Share

ตอนที่10

“แฟนคุณพัชเค้ายุ่งๆน่ะตายิ่งรู้ว่ามีลูกก็ต้องขยันทำงานอยู่แล้ว”

พิมพรรณรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องที่เธอพูดออกไปคราแรกเพื่อไม่ให้ตาของเขาสงสัยเท่านั้นว่าพัชรินทร์ท้องกับใคร

“ไอ้งานก็ส่วนงานแต่ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลเมียบ้างคนสมัยนี้เป็นยังไงไปกันหมดถ้าห่วงงานห่วงเงินมากกว่าอะไรก็จะมีครอบครัวไปทำไม”

เริงฤทธิ์เท้าเอวว่าพรางส่ายหัว

“เดี๋ยวเค้าก็กลับมาเองจะตา”

เมื่อสองตาหลานพูดเรื่องสามีในใจของพัชรินทร์ก็ไม่อยากจะโกหกตาของพิมพรรณแต่หากจะเล่าความจริงเธอก็ทำไม่ได้

กรุงเทพมหานคร

บ้านอคิณ

“พี่จะเอาเงินส่วนของพัชไปไม่ได้นะครับ”

อิทธิกรหัวเสียหนักเมื่อรู้ว่าที่พี่ชายของเขาเรียกมาที่บ้านก็เพราะต้องการให้เขาอนุมัติเงินในส่วนของพัชรินทร์ให้กับพี่ชายของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากทำด้วยเพราะส่วนแบ่งนี้คุณแม่ของเขาแบ่งให้อย่างลงตัวแล้ว

“แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะใช้”

อคิณมีสมบัติมากมายจนเขาก็ใช้ไม่หมดแต่เขาอยากให้ส่วนของพัชรินทร์เป็นของเขาเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่สมควรที่จะได้สมบัติของแม่ของเขาไปสักชิ้นเดียว

“พี่ไม่มีสิทธิ์เอาไปใช้เพราะพัชไม่ได้เซ็นให้ใคร”

อิทธิกรไม่คิดเลยว่าพี่ชายตนจะนิสัยเสียอย่างที่คาดไม่ถึงเช่นนี้

“อ๋อ...ถ้าฉันจะใช้เงินก้อนนี้ต้องรอให้พัชรินทร์อนุมัติใช่ไหม..ได้ฉันจะไปลากตัวเธอมาเซ็นให้ฉันเอง”

อคิณจ้องหน้าอิทธิกรเขม็งด้วยดูน้องของเขาจะสนใจพี่น้องนอกใส้มากกว่าเขา

“พี่จะทำอะไร”

“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้อยากเจอพัชรินทร์เท่าไรหรอกนะแต่ตอนนี้อยากจะเจอขึ้นมาซะแล้วสิ”

อคิณพูดจบก็ยกยิ้มเล็กน้อย

“ผมบอกพี่แล้วไงว่าพี่ไม่มีทางได้เจอกับพัชอีก”

อิทธิกรว่าจบก็เดินหนีอคิณออกจากบ้านไปทันที

“ก็คอยดูแล้วกัน” อคิณเอ่ยตามหลังน้องชายเสียงฝาดไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้อยู่แล้วหากเขาอยากจะทำ

สามวันต่อมา

บริษัท

“ทำไมถึงอยากออกจากงานนี้ล่ะ”

อคิณนั่งกอดกิ่งแก้วอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาชายหนุ่มตาละห้อยอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าแฟนสาวของตนนั้นอยากออกจากงาน

“กิ่งแค่อยากกลับไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอยู่แต่ในออฟฟิศก็เบื่อๆน่ะค่ะ”

“แบบนี้ผมก็ต้องห่างกับคุณน่ะสิ”

“ห่างกันบ้างจะได้คิดถึงกันมากๆไงคะ”

กิ่งแก้วเชยคางชายหนุ่มเบาๆทั้งมองด้วยสายตาออดอ้อนเธอเป็นนางแบบเดินสายทำงานมาก่อนเมื่อมาอยู่ทำงานกับอคิณที่นี่ได้เป็นปีแล้วเธอก็รู้สึกเบื่อๆจึงอยากกลับไปทำงานที่รักเหมือนเดิมซึ่งเรื่องนี้อคิณเองก็ขัดอะไรไม่ได้

สามเดือนต่อมา

ไร่เริงฤทธิ์

“ไปตรวจมาวันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะลูกในท้องแข็งแรงดีหรือเปล่า” เริงฤทธ์ที่นั่งนับกล่องที่พึ่งสั่งมาเพื่อส่งสตอเบอรี่ส่งอยู่หน้าบ้านเมื่อเห็นสองสาวกลับมาจากโรงพยาบาลก็รีบวางงานในมือถามกับพัชรินทร์ว่าลูกในท้องเธอเป็นอย่างไรบ้างเพราะเขาคิดว่าท้องเธอมันใหญ่เกินปกติของคนท้องหกเดือน

“แข็งแรงดีค่ะตา”

พัชรินทร์ค่อยๆหย่อนก้นนั่งลงบนแคร่หน้าบ้าน

“ข้าว่าท้องมันโตผิดปกตินะ”

“จะไม่ผิดปกติได้ยังไงก็คุณพัชได้ลูกแฝดเลยนะตา”

พิมพรรณเอ่ยด้วยรอยยิ้มร่าดีใจที่ไร่นี้น่าจะครึกครื้นในอีกไม่กี่เดือน

“โอ้โห่..แบบนี้ก็ดีน่ะสิไร่นี้จะได้ไม่เหงา”

เริงฤทธิ์ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบานคราแรกดีใจว่ามีเด็กเล็กในไร่แล้วตอนนี้มีเป็นสองเขาก็ดีใจเพิ่มเข้าไปอีก

“พูดแบบนี้จะเลี้ยงหลานให้ใช้ไหมจ้ะตา”

พิมพรรณเอ่ยหยอกคนเป็นตา

“ก็...ถ้าให้เลี้ยงข้าก็เลี้ยงได้”

เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงสูง

“ก็บอกหนูพัชไปสิพ่อว่าขอเลี้ยงเห็นเตรียมต่อเปลไว้แล้วแบบนี้ต้องรีบต่อไว้อีกเปลแล้วมั้ง”

ภูผาที่กำลังขนกล่องเข้าที่ก็เอ่ยออกมาเสียงดังเขารู้ว่าพ่อของเขาเฝ้ารอลูกของพัชรินทร์ออกมาใจจะขาดเพราะเขาเห็นพ่อของเขาต่อเปลเสร็จไปแล้ว

“ไอ้ภูเอ็งนี่ก็”

เริงฤทธิ์หันไปมองค้อนใส่ลูกชายตัวดี

“ยังไงหนูก็ต้องมาฝากตาเลี้ยงอยู่แล้วล่ะจะ”

พัชรินทร์อมยิ้มที่รู้ว่าทุกคนเอ็นดูลูกของเธอขนาดนี้อนาคตหากเธอคลอดลูกมาได้สักสามสี่เดือนแล้วยังไงก็จะฝากให้ตาของพิมพรรณเลี้ยงอยู่แล้วเพราะท่านจะได้ไม่ต้องยุ่งกับงานในไร่ในสวนเพราะเธอก็จะลงแรงเอง

“ฝากได้เลยไม่ต้องเกรงใจข้าหรอกข้าชอบไม่เหงาดี”

เริงฤทธิ์ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ดีใจไม่น้อยคนแก่อย่างเขาได้อยู่กับลูกกับหลานมันก็จะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้พัชรินทร์คลอดลูกออกมาเร็วๆนี้เสียเหลือเกิน

“ค่ะตา”

สามวันต่อมา

วันนี้ทุกคนเลิกงานมาต่างก็นั่งทำกระทงกันเพื่อที่จะไปลอยในงานวัดคืนนี้สองสาวอย่างพิมพรรณกับพัชรินทร์เองก็นั่งง่วนกับการทำกระทงอยู่พักใหญ่กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบจะมืดพอดี

“ของคุณพัชสวยมากๆเลยค่ะ”

พิมพรรณเห็นพัชรินทร์ใช้กลีบดอกบัวทำกระทงขึ้นเป็นโดมเธอก็อดชื่นชมไม่ได้เพราะมันสวยแปลกตาไม่เหมือนของคนอื่นที่ใช้ใบตอง

“คุณพิมก็สวยเหมือนกันนะคะ”

กระทงของพิมพรรณนั้นเป็นการม้วนใบตองทำเป็นชั้นเหมือนบายสีปักรอบดาวเรืองสีเหลืองกระทงแบบนี้ดูงดงามกว่าของเธอเสียอีก

“นี่มัวแต่ชมของตัวเองกันอยู่นั่นแหละของน้าสวยหรือเปล่า”

ภูผารีบโชว์กระทงที่ทำจากกาบกล้วยทำเป็นเรือข้างในมีดอกไม้โปรยสามสี่อย่างให้สองสาวได้ดู

“ฝีมือแบบไหนก็แบบนั้นเลยนะน้าภู...ทำไมไม่วานให้สาวๆในไร่ทำให้ล่ะ”

พิมพรรณส่ายหัวเบาๆเธอจำได้ดีว่าตอนเด็กๆน้าเธอก็ทำกระทงแบบนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังทำแบบเดิม

“ไม่เอาหรอกลำบากคนอื่นเค้า..นี่ก็ลอยได้เหมือนกัน”

ภูผาเห็นว่าการลอยกระทงเป็นการขอขมาพระแม่คงคาเขาทำกระทงสุดฝีมือแล้วไม่ได้หมายจะทำไปอวดใคร

20.00 น.

“ที่นี่ดูครึกครื้นกันเป็นพิเศษเลยนะคะ”

พัชรินทร์เดินเข้ามาในงานพร้อมกับพิมพรรณเมื่อเห็นแสงสีงานวัดที่เธอพึ่งจะเคยเห็นทำให้เธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ

“งานวัดนานๆมีทีคนก็จะเยอะแบบนี้แหละค่ะเราไปลอยกระทงกันก่อนดีกว่านะคะ”

ปึก

“ว้ายย..”

พิมพรรณหลับตาปี๋เมื่อชนกับบางอย่างอย่างจัง

“นี่คุณเดินไม่ดูเลยหรือไง”

กระทงของทรงรบหลุดออกจากมือเพราะหญิงสาวเดินมาชนเขาในขณะที่เขากำลังปักธูปปักเทียนบนกระทงอยู่

“คุณนั่นแหละเดินมาชนฉันเอง”

พิมพรรณเห็นว่าตรงหน้าเป็นทรงรบเธอก็ต่อว่าเขาทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status