“นี่มันอะไรคะ” พัชรินทร์เก็บของแล้วพาลูกๆของเธอนั่งที่ลานนั่งเล่นในระหว่างที่เธอเตรียมตัวทำอาหารเย็นแต่สายตาก็พลันเห็นกระเป๋าสองสามใบที่ตั้งอยู่หน้าห้องนอนของเธอจึงหันไปถามอคิณด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“พี่จะมาอยู่ที่นี่ดูแลพัชกับลูกไง”
“งานล่ะคะ”
พัชรินทร์ไม่เข้าใจว่าเขากล้าทิ้งงานมาได้อย่างไรทั้งที่บริษัทที่เขาบริหารงานอยู่เป็นบริษัทที่ดวงสมรนั้นรักมาก
“พี่ให้มาร์คดูแล”
ฟึ่บ อคิณหน้าเจื่อนเมื่อหญิงสาวลากกระเป๋าของเขามาวางไว้ที่หน้าบ้าน
“งั้นก็ไปอยู่ข้างนอกค่ะ”
พัชรินทร์ไม่พอใจเท่าไรที่ชายหนุ่มทิ้งงานมาแบบนี้แล้วให้คนอื่นรับผิดชอบแทนเพื่อที่จะมาอยู่เฝ้าเธอ
“พัช” อคิณเริ่มหน้าเสีย
“อยู่ไม่ได้ก็กลับไปค่ะ”
พัชรินทร์เอ่ยเสียงแข็งเธออยากให้เขากลับไปสนใจเรื่องงานมากกว่าสนใจเธอเพราะยิ่งเขามาอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งอึดอัดไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด
18.00 น.
พัชรินทร์เดินถือถาดข้าวผัดผักพร้อมไข่เจียวและน้ำอีกหนึ่งขวดให้อคิณหลังจากเห็นว่าเขายังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน
“ขอบคุณนะ”
อคิณพอจะมีรอยยิ้มที่เห็นว่าอย่างน้องพัชรินทร์ก็ไม่ได้ใจดำจนไม่สนใจอะไรเขาเลย
“ทานเสร็จก็ออกไปได้แล้ว”
“ไม่..พี่ไม่ไปไหนทั้งนั้น” อคิณเอ่ยเสียงแข็ง
“เฮ้อ..”
พัชรินทร์ทำได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินเข้าบ้านไปคิดว่าลูกคุณหนูอย่างเขาคงทนได้ไม่กี่น้ำกันหรอกที่ต้องมาอยู่อย่างลำบากแบบนี้
22.00 น.
แปะ
แปะ“ทำไมยุงเยอะขนาดนี้เนี่ย”
จนตอนนี้แสงไฟในบ้านก็ดับไปพักใหญ่แล้วอคิณยังไม่สามารถข่มตานอนได้เพราะยุงที่บินห้อมล้อมเขาอยู่นั้นกวนใจจนนอนไม่ได้
เช้าวันต่อมา
พัชรินทร์ตื่นมาทำอาหารในช่วงเช้าตรู่ในขณะที่ลูกๆของเธอยังไม่ตื่นเธอเปิดประตูออกมาคิดในใจว่าอคิณน่าจะไม่อยู่แล้วแต่กลับตรงกันข้ามเขานอนขดตัวอยู่กับพื้นทั้งเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยรอยยุงกัด
“พี่คิณตื่นค่ะ” พัชรินทร์เขย่าตัวอคิณเบาๆ
“อืม..พัช”
“ทำไมนอนให้ยุงกัดแบบนี้ล่ะทำไมไม่กลับบ้านไป”
“พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะอยู่ดูแลพัชกับลูก” จนตอนนี้อคิณก็ยังยืนยันคำเดิม
“ไปนอนข้างในค่ะ”
พัชรินทร์โมโหทั้งอคิณที่ไม่ยอมกลับไปและโมโหตัวเองที่เห็นใจสงสารเขาอีกจนได้
ไร่ภิภพ
“วันนี้ไม่ต้องไปรับคุณพัชล่ะเดี๋ยวคิณมันพาเข้าไร่เอง”
ทรงรบบอกกับพิมพรรณในขณะที่นั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะอาหาร
“อืม”
“ฝากให้คิณด้วยเมื่อคืนยุงกัดทั้งคืน”
“แสดงว่าโดนไล่มานอนข้างนอก”
พิมพรรณหยิบแซมบัคเข้ามาไว้ในกระเป๋าเสื้อเธอเดาออกว่าอคิณโดนยุงกัดทั้งคืนเพราะอะไร
“อืม..อย่างที่คุณว่า”
“สมน้ำหน้า..นี่ยังจะอยู่ต่ออีกหรือเปล่าล่ะ”
“อยู่สิเห็นบอกว่าคุณพัชให้เข้าไปอยู่ในห้องแล้ว”
“เล่นบทนางน่าสารสินะ” พิมพรรณกรอกตาเล็กน้อย
“อีกสามวันวันเกิดผม”
“บอกทำไม”
“ผมจองโต๊ะที่ร้านอาหารไว้คุณไปนะ”
“อืมก็ได้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารทั้งทีไม่พลาดอยู่แล้ว”
“ให้แน่นะ”
ทรงรบถามย้ำหญิงสาวอีกรอบเพราะกลัวว่าเธอจะแกล้งเบี้ยวเขาให้รอเก้อ
“อืมไม่ลืมหรอกน่า..หรือว่าจะลืมดี”
พิมพรรณเอ่ยด้วยสีหน้าทะเล้น
“คุยกับผมให้เป็นจริงเป็นจังสักครั้งได้ไหม”
พักหลังมานี้ทรงรบไม่อยากให้หญิงสาวกัดกันกับเขาอย่างเมื่อก่อนเพราะที่เขาแต่งงานกับเธอไม่ใช่อยากเอาชนะแต่เพราะเขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็นต่างหาก
“ไม่ได้...เพราะขนาดการแต่งงานของเราฉันยังไม่จริงจังเลย”
“อืม...ทานข้าวเถอะ”
ชายหนุ่มคร้านจะพูดกับหญิงสาวที่ทำเป็นเล่นกับเขาทุกเรื่องไป
“นี่คุณอาหารฝีมือป้านิ่มนี่อร่อยมากเลยเนอะ”
“อร่อยกว่าคุณทำเยอะเลย”
“ชิ...ฉันบอกให้ก็ได้ว่าวันนั้นที่ฉันทำให้คุณทานฉันแค่ใส่เกลือเพิ่มเท่านั้น”
“หืม” ทรงรบมองพิมพรรณด้วยสายตาเริ่มเคืองใจ
“ใช่..ฉันแกล้งคุณนี่จนถึงทุกวันนี้คุณยังไม่รู้เลยเหรอ...รู้อะไรบ้างคุณเนี่ย”
พิมพรรณยิ้มเย้ยที่ชายหนุ่มดูเหมือนจะจับไม่ได้เลยถ้าเธอไม่บอก
“คุณล่ะอยู่ที่นี่รู้อะไรบ้าง”
ทรงรบเอ่ยถามหญิงสาวกลับตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่เธอมองเห็นหรือเปล่าว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอไม่ใช่เห็นแค่ว่าเขาจะเอาชนะเธออย่างเดียว
“รู้สิ...ต้องกัดกับคุณทุกวันไงรู้ดีเลยล่ะ...คุณเชื่อไหมก่อนฉันจะกลับมาที่นี่ฉันต้องเตรียมตัวรับมือตีฝีปากกับคุณทุกวันเลยนะ”
“จะกัดกันไปตลอดเลยหรือไง...อยู่ที่นี่ไม่มีความสุขเลยเหรอ”
ทรงรบได้ยินที่หญิงสาวพูดก็ห่อเหี่ยวหัวใจหากเขาไม่เผยความรู้สึกตรงๆเธอก็คงจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
“อืม...ขี้เกียจพูดแล้ว”
พิมพรรณนึกย้อนเวลาที่ทรงรบทำดีกับเธอดูแลเธอทั้งยังไม่แตะต้องเธอหากเธอไม่อนุญาต เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่าแต่เธอก็ถือว่าเขาคือคนดีในระดับหนึ่งเรื่องนี้เธอก็ไม่อยากชมเขาให้เขาได้ใจให้เข้าใจว่าเธอชอบกัดกับเขาเท่านั้นก็พอ
ไร่เริงฤทธิ์
“ทำไมตัวแดงเถือกอย่างนี้ล่ะไอ้หนุ่ม” เริงฤทธิ์ทักชายหนุ่มเมื่อเห็นเนื้อตัวของเขามีแต่รอยแดง
“ยุงกัดน่ะครับ”
“เฮ่อะ...นอนข้างนอกล่ะสิ” เริงฤทธิ์สบถขำเบาๆ
“ครับ” อคิณพยักหน้ายิ้มกรายๆ
“ทนหน่อยก็แล้วกัน” เริงฤทธิ์ตบบ่าชายหนุ่มเบาๆเขาเองก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน
14.00 น.“คุณพัชคะถ้าเราจะซื้อของขวัญให้ผู้ชายเราจะซื้ออะไรดีคะ” พิมพรรณเอ่ยถามพัชรินทร์เพื่อขอความเห็นในขณะที่ทั้งคู่กำลังเตรียมแพ็คสตอเบอรี่“ของขวัญวันเกิดพ่อเลี้ยงเหรอคะ” พัชรินทร์ยิ้มอ่อน“ก็..ค่ะ” พิมพรรณมีสีหน้าเขินเล็กน้อยเธอกะจะไม่ให้คนอื่นรู้ว่าจะซื้อของให้ทรงรบแต่ก็ถูกจับได้“พ่อเลี้ยงชอบอะไรเป็นพิเศษล่ะคะ” “เอ่อ..ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ” พิมพรรณเดาไม่ออกเลยว่าทรงรบนั้นชอบอะไร“อืม..ลองหาเป็นของใช้ส่วนตัวของเค้าดูไหมคะ” “ฉันจะลองหาซื้อดูนะคะ” พิมพรรณคิดหนักของใช้ส่วนตัวของผู้ชายก็ไม่ใช่แค่อย่างสองอย่างเธอจึงคิดไม่ตก“ค่ะ” พัชรินทร์คงให้ความเห็นได้เท่านี้เพราะเธอเองก็ชอบให้เป็นของใช้ส่วนตัวกับอิทธิกรและอคิณในวันเกิดของพวกเขาเช่นกันอิทธิกรนั้นชอบของที่เธอให้ทุกครั้งแต่เธอไม่รู้เหมือนกันว่าอคิณจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าเพราะเธอไม่ได้ให้ด้วยตัวเองเลยสักครั้งแถมเจ้าของวันเกิดก็ยังไม่เคยรู้ด้วยว่าเป็นของๆเธอเย็นของวัน“พี่เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ลูกแล้วป้อนข้าวเสร็จก็พาอาบน้ำได้เลย” เมื่อกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นในขณะที่พัชรินทร์กำลังป้อนข้าวลูกๆของเขาอคิณก็รีบเตรียมน้ำอุ่นเพื่อเอาไว้อา
ก๊อกๆๆ“เป็นยังไงบ้างคะคุณพิมอยู่โรงพยาบาลแล้วใช่ไหมคะ” ตั้งแต่อคิณออกไปพัชรินทร์ก็หลับไม่ลงเพราะเป็นห่วงตรีรัตน์เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงรีบเปิดอย่างรวดเร็ว“คุณพิมอยู่กับทรงรบตอนนี้แตงกวาคลอดเองไมได้หมอต้องผ่า” “อะไรนะคะ..จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย” พัชรินทร์หน้าเสียจนอีกฝ่ายเห็นได้ชัดเพราะรู้ว่าตรีรัตน์คงต้องเจ็บปวดมากแน่นอน แววตาอคิณไหววูบเล็กน้อยเขาดึงตัวพัชรินทร์เข้ามากอดเอาไว้แน่นเพราะรู้สึกสงสารเธอ“เอ่อ..ปล่อยค่ะ” พัชรินทร์รีบผลักอคิณออกจากตัวของเธออย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่มีผลเขายังคงกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย“ตอนนั้นพัชคงทรมานมากสินะ” อคิณเอ่ยเสียงอ่อนเขาพรมจูบกระหม่อมร่างบางเบาๆ“ปล่อยค่ะพัชจะเข้าไปนอนแล้ว” พัชรินทร์อาศัยจังหวะที่อคิณเผลอผลักเขาออกและรีบเข้าห้องของเธอไปอย่างรวดเร็ว อคิณยืนมองตามหลังหญิงสาวเมื่อเธอเข้าห้องไปแล้วเขาก็ปิดประตูบ้านเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวโรงพยาบาล“เจ้าแฝดล่ะ” พิมพรรณเห็นพัชรินทร์เดินเข้ามาพร้อมกับอคิณจึงมองหาเจ้าสองแฝด“อยู่กับตาไม่ยอมให้เอามาด้วย”“หวงเหลือเกินนะ...มาดูหลานสิ” พิมพรรณบุ้ยปากเบาๆที่ตาของเธอดูหวงเหลนทั้งสองเสียเหลือเกินท
“ไม่ลืมอยู่แล้วนัดร้านอาหารหรูแบบนั้นลาบปากฉันเลย” พิมพรรณพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป“หึ่..ยัยบ๊องเอ้ย” ทรงรบส่ายหัวเบาๆพร้อมหยิบสร้อยเพชรขึ้นมาดูเขาจะใช้สิ่งนี้บอกความรู้สึกกับเธอในวันนี้เพราะเบื่อเต็มทนที่จะให้เธอตั้งแง่กลัวว่าเขาจะหาเรื่องแกล้งเธอไม่เว้นแต่ละวันเย็นของวัน หลังจากที่พิมพรรณช่วยพัชรินทร์แพ็คของเสร็จเธอก็รีบขับรถบึ่งมาที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองและเลือกซื้อของขวัญให้กับทรงรบ"อันนี้แหละคุณน่าจะชอบนะพ่อเลี้ยง"พิมพรรณเลือกกระเป๋าสตางค์หนังแบรนด์ดังของผู้ชายให้ทรงรบเพราะแห็นของเก่าของเขามันดูไม่ค่อยดีเท่าไรแล้วและหวังว่าเขาน่าจะชอบครืด กึกๆ เมื่อขับรถออกจากห้างสรรพสินค้ามาได้พักใหญ่มุ่งหน้าจะไปที่ร้านอาหารตามที่ทรงรบนัดแต่รถกระบะเจ้ากรรมของเธอก็ดันมากระตุกสองสามทีแล้วดับลงข้างทางในเวลาที่เธอกำลังรีบๆเสียอย่างนั้น"เอ้า...มาเสียอะไรตอนนี้เนี่ยจะถึงเวลานัดแล้วด้วยสิมือถือก็ดันมาแบตหมดอีก...เฮ้อ" พิมพรรณรีบหยิบมือถือของเธอขึ้นมาดูปรากฏว่าเครื่องก็ดับสนิทเพราะเธอลืมชาร์จแบตตอนนี้ก็ได้แต่รีบออกจากรถแล้วโบกรถที่สัญจรไปมาให้ช่วยครึ่งชั่วโมงต่อมา“นั่นไง” และ
"ใครสั่งให้คุณเลือกฉันเป็นเมียล่ะ...ใครสั่งให้เลือกคนที่ไม่ได้รักกันมาเป็นคู่ชีวิตล่ะ." พิมพรรณอ้าปากค้างเขาแม้ไม่ฟังเธออธิบายแล้วยังมาโทษให้เรื่องทุกอย่างเป็นความผิดของเธออีกในเมื่อเขาเป็นคนสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมาเอง“..อื้มม.” ทรงรบใช้มือหนาทั้งสองบีบแก้มของหญิงสาวเอาไว้และก้มลงมาบดจูบเธอพักใหญ่จนหนำใจเพี๊ยะ ...พิมพรรณพ้นพันธนาการได้เธอก็รีบปาดน้ำตาแล้วยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าทรงรบเพื่อเรียกสติในขณะที่เขาทำกับเธอในสิ่งที่ไม่ควรทำ"หึ่.." ทรงรบยืนกัดฟันกรอดที่เห็นท่าทีรังเกียจเขาจากเธอเขานั่งดื่มย้อมใจต่อคราแรกหวังว่าหลังแต่งงานแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเธอจะดีขึ้นแต่ไม่เลยมันเหมือนเดิมและพอมาวันนี้มันกลับดูว่าเขาและเธอมีปัญหากันหนักขึ้นไปอีกวันต่อมา“ฉันจะไปช่วยดูแลแตงกวาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นอาทิตย์” พิมพรรณเก็บกระเป๋าออกจากห้องมาในช่วงเช้าเธอเอ่ยบอกทรงรบที่กำลังนั่งดื่มกาแฟโดยที่ไม่มองหน้าของเขาและเดินออกไปขึ้นรถของภูผาที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้านทรงรบมองตามหลังพิมพรรณอย่างไม่พอใจในเพราะไม่ยอมบอกเขาก่อนว่าจะไปดูแลตรีรัตน์ด้วยตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเขารู้มาว่าคนที่ไร่เริงฤทธิ์จ
“เพราะคุณอยากจะเอาชนะฉันไงล่ะ...ตอนนี้คุณก็กำลังทำมันอยู่..ปล่อยฉัน” พิมพรรณพยายามแกะมือหนาของชายหนุ่มออกแต่มันก็เหนียวเสียเหลือเกิน“ไม่ปล่อย”“เป็นบ้าอะไรเนี่ย” พิมพรรณแผดเสียงใส่ทรงรบเพราะเธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับ“ใช่ผมมันบ้า” เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงทรงรบก็เริ่มคุมสติไม่อยู่เขาตะคอกใส่เธอพร้อมเขย่าตัวเธออย่างบ้าคลั่งพลักก พิมพรรณฮึดสู้รีบผลักชายหนุ่มออกด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดและรีบวิ่งหนีเข้าห้องไป“ว้ายยย” ยังไม่ทันที่เธอจะปิดประตูทรงรบก็แทรกตัวเข้ามารวบตัวเธอเอาไว้ก่อนตอนนี้เธอจะตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่มีเพราะป้านิ่มนั้นอยู่บ้านของตรีรัตน์“คุณเป็นของผมยังไงผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด” ทรงรบดันร่างบางไปจนติดกำแพงห้องเขาเอ่ยออกมาด้วยสายตาและน้ำเสียงที่แข็งกร้าวประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนมือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็วทำเอาพิมพรรณเบิกตาโพรงเพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ“ปล่อยฉันนะอย่าทำแบบนี้...อื้อออ” หญิงสาวพยายามผลักชายหนุ่มออกแต่ก็ไม่เป็นผลเขารีบจับข้อมือของเธอไขว้ไว้ด้านหลังและบดจูบหญิงสาวอย่างไร้ความนุ่มนวล“อย่าคิดว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้วคุณจะทำอะไรฉันก็ไ
อำเภอ“ตาครับ”ทรงรบมาถึงที่อำเภอเห็นเริงฤทธิ์กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคนเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา“อ้าวพ่อเลี้ยงมาพอดีเลยนี่คุณเหมนายอำเภอคนใหม่ของที่นี่”“อ๋อ..ครับสวัสดีครับ”เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่ยืนคุยกับเริงฤทธิ์คราแรกเขาก็มองอย่างไม่เป็นมิตรทันทีเพราะจำได้ว่าคนๆนี้อยู่กับพิมพรรณในวันที่เขาไปซื้ออะไหล่รถยนต์“คุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวตาไปทักทายตาทิ้งหน่อยไม่ได้เจอกันนานเลย”เริงฤทธิ์แนะนำทั้งคู่เสร็จก็เดินออกไปหาคนรู้จัก"เจอคุณก็ดีเลยพอดีคุณพิมลืมของไว้ที่รถผมน่ะครับฝากคุณคืนเธอเลยแล้วกันนะครับพ่อเลี้ยง"เมื่อเห็นทรงรบเหมวัตก็ยื่นของที่พิมพรรณลืมเอาไว้ให้กับทรงรบทันทีเพราะเห็นว่าอยู่บ้านเดียวกัน"อ่อครับ...แล้วทำไมของภรรยาผมไปอยู่กับคุณได้ล่ะ"ทรงรบรับถุงกระดาษมาอย่างสงสัย"อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับวันนั้นผมเจอคุณพิมที่ข้างทาง..."เหมวัตเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ทรงรบฟังว่าวันนั้นเขาเป็นคนพาเธอเอารถไปซ่อมและไปส่งเธอที่ร้านอาหารด้วยวันก่อนก็พึ่งจะพาเธอปรับรถเพราะช่างโทรหาเธอไม่ติด"ครับผมเข้าใจแล้ว"ทรงรบถึงกับตัวชาวาบหลังจากที่ได้รู้เรื่องราวจากเหมวัตครู่ต่อมา"ผมขอให้ทุกคนตรวจตราดูกันหน่
"ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักคุณนะพิมรักตั้งแต่แรกเห็น"ทรงรบรีบรั้งตัวหญิงสาวเข้ามากอดทางด้านหลังของเธอ"รักเหรอ...รักแต่ทำให้ฉันเจ็บแบบนี้เหรอ"หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาของเธอเริ่มไหลลงมาอีกรอบ"พิมผมขอโทษ"เพี๊ยะพิมพรรณหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มเธอยกมือเรียวฟาดไปที่หน้าของเขาด้วยความโกรธ"คุณจะตบผมอีกกี่ครั้งก็ได้ผมยอม"ทรงรบยังคงยืนนิ่งหากการที่เธอตบเขาแล้วมันทำให้ความเจ็บในใจของเธอทุเลาลงได้เขาก็ยอมเพี๊ยะๆๆๆ "ฮื่อๆๆๆ.. ทำกับฉันแบบนี้ทำไมๆ...ฮือๆๆ"พิมพรรณฟาดมือเรียวไปที่หน้าของชายหนุ่มไม่ยั้งยิ่งเธอเห็นเขายอมรับความเจ็บเธอก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้นหากเขาไม่ทำมันตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้เธอโกรธเขาที่เขาทำเธอเจ็บยิ่งกว่านั้นคือเขาทำลายความไว้ใจของเธอหมดสิ้นแล้วเธอคิดว่าเขาจะเกรงใจให้เกียรติเธอที่เธอคิดทั้งหมดมันผิดเขาก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ชอบใช้กำลังข่มเหงรังแกผู้หญิง"ผมขอโทษ"ทรงรบกอดพิมพรรณเอาไว้เมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนเขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอสักนิด"ผมแค่หึงคุณเท่านั้นผมผิดเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำมันอีกยกโทษให้ผมนะพิม"ชายหนุ่มกอดร่างบางที่ยัง
18.00 น.“ขอบคุณพัชมากที่ช่วยดูแลพี่”อคิณยกมือของเขามาลูบเบาๆที่มือของพัชรินทร์เขาทานข้าวไปมองคนที่ป้อนไปด้วยสีหน้าที่มีความสุขอย่างน้อยในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีที่เขาได้รู้ว่าหญิงสาวไม่ทิ้งเขาให้นอนเจ็บอยู่ลำพัง“อยู่เฉยๆค่ะถ้าอยากให้พัชดูแลต่อ”หญิงสาวดึงมือชายหนุ่มวางข้างตัวของเขาและเอ่ยเสียงแข็งสายตาของเธอดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงอย่างนั้นอคิณก็ยังยิ้มได้อยู่ดี21.00 น.พิมพรรณกล่อมหลานของเธอทั้งสองเข้านอนเรียบร้อยแล้วเมื่อจะเตรียมตัวลงนอนเธอก็มีอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาอยู่ไม่ใช่น้อยที่ทรงรบนั้นหาหมอนหาที่นอนมานอนอยู่ข้างๆเตียงที่เธอนอนอยู่"ผมนอนตรงนี้นะคุณ" ทรงรบเอ่ยพร้อมทิ้งตัวลงนอน"คุณกลับไปเถอะฉันดูหลานคนเดียวได้""ไม่ได้ยังไงผมก็จะอยู่จะปล่อยให้คุณกับหลานอยู่กันตามลำพังได้ยังไง""แต่""ไม่งั้นผมจะฟ้องตาคุณว่าคุณไล่ผม"ยังไม่ทันที่พิมพรรณจะพูดจบทรงรบก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาก่อน"หึ่ม"คำขู่ของเขาดูเหมือนจะได้ผลเพราะมันทำให้หญิงสาวถียงอะไรไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายเล่นเอาตาเธอมาขู่เสียอย่างนั้น"คุณวันนั้นในจดหมายคุณรู้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้อยากมีปัญหากับคุณ"ทรงรบเอ่ยขึ