“แฟนคุณพัชเค้ายุ่งๆน่ะตายิ่งรู้ว่ามีลูกก็ต้องขยันทำงานอยู่แล้ว”
พิมพรรณรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องที่เธอพูดออกไปคราแรกเพื่อไม่ให้ตาของเขาสงสัยเท่านั้นว่าพัชรินทร์ท้องกับใคร
“ไอ้งานก็ส่วนงานแต่ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลเมียบ้างคนสมัยนี้เป็นยังไงไปกันหมดถ้าห่วงงานห่วงเงินมากกว่าอะไรก็จะมีครอบครัวไปทำไม”
เริงฤทธิ์เท้าเอวว่าพรางส่ายหัว
“เดี๋ยวเค้าก็กลับมาเองจะตา”
เมื่อสองตาหลานพูดเรื่องสามีในใจของพัชรินทร์ก็ไม่อยากจะโกหกตาของพิมพรรณแต่หากจะเล่าความจริงเธอก็ทำไม่ได้
กรุงเทพมหานคร
บ้านอคิณ
“พี่จะเอาเงินส่วนของพัชไปไม่ได้นะครับ”
อิทธิกรหัวเสียหนักเมื่อรู้ว่าที่พี่ชายของเขาเรียกมาที่บ้านก็เพราะต้องการให้เขาอนุมัติเงินในส่วนของพัชรินทร์ให้กับพี่ชายของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากทำด้วยเพราะส่วนแบ่งนี้คุณแม่ของเขาแบ่งให้อย่างลงตัวแล้ว
“แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะใช้”
อคิณมีสมบัติมากมายจนเขาก็ใช้ไม่หมดแต่เขาอยากให้ส่วนของพัชรินทร์เป็นของเขาเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่สมควรที่จะได้สมบัติของแม่ของเขาไปสักชิ้นเดียว
“พี่ไม่มีสิทธิ์เอาไปใช้เพราะพัชไม่ได้เซ็นให้ใคร”
อิทธิกรไม่คิดเลยว่าพี่ชายตนจะนิสัยเสียอย่างที่คาดไม่ถึงเช่นนี้
“อ๋อ...ถ้าฉันจะใช้เงินก้อนนี้ต้องรอให้พัชรินทร์อนุมัติใช่ไหม..ได้ฉันจะไปลากตัวเธอมาเซ็นให้ฉันเอง”
อคิณจ้องหน้าอิทธิกรเขม็งด้วยดูน้องของเขาจะสนใจพี่น้องนอกใส้มากกว่าเขา
“พี่จะทำอะไร”
“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้อยากเจอพัชรินทร์เท่าไรหรอกนะแต่ตอนนี้อยากจะเจอขึ้นมาซะแล้วสิ”
อคิณพูดจบก็ยกยิ้มเล็กน้อย
“ผมบอกพี่แล้วไงว่าพี่ไม่มีทางได้เจอกับพัชอีก”
อิทธิกรว่าจบก็เดินหนีอคิณออกจากบ้านไปทันที
“ก็คอยดูแล้วกัน” อคิณเอ่ยตามหลังน้องชายเสียงฝาดไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้อยู่แล้วหากเขาอยากจะทำ
สามวันต่อมา
บริษัท
“ทำไมถึงอยากออกจากงานนี้ล่ะ”
อคิณนั่งกอดกิ่งแก้วอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาชายหนุ่มตาละห้อยอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าแฟนสาวของตนนั้นอยากออกจากงาน
“กิ่งแค่อยากกลับไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอยู่แต่ในออฟฟิศก็เบื่อๆน่ะค่ะ”
“แบบนี้ผมก็ต้องห่างกับคุณน่ะสิ”
“ห่างกันบ้างจะได้คิดถึงกันมากๆไงคะ”
กิ่งแก้วเชยคางชายหนุ่มเบาๆทั้งมองด้วยสายตาออดอ้อนเธอเป็นนางแบบเดินสายทำงานมาก่อนเมื่อมาอยู่ทำงานกับอคิณที่นี่ได้เป็นปีแล้วเธอก็รู้สึกเบื่อๆจึงอยากกลับไปทำงานที่รักเหมือนเดิมซึ่งเรื่องนี้อคิณเองก็ขัดอะไรไม่ได้
สามเดือนต่อมา
ไร่เริงฤทธิ์
“ไปตรวจมาวันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะลูกในท้องแข็งแรงดีหรือเปล่า” เริงฤทธ์ที่นั่งนับกล่องที่พึ่งสั่งมาเพื่อส่งสตอเบอรี่ส่งอยู่หน้าบ้านเมื่อเห็นสองสาวกลับมาจากโรงพยาบาลก็รีบวางงานในมือถามกับพัชรินทร์ว่าลูกในท้องเธอเป็นอย่างไรบ้างเพราะเขาคิดว่าท้องเธอมันใหญ่เกินปกติของคนท้องหกเดือน
“แข็งแรงดีค่ะตา”
พัชรินทร์ค่อยๆหย่อนก้นนั่งลงบนแคร่หน้าบ้าน
“ข้าว่าท้องมันโตผิดปกตินะ”
“จะไม่ผิดปกติได้ยังไงก็คุณพัชได้ลูกแฝดเลยนะตา”
พิมพรรณเอ่ยด้วยรอยยิ้มร่าดีใจที่ไร่นี้น่าจะครึกครื้นในอีกไม่กี่เดือน
“โอ้โห่..แบบนี้ก็ดีน่ะสิไร่นี้จะได้ไม่เหงา”
เริงฤทธิ์ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบานคราแรกดีใจว่ามีเด็กเล็กในไร่แล้วตอนนี้มีเป็นสองเขาก็ดีใจเพิ่มเข้าไปอีก
“พูดแบบนี้จะเลี้ยงหลานให้ใช้ไหมจ้ะตา”
พิมพรรณเอ่ยหยอกคนเป็นตา
“ก็...ถ้าให้เลี้ยงข้าก็เลี้ยงได้”
เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงสูง
“ก็บอกหนูพัชไปสิพ่อว่าขอเลี้ยงเห็นเตรียมต่อเปลไว้แล้วแบบนี้ต้องรีบต่อไว้อีกเปลแล้วมั้ง”
ภูผาที่กำลังขนกล่องเข้าที่ก็เอ่ยออกมาเสียงดังเขารู้ว่าพ่อของเขาเฝ้ารอลูกของพัชรินทร์ออกมาใจจะขาดเพราะเขาเห็นพ่อของเขาต่อเปลเสร็จไปแล้ว
“ไอ้ภูเอ็งนี่ก็”
เริงฤทธิ์หันไปมองค้อนใส่ลูกชายตัวดี
“ยังไงหนูก็ต้องมาฝากตาเลี้ยงอยู่แล้วล่ะจะ”
พัชรินทร์อมยิ้มที่รู้ว่าทุกคนเอ็นดูลูกของเธอขนาดนี้อนาคตหากเธอคลอดลูกมาได้สักสามสี่เดือนแล้วยังไงก็จะฝากให้ตาของพิมพรรณเลี้ยงอยู่แล้วเพราะท่านจะได้ไม่ต้องยุ่งกับงานในไร่ในสวนเพราะเธอก็จะลงแรงเอง
“ฝากได้เลยไม่ต้องเกรงใจข้าหรอกข้าชอบไม่เหงาดี”
เริงฤทธิ์ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ดีใจไม่น้อยคนแก่อย่างเขาได้อยู่กับลูกกับหลานมันก็จะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้พัชรินทร์คลอดลูกออกมาเร็วๆนี้เสียเหลือเกิน
“ค่ะตา”
สามวันต่อมา
วันนี้ทุกคนเลิกงานมาต่างก็นั่งทำกระทงกันเพื่อที่จะไปลอยในงานวัดคืนนี้สองสาวอย่างพิมพรรณกับพัชรินทร์เองก็นั่งง่วนกับการทำกระทงอยู่พักใหญ่กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบจะมืดพอดี
“ของคุณพัชสวยมากๆเลยค่ะ”
พิมพรรณเห็นพัชรินทร์ใช้กลีบดอกบัวทำกระทงขึ้นเป็นโดมเธอก็อดชื่นชมไม่ได้เพราะมันสวยแปลกตาไม่เหมือนของคนอื่นที่ใช้ใบตอง
“คุณพิมก็สวยเหมือนกันนะคะ”
กระทงของพิมพรรณนั้นเป็นการม้วนใบตองทำเป็นชั้นเหมือนบายสีปักรอบดาวเรืองสีเหลืองกระทงแบบนี้ดูงดงามกว่าของเธอเสียอีก
“นี่มัวแต่ชมของตัวเองกันอยู่นั่นแหละของน้าสวยหรือเปล่า”
ภูผารีบโชว์กระทงที่ทำจากกาบกล้วยทำเป็นเรือข้างในมีดอกไม้โปรยสามสี่อย่างให้สองสาวได้ดู
“ฝีมือแบบไหนก็แบบนั้นเลยนะน้าภู...ทำไมไม่วานให้สาวๆในไร่ทำให้ล่ะ”
พิมพรรณส่ายหัวเบาๆเธอจำได้ดีว่าตอนเด็กๆน้าเธอก็ทำกระทงแบบนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังทำแบบเดิม
“ไม่เอาหรอกลำบากคนอื่นเค้า..นี่ก็ลอยได้เหมือนกัน”
ภูผาเห็นว่าการลอยกระทงเป็นการขอขมาพระแม่คงคาเขาทำกระทงสุดฝีมือแล้วไม่ได้หมายจะทำไปอวดใคร
20.00 น.
“ที่นี่ดูครึกครื้นกันเป็นพิเศษเลยนะคะ”
พัชรินทร์เดินเข้ามาในงานพร้อมกับพิมพรรณเมื่อเห็นแสงสีงานวัดที่เธอพึ่งจะเคยเห็นทำให้เธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“งานวัดนานๆมีทีคนก็จะเยอะแบบนี้แหละค่ะเราไปลอยกระทงกันก่อนดีกว่านะคะ”
ปึก
“ว้ายย..”
พิมพรรณหลับตาปี๋เมื่อชนกับบางอย่างอย่างจัง
“นี่คุณเดินไม่ดูเลยหรือไง”
กระทงของทรงรบหลุดออกจากมือเพราะหญิงสาวเดินมาชนเขาในขณะที่เขากำลังปักธูปปักเทียนบนกระทงอยู่
“คุณนั่นแหละเดินมาชนฉันเอง”
พิมพรรณเห็นว่าตรงหน้าเป็นทรงรบเธอก็ต่อว่าเขาทันที
“กระทงผมล่วงหมดแล้วเอาของคุณมาให้ผมเลย”“แบบนี้ก็ได้เหรอคุณก็ไปซื้อใหม่ที่หน้าวัดสิมีคนตั้งขายตั้งเยอะ”พิมพรรณชี้ให้ชายหนุ่มเดินออกไปซื้อที่หน้าวัดเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอในเมื่อชายหนุ่มมายืนขวางทางเธอเอง“ไม่ถ้าคุณไม่ให้งั้นผมจะลอยกับคุณ”ทรงรบดึงกระทงของพิมพรรณออกจากมือของหญิงสาวหน้าตาเฉย“อย่าเถียงกันเลยค่ะเอาของฉันก็ได้”พัชรินทร์เห็นท่าจะไม่ค่อยดีจึงยื่นกระทงของตัวเองให้กับทรงรบเพื่อตัดปัญหา“ไม่ได้นะคะ”พิมพรรณรีบห้ามพัชรินทร์เอาไว้หากชายหนุ่มอยากจะลอยกระทงกับเธอนักเธอก็จะทำให้วันลอยกระทงปีนี้ทรงรบไม่มีวันลืมไปเลย“อยากลอยกับฉันใช่ไหม..ได้ตามมา”“อ้าวทำไมพ่อเลี้ยงมาด้วยล่ะ”ภูผาที่มารอสองสาวที่ทาน้ำของวัดอยู่ก่อนแล้วเห็นสองสาวมีทรงรบเดินมาด้วยจึงแปลกใจไม่น้อยเพราะเห็นหลานของเขาพูดอยู่ว่าไม่ค่อยชอบหน้าพ่อเลี้ยงของไร่ภิภพเท่าไรไหนตอนนี้มาพร้อมกัน“ฉันเดินชนกับพ่อเลี้ยงกระทงเค้าเลยพังฉันก็ต้องให้เค้ามาลอยกับฉันนี่แหละ”“งั้นก็รีบลอยกันเถอะ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจและให้ทุกคนรีบลอยเพราะเดี๋ยวดึกกว่านี้จะต้องต่อคิวกันกับคนอื่นให้ยุ่งยาก“คุณพัชค่อยๆนะคะ”พิมพรรณให้ทรงรบถือกระทงเอาไว้ก
เป็นปีแล้วที่กิ่งแก้วลาออกจากงานเลขาไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอคิณเองก็ต้องเรียกมารุตมาช่วยงานอย่างเก่าดูเหมือนความสัมพันธ์ของอคิณและกิ่งแก้วจะไม่แน่นแฟ้นอย่างเมื่อก่อนเท่าไรเพราะทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอกันเหตุเพราะงานอคิณก็ค่อนข้างยุ่งกิ่งแก้วก็เดินทางบ่อยเดือนๆแทบจะไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ17.00 น."ตั้งแต่คุณไม่ได้เป็นเลขาผมเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันสักเท่าไรเลยนะ" วันนี้กิ่งแก้วพึ่งกลับจากปารีสเมื่ออคิณรู้จึงรีบไปรับเธอที่สนามบินมาที่บ้านด้วยความคิดถึง"ก็กิ่งต้องไปต่างประเทศบ่อยนี่คะ""แล้วฤกษ์แต่งเราล่ะผมไม่เห็นคุณจะพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย""ช่วงนี้ทั้งกิ่งทั้งคุณก็ยุ่งๆพักแพลนไปก่อนก็ได้ค่ะยังไงเราก็ยังรักดันดีอยู่นี่คะ" "คืนนี้คุณพึ่งกลับมาอยู่กับผมนะครับ" อคิณแปลกใจไม่น้อยที่กิ่งแก้วไม่ยักจะสนเรื่องแต่งงานแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะถามแค่ตอนนี้เขาอยากรักเธอให้หายคิดถึงมากกว่าจึงค่อยๆสอดมือหนาเข้าไปขยำอกตูมของเธออย่างปรารถนา"กิ่งต้องกลับบ้านน่ะค่ะคุณพ่อท่านรู้แล้วว่ากิ่งกลับมาถ้าจะขอค้างกับคุณกิ่งกลัวว่าจะถูกท่านตำหนิ" กิ่งแก้วต้องรีบดึงมือชายหนุ่มออกเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับอคิณนานได้"
“หา...ทำไมเราติดหนี้เค้าเยอะแบบนั้นล่ะตา” พิมพรรณเบิกตาโพรงตกใจเมื่อได้ยินยอดหนี้“ข้าก็เอามาลงทุนกับเครื่องทุ่นแรงในไร่นี่แหละ”“ขอผ่อนเค้าไปก่อนไม่ได้เหรอคะตา” พัชรินทร์เธอพอจะมีเงินอยู้่บ้างหากขอผ่อนผันได้เธอก็จะช่วยจ่ายเท่าที่มีไปก่อน“นี่ก็สามปีแล้วที่ไม่ได้ผ่อน..อีกสามเดือนถ้าไม่มีเงินไปจ่ายไร่นี้ก็จะถูกยึด” เริงฤทธิ์ส่ายหัว“นี่ถึงกับยึดกันเลยเหรอ” พิมพรรณแทบเข่าอ่อนเธอรักไร่นี้มากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธออุ่นใจเมื่อได้อยู่ที่นี่"ไร่นี้จะไม่ถูกยึดถ้าเอ็งยอมช่วยตา" "คืออะไรพ่อ" คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาภูผาขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าพิมพรรณจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร“ถ้าเจ้าพิมยอมแต่งงานกับทรงรบทุกอย่างจะเป็นโมฆะ” "นี่พ่อไปตกลงกับพ่อเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง" ภูผาเอ่ยเสียงแข็ง"ก็เค้าเสนอมาแบบนั้นฉันก็มาถามเจ้าพิมมันก่อนถ้าไม่ตกลงก็ปล่อยให้เค้ายึดไปก็เท่านั้น""หนูขอคิดดูก่อนนะตา" พิมพรรณนั่งหน้าตาตื่นเธอเงียบอึ้งไปครู่ใหญ่เธอขอเวลาใช้ความคิดสักพักแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เองเธอพอจะรู้ว่าทรงรบคงต้องการแกล้งเธออีกแน่นอนถึงได้ให้ข้อเสนอนี้กับตาของเขามา20.00 น.“เจ้าแฝดหลับ
"นี่ผมหนวกหูนะ"ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง"อืม...""ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"รีบๆล่ะฉันรออยู่"พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ""ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่
กรุงเทพมหานคร“ส่งของขวัญไปหรือยัง”อคิณที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องทำงานเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของทรงรบเพื่อนของเขาแต่ที่ไม่อยากไปด้วยตัวเองก็เพราะสภาพจิตใจยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงส่งคนไปให้ของขวัญและอยู่ร่วมงานแทนทรงรบกับอคิณเรียนรุ่นเดียวกันในมหาลัยตอนเรียนทั้งคู่สนิทกันมากพึ่งจะมาห่างกันก็ช่วงที่ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองคราแรกเขายังคิดว่าทรงรบจะแต่งงานทีหลังเขาด้วยซ้ำเพราะไม่เห็นว่าจะมีสาวคนไหนเข้าตาทรงรบสักคนแต่กลับเป็นเขาที่ยังไม่ได้แต่งเพราะว่าที่เจ้าสาวที่ขอเอาไว้กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อเขานั่นเอง“คนของเราส่งเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศในงานแต่งมาด้วยครับ”มารุตรีบส่งไฟล์รูปงานแต่งของทรงรบให้อคิณทันทีที่เขารีบให้อคิณดูเพราะมีบางอย่างที่อคิณน่าจะอยากรู้“ฉันขอดูหน้าเจ้าสาวเพื่อนฉันหน่อยซิ...นี่มัน”อคิณเปิดไฟล์รูปดูในโน๊ตบุ๊คครู่หนึ่งเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของทรงรบคือพิมพรรณพยาบาลที่เขาเคยจ้างให้เฝ้าพัชรินทร์แถมคนที่ยืนยิ้มข้างๆบ่าวสาวนั้นยังเป็นพัชรินทร์“ครับเธออยู่ที่นั่นตอนนี้เธอก็มีลูกแฝดผู้หญิงวัยเก้าเดือนกว่าแล้วด้วยครับ”เรื่อง
“แอ้..แง้งงงง”อคิณรวบลูกของเขาทั้งสองออกจากอกพัชรินทร์ทั้งที่เจ้าแฝดสองคนกำลังร้องให้โยเยอยู่“เอาลูกพัชมานะ”พัชรินทร์เสมือนถูกควักหัวใจออกจากอกเมื่ออคิณแย่งลูกของเธอไปต่อหน้าต่อตา“คนอย่างเธอไม่สมควรจะเป็นแม่ของลูกฉัน”อคิณส่งลูกของเขาให้มารุตและหันมาชี้หน้าหญิงสาวตะคอกใส่เธอเสียงแข็งปังง“จะพาลูกพัชไปไหน” อคิณปิดประตูเมื่อเห็นว่าพัชรินทร์กำลังจะวิ่งตามมารุตที่อุ้มเด็กๆออกไป“ลูกเธอก็ลูกฉัน”"ปล่อยพัชกับลูกไปนะคะ"หญิงสาวนั่งฟุบลงกับพื้นยกมือไหว้ชายหนุ่มด้วยน้ำตาพัชรินทร์เห็นชัดเจนแล้วว่าอคิณต้องการจะพรากลูกไปจากเธอบาดแผลในใจครั้งนี้มันเจ็บกว่าครั้งที่ถูกเขาทารุณก่อนหน้าด้วยซ้ำ"เซ็นยกมรดกของเธอให้ฉันแล้วฉันจะปล่อยเธอ"อคิณรีบหยิบเอกสารในมือให้หญิงสาวเซ็นเพราะเขาไม่ต้องการให้สมบัติของแม่เขาตกไปอยู่กับพัชรินทร์แม้แต่ชิ้นเดียว"เรียบร้อยค่ะขอลูกคืนให้พัชนะคะ"พัชรินทร์รีบหยิบเอกสารนั้นมาเซ็นอย่างลวกๆไม่ว่าเขาจะให้เธอทำอะไรเธอทำทั้งนั้นขอแค่เขาคืนลูกของเธอมาเท่านั้น"ฉันบอกว่าฉันจะปล่อยเธอไม่ใช่ปล่อยลูกในเมื่อเด็กสองคนนี้เป็นลูกของฉันเค้าก็จะต้องได้อยู่กับฉัน""ไม่นะคะเอาลูกพัชคืนมาพ
เช้าวันต่อมา"แค่นี้ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรือไง"อคิณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนโซฟาข้างเตียงนอนที่มีพัชรินทร์นอนอยู่เขาเห็นหญิงสาวนอนตัวขดสั่นเทาเล็กน้อยจึงใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากมนวัดไข้ดูจึงรู้ว่าเธอตัวร้อนเขาจึงจำต้องหาผ้ามาเช็ดตัวให้เธอเพราะที่นี่ไม่มียาแก้ไข้"ลูกพัช.. เอาลูกพัชคืนมา.."พัชรินทร์ยังคงละเมอเป็นเรื่องลูกแม้เธอจะละเมอแต่ความเจ็บปวดในใจก็ทำให้เธอร้องให้ออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัว"เธอยังต้องทรมานกว่านี้อีกหลายเท่าพัชรินทร์"อคิณมองร่างบางอย่างสมเพชยิ่งเขาเห็นหน้าของเธอเรื่องของแม่เขาก็ยิ่งผุดขึ้นมาในหัวพร้อมความเจ็บปวดและเขาจะทำให้หญิงสาวเจ็บปวดกว่าเขาหลายเท่าจากที่เขาได้รับบ้านอิทธิกร"ป้านวลครับยังไงรีบหาคนมาช่วยดูแลหลานผมด่วนเลยนะครับ"อิทธิกรโล่งใจที่ศรีนวลแม่บ้านของเขาเลี้ยงหลานของเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดีทั้งรีบให้ศรีนวลหาคนมาช่วยอีกแรงเพราะเจ้าแฝดทั้งสองนั้นค่อนข้างซนกันแล้วในช่วงวัยนี้"ค่ะคุณกร""แอ้.. ๆๆ.. หม่ำๆ"เจ้าสองแฝดที่นั่งตัวกลมอยู่บนพื้นเห็นถ้วยข้าวในมือศรีนวลก็นั่งจ้องกันตาเป็นมันทั้งปากก็เอ่ยขอกันสลับกันไปมาจนศรีนวลอดขำไม่ได้"คุณหนูท่าจะทานเก่งกันทั้งคู่เลยนะค
โรงแรมxxx"ที่แท้ก็ทะเลาะกับว่าที่เจ้าบ่าว" ก้องเกียรติพากิ่งแก้วขับรถมาที่โรงแรมม่านรูดก่อนจะลงจากรถกิ่งแก้วก็ระบายเรื่องที่อยู่ในใจให้ก้องเกียรติฟังจนหมด"ฉันกำจัดแม่เค้าได้แล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน" กิ่งแก้วเอ่ยเสียงแข็งเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่สุขสบายเมื่อลงทุนมาถึงขนาดนี้แล้วเธอจะไม่ยอมปล่อยให้อคิณหลุดมือไปง่ายๆ"ทีหลังคุณก็อย่ามักมากนักสิ" ก้องเกียรติรู้ดีว่าอดีตคนรักของเขานั้นมีความต้องการมากแค่ไหน"ฉันก็ขี้เบื่อเหมือนกันนะ" กิ่งแก้วเอื้อมมือไปลุบไล้แผงอกของก้องเกียรติแม้จะเคยๆกันมาก่อนแต่เมื่อห่างกันไปนานๆเธอก็มีความตื่นเต้นขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน"มาสนุกกันดีกว่านะหวังว่าการห่างของเราจะทำให้คุณคิดถึงผมบ้างนะ" ก้องเกียรติรีบเปิดประตูรถและอุ้มร่างบางไปสนุกกันในห้องโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งสองกำลังปล่อยความลับที่ปกปิดมานานให้เปิดเผยสามวันต่อมา"เป็นแบบนี้นี่เองเลวที่สุด" อิทธิกรนั่งกำมือแน่นหลังจากที่ได้หลักฐานจากนักสืบที่เขาจ้างให้ตามดูก้องเกียรติแต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องนี้กิ่งแก้วเป็นคนจัดการสั่งทุกอย่างทั้งหมด"นี่ยังติดต่ออคิณไม่ได้อีกหรือไง" ทศพลเอ่ยข