Home / All / ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน / 23/1 ความรักที่สุกงอม

Share

23/1 ความรักที่สุกงอม

last update Last Updated: 2024-12-18 16:29:06

เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไป

ฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง

“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”

“แน่นอน”

“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”

ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”

“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง

“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”

“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”

“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”

“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง

“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”

“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “ข้าอยากทำงานจริงๆ นะ”

“เพราะอะไร ให้ข้าเลี้ยงเจ้าไม่ดีหรือ”

“ท่านเลี้ยงย่อมดีอยู่แล้ว แต่ข้าชอบทำงานด้วย เพราะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า” เหยาอี้เหยาจับมือเขา “ท่านอ๋อง ท่านเข้าใจข้าหน่อยนะ ข้าน่ะ โตมากับความรู้สึกว่าไม่เป็นที่โปรดปรานของใครเลย ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็อยากทำตัวมีประโยชน์สักหน่อย อีกอย่างข้าไม่มีอะไรเลย มีแค่สมองและเรี่ยวแรงที่พอจะทำอะไรได้บ้าง”

“เจ้าเป็นคนที่ข้าโปรดปรานที่สุด”

“ข้ารู้ ท่านรักข้า ข้ารักท่าน แต่ท่านรู้ไหม คนรักกันต้องให้อิสระกันด้วย”

ฉู่ซีเย่จับมือนางเล่น เขารู้ว่าการเอาชนะนางไม่มีความหมาย ความสุขนางสำคัญที่สุด “ไม่รู้ แต่ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้นข้าจะไม่ขวาง แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

“จริงหรือ ให้ข้าทำงานได้หรือ”

ฉู่ซีเย่พยักหน้า “มีเงื่อนไขด้วย”

“เงื่อนไขอะไร ท่านว่ามา”

“เจ้าต้องทำให้ข้าพอใจก่อน” สุ้มเสียงเขากระซิบข้างแก้ม

“ทำให้ท่านพอใจนะหรือ ไม่น่ายาก” เหยาอี้เหยารู้ว่าเขามองอยู่จึงค่อยๆ ปลดสายคาดเอวทิ้ง ลมหายใจของฉู่ซีเย่เริ่มติดขัด นัยน์ตาคมมีเปลวไฟลุกโชน เขาคิดจะเอื้อมมือไปคว้าตัวนางมา แต่นางผลักเขาออกแล้วเดินถอยหลังไปที่เตียง

ดวงตาและรอยยิ้มชวนใจละลาย

“ไม่ปรานีข้าเลย” เขารู้ในวินาทีนั้นว่าตัวเองแพ้แน่แล้ว

“เวลานี้ท่านต้องเดินเข้ามาหาแล้วล่ะ” เหยาอี้เหยาถอดชุดตัวนอกจนเหลือเพียงชุดตัวใน เอี๊ยมสีขาวอวดเนินอกร่ำไร เรียวขางามที่ก้าวขึ้นเตียง สะกดตาเขาจนอยู่หมัด “เร็วเข้า ข้าจะทำให้ท่านพอใจเอง”

“ยั่วยวนข้าได้ดี” ฉู่ซีเย่สลัดชุดทิ้งเหมือนต้นไม้ผลัดใบ เขาเดินดุ่มๆ ไปหานางที่เตียง ยื่นมือปลดม่านลงมาคลุม คร่อมตัวนางที่กึ่งนั่งนอน

“ข้ามีหน้าที่ทำให้ท่านพอใจนี่นา” เหยาอี้เหยายื่นมือออกไปโอบรอบลำคอแกร่ง ฉู่ซีเย่รั้งใบหน้านางเข้ามาจูบ ริมฝีปากประกบแน่น

เขาบดเบียดเรียวปากนางแรงพอสมควร จุมพิตครั้งแล้วครั้งเล่าจนนางสติเตลิด เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดรัดรึง ก่อนจะใช้ปลายลิ้นลากลงมาตามลำคอ

“อื้ม…” เหยาอี้เหยาแหงนใบหน้าขึ้น จุมพิตร้อนไล่ตามแนวชีพจร นางเอนตัวลง แผ่นหลังโก่งขึ้นเมื่อเขาใช้ปากดูดกลืนเนินอก

มือเขารั้งเอวบางให้ชิด ปลายจมูกซุกซบตรงร่องอกนวลเนียน เขาใช้ฟันกัดผ้าเอี๊ยม คมเขี้ยวขูดผิวอ่อนใสยามเมื่อเขาเลื่อนผ้าลง

“อา…ทะ…ท่านอ๋อง” นางขยุ้มมือกับผมลื่นมือ ทั้งยังแอ่นอกหาเขา ทรวงอกที่ตกอยู่ในอุ้งมือแกร่งถูกบีบขยำตามแรงอารมณ์

เหยาอี้เหยาหายใจกระท่อนกระแท่น ใบหน้าแดงจัดเมื่อยอดอกสีระเรื่อถูกดูดจนได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบน่าละอาย เขาใช้มือใหญ่ช้อนอกขึ้นมาป้อนใส่ปาก แล้วมองสบตานางขณะดูดสลับข้างซ้ายขวา

“อา…อือ!” ฉู่ซีเย่สูดดมกลิ่นกายนาง ความหอมจางๆ ที่จะได้กลิ่นเมื่อใกล้ชิดนางทำเขาคลั่งไคล้

“อี้เหยาคนดี…” ฉู่ซีเย่พร่างพรมลมหายใจใส่นาง เขาเปลื้องชุดนางออกจนหมด ตะกองกอดนางเข้ามาแนบชิด

ริมฝีปากร้อนระอุแนบชิดกลีบปาก เขารวบมือนางไว้ด้านหลังยามกดตัวตนเข้าไปหานาง

“อา…” ชำแรกเขาอ่อนโยนเสมอ ทั้งยังใส่ใจว่านางพร้อมหรือไม่ ครั้นเมื่อถูกความอ่อนนุ่มและกลิ่นรักรัดรึง ฉู่ซีเย่ก็ราวกับคลั่งเสียสติ

เรือนร่างอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามคร่อมนางไว้ทุกตารางนิ้ว เขามองจ้องใบหน้าที่อยู่ใต้ร่างด้วยไฟปรารถนา เสียงครางแว่วหวานเร้าอารมณ์เขา

“ชะ…ช้าๆ” เอวสอบยกสูงแล้วกดเข้ามาจนสุด เหยาอี้เหยาหอบพร่า นางรับจุมพิตเผ็ดร้อนขณะที่เรียวขางามถูกเขาเสียดสีไม่หยุด

“อา…อี้เหยา…” เสียงครางทุ้มชิดใบหู เหยาอี้เหยาถูกกดกับเตียง เขาเคลื่อนไหวราวกับพายุ ทั้งโหมกระหน่ำและดุดัน

“ท่านอ๋อง…ให้ข้าหายใจหน่อย” เหยาอี้เหยาหอบกระเซ่า นางถูกเขาจู่โจมจนตั้งตัวไม่ทัน จังหวะเขากระชั้นเกินไป

“ไม่น่าได้” เขาตอบ สอดมือกุมมือนางให้แนบแน่น ช่วงเอวไม่อาจชักช้าได้

“ท่านอ๋อง…” เขาเคล้าคลึง บดขยี้จนนางต้องหลั่งน้ำตาแห่งความสุขซ่าน

“อิ่นจื่อ…” ฉู่ซีเย่กินน้ำตานาง เขาปลอบประโลมแต่ยังลงมือหนักหน่วง

“อะไร”

“เรียกข้าว่าอิ่นจื่อ” ฉู่ซีเย่ดันขาขาขึ้น ก่อนจะกดตัวจนนางต้องหวีดเสียงออกมา

“อิ่นจื่อ!”

นัยน์ตาฉู่ซีเย่เข้มขึ้น เขาปลุกเร้านางจนลมหายใจแตกซ่าน

“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊า!”

“อา…”

ฉู่ซีเย่ร่างกายเกร็งกระตุก เขาได้ทิ้งบางส่วนของตัวเองไว้ในร่างกายของนาง

“ยังไม่เอาออกไปหรือ” นางถาม เสียงแหบพร่า แต่นัยน์ตาปรอยฉ่ำจนฉู่ซีเย่เริ่มตื่นตัวอีกรอบ

“…ไม่”

“ท่านอ๋อง!” นางเผลอส่งเสียงคราง เมื่อเขากดเข้ามาอีกครั้ง

ฉู่ซีเย่กัดปากนาง ก่อนจะพูดด้วยเสียงหอบต่ำ “อิ่นจื่อ…เรียกข้าว่าอิ่นจื่อ”

“อิ่นจื่อ…อา!”

ช่วงปลายปีทางฝั่งจวนเจ้าเมืองมีข่าวดี ได้ยินว่าแม่ทัพซ่าง ไม่สิ นับแต่นี้ไปเหยาอี้เหยาต้องเรียกว่าพี่สะใภ้แล้ว

ซ่างเหวินสมรสกับเจ้าเมืองฉู่ได้ไม่นาน (ได้ยินจ้าวสือบอกว่าเจ้าเมืองฉู่หลอกซ่างเหวินให้แต่งงานด้วย) ช่วงต้นปีก็ได้ให้กำเนิดคู่แฝดทารกชายหญิง ค่ำคืนนั้นเหยาอี้เหยานอนไม่หลับ จึงหอบหมอนไปนอนที่จวนเจ้าเมือง ลุ้นจนตัวโก่งทั้งวันทั้งคืนจนกระทั่งได้พบหน้าหลาน

เหยาอี้เหยาอัศจรรย์ใจกับคู่แฝดอย่างยิ่ง เพราะตอนตั้งครรภ์ ซ่างเหวินยังถือดาบออกไปบู๊กับอันธพาลทั่วเมืองจนเจ้าเมืองฉู่ต้องเหาะไปอุ้มกลับมา แต่จะขังหรือต่อว่าก็ไม่ได้ เพราะซ่างเหวินรักอิสระยิ่ง นางไม่ชอบอยู่นิ่งๆ หรือห่างไกลจากเรื่องตื่นเต้น

อีกทั้งช่วงสิบสองสัปดาห์แรก ซ่างเหวินไม่รู้แพ้ท้องอย่างไร จึงออกปากว่าเหม็นสามีอย่างเจ้าเมืองฉู่ ตีให้ตายก็ไม่ยอมให้เข้าใกล้ เวลานั้นเจ้าเมืองฉู่ทำหน้าน้อยใจยิ่ง

โดยไม่รู้เลยว่าซ่างเหวินแค่แกล้งอำเขาเล่นเพราะชอบสีหน้าระทมทุกข์ของเจ้าเมืองฉู่

ทารกแฝดนอนหลับสนิทอยู่ในผ้าอ้อมอบอุ่น เหยาอี้เหยามองไม่วางตาพร้อมกวักมือเรียกฉู่ซีเย่ให้มาดูด้วยกัน

“ท่านอ๋องมาดูหลานเร็ว”

ฉู่ซีเย่มองแวบเดียวแล้วตอบกลับมา

“น่าเกลียด”

ชาวเมืองโจวอี้เฉลิมฉลองต้อนรับทารกแฝด ‘อี้ซิน อี๋อี้’ อย่างสมฐานะทายาทเจ้าเมือง กระทั่งฉู่ซีเย่ที่ปากบอกว่าน่าเกลียด แต่บรรจงตระเตรียมของรับขวัญตั้งแต่ปลายปีหลายอย่าง เรียกได้ว่า หลังเกิดมาไม่นานอี้ซิน อี๋อี้ก็มีสมบัติพัสถานราวกับเศรษฐีตัวน้อย

ทั้งยังแอบแซวเจ้าเมืองฉู่ทุกครั้งที่มีโอกาสว่าแต่ก่อนไม่เห็นเขาจะเคยชายตาแลหญิงใด แต่บทจะคลั่งรักก็ทำได้หน้าตาย จะประกาศตัวอะไรนักหนาว่ารักฮูหยินจนต้องเอาไปตั้งชื่อลูกว่าอี้ซิน อี๋อี้ (一心一意แปลว่า รักเดียวใจเดียว)

เจ้าเมืองฉู่หาสนใจไม่ เขามีภูมิต้านทานจนหน้าด้านแล้ว “ถ้าเราหน้าด้าน เราจะได้ทุกอย่าง”

“พี่ชาย ท่านบรรลุแล้ว”

ในที่สุดเหยาอี้เหยาก็ได้ทำงานในกรมสำรวจสำมะโนครัวอย่างที่ใจปรารถนา

ทุกเช้านางจะแต่งกายออกไปทำงาน วันๆ วุ่นอยู่กับการสำรวจจนถึงช่วงเย็น นางจะแวะเยี่ยมพี่สะใภ้ซ่างเหวิน เล่นกับอี้ซิน อี๋อี้แล้วกลับมาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับฉู่ซีเย่ และใช้เวลาช่วงค่ำคืนด้วยกัน

แน่นอนว่าเป็นค่ำคืนที่เร้าร้อน…

วันถัดมาเหยาอี้เหยามีสำรวจสำมะโนครัวที่ตรอกใหม่ ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นตรอกของผู้พลัดถิ่นจากนอกด่าน นางเห็นว่าไหนๆ ก็มาถึงตรอกใหม่และงานก็เสร็จเร็ว จึงเดินทางต่อไปเยี่ยมเยียนจี๋เฉวียนกับเมียนเมี่ยน

ทั้งสองคนดูท่าจะไปกันได้ดีในฐานะสหายร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งนางดีใจมากจริงๆ ที่ได้เห็นทั้งสองคนมีความสุข

“อี้เหยา เจ้าโตขึ้นไม่น้อยเลย มาเร็ว เข้ามาด้านในก่อน” เมียนเมี่ยนออกมาต้อนรับ ก่อนจะให้อามู่ไปตามจี๋เฉวียนกลับมา

“เมียนเมี่ยน เจ้ามีข่าวดีใช่ไหม” เหยาอี้เหยาสังเกตว่าร่างกายนางมีน้ำมีนวลขึ้น

เมียนเมี่ยนพยักหน้ายิ้มๆ “ข้าตั้งครรภ์แล้วล่ะ”

“ดีใจด้วยนะ ดีใจด้วยจริงๆ”

จี๋เฉวียนผลักประตูเปิดเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตะลึง “อะไรนะ! ใครตั้งครรภ์”

เมียนเมี่ยนตอบ “ก็ข้านะสิตาทึ่ม”

“เจ้าท้อง ลูกใครกัน ของข้ารึ!”

“ของเจ้านะสิ!”

“ของข้า!”

“จี๋เฉวียน ตั้งสติหน่อย” เหยาอี้เหยาเห็นท่าทีจี๋เฉวียนที่ดีใจสุดขีดแล้วขำ

“สวรรค์! ข้าจะเป็นพ่อคน แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้า!”

“ก็บอกอยู่นี่ไง”

จี๋เฉวียนวิ่งออกไปด้านนอก ตะโกนป่าวประกาศบอกผู้อื่น “ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว!”

“หนวกหูจริงๆ เจ้าอย่าถือสาเลยนะ เขามันบ้าเช่นนี้แหละ” เมียนเมี่ยนพูด ก่อนจะรับอ้อมกอดจากเหยาอี้เหยา

“เมียนเมี่ยน ข้ายินดีกับเจ้าด้วยจริงๆ”

“ขอบใจนะอี้เหยา”

จี๋เฉวียนวิ่งกลับเข้ามาในบ้าน “คืนนี้เจ้ากลับช้าหน่อยได้ไหม ข้าจะฉลองให้กับเรื่องน่ายินดีสักหน่อย”

“ได้สิ มาฉลองกัน”

เหยาอี้เหยามีความสุขมากที่รู้ว่าเมียนเมี่ยนจะมีลูกน้อย เลยฉลองกันยกใหญ่ นางดื่มสุรามึนไม่น้อยเลยเผลอเดินไปชนกองฟืน ได้แผลฟกช้ำมานิดหน่อย

เมียนเมี่ยนให้หมอสมุนไพรมาดูแผล ทุกอย่างดูเรียบร้อยดีจนนางพูดเสริม

“แม่นางน้อย เจ้าควรไปหาหมอหน่อยนะ”

“ทำไมหรือเจ้าค่ะ”

นางดูลำบากใจที่จะพูด แต่ก็พูดออกมา

ระหว่างทางนั่งรถม้ากลับ เหยาอี้เหยานอนพิงแก้อาการวิงเวียน แล้วอยู่ๆ ก็พลันสงสัยขึ้นมาว่าท้องที่มีทารกอยู่ข้างใน จะมีความหมายรู้สึกอย่างไร

คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย…

เวลานั้นรถม้าจอดลง ฉู่ซีเย่หน้าบูดบึ้งเข้ามาอุ้มนางกลับห้อง

“กลับมาดึกดื่นถึงเพียงนี้ น่าตีก้นเสียจริง” ฉู่ซีเย่ดุไม่จริงจัง ถอดรองเท้าให้นาง

“ท่านอ๋อง มานี่หน่อย”

“หืม?” เขาใช้นิ้วมือเกลี่ยไล้แก้มที่แดงระเรื่อ ดูท่าจะดื่มมาไม่น้อย

“ข้ามีเรื่องจะขอ” นางพูดอ้อแอ้

“ขออะไร”

เหยาอี้เหยากอดเขา “รักข้าได้หรือไม่ รักข้าแรงๆ”

“เกิดอะไรขึ้น เจ้าเป็นอะไร” ฉู่ซีเย่กอดนาง เพราะอยู่ดีๆ เหยาอี้เหยาก็ระเบิดน้ำตาออกมา เนื้อตัวนางสั่นสะเทือนราวกับจะปริแตกออก

“ทำไมท่านไม่บอกข้า”

“อี้เหยา เกิดอะไรขึ้น” น้ำตานางทำเขาปวดใจ

“ข้า…ข้าบกพร่องใช่หรือไม่ ท่านตอบมาสิว่าข้าบกพร่อง” เท่านี้ ฉู่ซีเย่ก็รู้แล้วว่านางร้องไห้ทำไม เขายิ่งกอดนางไว้แน่น

“ไม่ เจ้าสมบูรณ์แบบ”

“แต่ข้า…ข้ามีท่านอ๋องน้อยให้ท่านไม่ได้”

“อี้เหยา ข้าไม่สนหรอก ข้ารักเจ้าไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

เหยาอี้เหยาร้องไห้ นางร้องไห้จนหลับไปในอ้อมกอดเขา

Related chapters

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/1 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    “ขอให้ฝ่าบาททรงอายุยืนหมื่นปี หมื่นๆ ปี”สิ้นเสียงกล่าว ม้าเร็วพร้อมกงกงผู้เดินทางมามอบราชโองการแต่งตั้ง ‘ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง’ ถึงหน้าสกุลเหยาก็จากไปอย่างเร็ว ฮูหยินผู้เฒ่าหยัดกายลุกขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า ต้องพึ่งแรงพยุงจากบุตรชายของนาง แต่นางก็ยังทรงตัวไม่ได้เนื่องจากจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงฮูหยินผู้เฒ่าสูดลมหายใจเคล้าความเย็นเข้าปอด ราชโองการแต่งตั้งหลานสาวอยู่ในมืออันเหี่ยวย่น แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาหญิงชราจะไม่โปรดปรานเหยาอี้เหยา แต่ก็ไม่เคยคิดจะส่งหลานสาวให้ไปเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย อย่างไรเหยาอี้เหยาก็ได้ชื่อว่าเป็นคนสกุลเหยาแต่ทำอย่างไรได้ ราชโองการจากฝ่าบาทอยู่ในมือแล้ว หากฮูหยินผู้เฒ่าไม่ตัดสินให้รอบคอบรัดกุม สกุลเหยาคงจะประสบเคราะห์ร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย“ท่านแม่ ท่านไหวหรือไม่”“ข้าไหว” ฮูหยินผู้เฒ่าคว้ามือบุตรชายไว้ สมองที่ยังแหลมคมอยู่ครุ่นคิดหาทางออกที่ดีที่สุด นางไม่สนใจจะมองผู้ใดที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางโถง “พาข้ากลับไปที่เรือน”เมื่อถึงเรือนแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ารับชาจากสาวใช้คนสนิทมาจิบคำหนึ่ง ดวงตาสีจางหลุบต่ำมองม้วนอักษรวิจิตรสีทองซึ่งเสียดแทงใจนางยิ่งนัก การแ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/2 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    เหยาอี้เหยามีอายุน้อยที่สุดในคณะราชทูตแห่งต้าหย่งซึ่งประกอบไปด้วยองค์หญิงหย่งเยี่ยน แม่ทัพกงจิ้ง บุตรชายของแม่ทัพใหญ่ซ่าง ซ่างเจวี๋ย และราชทูตลู่หมิงทั้งหมดคือคณะราชทูตเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรี ลดทอนความบาดหมางที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ทั้งหมดจึงต้องเดินทางไปยังเมืองโจวอี้ รัฐหลู่ปกติด้วยฐานะของเหยาอี้เหยา นางไม่มีทางได้เป็นหนึ่งในคณะทูต แต่ด้วยความหลังในอดีต ทำให้ฮ่องเต้ต้องการแสดงความจริงใจ ด้วยการส่งตัวคนที่สร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ไปเจริญสัมพันธไมตรีเพื่อบอกว่าทางราชสำนักไม่มีเจตนาให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น และหากมีอะไรที่จะสามารถชดเชยให้ชาวแดนเหนือ ทางราชสำนักจะพิจารณาให้เป็นอันดับแรกดังนั้นนางจะทำเรื่องพังไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้จะต้องตาย นางก็ต้องตายโดยไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสกุลของนางหรือคนรอบข้างด้วยความกระชั้นชิดของเวลาทำให้การเดินทางเร่งเท้าทั้งวันทั้งคืน นางนั่งอยู่ภายในรถม้าขนาดกลางถัดจากรถม้าอีกสี่คันบนตักมีปิ่นปักผมของท่านแม่ ซึ่งถือเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ท่านย่าอนุญาตให้นางพกติดตัวมา ตัวปิ่นเงินเกลี้ยงเกลาเหมือนสายใยอันอบอุ่น นางมักจะพกติดตัวไว้เสมอ ทำเช่นนี้ นางก็ไม่

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   1/3 ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง

    กงจิ้งกลับมาตอนเย็น เหยาอี้เหยาทานข้าวกับแม่ทัพกงเป็นมื้อแรกนับตั้งแต่เริ่มเดินทาง ส่วนองค์หญิงไม่รับอาหารเย็น แม่ทัพซ่างกับลู่หมิงฝึกวิชายุทธ์หลังเขา ระหว่างมื้ออาหารเหยาอี้เหยาไม่พูดอะไรมากนัก จนมองไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นหญิงสาวที่คอกม้าจึงเอ่ยถามไป“แม่ทัพกง หญิงสาวที่ถูกมัดอยู่ที่คอกม้าทำอันใดผิดไปหรือ”กงจิ้งตอบ “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”“อากาศหนาวเช่นนี้ นางน่าสงสารเหลือเกิน”กงจิ้งพูดสั้นๆ “ใช้ปากกินข้าว ไม่ต้องพูด”“เจ้าค่ะ”หลังจากนั้นไร้บทสนทนาใดๆ อีก เหยาอี้เหยาพักผ่อน นางหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจนถึงยามซวี ก่อนจะตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนาวอย่างสุดขั้ว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะเตาอุ่นในห้องไม่ได้เติมถ่านอย่างที่ควรเหยาอี้เหยารีบลุกไปที่หน้าต่าง เห็นหิมะสีเงินโปรยปรายลงมา ซึ่งหากเป็นที่เมืองหลวง ยามนี้คงไม่มีหิมะ แต่ทางเหนือไม่เหมือนกัน ยิ่งใกล้เมืองโจวอี้ อากาศจะยิ่งหนาว และจะเห็นหิมะบ่อยขึ้นเหยาอี้เหยาสวมเสื้อคลุมเพิ่มอีก ตอนที่มือกำลังรัดเชือกเข้าด้วยกันเพื่อกันความหนาว ก็นึกถึงทาสที่เห็นตอนมาถึงโรงเตี๊ยม นางถูกมัดอยู่ที่คอกม้าด้วยสภาพน่าสงสาร เมื่อเย็นเหยาอี้เหยาจึงเอ่ยถามเส

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/1 สวมรอย

    เรื่องที่องค์หญิงเป็นฉู่ซีเย่นั้นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก เพราะตอนนี้อยู่ในระหว่างการถูกลักพาตัว โจรชุดดำควบรถม้าหนี ก่อนจะพุ่งลงเหวทิ้งตัวไปยังพื้นเนินเตี้ยๆ เหยาอี้เหยาเกาะพื้นแน่น แต่สุดท้ายก็กระแทกกับผนังจนมึนงงไปชั่วขณะ กระทั่งรถม้าหยุดลง นางถึงตั้งตัวได้สถานการณ์คับขัน เหยาอี้เหยาลุกขึ้นมาเห็นแสงสว่างวาบที่ท้องฟ้า คนร้ายพุ่งมาเปิดประตู"ซื่อจื่อ! เป็นท่านได้อย่างไร!” เพียงเห็นหน้าฉู่ซีเย่ คนร้ายก็พลันหน้าซีด ด้วยคิดจะมาปล้นรถม้าองค์หญิงจากเมืองหลวงไม่ใช่ฉู่ซื่อจื่อ!“เคราะห์ร้ายของเจ้าแล้ว” ฉู่ซีเย่ยิ้มนิดๆ มีดสั้นพุ่งออกไปปักใส่หลังคนร้ายที่วิ่งหนี ล้มหงายกลิ้งตกเขาไปในที่สุด ส่วนอีกสองคนรับใช้วิชาซ่อนเงาหนีไปเหยาอี้เหยาหยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น ตอนนี้มั่นใจมากว่าเขาคือฉู่ซีเย่!“คุณหนูเหยา ดูเหมือนข้าจะไม่ต้องเสียเวลาแนะนำตัวแล้ว เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครใช่หรือไม่”“ซื่อจื่อ ท่านคือฉู่ซีเย่” เหยาอี้เหยามองเขาแวบเดียว ฉู่ซีเย่ไม่เหมือนผู้อื่นที่นางเคยพบเจอ เขาไม่ได้ดูน่ากลัว แต่เป็นคนที่ทำให้รู้สึกต้องเจียมตัว บนร่างของเขามีกลิ่นอายและความน่ายำเกรงที่ยากจะล่วงเกิน นางจึงไม่กล้าพูดหรื

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/2 สวมรอย

    ฉู่ซีเย่คล้ายคิดคำนวณไว้อย่างดี ไม่ให้จุดคลายก่อนโจรจะมาเหยาอี้เหยาหลับตาแสร้งว่าหมดสติไปแล้ว ปล่อยให้คนมัดมือนางแล้วโยนใส่รถม้า พวกโจรดูเบิกบานใจเมื่อคิดว่าสามารถจับตัวองค์หญิงแห่งต้าหย่งได้ โดยไม่รู้เลยว่านางคือตัวปลอมเท่านั้นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยและขรุขระทำนางเนื้อเขียว เหยาอี้เหยาไม่ส่งเสียงจนนางถูกหิ้วไปทิ้งไว้ในห้องขัง เครื่องประดับนางถูกริบไปหมด แม้แต่ปิ่นเงินของท่านแม่ห้องขังเย็นชื้นนัก เหยาอี้เหยานอนบนพื้นโคลนเหม็นฉุน นางลืมตาเมื่อเสียงคนย่ำเท้าเดินห่างออกไปแล้วเวลานั้นฟ้าสาง ความสว่างเผยให้เห็นห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งมีคนอยู่ด้วย เป็นหญิงสาวจากเมืองชงและเมืองอื่นๆ ที่ถูกจับมาเช่นกันพวกนางดูหวาดกลัวและหิวโหย เกาะกลุ่มกันอยู่ที่มุมห้อง พร้อมจ้องมองชุดของเหยาอี้เหยาด้วยอาการสั่นเทา“หนาวรึ”พวกนางพยักหน้า ผ้าบนตัวไม่สามารถที่จะเรียกได้ว่าชุด เหยาอี้เหยาจึงถอดเสื้อคลุมซึ่งฉู่ซื่อจื่อเป็นคนซื้อให้ แบ่งให้กับพวกนาง รวมทั้งยังยินดีที่จะถอดเสื้อตัวนอกอีกชั้นให้พวกนางสวม ตอนนี้นางจึงเหลือเพียงชั้นในและเสื้อนอกอีกชั้นที่ไม่ค่อยกันหนาวนัก“อันนี้ให้เจ้า” เสื่อผุพังชิ้นหนึ่งถูกหยิบยื่นมา

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   2/3 สวมรอย

    ห้องขังสำหรับเหยาอี้เหยาเป็นเรือนหลังหนึ่งที่ปิดตาย นางได้รับเสื้อผ้าชาวเผ่าที่กันหนาวได้ดีและอาหารหนึ่งสำรับรสชาติของอาหารสมกับการเป็นอาหารแห้ง เนื้อวัวเหนียวจนกัดไม่ขาด ทั้งยังเหม็นหืนจนกินไม่ลง หญิงรับใช้นอกด้านนามว่าอามู่ จึงไปแอบตุ๋นน้ำแกงมาให้นางหนึ่งชามน้ำแกงอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมทำให้เหยาอี้เหยาพอจะคลายความตื่นกลัวและอบอุ่นขึ้นมาบ้างอามู่แม้จะพูดภาษาฮั่นไม่ได้ แต่นางดูแลเหยาอี้เหยาอย่างดี เห็นนางเครียดก็จุดกำยานกลิ่นหอม ทั้งยังเฝ้าอยู่ไม่ห่างพร้อมฮัมเพลงกล่อมเด็ก ความจริงใจของอามู่ทำให้นางผ่อนคลายและหลับไปได้บ้างทว่ากลางคืนเหยาอี้เหยาฝันร้าย นางเห็นภาพคนตายรายล้อม นางจึงวิ่ง ด้านหลังได้ยินเสียงอึกทึก ครั้นหันกลับไปมองก็เห็นจี๋เฉวียนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวกำลังไล่หลังมา นางตกใจจนสะดุดล้ม มีดเล่มยาวที่จี๋เฉวียนยกขึ้นฟาดลงมาบนตัว แล้วนางก็ตื่นขึ้นบนเตียง“ไม่นะ!”เหยาอี้เหยารู้ตัวว่าเมื่อครู่เป็นแค่ฝันร้าย แต่นางกลัว หัวใจเต้นแรงและเหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้า ยิ่งปิ่นของท่านแม่ไม่อยู่กับนาง นางก็ไม่รู้จะสงบใจได้อย่างไร“อามู่!” เหยาอี้เหยาร้องคำเดียว อามู่ที่นอนอยู่ด้านนอกรีบผลักประตูเป

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/1 เข้าหา

    “ท่านแน่ใจหรือ องค์หญิงทรงสิ้นพระชนม์แล้ว” สีหน้าท่าทางของจี๋เฉวียนบ่งบอกว่าเขาแน่ใจ องค์หญิงเจ็ดทรงสิ้นพระชนม์ที่เมืองจิงหลิง ส่วนสาเหตุยังไม่เป็นที่เปิดเผย“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ต้องเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเป็นแน่“ไท่จื่อแห่งต้าหย่งกำลังมา ชาวเมืองข้างเคียงส่งข่าวขบวนรถม้ามาหลายวันแล้ว ธงที่โบกสะบัดเป็นขององค์รัชทายาทไม่ผิดแน่”“ฉู่อ๋องมีท่าทีอย่างไรบ้าง จะยกทัพกลับมาหรือไม่” รัฐหลู่มีกองทัพเป็นของตนเองเพื่อปกป้องเมือง ทว่าเพื่อกันเสียงคนครหากบฏจึงตั้งทัพอยู่รอบชายแดน ไม่ยกเข้ามาในเมือง“ฉู่อ๋องไม่กลับจากแนวหน้า ทว่ามีการรายงานความเคลื่อนไหวของทัพเหนือของคุณชายฉู่” การเคลื่อนกำลังพลของกองทัพแห่งรัฐหลู่อึมครึม แนวคุ้มกันทอดยาวรักษาการณ์จรดแนวหน้าของด่านนอกเมือง“จะเกิดสงครามหรือ” การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงที่เมืองจิงหลิงมีน้ำหนักมากพอให้เกิดสงคราม ราชวงศ์ต้าหย่งย่อมต้องการคำตอบจากแดนเหนือว่าเหตุใดองค์หญิงถึงสิ้นพระชนม์ คิดแล้วเรื่องนี้ก็พลอยให้เหยาอี้เหยาคิดถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นราชวงศ์ต้องหาคำตอบให้ชาวเมืองโจวอี้ที่ต้องเสียเจ้าเมืองไป แต่หาคำอธิบายอันใดไม่ได้ ชดใช้อย่างไร

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status