ก๊อกๆๆ
“เป็นยังไงบ้างคะคุณพิมอยู่โรงพยาบาลแล้วใช่ไหมคะ”
ตั้งแต่อคิณออกไปพัชรินทร์ก็หลับไม่ลงเพราะเป็นห่วงตรีรัตน์เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงรีบเปิดอย่างรวดเร็ว
“คุณพิมอยู่กับทรงรบตอนนี้แตงกวาคลอดเองไมได้หมอต้องผ่า”
“อะไรนะคะ..จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย”
พัชรินทร์หน้าเสียจนอีกฝ่ายเห็นได้ชัดเพราะรู้ว่าตรีรัตน์คงต้องเจ็บปวดมากแน่นอน แววตาอคิณไหววูบเล็กน้อยเขาดึงตัวพัชรินทร์เข้ามากอดเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกสงสารเธอ
“เอ่อ..ปล่อยค่ะ”
พัชรินทร์รีบผลักอคิณออกจากตัวของเธออย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่มีผลเขายังคงกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย
“ตอนนั้นพัชคงทรมานมากสินะ”
อคิณเอ่ยเสียงอ่อนเขาพรมจูบกระหม่อมร่างบางเบาๆ
“ปล่อยค่ะพัชจะเข้าไปนอนแล้ว”
พัชรินทร์อาศัยจังหวะที่อคิณเผลอผลักเขาออกและรีบเข้าห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว อคิณยืนมองตามหลังหญิงสาวเมื่อเธอเข้าห้องไปแล้วเขาก็ปิดประตูบ้านเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว
โรงพยาบาล
“เจ้าแฝดล่ะ” พิมพรรณเห็นพัชรินทร์เดินเข้ามาพร้อมกับอคิณจึงมองหาเจ้าสองแฝด
“อยู่กับตาไม่ยอมให้เอามาด้วย”
“หวงเหลือเกินนะ...มาดูหลานสิ”
พิมพรรณบุ้ยปากเบาๆที่ตาของเธอดูหวงเหลนทั้งสองเสียเหลือเกินทั้งรีบจูงมือให้พัชรินทร์เดินมาดูหน้าเด็กหญิงตัวน้อยที่พึ่งคลอดออกมาด้วย
“ลูกครึ่งเหรอ”
พัชรินทร์ยิ้มอ่อนเมื่อเห็นว่าหน้าตาของเด็กหญิงออกลูกครึ่งอย่างเห็นได้ชัด
“อืม” พิมพรรณพยักหน้าเบาๆ
“ลองให้นมดูหรือยัง” พัชรินทร์หันไปหาตรีรัตน์
“พยาบาลมาสอนแล้วล่ะค่ะ”
“เรื่องของใช้ไม่ต้องห่วงนะพี่ซื้อเตรียมไว้ให้ที่บ้านหมดแล้ว”
พัชรินทร์บอกให้ตรีรันตน์ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้เพราะของใช้จำเป็นทุกอย่างรวมถึงค่ารักษาพยาบาลอคิณเอ่ยปากว่าจะออกให้เองทั้งหมดเพราะเห็นว่าตรีรัตน์นั้นไม่มีใคร
“ขอบคุณพี่ๆมากเลยนะคะ”
ตรีรัตน์ยกมือไหว้ทุกคนด้วยรอยยิ้มเป็นบุญขอองเธอเหลือเกินที่มาเจอคนดีๆ
“ไม่เป็นไรจะ” พัชรินทร์ลูบหัวตรีรัตน์เบาๆ
ทรงรบที่ยืนมองเด็กหญิงตัวน้อยในห่อผ้านานแล้วเขาเลยเอื้อมมือไปช้อนตัวเพื่อจะอุ้ม
“ต้องอุ้มแบบนี้ใช่ไหม”
เมื่อรู้สึกหว่าหลานตัวอ่อนมากจึงสะกิดเรียกพิมพรรณให้ดูเขาว่าเขานั้นอุ้มถูกหรือไม่
“พ่อเลี้ยงอุ้มหลานอะไรแบบนั้น..รวบให้ตัวอยู่บนแขนเดียวหลานยังตัวอ่อนอยู่”
พิมพรรณรีบเข้าไปสองคนอยากจะอุ้มหลานแต่อุ้มไม่เป็นโดยเร็วก่อนที่เด็กหญิงจะถูกอุ้มอย่างผิดวิธี
“อ้าวเหรอ..โทษทีนะเจ้าตัวเล็กลุงไม่ได้ตั้งใจ” ทรงรบหน้าเสียเล็กน้อย
“อยากมีบ้างล่ะสิ” อคิณเอ่ยหยอกทรงรบ
“ก็อยากได้อยู่นะ” ชายหนุ่มพูดไปสายตาของเขาก็เอาแต่จ้องพิมพรรณไป พิมพรรณบุ้ยปากใส่ทรงรบเบาๆเพราะรู้ว่าเขาพูดเพื่อกวนประสาทเธอเช่นเดิมเขาและเธอจะมีลูกด้วยกันได้อย่างไรในเมื่อไม่ได้นอนด้วยกันที่สำคัญไม่ได้รักกันด้วย
20.00 น.
“แตงกวาไม่มีญาติที่ไหนเลยเหรอ” อคิณนั่งมองลูกแฝดของเขาที่พึ่งจะหลับไป
“ค่ะ..เธอได้ทุนเรียนอยู่กรุงเทพพอเธอท้องเธอก็เลยออกจากมหาลัยกลับมาอยู่ที่นี่บ้านเก่าของยายเธอ”
พัชรินทร์หลบสายตาลงเล็กน้อย
“แล้วแฟนแตงกวาล่ะ”
เป็นเรื่องที่อคิณอยากรู้มานานแล้วเหมือนกันแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเสียที พัชรินทร์ส่ายหัวเป็นคำตอบเธอไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องแฟนเก่าของตรีรัตน์เพราะไม่มี
“อืม..คงเป็นความผิดพลาดของวัยรุ่นแบบนั้นใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะแตงกวาเป็นเด็กดี...เธอแค่หัวอ่อนเกินไปเท่านั้นพัชขอไม่พูดถึงเรื่องของน้องนะคะแต่ก็ขอบคุณมากที่พี่คิณออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับเธอ”
“ไม่เป็นไรอยู่แล้ว”
“พัชถามจริงๆนะคะพี่คิณจะกลับไปเมื่อไรคะ”
พัชรินทร์เลยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ทำไมพัชถึงถามแบบนี้พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะอยู่ดูแลพัชกับลูก”
“แล้วบริษัทล่ะคะพี่คิณก็รู้ว่าคุณแม่รักบริษัทนี้แค่ไหน”
“พี่รู้พี่ไม่มีวันปล่อยให้บริษัทเป็นอะไรอยู่แล้วมาร์คเป็นคนมีฝีมือเค้าจัดการทุกอย่างได้ดีตอนนี้หน้าที่ของพี่คือรับผิดชอบพัชกับลูก”
“ไม่ว่าพัชจะพูดจะทำยังไงพี่คิณก็จะไม่กลับไปใช่ไหมคะ”
พัชรินทร์เอ่ยออมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
“พัชก็รู้ว่าพี่เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”
อคิณมองตาหญิงสาวให้เธอได้เห็นความจริงใจในตาของเขา
“แม้จะรู้ว่าพัชอึดอัดแบบนั้นเหรอคะ”
พัชรินทร์พูดจบก็กำมือแน่นก้มหน้างุด อคิณลูบหัวหญิงสาวด้วยแววตาไหววูบและเดินกลับไปนอนในห้องของตัวเองเขารู้สึกปวดใจไม่น้อยเหมือนกันที่ต้องทำให้เธอลำบากใจแต่เขาก็ทิ้งเธอกับลูกไปไม่ได้มันคือความรับผิดชอบของเขา
วันต่อมา
ไร่ภิภพ
“ไปส่งป้านิ่มแล้วเหรอคุณ”
ทรงรบทักพิมพรรณเมื่อเห็นว่าเธอพึ่งเข้ามาในบ้าน
“อืม..เห็นหมอบอกว่าพรุ่งนี้เช้าแตงกวากับลูกก็กลับได้แล้ว”
หญิงสาวพยักหน้ารับวันนี้เธอเปลี่ยนเวรกับป้านิ่มไปเฝ้าตรีรัตน์เพราะเธอต้องช่วยงานในไร่เนื่องจากมีของส่งเยอะพอสมควรไม่อยากให้พัชรินทร์ต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว
“อืม...”
“งั้นฉันไปไร่ก่อนนะคุณ”
“เย็นนี้อย่าลืมนะคุณ”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจะออกไปทรงรบก็ไม่ลืมที่จะเตือนเรื่องเย็นนี้เพราะเขาจองโต๊ะเอาไว้แล้ว
“ไม่ลืมอยู่แล้วนัดร้านอาหารหรูแบบนั้นลาบปากฉันเลย” พิมพรรณพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป“หึ่..ยัยบ๊องเอ้ย” ทรงรบส่ายหัวเบาๆพร้อมหยิบสร้อยเพชรขึ้นมาดูเขาจะใช้สิ่งนี้บอกความรู้สึกกับเธอในวันนี้เพราะเบื่อเต็มทนที่จะให้เธอตั้งแง่กลัวว่าเขาจะหาเรื่องแกล้งเธอไม่เว้นแต่ละวันเย็นของวัน หลังจากที่พิมพรรณช่วยพัชรินทร์แพ็คของเสร็จเธอก็รีบขับรถบึ่งมาที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองและเลือกซื้อของขวัญให้กับทรงรบ"อันนี้แหละคุณน่าจะชอบนะพ่อเลี้ยง"พิมพรรณเลือกกระเป๋าสตางค์หนังแบรนด์ดังของผู้ชายให้ทรงรบเพราะแห็นของเก่าของเขามันดูไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วและหวังว่าเขาน่าจะชอบครืด กึกๆ เมื่อขับรถออกจากห้างสรรพสินค้ามาได้พักใหญ่มุ่งหน้าจะไปที่ร้านอาหารตามที่ทรงรบนัดแต่รถกระบะเจ้ากรรมของเธอก็ดันมากระตุกสองสามทีแล้วดับลงข้างทางในเวลาที่เธอกำลังรีบๆเสียอย่างนั้น"เอ้า...มาเสียอะไรตอนนี้เนี่ยจะถึงเวลานัดแล้วด้วยสิมือถือก็ดันมาแบตหมดอีก...เฮ้อ" พิมพรรณรีบหยิบมือถือของเธอขึ้นมาดูปรากฏว่าเครื่องก็ดับสนิทเพราะเธอลืมชาร์จแบตตอนนี้ก็ได้แต่รีบออกจากรถแล้วโบกรถที่สัญจรไปมาให้ช่วยครึ่งชั่วโมงต่อมา“นั่นไง” และ
"ใครสั่งให้คุณเลือกฉันเป็นเมียล่ะ...ใครสั่งให้เลือกคนที่ไม่ได้รักกันมาเป็นคู่ชีวิตล่ะ." พิมพรรณอ้าปากค้างเขาแม้ไม่ฟังเธออธิบายแล้วยังมาโทษให้เรื่องทุกอย่างเป็นความผิดของเธออีกในเมื่อเขาเป็นคนสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมาเอง“..อื้มม.” ทรงรบใช้มือหนาทั้งสองบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้และก้มลงมาบดจูบเธอพักใหญ่จนหนำใจเพี๊ยะ ...พิมพรรณพ้นพันธนาการได้เธอก็รีบปาดน้ำตาแล้วยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าทรงรบเพื่อเรียกสติในขณะที่เขาทำกับเธอในสิ่งที่ไม่ควรทำ"หึ่.." ทรงรบยืนกัดฟันกรอดที่เห็นท่าทีรังเกียจเขาจากเธอเขานั่งดื่มย้อมใจต่อคราแรกหวังว่าหลังแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะดีขึ้นแต่ไม่เลยมันเหมือนเดิมและพอมาวันนี้มันกลับดูว่าเขาและเธอมีปัญหากันหนักขึ้นไปอีกวันต่อมา“ฉันจะไปช่วยดูแลแตงกวาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นอาทิตย์” พิมพรรณเก็บกระเป๋าออกจากห้องมาในช่วงเช้าเธอเอ่ยบอกทรงรบที่กำลังนั่งดื่มกาแฟโดยที่ไม่มองหน้าของเขาและเดินออกไปขึ้นรถของภูผาที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้านทรงรบมองตามหลังพิมพรรณอย่างไม่พอใจในเพราะไม่ยอมบอกเขาก่อนว่าจะไปดูแลตรีรัตน์ด้วยตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้มาว่าคนที่ไร่เริงฤทธิ์จ
“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน” พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน“ไม่ปล่อย”“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ“ใช่ผมมันบ้า” เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งพลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป“ว้ายยย” ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ไ
อำเภอ“ตาครับ”ทรงรบมาถึงที่อำเภอเห็นเริงฤทธิ์กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา“อ้าวพ่อเลี้ยงมาพอดีเลยนี่คุณเหมนายอำเภอคนใหม่ของที่นี่”“อ๋อ..ครับสวัสดีครับ”เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับเริงฤทธิ์คราแรกเขาก็มองอย่างไม่เป็นมิตรทันทีเพราะจำได้ว่าคนๆนี้อยู่กับพิมพรรณในวันที่เขาไปซื้ออะไหล่รถยนต์“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวตาไปทักทายตาทิ้งหน่อยไม่ได้เจอกันนานเลย”เริงฤทธิ์แนะนำทั้งคู่เสร็จก็เดินออกไปหาคนรู้จัก"เจอคุณก็ดีเลยพอดีคุณพิมลืมของไว้ที่รถผมน่ะครับฝากคุณคืนเธอเลยแล้วกันนะครับพ่อเลี้ยง"เมื่อเห็นทรงรบเหมวัตก็ยื่นของที่พิมพรรณลืมเอาไว้ให้กับทรงรบทันทีเพราะเห็นว่าอยู่บ้านเดียวกัน"อ่อครับ...แล้วทำไมของภรรยาผมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ"ทรงรบรับถุงกระดาษมาอย่างสงสัย"อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับวันนั้นผมเจอคุณพิมที่ข้างทาง..."เหมวัตเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทรงรบฟังว่าวันนั้นเขาเป็นคนพาเธอเอารถไปซ่อมและไปส่งเธอที่ร้านอาหารด้วยวันก่อนก็พึ่งจะพาเธอปรับรถเพราะช่างโทรหาเธอไม่ติด"ครับผมเข้าใจแล้ว"ทรงรบถึงกับตัวชาวาบหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวจากเหมวัตครู่ต่อมา"ผมขอให้ทุกคนตรวจตราดูกันหน่
"ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิมรักตั้งแต่แรกเห็น"ทรงรบรีบรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดทางด้านหลังของเธอ"รักเหรอ...รักแต่ทำให้ฉันเจ็บแบบนี้เหรอ"หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาอีกรอบ"พิมผมขอโทษ"เพี๊ยะพิมพรรณหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มเธอยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าของเขาด้วยความโกรธ"คุณจะตบผมอีกกี่ครั้งก็ได้ผมยอม"ทรงรบยังคงยืนนิ่งหากการที่เธอตบเขาแล้วมันทำให้ความเจ็บในใจของเธอทุเลาลงได้เขาก็ยอมเพี๊ยะๆๆๆ "ฮื่อๆๆๆ.. ทำกับฉันแบบนี้ทำไมๆ...ฮือๆๆ"พิมพรรณฟาดมือเรียวไปที่หน้าของชายหนุ่มไม่ยั้งยิ่งเธอเห็นเขายอมรับความเจ็บเธอก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นหากเขาไม่ทำมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้เธอโกรธเขาที่เขาทำเธอเจ็บยิ่งกว่านั้นคือเขาทำลายความไว้ใจของเธอหมดสิ้นแล้วเธอคิดว่าเขาจะเกรงใจให้เกียรติเธอที่เธอคิดทั้งหมดมันผิดเขาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ชอบใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้หญิง"ผมขอโทษ"ทรงรบกอดพิมพรรณเอาไว้เมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอสักนิด"ผมแค่หึงคุณเท่านั้นผมผิดเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำมันอีกยกโทษให้ผมนะพิม"ชายหนุ่มกอดร่างบางที่ยัง
18.00 น.“ขอบคุณพัชมากที่ช่วยดูแลพี่”อคิณยกมือของเขามาลูบเบาๆที่มือของพัชรินทร์เขาทานข้าวไปมองคนที่ป้อนไปด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างน้อยในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รู้ว่าหญิงสาวไม่ทิ้งเขาให้นอนเจ็บอยู่ลำพัง“อยู่เฉยๆค่ะถ้าอยากให้พัชดูแลต่อ”หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มวางข้างตัวของเขาและเอ่ยเสียงแข็งสายตาของเธอดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ยังยิ้มได้อยู่ดี21.00 น.พิมพรรณกล่อมหลานของเธอทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้วเมื่อจะเตรียมตัวลงนอนเธอก็มีอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทรงรบนั้นหาหมอนหาที่นอนมานอนอยู่ข้างๆเตียงที่เธอนอนอยู่"ผมนอนตรงนี้นะคุณ" ทรงรบเอ่ยพร้อมทิ้งตัวลงนอน"คุณกลับไปเถอะฉันดูหลานคนเดียวได้""ไม่ได้ยังไงผมก็จะอยู่จะปล่อยให้คุณกับหลานอยู่กันตามลำพังได้ยังไง""แต่""ไม่งั้นผมจะฟ้องตาคุณว่าคุณไล่ผม"ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะพูดจบทรงรบก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาก่อน"หึ่ม"คำขู่ของเขาดูเหมือนจะได้ผลเพราะมันทำให้หญิงสาวถียงอะไรไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายเล่นเอาตาเธอมาขู่เสียอย่างนั้น"คุณวันนั้นในจดหมายคุณรู้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคุณ"ทรงรบเอ่ยขึ
"น้ำเมยอย่าแกล้งน้องสิครับ..โอ๋ๆไม่ร้องนะครับน้ำปาย"ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงอุ้มน้ำปายขึ้นมาโอ๋และหันไปบอกกับน้ำเมยน้ำเสียงเรียบว่าเล่นแบบนี้ไม่ได้"ดูหลานยังไงคะ"พิมพรรณได้ยิรนเสียงหลานร้องจึงวิ่งมาดูเธอรู้ว่าหลานเธอคงแกล้งกันอีกเช่นเคยเอไม่โทษหลานแต่โทษทรงรบมากกว่าที่หลานอยุ่ใกล้ๆกับมือกลับดูแลหลานไม่ได้"ไม่คิดว่าจะมือไวแบบนี้นี่นาคุณไปทำกับข้าวเถอะผมจัดการได้"ทรงรบหน้าเจื่อนเล็กน้อยไหนจะต้องโอ๋หลานไหนจะต้องถูกเมียดุอีก"คุณนี่นะ"พิมพรรณส่ายหัวเบาๆแล้วเดินกลับไปทำอาหารในครัวต่อ"มองตาแป๋วเลยหาเรื่องให้ลุงโดนดุอีกแล้วนะเราเจ้าตัวแสบ"หลังจากที่พิมพรรณกลับไปแล้วทรงรบก็หันมาคุยกับน้ำเมยที่กำลังนั่งตาแป๋วมองเขาอยู่จึงรีบเกาพุงน้อยๆของหลานเขาด้วยความหมั่นเขี้ยววันต่อมา"ป้อ..ป้อ"ช่วงสายของวันนี้เมื่อเจ้าแฝดทั้งสองเห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วจึงรีบคลานเข้าไปหาอย่างรวดเร็วทั้งส่งเสียงเรียกแค่พ่อเท่านั้นทำเอาพัชรินทร์ถึงกับแอบน้อยใจเล็กๆ"เจ้าสองแสบ..พ่อคิดถึงลูกมากๆเลยรู้ไหม"อคิณมาถึงก้นั่งกับพื้นกอดหอมลูกๆของเขายกใหญ่ด้วยความคิดถึง"ซนมากไหมคะ"พัชรินทรน์หันมาคุยกับพิมพรรณและทรงรบที่ยืนยิ้
“พวกคุณมันเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่ามาขู่ผมดีกว่ากรุณากร่างให้ถูกที่เพราะที่นี่มันถิ่นผม...ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นงานของผมยังไงก็ต้องดำเนินต่อไป”บรรจงลุกขึ้นชี้หน้าทุกคนและเดินหนีกลับเข้าบ้านไปอย่างไม่ใส่ใจ“หึ่..คนแบบนี้มันยังกินดีอยู่ดีมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกัน”ในขณะที่เหมวัตขับรถกลับพร้อมกับอคิณและทรงรบเขาก็อดบ่นไม่ได้ถึงความมั่งมีของเสี่ยบรรจงที่มาจากความทุกข์ร้อนของคนอื่นแต่ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ดีกินดีได้อีก“ผมพอจะรู้แล้วว่าอาวุธพวกนั้นเป็นของใคร”อคิณมั่นใจว่าอาวุธที่เขาแอบเห็นที่รถขนของข้างบ้านบรรจงเป็นชื่อบริษัทเดียวกับคนที่เขารู้จักแต่นั่นจะใช่ของจริงหรือไม่มันก็อีกเรื่อง“เหรอครับ”เหมวัตถามเสียงสูงด้วยความอยากรู้ทางด้านเสี่บบรรจงตอนนี้เข้าหัวเสียอย่างมากเพราเหมือนถูกเด็กถอนหงอกจึงอยากจะกำจัดคนพวกนั้นเสียตอนนี้เลย“พวกมึงอย่าให้มันออกไปจากถิ่นนี้ได้..ไม่เคยมีใครกล้าหยามหน้ากูถึงที่นี่พวกมันรู้จักกูน้อยเกินไป”บรรจงแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์“ครับเสี่ยมันไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนครับ”ลูกน้องคนสนิทของบรรจงรับคำและเตรียมตัวจัดการสิ่งที่บรรจงสั่งอย่างรวดเร็วเพราะ