“ไม่ลืมอยู่แล้วนัดร้านอาหารหรูแบบนั้นลาบปากฉันเลย”
พิมพรรณพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป
“หึ่..ยัยบ๊องเอ้ย”
ทรงรบส่ายหัวเบาๆพร้อมหยิบสร้อยเพชรขึ้นมาดูเขาจะใช้สิ่งนี้บอกความรู้สึกกับเธอในวันนี้เพราะเบื่อเต็มทนที่จะให้เธอตั้งแง่กลัวว่าเขาจะหาเรื่องแกล้งเธอไม่เว้นแต่ละวัน
เย็นของวัน
หลังจากที่พิมพรรณช่วยพัชรินทร์แพ็คของเสร็จเธอก็รีบขับรถบึ่งมาที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองและเลือกซื้อของขวัญให้กับทรงรบ
"อันนี้แหละคุณน่าจะชอบนะพ่อเลี้ยง"
พิมพรรณเลือกกระเป๋าสตางค์หนังแบรนด์ดังของผู้ชายให้ทรงรบเพราะแห็นของเก่าของเขามันดูไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วและหวังว่าเขาน่าจะชอบ
ครืด
กึกๆ เมื่อขับรถออกจากห้างสรรพสินค้ามาได้พักใหญ่มุ่งหน้าจะไปที่ร้านอาหารตามที่ทรงรบนัดแต่รถกระบะเจ้ากรรมของเธอก็ดันมากระตุกสองสามทีแล้วดับลงข้างทางในเวลาที่เธอกำลังรีบๆเสียอย่างนั้น"เอ้า...มาเสียอะไรตอนนี้เนี่ยจะถึงเวลานัดแล้วด้วยสิมือถือก็ดันมาแบตหมดอีก...เฮ้อ"
พิมพรรณรีบหยิบมือถือของเธอขึ้นมาดูปรากฏว่าเครื่องก็ดับสนิทเพราะเธอลืมชาร์จแบตตอนนี้ก็ได้แต่รีบออกจากรถแล้วโบกรถที่สัญจรไปมาให้ช่วย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“นั่นไง”
และแล้วความหวังของพิมพรรณก็ดูจะสมหวังเมื่อมีรถเก๋งสีดำของใครบางคนขับผ่านมาเธอจึงรีบโบกให้รถคันนั้นจอด
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ"
เป็นเหมวัตนายอำเภอคนใหม่ที่พึ่งเข้ามาประจำการที่นี่เขากำลังสำรวจพื้นที่เพื่อเพิ่มความคุ้นชินเห็นหญิงสาวโบกมือขอความช่วยเหลือเขาจึงรีบจอดแลชะลดกระจกรถลงเพื่อถามความต้องการของเธอ
"พอดีรถฉันเสียน่ะค่ะช่วยโทรหาช่างให้หน่อยได้ไหมคะ"
พิมพรรณรีบบอกความต้องการของเธอไปทันที
ร้านอาหาร
"หวังว่าคุณจะมาตามนัดนะพิม"
ตอนนี้ทรงรบนั่งรอพิมพรรณอยู่ร้านอาหารตอนนี้ก็ใกล้เวลานัดเต็มทีแล้วเขายังไม่เห็นว่าจะมีวี่แววหญิงสาวจะโผล่มาจึงมองนาฬิกาที่ข้อมือด้วยความกังวลใจ
ทางด้านพิมพรรณกว่าจะรอรถที่อู่มารับก็ปาไปพักใหญ่
"ต้องเอาไว้ที่นี่วันสองวันนั่นแหละครับผมว่ามันน่าจะหลายอาการเลย"
เมื่อรถมาถึงอู่ช่างก็มาตรวจสอบอาการเขาขมวดคิ้วนิดหน่อยคิดว่าวันเดียวคงจะซ่อมไม่เสร็จแถมยังต้องต่อคิวซ่อมจากคันอื่นอีกด้วย
"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ...เอาไงดีล่ะทีนี้"
พิมพรรณมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดแถมมองเวลาแล้วตอนนี้เธอก็เลยเวลานัดของทรงรบมานานแล้วด้วย
20.00 น.
"คุณเล่นตลกกับผมอีกแล้วเหรอ"
ทรงรบนั่งรอพิมพรรณหลังจากเลนเวลานัดมาร่วมสองชั่วโมงอาหารราคาแพงที่สั่งมาเรียงรายเขาก็ไม่แตะสักคำเพราะรู้สึกโกรธที่เห็นหญิงสาวยังจะแกล้งเขาอยู่อีกในเวลาเช่นนี้เขานั่งมองสร้อยในมือพร้อมเก็บมันเข้ากระเป๋าและเดินออกไปนอกร้านทันทีเพราะรู้ว่าเธอคงไม่มาแล้วเล่นปิดเครื่องหนีเขาแบบนี้
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งฉัน"
“ไม่เป็นไรครับ”
พิมพรรณวานให้เหมวัตขับรถมาส่งเธอที่ร้านอาหารเพราะรู้ว่าเขาเป็นนายอำเภอคนใหม่จึงกล้าไว้ใจให้เขามาส่งพอลงรถได้เธอก็รีบขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วและวิ่งเข้าร้านไปทันทีหวังในใจว่าเขายังจะอยู่รอเธอ
"คนที่จองโต๊ะนี้ไปไหนแล้วคะ"
พิมพรรณวิ่งเข้ามาในร้านได้พอมายืนหน้าโต๊ะหมายเลขที่ทรงรบบอกกับเธอกลับเห็นแต่ความว่างเปล่าและพนักงานที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่เท่านั้น
"พึ่งกลับไปเมื่อกี้เองค่ะ"
"อ้าว..งั้นเหรอคะ"
พิมพรรณหน้าเสียขึ้นมาทันทีเธอหวังว่าเขาจะยอมฟังเธออธิบายเรื่องที่เธอมาไม่ทันในวันนี้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ทรงรบนั่งดื่มตั้งแต่กลับมาเขาเริ่มถอดใจที่จะพูดความในใจกับพิมพรรณเมื่อเธอเห็นเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเป็นเล่นไปหมดเขาคิดว่าหากเขาพูดอะไปแล้วเธอก็คงไม่วายว่าเขาหยอกเธอเล่นอีกตามเคย
21.30 น.
"คุณพอดีมือถือฉันแบตหมดรถก็..พ.."
กว่าพิมพรรณจะหารถกลับบ้านมาได้เธอก็มาถึงที่ไร่ปาไปสามทุ่มกว่าเมื่อมาถึงเห็นทรงรบนั่งดื่มจนหน้าแดงอยู่ที่โซฟาเธอก็รีบอธิบายกับเขาทันทีด้วยความรู้สึกผิด
"แก้ตัวเพื่ออะไรในเมื่อคุณอยากจะแกล้งผม..สนุกนักใช่ไหม"
ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยจบทรงรบก็เอ่ยเสียงห้วนดักทางมาก่อน
"ไม่ใช่แบบนั้นฉัน.."
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้วผมหวังอะไรกับคุณไม่ได้จริงๆ"
"นี่คุณคิดจะฟังฉันอธิบายบ้างไหม"
พิมพรรณขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงมองว่าเธอจะต้องคอยแกล้งเขาตลอดเวลาด้วย
"ฟังคำของคุณงั้นเหรอ..ผมว่ามันไม่น่าจะใช่คำอธิบายมันน่าจะเป็นเรื่องที่คุณสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ให้ถูกจับได้ว่าแกล้งให้ผมคอยเก้อต่างหากเล่า"
ทรงรบลุกขึ้นเต็มความสูงก้าวเท้ายาวมาประชิดตัวพิมพรรณในเวลาไม่กี่วิแล้วแผดเสียงใส่เธอด้วยความน้อยใจ
"งั้นก็แล้วแต่คุณจะคิด"
พิมพรรณผลักร่างสูงออกแล้วเงยหน้ามองเขาอย่างไม่พอใจ
"หึ่...มีเมียกับเค้าทั้งทีก็ไม่เคยจะมีความสุขเหมือนคู่รักคนอื่นๆเค้าเลย"
ทรงรบกัดฟันกรอดพร้อมหันหน้ามองไปทางอื่น
"ใครสั่งให้คุณเลือกฉันเป็นเมียล่ะ...ใครสั่งให้เลือกคนที่ไม่ได้รักกันมาเป็นคู่ชีวิตล่ะ." พิมพรรณอ้าปากค้างเขาแม้ไม่ฟังเธออธิบายแล้วยังมาโทษให้เรื่องทุกอย่างเป็นความผิดของเธออีกในเมื่อเขาเป็นคนสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมาเอง“..อื้มม.” ทรงรบใช้มือหนาทั้งสองบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้และก้มลงมาบดจูบเธอพักใหญ่จนหนำใจเพี๊ยะ ...พิมพรรณพ้นพันธนาการได้เธอก็รีบปาดน้ำตาแล้วยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าทรงรบเพื่อเรียกสติในขณะที่เขาทำกับเธอในสิ่งที่ไม่ควรทำ"หึ่.." ทรงรบยืนกัดฟันกรอดที่เห็นท่าทีรังเกียจเขาจากเธอเขานั่งดื่มย้อมใจต่อคราแรกหวังว่าหลังแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะดีขึ้นแต่ไม่เลยมันเหมือนเดิมและพอมาวันนี้มันกลับดูว่าเขาและเธอมีปัญหากันหนักขึ้นไปอีกวันต่อมา“ฉันจะไปช่วยดูแลแตงกวาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นอาทิตย์” พิมพรรณเก็บกระเป๋าออกจากห้องมาในช่วงเช้าเธอเอ่ยบอกทรงรบที่กำลังนั่งดื่มกาแฟโดยที่ไม่มองหน้าของเขาและเดินออกไปขึ้นรถของภูผาที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้านทรงรบมองตามหลังพิมพรรณอย่างไม่พอใจในเพราะไม่ยอมบอกเขาก่อนว่าจะไปดูแลตรีรัตน์ด้วยตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้มาว่าคนที่ไร่เริงฤทธิ์จ
“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน” พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน“ไม่ปล่อย”“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ“ใช่ผมมันบ้า” เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งพลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป“ว้ายยย” ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ไ
อำเภอ“ตาครับ”ทรงรบมาถึงที่อำเภอเห็นเริงฤทธิ์กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา“อ้าวพ่อเลี้ยงมาพอดีเลยนี่คุณเหมนายอำเภอคนใหม่ของที่นี่”“อ๋อ..ครับสวัสดีครับ”เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับเริงฤทธิ์คราแรกเขาก็มองอย่างไม่เป็นมิตรทันทีเพราะจำได้ว่าคนๆนี้อยู่กับพิมพรรณในวันที่เขาไปซื้ออะไหล่รถยนต์“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวตาไปทักทายตาทิ้งหน่อยไม่ได้เจอกันนานเลย”เริงฤทธิ์แนะนำทั้งคู่เสร็จก็เดินออกไปหาคนรู้จัก"เจอคุณก็ดีเลยพอดีคุณพิมลืมของไว้ที่รถผมน่ะครับฝากคุณคืนเธอเลยแล้วกันนะครับพ่อเลี้ยง"เมื่อเห็นทรงรบเหมวัตก็ยื่นของที่พิมพรรณลืมเอาไว้ให้กับทรงรบทันทีเพราะเห็นว่าอยู่บ้านเดียวกัน"อ่อครับ...แล้วทำไมของภรรยาผมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ"ทรงรบรับถุงกระดาษมาอย่างสงสัย"อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับวันนั้นผมเจอคุณพิมที่ข้างทาง..."เหมวัตเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทรงรบฟังว่าวันนั้นเขาเป็นคนพาเธอเอารถไปซ่อมและไปส่งเธอที่ร้านอาหารด้วยวันก่อนก็พึ่งจะพาเธอปรับรถเพราะช่างโทรหาเธอไม่ติด"ครับผมเข้าใจแล้ว"ทรงรบถึงกับตัวชาวาบหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวจากเหมวัตครู่ต่อมา"ผมขอให้ทุกคนตรวจตราดูกันหน่
"ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิมรักตั้งแต่แรกเห็น"ทรงรบรีบรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดทางด้านหลังของเธอ"รักเหรอ...รักแต่ทำให้ฉันเจ็บแบบนี้เหรอ"หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาอีกรอบ"พิมผมขอโทษ"เพี๊ยะพิมพรรณหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มเธอยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าของเขาด้วยความโกรธ"คุณจะตบผมอีกกี่ครั้งก็ได้ผมยอม"ทรงรบยังคงยืนนิ่งหากการที่เธอตบเขาแล้วมันทำให้ความเจ็บในใจของเธอทุเลาลงได้เขาก็ยอมเพี๊ยะๆๆๆ "ฮื่อๆๆๆ.. ทำกับฉันแบบนี้ทำไมๆ...ฮือๆๆ"พิมพรรณฟาดมือเรียวไปที่หน้าของชายหนุ่มไม่ยั้งยิ่งเธอเห็นเขายอมรับความเจ็บเธอก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นหากเขาไม่ทำมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้เธอโกรธเขาที่เขาทำเธอเจ็บยิ่งกว่านั้นคือเขาทำลายความไว้ใจของเธอหมดสิ้นแล้วเธอคิดว่าเขาจะเกรงใจให้เกียรติเธอที่เธอคิดทั้งหมดมันผิดเขาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ชอบใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้หญิง"ผมขอโทษ"ทรงรบกอดพิมพรรณเอาไว้เมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอสักนิด"ผมแค่หึงคุณเท่านั้นผมผิดเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำมันอีกยกโทษให้ผมนะพิม"ชายหนุ่มกอดร่างบางที่ยัง
18.00 น.“ขอบคุณพัชมากที่ช่วยดูแลพี่”อคิณยกมือของเขามาลูบเบาๆที่มือของพัชรินทร์เขาทานข้าวไปมองคนที่ป้อนไปด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างน้อยในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รู้ว่าหญิงสาวไม่ทิ้งเขาให้นอนเจ็บอยู่ลำพัง“อยู่เฉยๆค่ะถ้าอยากให้พัชดูแลต่อ”หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มวางข้างตัวของเขาและเอ่ยเสียงแข็งสายตาของเธอดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ยังยิ้มได้อยู่ดี21.00 น.พิมพรรณกล่อมหลานของเธอทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้วเมื่อจะเตรียมตัวลงนอนเธอก็มีอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทรงรบนั้นหาหมอนหาที่นอนมานอนอยู่ข้างๆเตียงที่เธอนอนอยู่"ผมนอนตรงนี้นะคุณ" ทรงรบเอ่ยพร้อมทิ้งตัวลงนอน"คุณกลับไปเถอะฉันดูหลานคนเดียวได้""ไม่ได้ยังไงผมก็จะอยู่จะปล่อยให้คุณกับหลานอยู่กันตามลำพังได้ยังไง""แต่""ไม่งั้นผมจะฟ้องตาคุณว่าคุณไล่ผม"ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะพูดจบทรงรบก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาก่อน"หึ่ม"คำขู่ของเขาดูเหมือนจะได้ผลเพราะมันทำให้หญิงสาวถียงอะไรไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายเล่นเอาตาเธอมาขู่เสียอย่างนั้น"คุณวันนั้นในจดหมายคุณรู้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคุณ"ทรงรบเอ่ยขึ
"น้ำเมยอย่าแกล้งน้องสิครับ..โอ๋ๆไม่ร้องนะครับน้ำปาย"ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงอุ้มน้ำปายขึ้นมาโอ๋และหันไปบอกกับน้ำเมยน้ำเสียงเรียบว่าเล่นแบบนี้ไม่ได้"ดูหลานยังไงคะ"พิมพรรณได้ยิรนเสียงหลานร้องจึงวิ่งมาดูเธอรู้ว่าหลานเธอคงแกล้งกันอีกเช่นเคยเอไม่โทษหลานแต่โทษทรงรบมากกว่าที่หลานอยุ่ใกล้ๆกับมือกลับดูแลหลานไม่ได้"ไม่คิดว่าจะมือไวแบบนี้นี่นาคุณไปทำกับข้าวเถอะผมจัดการได้"ทรงรบหน้าเจื่อนเล็กน้อยไหนจะต้องโอ๋หลานไหนจะต้องถูกเมียดุอีก"คุณนี่นะ"พิมพรรณส่ายหัวเบาๆแล้วเดินกลับไปทำอาหารในครัวต่อ"มองตาแป๋วเลยหาเรื่องให้ลุงโดนดุอีกแล้วนะเราเจ้าตัวแสบ"หลังจากที่พิมพรรณกลับไปแล้วทรงรบก็หันมาคุยกับน้ำเมยที่กำลังนั่งตาแป๋วมองเขาอยู่จึงรีบเกาพุงน้อยๆของหลานเขาด้วยความหมั่นเขี้ยววันต่อมา"ป้อ..ป้อ"ช่วงสายของวันนี้เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วจึงรีบคลานเข้าไปหาอย่างรวดเร็วทั้งส่งเสียงเรียกแค่พ่อเท่านั้นทำเอาพัชรินทร์ถึงกับแอบน้อยใจเล็กๆ"เจ้าสองแสบ..พ่อคิดถึงลูกมากๆเลยรู้ไหม"อคิณมาถึงก้นั่งกับพื้นกอดหอมลูกๆของเขายกใหญ่ด้วยความคิดถึง"ซนมากไหมคะ"พัชรินทรน์หันมาคุยกับพิมพรรณและทรงรบที่ยืนยิ้
“พวกคุณมันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาขู่ผมดีกว่ากรุณากร่างให้ถูกที่เพราะที่นี่มันถิ่นผม...ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานของผมยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป”บรรจงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคนและเดินหนีกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่ใส่ใจ“หึ่..คนแบบนี้มันยังกินดีอยู่ดีมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน”ในขณะที่เหมวัตขับรถกลับพร้อมกับอคิณและทรงรบเขาก็อดบ่นไม่ได้ถึงความมั่งมีของเสี่ยบรรจงที่มาจากความทุกข์ร้อนของคนอื่นแต่ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ดีกินดีได้อีก“ผมพอจะรู้แล้วว่าอาวุธพวกนั้นเป็นของใคร”อคิณมั่นใจว่าอาวุธที่เขาแอบเห็นที่รถขนของข้างบ้านบรรจงเป็นชื่อบริษัทเดียวกับคนที่เขารู้จักแต่นั่นจะใช่ของจริงหรือไม่มันก็อีกเรื่อง“เหรอครับ”เหมวัตถามเสียงสูงด้วยความอยากรู้ทางด้านเสี่บบรรจงตอนนี้เข้าหัวเสียอย่างมากเพราเหมือนถูกเด็กถอนหงอกจึงอยากจะกำจัดคนพวกนั้นเสียตอนนี้เลย“พวกมึงอย่าให้มันออกไปจากถิ่นนี้ได้..ไม่เคยมีใครกล้าหยามหน้ากูถึงที่นี่พวกมันรู้จักกูน้อยเกินไป”บรรจงแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์“ครับเสี่ยมันไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนครับ”ลูกน้องคนสนิทของบรรจงรับคำและเตรียมตัวจัดการสิ่งที่บรรจงสั่งอย่างรวดเร็วเพราะ
สองวันต่อมาตอนนี้ทรงรบฟื้นแล้วเขาค่อนข้างเสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แสดงความเสียใจนั้นออกมาแต่อย่างใดเพราะคิดว่ายังไงมันก็ต้องมีทางรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้“ผมหิวน้ำ”ทรงรบเอ่ยเสียงแหบพร่าเรียกพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้หมอห้ามเขาขยับตัวภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่พิมพรรณที่ต้องมาคอยดูแลเขา“นี่ค่ะค่อยๆดูดนะคะ”พิมพรรณดีใจมากในวินาทีที่ทรงรบตื่นขึ้นมาเมื่อคืนตอนนี้เธอคอยดูแลเขาทุกอย่างไม่ห่างไปไหนเพราะตอนที่เธอรู้ว่าเขาถูกยิงใจของเธอแทบสลายและพึ่งได้รู้ตัวเองว่าเธอมีใจให้เขาเหมือนกัน“คิณเป็นยังไงบ้าง”ทรงรบไม่ลืมที่จะถามถึงเพื่อนของเขาเพราะวินาทีที่เขาหลับไปตอนถูกยิงเขาเห็นว่าเพื่อนของเขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า“ตอนนี้คุณคิณยังไม่ออกจากไอซียูเลยค่ะ”พิมพรรณเอ่ยเสียงอ่อนตอนนี้เธอสงสารพัชรินทร์จับใจเพราะไม่มีวินาทีไหนเลยที่พัชรินทร์นั้นจะไม่มีน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าอคิณได้รับอันตราย“อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ทรงรบขมวดคิ้วเป็นกังวล“ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายเลยค่ะ” พิมพรรณส่ายหัวเบาๆ“คุณเหม” พิมพรรณหันไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดเข้ามา“เป็นยังไงบ้างครับผมได้ข่