Share

3/1 เข้าหา

last update Last Updated: 2024-12-18 15:52:40

“ท่านแน่ใจหรือ องค์หญิงทรงสิ้นพระชนม์แล้ว” สีหน้าท่าทางของจี๋เฉวียนบ่งบอกว่าเขาแน่ใจ องค์หญิงเจ็ดทรงสิ้นพระชนม์ที่เมืองจิงหลิง ส่วนสาเหตุยังไม่เป็นที่เปิดเผย

“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ต้องเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเป็นแน่

“ไท่จื่อแห่งต้าหย่งกำลังมา ชาวเมืองข้างเคียงส่งข่าวขบวนรถม้ามาหลายวันแล้ว ธงที่โบกสะบัดเป็นขององค์รัชทายาทไม่ผิดแน่”

“ฉู่อ๋องมีท่าทีอย่างไรบ้าง จะยกทัพกลับมาหรือไม่” รัฐหลู่มีกองทัพเป็นของตนเองเพื่อปกป้องเมือง ทว่าเพื่อกันเสียงคนครหากบฏจึงตั้งทัพอยู่รอบชายแดน ไม่ยกเข้ามาในเมือง

“ฉู่อ๋องไม่กลับจากแนวหน้า ทว่ามีการรายงานความเคลื่อนไหวของทัพเหนือของคุณชายฉู่” การเคลื่อนกำลังพลของกองทัพแห่งรัฐหลู่อึมครึม แนวคุ้มกันทอดยาวรักษาการณ์จรดแนวหน้าของด่านนอกเมือง

“จะเกิดสงครามหรือ” การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงที่เมืองจิงหลิงมีน้ำหนักมากพอให้เกิดสงคราม ราชวงศ์ต้าหย่งย่อมต้องการคำตอบจากแดนเหนือว่าเหตุใดองค์หญิงถึงสิ้นพระชนม์ คิดแล้วเรื่องนี้ก็พลอยให้เหยาอี้เหยาคิดถึงเรื่องเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นราชวงศ์ต้องหาคำตอบให้ชาวเมืองโจวอี้ที่ต้องเสียเจ้าเมืองไป แต่หาคำอธิบายอันใดไม่ได้ ชดใช้อย่างไรก็ไม่คู่ควรกับชีวิตของฉู่หลิน

ความบาดหมางในครานั้นยังคงหยั่งรากลึก วันนี้องค์หญิงมาสิ้นพระชนม์อีก จะพูดอย่างไรก็ดูคล้ายชาวเมืองหลวงถูกแก้แค้น

องค์หญิงเจ็ดแลกกับเจ้าเมืองฉู่หลิน

“จี๋เฉวียน ข้าว่าข้าคงต้องกลับไปแล้ว” ไม่ช้าก็เร็ว กองทัพต้องยกมาแน่ อาจจะไม่ใช้มาเพื่อช่วยนาง แต่มาเพื่อแสดงแสนยานุภาพ

“คุณหนูเหยา เรื่องพวกนี้ดูท่าจะไม่ค่อยส่งผลดีต่อท่านนัก ท่านจะทำอย่างไรต่อไป”

เหยาอี้เหยาลุกขึ้น ตอบตามความรู้สึกในตอนนี้

“ข้าไม่รู้”

“ท่านกลับเข้าเมืองได้แน่หรือ” ไม่มีคนจากคณะทูตแม้แต่คนเดียวมาตามหานาง อีกทั้งนางได้ชื่อว่าถูกจี๋เฉวียนจับตัวมา ทหารคงไม่ยอมให้นางเข้าเมืองง่ายๆ

“ทำอย่างไรได้ ข้าอยู่ที่นี้ไม่ได้เช่นกัน”

จี๋เฉวียนคล้ายไม่อยากให้นางไป

“จี๋เฉวียน เจ้าสัญญากับข้าแล้วว่าจะปล่อยข้าไป”

จี๋เฉวียนถอนหายใจ

“ข้าจะไปส่งท่านเอง”

จี๋เฉวียนเป็นคนมาส่งเหยาอี้เหยาที่ประตูเมืองตามสัญญา นางสวมชุดทอเรียบๆ ที่อามู่เย็บให้ บนตัวสวมชุดกันหนาวจิ้งจอกสีขาว ปักดอกสาลี่กลางหลังและแขน

“คุณหนูเหยา รักษาตัวด้วย อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น ท่านต้องไม่ใจดีกับใครพร่ำเพรื่อ”

“วางใจเถอะจี๋เฉวียน แม้ข้าอาจจะไม่ได้ฉลาดมาก แต่รู้ว่าต้องเอาตัวรอดยังไง” เหยาอี้เหยาอำลาจี๋เฉวียนและอามู่ ครั้นพวกเขาควบม้าจากไป นางจึงเดินไปที่ประตูเมืองเพียงลำพัง ทหารรักษาการณ์ประจำเมืองโจวอี้ เคลื่อนตัวมาประชิดกำแพงเมือง ความไม่ต้อนรับฉายชัดจากประตูที่ปิดสนิท

“เจ้าเป็นผู้ใด”

“ท่านหญิงแห่งต้าหย่ง หนึ่งในคณะราชทูต” เหยาอี้เหยายืนอยู่ด้านนอก แสดงป้ายหยกในมือให้ทหารบนหอกำแพงเมืองได้เห็น นางเริ่มถูกอากาศเย็นทำให้ตัวสั่น

“ข้าได้ข่าวมาว่าท่านถูกจี๋เฉวียนจับตัวไป เหตุใดจึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้” สายตาแม่ทัพรักษาการณ์เป็นปฏิปักษ์ ไม่กล้ารับนางกลับเข้าเมือง ด้วยกลัวว่านางอาจจะเป็นสายโจรไปแล้ว

“เรียนท่านแม่ทัพ ข้าน้อยหนีออกมา ท่านวางใจได้ ข้าไม่ใช่สายโจร บนตัวไม่มีอาวุธใดๆ ทั้งนั้น” เหยาอี้เหยามาตัวเปล่า บนตัวมีเพียงปิ่นเงินชิ้นเดียว “หากท่านไม่เชื่อ ไม่วางใจในตัวข้า เช่นนั้นนำข้าไปขังคุกไว้ก่อนเถิด”

อย่างไรในคุกก็อุ่นกว่านอกกำแพงเมือง ทว่าแม่ทัพรักษาการณ์ไม่อาจตัดสินใจเองได้ ต้องไปเรียนฉู่ซื่อจื่อก่อน

“คุณหนูเหยา ข้าเป็นเพียงแม่ทัพตำแหน่งเล็กๆ ไม่อาจจะตัดสินใจได้ ท่านรอที่นี่สักครู่ ข้าจะไปเรียนฉู่ซื่อจื่อ”

“นานเพียงใด”

“อาจจะสองสามชั่วยาม”

เหยาอี้เหยาพยักหน้าว่าจะรอ “รบกวนท่านแล้ว ข้าน้อยจะรอท่านกลับมา”

ฟ้ามืดแล้ว เหยาอี้เหยาที่นั่งตากน้ำค้างเย็นเยียบขดตัวอยู่หน้าประตูเมืองที่ปิดสนิท นางใกล้จะแข็งตายแล้วตอนที่ประตูเมืองเปิดออกยามใกล้รุ่งสาง โคมกระดาษสีนวลทอดยาวจรดพื้นทางเดิน

นางรอมาทั้งคืนจนเช้า อ่อนล้าและเหน็บหนาว ท่าทางจึงอิดโรย กระนั้นก็ยังพยายามยืนอยู่บนสองขา

ผู้คนเริ่มสัญจร ใช้เส้นทางลำเลียงสินค้าเกษตรเข้าไปในเมือง ระหว่างที่ทหารกำลังตรวจเอกสารของพ่อค้า ชายตัวผอมผู้นั่งคุมรถม้ายัดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือนางอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะผ่านเข้าเมืองไป

“เมื่อครู่นี่พวกเจ้าทำอะไรกัน” เหยาอี้เหยารีบซ่อนแผ่นกระดาษไว้ใต้ข้อมือ

“ใต้เท้า ท่านพูดอะไร ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย” นางรีบเปลี่ยนเรื่อง เบี่ยงเบนความสนใจ “ข้าเข้าเมืองได้แล้วหรือ ท่านได้เรียนถามซื่อจื่อหรือไม่”

“ฉู่ซื่อจื่อมีคำสั่ง ไม่ให้ท่านกลับเข้าเมือง คุณหนูเหยา ขออภัยด้วย เราทำได้เพียงเรียกรถม้าให้ท่านกลับบ้านโดยไม่คิดเงิน”

“ได้อย่างไรกัน คณะทูตซึ่งร่วมเดินทางมากับข้ายังคงอยู่ในเมือง ข้าจะกลับเพียงลำพังได้อย่างไร”

“คุณหนูเหยา ท่านไม่ทราบหรือ ว่ายามนี้คณะทูตจากต้าหย่งไม่ได้อยู่ในเมืองโจวอี้แล้ว”

เรื่องนี้เหยาอี้เหยาไม่รู้ จี๋เฉวียนก็ไม่ได้สืบมา “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คณะทูตไม่อยู่ที่เมืองโจวอี้ แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด”

“ข้าน้อยตอบได้เพียงว่าคณะทูตทั้งหมดอยู่ที่จิงหลิงเพื่อรักษาพระศพขององค์หญิง”

จิงหลิงอยู่ห่างจากเมืองโจวอี้มาก แต่ถ้าหากใช้ทางลัดเดินทางล่องแพหรือเรือไม่กี่วันก็ถึง

“ข้าเข้าใจแล้ว”

เหยาอี้เหยาก้มหน้าอ่านแผ่นกระดาษในมือ ตัวอักษรเป็นระเบียบปลายตวัดเช่นนี้ เป็นของลู่หมิง เขาเขียนมาให้นางไปพบกันที่ท่าเรือโดยเร็วที่สุด

สถานการณ์ยามนี้คงย่ำแย่ ถึงขั้นที่คณะทูตถูกเชิญออกจากเมืองคงไม่ใช่เรื่องดี

ครั้นมาถึงท่าเรือ เหยาอี้เหยาได้พบหน้าลู่หมิง เขาสวมชุดลำลองสีดำเพื่อไว้ทุกข์ บนหน้าผากมีที่คาดสีเดียวกัน

“ดีใจยิ่งที่เจ้าไม่เป็นอะไร อี้เหยา ขอโทษด้วยที่ข้าไม่ได้ไปช่วยเจ้า เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” ลู่หมิงกล่าว เขาใช้คนไม่น้อยพยายามส่งข่าวถึงนาง

“ไม่เลยราชทูต ข้าเข้าใจความจำเป็นของพวกท่านดี” เหยาอี้เหยาเอ่ยถามในสิ่งที่นางอยากรู้ "ว่าแต่แม่ทัพกง แม่ทัพซ่างกับจางลี่เล่า พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง"

ลู่หมิงตอบ "ทั้งหมดสบายดี จากนี้ข้าจะพาเจ้าไปพบ"

เหยาอี้เหยาเอ่ยถามขณะเดินไปด้วย “ราชทูตลู่ ข้าได้ยินว่าองค์หญิงทรงสิ้นพระชนม์แล้ว เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ”

“จริง”

“เกิดอันใดขึ้น ทรงสิ้นพระชนม์ได้อย่างไร”

ลู่หมิงตอบเรียบๆ “ทรงฆ่าตัวตายเอง”

“เหตุใดองค์หญิงถึงทำเช่นนั้น” เหยาอี้เหยาไม่เคยพบองค์หญิง แต่เคยได้ยินข่าวเรื่องอุปนิสัยของพระองค์ ว่าท่านทรงเป็นองค์หญิงที่นิสัยดื้อรั้น ทว่าไม่ได้ร้ายกาจอันใด

“ให้ข้าเล่าให้เจ้าฟังดีไหมเล่า คุณหนูเหยา” หย่งสวินยืนอยู่ไม่ไกล ชุดสีเรียบๆ ไม่อาจลดทอนสง่าราศีบนร่างได้แม้แต่น้อย ราวกับมังกรที่ไม่ว่าอยู่ที่ใด ก็คือมังกร

“ถวายบังคมไท่จื่อ” เหยาอี้เหยาคุกเข่าโดยพลัน ทว่าพระองค์ทรงโบกมือว่าไม่ต้อง

“ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธีหรอกคุณหนูเหยา” หย่งสวินยิ้มเล็กน้อย ใช้สายตาให้ลู่หมิงถอยไปก่อน

“ไท่จื่อ หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปขององค์หญิง พร้อมทั้งขอประทานอภัยที่สวมรอยเป็นองค์หญิง” นางลบหลู่เบื้องสูง ริอาจปลอมตัวเป็นองค์หญิง มีโทษสมควรตาย

“เจ้ากับกงจิ้งเป็นอะไร เจอข้าต้องขอประทานอภัยโทษ ลุกขึ้นเถิด ข้ามีเรื่องจะสนทนากับเจ้า”

“เรื่องใดหรือเพคะ”

“ตามข้ามา”

หย่งสวินเดินไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว กิริยาท่าทางเข้มแข็งองอาจ เหยาอี้เหยาจำเป็นต้องตามไปจนถึงศาลาดอกบัว ยามเช้าวันนี้แสงแดดอ่อนๆ ทอประกาย หยาดน้ำค้างบนใบบัวส่องประกายราวกับอัญมณี

“นั่งบนเก้าอี้ ไม่ต้องพูดทางการกับข้าด้วย” หย่งสวินย้ำ “นี่คือคำสั่ง”

“เพคะ…เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยานั่งลงบนเก้าอี้ ขานางแตะไม่ถึงพื้นเมื่อนั่งอยู่บนนั้น ในขณะที่หย่งสวินดูสง่างามราวกับวิญญูชน แฝงกลิ่นอายแห่งอำนาจที่กดข่ม หากเทียบกับฉู่ซีเย่แล้ว ไท่จื่อเหมือนด้านตรงข้าม

ทว่าพวกเขาทั้งสองล้วนเป็นคนที่ไม่อาจล่วงเกิน

“อาเยี่ยนตายแล้ว เจ้าคงสงสัยว่าทำไม” หย่งสวินมองนาง นัยน์ตาดุจหมึกมีความนัยที่อ่านไม่ออก “แต่เจ้าคงสงสัยมากกว่าว่าเหตุใด ข้าจึงอยากคุยกับเจ้า”

“ข้าน้อยโง่เขลา ไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ” นางตอบซื่อ

“ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกจี๋เฉวียนจับตัวไป แต่เจ้ากลับอยู่ตรงนี้แล้ว…ได้อย่างไรกัน”

“ข้าน้อยเพียงโชคดีที่รอดมาได้”

หย่งสวินยิ้ม “เจ้าดูเป็นคนเฉลียวฉลาด”

“เรื่องสมอง ข้าน้อยคิดว่าพอจะมีดีอยู่บ้างเจ้าค่ะ แต่คงไม่ถึงขั้นเฉลียวฉลาด” นางยิ้มแย้ม เริ่มรู้สึกว่าตอนนี้อยากจะลุกหนีแล้ว ถ้าหากว่าทำได้

“คุณหนูเหยา เจ้าน่าสนใจจริงๆ” แววตาหย่งสวินเริ่มเปลี่ยนพร้อมกับคิดว่า นางน่าสนใจ สมกับที่ฉู่ซื่อจื่อ…สนใจนาง

“ไท่จื่อ ข้าน้อยไม่เข้าใจคำพูดของท่าน โปรดอธิบายให้ข้าได้หรือไม่” เหยาอี้เหยาเอ่ยถาม เริ่มได้กลิ่นไม่ดี

“เช่นนั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ข้าอยากให้เจ้าเข้าหาฉู่ซีเย่ เป็นสายให้ข้า”

“ขออภัยอย่างยิ่ง ข้าน้อยไร้ความสามารถนัก” เหยาอี้เหยากลืนน้ำลายลงคอนางรู้สึกเสียววาบที่ต้นคอ เมื่อภาพใบหน้าของฉู่ซีเย่ผุดขึ้นมาในสมอง

“ตามความเห็นของข้า เจ้าไม่ได้ไร้สามารถ ทั้งยังเป็นที่สนใจของฉู่ซีเย่”

“ไท่จื่อโปรดทรงพิจารณา ข้าน้อยไม่อยากทำให้พระองค์ผิดหวัง” เหยาอี้เหยาคุกเข่า “ท่านอาจไม่ทราบ แต่ที่ข้าน้อยถูกจี๋เฉวียนจับไป ล้วนเป็นเพราะซื่อจื่อ เขาต้องการให้ข้าน้อยจบชีวิตอย่างอนาถ ไม่ได้สนใจข้าน้อยแม้แต่นิดเดียว”

“คุณหนูเหยา เจ้าจำทาสหญิงที่เมืองชงได้หรือไม่”

“จำได้เจ้าค่ะ”

“เจ้าส่งจดหมายให้พี่ชายช่วยนาง แต่อำนาจของพี่ชายเจ้าไม่มีทางทำให้ทาสหญิงเป็นอิสระได้ นอกจากใครบางคนซึ่งมีอำนาจสูงกว่าเจ้าเมืองชง”

คนนั้นย่อมเป็นฉู่ซีเย่

“บางที ซื่อจื่ออาจสงสารนางเช่นกัน”

หย่งสวินยิ้ม พูดต่อ “ได้ยินว่าก่อนหน้านี้จี๋เฉวียนถูกพิษ เจ้าไม่คิดว่ามันบังเอิญไปหรือ?”

เหยาอี้เหยารู้ว่าสกุลฉู่มีความรู้เรื่องปรุงยาพิษอันเลื่องลือ รวมทั้งยาถอนพิษที่นางเคยมีก็เป็นของสกุลฉู่ แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือ ฉู่ซีเย่วางยาจี๋เฉวียนเพื่อช่วยนางหรือ

“คุณหนูเหยา ข้ารู้จักฉู่ซีเย่มานาน เขาฉลาดเหนือสามัญ แค่วางยาพิษจี๋เฉวียน เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งสำหรับเขา”

“สมมติว่าเป็นซื่อจื่อจริง เช่นนั้นข้าน้อยยิ่งไม่ควรเนรคุณและคิดร้ายต่อเขา ดังนั้นการเข้าหาเขา จึงเป็นเรื่องขัดต่อคุณธรรมในใจข้า” เหยาอี้เหยาไม่มีคุณธรรมในใจมากมาย นางเพียงอยากเอาตัวรอด แต่การยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์และฉู่ซีเย่ คือการกินยาผ่อนตาย วันไหนดวงกุดก็ซวย

“คุณหนูเหยา สถานการณ์ของเจ้า สกุลของเจ้า คงไม่เหมาะให้ปฏิเสธข้ากระมัง” หย่งสวินมองนางยิ้มๆ เป็นยิ้มที่หนาวยะเยือกถึงแผ่นหลัง “สามปีมานี้สกุลเหยาลำบากอัตคัด ไร้ที่ยืนในสังคม เจ้าอยากช่วยเหลือสกุลเหยาให้ผ่านพ้นวันคืนเหล่านี้ไม่ใช่หรือ”

“ไท่จื่อ…” เหยาอี้เหยารู้ว่านางปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าตอบรับแม้สักคำ

“ข้าจะคืนทุกอย่างให้สกุลเหยา พี่สาวเจ้าจะได้แต่งกับสามีผู้มีฐานะ พี่ชายเจ้าจะได้เลื่อนตำแหน่ง สกุลเจ้าขึ้นอยู่เจ้าแล้ว…คุณหนูเหยา”

เหยาอี้เหยารู้สึกคล้ายถูกเชือกที่มองไม่เห็นรัดคอ เมื่อหย่งสวินมอบกล่องยาให้นางกิน

ยาที่นางปฏิเสธที่จะไม่กินไม่ได้

“ข้าน้อยมีอีกเรื่องอยากสอบถามไท่จื่อ” เหยาอี้เหยาหยิบยามาถือไว้

“เรื่องใด”

“องค์หญิงทรงฆ่าตัวตายจริงหรือ”

“ไม่จริง” หย่งสวินบอกนาง น้ำเสียงเหมือนพูดเรื่องทั่วไป “นางยืนกรานว่าถึงตายก็ไม่ยอมออกจากเมืองจิงหลิงเพื่อแต่งงานกับฉู่ซื่อจื่อ ข้าเลยไม่ให้นางออกมาอีกเลย…”

"องค์หญิงเป็นน้องสาวของท่าน..."

"นางถึงจากไปโดยไม่ทรมานเลยอย่างไรล่ะ"

ความอำหิตนี้ช่างเข้มข้นจนเหยาอี้เหยาไม่กล้าหายใจ

Related chapters

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/2 เข้าหา

    วันนี้อากาศหนาวแต่ไร้หิมะโปรยปรายฉู่ซีเย่ผู้คุ้นชินกับอากาศเป็นอย่างดีจึงไม่ได้สวมใส่อาภรณ์กันหนาว สวมเพียงเสื้อตัวนอกสีครามลายเมฆา เกลาผมด้วยปิ่นหยกร่างสูงแม้ยังอยู่ในวัยเยาว์กลับให้กลิ่นอายองอาจเหนือสามัญ นัยน์ตาคมที่หลุบลงดูสงบท่ามกลางหุบเขาที่กิ่งก้านโรยราในยามจำศีล ฉู่ซีเย่คล้ายหลับใหลไปในห้วงเวลาเหล่านั้นกระทั่งการมาถึงของชายผู้หนึ่ง ดาบคมวาวแหวกผ่านอากาศคล้ายอยากทักทาย ฉู่ซีเย่ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน กระบวนท่าเข้มแข็งแต่ไร้จิตสังหาร เขาพลิกกายหลบพร้อมลืมตาขึ้นมาเอ่ยปาก“ท่านจงใจลอบสังหารข้าหรือ?”“มิกล้าๆ ข้าไหนเลยจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นกัน” ‘ฉู่ซีห่าว’ แย้มยิ้ม เสือกส่งดาบราวกับอยากทักทายลูกพี่ลูกน้องคนสนิทอย่างแนบชิด แล้วหยุดมือเมื่อเล่นพอประมาณแล้ว “ฝีมือเจ้าก้าวหน้าขึ้นมาก กลับไปข้าจะไปเรียนท่านปู่ แต่ยังไงเจ้าก็ยังเตี้ยกว่าข้าอยู่ดี”“ท่านปู่สบายดีหรือไม่” ฉู่ซีเย่ยืนใกล้ผาศิลา เวลานี้เขาสูงน้อยกว่าฉู่ซีห่าวหนึ่งช่วงศีรษะ รูปร่างแบบบางกว่าสักหน่อยเมื่อเทียบกับแม่ทัพหนุ่มซึ่งบึกบึนสมชายชาตรี“มีข้าอยู่ ท่านปู่ย่อมสบายที่สุด เจ้าวางใจเถิดอิ่นจื่อ ข้าไม่มีทางปล่อยให้ท่านปู่

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   3/3 เข้าหา

    เหยาอี้เหยาพยายามรักษาสีหน้าสงบเอาไว้เมื่อกงจิ้งกับจางลี่กลับมาแล้ว“ฉู่ซื่อจื่อพูดอันใดกับเจ้าบ้าง”“เขาอนุญาตให้ข้าอยู่ที่จวนได้ ทั้งยังกล่าวยินดีต้อนรับ”“ง่ายเช่นนี้เลย” คนอย่างฉู่ซีเย่ ใช่ว่าใครก็สั่งได้“ก็ไม่ง่ายนัก เขาคงมีแผนรับมือแล้วเป็นแน่” ไม่มีทางที่ฉู่ซีเย่จะไม่รู้ว่านางคือสายของไท่จื่อ สายตาของเขาบอกนางว่าเขารู้ดี แต่เกียจคร้านที่จะปฏิเสธจึงเล่นตามบทไปเท่านั้น“ฉู่ซื่อจื่อสติปัญญาเหนือสามัญ เขาย่อมรู้แน่อยู่แล้ว”“แล้วแผนนี้จะได้ผลหรือ ข้าว่า…” เหยาอี้เหยากำลังจะเสนอแผนการอื่นที่นางไม่ต้องเสี่ยงตาย แต่เวลานั้นเอง เสียงม้าด้านนอกจวนพลันดังขึ้น นางฟังจากเสียงบดของล้อกับพื้นหินแล้ว ไม่ได้มาคันเดียวเสียด้วยจวนสกุลฉู่ ไม่ใช่สถานที่ซึ่งคนทั่วไปจะแวะเวียนมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่เป็นสถานที่และอาณาเขตปกครองส่วนบุคคล แล้วต้องเป็นผู้ใด ถึงได้มาเยือนในเวลาเช่นนี้“ใครมากัน”เหยาอี้เหยาปีนขึ้นโต๊ะเพื่อดูขอบกำแพง เรือนหลังนี้อยู่ห่างจากกำแพงไม่มาก จึงพอมองเห็นความเป็นไปด้านนอกกำแพง นางยืดตัวขึ้นเห็นหลังคารถม้าที่คุ้นตาตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน “รถม้าของเจ้าเมืองฉู่มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/1 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    ฉู่ซีเย่ยิ้ม พูดจาเสแสร้งกันไปหลายสิบตลบ ในที่สุดหย่งสวินก็พูดในสิ่งที่ต้องการออกมาแล้ว ทุกอย่างเป็นเหมือนที่เขาคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น หย่งสวินต้องการครอบครองเมืองโจวอี้ผ่านทางฉู่กวงเยี่ยน หลังจากแผนส่งองค์หญิงเจ็ดมาเป็นทองแผ่นเดียวกันล่ม“ไท่จื่อทรงคิดรอบคอบ ขนาดเรื่องของเมืองโจวอี้ของเรา ท่านก็คิดไว้แล้วว่าต้องจัดการอย่างไร เป็นข้าเสียอีก ที่นึกไม่ถึงเรื่องนี้”หย่งสวินฟังออกว่ากำลังถูกแดกดัน แต่เขายังยิ้มแย้ม “เจ้าอาจฟังแล้วรู้สึกว่าข้าก้าวก่ายมากไป แต่ฉู่ซื่อจื่อ บ้านเมืองไร้ผู้ปกครองยากจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง วันหนึ่งวันใดหาถูกพวกนอกด่านไร้อารยะบุกโจมตี ใครเล่าจะปกป้องราษฎร ที่ข้าพูดเมื่อครู่เป็นเพราะหวังดีทั้งนั้น อีกอย่างข้าไม่ได้คิดตั้งตัวเป็นผู้ปกครองเอง แต่ให้คนในสกุลเจ้ามาช่วยเหลือ ทุกอย่างยังเป็นของสกุลฉู่ รอวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อย ย่อมส่งคืนตำแหน่งให้ผู้สืบทอดตัวจริง”ฉู่ซีเย่ถาม ใบหน้าแสดงอารมณ์เท่าที่จำเป็น “พูดมาถึงตรงนี้ ในใจท่านคงมีคนที่เหมาะสมแล้วกระมัง”ตั้งแต่จัดการองค์หญิงเจ็ดที่ใช้งานไม่ได้ ไปจนถึงรวมกองทัพมากดดันฉู่ซีเย่ หย่งสวินปลุกระดมปั่นป่วนทุกอย่างเพ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/2 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    “ดื่มซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะควักเครื่องในเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงกิน”ฉู่ซีเย่พูดอย่างเย็นยะเยือก ไม่มีวี่เเววล้อเล่น“ข้าดื่มแล้วเจ้าค่ะ กินบัดเดี๋ยวนี้” เหยาอี้เหยายกจอกเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก กลิ่นเฉพาะของสุรารสเลิศแทรกผ่านอากาศเข้าสู่จมูก ทว่าในตอนนั้นเอง นางกลับพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่ายาพิษที่ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินนั้น ต้องหลีกเลี่ยงสุราช่วงระยะแรก ไม่เช่นนั้นอาการจะกำเริบขึ้นมาได้จนตาย“เหตุใดไม่กิน” ฉู่ซีเย่ถามเสียงเรียบ “หรือเจ้าแอบใส่ยาพิษให้ข้าจริงๆ”เหยาอี้เหยาคุกเข่าโดยพลัน นางสั่นสะท้านทั้งจากความหนาวเย็นและสายตาของฉู่ซีเย่ที่ทิ่มแทงยิ่ง “ไม่มีทางเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนั้นกับท่านแน่นอน เพียงแต่ข้าน้อยไม่เคยดื่มสุรา อีกทั้งสุราของท่านยังเป็นสุราชั้นเลิศ ข้าน้อยเลยไม่กล้าแตะต้อง”ไท่จื่อหย่งสวินให้นางกินยาพิษเพื่อป้องกันนางหลบหนีหรือหักหลังพระองค์ในภายหลัง ยาพิษนั้นเป็นแมลงคุณไสยที่มีชีวิต พระองค์จึงสั่งไว้ว่าในช่วงระยะแรกของการย้ายแมลงเข้ามาในตัวนาง นางต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางจำพวกและสุรา ไม่เช่นนั้นยาระงับแมลงคุณไสยจะไม่ได้ผล เนื่องจากตัวแมลงไม่คุ้นชินกับร่างใหม่รอจนพ้นเดือ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   4/3 ข้าจะควักเครื่องในเจ้า

    เหยาอี้เหยาฟื้นจากพิษไข้ในวันถัดไป ซึ่งเป็นวันกำหนดการเดินทางของฉู่ซีเย่พอดี นางร้อนใจเพราะก่อนหน้านี้ไท่จื่อหย่งสวินบอกนางไว้ว่าให้นางติดตามฉู่ซีเย่ ทำให้เขาโปรดปรานนางให้ได้ แต่ถ้าหากฉู่ซีเย่ลงใต้ไปเมืองหลวง นางก็จะเสียโอกาสในการใกล้ชิดเขานางจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่รุ่งสาง แต่งตัวแล้วรีบไปพบเขาแม้จะยังไม่หายดีเรือนของฉู่ซีเย่แยกตัวห่างจากทุกเรือน นางใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเดินถึงเรือนบูรพา แจ้งเจตนากับจินเฟยว่านางต้องการพบฉู่ซีเย่ จินเฟยบอกให้นางรออยู่ด้านนอกก่อน เขาจะไปเรียนนายท่านเหยาอี้เหยารอ นางรู้สึกยังอ่อนล้าอยู่บ้างจึงนั่งลงบนพื้นหิมะ ลานโดยรอบของเรือนฉู่ซีเย่ขาวโพลน ต้นไม้ซึ่งนางเดาไม่ออกว่าคือต้นอะไรยืนไร้ใบอยู่กลางลาน ภายในไม่มีสาวรับใช้ประจำเรือน จะว่าไปนางก็ไม่เคยเห็นสาวรับใช้ของฉู่ซีเย่ หรือเขาไม่มีกันนะ“คุณหนูเหยา ซื่อจื่ออนุญาตให้ท่านเข้าพบได้”“ขอบคุณเจ้าค่ะ”จินเฟยเปิดประตูให้นางเข้าไป เขารอจนนางข้ามธรณีประตูไปแล้วจึงปิดบานประตู ส่วนตนเองเฝ้าอยู่ด้านนอก ขณะนั้นฟ้ายังไม่สว่างดี ทุกอย่างยังขมุกขมัวไม่สดใสเหยาอี้เหยาเดินเข้าไปในเรือนผ่านประตูโค้งพระจันทร์ ทางเดินย

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/1 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทเมื่อเหยาอี้เหยาตื่นขึ้นมา ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่นางเผชิญได้หายไปแล้ว ตอนนี้นางรู้สึกอ่อนล้าและกระหายน้ำ นอกจากนั้นร่างกายก็ไม่ได้เจ็บปวดที่ตรงไหนอีกจางลี่คล้ายจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงยกศีรษะขึ้นมาจากที่นอนบนพื้นแล้วมองหา ก่อนจะพบว่าเหยาอี้เหยากำลังลุกจากตั่งเตียงด้วยความทุลักทุเลจึงเข้าประคอง“คุณหนูเหยา ท่านตื่นแล้วหรือ” หลายวันมานี้จางลี่ถูกกงจิ้งคาดโทษไว้ ฐานที่ไม่ดูแลคุณหนูเหยาให้ได้ดี นางกลัวจะถูกลงโทษส่งตัวกลับบ้านเกิด จึงได้เริ่มทำตัวเหมือนสาวใช้มากขึ้น“อืม ข้าหิวน้ำ” เหยาอี้เหยานั่งหอบ นางรู้สึกราวกับได้สูญเสียกำลังจำนวนมากไป“รอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปต้มน้ำชามาให้ท่าน”“ไม่เอาน้ำชา ข้าอยากได้น้ำเย็นๆ” เหยาอี้เหยาไม่รู้สึกอยากน้ำชา หรือของร้อน อาจจะเพราะร่างกายภายในยังรู้สึกร้อนผ่าวนางอยากดื่มน้ำเย็นเพื่อดับกระหาย จางลี่จึงไปรินน้ำมาให้นางดื่ม สีหน้าของนางจึงสดชื่นขึ้น“จางลี่ ช่วยเปิดหน้าต่างให้ข้าได้สูดอากาศหน่อย”“หนาวนะเจ้าคะ สองสามวันมานี้อากาศเย็นลงมาก”“ข้าหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือ” เหยาอี้เหยามองออกไปยังหน้าต่าง ละอองหิมะปลิดปลิวเข้ามาจาก

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/2 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    เพื่อให้เหยาอี้เหยาได้มีเวลาส่วนตัว ฉู่ซีเย่จึงได้สั่งการกงซุนหลางเอาไว้ว่าให้มอบหมายงานให้คณะราชทูตจากต้าหย่งอย่างไรบ้าง โดยจัดให้กงจิ้งและลู่หมิงทำงานเอกสารอยู่ในกรมราชทูต ส่วนซ่างเจวี๋ยถูกย้ายให้ไปประจำที่กองทหารตระเวนเมืองสำหรับเหยาอี้เหยา เพื่อให้นางสะดวกมากขึ้นในการทำงานต่างๆ ให้ฉู่ซีเย่ กงซุนหลางจึงออกหนังสือและป้ายประจำตัวให้นางเป็นราชทูตเพื่อดูงานด้านสำรวจในกรมสำรวจสำมโนครัวรถม้าจอดลงเมื่อถึงทางเข้าตรอก ถนนคับแคบจึงไม่สามารถนำรถม้าเข้าไปได้ จากนี้จึงต้องเดินเท้าอย่างเดียวเหยาอี้เหยาเดินไม่นานก็ถึงสำนักงานสำรวจสำมโนครัวของตรอกซ้าย ซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน แต่ละคนเป็นคนขยันตั้งใจทำงานทว่าเดือนก่อนเจ้าหน้าที่ประจำกรมสำรวจสำมโนครัวได้ลาออกไปคนหนึ่ง ทำให้ตำแหน่งงานของเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หายไป กงซุนหลางเห็นว่าเหยาอี้เหยาต้องการอยู่ใกล้ตรอกขวาจึงให้นางมาลงงานในส่วนนี้ แม้จะอันตรายอยู่สักหน่อย“เรียนเชิญขอรับ”ผู้ดูแลจิ่งออกมาต้อนรับ เขาได้รับจดหมายจากกงซุนหลางแล้วว่านางจะมา จึงต้อนรับนางเข้าไปด้านในกรมสำรวจสำมโนครัวอย่างนอบน้อม ตระเตรียมห้องทำงานให้นางโดย

    Last Updated : 2024-12-18
  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   5/3 คนลับๆ ของฉู่ซื่อจื่อ

    ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายพายุหิมะกำลังก่อตัวอยู่อีกฟากของขอบฟ้านางรู้สึกตัวเพราะแรงกระแทก สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกเมื่อลืมตา คือด้านหลังของม้าที่ฉู่กวงหลินกำลังควบขี่ ความหนาวเย็นเสียดกระดูกทำให้เหยาอี้เหยาไอ ตอนนี้นางอยู่ในกรงขังโลหะที่ลากไปบนพื้นด้วยความเร็วสมองของนางประมวลผลเชื่องช้าด้วยผลกระทบจากการขาดยาทำให้ร่างกายอ่อนแอลงอย่างฉับพลัน ถึงอย่างนั้นนางก็ยังจำได้ว่าตนเองถูกพาตัวออกมาจากคุกเพื่อเป็นตัวประกันฉากหลังของเส้นทางอันขรุขระคือกงจิ้ง เขากำลังไล่กวดฉู่กวงหลินมาในระยะกระชั้นชิด ส่วนซ่างเจวี๋ยแยกตัวไปขนาบข้าง พวกเขาไม่กล้ายิงธนูส่งเดช ด้วยกลัวจะถูกนางทว่าฉู่กวงหลินและคนของเขาไม่ใช่ ธนูนับสิบพุ่งเฉี่ยวร่างกายกงจิ้ง ซ่างเจวี๋ยรับมือกับคนของฉู่กวงหลินที่ดาหน้าเข้าใส่ในระยะประชิด“อี้เหยา! อดทนเอาไว้!”ซ่างเจวี๋ยส่งเสียงก้องกังวาน เนื้อตัวเปอะเปื้อนไปด้วยโลหิต พยายามทุ่มเทกำลังเพื่อช่วยนางเต็มที่ทว่าเหยาอี้เหยาอ่อนแอนัก ลมหายใจนางแผ่วลงเรื่อยๆ พร้อมกับลมหนาวที่พัดวูบเข้ามาในร่างไม่รู้เพราะเหตุใด แต่นางหนาวยิ่งหนาวจนเหมือนกำลังอยู่ในกองหิมะเย็นเฉียบ…“ไอ้พวกบัดซบ ฆ่าให้หมด!” ฉู่กวง

    Last Updated : 2024-12-18

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/3 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    การมาเยือนขององค์หญิงสิบเอ็ดเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านไปในฉับพลัน มื้ออาหารที่ควรจะผ่อนคลายมีแต่ความเงียบงัน กงจิ้งลอบมองใบหน้าเหยาอี้เหยาด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันกงจิ้งจำใบหน้าซีดเผือกของนางเมื่อเขากลับมาถึงบ้านได้ รวมทั้งสีหน้าสะอกสะใจขององค์หญิง ที่ได้เหยียมหยามนาง ทำเอากงจิ้งอยากไล่ตะเพิดไปไกลๆ“...” ลุงกู่เห็นเหยาอี้เหยาเศร้า ก็ตักน้ำแกงผักให้ชามใหญ่ เขาเอ็นดูนางมาก ไม่อยากเห็นนางเป็นทุกข์ใดๆเวลานั้นเอง เหยาอี้เหยาที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของนางใสกังวาน รอยยิ้มที่เผยกว้างบ่งบอกว่านางไม่ได้เสแสร้ง แต่นางกำลังหัวเราะอย่างจริงใจ“เจ้าหัวเราะอะไร”หรือเสียใจจนเสียสติไปแล้ว?“ข้าเปล่านะ ข้าปกติดี” เหยาอี้เหยายกชามน้ำแกงดื่มจนหมดรวดเดียวก่อนจะยิ้มอีกรอบ “ข้าแค่ดีใจนะ ที่วันนี้แสดงละครได้ดี”กงจิ้งและลุงกู่พากันขมวดคิ้วเหยาอี้เหยาเฉลย “ข้ารู้เรื่องนางอยู่แล้ว แต่คิดว่าถ้าทำเป็นรู้อยู่แล้ว นางคงไม่พอใจเท่าไหร่ จนอาจจะลงไม้ลงมือกับข้าก็ได้”กงจิ้ง “แสดงว่าเมื่อครู่เจ้าแสดงละคร”“ก็ไม่ทั้งหมดนะเจ้าคะ ความจริงก็เจ็บอยู่” แรกทีเดียวนางก็แสดงละคร แต่หลั

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/2 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “อดทนเพื่อข้าได้หรือไม่…” ฉู่ซีเย่จูบไซ้กลีบปากบางที่สั่นระริก ปลายจมูกคลอเคลียปลอบโยน เขาอดทนเพื่อให้นางเปิดใจ ต่อให้ร่างกายใกล้จะระเบิดเต็มที“งั้น…งั้นช้าๆ นะ” นางเห็นเม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้าเขา รวมทั้งสันกรามที่ถูกขบกัดจนนูน บ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องอดทนมากเช่นกัน“แน่นอน…” ฉู่ซีเย่ไม่บุ่มบ่าม เขาค่อยๆ กดตัวตนเข้าไปหานางอย่างละมุนละม่อน ถึงยังงั้นเอวบางก็ขยับหนีตามสัญชาตญาณ เขาจึงรั้งเรียวขานางไว้แรงเสียดทานจากท่อนกายอันเข้มแข็งทำให้ความอ่อนนุ่มต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวงความเจ็บร้าวที่แผ่ซ่านคลี่คลุมจนตัวชา ถึงอย่างนั้นจุมพิตขอโทษจากเขาก็ทำให้นางอดทน พร้อมโอบรับความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดสองมือเรียวเกาะไหล่หนา สองขาเรียวอยู่ระห่างเอวสอบที่กำลังเคลื่อนไหว“ท่าน…อื้อ!”“อีกนิดนะ…” เสียงเขาแหบพร่า ริมฝีปากงับไล่ติ่งหูสะอาด เขาโอบรัดคลุกเคล้ากับร่างกายนางทุกตารางนิ้ว“ได้…” นางสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของเขา จึงเปิดเปลือยทุกความกังวลลง รองรับแก่นกายใหญ่โตเข้ามา“อี้เหยา…” แรงตอดรัดจากนางทำฉู่ซีเย่กลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า เขารวบเอวนางให้กดต่ำ สอดตัวเข้าไปหานาง…ไม่รุนแรง แต่นางห

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   20/1 เป็นแค่นางอุ่นเตียง

    “ซ่างเจวี๋ยไม่เป็นอะไรแล้ว “ฉู่ซีเย่พูด ถอนเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างออก เว้นเข็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หลับต่อไป “แต่ก็อย่างที่เห็น ตอนนี้นางไม่สามารถใช้ชีวิตเร่ร่อนแล้วฝากยาไว้กับสำนักคุ้มภัยอีกแล้ว แบบนั้นไม่ปลอดภัย ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ข้าแนะนำให้ส่งนางขึ้นเหนือ”กงจิ้งตอบ “ข้าเห็นด้วย แบบนั้นคงปลอดภัยกว่า”“แต่ทางเหนือหนาวเกินไป แม่ทัพซ่างจะไม่เป็นอะไรหรือ” ในฐานะที่เหยาอี้เหยามีประสบการณ์ตอนพิษกำเริบมาก่อน นางรู้ซึ้งดีเลยว่า อากาศหนาวของเเดนเหนือ ทำให้ทุกข์ทรมานเพิ่มอีกหลายเท่าแล้วพิษแมลงคุณไสยก็ยิ่งไม่ถูกกับอากาศหนาวอย่างยิ่ง นี่จึงอาจเป็นเหตุผลที่ซ่างเจวี๋ยเร่ร่อนไปทั่วทางใต้เพื่อลี้ภัยอากาศหนาว“เป็นแน่ แต่ไม่ตายหรอก” ฉู่ซีเย่ย้ำให้เห็นความจริง "นางจะตายถ้ายังเร่ร่อนอยู่ที่นี่มากกว่า"“ท่านอ๋อง ท่านยังไม่พบวิธีแก้พิษแมลงคุณไสยหรือ ข้าไม่อยากเห็นแม่ทัพซ่างบาดเจ็บอีกแล้ว”“เงื่อนไขของนางไม่เหมือนของเจ้า” ฉู่ซีเย่มองนาง “แต่เจ้าวางใจเถอะ แมลงในตัวซ่างเจวี๋ยว่าง่ายกว่าตอนอยู่ในตัวเจ้า ตราบใดที่กินยาเสมอไม่ขาด จะไม่ส่งผลร้ายใดๆ”เมื่อพูดถึงเรื่องกินยาอย่างสม่ำเสมอแล้ว ดูเหม

DMCA.com Protection Status