"น้ำเมยอย่าแกล้งน้องสิครับ..โอ๋ๆไม่ร้องนะครับน้ำปาย"
ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงอุ้มน้ำปายขึ้นมาโอ๋และหันไปบอกกับน้ำเมยน้ำเสียงเรียบว่าเล่นแบบนี้ไม่ได้
"ดูหลานยังไงคะ"
พิมพรรณได้ยิรนเสียงหลานร้องจึงวิ่งมาดูเธอรู้ว่าหลานเธอคงแกล้งกันอีกเช่นเคยเอไม่โทษหลานแต่โทษทรงรบมากกว่าที่หลานอยุ่ใกล้ๆกับมือกลับดูแลหลานไม่ได้
"ไม่คิดว่าจะมือไวแบบนี้นี่นาคุณไปทำกับข้าวเถอะผมจัดการได้"
ทรงรบหน้าเจื่อนเล็กน้อยไหนจะต้องโอ๋หลานไหนจะต้องถูกเมียดุอีก
"คุณนี่นะ"
พิมพรรณส่ายหัวเบาๆแล้วเดินกลับไปทำอาหารในครัวต่อ
"มองตาแป๋วเลยหาเรื่องให้ลุงโดนดุอีกแล้วนะเราเจ้าตัวแสบ"
หลังจากที่พิมพรรณกลับไปแล้วทรงรบก็หันมาคุยกับน้ำเมยที่กำลังนั่งตาแป๋วมองเขาอยู่จึงรีบเกาพุงน้อยๆของหลานเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว
วันต่อมา
"ป้อ..ป้อ"
ช่วงสายของวันนี้เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วจึงรีบคลานเข้าไปหาอย่างรวดเร็วทั้งส่งเสียงเรียกแค่พ่อเท่านั้นทำเอาพัชรินทร์ถึงกับแอบน้อยใจเล็กๆ
"เจ้าสองแสบ..พ่อคิดถึงลูกมากๆเลยรู้ไหม"
อคิณมาถึงก้นั่งกับพื้นกอดหอมลูกๆของเขายกใหญ่ด้วยความคิดถึง
"ซนมากไหมคะ"
พัชรินทรน์หันมาคุยกับพิมพรรณและทรงรบที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
“ไม่เท่าไรเลยครับ"
ทรงรบส่ายหัวเบาๆไม่เท่าไรของเขานี่คือคำพูดตรงข้ามไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเด็กๆจะใช้พลังงานมากพอสมควร
"เล่นกันหัวโนออกบ่อยต้องคอยดูอย่าให้คลาดสายตาเลยค่ะ" พิมพรรณยิ้มอ่อน
"ฮ่าๆๆ..แบบนี้แหละค่ะ"
พัชรินทร์ถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เมื่อเห็นว่าทั้งสองรู้ฤทธิ์ลูกๆของเธอ
เมื่อหมดหน้าที่แล้วทรงรบและพิมพรรณก็ขอตัวกลับเพราะยังมีหน้าที่ที่ต้องทำกันต่อตอนนี้ก็ในบ้านก็เหลือแค่อคิณกับพัชรินทร์และลูกๆเท่านั้น
"เดี๋ยวพี่ช่วย"
อคิณเห็นพัชรินทร์เตรียมป้อนข้าวลูกๆในช่วงเย็นเขาจึงรีบเข้ามาช่วย
"ไม่เจ็บแล้วเหรอคะ"
“ไม่เลย"
"ไปพักเถอะค่ะก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ"
ตอนนี้หญิงสาวอยากจะให้ชายหนุ่มพักผ่อนให้หายเป็นปกติก่อนหากเขายังคอยจับโน่นจับนี่ช่วยเธออยู่แบบนี้เธอกลัวว่าเขาจะเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ
"พี่ทำได้" อคิณยังคงดื้อไม่ยอมฟังหญิงสาวแม้แต่น้อย
"ขอร้องเถอะนะคะถ้าไม่กลับบ้านไปก็อย่าทำให้พัชต้องเดือดร้อนใจเลยนะคะ"
พัชรินทร์เอ่ยเสียงแข็งทั้งมองหน้าอคิณอย่างไม่พอใจเอามากๆ
"ก...ก็ได้"
อคิณเห็นว่าหญิงสาวดูจะไม่พอใจจริงจังเขาจึงถอยออกไปแต่โดยดี
พัชรินทร์มองตามหลังอคิณด้วยสายตาที่กังวลเธอไม่อยากให้เขาต้องมาเจ็บอีกเพราะเธอไม่อยากดูแลเขาแบบใกล้ชิดเธอไม่ชอบอาการที่ต้องเป็นห่วงเขาของเธอเลยเพราะนั่นมันอาจจะทำให้เธอใจอ่อนกับเขาได้
เดือนต่อมา
ไร่ภิภพ
เป็นเดือนแล้วที่ทรงรบรักษาสัญญาว่าจะดูแลพิมพรรณให้ดีไม่ฉวยโอกาสล่วงเกินเธออีกมันก็ทำให้พิมพรรณมองชายหนุ่มดีขึ้นอย่างมาก
อาหารเช้าอย่าลืมทานนะคุณวันนี้คุณไปอยู่เป็นเพื่อคุณพัชหน่อยนะเพราะผมจะไปทำธุระกับอคิณ
“ไปไหนของเค้ากันนะ”
พิมพรรณหยิบโพสอิทที่ทรงรบแปะไว้ให้ที่โต๊ะอาหารตอนเช้าเธอขมวดคิ้วเล็กน้อยว่าเขารีบไปไหนแต่เช้าซ้ำยังไม่บอกกับเธอด้วยบอกเพียงแค่ว่าไปกับใครเท่านั้น
“พี่ออกไปทำธุระกับทรงรบก่อนนะอาจจะกลับมามืดๆหน่อยถ้าดึกแล้วก็ล็อคประตูบ้านให้ดีนะ”
ทางด้านอคิณตอนนี้เขารีบร้อนอย่างมากเพราะทรงรบมารอรับแล้วที่หน้าบ้าน
“ค่ะ..เอ่อมีธุระอะไรเหรอคะ”
พัชรินทร์แปลกใจไม่น้อยที่อคิณดูรีบร้อนเป็นพิเศษออกไปข้างนอกทั้งที่ยังไม่ทานข้าวเช้าด้วยซ้ำ
“ไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพี่จะรีบกลับนะครับ”
อคิณยังบอกไม่ได้เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงเพราะวันนี้เขามีธุระสำคัญที่จะต้องไปทำ
“.อื้อ.พี่คิณ..”
ก่อนออกไปเขารวบตัวร่างบากมาจูบในขณะที่พัชรินทร์ไม่ทันตั้งตัวจึงรีบผลักเขาออกอย่างรวดเร็ว พัชรินทร์มองตามหลังอคิณอย่างสงสัยทั้งไม่พอใจกับการกระทำฉวยโอกาสของเขาที่ช่วงหลังมานี่เขาเห็นเธอยอมให้อยู่กับลูกเข้าหน่อยก็ชอบแอบกอดแอบหอมเธอตลอดโดยที่เธอไม่อนุญาต
ช่วงบ่ายของวัน
“ข่มขู่ทุกคนจนไม่มีใครกล้าให้ความร่วมมือแบบนี้มันใช้อิทธิพลผิดที่ผิดทางไปหน่อยนะครับ”
ตอนนี้เหมวัตอคิณและทรงรบมาที่บ้านของเสี่ยบรรจงเพื่อพูดคุยเรื่องที่เสี่ยบรรจงนั้นไปข่มขู่ทึกคนที่ให้ความร่วมมือกับทางการจนงานของเหมวัตนั้นเดินต่อไม่ได้
“ผมยังไม่ได้ข่มขู่ใครเลยนะครับแค่บอกว่าใครที่ร่วมมือกับคุณจะไม่ปลอดภัยก็เท่านั้น”
บรรจงชายวัยหกสิบมาดอันธพาลเขานั่งจ้องหน้าคนที่เข้ามาขอพบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“อย่าคิดว่าผมจะทำอะไรคุณไม่ได้นะเสี่ย”
เหมวัตเอ่ยออกมาด้วยความโมโหเพราะเขาเกลียดนักคนที่หากินผิดกฏหมายซ้ำยังใช้อิทธิพลข่มขู่ให้คนอื่นอยู่ใต้เท้าตัวเอง
“จะทำอะไรผม..ผมทำอะไรผิดมีแต่พวกคุณนั่นแหละที่มาขัดแข้งขัดขาการทำมาหากินของผม”
“แต่สิ่งที่คุณทำมันผิดกฎหมาย”
อคิณไม่เข้าใจว่าทำไมบรรจงถึงพูดเรื่องผิดกฎหมายได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา
“ผมก็ทำแบบนี้มาตลอดทั้งตำรวจทั้งนายอำเภอคนเก่าๆก็ไม่เห็นมีปัญหา...เพราะเค้ารู้ไงว่าถ้ามีปัญหากับพวกผมมันต้องเจอกับอะไร”
บรรจงมองเหมวัตพร้อมยิ้มอ่อนแต่ในใจของเขารู้สึกหมั่นไส้ที่นายอำเภอหน้าอ่อนมาวางมาดกับเขาถึงถิ่น
“อย่าคิดว่าพวกผมจะกลัวใครที่มันทำอะไรไม่ดีในพื้นที่ของผมผมไม่เอาไว้แน่”
ทรงรบที่ฟังอยู่ครู่หนึ่งเขาเอ่ยออกมาเสียงแข็งเขาเองก็ใช่ว่าจะกลัวใครหากมีคนของบรรจงลักลอบขนของเถื่อนผ่านพื้นที่เขาเมื่อไรเขาก็จะไม่ปล่อยไว้แน่นอน
“พวกคุณมันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาขู่ผมดีกว่ากรุณากร่างให้ถูกที่เพราะที่นี่มันถิ่นผม...ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานของผมยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป”บรรจงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคนและเดินหนีกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่ใส่ใจ“หึ่..คนแบบนี้มันยังกินดีอยู่ดีมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน”ในขณะที่เหมวัตขับรถกลับพร้อมกับอคิณและทรงรบเขาก็อดบ่นไม่ได้ถึงความมั่งมีของเสี่ยบรรจงที่มาจากความทุกข์ร้อนของคนอื่นแต่ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ดีกินดีได้อีก“ผมพอจะรู้แล้วว่าอาวุธพวกนั้นเป็นของใคร”อคิณมั่นใจว่าอาวุธที่เขาแอบเห็นที่รถขนของข้างบ้านบรรจงเป็นชื่อบริษัทเดียวกับคนที่เขารู้จักแต่นั่นจะใช่ของจริงหรือไม่มันก็อีกเรื่อง“เหรอครับ”เหมวัตถามเสียงสูงด้วยความอยากรู้ทางด้านเสี่บบรรจงตอนนี้เข้าหัวเสียอย่างมากเพราเหมือนถูกเด็กถอนหงอกจึงอยากจะกำจัดคนพวกนั้นเสียตอนนี้เลย“พวกมึงอย่าให้มันออกไปจากถิ่นนี้ได้..ไม่เคยมีใครกล้าหยามหน้ากูถึงที่นี่พวกมันรู้จักกูน้อยเกินไป”บรรจงแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์“ครับเสี่ยมันไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนครับ”ลูกน้องคนสนิทของบรรจงรับคำและเตรียมตัวจัดการสิ่งที่บรรจงสั่งอย่างรวดเร็วเพราะ
สองวันต่อมาตอนนี้ทรงรบฟื้นแล้วเขาค่อนข้างเสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แสดงความเสียใจนั้นออกมาแต่อย่างใดเพราะคิดว่ายังไงมันก็ต้องมีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้“ผมหิวน้ำ”ทรงรบเอ่ยเสียงแหบพร่าเรียกพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้หมอห้ามเขาขยับตัวภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่พิมพรรณที่ต้องมาคอยดูแลเขา“นี่ค่ะค่อยๆดูดนะคะ”พิมพรรณดีใจมากในวินาทีที่ทรงรบตื่นขึ้นมาเมื่อคืนตอนนี้เธอคอยดูแลเขาทุกอย่างไม่ห่างไปไหนเพราะตอนที่เธอรู้ว่าเขาถูกยิงใจของเธอแทบสลายและพึ่งได้รู้ตัวเองว่าเธอมีใจให้เขาเหมือนกัน“คิณเป็นยังไงบ้าง”ทรงรบไม่ลืมที่จะถามถึงเพื่อนของเขาเพราะวินาทีที่เขาหลับไปตอนถูกยิงเขาเห็นว่าเพื่อนของเขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า“ตอนนี้คุณคิณยังไม่ออกจากไอซียูเลยค่ะ”พิมพรรณเอ่ยเสียงอ่อนตอนนี้เธอสงสารพัชรินทร์จับใจเพราะไม่มีวินาทีไหนเลยที่พัชรินทร์นั้นจะไม่มีน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าอคิณได้รับอันตราย“อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ทรงรบขมวดคิ้วเป็นกังวล“ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเลยค่ะ” พิมพรรณส่ายหัวเบาๆ“คุณเหม” พิมพรรณหันไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดเข้ามา“เป็นยังไงบ้างครับผมได้ข่
ไร่เริงฤทธิ์“ทำอะไรอยู่ครับตา”ช่วงเย็นอคิณเดินเข้ามาหาเริงฤทธิ์หลังจากที่ไปส่งของกับพัชรินทร์เรียบร้อยแล้วเขาเห็นเริงฤทธิ์นั่งตอกไม้ไผ่ตั้งแต่ก่อนไปแล้วตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเริงฤทธิ์ทำอะไร“ทำกระแตเวียนไงรู้จักไหมล่ะ”“คืออะไรครับ” อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อย“ให้เจ้าแฝดเกาะหัดเดินไงคนโบราณเค้าก็ทำแบบนี้ให้ลูกหัดเดินกันทั้งนั้นเอ็งคงไม่เคยเห็นล่ะสิ”เริงฤทธิ์เห็นว่าเจ้าแฝดเริ่มตั้งไข่ได้นานแล้วจึงอยากให้ฝึกเดินที่กระแตเวียนจะได้เดินแข็งเร็วๆ“ครับผมก็พึ่งจะรู้จักนี่แหละ”“น้ำเมยน้ำปายคลานมาหาทวดมา”“อ้วด..อ้วด”เจ้าแฝดที่เล่นดินกันมอมแมมทั้งสองได้ยินเสียงทวดเรียกก็รีบคลานกรูกันเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว“อ้าวเกาะ”เริงฤทธิ์ค่อยๆอุ้มเจ้าแฝดทีละคนให้เกาะไม้และเดิน“แอ้ะ..อิๆๆ”เจ้าสองแฝดพอเกาะเดินได้ก็ชอบใจกันใหญ่“เดินเข้าจะได้เดินแข็งๆ”เริงฤทธิ์เอ่ยด้วยรอยยิ้มเขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นเหลนๆชอบของที่เขาทำให้“เก่งจังเลยครับลูก..เดินแข่งกันเร็วๆๆ”อคิณปรบมือเชียร์เป็นกำลังใจให้ลูกๆของเขาแข่งกันเดินแม้ของเล่นจะไม่ใช่สิ่งที่หรูหราแต่เขาก็ขอบคุณเริงฤทธิ์อยู่ไม่น้อยที่เอ็นดูลูกเขาขนาดนี้
“เอ่อ..”พัชรินทร์ตกใจเล็กน้อยที่ชายหนุ่มจู่ๆก็อุ้มเธอขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวแล้วพาเธอกลับไปที่ห้องวางเธอลงบนเตียงเบาๆ“อย่าผลักพี่ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักนะครับ...พี่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่พี่ดีกับพัชเพราะพี่รู้สึกผิดแต่ตอนนี้มันไม่ใช่พี่อยากอยู่กับพัชอยากดูแลพัชกับลูกเพราะพี่รู้สึกรักคนตัวเล็กคนนี้..รักแม่ของลูกพี่หมดใจไปแล้ว”อคิณจับมือหญิงสาวที่กำลังดันตัวของเขาออกและเอ่ยเสียงอ่อนข้างๆหูของเธอ พัชรินทร์หน้าแดงเมื่อได้ยินว่าเขาบอกอะไรกับเธอ“พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนแต่ทุกครั้งที่พี่เจ็บหน้าของพัชกับลูกจะเป็นกำลังใจให้พี่ลุกขึ้นมาสู้ต่อ...ขอบคุณที่แม้ว่ายังโกรธแต่ก็ยังไม่คิดจะใจร้ายกับพี่...พี่อยากให้พัชให้โอกาสพี่ดูแลพัชกับลูกได้ไหมพี่ขอแค่นี้”“คำขอนี้พี่คิณเคยขอมาตลอดเลยนะคะ...แม้พัชจะห้ามแต่พี่คิณก็ไม่เคยฟัง..และเวลามันก็พิสูจน์แล้วค่ะว่าพี่คิณเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ”“พี่ไม่อยากเป็นแค่พ่อที่ดีของลูกๆแต่พี่อยากเป็นสามีที่ดีของพัชด้วย..คนดีของพี่ขอให้พี่เป็นสามีที่ดีของพัชได้ไหม”เมื่อสายตาของอคิณแสดงออกถึงความจริงใจพัชรินทร์จึงยิ้มอ่อนและพยักหน้ารับเขาพิสูจน์ด้วยเวลาแล้วว่าเขา
เกริ่นทำไมโลกที่แสนกลมต้องเหวี่ยงคนใจร้ายกลับมาเจอเธอด้วยคำที่หญิงสาวมีคำถามอยู่ในใจทุกครั้งที่ต้องเห็นหน้าคนที่มาคอยบังคับเธอให้ตกอยู่ในพันธนาการของเขาหากวันนั้นเธอไม่ใจดีจะเป็นแบบนี้หรือไม่หากวันนั้นเธอเลือกที่จะคบเพื่อนดีจะเป็นแบบนี้หรือไม่หากวันนั้นเธอไม่เจอเขาชีวิตเธอจะดีกว่านี้หรือไม่...เนื้อเรื่องช่วงบ่ายของวันในเวลาที่แดดร่มลมตกแล้วตรีรัตน์กำลังนั่งไกวเปลลูกน้อยของเธอไปด้วยวาดรูปออกแบบเครื่องประดับไปด้วยเพลินๆเพราะตอนนี้เธอมีงานอดิเรกนอกจากเลี้ยงลูกแล้วเธอยังแพ็คของส่งลูกค้าไปด้วยตอนนี้เธอขายเครื่องประดับที่เป็นฝีมือการออกแบบของเธอเองผลตอบรับตอนนี้ค่อนข้างดีมากเพราะฝีมือการออกแบบของเธอค่อนข้างตรงความต้องการของคนหมู่มากตรีรัตน์หญิงสาววัย21ตอนนี้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่ที่ไร่เริงฤทธิ์เธอท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเพราะความหัวอ่อน หญิงสาวเป็นสาวหน้าหวานใบหน้ารูปไข่ผิวขาวอมชมพูผมสีน้ำตาลยาวหยักศกคิ้วได้รูปขนตางอนยาวดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อย เธอเป็นสาวหน้าหวานที่ค่อนข้างหัวอ่อนรักเพื่อนเชื่อคนง่ายนั่นเป็นลักษณะนิสัยที่ทำให้เธอถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยครั้ง“ของขายดีเลยสินะ”พัชรินทร์เด
“แอ้ๆ..” ตรีรัตน์อุ้มลูกสาววัยหกเดือนที่กำลังจ้ำม่ำมากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันตามประสาแม่ลูกเพราะวันนี้ลูกเธอดูจะตื่นมาแล้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“อารมณ์ดีจังเลยนะคะ..อ้าวนี่มือถือพี่พัชนี่นา..ไปบ้านป้าพัชกันนะคะเอามือถือไปคืนป้าพัชกันค่ะ” ตรีรัตน์หันไปเห็นมือถือของพัชรินทร์วางอยู่ใกล้ๆกับตระกร้าผ้าของลูกเธอจึงหยิบขึ้นมาเพื่อที่จะเดินเอาไปคืนพี่สาวเธอที่บ้าน“แอ้..ๆ”หนูน้อยนิชารีรู้ว่าคนเป็นแม่จะพาเดินเที่ยวก็ดีใจจนยิ้มปากบาน“อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ”พัชรินทร์จัดการอาหารเย็นเสร็จก็รีบเดินออกมาเรียกสองหนุ่มที่กำลังยืนชมวิวคุยกันที่หน้าบ้าน“พี่พัชคะมือถือค่ะ” ตรีรัตน์เดินมาหาพัชรินทร์พอดีกับที่หญิงสาวกำลังจะเดินเข้าบ้านเธอจึงรีบเรียกพัชรินทร์เอาไว้และยื่นมือถือคืนให้กับหญิงสาว“ตายจริงพี่ลืมไว้เหรอเนี่ย” พัชรินทร์รีบรับมือถือของเธอมาอย่างรวดเร็วทั้งตำหนิตัวเองเล็กน้อยที่ไม่รอบคอบทำให้ตรีรัตน์ต้องลำบากเอาของเธอมาคืนถึงที่บ้าน“ว่ายังไงหนูนา..มาให้ลุงอุ้มหน่อยเร็ว” อคิณเห็นตรีรัตน์อุ้มเจ้าก้อนมาด้วยก็รีบเข้าไปอุ้มหนูน้อยมาอย่างรวดเร็วเพราะหนูนาให้เขากอดรัดฟัดเหวี่ยงได้ตามสบายไม่เหมือนเจ้า
"พูดแบบนี้แสดงว่าหนูนาลูกผม" โนอาห์จ้องหน้าพัชรินทร์เขม็งรวมทั้งอคิณก็เช่นกัน พัชรินทร์หน้าเจื่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองโมโหจนหลุดปากออกไป ในขณะที่โนอาห์ยังไม่ได้คำตอบจากปากพัชรินทร์แต่เขาก็พอเข้าใจได้แล้วว่ายัยหนูตัวกลมที่อคิณอุ้มอยู่เป็นลูกของเขา“อืม” ตรีรัตน์ค่อยๆพยุงตัวเธอลุกขึ้นนั่งเมื่ออาการดีขึ้นแล้วเมื่อเธอลุกขึ้นได้ก็เกาะพัชรินทร์ไม่ยอมปล่อย"แตงกวา" พัชรินทร์กอดตรีรัตน์เอาไว้เพื่อให้เธอเลิกตื่นกลัวก่อนเพราะเธออาจจะเป็นลมไปได้อีกรอบ"ฮึก..ฮือๆๆ"อคิณเห็นตรีรัตน์เอาแต่สะอื้นเขาจึงรีบสะกิดโนอาห์ให้ออกไปให้พ้นหน้าตรีรัตน์เสียก่อน"คุณจะเอายังไงกับเรื่องนี้" สองหนุ่มออกมาคุยกันด้านนอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดมีคนที่ยังยิ้มเล่นได้นั่นเห็นจะมีแค่เด็กหญิงนิชารีเท่านั้นเพราะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับผู้ใหญ่เค้า"ก็พึ่งจะรู้ตัวว่ามีลูก...คุณว่าผมต้องทำยังไงล่ะคงต้องรับผิดชอบน่ะสิ" โนอาห์ยืนกอดอกถอนหายใจเฮือกใหญ่และมองไปที่หนูน้อยด้วยแววตาที่สับสนว่าเขาพร้อมแค่ไหนที่จะเป็นพ่อคนแต่เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่เสียใจเลยสักนิดเมื่อรู้ว่ามีลูกกับตรีรัตน์อาจเป็นเพราะพอใจตรีรัตน์ตั้งแต่แรกเห็นแถมลูกสาว
ทางด้านโนอาห์"ผมแค่อยากจะรับผิดชอบเธอกับลูกเท่านั้นสิ่งที่ผมทำมันถูกต้องที่สุดแล้ว" หลังจากที่พัชรินทร์มาขอเวลากับเขาโนอาห์ก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องแค่นี้ทำไมตรีรัตน์ต้องคิดเขาเป็นพ่อของลูกเธอต้องรับผิดชอบมันก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร"คุณต้องยอมรับนะคะว่าแตงกวาเจ็บกับอดีตมาก"พัชรินทร์เห็นความเอาแต่ใจของโนอาห์แล้วเธอก็จำต้องเอ่ยเสียงแข็งออกมาอย่างไม่พอใจเธอว่าเวลาสามวันนี้มันน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับตรีรัตน์เพราะสิ่งที่โนอาห์ได้ทำเอาไว้กับตรีรัตน์นั้นทำให้หญิงสาวเจ็บปวดมานานมาก"อย่าพึ่งคุยอะไรกันตอนนี้เลยรอแตงกวาก่อนเถอะ"อคิณตอนนี้ต้องทำตัวเป็นคนกลางไปโดยปริยายเพราะก็เข้าใจในความคิดของโนอาห์และภรรยาของเขาเช่นกัน23.00 น."แม่จะหาทางออกเรื่องนี้ยังไงดีลูก.." ตรีรัตน์นั่งคิดเรื่องนี้อยู่ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงตอนนี้เธอก็ยังคิดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งมองหน้าลูกสาวของเธอที่นอนหลับอยู่ด้วยน้ำตา"ใช่...นี่คือทางเดียวที่จะจบปัญหา" หญิงสาวปาดน้ำตาลวกๆตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอควรจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร01.00 น.ตรีรัตน์เก็บเสื้อผ้าของเธอสองสามชุดและของลูกเธออัดกันไปในกระเป๋าลากใบเดียวเมื่อจัดการเสร็จเธ