“นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมพัชอยู่ในสภาพแบบนี้”
อิทธิกรพุ่งตัวเข้าไปหาพัชรินทร์ที่นอนอยู่บนเตียงเขามองส่วนบนของน้องสาวของเขาที่โผล่ออกมาจากผ้าห่มมันมีแต่รอยแดงช้ำเต็มไปหมดอยากจะรู้นักว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องของเขากันแน่
“พี่กร..ฮือๆๆๆ..”
พัชรินทร์รีบสวมกอดอิทธิกรเธอร้องให้ตัวสั่นดีใจที่เห็นอิทธิกรอยู่ที่นี่
ชั่วโมงต่อมา
บริษัทXX
“พี่ทำกับพัชแบบนั้นได้ยังไง”
หลังจากที่จัดการธุระที่บ้านริมน้ำเสร็จอคิณก็ดิ่งตรงมาที่บริษัทเพื่อมาต่อว่าอคิณที่ทำกับพัชรินทร์เหยียบย่ำเธอให้เสียศักดิ์ศรี
“แสดงว่าแกไปเจอเธอมาอย่างนั้นสิ”
อคิณตอบกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านเขาพอจะดูออกว่าอิทธิกรโมโหเขาในตอนนี้เพราะน่าจะไปเจอกับพัชรินทร์มาแล้วแน่นอน
“ถ้าผมตัดสินใจตามหาพัชเร็วกว่านี้อีกสักนิดเธอก็คงจะไม่เป็นอะไรพี่มันโหดเหี้ยมเกินคนทำกับเธอแบบนั้นได้ยังไง”
อิทธิกรเอ่ยเสียงสั่นทั้งดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ
“เธอต่างหากที่ทำแม่ฉันก่อนมันน้อยไปกับสิ่งที่เธอจะได้รับ”
อคิณจ้องอิทธิกรเขม็ง
“ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะไร้ความปราณีแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างพัชรินทร์..พี่จำเอาไว้นะครับว่าพี่จะไม่มีโอกาสทำร้ายเธออีกพี่จะไม่มีวันเจอเธอจำเอาไว้”
“ดี..แกเอาแม่นั่นไปไว้ให้พ้นหน้าฉันก็แล้วกันถ้าฉันเจอพัชรินทร์อีกเมื่อไรล่ะก็ฉันก็ไม่รับประกันว่าเธอจะปลอดภัย”
อคิณยกยิ้มด้วยสายตาที่ไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
“พี่มันบ้าไปแล้ว”
อิทธิกรเอ่ยคำสุดท้ายด้วยน้ำตาและเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชายเขาไปทันที
20.00น.
เชียงใหม่
อิทธิกรได้วานให้ทศพลพาพัชรินทร์หนีไปที่บ้านของพิมพรรณตอนนี้เขาว่าจ้างพิมพรรณให้ดูแลพัชรินทร์และคิดว่าที่บ้านของพิมพรรณนั้นน่าจะเป็นที่ๆปลอดภัยที่สุดสำหรับพัชรินทร์
“ทุกอย่างโอเคแล้วงั้นอาขอตัวกลับเลยนะหนูพัชนี่บัตรเครดิตของอาหนูพัชใช้ได้ตลอดเวลา”
ทศพลพาสองสาวนั่งเครื่องมาที่เชียงใหม่แล้วต่อรถมาส่งทั้งสองที่บ้านของพิมพรรณกว่าจะถึงก็มืดพอดีก่อนกลับเขายื่นบัตรเครดิตของเขาเอาไว้ให้พัชรินทร์เพราะใช้บัตรของเขาจะปลอดภัยที่สุด
“ขอบคุณค่ะคุณอา”
พัชรินทร์ยกมือไหว้ทศพลที่ช่าวยเหลือเธอ
“นี่เงินค่าจ้างของหนูพิมงวดแรกที่กรฝากเอาไว้ให้”
ทศพลยื่นซองสีน้ำตาลที่อิทธิกรฝากมาให้กับพิมพรรณในนั้นมีเงินค่าจ้างสามเดือนแรกที่อิทธิกรจ่างพิมพรรณให้ดูแลพัชรินทร์และถือเป็นค่าเช่าบ้านนี้ไปในตัวด้วย
“ขอบคุณค่ะบอกคุณกรว่าไม่ต้องห่วงอะไรนะคะพิมจะดูแลคุณพัชอย่างดีเลยค่ะ”
พิมพรรณรับปากว่าจะดูแลพัชรินทร์อย่างดีเพราะตอนนี้ก็ถือว่าลงเรือลำเดียวกันแล้ว
“งั้นอาไปล่ะ”
ทศพลสบายใจแล้วที่เห็นสองสาวอยู่ในที่ปลอดภัยเขาจำเป็นต้องรีบกลับให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะไม่มีใครสงสัย
หลังจากที่ทศพลไปแล้วพิมพรรณก็พาพัชรินทร์เข้ามาในบ้านหลังที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มากของเธอที่เมื่อก่อนเธออยู่กับแม่เพียงสองคนและย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพเมื่อเธอเริ่มเข้าปีหนึ่งนานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่แต่ที่นี่ยังดูสภาพดีเพราะน้าชายของเธอเข้ามาทำความสะอาดที่นี่เป็นประจำ
“บ้านหลังนี้เป็นบ้านแม่ของฉันเองคุณพัชพอจะอยู่ได้นะคะ”
“ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะที่ปลอดภัย”
“นี่ห้องคุณพัชค่ะส่วนฉันจะนอนอยู่ห้องข้างๆมีอะไรโทรเรียกฉันได้ตลอดเลยนะคะ...คืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่นะคะที่นี่ปลอดภัยสำหรับคุณ”
พิมพรรณเอ่ยก่อนที่จะขอตัวเข้าห้องตัวเองไป
“ค่ะ”
คำว่าที่นี่ปลอดภัยทำให้พัชรินทร์สบายใจอยู่ไม่น้อยเธอหวังว่าความสงบของที่นี่จะช่วยเยียวยาจิตใจของเธอได้ไม่มากก็น้อย
วันต่อมา
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ”
พิมพรรณออกมาจากห้องเห็นพัชรินทร์ยืนชมวิวอยูที่ระเบียงบ้านจึงเข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ..ที่นี่อากาศดีแถมธรรมชาติก็ยังสวยงามมากๆเลยนะคะ”
พัชรินทร์ยิ้มอ่อนทั้งมองธรรมชาติยามเช้าที่นี่อย่างชื่นชม
“ค่ะ..ตอนเด็กๆที่ฉันอยู่กับแม่ที่นี่ก็ชอบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันเสมอเลยค่ะ”
พิมพรรณตื่นมาในเช้าๆแบบนี้เธออดจะคิดถึงสมมัยก่อนไม่ได้
“ตอนนั้นคุณคงจะมีความสุขมากเลยนะคะ”
พัชรินทร์สัมผันได้ถึงความสุขจากรอยยิ้มของพิมพรรณเหมือนเธอที่เวลาพูดถึงเวลาที่อยู่กับดวงสมรเธอก็จะอดอมยิ้มไม่ได้เช่นกัน
“ค่ะมีความสุขมากๆ...คุณพัชเห็นไร่ที่อยู่บนเนินโน่นไหมคะ”
พิมพรรณชี้ไปที่ไร่บนเนินเขาที่ไม่ไกลจากบ้านของเธอนัก
“ค่ะ”
“ไร่ตาฉันเองค่ะวันนี้ฉันจะพาคุณไปแนะนำกับคนที่นี่ในฐานะเพื่อนของฉันนะคะ”
“เอ่อ..คือ”
ไม่ใช่ว่าตอนนี้พัชรินทร์ไม่อยากไปแต่พอก้มดูเนื้อตัวเธอแล้วรอยเขียวช้ำยังคงมีเต็มไปหมดทั้งเสื้อผ้าก็ยังไม่มีเปลี่ยนอีกด้วย
“อ๋อ...ฉันมีเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ”
เรื่องนั้นพิมพรรณรู้ดีเลยจัดหาเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวให้พัชรินทร์เรียบร้อยแล้ว
ช่วงสายของวัน
ไร่เริงฤทธิ์
ไร่เริงฤทธิ์เป็นไร่ของตาพิมพรรณชื่อเริงฤทธิ์นี่ก็เป็นชื่อของตาเธอไร่นี้ตากับยายของเธอบุกเบิกสร้างกันมาด้วยสองมือสองไม้ของพวกท่านแม้ไร่นี้จะไม่ใหญ่มากแต่มันก็สามารถทำกันเป็นครอบครัวเลี้ยงกันเองได้และตอนนี้ก็มีเหล่าคนแถวนี้ที่มารับจ้างในไร่อีกหลายสิบชีวิตด้วย
ในระแวกนี้ไร่เริงฤทธิ์ดูจะเป็นไร่ที่เล็กที่สุดแถวนี้ก็มีไร่แบบนี้อยู่หลายไร่แต่ส่วนมากจะถูกไร่ภิภพกว้านซื้อไปจนหมดไร่ที่ใหญ่ที่สุดแถวนี้ก็เห็นจะเป็นไร่ของภิภพนั่นเองยิ่งพิมพรรณไม่ได้กลับมาที่นี่หลายปีไม่รู้ว่าไร่ภิภพขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ขนาดไหนแต่เธอจะไม่ยอมให้ไร่ของเธอเป็นส่วนหนึ่งของไร่นั้นเด็ดขาด
"ตาจ๋า"
พิมพรรณพาพัชรินทร์ขับมอเตอร์ไซต์คันเก่าของเธอขึ้นมาที่ไร่เมื่อมาถึงหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่เธอก็ขับรถไปจอดในโรงรถข้างๆบ้านแต่ไม่เห็นรถสักคันเห็นแต่ตาของเอนั่งคัดองุ่นอยู่กับคนงานในไร่
"ไอ้ตัวแสบตากลับมาแล้วทำไมกลับมาไม่บอกไม่กล่าวเลยล่ะ"
เริงฤทธิ์เห็นหลานสาวของเขาก็รีบลุกเข้ามากอดด้วยความดีใจปกติได้แต่โทรคุยกันวันนี้ได้เจอตัวเสียที
"พิมกับเพื่อนกลับมาพร้อมเพื่อนกะทันหันน่ะจะนี่พัชเพื่อนหนู..." พิมพรรณรีบแนะนำพัชรินทร์ให้ตาของเธอได้รู้จัก"สวัสดีค่ะ" พัชรินทร์รีบยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า"หวัดดีลูกหวัดดี" เริงฤทธิ์รับไหว้พัชรินทร์และตบบ่าเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู"ตาแล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอจ้ะ" "กำลังคัดสตรอเบอรี่พวกนี้แปรรูปน่ะสิ""นี่งานล้นมือจนต้องทำเองเลยเหรอจ้ะ" เมื่อก่อนเธอจะเห็นตาของเธอนั่งทำบัญชีมากกว่าไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ตาของเธอต้องมานั่งทำงานหลังขดหลังแข็งทั้งที่อายุปูนนี้แล้วด้วย"เปล่าหรอก..ตาไม่มีเงินจ้างคนเยอะอย่างเมื่อก่อนแล้ว" เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงอ่อนแต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้หลานของเขาต้องเป็นกังวล"ตอนนี้มันขนาดนี้เลยเหรอจ้ะ" พิมพรรณพอจะรู้จากน้าของเธอมาบ้างว่าที่ไร่ผลผลิตมันขายไม่ได้ราคาแต่ก็ไม่คิดว่าจะวิกฤตจนไม่มีเงินที่จะจ้างคนงาน"ก็ค่าหยุกค่ายามันก็แพงไหนจะผลผลิตที่ได้ก็ขายไม่ได้ราคาก็ต้องถูๆไถๆไปนั่นแหละพิมเอ้ย""แล้วน้าภูล่ะ" "ลงแรงกับคนงานอยู่ท้ายไร่นู่นถางหญ้ากัน""อ๋อ..จะ""สตอเบอรี่พวกนี้คุณภาพดีนะคะทำไมขายไม่ได้ราคาล่ะคะ" พัชรินทร์หยิบดูสตอเบอรี่ในลังที่กำลังจะแปรรุปเธอ
โรงพยาบาลทั้งสองมาโรงพยาบาลโดยมีทรงรบขับรถพามาพิมพรรณไม่เต็มใจให้ชายหนุ่มช่วยเท่าไรนักแต่ก็ต้องจำใจเพราะเธอต้องคอยดูอาการของพัชรินทร์ในระหว่างทางที่จะไปโรงพยาบาล"พัชเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ" เมื่อเห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องตรวจหลังจากที่เข้าไปพักใหญ่พิมพรรณก็รีบเข้าไปถามอาการของพัชรินทร์กับหมอหนุ่มทันที"อาการอ่อนเพลียของคนท้องน่ะครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรอรับยาบำรุงแล้วก็กลับได้แล้วล่ะครับ" หมอหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเพราะอาการของพัชรินทร์เป็นเพียงอาการวิงเวียนของคนท้องอ่อนๆเท่านั้น"ท้อง!!" คำตอบของหมอหนุ่มทำเอาพิมพรรณถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอกันเลยทีเดียว"ตกใจอะไรขนาดนั้น" ทรงรบมองหน้าหญิงสาวที่ยืนข้างๆเขาอย่างไม่เข้าใจเพื่อนท้องก็ต้องดีใจแต่นี่หญิงสาวกลับทำท่าตกใจเหมือนทำอะไรผิดพลาดครั้งใหญ่เสียอย่างนั้น"ยุ่ง" พิมพรรณหันไปขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจและเดินเข้าไปในห้องเพื่อไปหาพัชรินทร์อย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง"อ้าว.." ทรงรบเห็นเช่นนั้นจึงสงสัยเข้าไปใหญ่ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมหญิงสาวจึงมีท่าทางแบบนั้น"คุณพัช" พิมพรรณเข้าไปสวมกอดพัชรินทร์ที่นั่งร้องให้เหม่อลอยอ
“แฟนคุณพัชเค้ายุ่งๆน่ะตายิ่งรู้ว่ามีลูกก็ต้องขยันทำงานอยู่แล้ว”พิมพรรณรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็วเพราะเรื่องที่เธอพูดออกไปคราแรกเพื่อไม่ให้ตาของเขาสงสัยเท่านั้นว่าพัชรินทร์ท้องกับใคร“ไอ้งานก็ส่วนงานแต่ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลเมียบ้างคนสมัยนี้เป็นยังไงไปกันหมดถ้าห่วงงานห่วงเงินมากกว่าอะไรก็จะมีครอบครัวไปทำไม”เริงฤทธิ์เท้าเอวว่าพรางส่ายหัว“เดี๋ยวเค้าก็กลับมาเองจะตา”เมื่อสองตาหลานพูดเรื่องสามีในใจของพัชรินทร์ก็ไม่อยากจะโกหกตาของพิมพรรณแต่หากจะเล่าความจริงเธอก็ทำไม่ได้กรุงเทพมหานครบ้านอคิณ“พี่จะเอาเงินส่วนของพัชไปไม่ได้นะครับ”อิทธิกรหัวเสียหนักเมื่อรู้ว่าที่พี่ชายของเขาเรียกมาที่บ้านก็เพราะต้องการให้เขาอนุมัติเงินในส่วนของพัชรินทร์ให้กับพี่ชายของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาทำไม่ได้และไม่อยากทำด้วยเพราะส่วนแบ่งนี้คุณแม่ของเขาแบ่งให้อย่างลงตัวแล้ว“แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วฉันมีสิทธิ์ที่จะใช้”อคิณมีสมบัติมากมายจนเขาก็ใช้ไม่หมดแต่เขาอยากให้ส่วนของพัชรินทร์เป็นของเขาเพราะคิดว่าหญิงสาวไม่สมควรที่จะได้สมบัติของแม่ของเขาไปสักชิ้นเดียว“พี่ไม่มีสิทธิ์เอาไปใช้เพราะพัชไม่ได้เซ็นให้ใคร”อิทธิกรไม่ค
“กระทงผมล่วงหมดแล้วเอาของคุณมาให้ผมเลย”“แบบนี้ก็ได้เหรอคุณก็ไปซื้อใหม่ที่หน้าวัดสิมีคนตั้งขายตั้งเยอะ”พิมพรรณชี้ให้ชายหนุ่มเดินออกไปซื้อที่หน้าวัดเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเธอในเมื่อชายหนุ่มมายืนขวางทางเธอเอง“ไม่ถ้าคุณไม่ให้งั้นผมจะลอยกับคุณ”ทรงรบดึงกระทงของพิมพรรณออกจากมือของหญิงสาวหน้าตาเฉย“อย่าเถียงกันเลยค่ะเอาของฉันก็ได้”พัชรินทร์เห็นท่าจะไม่ค่อยดีจึงยื่นกระทงของตัวเองให้กับทรงรบเพื่อตัดปัญหา“ไม่ได้นะคะ”พิมพรรณรีบห้ามพัชรินทร์เอาไว้หากชายหนุ่มอยากจะลอยกระทงกับเธอนักเธอก็จะทำให้วันลอยกระทงปีนี้ทรงรบไม่มีวันลืมไปเลย“อยากลอยกับฉันใช่ไหม..ได้ตามมา”“อ้าวทำไมพ่อเลี้ยงมาด้วยล่ะ”ภูผาที่มารอสองสาวที่ทาน้ำของวัดอยู่ก่อนแล้วเห็นสองสาวมีทรงรบเดินมาด้วยจึงแปลกใจไม่น้อยเพราะเห็นหลานของเขาพูดอยู่ว่าไม่ค่อยชอบหน้าพ่อเลี้ยงของไร่ภิภพเท่าไรไหนตอนนี้มาพร้อมกัน“ฉันเดินชนกับพ่อเลี้ยงกระทงเค้าเลยพังฉันก็ต้องให้เค้ามาลอยกับฉันนี่แหละ”“งั้นก็รีบลอยกันเถอะ”ภูผาพยักหน้าเข้าใจและให้ทุกคนรีบลอยเพราะเดี๋ยวดึกกว่านี้จะต้องต่อคิวกันกับคนอื่นให้ยุ่งยาก“คุณพัชค่อยๆนะคะ”พิมพรรณให้ทรงรบถือกระทงเอาไว้ก
เป็นปีแล้วที่กิ่งแก้วลาออกจากงานเลขาไปเป็นนางแบบเหมือนเดิมอคิณเองก็ต้องเรียกมารุตมาช่วยงานอย่างเก่าดูเหมือนความสัมพันธ์ของอคิณและกิ่งแก้วจะไม่แน่นแฟ้นอย่างเมื่อก่อนเท่าไรเพราะทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอกันเหตุเพราะงานอคิณก็ค่อนข้างยุ่งกิ่งแก้วก็เดินทางบ่อยเดือนๆแทบจะไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ17.00 น."ตั้งแต่คุณไม่ได้เป็นเลขาผมเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันสักเท่าไรเลยนะ" วันนี้กิ่งแก้วพึ่งกลับจากปารีสเมื่ออคิณรู้จึงรีบไปรับเธอที่สนามบินมาที่บ้านด้วยความคิดถึง"ก็กิ่งต้องไปต่างประเทศบ่อยนี่คะ""แล้วฤกษ์แต่งเราล่ะผมไม่เห็นคุณจะพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย""ช่วงนี้ทั้งกิ่งทั้งคุณก็ยุ่งๆพักแพลนไปก่อนก็ได้ค่ะยังไงเราก็ยังรักดันดีอยู่นี่คะ" "คืนนี้คุณพึ่งกลับมาอยู่กับผมนะครับ" อคิณแปลกใจไม่น้อยที่กิ่งแก้วไม่ยักจะสนเรื่องแต่งงานแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะถามแค่ตอนนี้เขาอยากรักเธอให้หายคิดถึงมากกว่าจึงค่อยๆสอดมือหนาเข้าไปขยำอกตูมของเธออย่างปรารถนา"กิ่งต้องกลับบ้านน่ะค่ะคุณพ่อท่านรู้แล้วว่ากิ่งกลับมาถ้าจะขอค้างกับคุณกิ่งกลัวว่าจะถูกท่านตำหนิ" กิ่งแก้วต้องรีบดึงมือชายหนุ่มออกเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับอคิณนานได้"
“หา...ทำไมเราติดหนี้เค้าเยอะแบบนั้นล่ะตา” พิมพรรณเบิกตาโพรงตกใจเมื่อได้ยินยอดหนี้“ข้าก็เอามาลงทุนกับเครื่องทุ่นแรงในไร่นี่แหละ”“ขอผ่อนเค้าไปก่อนไม่ได้เหรอคะตา” พัชรินทร์เธอพอจะมีเงินอยู้่บ้างหากขอผ่อนผันได้เธอก็จะช่วยจ่ายเท่าที่มีไปก่อน“นี่ก็สามปีแล้วที่ไม่ได้ผ่อน..อีกสามเดือนถ้าไม่มีเงินไปจ่ายไร่นี้ก็จะถูกยึด” เริงฤทธิ์ส่ายหัว“นี่ถึงกับยึดกันเลยเหรอ” พิมพรรณแทบเข่าอ่อนเธอรักไร่นี้มากเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธออุ่นใจเมื่อได้อยู่ที่นี่"ไร่นี้จะไม่ถูกยึดถ้าเอ็งยอมช่วยตา" "คืออะไรพ่อ" คำพูดของคนเป็นพ่อทำเอาภูผาขมวดคิ้วเป็นปมไม่เข้าใจว่าพิมพรรณจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร“ถ้าเจ้าพิมยอมแต่งงานกับทรงรบทุกอย่างจะเป็นโมฆะ” "นี่พ่อไปตกลงกับพ่อเลี้ยงแบบนั้นได้ยังไง" ภูผาเอ่ยเสียงแข็ง"ก็เค้าเสนอมาแบบนั้นฉันก็มาถามเจ้าพิมมันก่อนถ้าไม่ตกลงก็ปล่อยให้เค้ายึดไปก็เท่านั้น""หนูขอคิดดูก่อนนะตา" พิมพรรณนั่งหน้าตาตื่นเธอเงียบอึ้งไปครู่ใหญ่เธอขอเวลาใช้ความคิดสักพักแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เองเธอพอจะรู้ว่าทรงรบคงต้องการแกล้งเธออีกแน่นอนถึงได้ให้ข้อเสนอนี้กับตาของเขามา20.00 น.“เจ้าแฝดหลับ
"นี่ผมหนวกหูนะ"ทรงรบแสร้งเอามือปิดหูทั้งยกยิ้มมุมปาก"ได้...เอาแบบนี้ก็ได้...ฉันแต่งงานกับคุณแล้วหนี้ฉันจะจบใช่ไหม"พิมพรรณชี้หน้าทรงรบด้วยสายตาจริงจัง"อืม...""ได้ฉันจะแต่งทนฉันได้เกินเดือนได้ก็คอยดู"พิมพรรณกัดฟันพูดจบก็หันหลังเดินออกไปอารมณ์เธอตอนนี้แทบจะฉีกเนื้อทรงรบเป็นชิ้นๆได้แต่ก็ต้องข่มเอาไว้เอาคืนทีหลัง"อืม...เตรียมตัวรอได้เลยอาทิตย์หน้าผมจะแห่ขันหมากไปขอคุณ"ทรงรบเอ่ยตามหลังพิมพรรณด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีเป็นพิเศษ"รีบๆล่ะฉันรออยู่"พิมพรรณหันมาชี้หน้าชายหนุ่มและหันหลังเดินออกไปต่อ พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มตามหลังหญิงสาวความพยศของเธอนี่แหละที่ทำให้เขาชอบมองเธอและสร้างข้อผูกมัดบ้าๆนี้ขึ้นมา"อีพ่อเลี้ยงบ้าคุณได้เจอฉันแน่คอยดูสิ"เมื่อพิมพรรณขึ้นมานั่งบนรถได้เธอก็บ่นอุกอย่างเจ็บใจในเมื่อเขาเอาเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นกับเธอตัวเธอก็จะทำให้รู้ว่าไม่ควรมาเอาชนะกันด้วยวิธีนี้"อะไรนะตกลงแต่งงานเหรอ""ค่ะ...พ่อเลี้ยงทรงรบกับฉันต้องเจอกันสักตั้ง"พิมพรรณกลับมาที่บ้านบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพัชรินทร์ทำเอาพัชรินทร์เองเริ่มกังวลไม่น้อยคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบแค่แต่
กรุงเทพมหานคร“ส่งของขวัญไปหรือยัง”อคิณที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในห้องทำงานเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของทรงรบเพื่อนของเขาแต่ที่ไม่อยากไปด้วยตัวเองก็เพราะสภาพจิตใจยังคงไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงส่งคนไปให้ของขวัญและอยู่ร่วมงานแทนทรงรบกับอคิณเรียนรุ่นเดียวกันในมหาลัยตอนเรียนทั้งคู่สนิทกันมากพึ่งจะมาห่างกันก็ช่วงที่ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองคราแรกเขายังคิดว่าทรงรบจะแต่งงานทีหลังเขาด้วยซ้ำเพราะไม่เห็นว่าจะมีสาวคนไหนเข้าตาทรงรบสักคนแต่กลับเป็นเขาที่ยังไม่ได้แต่งเพราะว่าที่เจ้าสาวที่ขอเอาไว้กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อเขานั่นเอง“คนของเราส่งเรียบร้อยแล้วครับแล้วก็เก็บภาพบรรยากาศในงานแต่งมาด้วยครับ”มารุตรีบส่งไฟล์รูปงานแต่งของทรงรบให้อคิณทันทีที่เขารีบให้อคิณดูเพราะมีบางอย่างที่อคิณน่าจะอยากรู้“ฉันขอดูหน้าเจ้าสาวเพื่อนฉันหน่อยซิ...นี่มัน”อคิณเปิดไฟล์รูปดูในโน๊ตบุ๊คครู่หนึ่งเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเจ้าสาวของทรงรบคือพิมพรรณพยาบาลที่เขาเคยจ้างให้เฝ้าพัชรินทร์แถมคนที่ยืนยิ้มข้างๆบ่าวสาวนั้นยังเป็นพัชรินทร์“ครับเธออยู่ที่นั่นตอนนี้เธอก็มีลูกแฝดผู้หญิงวัยเก้าเดือนกว่าแล้วด้วยครับ”เรื่อง