"ใครสั่งให้คุณเลือกฉันเป็นเมียล่ะ...ใครสั่งให้เลือกคนที่ไม่ได้รักกันมาเป็นคู่ชีวิตล่ะ."
พิมพรรณอ้าปากค้างเขาแม้ไม่ฟังเธออธิบายแล้วยังมาโทษให้เรื่องทุกอย่างเป็นความผิดของเธออีกในเมื่อเขาเป็นคนสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมาเอง
“..อื้มม.”
ทรงรบใช้มือหนาทั้งสองบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้และก้มลงมาบดจูบเธอพักใหญ่จนหนำใจ
เพี๊ยะ ...พิมพรรณพ้นพันธนาการได้เธอก็รีบปาดน้ำตาแล้วยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าทรงรบเพื่อเรียกสติในขณะที่เขาทำกับเธอในสิ่งที่ไม่ควรทำ
"หึ่.." ทรงรบยืนกัดฟันกรอดที่เห็นท่าทีรังเกียจเขาจากเธอเขานั่งดื่มย้อมใจต่อคราแรกหวังว่าหลังแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะดีขึ้นแต่ไม่เลยมันเหมือนเดิมและพอมาวันนี้มันกลับดูว่าเขาและเธอมีปัญหากันหนักขึ้นไปอีก
วันต่อมา
“ฉันจะไปช่วยดูแลแตงกวาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นอาทิตย์”
พิมพรรณเก็บกระเป๋าออกจากห้องมาในช่วงเช้าเธอเอ่ยบอกทรงรบที่กำลังนั่งดื่มกาแฟโดยที่ไม่มองหน้าของเขาและเดินออกไปขึ้นรถของภูผาที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้าน
ทรงรบมองตามหลังพิมพรรณอย่างไม่พอใจในเพราะไม่ยอมบอกเขาก่อนว่าจะไปดูแลตรีรัตน์ด้วยตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้มาว่าคนที่ไร่เริงฤทธิ์จะเป็นคนดูแลไม่ใช่เธอ
ป้านิ่มมองเหตุการณ์ของเจ้านายทั้งสองของเธอด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักแค่เรื่องที่ทั้งสองแยกห้องนอนกันเธอก็กังวลใจพอแล้วยังจะมาเมินใส่กันแบบนี้อีก
วันต่อมา
“รบกวนคุณเหมเลยนะคะพอดีมือถือฉันมันเก่าแล้วแบตเลยค่อนข้างเสื่อมน่ะค่ะ”
พิมพรรณนั่งรถออกมาพร้อมเหมวัตเขาขับรถมารับเธอที่บ้านของตรีรัตน์ในช่วงเช้าเพื่อที่จะไปรับรถที่อู่คืน
“ไม่เป็นไรครับพอดีผมมีธุระกับคุณตาคุณพอดี”
“อะไรเหรอคะ”
“อีกสองวันข้างหน้าผมเชิญเจ้าของไร่ไปประชุมกันที่อำเภอน่ะครับเพราะมีเรื่องต้องขอความร่วมมือกันนิดหน่อยผมเชิญสามีคุณด้วยนะครับคุณตาคุณบอกว่าจะโทรบอกให้”
“อ๋อ..ค่ะ”
พิมพรรณหน้าเจื่อนลงทันทีเมื่อเหมวัตพูดถึงทรงรบเพราะเธอยังเสียความรู้สึกกับเรื่องเมื่อวันนั้นอยู่ไม่หาย
“เอ่อ..จริงสิวันนั้นคุณลืมของไว้ที่รถผมวันหลังผมเอามาคืนให้นะครับตอนนี้ผมลืมหยิบมาจากบ้าน”
เหมวัตลืมสนิทว่าจะเอาของมาคืนเธอ
“ค่ะ..”
พิมพรรณรู้ดีว่าของที่เธอลืมไว้ในรถเหมวัตคืออะไรเธอเพียงไม่ได้ใส่ใจมันแล้วเพราะคนที่เธออยากให้เขาคงไม่ต้องการมัน
“หืม”
ทรงรบขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นพิมพรรณนั่งรถไปกับผู้ชายแปลกหน้าทั้งยังยิ้มแย้มดูมีความสุขในขณะที่เขายืนอยู่หน้าร้านอะไหล่รถยนต์ชายหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างไม่สบอารมณ์
วันต่อมา
“วานป้านิ่มช่วยดูแลแตงกวาสักสามวันนะคะตอนนี้ที่ไร่ยุ่งมาก”
พิมพรรณไปรับป้านิ่มมาอยู่เป็นเพื่อนกับตรีรัตน์เพราะเธอไม่ค่อยว่างที่จะดูแลตรีรัตน์กับลูกเท่าไรเนื่องด้วยงานที่ไร่ตอนนี้ค่อนข้างยุ่งเป็นพิเศษ
“ได้ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ป้านิ่มไม่ได้ติดปัญหาอะไรเธอเองก็ชอบเลี้ยงเด็กอ่อนอยู่แล้วด้วย
เย็นของวัน
“มาคุยกับผมหน่อย”
ทรงรบเข้ามาหาพิมพรรณที่ไร่เริงฤทธิ์ในช่วงเย็นเพราะเขาต้องการที่จะคุยเรื่องที่คาใจกับเธอชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเริงฤทธิ์และขออนุญาตเข้ามาหาพิมพรรณในห้อง
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะ”
พิมพรรณรีบปิดประตูห้องหนีทรงรบทันทีเพราะเธอยังไม่หายโกรธเขา
ก๊อกๆๆ
“เปิดประตูให้ตาหน่อย”
เริงฤทธิ์จำต้องเข้ามายุ่งเรื่องของทั้งสองเขาไม่ได้อยากรู้ว่าพิมพรรณกับทรงรบทะเลาะอะไรกันแต่ที่พิมพรรณหนีปัญหากลับมาบ้านแบบนี้เขาคิดว่ามันไม่ถูกเท่าไรเพราะเป็นผัวเมียกันมีอะไรต้องคุยกันไม่ใช่หนีปัญหา
“มีอะไรจ้ะตา”
พิมพรรณเปิดประตูออกมาทั้งมองค้อนไปที่ทรงรบที่ยืนตาแดงอยู่หลังตาของเธอทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มคงลากตาเธอมาช่วยพูดแน่นอน
“กลับบ้านไปกับพ่อเลี้ยงซะเอ็งเป็นผัวเมียกันทะเลาะกันยังไงก็ห้ามออกนอกบ้าน”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่..กลับไป”
เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงแข็งตัดบทพิมพรรณ
ครู่ต่อมา
พิมพรรณมาถึงไร่พร้อมทรงรบเมื่อรถจอดเธอก็รีบเดินเข้าบ้านหมายจะเข้าห้องหนีเขาเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ทรงรบกำลังเมาเธอจึงไม่อยากจะคุยอะไรด้วย
“อย่าพึ่งหนีสิ”
ทรงรบเดินตามหญิงสาวเขาเอื้อมมือหนาไปรั้งแขนเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะหนีเขาเข้าห้องไป
“มีอะไร”
พิมพรรณเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“เมื่อวานอย่าคิดว่าผมไม่เห็น”
“เห็นอะไร”
พิมพรรณขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่เข้าใจว่าที่เขากำลังพูดอยู่มันคืออะไร
“อยากจะมีผัวใหม่มากเลยใช่ไหม”
ทรงรบเอ่ยเสียงแข็งทั้งจ้องหญิงสาวเขม็ง
“อะไรของคุณ...ถ้าคุยกับฉันแล้วมาหาเรื่องกันแบบนี้อย่าคุยเลยดีกว่า”
พิมพรรณรีบสะบัดแขนออกจากมือของทรงรบด้วยความไม่พอใจ
“ผมถามจริงๆคุณรู้สึกยังไงกับผม”
ทรงรบเปลี่ยนมายกมือทั้งสองบีบไหล่ของหญิงสาวอย่างรุนแรงโดยที่ไม่รู้ตัวเพราะกำลังโมโหหึง
“อะไรของคุณเนี่ย..ปล่อยนะฉันเจ็บ”
พิมพรรณเริ่มกลัวการกระทำของทรงรบพอสมควรเพราะไม่เคยเห็นเขาโมโหแบบนี้มาก่อน
“คุณเจ็บแค่นี้มันไม่เท่ากับที่ผมเจ็บหรอก..รู้ไหมทำไมผมถึงสร้างข้อผูกมัดที่ทำให้คุณต้องมาแต่งงานกับผมขึ้นมา”
“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน” พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน“ไม่ปล่อย”“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ“ใช่ผมมันบ้า” เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งพลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป“ว้ายยย” ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ไ
อำเภอ“ตาครับ”ทรงรบมาถึงที่อำเภอเห็นเริงฤทธิ์กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา“อ้าวพ่อเลี้ยงมาพอดีเลยนี่คุณเหมนายอำเภอคนใหม่ของที่นี่”“อ๋อ..ครับสวัสดีครับ”เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับเริงฤทธิ์คราแรกเขาก็มองอย่างไม่เป็นมิตรทันทีเพราะจำได้ว่าคนๆนี้อยู่กับพิมพรรณในวันที่เขาไปซื้ออะไหล่รถยนต์“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวตาไปทักทายตาทิ้งหน่อยไม่ได้เจอกันนานเลย”เริงฤทธิ์แนะนำทั้งคู่เสร็จก็เดินออกไปหาคนรู้จัก"เจอคุณก็ดีเลยพอดีคุณพิมลืมของไว้ที่รถผมน่ะครับฝากคุณคืนเธอเลยแล้วกันนะครับพ่อเลี้ยง"เมื่อเห็นทรงรบเหมวัตก็ยื่นของที่พิมพรรณลืมเอาไว้ให้กับทรงรบทันทีเพราะเห็นว่าอยู่บ้านเดียวกัน"อ่อครับ...แล้วทำไมของภรรยาผมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ"ทรงรบรับถุงกระดาษมาอย่างสงสัย"อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับวันนั้นผมเจอคุณพิมที่ข้างทาง..."เหมวัตเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทรงรบฟังว่าวันนั้นเขาเป็นคนพาเธอเอารถไปซ่อมและไปส่งเธอที่ร้านอาหารด้วยวันก่อนก็พึ่งจะพาเธอปรับรถเพราะช่างโทรหาเธอไม่ติด"ครับผมเข้าใจแล้ว"ทรงรบถึงกับตัวชาวาบหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวจากเหมวัตครู่ต่อมา"ผมขอให้ทุกคนตรวจตราดูกันหน่
"ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิมรักตั้งแต่แรกเห็น"ทรงรบรีบรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดทางด้านหลังของเธอ"รักเหรอ...รักแต่ทำให้ฉันเจ็บแบบนี้เหรอ"หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาอีกรอบ"พิมผมขอโทษ"เพี๊ยะพิมพรรณหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มเธอยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าของเขาด้วยความโกรธ"คุณจะตบผมอีกกี่ครั้งก็ได้ผมยอม"ทรงรบยังคงยืนนิ่งหากการที่เธอตบเขาแล้วมันทำให้ความเจ็บในใจของเธอทุเลาลงได้เขาก็ยอมเพี๊ยะๆๆๆ "ฮื่อๆๆๆ.. ทำกับฉันแบบนี้ทำไมๆ...ฮือๆๆ"พิมพรรณฟาดมือเรียวไปที่หน้าของชายหนุ่มไม่ยั้งยิ่งเธอเห็นเขายอมรับความเจ็บเธอก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นหากเขาไม่ทำมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้เธอโกรธเขาที่เขาทำเธอเจ็บยิ่งกว่านั้นคือเขาทำลายความไว้ใจของเธอหมดสิ้นแล้วเธอคิดว่าเขาจะเกรงใจให้เกียรติเธอที่เธอคิดทั้งหมดมันผิดเขาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ชอบใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้หญิง"ผมขอโทษ"ทรงรบกอดพิมพรรณเอาไว้เมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอสักนิด"ผมแค่หึงคุณเท่านั้นผมผิดเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำมันอีกยกโทษให้ผมนะพิม"ชายหนุ่มกอดร่างบางที่ยัง
18.00 น.“ขอบคุณพัชมากที่ช่วยดูแลพี่”อคิณยกมือของเขามาลูบเบาๆที่มือของพัชรินทร์เขาทานข้าวไปมองคนที่ป้อนไปด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างน้อยในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รู้ว่าหญิงสาวไม่ทิ้งเขาให้นอนเจ็บอยู่ลำพัง“อยู่เฉยๆค่ะถ้าอยากให้พัชดูแลต่อ”หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มวางข้างตัวของเขาและเอ่ยเสียงแข็งสายตาของเธอดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ยังยิ้มได้อยู่ดี21.00 น.พิมพรรณกล่อมหลานของเธอทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้วเมื่อจะเตรียมตัวลงนอนเธอก็มีอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทรงรบนั้นหาหมอนหาที่นอนมานอนอยู่ข้างๆเตียงที่เธอนอนอยู่"ผมนอนตรงนี้นะคุณ" ทรงรบเอ่ยพร้อมทิ้งตัวลงนอน"คุณกลับไปเถอะฉันดูหลานคนเดียวได้""ไม่ได้ยังไงผมก็จะอยู่จะปล่อยให้คุณกับหลานอยู่กันตามลำพังได้ยังไง""แต่""ไม่งั้นผมจะฟ้องตาคุณว่าคุณไล่ผม"ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะพูดจบทรงรบก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาก่อน"หึ่ม"คำขู่ของเขาดูเหมือนจะได้ผลเพราะมันทำให้หญิงสาวถียงอะไรไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายเล่นเอาตาเธอมาขู่เสียอย่างนั้น"คุณวันนั้นในจดหมายคุณรู้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคุณ"ทรงรบเอ่ยขึ
"น้ำเมยอย่าแกล้งน้องสิครับ..โอ๋ๆไม่ร้องนะครับน้ำปาย"ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงอุ้มน้ำปายขึ้นมาโอ๋และหันไปบอกกับน้ำเมยน้ำเสียงเรียบว่าเล่นแบบนี้ไม่ได้"ดูหลานยังไงคะ"พิมพรรณได้ยิรนเสียงหลานร้องจึงวิ่งมาดูเธอรู้ว่าหลานเธอคงแกล้งกันอีกเช่นเคยเอไม่โทษหลานแต่โทษทรงรบมากกว่าที่หลานอยุ่ใกล้ๆกับมือกลับดูแลหลานไม่ได้"ไม่คิดว่าจะมือไวแบบนี้นี่นาคุณไปทำกับข้าวเถอะผมจัดการได้"ทรงรบหน้าเจื่อนเล็กน้อยไหนจะต้องโอ๋หลานไหนจะต้องถูกเมียดุอีก"คุณนี่นะ"พิมพรรณส่ายหัวเบาๆแล้วเดินกลับไปทำอาหารในครัวต่อ"มองตาแป๋วเลยหาเรื่องให้ลุงโดนดุอีกแล้วนะเราเจ้าตัวแสบ"หลังจากที่พิมพรรณกลับไปแล้วทรงรบก็หันมาคุยกับน้ำเมยที่กำลังนั่งตาแป๋วมองเขาอยู่จึงรีบเกาพุงน้อยๆของหลานเขาด้วยความหมั่นเขี้ยววันต่อมา"ป้อ..ป้อ"ช่วงสายของวันนี้เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วจึงรีบคลานเข้าไปหาอย่างรวดเร็วทั้งส่งเสียงเรียกแค่พ่อเท่านั้นทำเอาพัชรินทร์ถึงกับแอบน้อยใจเล็กๆ"เจ้าสองแสบ..พ่อคิดถึงลูกมากๆเลยรู้ไหม"อคิณมาถึงก้นั่งกับพื้นกอดหอมลูกๆของเขายกใหญ่ด้วยความคิดถึง"ซนมากไหมคะ"พัชรินทรน์หันมาคุยกับพิมพรรณและทรงรบที่ยืนยิ้
“พวกคุณมันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาขู่ผมดีกว่ากรุณากร่างให้ถูกที่เพราะที่นี่มันถิ่นผม...ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานของผมยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป”บรรจงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคนและเดินหนีกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่ใส่ใจ“หึ่..คนแบบนี้มันยังกินดีอยู่ดีมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน”ในขณะที่เหมวัตขับรถกลับพร้อมกับอคิณและทรงรบเขาก็อดบ่นไม่ได้ถึงความมั่งมีของเสี่ยบรรจงที่มาจากความทุกข์ร้อนของคนอื่นแต่ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ดีกินดีได้อีก“ผมพอจะรู้แล้วว่าอาวุธพวกนั้นเป็นของใคร”อคิณมั่นใจว่าอาวุธที่เขาแอบเห็นที่รถขนของข้างบ้านบรรจงเป็นชื่อบริษัทเดียวกับคนที่เขารู้จักแต่นั่นจะใช่ของจริงหรือไม่มันก็อีกเรื่อง“เหรอครับ”เหมวัตถามเสียงสูงด้วยความอยากรู้ทางด้านเสี่บบรรจงตอนนี้เข้าหัวเสียอย่างมากเพราเหมือนถูกเด็กถอนหงอกจึงอยากจะกำจัดคนพวกนั้นเสียตอนนี้เลย“พวกมึงอย่าให้มันออกไปจากถิ่นนี้ได้..ไม่เคยมีใครกล้าหยามหน้ากูถึงที่นี่พวกมันรู้จักกูน้อยเกินไป”บรรจงแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์“ครับเสี่ยมันไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนครับ”ลูกน้องคนสนิทของบรรจงรับคำและเตรียมตัวจัดการสิ่งที่บรรจงสั่งอย่างรวดเร็วเพราะ
สองวันต่อมาตอนนี้ทรงรบฟื้นแล้วเขาค่อนข้างเสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แสดงความเสียใจนั้นออกมาแต่อย่างใดเพราะคิดว่ายังไงมันก็ต้องมีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้“ผมหิวน้ำ”ทรงรบเอ่ยเสียงแหบพร่าเรียกพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้หมอห้ามเขาขยับตัวภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่พิมพรรณที่ต้องมาคอยดูแลเขา“นี่ค่ะค่อยๆดูดนะคะ”พิมพรรณดีใจมากในวินาทีที่ทรงรบตื่นขึ้นมาเมื่อคืนตอนนี้เธอคอยดูแลเขาทุกอย่างไม่ห่างไปไหนเพราะตอนที่เธอรู้ว่าเขาถูกยิงใจของเธอแทบสลายและพึ่งได้รู้ตัวเองว่าเธอมีใจให้เขาเหมือนกัน“คิณเป็นยังไงบ้าง”ทรงรบไม่ลืมที่จะถามถึงเพื่อนของเขาเพราะวินาทีที่เขาหลับไปตอนถูกยิงเขาเห็นว่าเพื่อนของเขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า“ตอนนี้คุณคิณยังไม่ออกจากไอซียูเลยค่ะ”พิมพรรณเอ่ยเสียงอ่อนตอนนี้เธอสงสารพัชรินทร์จับใจเพราะไม่มีวินาทีไหนเลยที่พัชรินทร์นั้นจะไม่มีน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าอคิณได้รับอันตราย“อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ทรงรบขมวดคิ้วเป็นกังวล“ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเลยค่ะ” พิมพรรณส่ายหัวเบาๆ“คุณเหม” พิมพรรณหันไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดเข้ามา“เป็นยังไงบ้างครับผมได้ข่
ไร่เริงฤทธิ์“ทำอะไรอยู่ครับตา”ช่วงเย็นอคิณเดินเข้ามาหาเริงฤทธิ์หลังจากที่ไปส่งของกับพัชรินทร์เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเริงฤทธิ์นั่งตอกไม้ไผ่ตั้งแต่ก่อนไปแล้วตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเริงฤทธิ์ทำอะไร“ทำกระแตเวียนไงรู้จักไหมล่ะ”“คืออะไรครับ” อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อย“ให้เจ้าแฝดเกาะหัดเดินไงคนโบราณเค้าก็ทำแบบนี้ให้ลูกหัดเดินกันทั้งนั้นเอ็งคงไม่เคยเห็นล่ะสิ”เริงฤทธิ์เห็นว่าเจ้าแฝดเริ่มตั้งไข่ได้นานแล้วจึงอยากให้ฝึกเดินที่กระแตเวียนจะได้เดินแข็งเร็วๆ“ครับผมก็พึ่งจะรู้จักนี่แหละ”“น้ำเมยน้ำปายคลานมาหาทวดมา”“อ้วด..อ้วด”เจ้าแฝดที่เล่นดินกันมอมแมมทั้งสองได้ยินเสียงทวดเรียกก็รีบคลานกรูกันเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว“อ้าวเกาะ”เริงฤทธิ์ค่อยๆอุ้มเจ้าแฝดทีละคนให้เกาะไม้และเดิน“แอ้ะ..อิๆๆ”เจ้าสองแฝดพอเกาะเดินได้ก็ชอบใจกันใหญ่“เดินเข้าจะได้เดินแข็งๆ”เริงฤทธิ์เอ่ยด้วยรอยยิ้มเขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นเหลนๆชอบของที่เขาทำให้“เก่งจังเลยครับลูก..เดินแข่งกันเร็วๆๆ”อคิณปรบมือเชียร์เป็นกำลังใจให้ลูกๆของเขาแข่งกันเดินแม้ของเล่นจะไม่ใช่สิ่งที่หรูหราแต่เขาก็ขอบคุณเริงฤทธิ์อยู่ไม่น้อยที่เอ็นดูลูกเขาขนาดนี้