“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน”
พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน
“ไม่ปล่อย”
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย”
พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
“ใช่ผมมันบ้า”
เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่ง
พลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป
“ว้ายยย”
ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์
“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด”
ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ
“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ”
หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล
“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ได้นะ”
พิมพรรณสะบัดหน้าหนีทั้งจ้องหน้าทรงรบอย่างไม่พอใจตอนนี้เธอทั้งโกรธทั้งกลัวไม่คิดว่าเขาจะกล้าล่วงเกินเธอทั้งที่เธอไม่ยอม
“พูดผิดพูดใหม่ได้นะผมแต่งงานกับคุณแล้วจะทำอะไรคุณก็ได้แบบนี้สิถึงจะถูก”
“อื้อ”
ชายหนุ่มพูดจบก็บดจูบหญิงสาวต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
เพล้งง
“โอ้ยย..”
พิมพรรณเอื้อมมือหยิบโคมไฟที่ตั้งอยู่ใกล้ๆมือยกฟาดไปที่หัวของทรงรบจนเขาล้มลงแล้วเธอจึงรีบวิ่งหนีเขาออกไป
“จะไปไหน”
ทรงรบลุกขึ้นวิ่งตามไปรวบตัวหญิงสาวกลับมาได้อย่างรวดเร็วและเหวี่ยงเธอลงบนเตียง
“อ๊ายยย...ปล่อยนะไอ้บ้าเมาก็ไปนอนไป๊”
พิมพรรณพยายามผลักคนตัวโตที่พยายามจะล่วงเกินเธอบนเตียงให้เขานั้นลุกออกไปตอนนี้เธอเริ่มน้ำตาคลอเพราะความกลัวการกระทำของชายหนุ่ม
แคว้กก
“อ๊ายยย..”
พิมพรรณรีบยกมือมาปิดหน้าอกของเธออย่างรวดเร็วเมื่อคนที่กำลังบ้าคลั่งฉีกเสื้อของเธอจนเผยให้เห็นบราสีหวานและเนินอกตูมของเธอที่ไม่มีใครเคยได้เห็น
“ปล่อยยย...”
ทรงรบพยายามดึงแขนทั้งสองของหญิงสาวออกจากการปกปิดของสงวนของเธอเพราะวันนี้ยังไงเนื้อตัวของเธอก็ต้องถูกเขาสัมผัสทุกส่วน
ปึ้กก หมัดของชายหนุ่มกระแทกลงไปที่หน้าท้องของหญิงสาวที่กำลังดิ้นต่อต้านจนเธอแน่นิ่ง
“อ้ะ...อืม..ล..เลว”
หญิงสาวน้ำตาไหลพรากทั้งจุกและเจ็บจนแทบหายใจไม่ได้
“ทีนี้ก็ไม่มีปัญญาหนีผมแล้ว”
ทรงรบถอดเสื้อผ้าของเขาและหญิงสาวออกจนหมดตอนนี้ทังสองอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยกันโดยที่หญิงสาวไม่ได้เต็มใจเพียงแค่เธอขัดขืนอะไรไม่ได้ทรงรบซุกไซร้ซอกคอระหงที่นอนสะอื้นตัวอ่อนปวกเปียกไล่ลงมาที่เนินอกตูมของเธออย่าสบายอารมณ์
“ฉัน..จะแจ้งความ..อืม”
พิมพรรณกัดฟันพูดเสียงอ่อนด้วยน้ำตา
“เอาสิไปบอกให้เค้ารู้ทั้งโรงพักเลยว่าผมทำอะไรกับ เมีย ตัวเอง”
ทรงรบรีบก้มกระซิบข้างหูของเธอด้วยเสียงแหบพร่าและยกยิ้มเล็กน้อย
“อย่านะ..อ๊ายยยย..ฮือๆๆ”
พิมพรรณรู้สึกว่าช่วงล่างของเธอกำลังถูกลุกล้ำจึงรีบห้ามปามคนที่กำลังไม่มีสติแต่ก็สายไปชายหนุ่มสอดแท่งร้อนของเขาบดเบียดเข้าช่องทางรักของเธอไร้ปราณีจนหญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บและสะอึกสะอื้นตัวโยน
“อืม..”
ทรงรบกดแช่ตัวตนของเขาไว้ครู่หนึ่งเพาะช่องทางรักของเธอมันบีบรัดตัวตนของเขาจนปวดหนึบไปหมด
“หึ่..”
เมื่อก้มดูส่วนเชื่อมต่อระหว่างเขากับเธอทำเอาชายหนุ่มต้องยกยิ้มเพราะเขาเห็นหยดเลือดของเธอชโลมแก่นกายของเขาจนเป็นสีแดงเถือกผ่านแสงสลัวจากไฟที่ผ่านม่านเข้ามาจากข้างนอกเขาพอใจไม่น้อยที่เขานั้นเป็นคนแรกของเธอ
“ฉันเจ็บ..ฮึก..ฮือๆๆๆ..พอได้แล้ว”
คนตัวโตโหมกระหน่ำบทรักอย่างรุนแรงจนหญิงสาวตัวโยนเธอร้องขอความปราณีจากเขาด้วยเสียงสะอื้นแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะหยุดเธอยอมรับว่าเธอประมาทเขาจนเกินไปคิดว่าเขาจะให้เกียรติเธอแต่ไม่เลย
ร่วมค่อนคืนกว่าทรงรบจึงจะปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระแต่กว่าเขาจะปล่อยเธอก็เล่นเอาร่างบางสลบเหมือดคาเตียงและก็ไม่พ้นเขาที่ต้องมานั่งดูแลเธอ
วันต่อมา
“..ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิม...”
ทรงรบพรมจูบร่างบางที่นอนหลับใหลไม่รู้สึกตัวอยู่ในช่วงเช้าก่อนที่เขาจะออกไปอำเภอ
09.00 น.
“อืม..”
พิมพรรณตื่นขึ้นมาในช่วงสายเธอปวดเมื่อยไปทั้งตัวและส่วนที่เจ็บที่สุดน่าจะเป็นกึ่งกลางร่างกายของเธอทำเอาขยับทีถึงกับหน้าเหยเกทีเธอมองไปรอบๆห้องปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เมื่อหันไปเห็นโพสอิทที่โต๊ะข้างเตียงเธอเห็นข้อความจากทรงรบว่าเขาต้องรีบไปประชุมที่อำเภอและให้เธอนอนพักไม่ต้องไปทำงานที่ไร่เพราะเขาส่งคนไปทำแทนแล้วจึงกำแผ่นโพสอิทแน่นและปามันทิ้งลงกับพื้น
“ฮึก..ฮือๆๆๆ..”
พิมพรรณร้องให้ออกมาจนตัวโยนเมื่อก้มดูตามเนื้อตัวก็มีแต่ร่องรอยการกระทำของทรงรบเมื่อคืนยิ่งมองเธอก็ยิ่งเจ็บใจที่เขาย่ำยีเธอได้ทั้งที่เธอไม่เต็มใจเลยสักนิด
“อืม..”
หญิงสาวพยุงตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกายเธอนั่งแช่ในอ่างน้ำร่วมชั่วโมงเพื่อต้องการกำจัดรอยราคีคาวบนเนื้อตัวของเธอออกไปให้หมด
อำเภอ“ตาครับ”ทรงรบมาถึงที่อำเภอเห็นเริงฤทธิ์กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา“อ้าวพ่อเลี้ยงมาพอดีเลยนี่คุณเหมนายอำเภอคนใหม่ของที่นี่”“อ๋อ..ครับสวัสดีครับ”เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับเริงฤทธิ์คราแรกเขาก็มองอย่างไม่เป็นมิตรทันทีเพราะจำได้ว่าคนๆนี้อยู่กับพิมพรรณในวันที่เขาไปซื้ออะไหล่รถยนต์“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวตาไปทักทายตาทิ้งหน่อยไม่ได้เจอกันนานเลย”เริงฤทธิ์แนะนำทั้งคู่เสร็จก็เดินออกไปหาคนรู้จัก"เจอคุณก็ดีเลยพอดีคุณพิมลืมของไว้ที่รถผมน่ะครับฝากคุณคืนเธอเลยแล้วกันนะครับพ่อเลี้ยง"เมื่อเห็นทรงรบเหมวัตก็ยื่นของที่พิมพรรณลืมเอาไว้ให้กับทรงรบทันทีเพราะเห็นว่าอยู่บ้านเดียวกัน"อ่อครับ...แล้วทำไมของภรรยาผมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ"ทรงรบรับถุงกระดาษมาอย่างสงสัย"อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับวันนั้นผมเจอคุณพิมที่ข้างทาง..."เหมวัตเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทรงรบฟังว่าวันนั้นเขาเป็นคนพาเธอเอารถไปซ่อมและไปส่งเธอที่ร้านอาหารด้วยวันก่อนก็พึ่งจะพาเธอปรับรถเพราะช่างโทรหาเธอไม่ติด"ครับผมเข้าใจแล้ว"ทรงรบถึงกับตัวชาวาบหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวจากเหมวัตครู่ต่อมา"ผมขอให้ทุกคนตรวจตราดูกันหน่
"ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิมรักตั้งแต่แรกเห็น"ทรงรบรีบรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดทางด้านหลังของเธอ"รักเหรอ...รักแต่ทำให้ฉันเจ็บแบบนี้เหรอ"หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาอีกรอบ"พิมผมขอโทษ"เพี๊ยะพิมพรรณหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มเธอยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าของเขาด้วยความโกรธ"คุณจะตบผมอีกกี่ครั้งก็ได้ผมยอม"ทรงรบยังคงยืนนิ่งหากการที่เธอตบเขาแล้วมันทำให้ความเจ็บในใจของเธอทุเลาลงได้เขาก็ยอมเพี๊ยะๆๆๆ "ฮื่อๆๆๆ.. ทำกับฉันแบบนี้ทำไมๆ...ฮือๆๆ"พิมพรรณฟาดมือเรียวไปที่หน้าของชายหนุ่มไม่ยั้งยิ่งเธอเห็นเขายอมรับความเจ็บเธอก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นหากเขาไม่ทำมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้เธอโกรธเขาที่เขาทำเธอเจ็บยิ่งกว่านั้นคือเขาทำลายความไว้ใจของเธอหมดสิ้นแล้วเธอคิดว่าเขาจะเกรงใจให้เกียรติเธอที่เธอคิดทั้งหมดมันผิดเขาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ชอบใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้หญิง"ผมขอโทษ"ทรงรบกอดพิมพรรณเอาไว้เมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอสักนิด"ผมแค่หึงคุณเท่านั้นผมผิดเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำมันอีกยกโทษให้ผมนะพิม"ชายหนุ่มกอดร่างบางที่ยัง
18.00 น.“ขอบคุณพัชมากที่ช่วยดูแลพี่”อคิณยกมือของเขามาลูบเบาๆที่มือของพัชรินทร์เขาทานข้าวไปมองคนที่ป้อนไปด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างน้อยในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รู้ว่าหญิงสาวไม่ทิ้งเขาให้นอนเจ็บอยู่ลำพัง“อยู่เฉยๆค่ะถ้าอยากให้พัชดูแลต่อ”หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มวางข้างตัวของเขาและเอ่ยเสียงแข็งสายตาของเธอดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ยังยิ้มได้อยู่ดี21.00 น.พิมพรรณกล่อมหลานของเธอทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้วเมื่อจะเตรียมตัวลงนอนเธอก็มีอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทรงรบนั้นหาหมอนหาที่นอนมานอนอยู่ข้างๆเตียงที่เธอนอนอยู่"ผมนอนตรงนี้นะคุณ" ทรงรบเอ่ยพร้อมทิ้งตัวลงนอน"คุณกลับไปเถอะฉันดูหลานคนเดียวได้""ไม่ได้ยังไงผมก็จะอยู่จะปล่อยให้คุณกับหลานอยู่กันตามลำพังได้ยังไง""แต่""ไม่งั้นผมจะฟ้องตาคุณว่าคุณไล่ผม"ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะพูดจบทรงรบก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาก่อน"หึ่ม"คำขู่ของเขาดูเหมือนจะได้ผลเพราะมันทำให้หญิงสาวถียงอะไรไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายเล่นเอาตาเธอมาขู่เสียอย่างนั้น"คุณวันนั้นในจดหมายคุณรู้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคุณ"ทรงรบเอ่ยขึ
"น้ำเมยอย่าแกล้งน้องสิครับ..โอ๋ๆไม่ร้องนะครับน้ำปาย"ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงอุ้มน้ำปายขึ้นมาโอ๋และหันไปบอกกับน้ำเมยน้ำเสียงเรียบว่าเล่นแบบนี้ไม่ได้"ดูหลานยังไงคะ"พิมพรรณได้ยิรนเสียงหลานร้องจึงวิ่งมาดูเธอรู้ว่าหลานเธอคงแกล้งกันอีกเช่นเคยเอไม่โทษหลานแต่โทษทรงรบมากกว่าที่หลานอยุ่ใกล้ๆกับมือกลับดูแลหลานไม่ได้"ไม่คิดว่าจะมือไวแบบนี้นี่นาคุณไปทำกับข้าวเถอะผมจัดการได้"ทรงรบหน้าเจื่อนเล็กน้อยไหนจะต้องโอ๋หลานไหนจะต้องถูกเมียดุอีก"คุณนี่นะ"พิมพรรณส่ายหัวเบาๆแล้วเดินกลับไปทำอาหารในครัวต่อ"มองตาแป๋วเลยหาเรื่องให้ลุงโดนดุอีกแล้วนะเราเจ้าตัวแสบ"หลังจากที่พิมพรรณกลับไปแล้วทรงรบก็หันมาคุยกับน้ำเมยที่กำลังนั่งตาแป๋วมองเขาอยู่จึงรีบเกาพุงน้อยๆของหลานเขาด้วยความหมั่นเขี้ยววันต่อมา"ป้อ..ป้อ"ช่วงสายของวันนี้เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วจึงรีบคลานเข้าไปหาอย่างรวดเร็วทั้งส่งเสียงเรียกแค่พ่อเท่านั้นทำเอาพัชรินทร์ถึงกับแอบน้อยใจเล็กๆ"เจ้าสองแสบ..พ่อคิดถึงลูกมากๆเลยรู้ไหม"อคิณมาถึงก้นั่งกับพื้นกอดหอมลูกๆของเขายกใหญ่ด้วยความคิดถึง"ซนมากไหมคะ"พัชรินทรน์หันมาคุยกับพิมพรรณและทรงรบที่ยืนยิ้
“พวกคุณมันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาขู่ผมดีกว่ากรุณากร่างให้ถูกที่เพราะที่นี่มันถิ่นผม...ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานของผมยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป”บรรจงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคนและเดินหนีกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่ใส่ใจ“หึ่..คนแบบนี้มันยังกินดีอยู่ดีมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน”ในขณะที่เหมวัตขับรถกลับพร้อมกับอคิณและทรงรบเขาก็อดบ่นไม่ได้ถึงความมั่งมีของเสี่ยบรรจงที่มาจากความทุกข์ร้อนของคนอื่นแต่ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ดีกินดีได้อีก“ผมพอจะรู้แล้วว่าอาวุธพวกนั้นเป็นของใคร”อคิณมั่นใจว่าอาวุธที่เขาแอบเห็นที่รถขนของข้างบ้านบรรจงเป็นชื่อบริษัทเดียวกับคนที่เขารู้จักแต่นั่นจะใช่ของจริงหรือไม่มันก็อีกเรื่อง“เหรอครับ”เหมวัตถามเสียงสูงด้วยความอยากรู้ทางด้านเสี่บบรรจงตอนนี้เข้าหัวเสียอย่างมากเพราเหมือนถูกเด็กถอนหงอกจึงอยากจะกำจัดคนพวกนั้นเสียตอนนี้เลย“พวกมึงอย่าให้มันออกไปจากถิ่นนี้ได้..ไม่เคยมีใครกล้าหยามหน้ากูถึงที่นี่พวกมันรู้จักกูน้อยเกินไป”บรรจงแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์“ครับเสี่ยมันไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนครับ”ลูกน้องคนสนิทของบรรจงรับคำและเตรียมตัวจัดการสิ่งที่บรรจงสั่งอย่างรวดเร็วเพราะ
สองวันต่อมาตอนนี้ทรงรบฟื้นแล้วเขาค่อนข้างเสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แสดงความเสียใจนั้นออกมาแต่อย่างใดเพราะคิดว่ายังไงมันก็ต้องมีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้“ผมหิวน้ำ”ทรงรบเอ่ยเสียงแหบพร่าเรียกพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้หมอห้ามเขาขยับตัวภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่พิมพรรณที่ต้องมาคอยดูแลเขา“นี่ค่ะค่อยๆดูดนะคะ”พิมพรรณดีใจมากในวินาทีที่ทรงรบตื่นขึ้นมาเมื่อคืนตอนนี้เธอคอยดูแลเขาทุกอย่างไม่ห่างไปไหนเพราะตอนที่เธอรู้ว่าเขาถูกยิงใจของเธอแทบสลายและพึ่งได้รู้ตัวเองว่าเธอมีใจให้เขาเหมือนกัน“คิณเป็นยังไงบ้าง”ทรงรบไม่ลืมที่จะถามถึงเพื่อนของเขาเพราะวินาทีที่เขาหลับไปตอนถูกยิงเขาเห็นว่าเพื่อนของเขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า“ตอนนี้คุณคิณยังไม่ออกจากไอซียูเลยค่ะ”พิมพรรณเอ่ยเสียงอ่อนตอนนี้เธอสงสารพัชรินทร์จับใจเพราะไม่มีวินาทีไหนเลยที่พัชรินทร์นั้นจะไม่มีน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าอคิณได้รับอันตราย“อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ทรงรบขมวดคิ้วเป็นกังวล“ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเลยค่ะ” พิมพรรณส่ายหัวเบาๆ“คุณเหม” พิมพรรณหันไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดเข้ามา“เป็นยังไงบ้างครับผมได้ข่
ไร่เริงฤทธิ์“ทำอะไรอยู่ครับตา”ช่วงเย็นอคิณเดินเข้ามาหาเริงฤทธิ์หลังจากที่ไปส่งของกับพัชรินทร์เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเริงฤทธิ์นั่งตอกไม้ไผ่ตั้งแต่ก่อนไปแล้วตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเริงฤทธิ์ทำอะไร“ทำกระแตเวียนไงรู้จักไหมล่ะ”“คืออะไรครับ” อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อย“ให้เจ้าแฝดเกาะหัดเดินไงคนโบราณเค้าก็ทำแบบนี้ให้ลูกหัดเดินกันทั้งนั้นเอ็งคงไม่เคยเห็นล่ะสิ”เริงฤทธิ์เห็นว่าเจ้าแฝดเริ่มตั้งไข่ได้นานแล้วจึงอยากให้ฝึกเดินที่กระแตเวียนจะได้เดินแข็งเร็วๆ“ครับผมก็พึ่งจะรู้จักนี่แหละ”“น้ำเมยน้ำปายคลานมาหาทวดมา”“อ้วด..อ้วด”เจ้าแฝดที่เล่นดินกันมอมแมมทั้งสองได้ยินเสียงทวดเรียกก็รีบคลานกรูกันเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว“อ้าวเกาะ”เริงฤทธิ์ค่อยๆอุ้มเจ้าแฝดทีละคนให้เกาะไม้และเดิน“แอ้ะ..อิๆๆ”เจ้าสองแฝดพอเกาะเดินได้ก็ชอบใจกันใหญ่“เดินเข้าจะได้เดินแข็งๆ”เริงฤทธิ์เอ่ยด้วยรอยยิ้มเขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นเหลนๆชอบของที่เขาทำให้“เก่งจังเลยครับลูก..เดินแข่งกันเร็วๆๆ”อคิณปรบมือเชียร์เป็นกำลังใจให้ลูกๆของเขาแข่งกันเดินแม้ของเล่นจะไม่ใช่สิ่งที่หรูหราแต่เขาก็ขอบคุณเริงฤทธิ์อยู่ไม่น้อยที่เอ็นดูลูกเขาขนาดนี้
“เอ่อ..”พัชรินทร์ตกใจเล็กน้อยที่ชายหนุ่มจู่ๆก็อุ้มเธอขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวแล้วพาเธอกลับไปที่ห้องวางเธอลงบนเตียงเบาๆ“อย่าผลักพี่ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักนะครับ...พี่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่พี่ดีกับพัชเพราะพี่รู้สึกผิดแต่ตอนนี้มันไม่ใช่พี่อยากอยู่กับพัชอยากดูแลพัชกับลูกเพราะพี่รู้สึกรักคนตัวเล็กคนนี้..รักแม่ของลูกพี่หมดใจไปแล้ว”อคิณจับมือหญิงสาวที่กำลังดันตัวของเขาออกและเอ่ยเสียงอ่อนข้างๆหูของเธอ พัชรินทร์หน้าแดงเมื่อได้ยินว่าเขาบอกอะไรกับเธอ“พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนแต่ทุกครั้งที่พี่เจ็บหน้าของพัชกับลูกจะเป็นกำลังใจให้พี่ลุกขึ้นมาสู้ต่อ...ขอบคุณที่แม้ว่ายังโกรธแต่ก็ยังไม่คิดจะใจร้ายกับพี่...พี่อยากให้พัชให้โอกาสพี่ดูแลพัชกับลูกได้ไหมพี่ขอแค่นี้”“คำขอนี้พี่คิณเคยขอมาตลอดเลยนะคะ...แม้พัชจะห้ามแต่พี่คิณก็ไม่เคยฟัง..และเวลามันก็พิสูจน์แล้วค่ะว่าพี่คิณเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ”“พี่ไม่อยากเป็นแค่พ่อที่ดีของลูกๆแต่พี่อยากเป็นสามีที่ดีของพัชด้วย..คนดีของพี่ขอให้พี่เป็นสามีที่ดีของพัชได้ไหม”เมื่อสายตาของอคิณแสดงออกถึงความจริงใจพัชรินทร์จึงยิ้มอ่อนและพยักหน้ารับเขาพิสูจน์ด้วยเวลาแล้วว่าเขา