คนอื่นรู้ว่าจะซื้อของให้ทรงรบแต่ก็ถูกจับได้“พ่อเลี้ยงชอบอะไรเป็นพิเศษล่ะคะ” “เอ่อ..ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ” พิมพรรณเดาไม่ออกเลยว่าทรงรบนั้นชอบอะไร“อืม..ลองหาเป็นของใช้ส่วนตัวของเค้าดูไหมคะ” “ฉันจะลองหาซื้อดูนะคะ” พิมพรรณคิดหนักของใช้ส่วนตัวของผู้ชายก็ไม่ใช่แค่อย่างสองอย่างเธอจึงคิดไม่ตก“ค่ะ” พัชรินทร์คงให้ความเห็นได้เท่านี้เพราะเธอเองก็ชอบให้เป็นของใช้ส่วนตัวกับอิทธิกรและอคิณในวันเกิดของพวกเขาเช่นกันอิทธิกรนั้นชอบของที่เธอให้ทุกครั้งแต่เธอไม่รู้เหมือนกันว่าอคิณจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าเพราะเธอไม่ได้ให้ด้วยตัวเองเลยสักครั้งแถมเจ้าของวันเกิดก็ยังไม่เคยรู้ด้วยว่าเป็นของๆเธอเย็นของวัน“พี่เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ลูกแล้วป้อนข้าวเสร็จก็พาอาบน้ำได้เลย” เมื่อกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นในขณะที่พัชรินทร์กำลังป้อนข้าวลูกๆของเขาอคิณก็รีบเตรียมน้ำอุ่นเพื่อเอาไว้อา
ก๊อกๆๆ“เป็นยังไงบ้างคะคุณพิมอยู่โรงพยาบาลแล้วใช่ไหมคะ” ตั้งแต่อคิณออกไปพัชรินทร์ก็หลับไม่ลงเพราะเป็นห่วงตรีรัตน์เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงรีบเปิดอย่างรวดเร็ว“คุณพิมอยู่กับทรงรบตอนนี้แตงกวาคลอดเองไมได้หมอต้องผ่า” “อะไรนะคะ..จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย” พัชรินทร์หน้าเสียจนอีกฝ่ายเห็นได้ชัดเพราะรู้ว่าตรีรัตน์คงต้องเจ็บปวดมากแน่นอน แววตาอคิณไหววูบเล็กน้อยเขาดึงตัวพัชรินทร์เข้ามากอดเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกสงสารเธอ“เอ่อ..ปล่อยค่ะ” พัชรินทร์รีบผลักอคิณออกจากตัวของเธออย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่มีผลเขายังคงกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย“ตอนนั้นพัชคงทรมานมากสินะ” อคิณเอ่ยเสียงอ่อนเขาพรมจูบกระหม่อมร่างบางเบาๆ“ปล่อยค่ะพัชจะเข้าไปนอนแล้ว” พัชรินทร์อาศัยจังหวะที่อคิณเผลอผลักเขาออกและรีบเข้าห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว อคิณยืนมองตามหลังหญิงสาวเมื่อเธอเข้าห้องไปแล้วเขาก็ปิดประตูบ้านเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวโรงพยาบาล“เจ้าแฝดล่ะ” พิมพรรณเห็นพัชรินทร์เดินเข้ามาพร้อมกับอคิณจึงมองหาเจ้าสองแฝด“อยู่กับตาไม่ยอมให้เอามาด้วย”“หวงเหลือเกินนะ...มาดูหลานสิ” พิมพรรณบุ้ยปากเบาๆที่ตาของเธอดูหวงเหลนทั้งสองเสียเหลือเกินท
“ไม่ลืมอยู่แล้วนัดร้านอาหารหรูแบบนั้นลาบปากฉันเลย” พิมพรรณพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป“หึ่..ยัยบ๊องเอ้ย” ทรงรบส่ายหัวเบาๆพร้อมหยิบสร้อยเพชรขึ้นมาดูเขาจะใช้สิ่งนี้บอกความรู้สึกกับเธอในวันนี้เพราะเบื่อเต็มทนที่จะให้เธอตั้งแง่กลัวว่าเขาจะหาเรื่องแกล้งเธอไม่เว้นแต่ละวันเย็นของวัน หลังจากที่พิมพรรณช่วยพัชรินทร์แพ็คของเสร็จเธอก็รีบขับรถบึ่งมาที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองและเลือกซื้อของขวัญให้กับทรงรบ"อันนี้แหละคุณน่าจะชอบนะพ่อเลี้ยง"พิมพรรณเลือกกระเป๋าสตางค์หนังแบรนด์ดังของผู้ชายให้ทรงรบเพราะแห็นของเก่าของเขามันดูไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วและหวังว่าเขาน่าจะชอบครืด กึกๆ เมื่อขับรถออกจากห้างสรรพสินค้ามาได้พักใหญ่มุ่งหน้าจะไปที่ร้านอาหารตามที่ทรงรบนัดแต่รถกระบะเจ้ากรรมของเธอก็ดันมากระตุกสองสามทีแล้วดับลงข้างทางในเวลาที่เธอกำลังรีบๆเสียอย่างนั้น"เอ้า...มาเสียอะไรตอนนี้เนี่ยจะถึงเวลานัดแล้วด้วยสิมือถือก็ดันมาแบตหมดอีก...เฮ้อ" พิมพรรณรีบหยิบมือถือของเธอขึ้นมาดูปรากฏว่าเครื่องก็ดับสนิทเพราะเธอลืมชาร์จแบตตอนนี้ก็ได้แต่รีบออกจากรถแล้วโบกรถที่สัญจรไปมาให้ช่วยครึ่งชั่วโมงต่อมา“นั่นไง” และ
"ใครสั่งให้คุณเลือกฉันเป็นเมียล่ะ...ใครสั่งให้เลือกคนที่ไม่ได้รักกันมาเป็นคู่ชีวิตล่ะ." พิมพรรณอ้าปากค้างเขาแม้ไม่ฟังเธออธิบายแล้วยังมาโทษให้เรื่องทุกอย่างเป็นความผิดของเธออีกในเมื่อเขาเป็นคนสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมาเอง“..อื้มม.” ทรงรบใช้มือหนาทั้งสองบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้และก้มลงมาบดจูบเธอพักใหญ่จนหนำใจเพี๊ยะ ...พิมพรรณพ้นพันธนาการได้เธอก็รีบปาดน้ำตาแล้วยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าทรงรบเพื่อเรียกสติในขณะที่เขาทำกับเธอในสิ่งที่ไม่ควรทำ"หึ่.." ทรงรบยืนกัดฟันกรอดที่เห็นท่าทีรังเกียจเขาจากเธอเขานั่งดื่มย้อมใจต่อคราแรกหวังว่าหลังแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะดีขึ้นแต่ไม่เลยมันเหมือนเดิมและพอมาวันนี้มันกลับดูว่าเขาและเธอมีปัญหากันหนักขึ้นไปอีกวันต่อมา“ฉันจะไปช่วยดูแลแตงกวาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นอาทิตย์” พิมพรรณเก็บกระเป๋าออกจากห้องมาในช่วงเช้าเธอเอ่ยบอกทรงรบที่กำลังนั่งดื่มกาแฟโดยที่ไม่มองหน้าของเขาและเดินออกไปขึ้นรถของภูผาที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้านทรงรบมองตามหลังพิมพรรณอย่างไม่พอใจในเพราะไม่ยอมบอกเขาก่อนว่าจะไปดูแลตรีรัตน์ด้วยตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้มาว่าคนที่ไร่เริงฤทธิ์จ
“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน” พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน“ไม่ปล่อย”“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ“ใช่ผมมันบ้า” เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งพลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป“ว้ายยย” ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ไ