หน้าหลัก / ทั้งหมด / ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน / 4/1 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

แชร์

4/1 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

ผู้เขียน: แอปเปิลโซดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 15:54:29

ฉู่ซีเย่ยิ้ม พูดจาเสแสร้งกันไปหลายสิบตลบ ในที่สุดหย่งสวินก็พูดในสิ่งที่ต้องการออกมาแล้ว ทุกอย่างเป็นเหมือนที่เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น หย่งสวินต้องการครอบครองเมืองโจวอี้ผ่านทางฉู่กวงเยี่ยน หลังจากแผนส่งองค์หญิงเจ็ดมาเป็นทองแผ่นเดียวกันล่ม

“ไท่จื่อทรงคิดรอบคอบ ขนาดเรื่องของเมืองโจวอี้ของเรา ท่านก็คิดไว้แล้วว่าต้องจัดการอย่างไร เป็นข้าเสียอีก ที่นึกไม่ถึงเรื่องนี้”

หย่งสวินฟังออกว่ากำลังถูกแดกดัน แต่เขายังยิ้มแย้ม “เจ้าอาจฟังแล้วรู้สึกว่าข้าก้าวก่ายมากไป แต่ฉู่ซื่อจื่อ บ้านเมืองไร้ผู้ปกครองยากจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง วันหนึ่งวันใดหาถูกพวกนอกด่านไร้อารยะบุกโจมตี ใครเล่าจะปกป้องราษฎร ที่ข้าพูดเมื่อครู่เป็นเพราะหวังดีทั้งนั้น อีกอย่างข้าไม่ได้คิดตั้งตัวเป็นผู้ปกครองเอง แต่ให้คนในสกุลเจ้ามาช่วยเหลือ ทุกอย่างยังเป็นของสกุลฉู่ รอวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อย ย่อมส่งคืนตำแหน่งให้ผู้สืบทอดตัวจริง”

ฉู่ซีเย่ถาม ใบหน้าแสดงอารมณ์เท่าที่จำเป็น “พูดมาถึงตรงนี้ ในใจท่านคงมีคนที่เหมาะสมแล้วกระมัง”

ตั้งแต่จัดการองค์หญิงเจ็ดที่ใช้งานไม่ได้ ไปจนถึงรวมกองทัพมากดดันฉู่ซีเย่ หย่งสวินปลุกระดมปั่นป่วนทุกอย่างเพื่อแทรกแซงอำนาจฉู่ซีเย่ให้จงได้

“ท่านลุงญาติฝั่งพี่ชายของเจ้ามีบุตรชายคนหนึ่งกระมัง ข้ายินชื่อเสียงเขามาบ้าง เป็นผู้มีความรู้ความสามารถโดดเด่น”

“ผู้มีความสามารถโดดเด่นหรือ ในสมองข้าล้วนมีแต่แม่ทัพฉู่ซีห่าว พี่ชายของข้า”

“ความสามารถของแม่ทัพฉู่ข้าล้วนประจักษ์ดี ทว่าเจ้าก็รู้ว่าแม่ทัพฉู่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์เขตชายแดน ไม่อาจหวนคืนเมืองโจวอี้ในเร็ววัน ดังนั้นจึงควรให้ผู้อื่นที่เหมาะสมขึ้นปกครองชั่วคราว”

ฉู่ซีเย่ถามยิ้มๆ “ไท่จื่อ ท่านคงไม่ได้หมายถึงฉู่กวงหลินกระมัง”

สิ้นประโยคนั้น ความเคลื่อนไหวหน้าประตูบ่งบอกการมาถึงของคนกลุ่มหนึ่ง จินเฟยรายงานฉู่ซีเย่ว่ามีคนมา

ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นฉู่กวงเยี่ยนและบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างฉู่กวงหลิน รวมทั้งสองพี่น้องสกุลหยาง

“คารวะไท่จื่อ ผู้น้อยไม่ทราบว่าพระองค์ทรงเสด็จอยู่ที่นี้ ไม่ทราบว่ามาขัดการสนทนาของท่านกับซื่อจื่อหรือไม่”

“ไม่เลย เรากำลังพูดถึงเรื่องพวกท่านพอดี มาเถิด นั่งลงคุยกัน” หย่งสวินเชื้อเชิญ

ห้องโถงเงียบลงชั่วครู่ คุณหนูหยางซือฉีลอบมองใบหน้าของฉู่ซีเย่ด้วยความชื่นชม นางไม่อาจปิดบังความรู้สึกจนสองแก้มขาวนวลแดงระเรื่อ

ฉู่ซีเย่นั่งนิ่งยิ่ง ทำเหมือนมองไม่เห็นฉู่กวงเยี่ยน

“ฉู่ซื่อจื่อ ลุงมาเยือนโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ขออภัยเจ้าด้วยนะ”

“เจ้าเมืองชง ท่านคงสบายดีกระมัง” ฉู่ซีเย่ทักทายตามมารยาท

“ลุงสบายดี แล้วเจ้าเล่า ปีนี้คล้ายซูบผอมลงไม่น้อย เช่นนี้ไม่ได้นะซื่อจื่อ ฉู่อ๋องทราบเข้าคงตำหนิแน่ว่าไม่ดูแลเจ้าให้ดี”

ฉู่ซีเย่ไม่แม้แต่จะเรียกฉู่กวงเยี่ยนว่าท่านลุง แต่ใจยังต้องฝืนใจต้อนรับเลยก็ใช้กล้ามเนื้อบนหน้าจนเมื่อยไม่น้อย

“เจ้าเมืองชงวางใจ ข้าไม่ได้ป่วย เพียงแต่หลังๆ มานี้อาหารไม่ใคร่ถูกปาก จึงทานน้อยลง” ฉู่ซีเย่ไม่ทักทายฉู่กวงหลินไม่ได้ อย่างไรก็ดี เขาก็ต้องรักษามารยาทในสายสกุล “ไม่พบกันนาน รองเจ้าเมืองชงคงสบายดี”

“ข้าย่อมสบายดี วันนี้มาหาเจ้าอย่างฉุกละหุก ต้องขออภัยด้วย” ฉู่กวงหลินตอบ เขาไม่มีสิ่งใดด้อยกว่าฉู่ซีเย่ นอกจากชาติกำเนิด ในใจจึงมีก้อนความรู้สึกที่อยากเอาชนะอยู่เต็มเปี่ยม “ข้าทราบดีว่าเจ้ารักความเป็นส่วนตัว แต่สหายสนิทของข้าและคุณหนูสกุลหยางอยากมาเที่ยวเมืองโจวอี้สักครั้ง ข้าเลยขอร้องท่านพ่อให้พาทั้งสองมาด้วย ไม่รู้จะรบกวนเจ้ามากไปหรือไม่”

“จวนสกุลฉู่เป็นของท่านปู่ ท่านเป็นหลานเช่นกัน ไยต้องคิดมาก” ฉู่ซีเย่หันไปทางสองพี่น้องสกุลหยางครู่หนึ่ง ในใจไม่ถูกชะตาหยางชวี่ รวมที่คนที่อยู่รายล้อม “แขกของเจ้าเมืองชง ย่อมเป็นแขกของข้าเช่นกัน จินเฟย พาคุณชายและคุณหนูหยางไปพักผ่อนที่เรือนรับรอง”

ต่อจากนี้เป็นเรื่องภายใน ฉู่ซีเย่เตรียมตัวสำหรับฉากละครหนึ่งที่ได้รับการตระเตรียมมาล่วงหน้า เขาจึงตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไปเสีย

“เจ้าเมืองชง ท่านมาข้าเช่นนี้ คงมีธุระสำคัญใช่หรือไม่”

“ธุระของลุงไม่ใคร่สำคัญนัก เจ้ากับไท่จื่อพูดธุระให้เรียบร้อยเสียก่อนเถิด”

หย่งสวินเอ่ย “ธุระของเราเกี่ยวข้องกับท่านและคุณชายฉู่”

“เกี่ยวข้องหรือ เรื่องอันใดกัน” ฉู่กวงเยี่ยนทำไม่รู้ ทั้งๆ ได้รับจดหมายจากไท่จื่อ นัดแนะให้มาจวนสกุลฉู่วันนี้ในเวลานี้ ในใจพอจะรู้ว่าพระองค์คิดจะยืมมือเขามาจัดการฉู่ซีเย่ แต่ก็ยอมตามน้ำ เพราะคนที่ได้ประโยชน์ คือบุตรชายของตน

“เป็นเช่นนี้ ท่านก็ทราบว่าหลังจากเจ้าเมืองฉู่หลินเสียชีวิตไป เมืองโจวอี้ก็ไร้เจ้าเมืองมาร่วมสามปี แน่นอนว่าแม่ทัพฉู่คือผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไปอย่างชอบธรรม ทว่ายามนี้ชายแดนคุกรุ่น ไม่อาจละทิ้งหน้าที่ ทำให้ตำแหน่งเจ้าเมืองว่างเว้น กอปรกับฉู่ซื่อจื่อมีเหตุให้ต้องลงใต้นำร่างน้องเจ็ดกลับสู่ต้าหย่ง รัฐหลู่จึงดูคล้ายไร้ผู้นำที่พอวางใจได้คอยปกป้องเมือง เมื่อครู่ข้าและฉู่ซื่อจื่อได้พูดคุยกันบ้าง เห็นชอบว่าคุณชายฉู่ มีคุณสมบัติเหมาะสม ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองฉู่ชั่วคราวได้”

ฉู่ซีเย่ไม่กล่าวอันใดเลย เขาเพียงนั่งชมฉากละครซึ่งกำลังจะเข้าสู่สาระสำคัญแล้ว หน้าที่ของเขา มีเพียงอย่างเดียวคือฟังไปก่อนเหมือนคนโง่งม คอยจนเมื่อถึงจุดที่ต้องออกโรง ค่อยพูดขึ้นมา ฉากละครที่ถูกปั้นแต่งด้วยมือนักแสดงชั้นหนึ่ง ถือเป็นอันยุติ

“ไท่จื่อทรงกรุณามีเมตตายิ่ง ทว่าตำแหน่งเจ้าเมืองฉู่เป็นของแม่ทัพฉู่ ผู้น้อยต่ำต้อยไร้สามารถ ไหนเลยจะกล้ารับ” ฉู่กวงหลินกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่น

“คุณชายฉู่ ท่านอย่าได้ด้อยค่าตนเองเช่นนี้ ที่ข้ากล่าวมาเมื่อครู่ เป็นความคิดเห็นของข้า ความจริงฉู่ซื่อจื่อยังไม่ได้ตัดสินใจอันใด”

ฉู่ซีเย่ได้สัญญาณออกโรงแล้ว เขาปั้นหน้ายิ้มการค้า ด้วยรู้ดีว่าละครทุกอย่างที่ได้ปูมาตั้งแต่ต้นของไท่จื่อ ก็เพื่อสิ่งนี้

“ไท่จื่อพูดมาไม่ผิด เมืองโจวอี้ไร้ผู้ปกครองมาร่วมสามปี อีกทั้งข้ายังมีหน้าที่รับผิดชอบ ส่งร่างองค์หญิงเจ็ดกลับต้าหย่ง ระหว่างนี้หากมีคนเช่นรองเจ้าเมืองชงมาคอยดูแลเมืองชั่วคราว คงคลายความกังวลได้”

“ฉู่ซื่อจื่อ เจ้าจะแต่งตั้งข้าเป็นเจ้าเมืองฉู่จริงหรือ” ฉู่กวงหลินเก็บซ่อนสีหน้าเมื่อฉู่ซีเย่จำต้องถอยในเกมครั้งนี้ของไท่จื่อ เขาพึงพอใจที่เห็นว่าตนปีนขึ้นมาใกล้ฉู่ซีเย่มากขึ้น แม้ว่าการได้เป็นเจ้าเมืองโจวอี้ ยังไม่ถือว่าเสมอด้วยซ้ำ

“ชั่วคราว ข้าจะให้กงซุนหลางแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าเมืองฉู่ชั่วคราว”

ครั้งนี้ฉู่ซีเย่ต้องถอย แต่เขาจะไม่ถอยตลอดไปแน่

วันนี้จวนสกุลฉู่ต้อนรับแขกมากที่สุดในช่วงสามปีมานี้ก็ว่าได้ เมื่อญาติสายสกุลรองอย่างฉู่กวงเยี่ยนได้รับอนุญาตเข้าพักในจวน รวมกับไท่จื่อและคุณชายคุณหนูสกุลหยาง

เหยาอี้เหยาได้ฟังมาจากกงจิ้งแล้วว่าแผนการลดอำนาจของไท่จื่อได้ผล ฉู่ซีเย่จำต้องเสียเมืองโจวอี้ให้กับฉู่กวงหลิน ส่วนตนเองต้องลงใต้ ทำหน้าที่ส่งร่างองค์หญิงหย่งเยี่ยนกลับต้าหย่งเพื่อเป็นการแสดงการขออภัยอย่างจริงใจต่อฝ่าบาทสำหรับการสูญเสีย

ด้วยการเพิ่มขึ้นของบรรดานายท่านในจวนที่สูงเกินกำลังคนจะดูแลทั่วถึง เหล่าบรรดาสาวใช้ไปจนถึงแม่ครัวจึงยุ่งกับงานจนมือเป็นระวิง

ทว่าเหยาอี้เหยาไม่คาดจริงๆ ว่าฉู่ซีเย่จะถึงกลับให้คนเรียกนางไปใช้งาน โดยระบุสั้นๆ ว่านางจะไม่ทำก็ได้ เขาไม่ได้บังคับ แต่หากนางไม่ทำ นางควรออกไปจากจวนเพราะไม่มีประโยชน์

เมื่อเย็นซ่างเจวี๋ยและลู่หมิงกับคนติดตามของนางถูกเชิญไปพักยังบ้านรับรองที่ห่างออกไป ด้วยเหตุผลว่าที่พักไม่พอ ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องทำตามเขาสั่ง ไม่เช่นนั้นอาจต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น นางก็จะเสียโอกาสใกล้ชิดเพื่อล้วงความลับ

“ข้าส่งเจ้าได้เท่านี้” คนเฝ้าประตูให้เหยาอี้เหยาขึ้นไปได้เพียงคนเดียว

“ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวข้ากลับมา” นางบอกกับกงจิ้ง เขาเฝ้าอยู่ด้านนอกประตู ส่วนนางต้องเดินเข้าไปอีกสักพัก ขึ้นบันไดไปสู่บ่อน้ำร้อนซึ่งเป็นพื้นที่สงวนสำหรับฉู่ซีเย่เท่านั้น

ในมือเหยาอี้เหยาถือถังไม้พร้อมกาสุราและชุดตัดเย็บสะอาดสะอ้าน สิ่งของเหล่านี้เป็นจินเฟยนำมาให้ บอกว่าหลังฉู่ซีเย่เเช่น้ำร้อนบนเขา ให้เขาผลัดเป็นชุดในมือนางตอนนี้

เส้นทางบนเขาทั้งไกลและชัน พื้นน้ำแข็งทำนางลื่นหลายครั้ง แต่สุดท้ายเหยาอี้เหยาก็ประคองตัวเองมาจนถึงจุดแช่น้ำร้อน ไอควันสีขาวปกคลุมอยู่ทั่วกลางหิมะขาวโพลน แสงสว่างจากโคมไฟที่จุดไว้รอบๆ เสริมให้ทิวทัศน์รอบกายงดงาม มองอย่างไรก็เพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ

เวลาผ่านไปพักหนึ่ง นางหยุดมองทิวทัศน์แล้วมองหาฉู่ซีเย่ ทว่าในบริเวณรอบข้างนางนั้น ไม่มีฉู่ซีเย่ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยเหยาอี้เหยา นำสุราและชุดมาให้ท่านแล้วเจ้าค่ะ”

ไร้เสียงตอบกลับมา เหยาอี้เหยาวางของไว้บนศิลา ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้บ่อ มองผ่านไอสีขาวที่อบอุ่นเข้าไป เผื่อว่าจะพบกับฉู่ซีเย่ ระหว่างที่กำลังขยับเท้าเข้าไปอีกเล็กน้อย พื้นน้ำแข็งใต้เท้าพลันลื่น เหยาอี้เหยาทรงตัวไม่อยู่ นางใจหายแวบเมื่อรู้ตัวแน่ว่าต้องตกบ่อ ปากก็ร้องลั่นทันที

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วยเจ้าค่ะ!” นางตัวเล็ก ส่วนสูงไม่พ้นบ่อน้ำพุร้อน สองมือจึงตะเกียกตะกายสุดชีวิต น้ำเข้าจมูกจนสำลัก อีกไม่นานคงแย่แน่ หากไม่มีมือที่เอื้อมมาจับคอเสื้อนางขึ้น ให้จมูกพ้นน้ำหายใจได้

“ความสามารถไม่มีไม่พอ ยังเกิดมาแคระเกร็น” ฉู่ซีเย่คว้าคอเสื้อนางไว้ด้วยมือเดียว

“ซื่อจื่อ ท่านอยู่ในบ่อแล้วทำไมไม่ส่งเสียง ข้าหาท่านเลยตกบ่อเกือบตาย”

“ความซุ่มซ่ามของเจ้าเป็นความผิดข้ารึ”

“ไม่ใช่ๆ” เหยาอี้เหยาโบกมือ ใช้มืออีกข้างลูบหน้าตัวเอง เมื่อครู่ตื่นตกใจจนไม่ทันรู้สึกอะไร แต่ตอนนี้นางรู้สึกดีอย่างประหลาด “อา อุ่นอะไรเช่นนี้ สบายตัวดีจัง”

ความอุ่นสบายของน้ำพุร้อนเป็นสัมผัสที่ชวนให้นางอยากทิ้งตัวลงไป ถ้าไม่มีสายตาคมกริบมองนางด้วยท่าทีอยากจะหักคอทิ้งของฉู่ซีเย่

“ขึ้นไป” เสียงครางเมื่อครู่ของนางทำเขาขมวดคิ้ว

“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาถูกผลักไปที่ขอบบ่อ นางใช้มือและขาเกี่ยวขอบน้ำพุขึ้นไป ทว่าเรี่ยวแรงนางน้อยนัก แถมขอบบ่อยังเป็นน้ำแข็งเย็นเฉียบและลื่นยิ่ง ปีนอย่างไรก็ขึ้นไม่ได้

เป็นอีกครั้งที่ฉู่ซีเย่ต้องยื่นมือเข้าช่วย เขาผลักกระแสน้ำในบ่อให้ช่วยพยุงนางขึ้นไปเงียบๆ เหยาอี้เหยาจึงไม่รู้ว่าขึ้นจากบ่อน้ำได้เพราะฉู่ซีเย่

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยรู้สึกหนาว ขออนุญาตกลับลงไปก่อนนะเจ้าค่ะ” สิ่งแรกที่รู้สึกคือลมหนาวที่พัดปะทะร่าง เหยาอี้เหยาที่เปียกชื้นทั้งตัวต้องการชุดใหม่อย่างเร่งด่วน

“หยิบชุดให้ข้า” ฉู่ซีเย่พรางตัวอยู่ในม่านหมอกเพื่อซ่อนร่างกายเปลือยเปล่าจากสายตานาง เฝ้าดูนางเดินย่องไปหยิบชุด ทั้งๆ ที่ความจริงเขาเอื้อมหยิบชุดเองได้ แต่ต้องการใช้งานเหยาอี้เหยามากกว่า

“ได้เจ้าค่ะ” นางคิดว่าเมื่อส่งมอบชุดแล้ว นางก็น่าจะจากไปได้ จึงรีบหยิบชุดมอบให้ฉู่ซีเย่สวม “ถ้าหากซื่อจื่อไม่มีเรื่องจะใช้งานข้าน้อยแล้ว เช่นนั้นข้าน้อยขอตัว”

ฉู่ซีเย่เหมือนไม่ได้ยินที่นางพูด “สุรา”

เหยาอี้เหยาชี้มือ นางสั่นเทาเพราะความหนาว “อยู่ตรงนี้เจ้าค่ะ”

“รินหนึ่งถ้วย”

เหยาอี้เหยาทำตาม รินสุราอุ่นลงถ้วย ระหว่างนั้นฉู่ซีเย่ขึ้นมาจากน้ำพุร้อนแล้ว ร่างกายมีควันกระจายออก เสริมให้เขาดูคล้ายพวกเทพอันสูงส่ง

“สุราเจ้าค่ะ” นางประคองส่งให้ มือสั่นอย่างยากจะควบคุม

ฉู่ซีเย่มองนิ่ง พูดคำเดียว “ดื่ม”

“เจ้าคะ?”

“เจ้าดื่ม”

เหยาอี้เหยายังยืนนิ่งคล้ายไม่ได้มีแค่ร่างกายที่กำลังจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง แต่สมองถูกแช่แข็งไปแล้ว นางคิดว่าฉู่ซีเย่ไม่ดื่มสุราเพราะเกรงว่านางวางยาพิษหรือไม่

"ซื่อจื่อ ในสุราไม่มีพิษหรอกเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ได้ใส่อะไรอันตรายลงไป เมื่อครู่ท่านก็เห็นว่ากระดาษห่อไม่ได้แกะเลย"

“ดื่มซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะควักเครื่องในเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงกิน”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/2 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    “ดื่มซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะควักเครื่องในเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงกิน”ฉู่ซีเย่พูดอย่างเย็นยะเยือก ไม่มีวี่เเววล้อเล่น“ข้าดื่มแล้วเจ้าค่ะ กินบัดเดี๋ยวนี้” เหยาอี้เหยายกจอกเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก กลิ่นเฉพาะของสุรารสเลิศแทรกผ่านอากาศเข้าสู่จมูก ทว่าในตอนนั้นเอง นางกลับพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่ายาพิษที่ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินนั้น ต้องหลีกเลี่ยงสุราช่วงระยะแรก ไม่เช่นนั้นอาการจะกำเริบขึ้นมาได้จนตาย“เหตุใดไม่กิน” ฉู่ซีเย่ถามเสียงเรียบ “หรือเจ้าแอบใส่ยาพิษให้ข้าจริงๆ”เหยาอี้เหยาคุกเข่าโดยพลัน นางสั่นสะท้านทั้งจากความหนาวเย็นและสายตาของฉู่ซีเย่ที่ทิ่มแทงยิ่ง “ไม่มีทางเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นกับท่านแน่นอน เพียงแต่ข้าน้อยไม่เคยดื่มสุรา อีกทั้งสุราของท่านยังเป็นสุราชั้นเลิศ ข้าน้อยเลยไม่กล้าแตะต้อง”ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินยาพิษเพื่อป้องกันนางหลบหนีหรือหักหลังพระองค์ในภายหลัง ยาพิษนั้นเป็นแมลงคุณไสยที่มีชีวิต พระองค์จึงสั่งไว้ว่าในช่วงระยะแรกของการย้ายแมลงเข้ามาในตัวนาง นางต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางจำพวกและสุรา ไม่เช่นนั้นยาระงับแมลงคุณไสยจะไม่ได้ผล เนื่องจากตัวแมลงไม่คุ้นชินกับร่างใหม่รอจนพ้นเดือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/3 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    เหยาอี้เหยาฟื้นจากพิษไข้ในวันถัดไป ซึ่งเป็นวันกำหนดการเดินทางของฉู่ซีเย่พอดี นางร้อนใจเพราะก่อนหน้านี้ไท่จื่อหย่งสวินบอกนางไว้ว่าให้นางติดตามฉู่ซีเย่ ทำให้เขาโปรดปรานนางให้ได้ แต่ถ้าหากฉู่ซีเย่ลงใต้ไปเมืองหลวง นางก็จะเสียโอกาสในการใกล้ชิดเขานางจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่รุ่งสาง แต่งตัวแล้วรีบไปพบเขาแม้จะยังไม่หายดีเรือนของฉู่ซีเย่แยกตัวห่างจากทุกเรือน นางใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเดินถึงเรือนบูรพา แจ้งเจตนากับจินเฟยว่านางต้องการพบฉู่ซีเย่ จินเฟยบอกให้นางรออยู่ด้านนอกก่อน เขาจะไปเรียนนายท่านเหยาอี้เหยารอ นางรู้สึกยังอ่อนล้าอยู่บ้างจึงนั่งลงบนพื้นหิมะ ลานโดยรอบของเรือนฉู่ซีเย่ขาวโพลน ต้นไม้ซึ่งนางเดาไม่ออกว่าคือต้นอะไรยืนไร้ใบอยู่กลางลาน ภายในไม่มีสาวรับใช้ประจำเรือน จะว่าไปนางก็ไม่เคยเห็นสาวรับใช้ของฉู่ซีเย่ หรือเขาไม่มีกันนะ“คุณหนูเหยา ซื่อจื่ออนุญาตให้ท่านเข้าพบได้”“ขอบคุณเจ้าค่ะ”จินเฟยเปิดประตูให้นางเข้าไป เขารอจนนางข้ามธรณีประตูไปแล้วจึงปิดบานประตู ส่วนตนเองเฝ้าอยู่ด้านนอก ขณะนั้นฟ้ายังไม่สว่างดี ทุกอย่างยังขมุกขมัวไม่สดใสเหยาอี้เหยาเดินเข้าไปในเรือนผ่านประตูโค้งพระจันทร์ ทางเดินย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/1 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทเมื่อเหยาอี้เหยาตื่นขึ้นมา ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่นางเผชิญได้หายไปแล้ว ตอนนี้นางรู้สึกอ่อนล้าและกระหายน้ำ นอกจากนั้นร่างกายก็ไม่ได้เจ็บปวดที่ตรงไหนอีกจางลี่คล้ายจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงยกศีรษะขึ้นมาจากที่นอนบนพื้นแล้วมองหา ก่อนจะพบว่าเหยาอี้เหยากำลังลุกจากตั่งเตียงด้วยความทุลักทุเลจึงเข้าประคอง“คุณหนูเหยา ท่านตื่นแล้วหรือ” หลายวันมานี้จางลี่ถูกกงจิ้งคาดโทษไว้ ฐานที่ไม่ดูแลคุณหนูเหยาให้ได้ดี นางกลัวจะถูกลงโทษส่งตัวกลับบ้านเกิด จึงได้เริ่มทำตัวเหมือนสาวใช้มากขึ้น“อืม ข้าหิวน้ำ” เหยาอี้เหยานั่งหอบ นางรู้สึกราวกับได้สูญเสียกำลังจำนวนมากไป“รอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปต้มน้ำชามาให้ท่าน”“ไม่เอาน้ำชา ข้าอยากได้น้ำเย็นๆ” เหยาอี้เหยาไม่รู้สึกอยากน้ำชา หรือของร้อน อาจจะเพราะร่างกายภายในยังรู้สึกร้อนผ่าวนางอยากดื่มน้ำเย็นเพื่อดับกระหาย จางลี่จึงไปรินน้ำมาให้นางดื่ม สีหน้าของนางจึงสดชื่นขึ้น“จางลี่ ช่วยเปิดหน้าต่างให้ข้าได้สูดอากาศหน่อย”“หนาวนะเจ้าคะ สองสามวันมานี้อากาศเย็นลงมาก”“ข้าหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือ” เหยาอี้เหยามองออกไปยังหน้าต่าง ละอองหิมะปลิดปลิวเข้ามาจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/2 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    เพื่อให้เหยาอี้เหยาได้มีเวลาส่วนตัว ฉู่ซีเย่จึงได้สั่งการกงซุนหลางเอาไว้ว่าให้มอบหมายงานให้คณะราชทูตจากต้าหย่งอย่างไรบ้าง โดยจัดให้กงจิ้งและลู่หมิงทำงานเอกสารอยู่ในกรมราชทูต ส่วนซ่างเจวี๋ยถูกย้ายให้ไปประจำที่กองทหารตระเวนเมืองสำหรับเหยาอี้เหยา เพื่อให้นางสะดวกมากขึ้นในการทำงานต่างๆ ให้ฉู่ซีเย่ กงซุนหลางจึงออกหนังสือและป้ายประจำตัวให้นางเป็นราชทูตเพื่อดูงานด้านสำรวจในกรมสำรวจสำมโนครัวรถม้าจอดลงเมื่อถึงทางเข้าตรอก ถนนคับแคบจึงไม่สามารถนำรถม้าเข้าไปได้ จากนี้จึงต้องเดินเท้าอย่างเดียวเหยาอี้เหยาเดินไม่นานก็ถึงสำนักงานสำรวจสำมโนครัวของตรอกซ้าย ซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน แต่ละคนเป็นคนขยันตั้งใจทำงานทว่าเดือนก่อนเจ้าหน้าที่ประจำกรมสำรวจสำมโนครัวได้ลาออกไปคนหนึ่ง ทำให้ตำแหน่งงานของเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หายไป กงซุนหลางเห็นว่าเหยาอี้เหยาต้องการอยู่ใกล้ตรอกขวาจึงให้นางมาลงงานในส่วนนี้ แม้จะอันตรายอยู่สักหน่อย“เรียนเชิญขอรับ”ผู้ดูแลจิ่งออกมาต้อนรับ เขาได้รับจดหมายจากกงซุนหลางแล้วว่านางจะมา จึงต้อนรับนางเข้าไปด้านในกรมสำรวจสำมโนครัวอย่างนอบน้อม ตระเตรียมห้องทำงานให้นางโดย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/3 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายพายุหิมะกำลังก่อตัวอยู่อีกฟากของขอบฟ้านางรู้สึกตัวเพราะแรงกระแทก สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกเมื่อลืมตา คือด้านหลังของม้าที่ฉู่กวงหลินกำลังควบขี่ ความหนาวเย็นเสียดกระดูกทำให้เหยาอี้เหยาไอ ตอนนี้นางอยู่ในกรงขังโลหะที่ลากไปบนพื้นด้วยความเร็วสมองของนางประมวลผลเชื่องช้าด้วยผลกระทบจากการขาดยาทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอย่างฉับพลัน ถึงอย่างนั้นนางก็ยังจำได้ว่าตนเองถูกพาตัวออกมาจากคุกเพื่อเป็นตัวประกันฉากหลังของเส้นทางอันขรุขระคือกงจิ้ง เขากำลังไล่กวดฉู่กวงหลินมาในระยะกระชั้นชิด ส่วนซ่างเจวี๋ยแยกตัวไปขนาบข้าง พวกเขาไม่กล้ายิงธนูส่งเดช ด้วยกลัวจะถูกนางทว่าฉู่กวงหลินและคนของเขาไม่ใช่ ธนูนับสิบพุ่งเฉี่ยวร่างกายกงจิ้ง ซ่างเจวี๋ยรับมือกับคนของฉู่กวงหลินที่ดาหน้าเข้าใส่ในระยะประชิด“อี้เหยา! อดทนเอาไว้!”ซ่างเจวี๋ยส่งเสียงก้องกังวาน เนื้อตัวเปอะเปื้อนไปด้วยโลหิต พยายามทุ่มเทกำลังเพื่อช่วยนางเต็มที่ทว่าเหยาอี้เหยาอ่อนแอนัก ลมหายใจนางแผ่วลงเรื่อยๆ พร้อมกับลมหนาวที่พัดวูบเข้ามาในร่างไม่รู้เพราะเหตุใด แต่นางหนาวยิ่งหนาวจนเหมือนกำลังอยู่ในกองหิมะเย็นเฉียบ…“ไอ้พวกบัดซบ ฆ่าให้หมด!” ฉู่กวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/1 เจ้าเมืองโจวอี้

    เมืองโจวอี้กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติเมื่อฉู่ซีเย่กลับมา เขาปราบปรามคนของฉู่กวงหลินหมดสิ้นภายในคืนเดียว พร้อมส่งสองพี่น้องสกุลหยางกลับเมืองชงอีกทั้งประกาศออกหมายจับกบฏโทษตายของฉู่กวงหลินทำให้เจ้าเมืองชงต้องนั่งรถม้ามาขอร้องให้ฉู่ซีเย่อภัยพร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวแผนการที่หย่งสวินสั่งให้ทำฉู่ซีเย่รู้ดีว่าทุกอย่างเป็นแผนการเพื่อโค่นอำนาจของไท่จื่อ ทำให้เขาต้องสูญเสียอำนาจในแดนเหนือ ลี้ภัยไปเมืองหลวง ทว่าแผนการของหย่งสวินไม่ได้สั่นคลอนฉู่ซีเย่อย่างที่คิด เขาสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้“ซื่อจื่อ อภัยให้บุตรชายของอาสักครั้งเถิด จากนี้ไปเขาไม่กล้าอีกแล้ว” ฉู่กวงเยี่ยนคุกเข่า ร้องขอความเมตตา“เจ้าเมืองชง พูดว่าไม่กล้าแล้วช่างง่ายดาย แต่การกระทำล้วนสวนทางเช่นนี้ ข้าคงให้อภัยได้ยาก” ฉู่ซีเย่มองอีกฝ่ายอย่างเรียบเฉย แม้จะมีสายเลือดส่วนหนึ่งจากบรรพบุรุษที่เหมือนกัน ทว่าเขาไม่รู้สึกถึงสายสัมพันธ์อันใดต่อญาติผู้นี้ ความจริงเขาอยากจะส่งคนไปลากตัวฉู่กวงหลินมาสั่งสอน แต่ทำอย่างไรได้ มารดาของอีกฝ่ายเป็นคนของราชวงศ์ ไม่ว่ายังไงก็ต้องไว้หน้าอยู่บ้าง“ถ้าหากลุงสัญญาว่าจะสนับสนุนให้แม่ทัพฉู่ขึ้นเป็นเจ้าเมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/2 เจ้าเมืองโจวอี้

    เจ้าเมืองจะมีจวนของตนเอง เขาจึงพักอยู่ที่นั่น โดยแวะเวียนกลับมาหาน้องชายอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทันทีที่กลับเข้าเมืองมา สิ่งแรกที่ฉู่ซีห่าวทำคือกลับมาหาน้องชายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานจึงชวนร่ำสุราด้วยกัน ฉู่ซีเย่นำสุราชั้นดีที่บ่มไว้ออกมาฉลองล่วงหน้าให้กับฉู่ซีห่าว พูดคุยรำลึกความหลังหนเก่า จนพูดมาถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อสามปีก่อน ในฤดูหนาวที่จะถึงในเดือนหน้าใกล้จะถึงวันล่วงลับของเจ้าเมืองฉู่คนก่อนแล้ว...“อิ่นจื่อ เรื่องเมื่อสามปีก่อนเจ้าได้บอกนางหรือเปล่า” นางในความหมายของฉู่ซีห่าวคือเหยาอี้เหยา ส่วนเรื่องเมื่อสามปีก่อน คือเรื่องเหตุการณ์ลอบสังหารที่ทำให้ฉู่หลินเสียชีวิต เขาในตอนนั้นอยู่ชายแดนกับท่านปู่ กว่าจะกลับมาได้ ท่านพ่อก็ไม่อยู่แล้ว“ต้องบอกด้วยหรือ”“วันนี้นางมองข้าด้วยความรู้สึกผิด” เมื่อครู่ฉู่ซีห่าวพบนางที่ตรอกในเมือง “ทั้งๆ ที่คนที่ควรรู้สึกผิดต่อนางควรเป็นพวกเรา”“ชาวฮั่นเป็นคนลงมือ ชาวฮั่นเป็นคนสร้างข่าวลือกลบความจริง เช่นนี้ย่อมต้องให้ชาวฮั่นรับผิดชอบ” เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้สกุลเหยาต้องแบกรับความผิด ถูกตัดขาดจากสังคมและกีดกัน ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   6/3 เจ้าเมืองโจวอี้

    แผนการทุกอย่างได้ตระเตรียมไว้แล้ว เหยาอี้เหยาระมัดระวังทุกฝีก้าวเพื่อไม่ให้ใครจับได้ โชคดีที่เมื่อวานมีคนก่อความวุ่นวายจึงทำให้ฉู่ซีเย่หันเหความสนใจไปจากนาง นางจึงฉวยโอกาสในเวลานั้นเพื่อหาทางติดต่อกับจี๋เฉวียน เพื่อขอความช่วยเหลือฝ่ายจี๋เฉวียนหลบเลี่ยงทหารตระเวนเมืองจนมาพบนางได้ที่ท้ายตรอก เขาไม่เอ่ยถามว่าใครกันคือคนที่นางต้องการให้อารักขาไปยังจวนว่าการประจำเมืองในวันแต่งตั้งของฉู่ซีห่าวหรือนางต้องการทำอันใด เพราะเขาเคยบอกแล้ว ไม่ว่าเรื่องใด ขอแค่นางขอร้อง เขาจะทำให้ยามอิ๋นท้องฟ้ายังมืดสนิท เหยาอี้เหยาลุกจากเตียงนอนก่อนจางลี่ นางผลัดเปลี่ยนชุดพิธีการตามที่ได้รับมอบมา ก่อนจะออกเดินทางไปสมทบกับคณะราชทูต นางนั่งบีบมือตนเองเพื่อระงับความตื่นเต้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสงบใจลงได้จิตใจนางหวั่นกลัว ยิ่งใกล้จวนว่าการเจ้าเมืองเท่าไหร่ นางก็ยิ่งกลัวขบวนของนางไปถึงจวนว่าการในลำดับแรกๆ ที่นั่งของนางอยู่ฝั่งตรงข้ามของลานที่ประดับประดาไว้ด้วยธงปลิวไสว ตรงกลางมียกพื้นสำหรับวางกลองประจำเมือง ผู้คนคลาคล่ำมากมายอยู่ภายในบริเวณงาน นอกจากนี้ บริเวณกำแพงด้านนอกยังเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มารอสนับสนุนแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status